Mitchell Joachim: Don't build your home, grow it!

Translator: Chirayu Wongchokprasitti Reviewer: Teerachart Prasert

Why grow homes? Because we can.

ทำไมถึงปลูกบ้าน? เพราะเราทำได้ไง

Right now, America is in an unremitting state of trauma.

ตอนนี้ สภาพของอเมริกาบอบช้ำชนิดกู่ไม่กลับ

And there's a cause for that, all right.

และก็มีต้นเหตุของเรื่องนี้อยู่แน่นอนครับ

We've got McPeople, McCars, McHouses.

เรามีแต่ คนร่างเทอะทะ รถเทอะทะ บ้านเทอะทะ

As an architect, I have to confront something like this.

ในฐานะสถาปนิกคนหนึ่ง ผมต้องต่อกรกับเรื่องพวกนี้ครับ

So what's a technology that will allow us

แล้วเทคโนโลยีอะไรที่ช่วยให้เรา

to make ginormous houses?

สร้างบ้านหลังมโหฬารได้ล่ะ?

Well, it's been around for 2,500 years.

เจ้าสิ่งที่ว่านี้ มีมาอยู่ 2,500 ปีแล้วครับ

It's called pleaching, or grafting trees together,

เรียกว่า การดัดแต่งต้นไม้ หรือต่อต้นไม้เข้าด้วยกัน

or grafting inosculate matter into one contiguous, vascular system.

หรือเชื่อมตาต้นไม้เข้าเป็นระบบหล่อเลี้ยงเดียวกัน

And we do something different

เราลองทำอะไรที่แตกแต่ง

than what we did in the past;

ไปจากในอดีตดู

we add kind of a modicum of intelligence to that.

โดยใช้วิทยาการเล็กๆน้อยๆเข้าช่วย

We use CNC to make scaffolding

เราใช้ เครื่องออกแบบซีเอ็นซี สร้างนั่งร้าน

to train semi-epithetic matter, plants,

เพื่อฝึกวัสดุกึ่งเนื้อเยื่อหุ้ม นั่นคือพืช

into a specific geometry

ให้โตขึ้นเป็นรูปทรงตามต้องการ

that makes a home that we call a Fab Tree Hab.

จนกลายเป็นบ้านที่เราเรียกว่า แฟ็บ ทรี แฮ็บ (Fab Tree Hab)

It fits into the environment. It is the environment.

มันเข้ากันได้กับสิ่งแวดล้อม มันเป็นสิ่งแวดล้อม

It is the landscape, right?

เป็นภูมิทัศน์ในตัวมันเองเลย

And you can have a hundred million of these homes,

แล้วคุณจะสร้างบ้านพวกนี้เป็น 100 ล้านหลังก็ยังได้

and it's great because they suck carbon.

ซึ่งยอดเยี่ยมมาก เพราะมันดูดซึมคาร์บอนด้วย

They're perfect.

สมบูรณ์แบบจริงๆ

You can have 100 million families, or take things out of the suburbs,

จะใช้เป็นที่อยู่ของคน 100 ล้านครอบครัว หรือทำให้เขตชานเมืองว่างลงก็ได้

because these are homes that are a part of the environment.

เพราะบ้านพวกนี้ เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมเองเลย

Imagine pre-growing a village --

ลองจินตนาการ หมู่บ้านในระยะเริ่มปลูก --

it takes about seven to 10 years --

ใช้เวลาโตประมาณ 7 ถึง 10 ปี

and everything is green.

แล้วทุกอย่างก็เป็นสีเขียว

So not only do we do the veggie house,

เราไม่เพียงแต่สร้างบ้านจากพืชเท่านั้น

we also do the in-vitro meat habitat,

แต่ยังทำที่พักอาศัยจากเนื้อเยื่อเพาะด้วย

or homes that we're doing research on now in Brooklyn,

หรือบ้าน แบบที่เรากำลังวิจัยกันอยู่ที่บรูคลิน

where, as an architecture office, we're for the first of its kind

ที่ซึ่ง เป็นหน่วยงานด้านสถาปัตยกรรมแห่งแรกสุด

to put in a molecular cell biology lab

ที่มีห้องทดลองชีววิทยาโมเลกุลเซลล์

and start experimenting with regenerative medicine

และเริ่มทดลอง ด้านการแพทย์เนื้อเยื่อทดแทน

and tissue engineering

และวิศวกรรมเนื้อเยื่อ

and start thinking about what the future would be

และเริ่มคิดว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

if architecture and biology became one.

ถ้าสถาปัตยกรรม และชีววิทยา รวมเป็นหนึ่งเดียว

So we've been doing this for a couple of years, and that's our lab.

เราทำสิ่งนี้มา 2-3 ปีแล้ว นั่นเป็นภาพห้องทดลองของเราครับ

And what we do is we grow

สิ่งที่เราทำ ก็คือ

extracellular matrix from pigs.

เพาะเนื้อเยื่อนอกเซลล์ของหมูขึ้น

We use a modified inkjet printer,

เราดัดแปลงเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท

and we print geometry.

แล้วพิมพ์รูปทรงเรขาคณิต

We print geometry where we can make industrial design objects

เราพิมพ์รูปทรงแบบที่ ใช้ทำงานออกแบบเชิงอุตสาหกรรมได้

like, you know, shoes, leather belts,

อย่างเช่น รองเท้า เข็มขัดหนัง

handbags, etc.,

กระเป๋าถือ เป็นต้น

where no sentient creature is harmed.

โดยที่ไม่ต้องฆ่าฟันสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก

It's victimless. It's meat from a test tube.

ไม่ต้องฆ่าสัตว์ เพราะใช้เนื้อจากหลอดแก้วทดลอง

So our theory is that eventually

เราเลยคิดว่า ในที่สุด

we should be doing this with homes.

เราจะทำอะไรแบบนี้กับบ้านได้ด้วย

So here is a typical stud wall,

นี่เป็นโครงผนังทั่วไป ซึ่งเป็น

an architectural construction,

โครงสร้างสถาปัตยกรรมอย่างหนึ่ง

and this is a section

ส่วนนี่คือ ภาพส่วนหนึ่ง

of our proposal for a meat house,

ของแบบแปลนสร้างบ้านจากเนื้อของเรา

where you can see we use fatty cells as insulation,

คุณจะเห็นว่า เราใช้เซลล์ไขมัน เป็นผนังกันความร้อน

cilia for dealing with wind loads

เซลล์ซีเลีย สำหรับรับมือแรงลม

and sphincter muscles for the doors and windows.

และใช้กล้ามเนื้อหูรูด เป็นประตูและหน้าต่าง

(Laughter)

(หัวเราะ)

And we know it's incredibly ugly.

เรารู้ครับว่า มันน่าเกลียดเอามากๆเลย

It could have been an English Tudor or Spanish Colonial,

จะให้มันเป็น ทรงทิวดอร์แบบอังกฤษ หรือโคโลเนี่ยลแบบสเปนก็ได้

but we kind of chose this shape.

แต่เรากลับเลือกทรงนี้แทน

And there it is kind of grown, at least one particular section of it.

อันนี้เป็นแบบที่เพาะขึ้นแล้ว อย่างน้อยก็ส่วนหนึ่งของมันนะครับ

We had a big show in Prague,

เราเคยมีงานแสดงใหญ่โตที่กรุงปราก

and we decided to put it in front of the cathedral

เราตัดสินใจเอามันวางตรงหน้าโบสถ์วิหารเสีย

so religion can confront the house of meat.

เพื่อให้ศาสนาได้เผชิญหน้ากับวิหารแห่งเนื้อ

That's why we grow homes. Thanks very much.

นั่นแหละคือเหตุผลที่เราปลูกบ้าน ขอบคุณมากครับ

(Applause)

(ปรบมือ)