5 ways to kill your dreams | Bel Pesce

Translator: Weerawan Thongpradab Reviewer: Pathumjit Atikomkamalasai

ฉันอุทิศช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา เพื่อทำความเข้าใจว่า

I dedicated the past two years to understanding

how people achieve their dreams.

คนเราจะทำความฝันให้สำเร็จได้อย่างไร

When we think about the dreams we have,

เมื่อคนเราคิดถึงความฝันที่เรามี

and the dent we want to leave in the universe,

และร่องรอยที่เราอยากจารึกไว้ในจักรวาล

น่าตกตะลึงที่มันช่างสอดคล้องกันมาก

it is striking to see how big of an overlap there is

between the dreams that we have, and projects that never happen.

ระหว่างความฝันที่เรามี และโปรเจคที่ไม่เคยเกิดขึ้น

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

So I'm here to talk to you today

ดังนั้น สิ่งที่ฉันจะมาพูดกับคุณในวันนี้

about five ways how not to follow your dreams.

คือห้าวิธีที่จะไม่ทำให้ฝันของคุณเป็นจริง

หนึ่ง: เชื่อในความสำเร็จชั่วข้ามคืน

One: Believe in overnight success.

You know the story, right?

คุณรู้จักเรื่องราวเหล่านี้ดี ใช่ไหมคะ

The tech guy built a mobile app and sold it very fast for a lot of money.

นักพัฒนาแอ็พบนมือถือ และได้เงินจำนวนมาก จากการขายอย่างรวดเร็ว

You know, the story may seem real, but I bet it's incomplete.

คุณรู้ไหมคะ เรื่องราวมันดูเหมือน จะเป็นอย่างนั้น แต่ฉันพนันได้ว่ามันไม่ง่าย

If you go investigate further,

ถ้าคุณพิจารณามากขึ้น

the guy has done 30 apps before

ชายคนนั้นได้สร้างแอ็พมาแล้ว 30 แอ็พ

and he has done a master's on the topic, a PhD.

และเข้าได้ทำการศึกษาหัวข้อนั้น ในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก

He has been working on the topic for 20 years.

ได้ทำงานในหัวข้อนั้นมาร่วม 20 ปี

This is really interesting.

ฉันมีเรื่องน่าสนใจจะเล่าให้ฟัง

I myself have a story in Brazil that people think is an overnight success.

ฉันเองก็มีเรื่องเล่าจากบราซิล ที่คนทั่วไปคิดว่าคือความสำเร็จชั่วข้ามคืน

I come from a humble family,

ฉันมาจากครอบครัวชนชั้นล่าง

and two weeks before the deadline to apply for MIT,

และสองอาทิตย์ก่อนจะถึงวันสุดท้ายของ การเปิดรับสมัครเรียนที่ MIT

I started the application process.

ฉันเพิ่งจะเริ่มสมัคร

And, voilà! I got in.

และ วัลล่า! MIT รับฉันเข้า

People may think it's an overnight success,

คนอาจจะคิดว่ามันคือความสำเร็จชั่วข้ามคืน

but that only worked because for the 17 years prior to that,

แต่มันเกิดขึ้นได้ก็เพราะ 17 ปีก่อนหน้านั้น

I took life and education seriously.

ฉันให้ความสำคัญกับชีวิต และการเรียนอย่างจริงจัง

Your overnight success story is always a result

ความสำเร็จชั่วข้ามคืน จริงๆแล้วเป็นเพียงผลลัพธ์

of everything you've done in your life through that moment.

ของทุกสิ่งที่คุณทำในชีวิตเพื่อไปถึงจุดนั้น

Two: Believe someone else has the answers for you.

สอง: เชื่อว่าคนอื่นมีคำตอบสำหรับคุณ

Constantly, people want to help out, right?

คนอื่นน่ะอยากช่วยอยู่ตลอดเวลา ใช่ไหมคะ

All sorts of people: your family, your friends, your business partners,

คนทุกรูปแบบ: ครอบครัว เพื่อน หุ้นส่วนธุรกิจของคุณ

พวกเขาต่างก็มีความเห็นในเส้นทางชีวิต ที่คุณควรจะเลือก:

they all have opinions on which path you should take:

"And let me tell you, go through this pipe."

"ฉันจะบอกให้นะ เดินผ่านท่อนี้ไปเลย"

But whenever you go inside,

แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณเดินเข้าไป มันก็ยังมีทางอื่นที่คุณต้องตัดสินใจเลือก

there are other ways you have to pick as well.

And you need to make those decisions yourself.

และคุณก็ต้องตัดสินใจด้วยตัวคุณเอง

No one else has the perfect answers for your life.

ไม่มีใครอื่น ที่มีคำตอบที่ถูกต้องที่สุด สำหรับชีวิตคุณ

And you need to keep picking those decisions, right?

และคุณก็ต้องค่อยตัดสินใจอยู่เรื่อยๆ ใช่ไหมคะ

The pipes are infinite and you're going to bump your head,

ท่อนี้ไม่มีทางสิ้นสุด และศีรษะคุณ จะชนนู่นนี่บ้าง

and it's a part of the process.

มันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ

Three, and it's very subtle but very important:

สาม และมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่สำคัญมาก:

Decide to settle when growth is guaranteed.

ตัดสินใจที่จะวางมือ เมื่อการเติบโต เกิดอย่างแน่นอน

So when your life is going great,

เมื่อชีวิตคุณกำลังไปได้ดี

you have put together a great team,

คุณมีทีมงานที่ดีเยี่ยม

and you have growing revenue, and everything is set --

และคุณทำให้รายรับมากขึ้น และทุกสิ่งเข้าที่เข้าทาง

time to settle.

ได้เวลาที่จะวางมือละ

When I launched my first book,

เมื่อหนังสือเล่มแรกของฉันวางขาย

ฉันทำงานหนักมาก ลงแรกอย่างหนัก เพื่อนให้มันกระจายไปทุกที่ในบราซิล

I worked really, really hard to distribute it everywhere in Brazil.

ซึ่งนั้น ทำให้มีคนมากกว่าสามล้านคน ดาวน์โหลดมัน

With that, over three million people downloaded it,

over 50,000 people bought physical copies.

มากกว่า 50,000 คนที่ซื้อเล่มหนังสือ

When I wrote a sequel, some impact was guaranteed.

เมื่อฉันเขียนหนังสือเล่มต่อ ผลกระทบบางอย่างก็ย่อมเกิดแน่นอน

Even if I did little, sales would be OK.

ไม่ว่าเนื้อหาจะน้อยแค่ไหน การขายก็ยังเป็นไปได้โอเค

But OK is never OK.

แต่โอเคก็ไม่โอเคเสมอไป

When you're growing towards a peak,

เมื่อคุณเติบโตจนถึงจุดสูงสุด

you need to work harder than ever and find yourself another peak.

คุณต้องทำงานหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่า และพาตัวคุณไปถึงจุดสูงสุดอีกจุดหนึ่ง

Maybe if I did little,

บางที ถ้าฉันลงมือทำเล็กน้อย คนสักสอง สามหมื่นอาจจะอ่านมัน

a couple hundred thousand people would read it,

and that's great already.

และนั้นก็ดีมากแล้ว

But if I work harder than ever,

แต่ถ้าฉันทำงานหนักยิ่งกว่าที่เคย

I can bring this number up to millions.

ฉันสามารถทำให้คนเป็นหลักล้านอ่านมัน

That's why I decided, with my new book, to go to every single state of Brazil.

นั้นคือเหตุผลที่ฉันตัดสินใจว่า หนังสือ เล่มใหม่ของฉัน จะอยู่ในทุกๆเมืองในบราซิล

And I can already see a higher peak.

และฉันสามารถเห็นจุดสูงสุดที่สูงขึ้นกว่าเดิม

There's no time to settle down.

มันไม่มีเวลาที่จะวางมือหรอกค่ะ

Fourth tip, and that's really important:

เคล็ดลับที่สี่ และก็สำคัญมาก:

Believe the fault is someone else's.

เชื่อว่าความผิดพลาดเป็นของคนอื่น

I constantly see people saying,

ฉันมักจะได้ยินคนพูดอยู่เรื่อยๆว่า

"ใช่ ฉันมีไอเดียที่ดี แต่ไม่มีนักลงทุน ที่มีวิสัยทัศน์พอที่จะลงทุน"

"Yes, I had this great idea, but no investor had the vision to invest."

"โอ้ ฉันสร้างสินค้าที่ยอดเยี่ยม

"Oh, I created this great product,

but the market is so bad, the sales didn't go well."

แต่ตลาดแย่มาก การขายเลยเป็นไปได้ไม่ดี"

Or, "I can't find good talent; my team is so below expectations."

หรือ "ฉันหาคนมีความสามารถไม่ได้ ทีมของฉันตอนนี้ต่ำกว่าความคาดหวังมากๆ"

If you have dreams,

ถ้าคุณมีความฝัน

it's your responsibility to make them happen.

มันคือความรับผิดชอบของคุณ ที่จะทำให้เป็นจริง

Yes, it may be hard to find talent.

ใช่ มันอาจจะยากที่จะหาคนมีความสามารถ

Yes, the market may be bad.

ใช่ ตลาดอาจจะแย่

But if no one invested in your idea,

แต่ถ้าไม่มีใครมาลงทุนกับไอเดียของคุณ

if no one bought your product,

ถ้าไม่มีใครซื้อสินค้าของคุณ

for sure, there is something there that is your fault.

แน่นอน มันต้องมีความผิดพลาดบางอย่าง ที่เป็นของคุณ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Definitely.

แน่นอนที่สุด

You need to get your dreams and make them happen.

คุณต้องลงมือทำให้ความฝันของคุณเป็นจริง

And no one achieved their goals alone.

และไม่มีใครจะถึงเป้าหมายได้เพียงลำพัง

But if you didn't make them happen, it's your fault and no one else's.

แต่ถ้าคุณไม่ทำให้มันเกิดขึ้น มันคือ ความผิดของคุณ ไม่ใช่ของคนอื่น

Be responsible for your dreams.

จงรับผิดชอบต่อความฝันของตัวเอง

และเคล็ดลับสุดท้าย ข้อนี้ก็สำคัญเช่นกัน:

And one last tip, and this one is really important as well:

Believe that the only things that matter are the dreams themselves.

เชื่อความสิ่งเดียวที่สำคัญคือความฝัน

Once I saw an ad, and it was a lot of friends,

เมื่อฉันเห็นโฆษณาชิ้นนึง ที่แสดงเพื่อนกลุ่มใหญ่

they were going up a mountain, it was a very high mountain,

พวกเขาปีนขึ้นไปบนเขาที่สูงมาก

and it was a lot of work.

และพวกเขาต้องพยายามอย่างหนัก

You could see that they were sweating and this was tough.

คุณเห็ว่าพวกเขาเหงื่อท่วมตัว และมันก็ยากลำบากมาก

And they were going up, and they finally made it to the peak.

พวกเขาปีนขึ้นไป และสุดท้ายก็ถึงยอดเขา

Of course, they decided to celebrate, right?

แน่นอน พวกเขาก็เฉลิมฉลองกัน

I'm going to celebrate, so, "Yes! We made it, we're at the top!"

เป็นฉันก็คงฉลองเหมือนกัน

"ใช่! เราทำได้ เราถึงจุดสูงสุดแล้ว!"

Two seconds later, one looks at the other and says,

สองนาทีจากนั้น คนนึงก็มองเพื่อนๆแล้วพูดว่า

"OK, let's go down."

"โอเค เราลงกันเถอะ"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Life is never about the goals themselves.

ชีวิตไม่ได้มีแค่เพื่อจุดหมายเท่านั้น

Life is about the journey.

ชีวิตคือการเดินทาง

Yes, you should enjoy the goals themselves,

ใช่ คุณควรสนุกกับการไปให้ถึงเป้าหมาย

but people think that you have dreams,

แต่คนเราคิดว่าคุณมีความฝัน

and whenever you get to reaching one of those dreams,

และเมื่อคุณไปถึงความฝันหนึ่งในนั้น

it's a magical place where happiness will be all around.

มันคือที่ๆแสนวิเศษ เต็มไปด้วยความสุข

But achieving a dream is a momentary sensation,

แต่การไปถึงความฝัน คือความรู้สึกแค่ชั่วขณะ

และชีวิตคุณไม่ใช่แบบนั้น

and your life is not.

The only way to really achieve all of your dreams

วิธีเดียวที่จะบรรลุความฝันของคุณได้

is to fully enjoy every step of your journey.

คือการมีความสุขกับทุกๆก้าว ของการเดินทางในชีวิต

That's the best way.

นั่นคือวิธีที่ดีที่สุด

And your journey is simple -- it's made of steps.

การเดินทางก็แสนง่ายดาย มันเริ่มต้นด้วยการก้าวเดิน

บางก้าวอาจจะไปได้ดี

Some steps will be right on.

Sometimes you will trip.

บางก้าวอาจจะสะดุด

If it's right on, celebrate, because some people wait a lot to celebrate.

ถ้ามันเป็นไปได้ดี ก็ยินดีกับมัน เพราะบางคน รอนานเกินไปเพียงเพื่อจะรู้สึกยินดี

And if you tripped, turn that into something to learn.

และเมื่อคุณสะดุดล้ม เปลี่ยนมันให้เป็นบทเรียน

If every step becomes something to learn or something to celebrate,

เมื่อทุกๆก้าวกลายเป็นการเรียนรู้ หรือสิ่งที่น่ายินดี

you will for sure enjoy the journey.

คุณจะมีความสุขกับการเดินทางในชีวิต อย่างแน่นอน

So, five tips:

ค่ะ เคล็ดลับห้าข้อ:

Believe in overnight success,

เชื่อในความสำเร็จชั่วข้ามคืน

believe someone else has the answers for you,

เชื่อว่าคนอื่นมีคำตอบให้กับคุณ

believe that when growth is guaranteed, you should settle down,

เชื่อว่าเมื่อการเติมโตได้รับการรับประกันผล คุณจะวางมือ

believe the fault is someone else's,

เชื่อว่าความผิดเป็นของคนอื่น

and believe that only the goals themselves matter.

และเชื่อว่าเป้าหมายเท่านั้นที่สำคัญ

Believe me, you do that, and you will destroy your dreams.

เชื่อฉันค่ะ ถ้าคุณทำแบบนี้ คุณจะทำลายความฝันของคุณได้

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

Thanks.

(Applause)