The next outbreak? We’re not ready | Bill Gates | TED

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Wit Wichaidit

When I was a kid,

ตอนที่ผมเป็นเด็ก

the disaster we worried about most was a nuclear war.

หายนะที่เรากลัวกันมากที่สุด คือสงครามนิวเคลียร์

That's why we had a barrel like this down in our basement,

นั่นเป็นเหตุว่าทำไมเรามีถังหน้าตาแบบนี้ ที่ใต้ถุนบ้านเรา

filled with cans of food and water.

เต็มไปด้วยอาหารกระป๋องและน้ำ

When the nuclear attack came,

เราถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์เมื่อใด

we were supposed to go downstairs, hunker down, and eat out of that barrel.

เราควรที่จะต้องลงไปชั้นล่าง นั่งพับขา และกินของที่อยู่ในถังพวกนั้น

Today the greatest risk of global catastrophe

วันนี้ ความเสี่ยงต่อหายนะที่รุนแรงระดับโลก

doesn't look like this.

ไม่ได้มีหน้าตาอย่างนี้

Instead, it looks like this.

แต่ทว่า มันมีหน้าตาแบบนี้

If anything kills over 10 million people in the next few decades,

ถ้ามีอะไรก็ตามฆ่าคนมากกว่า 10 ล้านคน ในเวลาเพียงไม่กี่สิบปี

it's most likely to be a highly infectious virus

เป็นไปได้สูงว่ามันจะเป็น ไวรัสที่ติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว

rather than a war.

มากกว่าที่จะเป็นสงคราม

Not missiles, but microbes.

ไม่ใช่ขีปนาวุธ หากแต่เป็นจุลชีพ

Now, part of the reason for this is that

เอาล่ะ เหตุผลส่วนหนึ่งก็คือ

we've invested a huge amount in nuclear deterrents.

เราลงทุนไปมากกับการยับยั้งอาวุธนิวเคลียร์

But we've actually invested very little in a system to stop an epidemic.

แต่เราได้ลงทุนไปน้อยมาก กับระบบที่จะหยุดการแพร่กระจายของโรค

We're not ready for the next epidemic.

เราไม่พร้อมสำหรับการระบาดครั้งถัดไป

Let's look at Ebola.

ลองมาดูโรคอีโบล่ากันครับ

I'm sure all of you read about it in the newspaper,

ผมมั่นใจว่าทุกคนได้อ่านข่าวเกี่ยวกับโรคนี้ ในหนังสือพิมพ์

lots of tough challenges.

มีปัญหายากลำบากต่างๆ มากมาย

I followed it carefully through the case analysis tools

ผมตามข่าวนี้อย่างกระชั้นชิด ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ

we use to track polio eradication.

ที่เราเคยใช้ติดตามการกำจัดโรคโปลิโอ

And as you look at what went on,

พอเราดูสิ่งที่เกิดขึ้นก็พบว่า

the problem wasn't that there was a system that didn't work well enough,

ปัญหาไม่ใช่ว่าระบบทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร

the problem was that we didn't have a system at all.

ปัญหาคือ เราไม่มีระบบอะไรเลย

In fact, there's some pretty obvious key missing pieces.

อันที่จริง เราเห็นได้ชัดเลยว่า ระบบขาดส่วนประกอบสำคัญหลายอย่าง

We didn't have a group of epidemiologists ready to go, who would have gone,

เราไม่มีกลุ่มนักระบาดวิทยา ที่พร้อม ที่จะเข้าไป

seen what the disease was, seen how far it had spread.

ดูว่าโรคนั้นคืออะไร ดูว่ามันระบาดไปถึงไหนแล้ว

The case reports came in on paper.

เราได้รับรายงานผู้ป่วยผ่านหน้าหนังสือพิมพ์

It was very delayed before they were put online

ซึ่งรายงานช้ามาก ก่อนที่จะถูกนำขึ้นบนอินเตอร์เน็ต

and they were extremely inaccurate.

และรายงานคลาดเคลื่อนเยอะมาก

We didn't have a medical team ready to go.

เราไม่มีทีมแพทย์ที่พร้อมจะไป

We didn't have a way of preparing people.

เราไม่มีวิธีการเตรียมคนให้พร้อม

Now, Médecins Sans Frontières did a great job orchestrating volunteers.

ทีนี้ องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (เมดแซง ซอง ฟรองแตร์) ได้ประสานอาสาสมัครเป็นอย่างดี

But even so, we were far slower than we should have been

แต่ถึงกระนั้น เราก็ยังทำงาน ได้ช้ากว่าที่ควรเป็นอย่างมาก

getting the thousands of workers into these countries.

ในการนำบุคลากรนับพันคน เข้าไปยังประเทศเหล่านี้

And a large epidemic would require us to have hundreds of thousands of workers.

หากเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ เราจะต้องมีบุคลากรนับแสนคน

There was no one there to look at treatment approaches.

เราไม่มีใคร คอยดูเรื่องแนวทางการรักษาโรค

No one to look at the diagnostics.

ไม่มีใครที่จะดูเรื่องการตรวจโรค

No one to figure out what tools should be used.

ไม่มีใครที่จะรู้ว่าควรใช้เครื่องมืออะไร

As an example, we could have taken the blood of survivors,

ยกตัวอย่างเช่น เราควรที่จะ เก็บตัวอย่างเลือดจากผู้รอดชีวิต

processed it, and put that plasma back in people to protect them.

จัดการกับมัน และฉีดพลาสม่า ให้คนอื่นเพื่อป้องกันโรค

But that was never tried.

แต่นั่นไม่เคยมีใครได้ลอง

So there was a lot that was missing.

ดังนั้นจึงมีหลายๆ อย่างที่ขาดหายไป

And these things are really a global failure.

และสิ่งเหล่านี้ เป็นความล้มเหลวระดับโลกโดยแท้จริง

The WHO is funded to monitor epidemics, but not to do these things I talked about.

องค์การอนามัยโลกได้รับทุนให้ติดตามการระบาด แต่ไม่ได้มีหน้าที่ทำสิ่งที่ผมได้พูดถึง

Now, in the movies it's quite different.

เอาล่ะ ในหนังมันต่างออกไป

There's a group of handsome epidemiologists ready to go,

นี่คือกลุ่มของนักระบาดวิทยาหน้าตาดี ที่พร้อมจะไป

they move in, they save the day, but that's just pure Hollywood.

ลงพื้นที่ และช่วยโลกเอาไว้ แต่มั่นมันฮอลิวูดแท้ๆ เลย

The failure to prepare could allow the next epidemic

ความล้มเหลวในการเตรียมตัว อาจเอื้อให้เกิดการระบาดครั้งถัดไป

to be dramatically more devastating than Ebola

รุนแรงมากเสียยิ่งกว่าอีโบล่าเสียอีก

Let's look at the progression of Ebola over this year.

ลองมาดูความเป็นไปของสถานการณ์ของอีโบล่า ตลอดปีนี้กัน

About 10,000 people died,

คนประมาณ 10,000 คนเสียชีวิต

and nearly all were in the three West African countries.

และเกือบทั้งหมดอยู่ในสามประเทศ ทางแอฟริกันตะวันตก

There's three reasons why it didn't spread more.

มีสามเหตุผลว่าทำไมมันไม่ระบาดมากกว่านี้

The first is that there was a lot of heroic work by the health workers.

ประการแรกคือ มีเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาล จำนวนมากที่ปฏิบัติงานอย่างกล้าหาญ

They found the people and they prevented more infections.

พวกเขาพบคนที่ป่วย และพวกเขาป้องกันการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นอีก

The second is the nature of the virus.

ประการที่สองคือธรรมชาติของไวรัส

Ebola does not spread through the air.

อีโบล่าไม่แพร่กระจายผ่านอากาศ

And by the time you're contagious,

และเมื่อมันระบาด

most people are so sick that they're bedridden.

คนส่วนใหญ่ก็ป่วยมาก จนลุกออกจากเตียงไม่ได้

Third, it didn't get into many urban areas.

ประการที่สาม มันไม่ได้เข้าไปในเขตเมืองมากนัก

And that was just luck.

และนั่นก็เพราะว่าโชคช่วย

If it had gotten into a lot more urban areas,

ถ้ามันแพร่กระจายเข้าในในเขตเมืองมากกว่านี้

the case numbers would have been much larger.

จำนวนผู้ป่วยก็คงจะมากกว่านี้

So next time, we might not be so lucky.

ดังนั้น ครั้งหน้า เราอาจไม่โชคดีขนาดนี้

You can have a virus where people feel well enough while they're infectious

อาจมีไวรัสที่สามารถแพร่กระจายได้ แม้ว่าผู้ติดเชื้อยังรู้สึกสบายดี

that they get on a plane or they go to a market.

ไปขึ้นเครื่องบิน หรือไปตลาด

The source of the virus could be a natural epidemic like Ebola,

แหล่งของไวรัสอาจมาจากธรรมชาติ เหมือนกับการระบาดของอีโบล่า

or it could be bioterrorism.

หรือมาจากการก่อการร้ายทางชีวภาพ

So there are things that would literally make things a thousand times worse.

ฉะนั้น มันมีสิ่งที่ทำให้สถานการณ์แย่กว่านี้ เป็นพันๆ เท่า

In fact, let's look at a model of a virus spread through the air,

อันที่จริง ลองดูแบบจำลองไวรัส ที่กระจายผ่านอากาศกัน

like the Spanish Flu back in 1918.

เช่นไข้หวัดสเปน เมื่อปีค.ศ. 1918

So here's what would happen:

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น

It would spread throughout the world very, very quickly.

มันแพร่กระจายไปทั่วโลกเร็วมากๆ

And you can see over 30 million people died from that epidemic.

และคุณจะเห็นว่าคนเสียชีวิตเพราะการระบาดนี้ กว่า 30 ล้านคน

So this is a serious problem.

ดังนั้น มันจึงเป็นปัญหาใหญ่

We should be concerned.

เราควรที่จะตระหนัก

But in fact, we can build a really good response system.

แต่ที่จริง เราสามารถสร้างระบบตอบสนองที่ดีได้

We have the benefits of all the science and technology that we talk about here.

เราได้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งหมดที่เราพูดกันตรงนี้

We've got cell phones

เรามีโทรศัพท์มือถือ

to get information from the public and get information out to them.

ที่จะรับข้อมูลจากสาธารณะ และส่งข้อมูลนั้นกลับออกไป

We have satellite maps where we can see where people are and where they're moving.

เรามีแผนที่ดาวเทียมซึ่งทำให้เราเห็นว่า คนอยู่ตรงไหนและพวกเขาย้ายกันไปไหน

We have advances in biology

เรามีความก้าวหน้าทางชีววิทยา

that should dramatically change the turnaround time to look at a pathogen

ที่ควรย่นระยะเวลา ที่ใช้ในการตรวจหาเชื้อโรคไปอย่างมาก

and be able to make drugs and vaccines that fit for that pathogen.

และสามารถที่จะผลิตยาและวัคซีน ที่เหมาะสมต่อโรคกเหล่านั้น

So we can have tools,

ฉะนั้น เรามีเครื่องมือ

but those tools need to be put into an overall global health system.

แต่เครื่องมือเหล่านั้น จะต้องถูกนำ เข้าไปไว้ในระบบสุขภาพระดับโลกทั้งหมด

And we need preparedness.

และเราต้องการมีการเตรียมพร้อม

The best lessons, I think, on how to get prepared

ในความคิดของผม บทเรียนที่ดีที่สุด เกี่ยวกับการเตรียมตัวนั้น

are again, what we do for war.

ก็คือสิ่งที่เราทำในยามสงคราม

For soldiers, we have full-time, waiting to go.

สำหรับทหาร เรามีประจำเอาไว้ตลอดเวลา พร้อมที่จะรับคำสั่ง

We have reserves that can scale us up to large numbers.

เรามีหน่วยสำรองที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นได้อีกมาก

NATO has a mobile unit that can deploy very rapidly.

NATO มีหน่วยเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถจัดขบวนให้เข้าที่ได้อย่างรวดเร็ว

NATO does a lot of war games to check, are people well trained?

NATO เล่นเกมส์สมรภูมิมามาก เพื่อทดสอบว่า คนพร้อมหรือไม่

Do they understand about fuel and logistics

พวกเขาเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับน้ำมันและการขนส่ง

and the same radio frequencies?

และความถี่คลื่นวิทยุเดียวกันแค่ไหน

So they are absolutely ready to go.

ดังนั้น พวกเขาพร้อมที่จะปฏิบัติการจริงๆ

So those are the kinds of things we need to deal with an epidemic.

ฉะนั้น สิ่งต่างๆ พวกนี้แหละ ที่เราต้องการเพื่อจัดการกับการระบาด

What are the key pieces?

อะไรคือกุญแจสำคัญ

First, we need strong health systems in poor countries.

อย่างแรก เราต้องการระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ในประเทศที่ยากจน

That's where mothers can give birth safely,

นั่นหมายถึงสถานที่ ซึ่งแม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้อย่างปลอดภัย

kids can get all their vaccines.

เด็กๆ สามารถที่จะได้รับวัคซีนได้ทั้งหมด

But, also where we'll see the outbreak very early on.

และยังรวมถึงสถานที่ ซึ่งพวกเราเห็นการระบาดก่อนหน้านี้

We need a medical reserve corps:

เราต้องการกองหนุนทางการแพทย์

lots of people who've got the training and background

คนมากมายที่ได้รับการฝึกฝนและมีพื้นฐาน

who are ready to go, with the expertise.

พร้อมที่จะเข้าไปปฏิบัติงาน และมีความเชี่ยวชาญ

And then we need to pair those medical people with the military.

และจากนั้น เราต้องการจับคู่ บุคคลสายการแพทย์กับทางทหาร

taking advantage of the military's ability to move fast, do logistics

ใช้ความสามารถทางทหารที่มีข้อได้เปรียบ ในเรื่องการเคลื่อนตัวที่รวดเร็ว การทำการขนส่ง

and secure areas.

และการให้ความปลอดภัยกับพื้นที่

We need to do simulations,

เราต้องการทำการจำลองที่สมจริง

germ games, not war games, so that we see where the holes are.

เกมส์เชื้อโรคไม่ใช่เกมส์สงคราม ฉะนั้น เราจะเห็นว่ามีช่องโหว่ตรงไหน

The last time a germ game was done in the United States

ครั้งที่แล้ว เกมส์เชื้อโรคที่สิ้นสุดลงในสหรัฐฯ

was back in 2001, and it didn't go so well.

กลับมาอีกในปีค.ศ. 2001 และสถานการณ์ก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไร

So far the score is germs: 1, people: 0.

ถึงตอนนี้คะแนนฝ่ายเชื้อโรค 1 ต่อคน 0

Finally, we need lots of advanced R&D in areas of vaccines and diagnostics.

ท้ายที่สุด เราต้องการ การวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่ก้าวหน้าสำหรับวัคซีนและการวินิจฉัย

There are some big breakthroughs, like the Adeno-associated virus,

มีความก้าวหน้าที่สำคัญบางอย่าง เช่น ไวรัสที่เกี่ยวข้องกับอะดีโน

that could work very, very quickly.

ที่สามารถเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว

Now I don't have an exact budget for what this would cost,

ตอนนี้ ผมไม่ได้กำหนดเงินสนับสนุนแน่นอน สำหรับราคาค่างวดของสิ่งนี้

but I'm quite sure it's very modest compared to the potential harm.

แต่ผมค่อนข้างมั่นใจ ว่ามันไม่ได้ฟุ่มเฟือยเลย เมื่อเทียบกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

The World Bank estimates that if we have a worldwide flu epidemic,

ธนาคารโลกได้ประมาณไว้ว่า ถ้าเรามีไข้หวัดระบาดไปทั่วโลก

global wealth will go down by over three trillion dollars

ความมั่งคั่งของโลกจะลดลงไป ประมาณสามล้านล้านดอลลาร์

and we'd have millions and millions of deaths.

และเราจะมีคนตายเป็นล้านๆ

These investments offer significant benefits

การลงทุนนี้ได้มอบประโยชน์ที่เด่นชัด

beyond just being ready for the epidemic.

เกินกว่าแค่เตรียมการให้พร้อมกับการระบาด

The primary healthcare, the R&D,

การสาธารณสุขพื้นฐาน การวิจัยและพัฒนา

those things would reduce global health equity

สิ่งเหล่านี้อาจลดความไม่เท่าเทียมกัน ของสาธารณสุขทั่วโลก

and make the world more just as well as more safe.

และทำให้โลกของเราปลอดภัยมากขึ้น

So I think this should absolutely be a priority.

ดังนั้น ผมคิดว่าสิ่งนี้ควรได้รับการพิจารณา เป็นอันดับแรกๆ

There's no need to panic.

เราไม่ต้องตระหนกตกใจ

We don't have to hoard cans of spaghetti or go down into the basement.

เราไม่ต้องกักตุนสปาเก็ตตี้กระป๋อง หรือลงไปอยู่ใต้ดิน

But we need to get going, because time is not on our side.

แต่เราต้องก้าวรุดต่อไป เพราะว่าเวลาไม่ได้เข้าข้างเรา

In fact, if there's one positive thing that can come out of the Ebola epidemic,

ถ้าหาก จะมีเรื่องดีๆ สักเรื่อง ที่มาจากการระบาดของอีโบล่า

it's that it can serve as an early warning, a wake-up call, to get ready.

ก็คงจะเป็นเพราะมันทำหน้าที่ปลุกให้คนตื่น ให้ทุกคนเตรียมพร้อม

If we start now, we can be ready for the next epidemic.

ถ้าเราเริ่มกันเสียแต่ตอนนี้ เราก็จะพร้อมรับมือ กับการระบาดครั้งหน้า

Thank you.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)