The linguistic genius of babies | Patricia Kuhl

871,108 views ・ 2011-02-18

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Phatra Sae-ting Reviewer: Worawach Tungjitcharoen
ดิฉันอยากให้พวกคุณลองมองเด็กคนนี้
00:16
I want you to take a look at this baby.
0
16284
2683
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจ คือดวงตาของเธอ
00:19
What you're drawn to are her eyes and the skin you love to touch.
1
19439
4796
และผิวพรรณที่คุณอยากสัมผัส
00:24
But today I'm going to talk to you about something you can't see.
2
24646
3140
แต่วันนี้ ดิฉันจะพูดถึงสิ่งที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
00:27
What's going on up in that little brain of hers.
3
27810
2752
นั่นคือสิ่งที่เกิดอะไรขึ้นในสมองน้อยๆของเธอ
00:31
The modern tools of neuroscience are demonstrating to us
4
31395
3921
เครื่องมือสมัยใหม่ทางประสาทวิทยาศาสตร์
จะแสดงให้พวกเราเห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นบนนั้น
00:35
that what's going on up there is nothing short of rocket science.
5
35340
3895
เป็นเรื่องที่เรายังจัดว่าค่อนข้างลี้ลับ
00:39
And what we're learning is going to shed some light
6
39996
3437
และสิ่งที่พวกเราศึกษาอยู่
กำลังจะเปิดเผยให้พวกเราเห็น
00:43
on what the romantic writers and poets described as the "celestial openness"
7
43457
5898
ในประเด็นที่นักประพันธ์บทกลอนโรแมนติก
ใช้คำบรรยายว่า "การเปิดรับจากสรวงสวรรค์"
00:49
of the child's mind.
8
49379
1857
ของสมองเด็กทารก
ที่เราเห็นในภาพนี้
00:52
What we see here is a mother in India,
9
52273
3458
เธอเป็นแม่คนหนึ่งในประเทศอินเดีย
00:55
and she's speaking Koro, which is a newly discovered language.
10
55755
3904
เธอพูดภาษาโคโร่
ซึ่งเป็นภาษาที่เพิ่งค้นพบไม่นาน
เธอใช้ภาษานี้กับทายาทของเธอ
01:00
And she's talking to her baby.
11
60057
1807
คุณแม่คนนี้
01:02
What this mother --
12
62349
1156
01:03
and the 800 people who speak Koro in the world --
13
63529
3219
และผู้คนอีกกว่า 800 ชีวิตทั่วโลกที่ใช้ภาษานี้
01:06
understands is that, to preserve this language,
14
66772
3210
ต่างเข้าใจในแนวทางเดียวกันว่า การที่จะอนุรักษ์ภาษานี้ไว้
พวกเขาจำเป็นต้องใช้ภาษาดังกล่าวพูดกับเด็กทารก
01:10
they need to speak it to the babies.
15
70006
2586
01:12
And therein lies a critical puzzle.
16
72616
2875
ทีนี้ ปัญหาที่น่าฉงนใจก็เกิดขึ้น
01:15
Why is it that you can't preserve a language
17
75515
2250
นั่นก็คือ "ทำไมคนเราถึงอนุรักษ์ภาษา
01:17
by speaking to you and I, to the adults?
18
77789
3235
ด้วยการสื่อสารกับพวกเรากันเอง หรือผู้ใหญ่ไม่ได้?"
เอาล่ะค่ะ นั่นเป็นเพราะการทำงานของสมองคุณ
01:21
Well, it's got to do with your brain.
19
81048
2188
01:23
What we see here is that language has a critical period for learning.
20
83798
4438
ที่เราเห็นนี้
คือ "ภาษา" มีช่วงเวลาเรียนรู้ที่จำกัด
01:28
The way to read this slide is to look at your age on the horizontal axis.
21
88260
3800
สำหรับสไลด์นี้ แนวนอนหมายถึงอายุของพวกคุณ
(เสียงหัวเราะ)
01:32
(Laughter)
22
92084
2683
01:34
And you'll see on the vertical your skill at acquiring a second language.
23
94791
3639
และในแนวตั้ง คุุณจะเห็นถึง
ความสามารถในการเรียนรู้ภาษาที่สองของคุณ
ทารกและเด็กถือเป็นอัจฉริยะ
01:39
The babies and children are geniuses until they turn seven,
24
99049
3859
จนถึงอายุเจ็ดขวบ
01:42
and then there's a systematic decline.
25
102932
2304
แล้วจะค่อยๆลดลงตามลำดับ
01:45
After puberty, we fall off the map.
26
105260
2497
จะเห็นได้ว่าวัยรุ่นได้หลุดออกจากกรอบนี้ไปแล้ว
ไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนแย้งในจุดนี้
01:48
No scientists dispute this curve,
27
108194
2532
01:50
but laboratories all over the world
28
110750
1955
ห้องทดลองทั่วทุกมุมโลก
01:52
are trying to figure out why it works this way.
29
112729
2507
ต่างพยายามหาเหตุผลให้ได้ว่า ทำไมมันถึงเป็นเช่นนี้
01:55
Work in my lab is focused on the first critical period in development,
30
115778
4034
สำหรับในห้องทดลองดิฉัน
จะมุ่งเน้นในระยะพัฒนาการแรกๆของช่วงวิกฤต
01:59
and that is the period in which babies
31
119836
1845
ซึ่งเป็นช่วงที่
02:01
try to master which sounds are used in their language.
32
121705
3365
ทารกพยายามแยกแยะว่าเสียงไหนใช้ในภาษาแม่ของพวกเขา
เราเชื่อว่า ด้วยการศึกษาวิธีที่ทารกเหล่านี้ใช้เรียนรู้เรื่องเสียง
02:05
We think, by studying how the sounds are learned,
33
125094
2490
02:07
we'll have a model for the rest of language,
34
127608
2265
จะทำให้เรามีต้นแบบของส่วนที่เหลือของภาษา
02:09
and perhaps for critical periods that may exist in childhood
35
129897
2938
และอาจได้ข้อมูลเกี่ยวกับช่วงเวลาเรียนรู้จำกัดที่อาจมีอยู่ในวัยเด็ก
02:12
for social, emotional and cognitive development.
36
132859
2863
สำหรับการพัฒนาการทางด้านสังคม ด้านอารมณ์
และด้านการคิด
02:16
So we've been studying the babies
37
136295
1941
พวกเราจึงได้ศึกษาในตัวทารก
02:18
using a technique that we're using all over the world
38
138260
2503
โดยใช้เทคนิคที่พวกเราใช้กันทั่วโลก
02:20
and the sounds of all languages.
39
140787
1856
และเสียงในทุกๆภาษา
02:22
The baby sits on a parent's lap,
40
142667
1791
เด็กๆจะนั่งบนตักพ่อแม่
02:24
and we train them to turn their heads when a sound changes --
41
144482
2921
แล้วเราก็ฝึกให้พวกเขาหันหน้าหาเมื่อเสียงเปลี่ยน
เช่นจากเสียง "ah..." ไปเป็น "ee..."
02:27
like from "ah" to "ee."
42
147427
1458
02:28
If they do so at the appropriate time, the black box lights up
43
148909
3433
เมื่อพวกเขาตอบสนองในเวลาที่เหมาะสม
กล่องสีดำจะเปล่งแสง
02:32
and a panda bear pounds a drum.
44
152366
1984
ตามด้วยหมีแพนด้าจะตีกลองรัว
02:34
A six-monther adores the task.
45
154374
2418
เด็ก 6 ขวบชอบกิจกรรมนี้ทีเดียว
ว่าแต่...เราได้ข้อมูลอะไรบ้างล่ะ?
02:37
What have we learned?
46
157420
1161
02:38
Well, babies all over the world
47
158605
2160
เอาล่ะค่ะ...ทารกทั่วทุกมุมโลก
02:40
are what I like to describe as "citizens of the world."
48
160789
3658
เป็นสิ่งที่ดิฉันอยากจะเปรียบเป็น
"พลเมืองของโลก"
02:44
They can discriminate all the sounds of all languages,
49
164906
2928
พวกเขาสามารถแบ่งแยกความแตกต่างของเสียงในทุกๆภาษา
02:47
no matter what country we're testing and what language we're using,
50
167858
3232
จากการทดสอบในทุกๆประเทศและทุกๆภาษาที่เราใช้
นี่ถือเป็นสิ่งที่น่าคิด เพราะดิฉันและพวกคุณทำไม่ได้
02:51
and that's remarkable because you and I can't do that.
51
171114
2995
พวกเราเป็นผู้ฟังที่ผูกกับวัฒนธรรมไปแล้ว
02:54
We're culture-bound listeners.
52
174133
1971
จะสามารถแยกความต่างของเสียงได้เฉพาะในภาษาของพวกเราเอง
02:56
We can discriminate the sounds of our own language,
53
176128
2395
ไม่สามารถแยกในภาษาอื่นได้
02:58
but not those of foreign languages.
54
178547
1847
ฉะนั้น คำถามก็ตามมาอีกว่า :
03:00
So the question arises: When do those citizens of the world
55
180418
3167
"แล้วเมื่อไหร่ล่ะ? ที่พลเมืองของโลกเหล่านี้
03:03
turn into the language-bound listeners that we are?
56
183609
2884
จะแปลงสถานะเป็นผู้ฟังที่ผูกกับภาษาเหมือนเราๆ?"
03:06
And the answer: before their first birthdays.
57
186517
3137
และคำตอบก็คือ "ก่อนครบรอบวันเกิดปีแรกของพวกเขา"
03:09
What you see here is performance on that head-turn task
58
189678
3132
และนี่คือ ผลของสมรรธภาพใน "ภารกิจหันหน้า"
03:12
for babies tested in Tokyo and the United States,
59
192834
2463
ของทารกที่เราทดสอบในโตเกียวและสหรัฐฯ
ณ ที่แห่งนี้ ซีแอตเทิล
03:15
here in Seattle,
60
195321
1438
03:16
as they listened to "ra" and "la" --
61
196783
1749
เมื่อได้ลองให้พวกเขาฟังเสียง "ra" และ "la" --
03:18
sounds important to English, but not to Japanese.
62
198556
2806
ความต่างของสองเสียงมีผลในภาษาอังกฤษ แต่ไม่มีผลในภาษาญี่ปุ่น
03:21
So at six to eight months, the babies are totally equivalent.
63
201386
3378
ณ ช่วงอายุ 6-8 เดือน ความสามารถของทารกเหล่านี้ไม่ต่างกันมาก
03:24
Two months later, something incredible occurs.
64
204788
2554
แต่สองเดือนถัดมาสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ก็ปรากฏ
03:27
The babies in the United States are getting a lot better,
65
207366
2680
ทารกในสหรัฐฯดีขึ้นกว่าเดิมมาก
แต่ทารกในญี่ปุ่นแย่ลงๆ
03:30
babies in Japan are getting a lot worse,
66
210070
1924
ทั้งที่ทารกทั้งสองกลุ่มต่างกำลัง
03:32
but both of those groups of babies are preparing for exactly the language
67
212018
3450
เตรียมตัวเพื่อเรียนรู้ภาษาแม่ของตัวเองเหมือนๆกัน
03:35
that they are going to learn.
68
215492
1492
ทีนี้คำถามก็คือ "เกิดอะไรขึ้น
03:37
So the question is: What's happening during this critical two-month period?
69
217008
4624
กับช่วงวิกฤตสองเดือนนี้?"
03:41
This is the critical period for sound development,
70
221656
2343
นี่เป็นช่วงวิกฤตของการพัฒนาทางด้านเสียง
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ?
03:44
but what's going on up there?
71
224023
1415
03:45
So there are two things going on.
72
225462
1979
คำตอบคือ มีสองปัจจัย
03:47
The first is that the babies are listening intently to us,
73
227465
2876
อย่างแรก เนื่องจากทารกจะฟังเราอย่างตั้งใจ
03:50
and they're taking statistics as they listen to us talk --
74
230365
3733
และเก็บข้อมูลในขณะที่พวกเราพูดคุยกัน
พวกเขาเก็บสถิติในหัว
03:54
they're taking statistics.
75
234122
1981
เราลองมาฟังคุณแม่สองคนพูดกับลูก
03:56
So listen to two mothers speaking motherese --
76
236127
2539
03:58
the universal language we use when we talk to kids --
77
238690
3042
โดยใช้ภาษาเด็กๆที่เราใช้เหมือนๆกัน
04:01
first in English and then in Japanese.
78
241756
2211
อันแรกเป็นภาษาอังกฤษ ต่อด้วยญี่ปุ่น
04:03
(Video) Ah, I love your big blue eyes --
79
243991
3439
(วีดีโอ) คุณแม่ที่ใช้ภาษาอังกฤษ: "โอ๋...แม่ล่ะชอบตาสีฟ้าโตๆของลูกจังเลย
04:07
so pretty and nice.
80
247454
2806
น่ารักน่าชังดีจริงๆ"
04:11
(Japanese)
81
251309
5927
คุณแม่ที่ใช้ภาษาญี่ปุ่น: [ภาษาญี่ปุ่น]
04:17
Patricia Kuhl: During the production of speech, when babies listen,
82
257712
3367
แพทริเซีย คัห์ล: ตลอดการพูดเหล่านี้
เมื่อทารกเหล่านี้ได้ฟัง
04:21
what they're doing is taking statistics on the language that they hear.
83
261103
4769
พวกเขาจะเก็บสถิติ
จากภาษาที่พวกเขาได้ยิน
04:26
And those distributions grow.
84
266613
2910
ความสามารถด้านการแยกแยะเสียงก็จะดีขึ้น
04:29
And what we've learned is that babies are sensitive to the statistics,
85
269547
4373
และสิ่งที่พวกเราเรียนรู้
ก็คือ ทารกจะอ่อนไหวกับสถิติมาก
04:33
and the statistics of Japanese and English are very, very different.
86
273944
3828
และสถิติของภาษาญี่ปุ่นกับอังกฤษต่างกันมากทีเดียว
04:37
English has a lot of Rs and Ls.
87
277796
2657
ในภาษาอังกฤษ จะมีเสียง R และ L เยอะมาก
04:40
The distribution shows.
88
280477
1759
สังเกตได้จากภาพนี้
04:42
And the distribution of Japanese is totally different,
89
282260
2840
และการแยกเสียงในภาษาญี่ปุ่นก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ที่เห็นกันนี้ คือกลุ่มเสียงที่อยู่่กึ่งกลาง
04:45
where we see a group of intermediate sounds,
90
285124
3001
ทั้งหมดนี้คือ "R" ในภาษาญี่ปุ่น
04:48
which is known as the Japanese "R."
91
288149
2415
04:50
So babies absorb the statistics of the language
92
290588
4108
ฉะนั้นทารกจะค่อยๆซึมซับ
สถิติของภาษานั้นๆ
04:54
and it changes their brains;
93
294720
1678
และมันสร้างความเปลี่ยนแปลงกับสมองพวกเขา
04:56
it changes them from the citizens of the world
94
296422
2151
โดยผันจากพลเมืองของโลก
04:58
to the culture-bound listeners that we are.
95
298597
2946
ไปเป็นผู้ฟังที่ผูกกับวัฒนธรรมเหมือนพวกเรา
05:01
But we as adults are no longer absorbing those statistics.
96
301567
4713
แต่สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราๆ
ไม่ได้ซึมซับสถิติเหล่านั้นอีกแล้ว
พวกเราถูกควบคุมโดยความจำ
05:06
We are governed by the representations in memory
97
306304
2557
05:08
that were formed early in development.
98
308885
2549
ที่ถูกสร้างมาในช่วงพัฒนาแรกๆ
05:11
So what we're seeing here
99
311458
1778
สิ่งที่เห็นในนี้
05:13
is changing our models of what the critical period is about.
100
313260
3233
คือการเปลี่ยนแปลงแม่แบบว่าช่วงวิกฤตการเรียนรู้มีผลอย่างไร
05:16
We're arguing from a mathematical standpoint
101
316517
2769
พวกเราถกเถียงจากมุมมองทางคณิตศาสตร์
05:19
that the learning of language material may slow down
102
319310
3140
ว่าความไวในการเรียนรู้ภาษาจะค่อยๆลดลง
05:22
when our distributions stabilize.
103
322474
2380
เมื่อการกระจายของข้อมูลคงที่
05:24
It's raising lots of questions about bilingual people.
104
324878
2862
ซึ่งก็สร้างความคาใจกับหลายคนที่ใช้สองภาษา
เพราะคนเหล่านี้ต้องเก็บข้อมูลสองชุดในเวลาเดียวกัน
05:28
Bilinguals must keep two sets of statistics in mind at once
105
328178
4031
และเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาระหว่างสองภาษานั้นๆ
05:32
and flip between them, one after the other,
106
332233
2883
ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาพูดกับใคร
05:35
depending on who they're speaking to.
107
335140
1772
05:36
So we asked ourselves,
108
336936
1154
เราเลยเกิดข้อสงสัยว่า
05:38
can the babies take statistics on a brand new language?
109
338114
3407
เด็กทารกจะเก็บสถิติจากภาษาที่ไม่เคยได้ยินได้หรือเปล่า?
05:41
And we tested this by exposing American babies
110
341545
3278
เราได้ลองทดสอบกับเด็กอเมริกัน
ที่ไม่เคยได้ยินภาษาที่สองเลย
05:44
who'd never heard a second language
111
344847
1689
มาฟังจีนแมนดารินเป็นครั้งแรกในช่วงวิกฤต
05:46
to Mandarin for the first time during the critical period.
112
346560
2716
เราได้ข้อมูลว่า เมื่อทดสอบเด็กที่ใช้ภาษาเดียว
05:49
We knew that, when monolinguals were tested in Taipei and Seattle
113
349300
3537
กับจีนแมนดารินที่ไทเปและซีแอตเทิล
05:52
on the Mandarin sounds, they showed the same pattern.
114
352861
2662
ผลที่ออกมาก็เหมือนกัน
05:55
Six to eight months, they're totally equivalent.
115
355547
2471
ในช่วง 6-8 เดือน พวกเขาได้พอๆกัน
แต่สองเดือนถัดไป สิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
05:58
Two months later, something incredible happens.
116
358042
2536
06:00
But the Taiwanese babies are getting better, not the American babies.
117
360602
3552
แต่คราวนี้เด็กไต้หวันจะดีกว่า ไม่ใช่อเมริกัน
และในช่วงวิกฤตนี้ เราก็ได้ลองให้ทารกอเมริกัน
06:04
What we did was expose American babies, during this period, to Mandarin.
118
364178
4882
ลองฟังจีนแมนดาริน
ประหนึ่งว่ามีญาติคนจีนมาเยี่ยมประมาณหนึ่งเดือน
06:09
It was like having Mandarin relatives come and visit for a month
119
369084
3008
แล้วย้ายมาอยู่ในบ้านเดียวกัน
06:12
and move into your house and talk to the babies for 12 sessions.
120
372116
3797
แล้วพูดกับทารกช่วงหนึ่ง เป็นเวลา 12 ครั้ง
06:15
Here's what it looked like in the laboratory.
121
375937
2206
นี่คือหน้าตาห้องทดลอง
(วีดีโอ) : [ภาษาจีนแมนดาริน]
06:18
(Mandarin)
122
378167
5556
06:39
PK: So what have we done to their little brains?
123
399922
2246
แล้วเกิดอะไรขึ้นในสมองน้อยๆของพวกเขาล่ะ?
(เสียงหัวเราะ)
06:42
(Laughter)
124
402192
2044
06:44
We had to run a control group to make sure
125
404260
2671
พวกดิฉันต้องกำหนดกลุ่มทดลอง
06:46
that coming into the laboratory didn't improve your Mandarin skills.
126
406955
3212
เพื่อให้แน่ใจว่า เพียงแค่เข้ามาเยี่ยมห้องทดลองของเรานั้น
ไม่ได้ช่วยให้ภาษาจีนของคุณให้ดีขึ้นเลย
06:50
So a group of babies came in and listened to English.
127
410191
2653
ดังนั้นจึงมีทารกอีกกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาและฟังภาษาอังกฤษ
06:52
And we can see from the graph
128
412868
1402
ในกราฟนี้แสดงให้เห็นว่า
06:54
that exposure to English didn't improve their Mandarin.
129
414294
2583
การเปิดรับภาษาอังกฤษไม่ได้ทำให้ภาษาจีนของพวกเขาดีขึ้นเลย
06:56
But look at what happened to the babies exposed to Mandarin for 12 sessions.
130
416901
3595
แต่เราลองมาดูว่าทารกที่
ได้ฟังจีนแมนดารินเป็น 12 ครั้ง
07:00
They were as good as the babies in Taiwan
131
420520
2400
ปรากฏว่าพวกเขาทำได้ดีพอๆกับทารกที่อยู่ในไต้หวัน
07:02
who'd been listening for 10 and a half months.
132
422944
2976
ที่ได้ฟังมา 10 เดือนครึ่ง
07:05
What it demonstrated is that babies take statistics on a new language.
133
425944
3824
ผลที่ออกมา
คือ ทารกจะเก็บสถิติในภาษาใหม่ๆ
07:09
Whatever you put in front of them, they'll take statistics on.
134
429792
3444
อะไรก็ตามที่คุณป้อนเข้าไป พวกเขาก็จะนับทั้งหมด
07:13
But we wondered what role
135
433260
1590
แต่พวกเราสงสัยว่า
07:14
the human being played in this learning exercise.
136
434874
4237
มนุษย์เราสวมบทบาทอะไร
ในเรื่องฝึกฝนการเรียนรู้
07:19
So we ran another group of babies in which the kids got the same dosage,
137
439428
4316
พวกเราก็เลยทดลองกับทารกอีกกลุ่มหนึ่ง
ในจำนวนรอบที่เท่ากันคือ 12 ครั้ง
07:23
the same 12 sessions, but over a television set.
138
443768
2468
แต่ทำผ่านทางโทรทัศน์
07:26
And another group of babies who had just audio exposure
139
446260
3661
ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งมีเพียงได้ฟังเพียงเสียง
07:29
and looked at a teddy bear on the screen.
140
449945
2088
และดูหมีเท็ดดี้บนจอ
แล้ว เราได้ทำอะไรกับสมองพวกเขา
07:32
What did we do to their brains?
141
452057
2179
07:34
What you see here is the audio result --
142
454260
3375
ที่เห็นนี้คือ ผลจากการทดสอบฟังเสียงออดิโอ
ไม่มีการเรียนรู้ใดๆเกิดขึ้น
07:38
no learning whatsoever --
143
458183
1738
07:39
and the video result --
144
459945
1758
ผลของวีดีโอ
07:42
no learning whatsoever.
145
462496
1845
ไม่มีการเรียนรู้เกิดขึ้นเช่นกัน
07:44
It takes a human being for babies to take their statistics.
146
464365
4141
ฉะนั้นทารกจะเก็บข้อมูลได้จาก
การฟังจากคนจริงๆเท่านั้น
07:48
The social brain is controlling
147
468882
2166
เพราะตอนที่เก็บข้อมูลเหล่านั้น
ทารกจะใช้สมองส่วนปฏิสัมพันธ์มาควบคุม
07:51
when the babies are taking their statistics.
148
471072
2105
พวกเราต้องการเข้าถึงสมอง
07:53
We want to get inside the brain and see this thing happening
149
473201
3493
เพื่อศึกษาว่าเกิดอะไรขึ้นในนั้น
07:56
as babies are in front of televisions, as opposed to in front of human beings.
150
476718
3938
และมีอะไรที่ไม่เหมือนกันระหว่างที่ทารกอยู่หน้าโทรทัศน์
กับตอนที่อยู่หน้าผู้คน
08:00
Thankfully, we have a new machine, magnetoencephalography,
151
480680
4697
โชคดี ที่เรามีเครื่องมือตัวใหม่
ชื่อเครื่องสแกน "MEG"
ที่ช่วยให้ความหวังกลายเป็นจริง
08:05
that allows us to do this.
152
485401
1293
08:06
It looks like a hair dryer from Mars.
153
486718
2585
หน้าตามันเหมือนไดร์เป่าผมที่มาจากดาวอังคาร
แต่มันปลอดภัยทีเดียวเลยล่ะค่ะ
08:09
But it's completely safe, completely noninvasive and silent.
154
489327
4483
ไม่อันตราย แล้วก็ไม่ส่งเสียงรบกวน
08:13
We're looking at millimeter accuracy
155
493834
2443
พวกเราใช้หน่วยมิลลิเมตร
และมิลลิวินาที
08:16
with regard to spatial and millisecond accuracy
156
496301
3316
เพื่อให้ผลที่ได้ออกมาแม่นยำ
08:19
using 306 SQUIDs --
157
499641
2622
โดยใช้เครื่อง 306 SQUIDs
หรือ Superconducting Quantum Interference Devices--
08:22
these are superconducting quantum interference devices --
158
502287
3100
เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดคลื่นสนามแม่เหล็ก
08:25
to pick up the magnetic fields that change as we do our thinking.
159
505411
3631
ที่แผ่ออกมาในสมอง
เครื่่องจะจับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตอนเราคิด
08:29
We're the first in the world to record babies in an MEG machine
160
509509
5609
พวกเราถือเป็นกลุ่มแรกในโลกนี้
ที่ใช้เครื่องแสกน MEG
บันทึกข้อมูลของทารก
08:35
while they are learning.
161
515142
2391
ขณะที่พวกเขาเรียนรู้
08:37
So this is little Emma.
162
517557
1679
และนี่คือ น้องเอ็มม่า
08:39
She's a six-monther.
163
519260
1908
อายุหกเดือน
08:41
And she's listening to various languages in the earphones that are in her ears.
164
521192
5118
และเธอฟังเสียงของหลายภาษามาแล้ว
โดยผ่านหูฟังที่ใส่อยู่
08:46
You can see, she can move around.
165
526334
2224
พวกคุณจะเห็นว่า เธอเคลื่อนไหวไปมาได้
08:48
We're tracking her head with little pellets in a cap,
166
528582
3770
พวกเรากำลังตามรอยสมองเธอ
ด้วยเครื่องมือที่ครอบอยู่บนหัว
08:52
so she's free to move completely unconstrained.
167
532376
2975
ฉะนั้นเธอจะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
08:55
It's a technical tour de force.
168
535375
2213
นี่เป็นผลงานที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อมากพอควร
08:57
What are we seeing?
169
537612
1584
แล้วพวกเราเห็นอะไรบ้าง?
08:59
We're seeing the baby brain.
170
539220
1894
พวกเราเห็นสมองของเด็ก เช่น
09:01
As the baby hears a word in her language, the auditory areas light up,
171
541138
5286
ถ้าเธอได้ยินคำในภาษาของตัวเอง
ส่วนการฟังจะเปล่งแสงขึ้น
09:06
and then subsequently areas surrounding it that we think are related to coherence,
172
546448
4788
และส่วนอื่นๆใกล้เคียงก็เปล่งตามกันมา
ซึ่งพวกเราเชื่อว่ามีความเกี่ยวเนื่องกัน
09:11
getting the brain coordinated with its different areas, and causality,
173
551260
3976
ทำให้สมองเชื่อมโยงกับส่วนต่างๆ
ตามที่ควรจะเป็น
09:15
one brain area causing another to activate.
174
555260
2976
สมองส่วนหนึ่งปลุกให้อีกส่วนหนึ่งทำงาน
09:18
We are embarking on a grand and golden age of knowledge
175
558861
5384
พวกเราเป็นผู้บุกเบิก
ในยุคทองของ
ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาสมองของทารก
09:24
about child's brain development.
176
564269
2236
09:26
We're going to be able to see a child's brain
177
566529
2421
และเราก็จะเห็นสมองของเด็ก
09:28
as they experience an emotion, as they learn to speak and read,
178
568974
4241
ขณะที่พวกเขาเกิดอารมณ์ต่างๆขึ้น
ขณะที่พวกเขาเรียนรู้ที่จะพูดและอ่าน
ขณะที่พวกเขาไขโจทย์คณิตศาสตร์
09:33
as they solve a math problem, as they have an idea.
179
573239
3202
ขณะที่พวกเขามีความคิดใหม่ๆ
09:36
And we're going to be able to invent brain-based interventions
180
576775
3349
และด้วยสิ่งนี้ พวกเราก็จะสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่
เพื่อช่วยเด็กที่มีปัญหาด้านการเรียนรู้
09:40
for children who have difficulty learning.
181
580148
2270
09:42
Just as the poets and writers described,
182
582831
3066
เหมือนอย่างที่นักประพันธ์กลอนและนักเขียนได้อธิบายไว้
09:45
we're going to be able to see, I think, that wondrous openness,
183
585921
4154
พวกเรากำลังจะมองเห็น
การเปิดรับที่มหัศจรรย์
การเปิดรับที่เต็มเปี่ยม
09:50
utter and complete openness, of the mind of a child.
184
590099
3424
ในความนึกคิดของเด็ก
09:54
In investigating the child's brain,
185
594284
2676
ด้วยการศึกษาสมองของทารกเหล่านี้
09:56
we're going to uncover deep truths about what it means to be human,
186
596984
3996
พวกเราจะค้นพบความจริง
ว่าสิ่งนี้มีความสัมพันธ์กับชีวิตมนุษย์อย่างไร
อีกทั้งในกระบวนการนี้
10:01
and in the process,
187
601004
1155
10:02
we may be able to help keep our own minds open to learning
188
602183
3071
อาจสามารถช่วยให้สมองของพวกเรา
เปิดรับการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิตไปเลยก็ได้
10:05
for our entire lives.
189
605278
1691
10:06
Thank you.
190
606993
1243
ขอบคุณค่ะ
10:08
(Applause)
191
608260
3000
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7