The power of vulnerability | Brené Brown | TED

22,392,921 views ・ 2011-01-03

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Paninya Masrangsan Reviewer: Bank Light
เริ่มต้นอย่างนี้ละกันค่ะ
00:16
So, I'll start with this: a couple years ago, an event planner called me
0
16860
3461
2-3 ปีก่อน มีผู้จัดงานคนนึงโทรมาหา
เพราะฉันกำลังจะไปพูดบรรยาย
00:20
because I was going to do a speaking event.
1
20345
2049
เธอโทรมา แล้วบอกว่า
00:22
And she called, and she said,
2
22418
1690
"ฉันกำลังคิดไม่ตก
00:24
"I'm really struggling with how to write about you on the little flyer."
3
24132
3572
ว่าจะเขียนแนะนำคุณยังไงในใบปลิวโฆษณา"
00:27
And I thought, "Well, what's the struggle?"
4
27728
2048
ฉันเลยถามไปว่า "มีปัญหาตรงไหนเหรอคะ"
เธอตอบว่า "คือ ฉันเคยฟังคุณพูด
00:30
And she said, "Well, I saw you speak,
5
30488
1904
และคิดว่าฉันน่าจะเรียกคุณว่า'นักวิจัย'
00:32
and I'm going to call you a researcher, I think,
6
32416
2485
00:34
but I'm afraid if I call you a researcher, no one will come,
7
34925
2888
แต่ก็กลัวว่า ถ้าเรียกคุณว่า'นักวิจัย' แล้วจะไม่มีใครมาฟัง
เพราะคนเขาจะคิดว่าคุณน่าเบื่อและไม่มีประโยชน์ต่อชีวิตเขา"
00:37
because they'll think you're boring and irrelevant."
8
37837
2459
(เสียงหัวเราะ)
00:40
(Laughter)
9
40320
1001
ฉันก็บอกกลับว่า "โอเค"
00:41
And I was like, "Okay."
10
41345
1576
00:42
And she said, "But the thing I liked about your talk
11
42945
2478
เธอบอกว่า"แต่ที่ฉันชอบเกี่ยวกับการบรรยายของคุณน่ะ
คือความที่คุณเป็นนักเล่าเรื่อง
00:45
is you're a storyteller.
12
45447
1216
00:46
So I think what I'll do is just call you a storyteller."
13
46687
2714
ก็เลยคิดว่าเรียกคุณว่า'นักเล่าเรื่อง'แล้วกัน"
00:49
And of course, the academic, insecure part of me
14
49990
2976
ซึ่งแน่นอนว่า ส่วนความเป็นนักวิชาการและความไม่มั่นใจของฉัน
00:52
was like, "You're going to call me a what?"
15
52990
2310
ถามว่า "จะเรียกฉันว่าอะไรนะ"
เธอบอกว่า "จะเรียกคุณว่า 'นักเล่าเรื่อง' ค่ะ"
00:55
And she said, "I'm going to call you a storyteller."
16
55324
2548
00:57
And I was like, "Why not 'magic pixie'?"
17
57896
2849
ฉันเลย แบบว่า "ไม่เรียกว่า 'ภูตน้อยมหัศจรรย์' ไปซะเลยล่ะ"
01:00
(Laughter)
18
60769
2479
(เสียงหัวเราะ)
01:03
I was like, "Let me think about this for a second."
19
63648
3278
ฉันก็บอกว่า "เดี๋ยวขอคิดแป๊บนึง"
ฉันพยายามจะควานหาความกล้าในตัวเอง
01:07
I tried to call deep on my courage.
20
67291
2539
01:09
And I thought, you know, I am a storyteller.
21
69854
3112
แล้วก็คิดว่า ฉันเป็นนักเล่าเรื่องจริงๆ
01:12
I'm a qualitative researcher.
22
72990
1404
ฉันเป็นนักวิจัยเชิงคุณภาพ
01:14
I collect stories; that's what I do.
23
74418
1721
ฉันรวบรวมเรื่องราว นั่นคือสิ่งที่ฉันทำ
01:16
And maybe stories are just data with a soul.
24
76656
2905
แล้วบางที เรื่องราวเหล่านั้นก็คือข้อมูลที่มีจิตวิญญาณ
01:19
And maybe I'm just a storyteller.
25
79585
2381
บางที ฉันอาจจะเป็นแค่นักเล่าเรื่องจริงๆ
01:21
And so I said, "You know what?
26
81990
1659
ฉันเลยบอกเธอไปว่า "เอาอย่างนี้แล้วกันค่ะ
01:23
Why don't you just say I'm a researcher-storyteller."
27
83673
2641
คุณเรียกฉันว่า'นักวิจัย-เล่าเรื่อง'แล้วกัน"
01:26
And she went, "Ha ha. There's no such thing."
28
86338
3628
เธอตอบว่า "ฮาฮา คนแบบนั้นไม่มีในโลกหรอกค่ะ"
01:29
(Laughter)
29
89990
1683
(หัวเราะ)
01:31
So I'm a researcher-storyteller, and I'm going to talk to you today --
30
91697
3977
ค่ะ ฉันเป็นนักวิจัย-เล่าเรื่อง
ที่จะมาบรรยายในวันนี้
01:35
we're talking about expanding perception --
31
95698
2049
เพราะเราพูดถึงการเปิดกว้างทางการเรียนรู้กันบ่อยๆ
01:37
and so I want to talk to you and tell some stories
32
97771
2382
ฉันเลยอยากจะพูดกับพวกคุณ และเล่าเรื่องบางเรื่อง
เกี่ยวกับงานวิจัยของฉันชิ้นหนึ่ง
01:40
about a piece of my research that fundamentally expanded my perception
33
100177
5159
ที่เปลี่ยนพื้นฐานความเข้าใจของฉัน
01:45
and really actually changed the way that I live and love
34
105360
2889
มันยังได้เปลี่ยนวิธีที่ฉันใช้ชีวิต และรัก
01:48
and work and parent.
35
108273
1174
และทำงาน และเลี้ยงลูก
01:50
And this is where my story starts.
36
110093
2132
นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องค่ะ
01:52
When I was a young researcher, doctoral student,
37
112990
2683
ตอนที่ฉันยังเป็นนักวิจัยอายุน้อย เป็นนักศึกษาปริญญาเอก
01:55
my first year, I had a research professor who said to us,
38
115697
3977
ปีแรก มีศาสตราจารย์วิจัยคนนึง
ที่พูดกับพวกเราว่า
01:59
"Here's the thing, if you cannot measure it, it does not exist."
39
119698
3946
"มันเป็นอย่างนี้
ถ้าคุณวัดมันไม่ได้ มันไม่มีอยู่จริง"
ฉันคิดว่าเขาล้อเล่นกับฉันไปอย่างนั้น
02:05
And I thought he was just sweet-talking me.
40
125374
2592
ฉันว่า"จริงเหรอ" เขาก็ว่า"แน่นอน"
02:08
I was like, "Really?" and he was like, "Absolutely."
41
128339
2437
02:10
And so you have to understand
42
130800
2253
คุณต้องเข้าใจนะคะ
ว่าฉันจบป.ตรีสาขาสังคมสงเคราะห์ ป.โทสาขาสังคมสงเคราะห์
02:13
that I have a bachelor's and a master's in social work,
43
133077
2580
และตอนนั้นกำลังเรียนป.เอกสาขาสังคมสงเคราะห์
02:15
and I was getting my Ph.D. in social work, so my entire academic career
44
135681
3374
ตลอดเส้นทางการศึกษาของฉัน
ถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คน
02:19
was surrounded by people who kind of believed in the "life's messy, love it."
45
139079
5617
ที่เชื่อประมาณว่า
"ชีวิตมันยุ่งเหยิง ทำใจรักมันซะ"
02:25
And I'm more of the, "life's messy, clean it up, organize it
46
145474
5428
แต่ฉันออกจะเป็นแบบ "ชีวิตมันยุ่งเหยิง
ก็สะสางเสียสิ จัดการให้เรียบร้อย
02:30
and put it into a bento box."
47
150926
1777
แล้วก็จัดลงไปในกล่องข้าวแบบญี่ปุ่น"
02:32
(Laughter)
48
152727
1976
(หัวเราะ)
ฉันเลยคิดว่าหาพรหมลิขิตของตัวเองเจอแล้ว
02:35
And so to think that I had found my way, to found a career that takes me --
49
155020
5311
พบกับอาชีพที่เหมาะกับฉัน
02:40
really, one of the big sayings in social work is,
50
160355
3333
จริงๆนะคะ มีประโยคที่พูดกันบ่อยในวงการสังคมสงเคราะห์
02:43
"Lean into the discomfort of the work."
51
163712
2095
"ใช้ความลำบากของงานมาเป็นกำลัง"
02:46
And I'm like, knock discomfort upside the head
52
166537
2532
แต่ฉันเป็นพวก "ต่อยความลำบากให้หน้าหงาย
02:49
and move it over and get all A's.
53
169093
2278
ผลักออกไปให้พ้นทาง แล้วก็ได้เกรดAทุกตัว"
02:51
That was my mantra.
54
171395
1912
นั่นเป็นคาถาของฉันค่ะ
02:54
So I was very excited about this.
55
174990
1976
ฉันก็เลยตื่นเต้นกับเรื่องนี้มาก
02:56
And so I thought, you know what, this is the career for me,
56
176990
2976
แล้วฉันก็คิดว่า รู้อะไรมั้ย เนี่ยแหละอาชีพของฉัน
02:59
because I am interested in some messy topics.
57
179990
2976
เพราะฉันสนใจในหัวข้อที่ยุ่งเหยิง
03:02
But I want to be able to make them not messy.
58
182990
2371
แต่ฉันอยากทำให้มันไม่ยุ่ง
ฉันอยากเข้าใจมัน
03:05
I want to understand them.
59
185385
1322
03:06
I want to hack into these things that I know are important
60
186731
3577
ฉันอยากจะเจาะลึกลงไปในเรื่องเหล่านั้น
ที่ฉันรู้ว่าสำคัญ
03:10
and lay the code out for everyone to see.
61
190332
1976
เพื่อจะถอดรหัสมาแสดงให้ทุกคนได้เห็น
03:12
So where I started was with connection.
62
192990
2659
ที่ที่ฉันเริ่มคือเรื่อง'ความสัมพันธ์'
03:15
Because, by the time you're a social worker for 10 years,
63
195673
3412
เพราะเมื่อคุณเป็นนักสังคมสงเคราะห์มา 10 ปี
สิ่งที่คุณตระหนักได้คือ
03:19
what you realize is that connection is why we're here.
64
199109
4707
ความสัมพันธ์เป็นเหตุผลที่เรามานั่งอยู่ตรงนี้
03:23
It's what gives purpose and meaning to our lives.
65
203840
2380
มันเป็นสิ่งที่สร้างจุดประสงค์และความหมายให้ชีวิตเรา
นี่แหละคือคำตอบ
03:27
This is what it's all about.
66
207076
1786
03:28
It doesn't matter whether you talk to people
67
208886
2097
ไม่ว่าคุณจะพูดกับใคร
คนที่ทำงานเกี่ยวกับสังคมสงเคราะห์ สุขภาพจิต ทารุณกรรม หรือการถูกทอดทิ้ง
03:31
who work in social justice, mental health and abuse and neglect,
68
211007
3092
สิ่งที่พวกเรารู้คือว่า ความสัมพันธ์
03:34
what we know is that connection, the ability to feel connected, is --
69
214123
5341
ความสามารถที่จะรู้สึกถึงความสัมพันธ์
ตามหลักชีวะและประสาทวิทยา คือปัจจัยของสิ่งมีชีวิต
03:39
neurobiologically that's how we're wired --
70
219948
2018
03:41
it's why we're here.
71
221990
1379
มันคือสิ่งที่ทำให้เรามาอยู่ตรงนี้
03:43
So I thought, you know what, I'm going to start with connection.
72
223393
3013
ฉันเลยคิดว่า รู้อะไรมั้ย ฉันจะเริ่มที่ความสัมพันธ์นี่แหละ
คุณรู้จักสถานการณ์นั้นดี
03:47
Well, you know that situation
73
227067
1897
03:48
where you get an evaluation from your boss,
74
228988
2508
เวลาที่คุณได้รับการประเมินจากหัวหน้า
03:51
and she tells you 37 things that you do really awesome,
75
231520
2786
แล้วหัวหน้าบอกว่าคุณทำ37อย่างได้เยี่ยมมาก
03:54
and one "opportunity for growth?"
76
234330
2374
และมีอย่างนึงที่เป็น'สิ่งที่ควรปรับปรุง'
03:56
(Laughter)
77
236728
1809
(หัวเราะ)
แต่คุณก็เอาแต่คิดซ้ำๆถึงไอ้เจ้า'สิ่งที่ควรปรับปรุง'นี่
03:59
And all you can think about is that opportunity for growth, right?
78
239196
3468
04:02
Well, apparently this is the way my work went as well,
79
242688
2698
งานวิจัยของฉันก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน
04:05
because, when you ask people about love, they tell you about heartbreak.
80
245410
4977
เพราะเวลาที่คุณถามใครๆเกี่ยวกับความรัก
เขาจะตอบคุณด้วยเรื่องอกหัก
04:10
When you ask people about belonging,
81
250411
2634
เวลาคุณถามเรื่องความผูกพัน
เขาจะเล่าถึงประสบการณ์ที่ปวดร้าวที่สุด
04:13
they'll tell you their most excruciating experiences of being excluded.
82
253069
3952
ของการถูกแบ่งแยก
04:17
And when you ask people about connection,
83
257045
2501
และเวลาที่คุณถามเรื่องความสัมพันธ์
04:19
the stories they told me were about disconnection.
84
259570
2538
เรื่องที่เขาเล่ากลับเป็นเรื่องการตัดขาด
แค่เพียงไม่นาน ประมาณ6สัปดาห์หลังจากเริ่มงานวิจัย
04:23
So very quickly -- really about six weeks into this research --
85
263118
3025
ที่ฉันได้พบกับสิ่งไร้นิยามสิ่งนี้
04:26
I ran into this unnamed thing that absolutely unraveled connection
86
266167
6022
ซึ่งช่วยเผยความลับของความสัมพันธ์
ในแบบที่ฉันไม่เข้าใจและไม่เคยเห็นมาก่อน
04:32
in a way that I didn't understand or had never seen.
87
272213
2460
ฉันเลยถอยออกมาจากงานวิจัย
04:35
And so I pulled back out of the research
88
275109
1977
เพราะคิดว่าจะต้องหาคำตอบให้ได้ก่อนว่าสิ่งนี้คืออะไร
04:37
and thought, I need to figure out what this is.
89
277110
2230
04:39
And it turned out to be shame.
90
279364
2179
ปรากฏว่าสิ่งนี้คือความละอาย
ความละอายจริงๆแล้วเข้าใจได้ง่ายๆว่า
04:43
And shame is really easily understood as the fear of disconnection:
91
283212
3278
เป็นความกลัวการถูกตัดขาด
มีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับฉันหรือเปล่า
04:47
Is there something about me that, if other people know it or see it,
92
287213
4556
ที่ถ้าคนอื่นได้รู้หรือได้เห็น
04:51
that I won't be worthy of connection?
93
291793
3166
แล้วฉันจะไม่มีค่าพอสำหรับความสัมพันธ์อีกต่อไป
ความรู้สึกแบบนี้ ฉันบอกคุณได้เลยค่ะ
04:55
The things I can tell you about it:
94
295593
1682
ว่ามันเป็นเรื่องปกติมาก เรามีกันทุกคน
04:57
It's universal; we all have it.
95
297299
1667
04:58
The only people who don't experience shame
96
298990
2000
คนที่ไม่รู้จักความละอาย
จะไม่สามารถรู้สึกเห็นใจเพื่อนมนุษย์หรือว่าเข้าใจความสัมพันธ์ได้
05:01
have no capacity for human empathy or connection.
97
301014
2334
ไม่มีใครอยากจะพูดถึงเรื่องนี้
05:03
No one wants to talk about it,
98
303372
1594
05:04
and the less you talk about it, the more you have it.
99
304990
2571
และยิ่งพูดถึงมันน้อยลงเท่าไหร่ คุณก็จะมีมันมากขึ้นเท่านั้น
05:09
What underpinned this shame, this "I'm not good enough," --
100
309005
5166
สิ่งที่เป็นพื้นฐานของความละอาย
หรือความคิดที่ว่า"ฉันไม่ดีพอ"
ซึ่งเราทุกคนรู้จักดี
05:14
which, we all know that feeling:
101
314195
1604
05:15
"I'm not blank enough. I'm not thin enough,
102
315823
2049
"ฉันไม่อะไรพอ ฉันไม่ผอมพอ
05:17
rich enough, beautiful enough, smart enough, promoted enough."
103
317896
3254
ไม่รวยพอ ไม่สวยพอ ไม่ฉลาดพอ
ไม่สำคัญพอ"
05:21
The thing that underpinned this was excruciating vulnerability.
104
321174
4976
สิ่งที่เป็นต้นเหตุสำคัญ
คือความรู้สึกเปราะบางอย่างรุนแรง
05:26
This idea of, in order for connection to happen,
105
326862
4104
ความคิดที่ว่า
เพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์
05:30
we have to allow ourselves to be seen, really seen.
106
330990
3746
เราต้องยอมให้คนอื่นเห็นตัวตนของเรา
ตัวตนที่แท้จริง
คุณก็รู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไรกับความเปราะบางทางใจ ฉันเกลียดความเปราะบาง
05:36
And you know how I feel about vulnerability. I hate vulnerability.
107
336061
3198
ฉันก็เลยคิดว่า นี่เป็นโอกาส
05:39
And so I thought, this is my chance to beat it back with my measuring stick.
108
339283
4498
ที่ฉันจะใช้ไม้บรรทัดไล่ตีมันให้กระเจิง
05:43
I'm going in, I'm going to figure this stuff out,
109
343805
2691
เป็นไงเป็นกัน ฉันจะต้องเข้าใจมันให้ได้
05:46
I'm going to spend a year, I'm going to totally deconstruct shame,
110
346520
3310
ฉันจะใช้เวลาหนึ่งปี เพื่อวิเคราะห์ชำแหละความละอาย
05:49
I'm going to understand how vulnerability works,
111
349854
2278
จะทำความเข้าใจว่า ความเปราะบางทางใจ ทำงานอย่างไร
และฉันจะเอาชนะมัน
05:52
and I'm going to outsmart it.
112
352156
1435
05:54
So I was ready, and I was really excited.
113
354640
2270
ค่ะ ตอนนั้นฉันรู้สึกพร้อม แล้วก็ตื่นเต้นมากๆ
แน่ล่ะ มันไม่จบลงด้วยดีหรอก
06:00
As you know, it's not going to turn out well.
114
360239
2143
(หัวเราะ)
06:02
(Laughter)
115
362406
2513
06:04
You know this.
116
364943
1594
ดูก็รู้แล้ว
06:06
So, I could tell you a lot about shame,
117
366561
1889
ถ้าให้ฉันพูดถึงเรื่องความละอาย
06:08
but I'd have to borrow everyone else's time.
118
368474
2097
ฉันคงพูดได้ยาวจนกินเวลาของผู้บรรยายคนอื่นๆ
06:10
But here's what I can tell you that it boils down to --
119
370595
2857
แต่นี่คือใจความสำคัญที่ฉันอยากจะบอกคุณ
06:13
and this may be one of the most important things that I've ever learned
120
373476
3382
สิ่งนี้อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ฉันได้เรียนรู้
06:16
in the decade of doing this research.
121
376882
1864
ตลอดทศวรรษที่ฉันทำวิจัยมา
เวลาหนึ่งปีของฉัน
06:20
My one year turned into six years:
122
380068
4192
กลายเป็นหกปี
เรื่องราวเป็นพันๆเรื่อง
06:24
Thousands of stories, hundreds of long interviews, focus groups.
123
384284
4682
การสัมภาษณ์ การประชุมกลุ่มย่อยเป็นร้อยๆ
06:28
At one point, people were sending me journal pages
124
388990
2381
ช่วงหนึ่ง บางคนถึงกับส่งบันทึกส่วนตัวมาให้
และส่งเรื่องราวของพวกเขาให้ฉัน
06:31
and sending me their stories --
125
391395
1837
06:33
thousands of pieces of data in six years.
126
393256
3992
ข้อมูลเป็นพันๆในเวลาหกปี
ทำให้ฉันเข้าใจระดับนึง
06:37
And I kind of got a handle on it.
127
397272
1694
06:38
I kind of understood, this is what shame is, this is how it works.
128
398990
3099
ฉันเหมือนจะเข้าใจว่านี่แหละคือความละอาย
นี่แหละคือวิธีที่มันทำงาน
ฉันเขียนหนังสือ
06:43
I wrote a book, I published a theory, but something was not okay --
129
403452
6247
ฉันตีพิมพ์ทฤษฎี
แต่ว่ามีบางอย่างที่มันไม่ใช่
06:49
and what it was is that, if I roughly took the people I interviewed
130
409723
4156
และสิ่งที่ว่านั่นคือ
ถ้าฉันนำคนที่ฉันสัมภาษณ์
06:53
and divided them into people who really have a sense of worthiness --
131
413903
6572
มาแบ่งคร่าวๆโดยใช้เกณฑ์ที่ว่า
ใครรู้สึกถึงคุณค่าของตัวเอง
นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ
07:00
that's what this comes down to, a sense of worthiness --
132
420499
2762
ความรู้สึกว่าตัวเองมีค่า
07:03
they have a strong sense of love and belonging --
133
423285
3222
พวกเขารู้สึกถึงความรักและความผูกพัน
07:06
and folks who struggle for it,
134
426531
1651
และอีกกลุ่มที่ต้องพยายามดิ้นรนหามัน
07:08
and folks who are always wondering if they're good enough.
135
428206
3100
คนที่มักจะสงสัยว่าตัวเองดีพอมั้ย
มันมีแค่ตัวแปรเดียว
07:11
There was only one variable that separated
136
431330
2239
ที่แยกคนที่มี
07:13
the people who have a strong sense of love and belonging
137
433593
2740
ความรู้สึกรักและผูกพัน
07:16
and the people who really struggle for it.
138
436357
2259
ออกจากคนที่ต้องต่อสู้เพื่อความรู้สึกเหล่านั้น
07:18
And that was, the people who have a strong sense of love and belonging
139
438640
3718
และตัวแปรนั้นคือ คนที่รู้สึกถึง
ความรักและความผูกพัน
07:22
believe they're worthy of love and belonging.
140
442382
2404
เชื่อว่าตัวเองมีค่าสำหรับความรักและความผูกพัน
07:25
That's it.
141
445704
1150
แค่นั้นเอง
07:27
They believe they're worthy.
142
447505
1488
พวกเขาเชื่อว่าเขามีค่าพอ
07:30
And to me, the hard part of the one thing that keeps us out of connection
143
450736
5818
และสำหรับฉัน ส่วนสำคัญที่สุด
ที่ทำให้เราขาดความสัมพันธ์
07:36
is our fear that we're not worthy of connection,
144
456578
3215
คือความกลัวว่าเราไม่มีค่าพอสำหรับความสัมพันธ์นั้นๆ
07:39
was something that, personally and professionally,
145
459817
2403
ทั้งในมุมมองส่วนตัวและทางวิชาการ
มันเป็นสิ่งที่ฉันต้องการเข้าใจมากขึ้น
07:42
I felt like I needed to understand better.
146
462244
2222
07:44
So what I did is I took all of the interviews
147
464807
4977
ฉันก็เลย
เอาบทสัมภาษณ์ทั้งหมดมา
07:49
where I saw worthiness, where I saw people living that way,
148
469808
2818
ตรงไหนที่ฉันเห็นความรู้สึกมีค่า ตรงไหนที่ฉันเห็นคนใช้ชีวิตอย่างนั้น
07:52
and just looked at those.
149
472650
1888
และดูเฉพาะตรงนั้น
07:55
What do these people have in common?
150
475314
2048
คนเหล่านี้มีอะไรเหมือนกัน
07:57
I have a slight office supply addiction, but that's another talk.
151
477386
4643
ฉันเป็นโรคบ้าเครื่องใช้สำนักงานอยู่นิดๆค่ะ
แต่ว่านั่นเป็นอีกการบรรยายได้อีกเรื่อง
08:02
So I had a manila folder, and I had a Sharpie,
152
482053
3477
ฉันมีแฟ้มกระดาษมะนิลา แล้วก็มีปากกาสี
08:05
and I was like, what am I going to call this research?
153
485554
2620
แล้วฉันก็แบบ จะเรียกงานวิจัยนี้ว่าอะไรดีนะ
แล้วคำแรกที่นึกออก
08:08
And the first words that came to my mind were "whole-hearted."
154
488198
2990
คือคำว่า เต็มใจ
08:11
These are whole-hearted people, living from this deep sense of worthiness.
155
491807
3516
คนพวกนี้เป็นคนเต็มใจ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความรู้สึกมีค่า
ฉันเลยเขียนที่หัวแฟ้มกระดาษมะนิลา
08:15
So I wrote at the top of the manila folder,
156
495347
2856
และเริ่มดูข้อมูล
08:18
and I started looking at the data.
157
498227
1929
จริงๆแล้ว ฉันดูข้อมูลก่อน
08:20
In fact, I did it first in a four-day, very intensive data analysis,
158
500180
5993
ใช้เวลาสี่วัน
กับการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเข้มข้น
08:26
where I went back, pulled the interviews, the stories, pulled the incidents.
159
506197
3577
ที่ฉันกลับไป หาข้อมูลสัมภาษณ์ หาเรื่องเล่า หาเหตุการณ์
08:29
What's the theme? What's the pattern?
160
509798
1779
อะไรคือใจความสำคัญ อะไรคือรูปแบบ
08:32
My husband left town with the kids
161
512370
2977
สามีของฉันออกจากเมืองไปกับลูกๆ
08:35
because I always go into this Jackson Pollock crazy thing,
162
515371
2977
เพราะฉันมักจะเข้าสู่สภาวะบ้าคลั่งแบบแจ็กสัน โพลล็อก
08:38
where I'm just writing and in my researcher mode.
163
518372
3745
เวลาที่ฉันเอาแต่เขียน
และอยู่ในอารมณ์นักวิจัย
08:43
And so here's what I found.
164
523625
1547
และนี่คือสิ่งที่ฉันค้นพบค่ะ
สิ่งที่คนเหล่านี้มีเหมือนกัน
08:48
What they had in common was a sense of courage.
165
528114
2852
คือความกล้า(courage)
08:51
And I want to separate courage and bravery for you for a minute.
166
531624
3097
ฉันอยากจะแยกความกล้า(courage)กับความองอาจ(bravery)ก่อน
08:54
Courage, the original definition of courage,
167
534745
2441
ความกล้า(courage)ในความหมายดั้งเดิม
เมื่อตอนที่คำนี้เข้ามาในภาษาอังกฤษตอนแรกๆ
08:57
when it first came into the English language --
168
537210
2239
มันมาจากภาษาละติน cor แปลว่า หัวใจ
08:59
it's from the Latin word "cor," meaning "heart" --
169
539473
2353
09:01
and the original definition was to tell the story of who you are
170
541850
3011
และความหมายดั้งเดิม
คือการเล่าเรื่องราวของตัวเราด้วยหัวใจทั้งดวง
09:04
with your whole heart.
171
544885
1414
คนเหล่านี้
09:07
And so these folks had, very simply, the courage to be imperfect.
172
547059
4174
สรุปง่ายๆว่า มีความกล้า
ที่จะบกพร่อง
09:13
They had the compassion to be kind to themselves first and then to others,
173
553632
4977
เขาเหล่านี้รู้จักรักตัวเองก่อน
แล้วจึงเอาใจใส่คนอื่น
09:18
because, as it turns out,
174
558633
1199
เพราะความจริงที่ว่า เราไม่สามารถรักคนอื่นได้
09:19
we can't practice compassion with other people
175
559856
2234
ถ้าเราไม่มีความเมตตาต่อตัวเองก่อน
09:22
if we can't treat ourselves kindly.
176
562114
1743
09:24
And the last was they had connection, and -- this was the hard part --
177
564259
4397
และสุดท้ายคือ พวกเขามีความสัมพันธ์
และนี่คือส่วนที่ยาก
09:28
as a result of authenticity,
178
568680
2977
เพราะความจริงใจ
09:31
they were willing to let go of who they thought they should be
179
571681
3285
พวกเขายอมทิ้งตัวตนที่เขาคิดว่าเขาควรจะเป็น
09:34
in order to be who they were, which you have to absolutely do that
180
574990
4604
เพื่อจะเป็นตัวเอง
ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำ
09:39
for connection.
181
579618
1173
ในการสร้างความสัมพันธ์
09:43
The other thing that they had in common was this:
182
583323
4000
อีกสิ่งหนึ่งที่พวกเขามีเหมือนกัน
คือสิ่งนี้
09:50
They fully embraced vulnerability.
183
590910
3080
พวกเขาเต็มใจยอมรับความเปราะบางทางใจ
09:55
They believed that what made them vulnerable made them beautiful.
184
595679
6651
พวกเขาเชื่อว่า
สิ่งที่ทำให้เขาเปราะบาง
ทำให้เขางดงาม
พวกเขาไม่ได้พูดถึงความเปราะบาง
10:06
They didn't talk about vulnerability being comfortable,
185
606141
3825
ว่าเป็นสิ่งที่ง่ายดาย
10:09
nor did they really talk about it being excruciating --
186
609990
2826
แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่ามันเจ็บปวด
10:12
as I had heard it earlier in the shame interviewing.
187
612840
2478
เหมือนจากในการสัมภาษณ์เรื่องความละอายก่อนหน้านี้
พวกเขาแค่บอกว่ามันจำเป็น
10:15
They just talked about it being necessary.
188
615342
2230
10:18
They talked about the willingness to say, "I love you" first ...
189
618633
3976
พวกเขาพูดถึงความสมัครใจ
ที่จะบอกว่า"ฉันรักคุณ"ก่อน
ความสมัครใจ
10:24
the willingness to do something where there are no guarantees ...
190
624378
5373
ที่จะทำอะไร
ที่ไม่มีการประกันผล
10:31
the willingness to breathe through waiting for the doctor to call
191
631283
4335
ความสมัครใจ
ที่จะรอโทรศัพท์จากคุณหมอ
10:35
after your mammogram.
192
635642
1283
หลังจากที่ไปตรวจมะเร็งเต้านม
10:38
They're willing to invest in a relationship
193
638631
3265
พวกเขาสมัครใจที่จะลงทุนในความสัมพันธ์
10:41
that may or may not work out.
194
641920
1450
ที่ไม่แน่ว่าจะงอกงาม
10:44
They thought this was fundamental.
195
644465
1870
พวกเขาคิดว่านี่เป็นเรื่องพื้นฐาน
10:47
I personally thought it was betrayal.
196
647442
2619
ส่วนตัวแล้ว ฉันคิดว่ามันเป็นการหักหลัง
10:50
I could not believe I had pledged allegiance to research, where our job --
197
650847
4596
ฉันไม่อยากเชื่อว่าฉันสาบานจะอุทิศตน
ให้กับการวิจัยไปแล้ว
10:55
you know, the definition of research is to control and predict,
198
655467
4064
เพราะคำนิยามของการวิจัย
คือการควบคุมและพยากรณ์ เพื่อศึกษาปรากฏการณ์
10:59
to study phenomena for the explicit reason to control and predict.
199
659555
4643
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อ
ควบคุมและพยากรณ์ต่อไป
11:04
And now my mission to control and predict
200
664222
4366
แล้วตอนนี้ภารกิจของฉัน
ที่จะควบคุมและพยากรณ์
11:08
had turned up the answer that the way to live is with vulnerability
201
668612
3569
ให้คำตอบมาว่า วิธีใช้ชีวิตคือการยอมรับความเปราะบางทางใจ
หยุดควบคุม หยุดพยากรณ์
11:12
and to stop controlling and predicting.
202
672205
2098
11:14
This led to a little breakdown --
203
674327
1777
สิ่งนี้นำไปสู่อาการประสาทเสียเล็กๆ
11:16
(Laughter)
204
676902
5064
(หัวเราะ)
11:21
-- which actually looked more like this.
205
681990
2976
ซึ่งที่จริงดูเหมือนอย่างนี้มากกว่า
11:24
(Laughter)
206
684990
1493
(หัวเราะ)
11:26
And it did.
207
686507
1977
มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
11:28
I call it a breakdown; my therapist calls it a spiritual awakening.
208
688508
3180
ฉันเรียกมันว่าอาการป่วยทางจิต นักจิตบำบัดของฉันเรียกมันว่าการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ
11:31
(Laughter)
209
691712
1234
11:32
A spiritual awakening sounds better than breakdown,
210
692970
2417
การตื่นรู้ทางจิตวิญญาณฟังดูดีกว่าอาการป่วยทางจิต
แต่ฉันยืนยันได้ค่ะ ว่ามันคืออาการป่วยทางจิต
11:35
but I assure you, it was a breakdown.
211
695411
1777
ฉันต้องเลิกดูข้อมูล แล้วก็หานักจิตบำบัด
11:37
And I had to put my data away and go find a therapist.
212
697212
2904
จะบอกอะไรให้ค่ะ คุณรู้ว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร
11:40
Let me tell you something: you know who you are
213
700140
2231
เมื่อโทรหาเพื่อนๆ แล้วบอกว่า "ฉันคิดว่าฉันต้องไปหานักจิตบำบัด
11:42
when you call your friends and say, "I think I need to see somebody.
214
702395
3240
มีใครแนะนำมั้ย"
11:45
Do you have any recommendations?"
215
705659
1806
11:47
Because about five of my friends were like,
216
707489
2049
เพราะว่าเพื่อนของฉันประมาณห้าคนบอกว่า
11:49
"Wooo, I wouldn't want to be your therapist."
217
709562
2144
"อู่ย ฉันไม่อยากเป็นนักจิตบำบัดของเธอหรอก"
11:51
(Laughter)
218
711730
2738
(หัวเราะ)
11:54
I was like, "What does that mean?"
219
714492
1977
ฉันว่า"หมายความว่ายังไง"
11:56
And they're like, "I'm just saying, you know.
220
716493
3207
แล้วพวกเขาก็บอกว่า"เปล่า ก็นะ
11:59
Don't bring your measuring stick."
221
719724
1977
อย่าพกไม้บรรทัดไปด้วยแล้วกัน"
12:01
(Laughter)
222
721725
2736
ฉันก็เลย"โอเค"
12:04
I was like, "Okay."
223
724485
1200
12:06
So I found a therapist.
224
726545
1834
หลังจากฉันก็หานักจิตบำบัดเจอ
12:08
My first meeting with her, Diana --
225
728403
1903
ตอนที่ฉันเจอเธอครั้งแรก ไดอะน่า
ฉันเอารายการ
12:12
I brought in my list of the way the whole-hearted live, and I sat down.
226
732109
4294
ของวิธีใช้ชีวิตของคนเต็มใจไปด้วย แล้วฉันก็นั่งลง
12:16
And she said, "How are you?"
227
736427
1809
เธอถามว่า"เป็นยังไงบ้างคะ"
12:18
And I said, "I'm great. I'm okay."
228
738260
3595
ฉันบอกว่า"สบายดีค่ะ โอเคค่ะ"
12:21
She said, "What's going on?"
229
741879
1524
เธอถาม"มีเรื่องอะไรเหรอคะ"
12:23
And this is a therapist who sees therapists,
230
743427
2619
เธอเป็นนักจิตบำบัดสำหรับนักจิตบำบัด
12:26
because we have to go to those, because their B.S. meters are good.
231
746070
5213
เพราะพวกเราก็ต้องไปหาผู้เชี่ยวชาญ
เพราะเขาจับความตอแหลได้เก่ง
12:31
(Laughter)
232
751307
1976
(หัวเราะ)
12:33
And so I said, "Here's the thing, I'm struggling."
233
753736
3833
ฉันเลยบอกว่า
"คืออย่างนี้ค่ะ ฉันมีปัญหาใหญ่"
12:37
And she said, "What's the struggle?"
234
757593
1810
เธอพูดว่า"ปัญหาอะไรคะ"
ฉันตอบว่า "คือ ปัญหากับความเปราะบางทางใจค่ะ
12:40
And I said, "Well, I have a vulnerability issue.
235
760442
2261
12:42
And I know that vulnerability is the core of shame and fear
236
762727
5355
และฉันรู้ว่าความเปราะบางทางใจ เป็นแก่นแท้
ของความละอายและความกลัว
และของการดิ้นรนเพื่อความมีค่า
12:48
and our struggle for worthiness,
237
768106
1597
12:49
but it appears that it's also the birthplace of joy, of creativity,
238
769727
5676
แต่ปรากฏว่ามันก็เป็นจุดกำเนิด
ของความสุข และความสร้างสรรค์
12:55
of belonging, of love.
239
775427
1976
ของความผูกพัน ของความรัก
12:57
And I think I have a problem, and I need some help."
240
777776
5436
และฉันคิดว่า ฉันมีปัญหา
และฉันต้องการความช่วยเหลือค่ะ"
และฉันบอกว่า "แต่ขออย่างนึง
13:03
And I said, "But here's the thing: no family stuff, no childhood shit."
241
783236
5167
ไม่เอาเรื่องครอบครัว
หรือเรื่องน้ำเน่าวัยเด็ก"
13:08
(Laughter)
242
788427
1976
(หัวเราะ)
13:10
"I just need some strategies."
243
790427
2976
"ฉันแค่ต้องการแผน"
13:13
(Laughter)
244
793427
3976
(หัวเราะ)
13:17
(Applause)
245
797427
3585
(ปรบมือ)
ขอบคุณค่ะ
13:21
Thank you.
246
801036
1562
13:24
So she goes like this.
247
804283
1477
เธอก็ทำท่านี้
13:27
(Laughter)
248
807427
2356
(หัวเราะ)
13:29
And then I said, "It's bad, right?"
249
809807
2596
ฉันเลยบอกว่า"แย่มาก ใช่มั้ยคะ"
13:32
And she said, "It's neither good nor bad."
250
812427
2976
เธอบอกว่า"ไม่ดีหรือไม่ร้ายหรอกค่ะ"
13:35
(Laughter)
251
815427
1833
(หัวเราะ)
13:37
"It just is what it is."
252
817284
1634
"มันก็เป็นอย่างที่มันเป็นค่ะ"
13:39
And I said, "Oh my God, this is going to suck."
253
819664
2739
ฉันเลยว่า"โอ้พระเจ้า ซวยแน่คราวนี้"
13:42
(Laughter)
254
822427
1952
(หัวเราะ)
13:45
And it did, and it didn't.
255
825593
2254
แล้วมันก็แย่ และก็ไม่แย่
13:47
And it took about a year.
256
827871
2063
ใช้เวลาประมาณหนึ่งปี
13:49
And you know how there are people
257
829958
2016
มีคนบางคน
13:51
that, when they realize that vulnerability and tenderness are important,
258
831998
4024
ที่เมื่อเข้าใจว่าความเปราะบางทางใจ และความอะเอียดอ่อนเป็นสิ่งสำคัญ
พวกเขายอมรับมันด้วยความเต็มใจ
13:56
that they surrender and walk into it.
259
836046
2031
หนึ่ง นั่นไม่ใช่ฉันค่ะ
13:59
A: that's not me,
260
839231
1960
และ สอง ฉันไม่สุงสิงกับคนแบบนั้น
14:01
and B: I don't even hang out with people like that.
261
841215
2397
14:03
(Laughter)
262
843636
2767
(หัวเราะ)
14:06
For me, it was a yearlong street fight.
263
846427
2087
สำหรับฉัน มันเป็นหนึ่งปีของการต่อสู้อย่างนักเลงข้างถนน
14:09
It was a slugfest.
264
849752
1174
ชกกันจนน่วม
14:11
Vulnerability pushed, I pushed back.
265
851339
1834
ความเปราะบางทางใจชกมา ฉันก็ชกตอบ
14:13
I lost the fight,
266
853593
3087
ฉันแพ้การต่อสู้นั้น
14:16
but probably won my life back.
267
856704
1699
แต่ก็ได้ชีวิตกลับคืนมา
14:18
And so then I went back into the research
268
858727
1976
แล้วฉันถึงได้กลับไปทำงานวิจัยอีก
14:20
and spent the next couple of years
269
860727
1676
และใช้เวลาปีสองสามปีถัดมา
14:22
really trying to understand what they, the whole-hearted,
270
862427
2976
พยายามที่ทำความเข้าใจจริงๆว่า พวกคนเต็มใจนั้น
14:25
what choices they were making, and what we are doing with vulnerability.
271
865427
5976
เขาตัดสินใจอย่างไร
แล้วเรากำลังทำอะไร
กับความเปราะบางทางใจ
14:31
Why do we struggle with it so much?
272
871427
2340
ทำไมการต่อสู้กับมันถึงได้ยากลำบากนัก
14:33
Am I alone in struggling with vulnerability?
273
873791
2161
มีฉันคนเดียวหรือเปล่าที่ต้องต่อสู้กับความเปราะบาง
ไม่
14:37
No.
274
877190
1213
14:38
So this is what I learned.
275
878427
1461
แล้วนี่ก็คือสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้
14:41
We numb vulnerability --
276
881959
1667
เราเมินเฉยต่อความเปราะบางทางใจ
14:44
when we're waiting for the call.
277
884680
1587
เวลาที่เรารอโทรศัพท์แจ้งผล
14:46
It was funny, I sent something out on Twitter and on Facebook
278
886291
2889
ตลกดีค่ะ ฉันโพสบนTwitterกับFacebook
ถามว่า"คุณนิยามคำว่า 'ความเปราะบางทางใจ' อย่างไร
14:49
that says, "How would you define vulnerability?
279
889204
2274
อะไรทำให้คุณรู้สึกเปราะบาง"
14:51
What makes you feel vulnerable?"
280
891502
1548
และภายในเวลาชั่วโมงครึ่ง มีคนตอบกลับมา150คำตอบ
14:53
And within an hour and a half, I had 150 responses.
281
893074
2724
14:55
Because I wanted to know what's out there.
282
895822
2973
เพราะฉันอยากรู้ว่า
คนเขาคิดอะไรกัน
การขอให้สามีช่วย
15:01
Having to ask my husband for help because I'm sick, and we're newly married;
283
901204
5023
เพราะฉันป่วย และเราเพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ
การชวนสามีให้มีเซ็กส์
15:06
initiating sex with my husband;
284
906251
2007
15:08
initiating sex with my wife;
285
908282
2714
การชวนภรรยาให้มีเซ็กส์
การถูกปฏิเสธ เมื่อขอเป็นแฟน
15:11
being turned down; asking someone out;
286
911020
2978
การรอโทรศัพท์จากโรงพยาบาล
15:14
waiting for the doctor to call back;
287
914022
2039
การโดนไล่ออก การไล่คนออก
15:16
getting laid off; laying off people.
288
916085
2342
15:18
This is the world we live in.
289
918451
1404
นี่คือโลกที่เราอาศัยอยู่ค่ะ
15:20
We live in a vulnerable world.
290
920962
2968
เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความเปราะบาง(ทางใจ)
15:23
And one of the ways we deal with it is we numb vulnerability.
291
923954
2936
และวิธีหนึ่งที่เราใช้จัดการกับมัน
คือเมินเฉยต่อความเปราะบางฯ
15:27
And I think there's evidence --
292
927688
1715
และฉันคิดว่ามีหลักฐานค่ะ
15:29
and it's not the only reason this evidence exists,
293
929427
2381
แม้ว่ามันจะไม่ใช่เหตุผลเดียว
15:31
but I think it's a huge cause --
294
931832
2109
แต่ฉันเชื่อว่ามันเป็นสาเหตุหลัก
15:33
We are the most in-debt ...
295
933965
2889
ที่พวกเราเป็นหนี้
น้ำหนักเกิน
15:38
obese ...
296
938538
1222
15:40
addicted and medicated adult cohort in U.S. history.
297
940910
4159
เสพสารและใช้ยา
มากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
15:48
The problem is -- and I learned this from the research --
298
948315
3270
ฉันได้เรียนรู้จากงานวิจัยว่าปัญหาคือ
15:51
that you cannot selectively numb emotion.
299
951609
3143
คุณไม่สามารถเลือกเมินเฉยต่ออารมณ์เป็นอย่างๆได้
15:55
You can't say, here's the bad stuff.
300
955291
2333
คุณไม่สามารถบอกว่า นี่เป็นสิ่งไม่ดี
15:58
Here's vulnerability, here's grief, here's shame,
301
958427
2376
นี่คือความเปราะบางทางใจ นี่คือความเศร้า นี่คือความละอาย
16:00
here's fear, here's disappointment.
302
960827
1676
นี่คือความกลัว นี่คือความผิดหวัง
16:02
I don't want to feel these.
303
962527
1876
ฉันไม่อยากรู้สึกสิ่งพวกนี้
16:04
I'm going to have a couple of beers and a banana nut muffin.
304
964427
2882
ฉันจะกินเบียร์สักสองสามแก้วกับมัฟฟินกล้วยหอมกับถั่ว
16:07
(Laughter)
305
967333
2686
(หัวเราะ)
ฉันไม่อยากรู้สึกถึงสิ่งเหล่านี้
16:10
I don't want to feel these.
306
970043
1869
16:11
And I know that's knowing laughter.
307
971936
1976
ฉันรู้นะคะว่านั่นเป็นเสียงหัวเราะอย่างเข้าใจ
16:13
I hack into your lives for a living.
308
973936
2467
ฉันเลี้ยงชีพด้วยการวิเคราะห์ชีวิตพวกคุณ
16:16
God.
309
976427
1976
พระเจ้า
16:18
(Laughter)
310
978427
2547
(หัวเราะ)
16:20
You can't numb those hard feelings
311
980998
2758
คุณไม่สามารถเมินเฉยต่อความรู้สึกแย่ๆเหล่านั้นได้
16:23
without numbing the other affects, our emotions.
312
983780
2634
โดยไม่เฉยชาต่ออารมณ์อื่นๆของเราไปด้วย
คุณไม่สามารถเลือกเฉยชาเป็นอย่างๆได้
16:26
You cannot selectively numb.
313
986438
1452
16:27
So when we numb those,
314
987914
2607
ดังนั้น เวลาที่เราเฉยชาต่อสิ่งเหล่านั้น
16:30
we numb joy,
315
990545
2523
เราเฉยชาต่อความปิติ
เราเฉยชาต่อความตื้นตันใจ
16:33
we numb gratitude,
316
993092
1311
16:34
we numb happiness.
317
994427
1300
เราเฉยชาต่อความสุข
แล้วเราก็เลยทุกข์
16:37
And then, we are miserable,
318
997148
3123
เมื่อเรามองหาจุดมุ่งหมายและความหมายของชีวิต
16:40
and we are looking for purpose and meaning,
319
1000295
2009
เราจึงรู้สึกเปราะบาง
16:42
and then we feel vulnerable,
320
1002328
1432
16:43
so then we have a couple of beers and a banana nut muffin.
321
1003784
2808
แล้วเราก็ดื่มเบียร์ กินมัฟฟินกล้วยกับถั่ว
16:46
And it becomes this dangerous cycle.
322
1006616
3366
แล้วมันก็กลายเป็นวัฏจักรอันตราย
16:51
One of the things that I think we need to think about
323
1011087
3133
สิ่งหนึ่งที่เราต้องคิดถึง
16:54
is why and how we numb.
324
1014244
1976
คือเราเฉยชาทำไมและอย่างไร
16:56
And it doesn't just have to be addiction.
325
1016928
2080
และมันไม่จำเป็นต้องเป็นการเสพติด
อีกอย่างหนึ่งที่เราทำ
17:00
The other thing we do is we make everything that's uncertain certain.
326
1020477
3373
คือเราทำให้สิ่งที่ไม่แน่นอน เป็นสิ่งแน่นอน
17:05
Religion has gone from a belief in faith and mystery to certainty.
327
1025427
5086
ศาสนาเปลี่ยนจากความเชื่อเกี่ยวกับความศรัทธาและความลึกลับ
เป็นความแน่นอน
17:10
"I'm right, you're wrong. Shut up."
328
1030537
1682
ฉันถูก คุณผิด หุบปาก
แค่นั้น
17:14
That's it.
329
1034187
1216
แค่ความแน่นอน
17:16
Just certain.
330
1036611
1270
ยิ่งกลัวมาก เรายิ่งรู้สึกเปราะบางมาก
17:18
The more afraid we are, the more vulnerable we are,
331
1038340
2416
แล้วเราก็จะยิ่งกลัวมากขึ้น
17:20
the more afraid we are.
332
1040780
1385
การเมืองทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนั้น
17:22
This is what politics looks like today.
333
1042189
2007
ไม่มีการอภิปราย
17:24
There's no discourse anymore.
334
1044220
1675
17:25
There's no conversation.
335
1045919
1484
ไม่มีการคุยกัน
17:27
There's just blame.
336
1047807
1224
มีแต่การกล่าวโทษ
17:29
You know how blame is described in the research?
337
1049055
2317
คุณรู้ไหมคะว่าการกล่าวโทษถูกอธิบายว่าอย่างไรในงานวิจัย
17:32
A way to discharge pain and discomfort.
338
1052553
2499
วิธีปลดปล่อยความเจ็บปวดและความลำบาก
เราอยากให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
17:37
We perfect.
339
1057616
1190
17:38
If there's anyone who wants their life to look like this, it would be me,
340
1058830
3778
ตัวอย่างคนที่อยากมีชีวิตแบบนี้ ก็คือฉันเนี่ยแหละ
แต่มันเป็นไปไม่ได้ค่ะ
17:42
but it doesn't work.
341
1062632
1227
17:43
Because what we do is we take fat from our butts and put it in our cheeks.
342
1063883
3620
เพราะสิ่งที่เราทำคือ เราตัดเอาไขมันจากก้น
ไปแปะไว้ที่แก้ม
17:47
(Laughter)
343
1067527
3439
(หัวเราะ)
17:50
Which just, I hope in 100 years, people will look back and go, "Wow."
344
1070990
3413
ฉันหวังว่าอีกร้อยปีในอนาคต
คนจะหันกลับมามองแล้วคิดว่า"โห"
17:54
(Laughter)
345
1074427
2523
(หัวเราะ)
17:56
And we perfect, most dangerously, our children.
346
1076974
3429
และเราสร้างความสมบูรณ์แบบ อย่างอันตรายที่สุด
กับเด็กๆ
18:00
Let me tell you what we think about children.
347
1080427
2143
ฉันจะบอกให้ค่ะ ว่าเราคิดถึงเด็กๆยังไง
18:02
They're hardwired for struggle when they get here.
348
1082594
2809
พวกเขาถูกสร้างให้พร้อมที่จะดิ้นรนตั้งแต่เกิด
18:05
And when you hold those perfect little babies in your hand,
349
1085427
2882
และเมื่อเราอุ้มลูกที่ดูสมบูรณ์แบบไว้ในอ้อมแขน
18:08
our job is not to say, "Look at her, she's perfect.
350
1088333
2958
หน้าที่ของเราไม่ใช่การพูดว่า "ดูสิ เธอช่างสมบูรณ์แบบ
หน้าที่ของฉันคือต้องรักษาความสมบูรณ์แบบเอาไว้
18:11
My job is just to keep her perfect --
351
1091315
1896
ต้องให้เธอเข้าทีมเทนนิสได้ภายในป.5 แล้วก็เข้าม.Yaleได้ภายในม.1"
18:13
make sure she makes the tennis team by fifth grade and Yale by seventh."
352
1093235
3407
นั่นไม่ใช่งานของเราค่ะ
18:16
That's not our job.
353
1096666
1237
18:17
Our job is to look and say,
354
1097927
1609
หน้าที่ของเราคือมองดูแล้วก็พูดว่า
18:19
"You know what? You're imperfect, and you're wired for struggle,
355
1099560
3016
"รู้มั้ย เธอไม่ได้สมบูรณ์แบบ และเธอถูกสร้างมาเพื่อสู้
18:22
but you are worthy of love and belonging."
356
1102600
2000
แต่ว่าเธอมีค่าพอสำหรับความรัก และความผูกพัน"
นั่นคืองานของเรา
18:25
That's our job.
357
1105501
1187
ถ้าเรามีเด็กๆทั้งรุ่นที่ถูกเลี้ยงแบบนั้น
18:27
Show me a generation of kids raised like that,
358
1107104
2230
เราจะกำจัดปัญหาที่เราเผชิญอยู่ทุกวันนี้ได้หมด
18:29
and we'll end the problems, I think, that we see today.
359
1109358
2601
18:31
We pretend that what we do doesn't have an effect on people.
360
1111983
5452
เราแสร้งคิดว่าสิ่งที่เราทำ
ไม่ได้ส่งผลต่อคนอื่น
18:38
We do that in our personal lives.
361
1118871
1634
เราทำอย่างนั้นในชีวิตส่วนตัว
18:40
We do that corporate --
362
1120529
1223
เราทำอย่างนั้นในธุรกิจ
18:41
whether it's a bailout, an oil spill ...
363
1121776
2110
ไม่ว่าจะเป็นการอุดหนุนธุรกิจล้มละลาย หรือกรณีน้ำมันรั่ว
การเรียกคืนสินค้า
18:45
a recall.
364
1125386
1160
18:46
We pretend like what we're doing
365
1126570
1977
เราแสร้งทำเป็นว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่
18:48
doesn't have a huge impact on other people.
366
1128571
2086
ไม่ได้มีผลกระทบใหญ่หลวงต่อคนอื่น
18:51
I would say to companies, this is not our first rodeo, people.
367
1131427
3274
อยากจะบอกพวกบริษัทใหญ่ว่า เราไม่ใช่เด็กอมมือแล้ว เรารู้
18:55
We just need you to be authentic and real and say ...
368
1135769
2667
เราแค่อยากให้คุณจริงใจ
แล้วบอกว่า"เราขอโทษ
18:59
"We're sorry. We'll fix it."
369
1139919
2144
เราจะแก้ไขมัน"
19:05
But there's another way, and I'll leave you with this.
370
1145535
2772
แต่ว่ามันมีอีกวิธีหนึ่ง สิ่งสุดท้ายที่ฉันอยากจะฝากไว้
ฉันค้นพบว่า
19:08
This is what I have found:
371
1148331
1381
19:09
To let ourselves be seen, deeply seen, vulnerably seen ...
372
1149736
4523
การเปิดเผยตัวตนของเรา
ให้ถูกมองเห็นอย่างลึกซึ้ง
ยอมเปราะบางให้ได้มองเห็น
19:16
to love with our whole hearts, even though there's no guarantee --
373
1156891
4389
การรักทั้งสุดจิตสุดใจ
ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรมารับประกัน
มันยากมาก
19:21
and that's really hard,
374
1161304
1254
19:22
and I can tell you as a parent, that's excruciatingly difficult --
375
1162582
3341
ฉันบอกคุณได้เลยในฐานะพ่อแม่ ว่ามันยากเจ็บปวดและมากๆ
ในการรู้สึกถึงความตื้นตันและความปิติ
19:28
to practice gratitude and joy in those moments of terror,
376
1168495
4182
ในเวลาที่น่าหวาดกลัว
19:32
when we're wondering, "Can I love you this much?
377
1172701
2313
ที่เราสงสัยว่า"ฉันรักเธอได้มากขนาดนี้จริงเหรอ
ฉันเชื่อในสิ่งนี้ทั้งใจจริงๆรึเปล่า
19:35
Can I believe in this this passionately?
378
1175038
2186
ฉันดุได้ขนาดนี้เลยเหรอ"
19:37
Can I be this fierce about this?"
379
1177248
1930
19:39
just to be able to stop and, instead of catastrophizing what might happen,
380
1179202
3577
ในการหยุดยั้งตัวเอง แทนการกังวลว่าอะไรจะเกิดขึ้น
แล้วพูดว่า "ฉันน่ะโชคดีมาก
19:42
to say, "I'm just so grateful,
381
1182803
1977
19:44
because to feel this vulnerable means I'm alive."
382
1184804
2400
เพราะการที่ฉันรู้สึกเปราะบาง แปลว่าฉันยังมีชีวิต"
19:48
And the last, which I think is probably the most important,
383
1188748
3662
และสุดท้าย ที่อาจจะสำคัญที่สุด
คือการเชื่อว่าเราเพียงพอ
19:52
is to believe that we're enough.
384
1192434
1650
19:54
Because when we work from a place, I believe, that says, "I'm enough" ...
385
1194664
3849
เพราะเมื่อเราเริ่มต้นจาก
ความเชื่อที่ว่า"เราเพียงพอแล้ว"
20:00
then we stop screaming and start listening,
386
1200743
3968
เราจะหยุดร้องตะโกน และเริ่มรับฟัง
20:04
we're kinder and gentler to the people around us,
387
1204735
2327
เราจะอ่อนโยนและมีเมตตาต่อคนรอบข้างมากขึ้น
และเราก็จะอ่อนโยนและมีเมตตาต่อตัวเองด้วย
20:07
and we're kinder and gentler to ourselves.
388
1207086
2149
นั่นคือทั้งหมดที่ฉันมี ขอบคุณค่ะ
20:10
That's all I have. Thank you.
389
1210125
1478
20:11
(Applause)
390
1211627
2593
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7