Your Body Language May Shape Who You Are | Amy Cuddy | TED

25,943,360 views ・ 2012-10-01

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

00:00
Translator: Joseph Geni Reviewer: Morton Bast
0
0
7000
Translator: Kanawat Senanan Reviewer: Thipnapa Huansuriya
00:15
So I want to start by offering you a free no-tech life hack,
1
15967
5398
ฉันอยากเริ่มต้นด้วยการแจกทางลัด
เปลี่ยนชีวิตให้คุณฟรีๆ
00:21
and all it requires of you is this:
2
21389
2597
สิ่งเดียวที่คุณต้องทำก็คือ
00:24
that you change your posture for two minutes.
3
24010
4163
เปลี่ยนมาดของคุณเป็นเวลาสองนาที
00:28
But before I give it away, I want to ask you to right now
4
28197
3400
แต่ก่อนที่จะเฉลย ตอนนี้ฉันอยากให้คุณ
00:31
do a little audit of your body and what you're doing with your body.
5
31621
3569
สำรวจร่างกายตัวเอง รวมถึงว่าคุณทำอะไรกับร่างกายของคุณอยู่
00:35
So how many of you are sort of making yourselves smaller?
6
35214
2691
มีใครบ้างคะที่กำลังทำให้ตัวเองดูตัวเล็กลง?
00:37
Maybe you're hunching, crossing your legs, maybe wrapping your ankles.
7
37929
3321
คุณอาจกำลังนั่งหลังโกง นั่งไขว่ห้าง
นั่งไขว้ขา
00:41
Sometimes we hold onto our arms like this.
8
41274
3715
บางครั้ง เรากอดอกแบบนี้
00:45
Sometimes we spread out. (Laughter)
9
45013
3647
บางทีเรากางแขนออก (เสียงหัวเราะ)
00:48
I see you.
10
48684
2248
ฉันเห็นนะคะ (เสียงหัวเราะ)
00:50
So I want you to pay attention to what you're doing right now.
11
50956
2991
ทีนี้ ฉันอยากให้คุณเพ่งความสนใจ ต่อสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้
00:53
We're going to come back to that in a few minutes,
12
53971
2334
เราจะกลับมาพูดเรื่องนี้ในอีกสองสามนาที
และฉันหวังว่าถ้าคุณเรียนรู้ ที่จะเปลี่ยนแปลงมันสักเล็กน้อย
00:56
and I'm hoping that if you learn to tweak this a little bit,
13
56329
2924
00:59
it could significantly change the way your life unfolds.
14
59277
3412
มันอาจเปลี่ยนชีวิตของคุณได้เลย
01:02
So, we're really fascinated with body language,
15
62713
4500
คนเราหลงใหลเรื่องภาษากาย
01:07
and we're particularly interested in other people's body language.
16
67237
3899
และเราสนใจเป็นพิเศษ
กับภาษากายของคนอื่นๆ
01:11
You know, we're interested in, like, you know — (Laughter) —
17
71160
4197
รู้ไหมคะ เราสนใจใน เอิ่ม
01:15
an awkward interaction, or a smile,
18
75381
4374
การมีปฏิสัมพันธ์แบบกระอักกระอ่วน หรือการยิ้ม
01:19
or a contemptuous glance, or maybe a very awkward wink,
19
79779
4208
การเหลือบมองแบบดูหมิ่น หรือการขยิบตาแบบกระอักกระอ่วน
01:24
or maybe even something like a handshake.
20
84011
3214
แม้แต่การจับมือ
01:27
Narrator: Here they are arriving at Number 10.
21
87249
3325
ผู้บรรยาย: พวกเขาเข้ามาถึง กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ และดูสิครับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้โชคดีได้จับมือกับท่านประธานาธิบดี
01:30
This lucky policeman gets to shake hands with the President of the United States.
22
90598
4469
แห่งสหรัฐอเมริกา โอ้ มาแล้วครับ
01:35
Here comes the Prime Minister -- No. (Laughter) (Applause)
23
95091
4903
นายกรัฐมนตรีแห่ง -- ไม่เหรอ (เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)
01:40
(Laughter) (Applause)
24
100018
2651
(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)
01:42
Amy Cuddy: So a handshake, or the lack of a handshake,
25
102693
3683
เอมี่: ดังนั้นการจับมือ หรือการไม่จับมือ
01:46
can have us talking for weeks and weeks and weeks.
26
106400
2500
กลายเป็นหัวข้อสนทนาได้นานหลายสัปดาห์
01:48
Even the BBC and The New York Times.
27
108924
2116
แม้แต่สำนักข่าวบีบีซี และนิวยอร์กไทมส์
01:51
So obviously when we think about nonverbal behavior,
28
111064
3927
ดังนั้น ชัดเจนว่าเมื่อเราคิดถึงพฤติกรรมของอวัจนภาษา
01:55
or body language -- but we call it nonverbals as social scientists --
29
115015
3364
หรือภาษากาย แต่นักสังคมศาสตร์เรียกมันว่าอวัจนภาษา
01:58
it's language, so we think about communication.
30
118403
2856
มันเป็นภาษาอย่างหนึ่ง เราจึงคิดว่ามันเป็นการสื่อสาร
02:01
When we think about communication, we think about interactions.
31
121283
3003
เมื่อเราคิดว่ามันเป็นการสื่อสาร เราคิดถึงการมีปฏิสัมพันธ์
ดังนั้น ภาษากายของคุณกำลังสื่อสารอะไรกับฉัน
02:04
So what is your body language communicating to me?
32
124310
2415
02:06
What's mine communicating to you?
33
126749
2042
และภาษากายของฉันกำลังสื่อสารอะไรกับคุณ
02:08
And there's a lot of reason to believe that this is a valid way to look at this.
34
128815
5948
และมันมีเหตุผลมากมายที่ทำให้เราชื่อว่า นี่เป็นมุมมองที่ถูกต้อง
ดังนั้น นักสังคมศาสตร์จึงทุ่มเทเวลา
02:14
So social scientists have spent a lot of time
35
134787
2244
ศึกษาผลกระทบจากภาษากายของเรา
02:17
looking at the effects of our body language,
36
137055
2081
และภาษากายของผู้คนอื่นๆ กับการตัดสินคน
02:19
or other people's body language, on judgments.
37
139160
2285
02:21
And we make sweeping judgments and inferences from body language.
38
141469
3415
เรามักตัดสินและอนุมานลักษณะของคนจากภาษากาย
02:24
And those judgments can predict really meaningful life outcomes
39
144908
3966
และการตัดสินเหล่านั้นสามารถทำนาย ผลกระทบใหญ่หลวงต่อชีวิตได้เลยทีเดียว
02:28
like who we hire or promote, who we ask out on a date.
40
148898
3769
เช่นใครที่เราจะจ้างหรือเลื่อนขั้น หรือใครที่เราจะขอออกเดทด้วย
02:32
For example, Nalini Ambady, a researcher at Tufts University,
41
152691
4661
ตัวอย่างเช่น นาลินี แอมบาดี (Nalini Ambady) นักวิจัยที่ Tufts University
02:37
shows that when people watch 30-second soundless clips
42
157376
4448
แสดงให้เห็นว่า เมื่อคนดูคลิปวิดีโอ ความยาว 30 วินาที ที่ไม่มีเสียงพูด
02:41
of real physician-patient interactions,
43
161848
3000
ของการปฏิสัมพันธ์จริงระหว่างแพทย์กับคนไข้
02:44
their judgments of the physician's niceness
44
164872
2809
การตัดสินของพวกเขาว่าแพทย์นั้นดูใจดีแค่ไหน
02:47
predict whether or not that physician will be sued.
45
167705
2613
ใช้เป็นตัวทำนายได้ว่าแพทย์คนนั้นจะถูกฟ้องหรือไม่
02:50
So it doesn't have to do so much
46
170342
1658
แพทย์คนนั้นจะไร้ความสามารถหรือเปล่า ไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่
02:52
with whether or not that physician was incompetent,
47
172024
2499
แต่มันขึ้นกับว่าเราชอบแพทย์คนนั้นหรือเปล่า
02:54
but do we like that person and how they interacted?
48
174547
2806
และเขามีปฏิสัมพันธ์กับเราอย่างไร
02:57
Even more dramatic, Alex Todorov at Princeton
49
177377
2911
ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้น อเล็กซ์ โทโดรอฟ (Alex Todorov) จาก Princeton ได้แสดงให้เห็นว่า
03:00
has shown us that judgments of political candidates' faces
50
180312
3653
การตัดสินจากใบหน้า ของผู้เข้าสมัครชิงตำแหน่งการเมือง
03:03
in just one second predict 70 percent
51
183989
3944
ภายในหนึ่งวินาที ก็สามารถทำนายผล การเลือกตั้งวุฒิสภา
03:07
of U.S. Senate and gubernatorial race outcomes,
52
187957
3826
และการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐได้แม่นถึง 70%
03:11
and even, let's go digital,
53
191807
2198
และแม้แต่ในโลกดิจิตอล
03:14
emoticons used well in online negotiations
54
194029
4121
การใช้อีโมติคอนอย่างเหมาะสมในการเจรจาออนไลน์
03:18
can lead you to claim more value from that negotiation.
55
198174
2808
สามารถทำกำไรให้คุณจากการเจรจานั้นได้มากกว่า
03:21
If you use them poorly, bad idea. Right?
56
201006
3199
แต่ถ้าคุณใช้อย่างไม่เหมาะสม ก็เป็นความคิดที่แย่ ใช่ไหมคะ
03:24
So when we think of nonverbals, we think of how we judge others,
57
204229
3073
ดังนั้น เมื่อเราคิดถึงอวัจนภาษา เราคิดถึงการที่เราตัดสินคนอื่น
03:27
how they judge us and what the outcomes are.
58
207326
2878
คนอื่นๆ ตัดสินเราอย่างไร และอะไรคือผลที่เกิดตามมา
03:30
We tend to forget, though, the other audience
59
210228
2096
แต่เรามักจะลืมผู้รับสารอีกหนึ่งคน
03:32
that's influenced by our nonverbals, and that's ourselves.
60
212348
3411
ที่ได้รับผลกระทบจากอวัจนภาษาของเรา นั่นก็คือตัวเราเอง
03:35
We are also influenced by our nonverbals,
61
215783
3189
เราได้รับอิทธิพลจากอวัจนภาษาของเรา ความคิดของเรา
03:38
our thoughts and our feelings and our physiology.
62
218996
2339
ความรู้สึกของเรา และปฏิกิริยาทางร่างกายของเรา
03:41
So what nonverbals am I talking about?
63
221359
3039
แล้วอวัจนภาษาที่ฉันกำลังพูดถึงคืออะไรล่ะคะ?
03:44
I'm a social psychologist. I study prejudice,
64
224422
2919
ฉันเป็นนักจิตวิทยาสังคม ฉันศึกษาเรื่องอคติ
03:47
and I teach at a competitive business school,
65
227365
2703
และฉันสอนที่โรงเรียนธุรกิจชื่อดังแห่งหนึ่ง
03:50
so it was inevitable that I would become interested in power dynamics.
66
230092
4460
ดังนั้นฉันจึงอดไม่ได้ ที่จะสนใจเรื่องพลวัตของอำนาจ
03:54
I became especially interested in nonverbal expressions
67
234576
3788
ฉันสนใจการแสดงออกถึงอำนาจและการครอบงำ
03:58
of power and dominance.
68
238388
1979
ผ่านทางอวัจนภาษาเป็นพิเศษ
04:00
And what are nonverbal expressions of power and dominance?
69
240391
2715
แล้วอวัจนภาษาที่สื่อถึงพลังอำนาจคืออะไร
04:03
Well, this is what they are.
70
243130
2059
นี่ค่ะ คืออวัจนภาษาที่ว่า
04:05
So in the animal kingdom, they are about expanding.
71
245213
2854
ในอาณาจักรสัตว์ มันคือการขยายตัว
04:08
So you make yourself big, you stretch out,
72
248091
2986
คุณทำตัวเองให้ดูใหญ่ คุณยืดตัวออก
04:11
you take up space, you're basically opening up.
73
251101
2917
คุณทำตัวพอง พูดง่ายๆ คือเปิดตัวเองออก
04:14
It's about opening up.
74
254042
1922
มันคือการเปิดตัวออก มันเป็นอย่างนี้
04:15
And this is true across the animal kingdom.
75
255988
2731
ในอาณาจักรสัตว์ทุกชนิด ไม่เฉพาะสัตว์ตระกูลลิง
04:18
It's not just limited to primates.
76
258743
2025
มนุษย์ก็ทำเช่นเดียวกัน (เสียงหัวเราะ)
04:21
And humans do the same thing. (Laughter)
77
261504
2684
04:24
So they do this both when they have power sort of chronically,
78
264212
3687
คนเราทำท่าทางนี้ ทั้งตอนที่อยู่ในฐานะที่มีอำนาจ
04:27
and also when they're feeling powerful in the moment.
79
267923
2977
และตอนที่รู้สึกมีอำนาจเพียงชั่วขณะหนึ่ง
04:30
And this one is especially interesting because it really shows us
80
270924
3048
สิ่งนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะมันแสดงให้เราเห็นว่า
04:33
how universal and old these expressions of power are.
81
273996
3998
วิธีแสดงออกถึงพลังอำนาจนี้ มันเป็นสากลและเก่าแก่แค่ไหน
04:38
This expression, which is known as pride,
82
278018
2575
การแสดงออกนี้ ซึ่งเรียกกันว่า ความทะนงตน
04:40
Jessica Tracy has studied.
83
280617
2229
เจสสิกา เทรซี (Jessica Tracy) ได้ทำการศึกษา และแสดงให้เห็นว่า
04:42
She shows that people who are born with sight
84
282870
2883
คนที่เกิดมามีสายตามองเห็น
04:45
and people who are congenitally blind do this
85
285777
2917
และคนที่ตาบอดตั้งแต่เกิดล้วนทำสิ่งนี้
04:48
when they win at a physical competition.
86
288718
2290
เมื่อพวกเขาชนะการแข่งขันอะไรสักอย่าง
04:51
So when they cross the finish line and they've won,
87
291032
2454
เมื่อเขาวิ่งข้ามเส้นชัย และเขาเป็นที่หนึ่ง
04:53
it doesn't matter if they've never seen anyone do it.
88
293510
2477
มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเคยเห็นคนอื่น ทำสิ่งนั้นมาก่อนหรือไม่
พวกเขาจะทำแบบนี้เสมอ
04:56
They do this.
89
296011
1293
ชูแชนขึ้นเป็นรูปตัว V เชิดคางขึ้น
04:57
So the arms up in the V, the chin is slightly lifted.
90
297328
2498
04:59
What do we do when we feel powerless?
91
299850
2063
แล้วเราทำอย่างไรเมื่อเรารู้สึกไร้อำนาจ
05:01
We do exactly the opposite.
92
301937
1755
เราทำในสิ่งตรงกันข้าม เราปิดตัวเอง ห่อตัว
05:03
We close up. We wrap ourselves up.
93
303716
2504
05:06
We make ourselves small.
94
306244
1344
เราทำตัวให้เล็กลง เราไม่อยากกระทบกระทั่งกับคนที่อยู่ข้างๆ
05:07
We don't want to bump into the person next to us.
95
307612
2356
05:09
So again, both animals and humans do the same thing.
96
309992
2733
เช่นเดียวกัน ทั้งสัตว์และมนุษย์ทำในสิ่งเดียวกัน
05:12
And this is what happens when you put together high and low power.
97
312749
3956
และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณเอาคนที่มีอำนาจ
และไร้อำนาจมาอยู่ด้วยกัน สิ่งที่พวกเรามักทำ
05:16
So what we tend to do when it comes to power
98
316729
3102
เมื่อมีความเหลื่อมล้ำของอำนาจ คือ เราจะเป็นคู่เสริมทางอวัจนภาษาของกันและกัน
05:19
is that we complement the other's nonverbals.
99
319855
2629
05:22
So if someone is being really powerful with us,
100
322508
2407
ดังนั้น ถ้าบางคนมีอำนาจกว่าเรามากๆ
05:24
we tend to make ourselves smaller. We don't mirror them.
101
324939
2620
เรามีแนวโน้มจะทำตัวเล็กลง เราจะไม่เลียนแบบเขา
05:27
We do the opposite of them.
102
327583
1590
เราทำในสิ่งตรงกันข้าม
05:29
So I'm watching this behavior in the classroom,
103
329197
3175
ฉันเฝ้าสังเกตพฤติกรรมเหล่านี้ในห้องเรียน
05:32
and what do I notice?
104
332396
2513
และฉันเห็นอะไรรู้ไหมคะ? ฉันสังเกตว่านักเรียนบริหารธุรกิจ
05:34
I notice that MBA students really exhibit the full range of power nonverbals.
105
334933
7229
ใช้อวัจนภาษาแสดงออกถึงอำนาจอย่างเต็มที่
05:42
So you have people who are like caricatures of alphas,
106
342186
2524
คุณจะเห็นคนที่ทำตัวเหมือนเป็นจ่าฝูง
05:44
really coming into the room, they get right into the middle of the room
107
344734
3381
ปราดเข้ามาในห้อง เข้ามากลางห้อง
ก่อนที่การเรียนจะเริ่มขึ้น พวกเขาต้องการจะจับจองพื้นที่
05:48
before class even starts, like they really want to occupy space.
108
348139
3413
05:51
When they sit down, they're sort of spread out.
109
351576
2239
เมื่อพวกเขานั่งลง เขาจะแผ่ขยายตัวเอง
05:53
They raise their hands like this.
110
353839
1734
พวกเขายกมือขึ้นแบบนี้
05:55
You have other people who are virtually collapsing
111
355597
2611
คุณจะพบคนอื่นๆ ที่ตัวแทบจะหดหายไปเลย
05:58
when they come in. As soon they come in, you see it.
112
358232
2500
เมื่อพวกเขาเข้ามา ทันที่ที่พวกเขาเข้ามา
06:00
You see it on their faces and their bodies,
113
360756
2269
คุณจะเห็นได้จากหน้าตาท่าทางของพวกเขา
06:03
and they sit in their chair and they make themselves tiny,
114
363049
2794
และพวกเขานั่งในเก้าอี้ พยายามทำตัวให้เล็กที่สุด
06:05
and they go like this when they raise their hand.
115
365867
2338
และพวกเขาทำอย่างนี้เวลายกมือ
06:08
I notice a couple of things about this.
116
368229
1858
ฉันสังเกตเห็นสองสิ่งจากเรื่องนี้
หนึ่ง คุณจะไม่ประหลาดใจเลย
06:10
One, you're not going to be surprised.
117
370111
1810
06:11
It seems to be related to gender.
118
371945
2018
ว่ามันดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับเพศ
06:13
So women are much more likely to do this kind of thing than men.
119
373987
5441
ผู้หญิงมีแนวโน้มสูงกว่าผู้ชาย ที่จะทำท่าแบบนี้
06:19
Women feel chronically less powerful than men,
120
379452
2562
ผู้หญิงรู้สึกถึงความด้อยอำนาจกว่าผู้ชายอยู่เสมอ
06:22
so this is not surprising.
121
382038
1858
ดังนั้นมันจึงไม่น่าประหลาดใจ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ฉันสังเกตก็คือ
06:23
But the other thing I noticed
122
383920
2049
06:25
is that it also seemed to be related to the extent
123
385993
2642
มันเหมือนจะเกี่ยวข้องรวมไปถึง
06:28
to which the students were participating, and how well they were participating.
124
388659
3836
การที่นักเรียนจะมีส่วนร่วมในห้องเรียนมากแค่ไหน และมีส่วนร่วมดีแค่ไหนด้วย
06:32
And this is really important in the MBA classroom,
125
392519
2558
ซึ่งมันสำคัญมากในห้องเรียนของวิชาบริหารธุรกิจ
06:35
because participation counts for half the grade.
126
395101
2657
เพราะการมีส่วนร่วมคิดเป็นครึ่งหนึ่งของเกรด
06:37
So business schools have been struggling with this gender grade gap.
127
397782
4449
ดังนั้น โรงเรียนบริหารธุรกิจค่อนข้างมีปัญหา เรื่องช่องว่างของเกรดที่เกิดจากเพศ
06:42
You get these equally qualified women and men coming in
128
402255
3248
คุณได้นักเรียนที่มีคุณสมบัติดีพอๆ กัน ทั้งหญิงและชายเข้ามาเรียน
06:45
and then you get these differences in grades,
129
405527
2143
แต่คุณกลับได้เกรดที่แตกต่างกัน
06:47
and it seems to be partly attributable to participation.
130
407694
3065
เพราะความแตกต่างในการมีส่วนร่วมในห้องเรียน
06:50
So I started to wonder, you know, okay,
131
410783
2999
ฉันจึงเริ่มสงสัยว่า
06:53
so you have these people coming in like this, and they're participating.
132
413806
3618
เอาล่ะ คุณมีคนเหล่านี้ ซึ่งเข้ามาแบบนี้
เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าเราให้คนเหล่านี้แสร้งทำท่าทางมีอำนาจ
06:57
Is it possible that we could get people to fake it
133
417448
2529
07:00
and would it lead them to participate more?
134
420001
2000
มันจะชักจูงให้พวกเขามีส่วนร่วมมากขึ้น
ดังนั้น ผู้ร่วมงานคนสำคัญของฉัน ดานา คาร์นีย์ (Dana Carney) ที่เบิร์คลีย์ (Berkeley)
07:02
So my main collaborator Dana Carney, who's at Berkeley,
135
422025
4589
07:06
and I really wanted to know, can you fake it till you make it?
136
426638
3531
และตัวฉัน อยากจะรู้ว่า คุณจะแสร้งทำ จนกระทั่งคุณทำได้จริงๆ หรือไม่
07:10
Like, can you do this just for a little while
137
430193
2527
คือ คุณสามารถทำท่าแบบนี้สักครู่หนึ่ง
07:12
and actually experience a behavioral outcome
138
432744
2652
เพื่อให้ได้ประสบการณ์ทางพฤติกรรม ที่ทำให้คุณรู้สึกมีอำนาจได้ไหม
07:15
that makes you seem more powerful?
139
435420
1702
07:17
So we know that our nonverbals govern how other people
140
437146
3428
เรารู้ว่าอวัจนภาษาของเราควบคุม ความคิดและความรู้สึก
07:20
think and feel about us. There's a lot of evidence.
141
440598
2381
ที่คนอื่นมีต่อเรา มีหลักฐานสนับสนุนมากมาย
แต่คำถามของเราจริงๆ ก็คือ อวัจนภาษาของเรา
07:23
But our question really was,
142
443003
1422
07:24
do our nonverbals govern how we think and feel about ourselves?
143
444449
4040
สามารถควบคุมวิธีที่เราคิด และรู้สึกต่อตัวเราเองได้หรือไม่
07:28
There's some evidence that they do.
144
448513
2666
มีหลักฐานบางชิ้นที่สนับสนุนว่ามันเป็นจริง
07:31
So, for example, we smile when we feel happy,
145
451203
4612
ยกตัวอย่างเช่น เรายิ้มเมื่อมีความสุข
07:35
but also, when we're forced to smile
146
455839
2154
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อเราถูกบังคับให้ยิ้ม
07:38
by holding a pen in our teeth like this, it makes us feel happy.
147
458017
4391
โดยคาบปากกาไว้แบบนี้ มันทำให้เรารู้สึกมีความสุขไปด้วย
07:42
So it goes both ways.
148
462432
1918
ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้ทั้งสองทาง และเมื่อเป็นเรื่องของอำนาจ
07:44
When it comes to power, it also goes both ways.
149
464374
3782
มันก็เป็นไปได้ทั้งสองทางเช่นกัน เมื่อคุณรู้สึกมีอำนาจ
07:48
So when you feel powerful,
150
468180
2524
07:50
you're more likely to do this,
151
470728
1771
คุณมีแนวโน้มจะทำแบบนี้ และก็เป็นไปได้เช่นกัน
07:52
but it's also possible that when you pretend to be powerful,
152
472523
6178
ที่เมื่อคุณแสร้งทำเป็นมีอำนาจ คุณจะมีแนวโน้ม
07:58
you are more likely to actually feel powerful.
153
478725
3399
ที่จะรู้สึกมีอำนาจขึ้นมาจริงๆ
08:02
So the second question really was, you know,
154
482148
3036
คำถามข้อที่สอง ก็คือ
08:05
so we know that our minds change our bodies,
155
485208
2559
เรารู้ว่าจิตใจของเราส่งผลกระทบต่อร่างกาย
08:07
but is it also true that our bodies change our minds?
156
487791
4393
และก็จริงอีกเช่นกันว่า ร่างกายของเราสามารถ ส่งผลกระทบต่อจิตใจได้ด้วย
08:12
And when I say minds, in the case of the powerful,
157
492208
2703
และเมื่อฉันพูดถึงจิตใจ ในบริบทเรื่องอำนาจ
08:14
what am I talking about?
158
494935
1348
ฉันหมายถึงอะไร
08:16
So I'm talking about thoughts and feelings
159
496307
2142
ฉันหมายถึงความคิดและความรู้สึก
08:18
and the sort of physiological things that make up our thoughts and feelings,
160
498473
3572
และปฏิกิริยาทางสรีระวิทยา ที่รวมกันเป็นความคิดและความรู้สึกของเรา
ในกรณีของฉัน มันคือฮอร์โมน ฉันศึกษาฮอร์โมน
08:22
and in my case, that's hormones. I look at hormones.
161
502069
3043
08:25
So what do the minds of the powerful versus the powerless look like?
162
505136
4310
จิตใจของผู้ที่มีอำนาจและผู้ที่ไร้อำนาจ
นั้นเป็นเช่นไร?
08:29
So powerful people tend to be, not surprisingly,
163
509470
4272
ไม่น่าแปลกใจเลย คนที่มีอำนาจมักจะ
08:33
more assertive and more confident, more optimistic.
164
513766
4200
มีความหนักแน่น มั่นใจ มองโลกในแง่ดี
08:37
They actually feel they're going to win even at games of chance.
165
517990
3286
พวกเขารู้สึกจริงๆ ว่าพวกเขาจะชนะ แม้แต่ในเกมเสี่ยงโชค
สามารถคิดในเชิงนามธรรมได้ดีกว่า
08:41
They also tend to be able to think more abstractly.
166
521300
3844
08:45
So there are a lot of differences. They take more risks.
167
525168
2620
รับความเสี่ยงได้สูงกว่า
08:47
There are a lot of differences between powerful and powerless people.
168
527812
3239
ผู้ที่มีอำนาจกับผู้ไร้อำนาจ มีความแตกต่างกันสูงมาก
ในทางสรีระวิทยาก็มีความแตกต่างกันมาก ในฮอร์โมนหลักสองตัว
08:51
Physiologically, there also are differences
169
531075
2820
08:53
on two key hormones: testosterone, which is the dominance hormone,
170
533919
4041
คือ เทสโทสเตอโรน (testosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งการแสดงอำนาจ
08:57
and cortisol, which is the stress hormone.
171
537984
3670
และคอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งคือฮอร์โมนความเครียด
09:01
So what we find is that high-power alpha males in primate hierarchies
172
541678
7121
สิ่งที่เราพบก็คือ
ในสัตว์ตระกูลลิง จ่าฝูงตัวผู้ที่มีอำนาจมาก
09:08
have high testosterone and low cortisol,
173
548823
3174
มีเทสโทสเตอโรนสูง และคอร์ติซอลต่ำ
09:12
and powerful and effective leaders
174
552021
2908
และผู้นำที่มีอำนาจและมีประสิทธิภาพ
09:15
also have high testosterone and low cortisol.
175
555547
2231
ก็มีเทสโทสเตอโรนสูง และคอร์ติซอลต่ำเช่นกัน
09:17
So what does that mean? When you think about power,
176
557802
2381
นั่นหมายถึงอะไร เมื่อคุณคิดถึงอำนาจ
09:20
people tended to think only about testosterone,
177
560207
2299
คนมักคิดถึงแต่เทสโทสเตอโรน
09:22
because that was about dominance.
178
562530
1764
เพราะมันเกี่ยวกับการแสดงอำนาจ
09:24
But really, power is also about how you react to stress.
179
564318
3446
แต่จริงๆ แล้ว อำนาจนั้นหมายรวมถึง การตอบสนองของคุณต่อความเครียดด้วย
09:27
So do you want the high-power leader that's dominant,
180
567788
3105
คุณต้องการผู้นำที่มีอำนาจ ที่มีอำนาจเหนือคนอื่นๆ
09:30
high on testosterone, but really stress reactive?
181
570917
2718
มีเทสโทสเตอโรนสูง แต่อ่อนไหวต่อความเครียดหรือเปล่า
09:33
Probably not, right?
182
573659
1541
คงไม่ คุณต้องการบุคคล
09:35
You want the person who's powerful and assertive and dominant,
183
575224
3030
ที่มีอำนาจ มั่นคง เด่นกว่าคนอื่น
09:38
but not very stress reactive, the person who's laid back.
184
578278
3664
และไม่อ่อนไหวต่อความเครียด บุคคลซึ่งทำตัวผ่อนคลาย
09:41
So we know that in primate hierarchies,
185
581966
5126
เรารู้ว่าในโครงสร้างสังคมของสัตว์ตระกูลลิง
09:47
if an alpha needs to take over,
186
587116
3068
ถ้าจ่าฝูงต้องการครอบครอง ถ้าใครสักคนหนึ่งต้องสวมบทบาท
09:50
if an individual needs to take over an alpha role sort of suddenly,
187
590208
4214
ของจ่าฝูงอย่างทันทีทันใด
09:54
within a few days, that individual's testosterone has gone up
188
594446
3087
ภายสองไม่กี่วัน ระดับเทสโทสเตอโรนของคนนั้นจะสูงขึ้น
09:57
significantly and his cortisol has dropped significantly.
189
597557
3481
อย่างมีนัยสำคัญ และระดับคอร์ติซอล ก็จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน
10:01
So we have this evidence, both that the body can shape
190
601062
3017
เรามีหลักฐานว่าร่างกายสามารถ
10:04
the mind, at least at the facial level,
191
604103
2342
เปลี่ยนแปลงจิตใจ อย่างน้อยก็ในระดับผิวเผิน
10:06
and also that role changes can shape the mind.
192
606469
4105
และการเปลี่ยนบทบาทก็สามารถ เปลี่ยนแปลงจิตใจได้ด้วย
10:10
So what happens, okay, you take a role change,
193
610598
2758
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคุณเปลี่ยนบทบาท
10:13
what happens if you do that at a really minimal level,
194
613380
2560
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณทำอะไรเล็กน้อยมากๆ
10:15
like this tiny manipulation, this tiny intervention?
195
615964
2429
เช่นการปรับเปลี่ยนเล็กๆ การแทรกแซงเล็กๆ แบบนี้
10:18
"For two minutes," you say, "I want you to stand like this,
196
618417
2810
โดยพูดกับตัวเองว่า "ในสองนาที ฉันจะยืนท่านี้
10:21
and it's going to make you feel more powerful."
197
621251
2536
และนั่นจะทำให้ฉันรู้สึกมีอำนาจมากขึ้น"
10:23
So this is what we did.
198
623811
2930
นี่คือสิ่งที่เราทำ เรานำคนกลุ่มหนึ่ง
10:26
We decided to bring people into the lab and run a little experiment,
199
626765
4591
มายังห้องทดลองและทำการทดลองเล็กๆ
10:31
and these people adopted, for two minutes,
200
631380
3525
คนกลุ่มนี้ จะต้องทำท่าแห่งอำนาจ
10:34
either high-power poses or low-power poses,
201
634929
3460
หรือท่าไร้อำนาจเป็นเวลาสองนาที
10:38
and I'm just going to show you five of the poses,
202
638413
2317
ฉันจะให้ดูภาพท่าเหล่านี้ 5 แบบ แม้ว่าพวกเขาจะใช้แค่สองแบบเท่านั้น
10:40
although they took on only two.
203
640754
1561
10:42
So here's one.
204
642339
1480
นี่คือท่าหนึ่ง
อีกสองท่า
10:45
A couple more.
205
645069
1289
ท่านี้ถูกตั้งชื่อว่า "วันเดอร์วูแมน"
10:47
This one has been dubbed the "Wonder Woman" by the media.
206
647052
4753
โดยสื่อต่างๆ
10:51
Here are a couple more.
207
651906
1298
นี่คืออีกสองท่า
10:53
So you can be standing or you can be sitting.
208
653228
2330
ดังนั้นคุณสามารถยืนหรือนั่งก็ได้
10:55
And here are the low-power poses.
209
655582
1961
และนี่คือ ท่าไร้อำนาจ
10:57
So you're folding up, you're making yourself small.
210
657567
2730
คุณห่อตัว ทำตัวเองให้เล็กลง
11:01
This one is very low-power.
211
661904
1441
ท่านี้เป็นท่าที่ไร้อำนาจจริงๆ
11:03
When you're touching your neck, you're really protecting yourself.
212
663369
3959
เมื่อคุณแตะคอตัวเอง
จริงๆ แล้วคุณกำลังปกป้องตัวเอง
11:07
So this is what happens.
213
667352
1997
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาเข้ามา
11:09
They come in, they spit into a vial,
214
669467
2206
เราแบ่งเขาออกเป็นสองกลุ่ม
11:11
for two minutes, we say, "You need to do this or this."
215
671697
3149
เราบอกเขาว่า "คุณต้องทำท่าแบบนี้ หรือไม่ก็แบบนี้"
11:14
They don't look at pictures of the poses.
216
674870
2041
พวกเขาไม่ได้ดูรูปของท่าทางเหล่านั้น เพราะเราไม่อยากชี้นำ
11:16
We don't want to prime them with a concept of power.
217
676935
2527
ให้เขาคิดถึงเรื่องอำนาจ เราต้องการให้พวกเขารู้สึกถึงอำนาจด้วยตัวเอง
11:19
We want them to be feeling power.
218
679486
1633
ดังนั้น พวกเขาทำท่าเหล่านี้เป็นเวลา 2 นาที
11:21
So two minutes they do this.
219
681143
1335
11:22
We then ask them, "How powerful do you feel?" on a series of items,
220
682502
3185
จากนั้นเราก็ถามพวกเขาว่า "คุณรู้สึกมีอำนาจแค่ไหน" โดยใช้คำถามหลายข้อ
11:25
and then we give them an opportunity to gamble,
221
685711
2343
แล้วเราก็ให้โอกาสเขาเสี่ยงพนัน
11:28
and then we take another saliva sample.
222
688078
2741
และจากนั้นเราเก็บตัวอย่างน้ำลาย
11:30
That's it. That's the whole experiment.
223
690843
1858
แค่นั้นเอง นั่นคือการทดลองทั้งหมด
11:32
So this is what we find.
224
692725
1561
และนี่คือสิ่งที่เราค้นพบ การยอมรับความเสี่ยง ซึ่งในที่นี้คือการพนัน
11:34
Risk tolerance, which is the gambling,
225
694310
1880
11:36
we find that when you are in the high-power pose condition,
226
696214
4114
เราพบว่า เมื่อคุณทำท่ามีอำนาจสูง
86 เปอร์เซ็นต์ของพวกคุณจะกล้าพนัน
11:40
86 percent of you will gamble.
227
700352
2134
11:42
When you're in the low-power pose condition,
228
702510
2096
เมื่อคุณอยู่ในท่าไร้อำนาจ
11:44
only 60 percent, and that's a whopping significant difference.
229
704630
3976
มีแค่ 60 เปอร์เซ็นต์ที่กล้าเสี่ยง นั่นมันแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทีเดียว
11:48
Here's what we find on testosterone.
230
708630
2456
นี่คือสิ่งที่เราพบในเรื่องเทสโทสเตอโรน
11:51
From their baseline when they come in,
231
711110
2513
เทียบกับระดับเทสโทสเตอโรนก่อนเริ่มทดลอง กลุ่มมีอำนาจ
11:53
high-power people experience about a 20-percent increase,
232
713647
3306
มีเทสโทสเตอโรนเพิ่มขึ้นประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์
11:56
and low-power people experience about a 10-percent decrease.
233
716977
4597
กลุ่มคนไร้อำนาจ มีเทสโทสเตอโรนลดลง ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
12:01
So again, two minutes, and you get these changes.
234
721598
2793
เพียงแค่สองนาที คุณก็ได้การเปลี่นแปลงเหล่านี้
12:04
Here's what you get on cortisol.
235
724415
1977
และนี่คือผลที่ได้ในเรื่องคอร์ติซอล ในกลุ่มคนมีอำนาจ
12:06
High-power people experience about a 25-percent decrease,
236
726416
3774
มีคอร์ติซอลลดลงประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์
12:10
and the low-power people experience about a 15-percent increase.
237
730214
4108
และในกลุ่มคนไร้อำนาจ มีคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์
12:14
So two minutes lead to these hormonal changes
238
734346
2708
ดังนั้น เพียงแค่สองนาทีก็นำไปสู่ การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเหล่านี้
12:17
that configure your brain
239
737078
1620
ที่ปรับเปลี่ยนสมองคุณให้เป็นได้ทั้ง
12:18
to basically be either assertive, confident and comfortable,
240
738722
4277
หนักแน่น มั่นใจ และสบาย
12:23
or really stress-reactive, and feeling sort of shut down.
241
743023
5053
หรือ อ่อนไหวต่อความเครียด
รู้สึกปิดกั้นตัวเอง พวกเราต่างเคยรู้สึกแบบนั้นใช่ไหมคะ
12:28
And we've all had the feeling, right?
242
748100
2763
12:30
So it seems that our nonverbals do govern how we think and feel about ourselves,
243
750887
5184
ดังนั้น มันเหมือนว่าอวัจนภาษาของเราสามารถควบคุม
วิธีที่เราคิดและรู้สึกเกี่ยวกับตัวเราเอง
12:36
so it's not just others, but it's also ourselves.
244
756095
2432
ไม่เพียงแค่คนอื่น แต่รวมถึงตัวเราเองด้วย
12:38
Also, our bodies change our minds.
245
758551
2403
และร่างกายของเราก็เปลี่ยนแปลงจิตใจเราได้
12:40
But the next question, of course,
246
760978
2382
แต่แน่นอน คำถามถัดไปก็คือ
12:43
is, can power posing for a few minutes
247
763384
1820
การทำท่าแห่งอำนาจเพียงสองสามนาที
สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้จริงๆ จังๆ หรือเปล่า
12:45
really change your life in meaningful ways?
248
765228
2037
12:47
This is in the lab, it's this little task, it's just a couple of minutes.
249
767289
4293
นี่มันแค่การทดลองในห้องทดลอง มันเป็นงานเล็กๆ
ใช้เวลาเพียงสองนาที คุณจะเอามันไปใช้จริงๆ ได้ที่ไหนบ้าง
12:51
Where can you actually apply this?
250
771606
1741
ก็ในสถานการณ์ที่สำคัญกับเราน่ะสิ
12:53
Which we cared about, of course.
251
773371
1811
12:55
And so we think where you want to use this is evaluative situations,
252
775206
6741
และเราคิดว่าจริงๆ แล้ว มันสำคัญมาก ฉันหมายถึง
คุณควรจะนำมันไปใช้ในสถานการณ์ ที่คุณจะต้องถูกประเมิน
13:01
like social threat situations.
253
781971
2453
เช่น ในสถานการณ์ที่ถูกคุกคามทางสังคม ที่คุณกำลังถูกประเมิน
13:04
Where are you being evaluated, either by your friends?
254
784448
2556
ไม่ว่าจะโดยเพื่อนๆ เช่น สำหรับวัยรุ่น ก็คือสถานการณ์ในห้องทานอาหารกลางวัน
13:07
For teenagers, it's at the lunchroom table.
255
787028
2057
13:09
For some people it's speaking at a school board meeting.
256
789109
4273
สำหรับบางคน อาจเป็นการพูด
ในที่ประชุมคณะกรรมการของโรงเรียน หรือการนำเสนอผลงาน
13:13
It might be giving a pitch or giving a talk like this
257
793406
3764
หรือการบรรยายแบบนี้
13:17
or doing a job interview.
258
797194
2774
หรือการสัมภาษณ์งาน
13:19
We decided that the one that most people could relate to
259
799992
2668
เราคิดว่า สถานการณ์ที่คนส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงได้
13:22
because most people had been through, was the job interview.
260
802684
2895
เพราะคนส่วนใหญ่เคยผ่านมาแล้ว
นั่นคือการสัมภาษณ์งาน
13:25
So we published these findings,
261
805603
2731
ดังนั้นเราจึงตีพิมพ์การค้นพบนี้ และสื่อต่างๆ
13:28
and the media are all over it,
262
808358
1561
13:29
and they say, Okay, so this is what you do
263
809943
2075
ก็พากันตื่นเต้น และพวกเขาบอกว่า นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำ
เมื่อคุณไปสัมภาษณ์งาน ใช่ไหมคะ (เสียงหัวเราะ)
13:32
when you go in for the job interview, right?
264
812042
2073
13:34
(Laughter)
265
814139
1007
ตอนนั้นเรากลัวมาก และกล่าวว่า
13:35
You know, so we were of course horrified, and said,
266
815170
2447
13:37
Oh my God, no, that's not what we meant at all.
267
817641
2272
โอ้ พระเจ้า ไม่นะไม่ เราไม่ได้หมายความอย่างนั้นเลย
13:39
For numerous reasons, no, don't do that.
268
819937
2240
ด้วยเหตุผลทั้งหลายทั้งปวง อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด
13:42
Again, this is not about you talking to other people.
269
822201
2567
นี่ไม่ใช่การที่คุณพูดกับคนอื่นๆ
13:44
It's you talking to yourself.
270
824792
1561
มันคือการที่คุณพูดกับตัวคุณเอง คุณจะทำอะไร
13:46
What do you do before you go into a job interview? You do this.
271
826377
3059
ก่อนเข้าไปสัมภาษณ์งาน? คุณทำแบบนี้
13:49
You're sitting down. You're looking at your iPhone --
272
829460
2542
ใช่ไหมคะ? คุณนั่งลง คุณกำลังเล่นไอโฟน
หรือแอนดรอยด์ พยายามไม่ให้ใครคลาดสายตา
13:52
or your Android, not trying to leave anyone out.
273
832026
2262
13:54
You're looking at your notes,
274
834312
1870
คุณกำลังดูกระดาษโน้ตของคุณ
13:56
you're hunching up, making yourself small,
275
836206
2000
คุณนั่งหลังโกง ทำตัวเองให้ดูเล็ก
13:58
when really what you should be doing maybe is this,
276
838230
2429
ในขณะที่สิ่งที่คุณควรทำจริงๆ แล้ว อาจเป็นแบบนี้
14:00
like, in the bathroom, right? Do that. Find two minutes.
277
840683
3037
คุณอาจทำแบบนี้ในห้องน้ำ ใช่ไหมคะ ทำแบบนั้น ลองหาเวลาสักสองนาที
14:03
So that's what we want to test. Okay?
278
843744
1762
นั่นคือสิ่งที่เราอยากทดสอบ
14:05
So we bring people into a lab,
279
845530
1794
เราพาคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในห้องทดลอง
14:07
and they do either high- or low-power poses again,
280
847348
3353
ให้พวกเขาทำท่าแห่งอำนาจ หรือ ไร้อำนาจ
14:10
they go through a very stressful job interview.
281
850725
2608
พวกเขาต้องผ่านการสัมภาษณ์งานอันเคร่งเครียด
14:13
It's five minutes long. They are being recorded.
282
853357
3592
ใช้เวลานานห้านาที พวกเขาถูกบันทึกวิดีโอ
14:16
They're being judged also,
283
856973
1957
และถูกประเมินด้วย โดยผู้ประเมิน
14:18
and the judges are trained to give no nonverbal feedback,
284
858954
4481
ก็ถูกฝึกมาไม่ให้โต้ตอบด้วยอวัจนภาษา
14:23
so they look like this.
285
863459
1559
ดังนั้นพวกเขาจึงดูเหมือนแบบนี้
14:25
Imagine this is the person interviewing you.
286
865245
2081
ลองจินตนาการว่านี่คือคนที่กำลังสัมภาษณ์คุณอยู่
14:27
So for five minutes, nothing, and this is worse than being heckled.
287
867350
4599
เป็นเวลานานห้านาที โดยไร้การตอบสนอง นี่มันแย่ยิ่งกว่าโดนต้อนเสียอีก
14:31
People hate this.
288
871973
1640
คนทั่วไปไม่ชอบภาวะแบบนี้ นี่คือสิ่งที่ แมรีแอน ลาฟรานซ์ (Marianne LaFrance)
14:33
It's what Marianne LaFrance calls "standing in social quicksand."
289
873637
3716
เรียกว่า "สถานการณ์น่าเบื่อแต่หนีไม่ได้" (social quicksand)
14:37
So this really spikes your cortisol.
290
877377
1785
ซึ่งทำให้คอร์ติซอลของคุณพุ่งปรี๊ด
14:39
So this is the job interview we put them through,
291
879186
2286
เราให้พวกเขาเข้าไปสัมภาษณ์งานแบบนี้
เพราะเราต้องการดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
14:41
because we really wanted to see what happened.
292
881496
2197
14:43
We then have these coders look at these tapes, four of them.
293
883717
3083
เราให้ผู้ประเมินสี่คนดูวิดีโอเทปนี้
14:46
They're blind to the hypothesis. They're blind to the conditions.
294
886824
3148
พวกเขาไม่รู้สมมติฐานของเรา พวกเขาไม่รู้สภาวะก่อนการสัมภาษณ์
14:49
They have no idea who's been posing in what pose,
295
889996
2761
พวกเขาไม่รู้ว่าใครทำท่าอะไรก่อนการสัมภาษณ์
14:52
and they end up looking at these sets of tapes,
296
892781
5066
พวกเขาเพียงแค่ได้ดูเทปการสัมภาษณ์
14:57
and they say, "We want to hire these people,"
297
897871
2148
และพูดว่า "โอ้ เราต้องการจ้างคนพวกนี้"
หมายถึงคนที่ทำท่ามีอำนาจทั้งหมด หรือพูดว่า "เราไม่อยากจ้างคนพวกนี้
15:00
all the high-power posers.
298
900043
1501
15:01
"We don't want to hire these people.
299
901568
1773
15:03
We also evaluate these people much more positively overall."
300
903365
3817
เรายังประเมินคนกลุ่มนี้สูงกว่าในทุกๆ ด้านด้วย"
แต่อะไรเป็นตัวขับดันล่ะ? มันไม่เกี่ยวกับเนื้อหาสาระของสิ่งที่เขาพูดเลย
15:07
But what's driving it?
301
907206
1640
15:08
It's not about the content of the speech.
302
908870
1992
15:10
It's about the presence that they're bringing to the speech.
303
910886
2852
แต่อยู่ที่ภาพลักษณ์ที่พวกเขานำเสนอในระหว่างการพูด
15:13
Because we rate them on all these variables
304
913762
2477
เพราะเราให้คะแนนพวกเขาในตัวแปร
ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสามารถ เช่น การพูดของเขามีโครงสร้างดีแค่ไหน?
15:16
related to competence, like, how well-structured is the speech?
305
916263
3539
มันฟังดูดีแค่ไหน? คุณสมบัติของพวกเขาเป็นอย่างไร?
15:19
How good is it? What are their qualifications?
306
919826
2234
ตัวแปรพวกนี้ไม่มีผลต่อการจ้างงานเลย แต่สิ่งที่ได้รับผลกระทบคือ
15:22
No effect on those things. This is what's affected.
307
922084
2626
15:24
These kinds of things.
308
924734
1699
สิ่งเหล่านี้ คนสามารถแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา
15:26
People are bringing their true selves, basically.
309
926457
2391
15:28
They're bringing themselves.
310
928872
1390
พวกเขาเผยตัวตนออกมา
พวกเขาแสดงความคิด ในแบบของตนเอง
15:30
They bring their ideas, but as themselves,
311
930286
2099
15:32
with no, you know, residue over them.
312
932409
2212
โดยไม่มีอะไรมาปิดบัง
15:34
So this is what's driving the effect, or mediating the effect.
313
934645
4907
และนี่คือสิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อน หรือเป็นตัวนำพาให้เกิดผลดังกล่าว
15:39
So when I tell people about this,
314
939576
3344
เมื่อฉันบอกคนอื่นๆ เรื่องนี้
15:42
that our bodies change our minds and our minds can change our behavior,
315
942944
3355
ว่าร่างกายของเราสามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจของเรา และจิตใจของเราก็เปลี่ยนพฤติกรรมเราได้
และพฤติกรรมของเราก็สามารถ เปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้ พวกเขาบอกฉันว่า
15:46
and our behavior can change our outcomes, they say to me,
316
946323
2752
"ฉันว่ามันไม่ .... มันดูเสแสร้ง"
15:49
"It feels fake." Right?
317
949099
1543
15:50
So I said, fake it till you make it.
318
950666
1878
ฉันตอบว่า คุณต้องเสแสร้งจนกว่าคุณจะทำมันได้จริง คนมักคิดว่า ฉันทำไม่ได้ มันไม่ใช่ตัวฉัน
15:52
It's not me.
319
952568
1853
15:54
I don't want to get there and then still feel like a fraud.
320
954445
3151
ฉันไม่อยากไปถึงจุดนั้น แล้วยังรู้สึกเหมือนพวกหลอกลวง
15:57
I don't want to feel like an impostor.
321
957620
1810
ฉันไม่อยากรู้สึกเหมือนเป็นพวกต้มตุ๋น
15:59
I don't want to get there only to feel like I'm not supposed to be here.
322
959454
4073
ฉันไปอยากไปถึงจุดนั้น แล้วต้องรู้สึกว่าฉันไม่ควรค่าพอ
16:03
And that really resonated with me,
323
963551
2163
นั่นมันช่างสอดคล้องกับกรณีของฉันเหลือเกิน
16:05
because I want to tell you a little story about being an impostor
324
965738
3222
ฉันอยากจะเล่าเรื่องสั้นๆ ให้พวกคุณฟัง
เกี่ยวกับการเป็นพวกหลอกลวง และความรู้สึกไม่ควรค่าพอจะอยู่ตรงจุดนั้น
16:08
and feeling like I'm not supposed to be here.
325
968984
2198
16:11
When I was 19, I was in a really bad car accident.
326
971206
2917
เมื่อฉันอายุได้ 19 ปี ฉันประสบอุบัติเหตุ ทางรถยนต์ที่ร้ายแรงมากๆ
16:14
I was thrown out of a car, rolled several times.
327
974147
3381
ฉันถูกเหวี่ยงออกจากรถ กลิ้งหลายตลบ
16:17
I was thrown from the car.
328
977552
1858
ฉันถูกเหวี่ยงออกจากรถ และฉันฟื้นขึ้นมา ในห้องกายภาพของผู้บาดเจ็บทางสมอง
16:19
And I woke up in a head injury rehab ward,
329
979434
2964
และฉันต้องออกจากมหาวิทยาลัย
16:22
and I had been withdrawn from college,
330
982422
2209
16:24
and I learned that my IQ had dropped by two standard deviations,
331
984655
5688
เมื่อฉันรู้ตัวว่า I.Q. ของฉันลดลง กว่า 2 เท่าของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
16:30
which was very traumatic.
332
990367
2564
มันเจ็บปวดมาก
16:32
I knew my IQ because I had identified with being smart,
333
992955
2847
ฉันรู้ว่า I.Q. ฉันเคยเป็นเท่าไร ฉันเคยถูกจัดอยู่ในกลุ่มเด็กฉลาด
16:35
and I had been called gifted as a child.
334
995826
1988
ฉันถูกเรียกว่าเป็นเด็กมีพรสวรรค์
16:37
So I'm taken out of college, I keep trying to go back.
335
997838
3176
เมื่อฉันถูกให้ออกจากมหาวิทยาลัย ฉันพยายามกลับไปเรียน
16:41
They say, "You're not going to finish college.
336
1001038
2200
พวกเขาบอกว่า "เธอจะเรียนไม่จบนะ
มีอย่างอื่นมากมายที่เธอจะทำได้
16:43
Just, you know, there are other things for you to do,
337
1003262
2553
16:45
but that's not going to work out for you."
338
1005839
2000
แต่การเรียนมันยากเกินไปสำหรับเธอ"
16:47
So I really struggled with this, and I have to say,
339
1007863
3534
ฉันลำบากมากกับเรื่องนี้ ต้องบอกตามตรง
16:51
having your identity taken from you, your core identity,
340
1011421
2750
การถูกลบอัตลักษณ์ของตนเอง แก่นแท้ของตัวตน
16:54
and for me it was being smart,
341
1014195
1835
และสำหรับฉัน มันคือการเป็นคนฉลาด
16:56
having that taken from you,
342
1016054
1639
เมื่อมันโดนพรากไปจากคุณ ไม่มีอะไรจะทำให้คุณรู้สึกไร้อำนาจไปยิ่งกว่านั้นอีกแล้ว
16:57
there's nothing that leaves you feeling more powerless than that.
343
1017717
3099
17:00
So I felt entirely powerless.
344
1020840
1779
ฉันรู้สึกไร้อำนาจโดยสิ้นเชิง ฉันขยันเรียน และขยันเรียน และขยันเรียน
17:02
I worked and worked, and I got lucky,
345
1022643
1862
และฉันก็โชคดี และขยันเรียน และก็โชคดี และขยันเรียน
17:04
and worked, and got lucky, and worked.
346
1024529
1846
17:06
Eventually I graduated from college.
347
1026399
2228
จนสุดท้าย ฉันก็เรียนจบ
17:08
It took me four years longer than my peers,
348
1028651
2000
ฉันต้องใช้เวลานานกว่าเพื่อนๆ ถึงสี่ปี
17:10
and I convinced someone, my angel advisor, Susan Fiske,
349
1030675
4317
ฉันโน้มน้าวใครคนหนึ่ง ซูซาน ฟิสก์ (Susan Fiske) อาจารย์ที่ปรึกษาผู้เป็นดั่งเทพธิดาของฉัน
17:15
to take me on, and so I ended up at Princeton,
350
1035016
2920
ให้รับฉันเข้าเรียนต่อ สุดท้ายฉันจึงได้เข้าเรียนที่พรินซ์ตัน (Princeton)
17:17
and I was like, I am not supposed to be here.
351
1037960
2827
ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันไม่คู่ควรกับที่นั่น
17:20
I am an impostor.
352
1040811
1270
ฉันเป็นพวกหลอกลวง
17:22
And the night before my first-year talk,
353
1042105
1905
และคืนก่อนการกล่าวบรรยายในปีแรกของฉัน
และการบรรยายของนักศึกษาชั้นปีหนึ่ง ที่ปรินซ์ตั้น เป็นการบรรยาย 20 นาที
17:24
and the first-year talk at Princeton is a 20-minute talk to 20 people.
354
1044034
3499
มีผู้ฟัง 20 คน แค่นั้นเอง
17:27
That's it.
355
1047557
1178
17:28
I was so afraid of being found out the next day
356
1048759
2463
แต่ฉันกลัวมาก ว่าคนจะรู้ความจริงในวันรุ่งขึ้น
17:31
that I called her and said, "I'm quitting."
357
1051246
2789
จนฉันต้องโทรไปหาอาจารย์ และบอกเธอว่า "หนูขอลาออกค่ะ"
17:34
She was like, "You are not quitting,
358
1054059
1832
เธอตอบว่า "เธอลาออกไม่ได้
17:35
because I took a gamble on you, and you're staying.
359
1055915
2534
เพราะฉันวางเดิมพันเรื่องเธอเอาไว้ และเธอต้องอยู่ต่อ
17:38
You're going to stay, and this is what you're going to do.
360
1058473
2767
เธอจะต้องอยู่ต่อ และนี่คือสิ่งที่เธอต้องทำ
เธอจะต้องแสร้งทำมัน
17:41
You are going to fake it.
361
1061264
1333
17:42
You're going to do every talk that you ever get asked to do.
362
1062621
3156
เธอจะต้องพูดในทุกๆ งานที่เธอถูกขอให้พูด
17:45
You're just going to do it and do it and do it,
363
1065801
2239
เธอจะต้องพูด และพูด และพูด
แม้ว่าเธอจะกลัวจนตัวแข็งทื่อ
17:48
even if you're terrified and just paralyzed
364
1068064
2421
17:50
and having an out-of-body experience,
365
1070509
2349
และเกิดประสบการณ์ออกจากร่าง จนกระทั่ง
17:52
until you have this moment where you say, 'Oh my gosh, I'm doing it.
366
1072882
3346
เธอถึงจุดหนึ่ง ที่เธอจะบอกตัวเองว่า 'พระเจ้าช่วย ฉันกำลังทำมัน
17:56
Like, I have become this. I am actually doing this.'"
367
1076252
2942
ฉันกลายเป็นคนที่ทำได้จริงๆ ฉันกำลังทำมันอยู่จริงๆ'"
17:59
So that's what I did.
368
1079218
1095
นั่นคือสิ่งที่ฉันทำ ห้าปีในการเรียนบัณฑิตศึกษา
18:00
Five years in grad school,
369
1080337
1384
18:01
a few years, you know, I'm at Northwestern,
370
1081745
2100
แล้วฉันก็ไปอยู่ที่นอร์ธเวสเทิร์น (Northwestern) สองสามปี
18:03
I moved to Harvard, I'm at Harvard,
371
1083869
2063
แล้วย้ายไปฮาร์วาร์ด (Harvard) และที่ฮาวาร์ด
18:05
I'm not really thinking about it anymore, but for a long time I had been thinking,
372
1085956
3976
ฉันก็เลิกคิดถึงมันไปเลย แต่ก่อนหน้านั้นนานทีเดียวที่ฉันคอยแต่คิดว่า
18:09
"Not supposed to be here."
373
1089956
1782
"ฉันไม่คู่ควรกับที่นี่ ไม่คู่ควรกับที่นี่"
18:11
So at the end of my first year at Harvard,
374
1091762
2693
ตอนปลายปีแรกของฉันที่ฮาร์วาร์ด
18:14
a student who had not talked in class the entire semester,
375
1094479
4301
นักเรียนคนหนึ่งผู้ไม่เคยพูดในชั้นเรียนเลยทั้งเทอม
18:18
who I had said, "Look, you've gotta participate or else you're going to fail,"
376
1098804
3667
คนที่ฉันเคยเตือนว่า "นี่ เธอต้องมีส่วนร่วมในชั้นเรียนนะ ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ผ่าน"
18:22
came into my office. I really didn't know her at all.
377
1102495
2524
เด็กคนนั้นมาที่ห้องทำงานฉัน ฉันไม่รู้จักเธอเลย
และเธอเข้ามาในแบบหมดสภาพ พ่ายแพ้ยับเยิน เธอกล่าวว่า
18:25
She came in totally defeated, and she said,
378
1105043
3428
18:28
"I'm not supposed to be here."
379
1108495
3126
"หนูไม่คู่ควรกับที่นี่"
นั่นคือช่วงเวลาสำคัญสำหรับฉัน เพราะสองสิ่งได้เกิดขึ้น
18:35
And that was the moment for me.
380
1115371
1957
18:37
Because two things happened.
381
1117352
1592
18:38
One was that I realized,
382
1118968
1270
สิ่งแรกคือฉันได้ตระหนัก
18:40
oh my gosh, I don't feel like that anymore.
383
1120262
3110
ว่า พระเจ้า ฉันไม่รู้สึกแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว
18:43
I don't feel that anymore, but she does, and I get that feeling.
384
1123396
3000
ฉันไม่รู้สึกแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว แต่เธอรู้สึก และฉันเข้าใจดี
18:46
And the second was, she is supposed to be here!
385
1126420
2271
และสิ่งที่สอง คือ เธอคู่ควรจะอยู่ที่นี่!
18:48
Like, she can fake it, she can become it.
386
1128715
1953
เธอสามารถเสแสร้งได้ จนเธอกลายเป็นแบบนั้นจริงๆ
18:50
So I was like, "Yes, you are! You are supposed to be here!
387
1130692
3543
ดังนั้นฉันจึงพูดว่า "เธอคู่ควร! เธอสมควรจะได้อยู่ที่นี่
18:54
And tomorrow you're going to fake it,
388
1134259
1762
และพรุ่งนี้ เธอจะต้องเสแสร้งทำมัน
เธอจะต้องทำตัวให้มีอำนาจ
18:56
you're going to make yourself powerful, and, you know --
389
1136045
2689
18:58
(Applause)
390
1138758
5393
และเธอจะต้อง --" (เสียงปรบมือ)
(เสียงปรบมือ)
"และเธอจะต้องเข้าเรียน
19:04
And you're going to go into the classroom,
391
1144175
4054
19:08
and you are going to give the best comment ever."
392
1148253
2400
และเธอจะต้องแสดงความเห็น ที่เยี่ยมยอดที่สุดกว่าใครๆ"
19:10
You know? And she gave the best comment ever,
393
1150677
2981
คุณรู้อะไรไหม? แล้วเธอก็แสดงความเห็นที่เยี่ยมยอดจริงๆ
19:13
and people turned around and were like,
394
1153682
1939
และคนอื่นๆ ต่างหันมามองเธอ แล้วทำท่าเหมือนกับว่า
พระเจ้า ฉันไม่เคยสังเกตเลยว่าเธอนั่งอยู่ตรงนั้น (เสียงหัวเราะ)
19:15
oh my God, I didn't even notice her sitting there. (Laughter)
395
1155645
2920
เธอกลับมาหาฉัน เมื่อเวลาผ่านไปเดือนหนึ่ง และฉันตระหนักว่า
19:18
She comes back to me months later,
396
1158589
1793
19:20
and I realized that she had not just faked it till she made it,
397
1160406
3040
เธอไม่ได้แค่แสร้งทำจนเธอทำมันได้จริงๆ
19:23
she had actually faked it till she became it.
398
1163470
2374
แต่เธอแสร้งทำ จนมันกลายเป็นตัวเธอไปเลย
19:25
So she had changed.
399
1165868
1799
เธอเปลี่ยนไป
19:27
And so I want to say to you, don't fake it till you make it.
400
1167691
4060
และดังนั้นฉันจึงอยากบอกคุณว่า อย่าแค่แสร้งทำจนคุณทำมันได้
19:31
Fake it till you become it.
401
1171775
2773
ให้แสร้งทำจนมันกลายเป็นตัวคุณ
19:34
Do it enough until you actually become it and internalize.
402
1174572
3617
ทำมันให้มากพอจนมันกลายเป็นตัวคุณ
19:38
The last thing I'm going to leave you with is this.
403
1178213
2631
สิ่งสุดท้ายที่ฉันจะฝากไว้ก่อนจบการบรรยาย
19:40
Tiny tweaks can lead to big changes.
404
1180868
4448
คือการปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ สามารถนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ได้
19:45
So, this is two minutes.
405
1185340
2473
ดังนั้น นี่คือสองนาที
19:47
Two minutes, two minutes, two minutes.
406
1187837
1810
สองนาที สองนาที สองนาที
19:49
Before you go into the next stressful evaluative situation,
407
1189671
3124
ก่อนที่คุณจะต้องเข้าไปในสถานการณ์ ที่จะต้องถูกประเมินอย่างเคร่งเครียด
19:52
for two minutes, try doing this, in the elevator,
408
1192819
2682
ใช้เวลาสักสองนาที พยายามทำสิ่งเหล่านี้ ในลิฟท์
19:55
in a bathroom stall, at your desk behind closed doors.
409
1195525
3215
ในห้องน้ำ ที่โต๊ะของคุณในห้องมิดชิด
19:58
That's what you want to do.
410
1198764
1403
นั่นคือสิ่งที่คุณควรทำ ปรับสมองของคุณ
20:00
Configure your brain to cope the best in that situation.
411
1200191
2811
เพื่อให้รับมือได้ดีที่สุดในสถานการณ์นั้น
20:03
Get your testosterone up. Get your cortisol down.
412
1203026
2941
เพิ่มเทสโทสเตอโรนของคุณให้สูงขึ้น และลดคอร์ติซอลให้ต่ำลง
20:05
Don't leave that situation feeling like, oh, I didn't show them who I am.
413
1205991
3942
อย่าออกมาจากสถานการณ์นั้นพร้อมด้วยความรู้สึกที่ว่า โธ่ ฉันยังไม่ได้แสดงตัวตนจริงๆ ของฉันเลย
20:09
Leave that situation feeling like,
414
1209957
1700
จงออกจากสถานการณ์นั้นด้วยความรู้สึกว่า โอ้ ฉันรู้สึกว่า
20:11
I really feel like I got to say who I am and show who I am.
415
1211681
2972
ฉันได้พูดในแบบของฉัน และแสดงออกในแบบของฉัน
20:14
So I want to ask you first, you know, both to try power posing,
416
1214677
5767
ฉันอยากขอร้องให้คุณ
ลองทำท่ามีอำนาจ
20:20
and also I want to ask you to share the science, because this is simple.
417
1220468
5090
และฉันอยากขอให้คุณ
นำความรู้นี้ไปแบ่งปัน เพราะมันง่ายมาก
20:25
I don't have ego involved in this. (Laughter)
418
1225582
2153
ฉันไม่มีผลประโยชน์ในเรื่องนี้เลยนะ (เสียงหัวเราะ)
20:27
Give it away. Share it with people,
419
1227759
1763
เอาไปบอกคนอื่นๆ แบ่งปันกัน
20:29
because the people who can use it the most
420
1229546
2420
เพราะคนที่จะใช้มันได้มากที่สุด คือคนที่
20:31
are the ones with no resources and no technology
421
1231990
3351
ไม่มีทรัพยากรอื่น และไม่มีเทคโนโลยี
20:35
and no status and no power.
422
1235365
2174
และไม่มีสถานะทางสังคม และไม่มีอำนาจ จงให้ความรู้นี้แก่พวกเขา
20:37
Give it to them because they can do it in private.
423
1237563
2548
เพราะเขาสามารถทำในที่ลับตา
พวกเขาแค่ต้องการร่างกายของเขา ความเป็นส่วนตัว และเวลาสองนาที
20:40
They need their bodies, privacy and two minutes,
424
1240135
2444
20:42
and it can significantly change the outcomes of their life.
425
1242603
3126
และมันจะสามารถเปลี่ยนชีวิตพวกเขาได้จริงๆ
20:45
Thank you.
426
1245753
1131
ขอบคุณค่ะ (เสียงปรบมือ)
20:46
(Applause)
427
1246908
3031
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7