Don't eat the marshmallow! | Joachim de Posada

Translator: Tisa Tontiwatkul Reviewer: Kanawat Senanan

I'm here because I have a very important message:

ผมมาที่นี่ เพราะผมมีข้อความที่สำคัญมากๆ

I think we have found

ผมคิดว่า เราได้ค้นพบ

the most important factor for success.

ปัจจัยสำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จ

And it was found close to here, Stanford.

และมันถูกค้นพบใกล้ๆ นี่เอง ที่สแตนฟอร์ด

Psychology professor took kids that were four years old

ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา นำเด็กๆ อายุ 4 ขวบ

and put them in a room all by themselves.

ให้เด็กๆ นั่งในห้องๆ หนึ่ง เพียงลำพัง

And he would tell the child, a four-year-old kid,

โดยเขาจะบอกเด็ก 4 ขวบแต่ละคน

"Johnny, I am going to leave you here with a marshmallow

"จอห์นนี ฉันจะต้องให้เธออยู่ที่นี่ กับมาร์ชเมลโลว์ 1 ชิ้นนี้

for 15 minutes.

ประมาณ 15 นาที

If, after I come back, this marshmallow is here,

หลังจากที่ฉันกลับมาแล้ว ถ้ามาร์ชเมลโลว์ชิ้นนี้ยังอยู่

you will get another one. So you will have two."

เธอจะได้เพิ่มอีกหนึ่งอัน เป็น 2 อันนะ"

To tell a four-year-old kid to wait 15 minutes

การที่บอกเด็กสี่ขวบให้รอ 15 นาที

for something that they like,

เพื่อบางสิ่งบางอย่างที่เด็กๆ ชอบ

is equivalent to telling us, "We'll bring you coffee in two hours."

ก็เหมือนกับบอกพวกเราว่า "เดี๋ยวเราจะนำกาแฟมาให้พวกคุณ ภายใน 2 ชั่วโมง"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Exact equivalent.

เหมือนกันทุกประการ

So what happened when the professor left the room?

ดังนั้น อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อศาสตราจารย์ออกจากห้อง

As soon as the door closed...

ทันทีที่ประตูปิด

two out of three ate the marshmallow.

เด็ก 2 ใน 3 กินมาร์ชเมลโลว์

Five seconds, 10 seconds, 40 seconds, 50 seconds,

5 วินาที 10 วินาที 40 วินาที 50 วินาที

two minutes, four minutes, eight minutes.

2 นาที 4 นาที 8 นาที

Some lasted 14-and-a-half minutes.

มากที่สุดคือ 14 นาทีครึ่ง

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Couldn't do it. Could not wait.

ทำไม่ได้ รอไม่ได้

What's interesting is that one out of three

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ 1 ใน 3

would look at the marshmallow and go like this ...

ที่มองไปที่มาร์ชเมลโลว์ และไปทำแบบนี้ ...

Would look at it.

จะไปจ้องมอง

Put it back.

วางกลับลงไป

They would walk around. They would play with their skirts and pants.

พวกเขาจะเดินไปรอบๆ เล่นกับกางเกงหรือกระโปรงพวกเขา

That child already, at four, understood

เด็กที่อายุ 4 ขวบแล้ว มีความเข้าใจ

the most important principle for success,

ในพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในความสำเร็จ

which is the ability to delay gratification.

ก็คือความสามารถที่จะหน่วงเวลาแห่งความพึงพอใจ

Self-discipline:

ความมีวินัยในตัวเอง

the most important factor for success.

ปัจจัยสำคัญที่สุดของความสำเร็จ

15 years later, 14 or 15 years later,

15 ปีต่อมา 14 หรือ 15 ปีต่อมา

follow-up study.

มีการศึกษาติดตามเกิดขึ้น

What did they find?

พวกเขาพบอะไร

They went to look for these kids who were now 18 and 19.

พวกเขาไปดูเด็กๆ เหล่านี้ ที่อายุ 18, 19 ในตอนนี้

And they found that 100 percent

และพวกเขาพบว่า 100%

of the children that had not eaten the marshmallow were successful.

ของเด็กๆ ที่ไม่กินมาร์ชเมลโลว์ ประสบความสำเร็จ

They had good grades. They were doing wonderful.

พวกเขาเรียนได้เกรดดี ทำสิ่งต่างๆ ได้ดีเยี่ยม

They were happy. They had their plans.

มีความสุข มีแผนของพวกเขาเอง

They had good relationships with the teachers, students.

พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับครู และเพื่อนนักเรียน

They were doing fine.

พวกเขาทำได้ดี

A great percentage of the kids that ate the marshmallow,

เด็กๆ ที่กินมาร์ชเมลโลว์ มีเปอร์เซ็นต์สูงมาก

they were in trouble.

ที่พวกเขาประสบปัญหา

They did not make it to university.

ไม่สามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้

They had bad grades. Some of them dropped out.

เรียนได้เกรดต่ำ บางส่วนต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน

A few were still there with bad grades.

มีเพียงส่วนน้อยที่ยังเรียนอยู่ด้วยเกรดแย่ๆ

A few had good grades.

มีส่วนน้อยที่ได้เกรดดีๆ

I had a question in my mind: Would Hispanic kids

ผมมีคำถามในใจของผม: เด็กๆในอเมริกาใต้

react the same way as the American kids?

จะมีปฏิกิริยาเหมือนเด็กๆ อเมริกันไหมนะ

So I went to Colombia. And I reproduced the experiment.

ดังนั้นผมจึงไปที่โคลัมเบีย และผมก็ทำการทดลองนี้

And it was very funny. I used four, five and six years old kids.

มันเป็นอะไรที่ตลกมาก ผมใช้เด็ก 4-5 และ 6 ขวบ

And let me show you what happened.

ผมจะให้คุณดูว่าเกิดอะไรขึ้น

(Spanish) (Laughter)

(ภาษาสเปน) (เสียงหัวเราะ)

So what happened in Colombia?

เกิดอะไรขึ้นในโคลัมเบีย

Hispanic kids, two out of three ate the marshmallow;

เด็กๆ ชาวสเปน 2 ใน 3 กินมาร์ชเมลโลว์

one out of three did not.

มี 1 ใน 3 ที่ไม่กิน

This little girl was interesting;

เด็กหญิงคนนี้ น่าสนใจ

she ate the inside of the marshmallow.

เธอกินด้านในของมาร์ชเมลโลว์แล้ว

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

In other words, she wanted us to think that she had not eaten it, so she would get two.

พูดง่ายๆ ก็คือ เธอต้องการให้เราคิดว่า เธอไม่ได้กินมัน แล้วเธอก็จะได้ 2 ชิ้น

But she ate it.

แต่เธอกินแล้ว

So we know she'll be successful. But we have to watch her.

เรารู้ว่า เธอจะต้องประสบความสำเร็จ แต่เราต้องระวังเธอไว้ให้ดี

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

She should not go into banking, for example,

เธอไม่ควรจะทำงานในวงการธนาคาร ยกตัวอย่างนะน่ะ

or work at a cash register.

หรือทำงานที่เครื่องแคชเชียร์

But she will be successful.

แต่เธอจะต้องประสบความสำเร็จ

And this applies for everything. Even in sales.

และนี่จะประยุกต์กับทุกสิ่ง แม้แต่การขาย

The sales person that --

คนที่จะเป็นนักขายนั้น

the customer says, "I want that." And the person says, "Okay, here you are."

ลูกค้าบอกว่า "ผมต้องการอันนั้น" และนักขายก็จะบอกว่า "นี่ไงครับ"

That person ate the marshmallow.

นักขายคนนั้นกินมาร์ชเมลโลว์

If the sales person says, "Wait a second.

ถ้านักขายพูดว่า "โปรดรอสักครู่

Let me ask you a few questions to see if this is a good choice."

ขอผมถามคำถามสักสองสามข้อ เพื่อที่จะดูว่า สิ่งนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง"

Then you sell a lot more.

จากนั้นคุณอาจจะได้ขายได้กว่าเดิม

So this has applications in all walks of life.

นี่เป็นการประยุกต์ใช้ในแต่ละก้าวในชีวิต

I end with -- the Koreans did this.

ผมขอจบด้วย -- ชาวเกาหลีทำแบบนั้นแล้ว

You know what? This is so good

คุณรู้ไหม มันดีมาก

that we want a marshmallow book for children.

จนเราต้องการหนังสือ เรื่องมาร์ชเมลโลว์สำหรับเด็กๆ

We did one for children. And now it is all over Korea.

เราทำขึ้นมาเล่มหนึ่งให้เด็กๆ และตอนนี้มันมีทั่วเกาหลี

They are teaching these kids exactly this principle.

พวกเขาสอนพื้นฐานนี้ ให้เด็กๆ เหล่านี้

And we need to learn that principle here in the States,

และพวกเราจำต้องเรียนรู้พื้นฐานนี้ในสหรัฐอเมริกา

because we have a big debt.

เพราะพวกเรามีหนี้ก้อนใหญ่

We are eating more marshmallows than we are producing.

พวกเรากินมาร์ชเมลโลว์มากเกินกว่าที่พวกเราผลิตได้

Thank you so much.

ขอบคุณมากครับ