Feisal Abdul Rauf: Lose your ego, find your compassion

36,821 views ・ 2015-07-17

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Teerachart Prasert Reviewer: Taweesak Paepimparath
00:12
I'm speaking about compassion from an Islamic point of view,
0
12000
5000
ข้าพเจ้ากำลังพูดถึงความเมตตาจากมุมมองของชาวมุสลิม
00:17
and perhaps my faith is not very well thought of
1
17000
3000
และบางทีหลายคนก็คิดว่าความเชื่อของข้าพเจ้านั้น
00:20
as being one that is grounded in compassion.
2
20000
4000
ไม่ถือว่าเป็นความเชื่อที่มีรากฐานบนความเมตตา
00:24
The truth of the matter is otherwise.
3
24000
2000
แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับตรงข้ามกัน
00:26
Our holy book, the Koran, consists of 114 chapters,
4
26000
6000
คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของเรา อัลกุรอาน ประกอบด้วย 114 บท
00:32
and each chapter begins with what we call the basmala,
5
32000
4000
และแต่ละบทเริ่มต้นด้วยบทนำที่เราเรียกว่า บัสมาลาห์
00:36
the saying of "In the name of God, the all compassionate, the all merciful,"
6
36000
6000
ซึ่งเป็นบทกล่าวในนามของพระเจ้าผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงปราณียิ่ง
00:42
or, as Sir Richard Burton --
7
42000
2000
หรือ ตามที่เซอร์ ริชาร์ด เบอร์ตั้น
00:44
not the Richard Burton who was married to Elizabeth Taylor,
8
44000
3000
ไม่ใช่ริชาร์ด เบอร์ตั้นคนที่แต่งงานกับ อลิซาเบ็ธ เทย์เลอร์นะครับ
00:47
but the Sir Richard Burton who lived a century before that
9
47000
3000
แต่เป็นเซอร์ ริชาร์ด เบอร์ตั้น คนที่มีชีวิตอยู่ 100 ปีก่อนหน้านั้น
00:50
and who was a worldwide traveler
10
50000
2000
ซึ่งเป็นนักเดินทางไปทั่วโลก
00:52
and translator of many works of literature --
11
52000
4000
และเป็นผู้แปลวรรณกรรมไว้หลายชิ้น
00:56
translates it. "In the name of God, the compassionating, the compassionate."
12
56000
7000
ได้แปลไว้ว่า "ในนามของพระเจ้า ผู้ทรงเมตตา ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตา"
01:03
And in a saying of the Koran, which to Muslims is God speaking to humanity,
13
63000
7000
และในหลักคำสอนจากกุรอาน ซึ่งสำหรับชาวมุสลิมแล้ว เป็นถ้อยคำที่พระเจ้ากล่าวกับมวลมนุษยชาติ
01:10
God says to his prophet Muhammad --
14
70000
3000
พระเจ้าได้ตรัสกับท่านศาสนฑูตของพระองค์ ท่านมูฮัมหมัด
01:13
whom we believe to be the last of a series of prophets,
15
73000
3000
ซึ่งเราเชื่อกันว่าเป็นท่านสุดท้าย ในบรรดาองค์ศาสนฑูต
01:16
beginning with Adam, including Noah, including Moses, including Abraham,
16
76000
6000
อันเริ่มต้นด้วยอดัม รวมถึงโนอาห์ รวมถึงโมเสส รวมถึงอับราฮัม
01:22
including Jesus Christ, and ending with Muhammad --
17
82000
4000
รวมถึงพระเยซูคริสต์ และสิ้นสุดที่ท่านมูฮัมหมัด
01:26
that, "We have not sent you, O Muhammad,
18
86000
3000
พระเจ้าตรัสว่า "เรามิได้ส่งเธอมาเพื่ออื่นใด โอ้ มูฮัมหมัด
01:29
except as a 'rahmah,' except as a source of compassion to humanity."
19
89000
6000
นอกจากเพื่อเป็นราฮาม เป็นความเมตตาแก่มวลประชาทั้งหลาย"
01:35
For us human beings, and certainly for us as Muslims,
20
95000
4000
สำหรับเราในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และแน่นอนสำหรับเราชาวมุสลิม
01:39
whose mission, and whose purpose in following the path of the prophet
21
99000
5000
ผู้มีภารกิจและเป้าประสงค์ ในการดำเนินรอยตามองค์ศาสดา
01:44
is to make ourselves as much like the prophet.
22
104000
4000
พึงกระทำตนเยี่ยงองค์ศาสดาให้ดีที่สุด
01:48
And the prophet, in one of his sayings, said,
23
108000
2000
ซึ่งองค์ศาสดาได้กล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า
01:50
"Adorn yourselves with the attributes of God."
24
110000
5000
"จงประดับตัวท่านด้วยคุณลักษณะของพระเจ้า"
01:55
And because God Himself said that the primary attribute of his is compassion --
25
115000
6000
และเพราะพระเจ้าเองได้ตรัสไว้ว่าคุณลักษณะ อันสำคัญที่สุดของพระองค์ก็คือ ความเมตตา
02:01
in fact, the Koran says that "God decreed upon himself compassion,"
26
121000
5000
กุรอ่านเองก็กล่าวไว้ว่า "พระเจ้าทรงมีบัญชาแก่พระองค์เองด้วยความเมตตา"
02:06
or, "reigned himself in by compassion" --
27
126000
4000
หรือ "ทรงปกครองพระองค์เองด้วยความเมตตา"
02:10
therefore, our objective and our mission must be to be sources of compassion,
28
130000
7000
ฉะนั้น จุดประสงค์และภารกิจของเราคือการเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา
02:17
activators of compassion, actors of compassion
29
137000
4000
สร้างความเมตตาให้เกิดขึ้นในใจ, แสดงความเมตตาต่อผู้อื่น
02:21
and speakers of compassion and doers of compassion.
30
141000
4000
พึงพูดกับผู้อื่นด้วยความเมตตา และปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเมตตา
02:25
That is all well and good,
31
145000
3000
เหล่านี้ล้วนประเสริฐและดี
02:28
but where do we go wrong,
32
148000
3000
แต่ความผิดพลาดเกิดขึ้นที่ตรงไหน
02:31
and what is the source of the lack of compassion in the world?
33
151000
5000
และอะไรเป็นเหตุให้โลกขาดความเมตตา
02:36
For the answer to this, we turn to our spiritual path.
34
156000
5000
เพื่อตอบคำถามนี้ เราพึงพิจารณาถึงมรรคาแห่งจิตวิญญาณ
02:41
In every religious tradition, there is the outer path and the inner path,
35
161000
7000
ศาสนาทุกศาสนาล้วนมีสิ่งที่เราเรียกว่า วิถีแห่งโลกภายนอกและวิถีของโลกภายใน
02:48
or the exoteric path and the esoteric path.
36
168000
5000
หรือวิถีทางวัตถุและวิถีแห่งจิตวิญญาณ
02:53
The esoteric path of Islam is more popularly known as Sufism, or "tasawwuf" in Arabic.
37
173000
8000
วิถีแห่งจิตวิญญาณของมุสลิมนั้นรู้จักกันทั่วไปในชื่อของนิกายซูฟีย์ หรือตะเซาวุฟ ในภาษาอาหรับ
03:01
And these doctors or these masters,
38
181000
3000
บรรดาผู้รู้หรือปรมาจารย์เหล่านี้
03:04
these spiritual masters of the Sufi tradition,
39
184000
4000
ปรมาจารย์ทางจิตวิญญาณของซูฟีย์
03:08
refer to teachings and examples of our prophet
40
188000
4000
ได้กล่าวถึงคำสอนและตัวอย่างของท่านองค์ศาสดา
03:12
that teach us where the source of our problems lies.
41
192000
4000
ซึ่งจะช่วยชี้แนะเราว่าสิ่งใดกันคือบ่อเกิดของปัญหา
03:16
In one of the battles that the prophet waged,
42
196000
4000
ในการศึกหนึ่งซึ่งองค์ศาสดาได้ร่วมรบ
03:20
he told his followers, "We are returning from the lesser war
43
200000
5000
ท่านกล่าวต่อสานุศิษย์ว่า "เรากลับจากสงครามเล็กน้อยนี้"
03:25
to the greater war, to the greater battle."
44
205000
4000
ไปสู่สงครามอันยิ่งใหญ่ สู่การศึกอันยิ่ง"
03:29
And they said, "Messenger of God, we are battle-weary.
45
209000
5000
สานุศิษย์กล่าวว่า "องค์ฑูตแห่งสวรรค์ เราหน่ายการศึกแล้ว
03:34
How can we go to a greater battle?"
46
214000
3000
จะเอากำลังแต่ไหน สู้ศึกอันยิ่ง?"
03:37
He said, "That is the battle of the self, the battle of the ego."
47
217000
8000
องค์ศาสดาตอบว่า "การศึกนั้นหรือคือการศึกกับตน การศึกต่ออัตตา"
03:45
The sources of human problems have to do with egotism, "I."
48
225000
9000
ต้นเหตุของปัญหาของมนุษย์ ล้วนเกี่ยวกับการยึดอัตตาเป็นใหญ่ หรือ 'ตัวข้าฯ'
03:54
The famous Sufi master Rumi, who is very well known to most of you,
49
234000
6000
ปรมาจารย์ซูฟีย์ผู้โด่งดัง ท่านรูมี ผู้ที่ท่านส่วนใหญ่รู้จักเป็นอย่างดี
04:00
has a story in which he talks of a man who goes to the house of a friend,
50
240000
6000
มีเรื่องเล่าว่าด้วยชายผู้หนึ่ง ซึ่งเดินทางไปยังบ้านของสหาย
04:06
and he knocks on the door,
51
246000
3000
เขาเคาะประตูบ้าน
04:09
and a voice answers, "Who's there?"
52
249000
3000
เสียงตอบกลับมาว่า "นั่นใคร?"
04:12
"It's me," or, more grammatically correctly, "It is I,"
53
252000
5000
"ฉันเอง" หรือพูดอีกอย่างก็คือ
04:17
as we might say in English.
54
257000
2000
"ข้าฯ" เอง
04:19
The voice says, "Go away."
55
259000
3000
เสียงนั้นว่า "ไปให้พ้น"
04:22
After many years of training, of disciplining, of search and struggle,
56
262000
8000
หลังจากฝึกฝน บำเพ็ญตน แสวงหา และเพียรพยายามอยู่หลายปี
04:30
he comes back.
57
270000
2000
เขาก็กลับมา
04:32
With much greater humility, he knocks again on the door.
58
272000
4000
และด้วยความถ่อมตนกว่าแต่ก่อนนัก เขาเคาะประตูอีกครั้ง
04:36
The voice asks, "Who is there?"
59
276000
3000
เสียงนั้นถามว่า "นั่นใคร"
04:39
He said, "It is you, O heartbreaker."
60
279000
4000
เขาตอบว่า "ก็ท่านไง โอ้ สหายรักของข้า"
04:43
The door swings open, and the voice says,
61
283000
4000
แล้วประตูก็เปิดออก และเสียงนั้นกล่าวว่า
04:47
"Come in, for there is no room in this house for two I's,"
62
287000
7000
"เข้ามาเถิด เพราะว่าในนี้ไม่มีที่พอสำหรับ 'ข้าฯ' ทั้งสอง"
04:54
-- two capital I's, not these eyes -- "for two egos."
63
294000
4000
ข้าฯ หรืออัตตาทั้งสองนะครับ
04:58
And Rumi's stories are metaphors for the spiritual path.
64
298000
9000
เรื่องที่ท่านรูมีเล่าไว้ เป็นการอุปมาถึงการเดินทาง ทางจิตวิญญาณนั่นเอง
05:07
In the presence of God, there is no room for more than one "I,"
65
307000
6000
ขณะใดที่พระเจ้าปรากฏ จะไม่เหลือเนื้อที่ให้อัตตาได้อาศัย
05:13
and that is the "I" of divinity.
66
313000
5000
อัตตวาทุปาทานจึงสลาย หลอมรวมเข้ากับสรรพสิ่ง
05:18
In a teaching -- called a "hadith qudsi" in our tradition --
67
318000
4000
ในหลักคำสอน ซึ่งชาวมุสลิมเรียกว่า ฮะดีษกุดซีย์ นั้น
05:22
God says that, "My servant," or "My creature, my human creature,
68
322000
6000
พระเจ้าตรัสว่า "สาวกของเรา" หรือ "สรรพชีวิต สรรพมนุษย์"
05:28
does not approach me by anything that is dearer to me
69
328000
6000
ไม่พึงติดตามเราได้ ด้วยการปฏิบัติอันนอกเหนือไปจาก
05:34
than what I have asked them to do."
70
334000
3000
ที่เราได้พร่ำสอน"
05:37
And those of you who are employers know exactly what I mean.
71
337000
4000
และท่านผู้ฟังที่เป็นนายจ้างคงเข้าใจดีว่าหมายถึงอะไร
05:41
You want your employees to do what you ask them to do,
72
341000
4000
ท่านย่อมอยากให้ลูกจ้างของท่าน ทำในสิ่งที่ท่านสั่งไว้
05:45
and if they've done that, then they can do extra.
73
345000
2000
เมื่อทำได้แล้ว จึงค่อยทำสิ่งอื่นนอกจากนั้น
05:47
But don't ignore what you've asked them to do.
74
347000
3000
แต่อย่าเพิกเฉยในสิ่งที่ท่านได้สั่งไว้
05:50
"And," God says, "my servant continues to get nearer to me,
75
350000
6000
และพระเจ้าตรัสว่า "สาวกของเราจะยิ่งใกล้เรามากขึ้นอีก
05:56
by doing more of what I've asked them to do" --
76
356000
3000
ด้วยการปฏิบัติให้มากขึ้นในสิ่งที่เราสอน"
05:59
extra credit, we might call it --
77
359000
2000
เป็นคะแนนพิเศษ ก็น่าจะเรียกได้
06:01
"until I love him or love her.
78
361000
4000
"จนกว่าเราจะรักเขาหรือเธอ
06:05
And when I love my servant," God says,
79
365000
3000
และเมื่อเรารักสาวกของเราแล้ว" พระเจ้าตรัส
06:08
"I become the eyes by which he or she sees,
80
368000
6000
เราจะกลายเป็นดวงตาที่เขาหรือเธอใช้ดู
06:14
the ears by which he or she listens,
81
374000
6000
เป็นหูที่เขาหรือเธอใช้ฟัง
06:20
the hand by which he or she grasps,
82
380000
5000
เป็นมือที่เขาหรือเธอใช้ยึดจับ
06:25
and the foot by which he or she walks,
83
385000
4000
และเป็นเท้าที่เขาหรือเธอใช้เดิน
06:29
and the heart by which he or she understands."
84
389000
5000
และเป็นหัวใจที่เขาหรือเธอใช้เข้าใจสรรพสิ่ง
06:34
It is this merging of our self with divinity
85
394000
5000
การหลอมรวมตัวตนเข้ากับความจริงสูงสุดนี้
06:39
that is the lesson and purpose of our spiritual path and all of our faith traditions.
86
399000
8000
เป็นบทศึกษาและจุดมุ่งหมายของการเดินทางทางจิตวิญญาณของศาสนศรัทธาทั้งมวล
06:47
Muslims regard Jesus as the master of Sufism,
87
407000
6000
ชาวมุสลิมนับถือพระเยซูว่า เป็นปรมาจารย์แห่งซูฟีย์
06:53
the greatest prophet and messenger who came to emphasize the spiritual path.
88
413000
7000
เป็นองค์ศาสดาและผู้นำสาส์น ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้เน้นย้ำวิถีแห่งจิตวิญญาณ
07:00
When he says, "I am the spirit, and I am the way,"
89
420000
4000
พระเยซูกล่าวว่า "เราคือพระจิต เราคือวิถีทาง"
07:04
and when the prophet Muhammad said, "Whoever has seen me has seen God,"
90
424000
5000
องค์ศาสดามูฮัมหมัดกล่าวว่า "ผู้ใดเห็นเรา ก็เท่ากับเห็นพระเจ้า"
07:09
it is because they became so much an instrument of God,
91
429000
5000
ที่กล่าวเช่นนั้นได้ เพราะองค์ศาสดาคือสื่อของพระเจ้า
07:14
they became part of God's team --
92
434000
2000
เป็นพระจิตของพระเจ้า
07:16
so that God's will was manifest through them,
93
436000
4000
ดังนั้นแล้ว พระประสงค์ของพระเจ้าจึงสำแดงผ่านพวกท่านได้
07:20
and they were not acting from their own selves and their own egos.
94
440000
4000
และมิได้กระทำการจากตัวตนหรืออัตตาของพวกท่านเอง
07:24
Compassion on earth is given, it is in us.
95
444000
7000
ความเมตตาบนโลกนั้นได้ถูกประทานมาให้แล้ว มันอยู่ในตัวเรานี่เอง
07:31
All we have to do is to get our egos out of the way,
96
451000
5000
สิ่งที่เราต้องทำมีเพียงแค่ขจัดอัตตาไปให้พ้นจากวิถีทางของเรา
07:36
get our egotism out of the way.
97
456000
3000
ขจัดการเอาอัตตาเป็นใหญ่ไปให้พ้นจากวิถีทางของเรา
07:39
I'm sure, probably all of you here, or certainly the very vast majority of you,
98
459000
8000
ข้าพเจ้าแน่ใจว่า ทุกท่านในที่นี้น่าจะ หรือส่วนใหญ่ของท่านผู้ฟังต้อง
07:47
have had what you might call a spiritual experience,
99
467000
4000
เคยประสบสิ่งที่ท่านอาจเรียกว่า ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ
07:51
a moment in your lives when, for a few seconds, a minute perhaps,
100
471000
7000
ซึ่งเป็นห้วงเวลาหนึ่งในชีวิตของท่าน อาจนานเพียงไม่กี่วินาทีหรือนาที
07:58
the boundaries of your ego dissolved.
101
478000
6000
ที่พรมแดนของอัตตาของท่านได้สลายหายไป
08:04
And at that minute, you felt at one with the universe --
102
484000
7000
และ ณ นาทีนั้นเอง ท่านก็รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันกับจักรวาล
08:11
one with that jug of water, one with every human being,
103
491000
6000
เป็นหนึ่งเดียวกันกับเหยือกน้ำอันนั้น เป็นหนึ่งเดียวกันกับมนุษยชาติ
08:17
one with the Creator --
104
497000
4000
เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระผู้สร้าง
08:21
and you felt you were in the presence of power, of awe,
105
501000
5000
และท่านรู้สึกได้ในการดำรงอยู่ของอำนาจนั้น ถึงความน่าเกรงขาม
08:26
of the deepest love, the deepest sense of compassion and mercy
106
506000
4000
ถึงความรักอันลึกล้ำที่สุด ความเมตตาและปราณีอันลึกล้ำที่สุด
08:30
that you have ever experienced in your lives.
107
510000
4000
เท่าที่ท่านได้เคยประสบมาในชีวิต
08:34
That is a moment which is a gift of God to us --
108
514000
6000
นั่นแหละคือช่วงเวลาที่พระเจ้าทรงประทาน เป็นของขวัญแก่เรา
08:40
a gift when, for a moment, he lifts that boundary
109
520000
4000
ของขวัญที่ ณ ห้วงเวลาหนึ่ง พระองค์ทรงยกพรมแดนนั้น
08:44
which makes us insist on "I, I, I, me, me, me,"
110
524000
6000
ที่ทำให้เราเอาแต่ยืนกรานว่า ฉัน ฉัน ฉัน ข้า ข้า ข้า
08:50
and instead, like the person in Rumi's story,
111
530000
4000
และเปลี่ยนไป เป็นเช่นเดียวกับชายในเรื่องของท่านรูมี
08:54
we say, "Oh, this is all you.
112
534000
6000
เราก็พูดว่า "อ้อ นี่คือท่านทั้งหมดเลย"
09:00
This is all you. And this is all us.
113
540000
2000
นี่คือท่านทั้งหมด และนี่คือเราทั้งหมด
09:02
And us, and I, and us are all part of you.
114
542000
6000
และเรา และข้าพเจ้า และพวกเรา ต่างเป็นส่วนหนึ่งของท่าน
09:08
O, Creator! O, the Objective! The source of our being
115
548000
6000
ผู้สร้างทั้งมวล จุดประสงค์ทั้งมวล จุดกำเนิดแห่งการมีอยู่ของเรา
09:14
and the end of our journey,
116
554000
2000
และจุดสิ้นสุดของการเดินทางของเรา
09:16
you are also the breaker of our hearts.
117
556000
5000
และท่านยังเป็นสหายรักของเรา
09:21
You are the one whom we should all be towards, for whose purpose we live,
118
561000
6000
ท่านเป็นเพียงผู้เดียวที่เราควรมุ่งตาม เพื่อจุดประสงค์ของท่านที่เราจะมีชีวิตอยู่
09:27
and for whose purpose we shall die,
119
567000
4000
และเพื่อจุดประสงค์ของท่าน ที่เราจะตาย
09:31
and for whose purpose we shall be resurrected again
120
571000
4000
และเพื่อจุดประสงค์ของท่าน ที่เราจะได้รับการชุบชีวิตอีกครั้ง
09:35
to account to God to what extent we have been compassionate beings."
121
575000
7000
เพื่ออธิบายต่อพระเจ้า ว่าเราได้ใช้ชีวิตอย่างมีเมตตามากน้อยปานใด
09:42
Our message today, and our purpose today,
122
582000
4000
สาส์นของเราในวันนี้ และจุดประสงค์ของเราในวันนี้
09:46
and those of you who are here today,
123
586000
3000
และท่านทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ในวันนี้
09:49
and the purpose of this charter of compassion, is to remind.
124
589000
5000
และจุดประสงค์ของบัญญัติแห่งความเมตตาอันนี้ ก็คือเพื่อเตือนให้รำลึก
09:54
For the Koran always urges us to remember, to remind each other,
125
594000
8000
ดังที่กุรอานตักเตือนเราอยู่เสมอให้จดจำ และคอยเตือนกันและกันให้รำลึก
10:02
because the knowledge of truth is within every human being.
126
602000
8000
เพราะว่าความรู้แห่งสัจจะนั้น ล้วนดำรงอยู่ในมนุษย์ทุกคน
10:10
We know it all.
127
610000
3000
เรารู้ทุกอย่าง
10:13
We have access to it all.
128
613000
2000
เราเข้าถึงได้ทุกอย่าง
10:15
Jung may have called it "the subconscious."
129
615000
4000
คาร์ล จุงเรียกสิ่งนี้ไว้ว่า จิตใต้สำนึก
10:19
Through our subconscious, in your dreams --
130
619000
4000
โดยผ่านจิตใต้สำนึก ภายในความฝันของท่าน
10:23
the Koran calls our state of sleep "the lesser death,"
131
623000
8000
ซึ่งกุรอานเรียกว่า สถานะหลับใหลของเรา ความตายขั้นต่ำกว่า
10:31
"the temporary death" --
132
631000
4000
ความตายชั่วขณะ
10:35
in our state of sleep we have dreams, we have visions,
133
635000
5000
ในขณะหลับใหลนั้น เรามีความฝัน เราเห็นภาพจินตนาการ
10:40
we travel even outside of our bodies, for many of us,
134
640000
6000
สำหรับหลายๆคนแล้ว เราเดินทางออกไปแม้แต่นอกร่างกายของเรา
10:46
and we see wonderful things.
135
646000
3000
และเราก็ได้เห็นสิ่งอันแสนวิเศษ
10:49
We travel beyond the limitations of space as we know it,
136
649000
5000
เราเดินทางไปไกลเกินขอบเขตของอวกาศที่เรารู้จัก
10:54
and beyond the limitations of time as we know it.
137
654000
4000
และไกลเกินขอบเขตของเวลาที่เรารู้จัก
10:58
But all this is for us to glorify the name of the creator
138
658000
10000
แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เราได้สรรเสริญพระนามของ พระผู้ทรงสร้าง
11:08
whose primary name is the compassionating, the compassionate.
139
668000
6000
ผู้ที่มีพระนามเบื้องต้นว่า ผู้เมตตา ผู้ทรงเปี่ยมเมตตา
11:14
God, Bokh, whatever name you want to call him with, Allah, Ram, Om,
140
674000
7000
พระเจ้า บ็อค หรือพระนามใดก็ตาม ที่ท่านจะเรียกขานพระองค์ อัลเลาะห์ ราม โอม
11:21
whatever the name might be through which you name
141
681000
3000
ไม่ว่าพระนามนั้นคืออะไรก็ตามที่ท่านตั้งให้
11:24
or access the presence of divinity,
142
684000
4000
หรือเพื่ออ้างอิงถึงการดำรงอยู่ของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
11:28
it is the locus of absolute being,
143
688000
6000
ล้วนแล้วเป็นแหล่งแห่งสิ่งมีชีวิตสูงสุด
11:34
absolute love and mercy and compassion,
144
694000
4000
ความรักและปราณีและเมตตาอันสูงสุด
11:38
and absolute knowledge and wisdom,
145
698000
3000
และความรู้และปัญญาอันสูงสุด
11:41
what Hindus call "satchidananda."
146
701000
3000
สิ่งที่ชาวฮินดูเรียกว่า 'สัตจิตานันทะ'
11:44
The language differs,
147
704000
3000
ภาษาอาจต่างกัน
11:47
but the objective is the same.
148
707000
4000
แต่เป้าประสงค์กลับไม่ต่างกัน
11:51
Rumi has another story
149
711000
2000
ท่านรูมีมีเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง
11:53
about three men, a Turk, an Arab and --
150
713000
3000
เกี่ยวกับคนสามคน ชาวเติร์ก ชาวอาหรับ
11:56
and I forget the third person, but for my sake, it could be a Malay.
151
716000
4000
และคนที่สามซึ่งข้าพเจ้าลืมเสียแล้ว เอาเป็นว่าชาวมาเลย์ก็แล้วกัน
12:00
One is asking for angur -- one is, say, an Englishman --
152
720000
3000
คนหนึ่งร้องขอ 'อังกูร์' อีกคน สมมติว่าเป็นคนที่พูดไทยได้แล้วกัน
12:03
one is asking for eneb, and one is asking for grapes.
153
723000
5000
ก็ร้องขอ 'อีเน็บ' และอีกคนก็ร้องขอ "องุ่น"
12:08
And they have a fight and an argument because
154
728000
3000
แล้วทั้งสามก็ทะเลาะถกเถียงกันเพราะว่า
12:11
-- "I want grapes." "I want eneb. "I want angur." --
155
731000
4000
ฉันจะเอาองุ่น ฉันจะเอาอีเน็บ ฉันจะเอาอังกูร์
12:15
not knowing that the word that they're using
156
735000
3000
โดยไม่รู้เลยว่าคำที่พวกเขากำลังใช้อยู่นั้น
12:18
refers to the same reality in different languages.
157
738000
3000
ต่างมีความหมายเดียวกันในภาษาที่ต่างกัน
12:21
There's only one absolute reality by definition,
158
741000
6000
มีความจริงสูงสุดได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นตามนิยาม
12:27
one absolute being by definition,
159
747000
3000
สิ่งมีชีวิตสูงสุดเพียงหนึ่งเดียว ตามนิยาม
12:30
because absolute is, by definition, single,
160
750000
3000
เพราะคำว่าสูงสุด ตามความหมาย ย่อมมีหนึ่งเดียว
12:33
and absolute and singular.
161
753000
3000
เป็นสิ่งสูงสุด และเป็นเอกพจน์
12:36
There's this absolute concentration of being,
162
756000
3000
มีสิ่งนี้อยู่ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมสูงสุดของสิ่งมีชีวิต
12:39
the absolute concentration of consciousness,
163
759000
3000
จุดศูนย์รวมสูงสุดของจิตสำนึกรู้
12:42
awareness, an absolute locus of compassion and love
164
762000
10000
จิตตระหนักรู้ เป็นแหล่งสูงสุดแห่งความเมตตาและความรัก
12:52
that defines the primary attributes of divinity.
165
772000
4000
ซึ่งเป็นสิ่งที่กำหนดคุณลักษณะเบื้องต้น ของพระผู้ศักดิ์สิทธิ์
12:56
And these should also be
166
776000
3000
และสิ่งนั้นแหละที่ควรเป็น
12:59
the primary attributes of what it means to be human.
167
779000
5000
คุณลักษณะเบื้องต้นของความหมาย ของการได้เป็นมนุษย์
13:04
For what defines humanity, perhaps biologically,
168
784000
6000
เพราะว่าสิ่งที่นิยามมนุษย์นั้น ในทางชีววิทยา
13:10
is our physiology,
169
790000
3000
ก็คือ กลไกทางสรีระของเรา
13:13
but God defines humanity by our spirituality, by our nature.
170
793000
8000
แต่พระเจ้าทรงนิยามมนุษย์ด้วยจิตวิญญาณของเรา ด้วยธรรมชาติของเรา
13:21
And the Koran says, He speaks to the angels and says,
171
801000
4000
และกุรอานกล่าวไว้ว่า พระองค์ตรัสกับบรรดาเทวดาและกล่าวว่า
13:25
"When I have finished the formation of Adam from clay,
172
805000
4000
"เมื่อเราเสร็จสิ้นการปั้นอดัมขึ้นมาจากคลีดิน
13:29
and breathed into him of my spirit,
173
809000
4000
และได้ระบายวิญญาณของเราสู่ร่างของอาดัม
13:33
then, fall in prostration to him."
174
813000
4000
แล้วจึงบันดาลให้เขากราบหมอบลง
13:37
The angels prostrate, not before the human body,
175
817000
8000
บรรดาเทวฑูตต่างกราบหมอบ มิใช่ต่อหน้าร่างของมนุษย์
13:45
but before the human soul.
176
825000
3000
แต่เป็นต่อหน้าวิญญาณมนุษย์
13:48
Why? Because the soul, the human soul,
177
828000
4000
เพราะอะไรหรือ? ก็เพราะว่าวิญญาณ วิญญาณมนุษย์นั้น
13:52
embodies a piece of the divine breath,
178
832000
6000
มีลมหายใจศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่
13:58
a piece of the divine soul.
179
838000
3000
มีพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่
14:01
This is also expressed in biblical vocabulary
180
841000
5000
เรื่องนี้ก็ถูกเล่าไว้ในคัมภีร์ไบเบิ้ลเช่นกัน
14:06
when we are taught that we were created in the divine image.
181
846000
6000
ที่กล่าวว่า เราถูกสร้างขึ้นมาตามพระฉายาศักดิ์สิทธิ์
14:12
What is the imagery of God?
182
852000
2000
อะไรคือพระฉายาของพระเจ้า?
14:14
The imagery of God is absolute being,
183
854000
4000
พระฉายาของพระเจ้าคือสิ่งมีชีวิตสูงสุด
14:18
absolute awareness and knowledge and wisdom
184
858000
3000
จิตตระหนักรู้ และความรู้ และปัญญาอันสูงสุด
14:21
and absolute compassion and love.
185
861000
3000
และเป็นความเมตตาและความรักอันสูงสุด
14:24
And therefore, for us to be human --
186
864000
4000
และ ฉะนั้นแล้ว หากเราจะเป็นมนุษย์
14:28
in the greatest sense of what it means to be human,
187
868000
4000
ในเชิงคุณค่าอันสูงสุดของความหมาย ของการเป็นมนุษย์
14:32
in the most joyful sense of what it means to be human --
188
872000
3000
ในเชิงคุณค่าอันน่าปลื้มปิติที่สุดของความหมายของการเป็นมนุษย์
14:35
means that we too have to be proper stewards
189
875000
6000
เราเองก็จะต้องประพฤติตนเป็นข้ารับใช้ที่เหมาะสม
14:41
of the breath of divinity within us,
190
881000
4000
ของลมหายใจของพระเจ้าที่สถิตอยู่ในเรา
14:45
and seek to perfect within ourselves the attribute of being,
191
885000
5000
และพยายามที่จะประพฤติตนอย่างสมบูรณ์ ซึ่งคุณลักษณะของสิ่งมีชีวิต
14:50
of being alive, of beingness;
192
890000
3000
ของการมีชีวิตอยู่ การมีตัวตนอยู่
14:53
the attribute of wisdom, of consciousness, of awareness;
193
893000
5000
คุณลักษณะแห่งปัญญา แห่งความสำนึกรู้ แห่งความตระหนักรู้
14:58
and the attribute of being compassionate and loving beings.
194
898000
5000
และคุณลักษณะของการเป็นสิ่งมีชีวิตอันเปี่ยมเมตตาและรัก
15:03
This is what I understand from my faith tradition,
195
903000
6000
นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าเข้าใจ จากศาสนศรัทธาของข้าพเจ้า
15:09
and this is what I understand from my studies of other faith traditions,
196
909000
7000
และจากศาสนศรัทธาอื่นที่ข้าพเจ้าได้ศึกษามา
15:16
and this is the common platform on which we must all stand,
197
916000
6000
และนี่แหละคือหลักพื้นฐานที่เราทั้งหมดต้องยืนร่วมกัน
15:22
and when we stand on this platform as such,
198
922000
3000
และเมื่อเรายืนร่วมกันบนหลักพื้นฐานนี้แล้ว
15:25
I am convinced that we can make a wonderful world.
199
925000
6000
ข้าพเจ้าเชื่อว่าเราจะสามารถ สร้างโลกอันแสนวิเศษได้
15:31
And I believe, personally, that we're on the verge
200
931000
6000
และข้าพเจ้าเชื่อโดยส่วนตัว ว่าเราใกล้ถึงจุดนั้นเต็มทีแล้ว
15:37
and that, with the presence and help of people like you here,
201
937000
4000
และด้วยการดำรงอยู่และความช่วยเหลือจากผู้คนเช่นท่าน ณ ที่นี่
15:41
we can bring about the prophecy of Isaiah.
202
941000
6000
เราจะทำให้คำพยากรณ์ของท่านอิสยาห์ เป็นจริงขึ้นได้
15:47
For he foretold of a period
203
947000
4000
ดังที่ท่านพยากรณ์ไว้ว่าจะมียุค
15:51
when people shall transform their swords into plowshares
204
951000
7000
ที่ผู้คนเปลี่ยนดาบเป็นคันไถ
15:58
and will not learn war or make war anymore.
205
958000
6000
และจะไม่เรียนการศึกหรือทำสงครามต่อไปอีก
16:04
We have reached a stage in human history that we have no option:
206
964000
6000
เราได้มาถึง ณ จุดนี้ของประวัติศาสตร์มนุษย์ ที่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
16:10
we must, we must lower our egos,
207
970000
9000
เราต้อง เราต้องลดอัตตาของเราลง
16:19
control our egos -- whether it is individual ego, personal ego,
208
979000
5000
ควบคุมอัตตาของเรา ไม่ว่าจะเป็นอัตตาเชิงปัจเจก อัตตาส่วนตัว
16:24
family ego, national ego --
209
984000
6000
อัตตาครอบครัว อัตตาเชื้อชาติ
16:30
and let all be for the glorification of the one.
210
990000
5000
และร่วมกัน เพื่อเป็นการสรรเสริญแก่พระหนึ่งเดียว
16:35
Thank you, and God bless you.
211
995000
2000
ขอบคุณ และขอพระเจ้าทรงคุ้มครองครับ
16:37
(Applause)
212
997000
1000
(ปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7