Unveiling game-changing wearable tech | Pattie Maes

Translator: Apichart Jearasatit Reviewer: Patra Pantupat

I've been intrigued by this question

ที่ผ่านมาดิฉันขบคิดกับคำถามที่ว่า

มนุษย์จะสามารถคิดค้นและสร้างประสาทสัมผัสที่หกได้หรือไม่

of whether we could evolve or develop a sixth sense --

ประสาทสัมผัสที่ทำให้เราเข้าถึงได้อย่างไร้ขอบเขต

a sense that would give us seamless access

and easy access to meta-information or information that may exist somewhere

และเข้าถึงความรู้ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย

หรืออาจจะข้อมูลอะไรก็ได้ที่มีอยู่สักแห่ง

that may be relevant to help us make the right decision

ที่เราต้องการเพื่อช่วยให้เราสามารถ ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

about whatever it is that we're coming across.

และไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้เรากำลังพัฒนามันอยู่

หลายคนในที่นี้อาจแย้งว่า

And some of you may argue,

"Well, don't today's cell phones do that already?"

"เอ๊..ทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือ ก็สามารถทำอย่างที่ว่าได้แล้วไม่ใช่หรือ"

But I would say no.

แต่ ดิฉันจะขอตอบว่ายังทำไม่ได้

When you meet someone here at TED --

เช่น เมื่อคุณเจอใครซักคนที่งาน TED นี้

and this is the top networking place, of course, of the year --

ซึ่งเป็นงานที่รวมผู้คนที่มีชื่อเสียงของปี

เมื่อคุณจับมือกับใครสักคน

you don't shake somebody's hand

คุณก็จะบอกว่า "กรุณาช่วยรอสักครู่นะคะ"

and then say, "Can you hold on for a moment

while I take out my phone and Google you?"

"ดิฉันขอใช้โทรศัพท์มือถือเข้าเวบกูเกิลหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณก่อน"

หรือเช่นเมื่อคุณเข้าร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต

Or when you go to the supermarket

and you're standing there in that huge aisle

แล้วยืนอยู่หน้าชั้นวางสินค้าขนาดใหญ่

of different types of toilet papers,

ที่มีกระดาษชำระหลายประเภท

you don't take out your cell phone, and open a browser,

คุณก็ต้องหยิบโทรศัพท์มือถือเปิดอินเตอร์เนต

and go to a website to try to decide which of these different toilet papers

และไปหาข้อมูลในเวบไซต์เพื่อจะตัดสินใจว่า

กระดาษชำระอันไหน

is the most ecologically responsible purchase to make.

ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด แล้วจึงซื้อ

สรุปคือเรายังไม่สามารถเข้าถึง

So we don't really have easy access to all this relevant information

ข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวก

that can just help us make optimal decisions

ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีที่สุด

ว่าเราจะทำอะไรต่อไปและจะเลือกอันไหน

about what to do next and what actions to take.

ด้วยเหตุนี้ ทีมวิจัยของดิฉันที่มีเดียแล๊ป

And so my research group at the Media Lab

has been developing a series of inventions

ได้พัฒนาสิ่งประดิษฐ์หลายอย่าง

ที่จะช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูล

to give us access to this information in a sort of easy way,

ได้อย่างง่ายดายขึ้น

without requiring that the user changes any of their behavior.

โดยไม่ต้องพยายามหรือเปลี่ยนท่าทางเลย

And I'm here to unveil our latest effort,

และดิฉันมาที่งานนี้เพื่อจะแสดง

สิ่งประดิษฐ์ชิ้นล่าสุด

and most successful effort so far,

และเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดตั้งแต่ทำมา

which is still very much a work in process.

แต่ก็ยังคงต้องปรับปรุงและพัฒนาอีกมาก

I'm actually wearing the device right now and we've sort of cobbled it together

จริงๆ แล้วดิฉันก็ใส่อุปกรณ์ที่ว่านี้อยู่ตอนนี้

และเรานำอุปกรณ์ต่างๆ นี้มารวมกัน

with components that are off the shelf --

และส่วนประกอบเหล่านี้ก็เอามาจากร้านค้า

and that, by the way, only cost 350 dollars at this point in time.

ที่จริงเมื่อรวมแล้วมันมีต้นทุน เพียง 350 เหรียญเท่านั้น

สำหรับในขณะนี้

I'm wearing a camera, just a simple web cam,

ดิฉันกำลังสวมกล้องวิดีโอธรรมดา

a portable, battery-powered projection system with a little mirror.

และเครื่องฉายภาพขนาดพกพาที่มีถ่านในตัว กับกระจกเล็กๆ

These components communicate to my cell phone in my pocket

อุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้ จะส่งข้อมูลไปยังโทรศัพท์มือถือของฉันในกระเป๋า

which acts as the communication and computation device.

ซึ่งทำหน้าที่่รับส่งข้อมูลต่อไปยังอินเตอร์เนต และประมวลผล

And in the video here we see my student Pranav Mistry,

และในวิดีโอที่แสดงอยู่นี้ นักเรียนของฉัน ปรานาฟ มิสตรี้

who's really the genius who's been implementing

ซึ่งเป็นอัจฉริยะที่สร้าง

and designing this whole system.

และออกแบบระบบทั้งหมดนี้

And we see how this system lets him walk up to any surface

แล้วเราจะมาดูกันว่าระบบนี้ทำงานอย่างไร

ลองให้เขาออกไปทดลองกับพื้นผิวต่างๆ

and start using his hands to interact with the information

แล้วใช้มือของเขาโต้ตอบกับข้อมูล

that is projected in front of him.

ซึ่งแสดงอยู่ตรงหน้าของเขา

The system tracks the four significant fingers.

อุปกรณ์จะติดตามการเคลื่อนไหวของนิ้ว 4 นิ้ว

In this case, he's wearing simple marker caps

และในกรณีนี้เขาได้สวมเทปธรรมดาที่มีสีไว้ที่นิ้ว

that you may recognize.

ซึ่งคุณก็หาได้

But if you want a more stylish version,

แต่ถ้าคุณต้องการให้มันเท่ห์กว่านี้

you could also paint your nails in different colors.

คุณก็สามารถทาสีที่เล็บด้วยสีที่ต่างกันแทนก็ได้

And the camera basically tracks these four fingers

แล้วกล้องวิดีโอจะติดตามนิ้วทั้ง 4 ของเขา

and recognizes any gestures that he's making

และจดจำท่าทางที่เขากำลังทำอยู่

และยกตัวอย่างเช่นเขาอาจจะหา แผนที่ของลองบีช

so he can just go to, for example, a map of Long Beach,

zoom in and out, etc.

ขยายเข้า ขยายออก เป็นต้น

The system also recognizes iconic gestures such as the "take a picture" gesture,

ระบบนี้ก็ยังสามารถจำสัญลักษณ์ท่าทางต่างๆ

เช่น ท่าถ่ายภาพ

and then takes a picture of whatever is in front of you.

และระบบก็จะถ่ายภาพอะไรก็ได้ที่อยู่ตรงหน้าคุณ

และเมื่อเขากลับมาที่ มีเดียแล๊ป

And when he then walks back to the Media Lab,

he can just go up to any wall

เขาสามารถที่จะนำรูปไปแสดงบนผนังใดก็ได้

and project all the pictures that he's taken,

และดูรูปที่ได้ถ่ายมาทั้งหมด

sort through them and organize them, and re-size them, etc.,

คัดเลือกและจัดเรียงรูปภาพ

และปรับขนาดรูปภาพ เป็นต้น

again using all natural gestures.

และ นี่คือการใช้ท่าทางที่เป็นธรรมชาติจริงๆ

เอ่อ สองปีที่แล้ว พวกคุณหลายคนอาจมาที่งานนี้

So, some of you most likely were here two years ago

และเห็นการสาธิตโดย เจฟ ฮาน

and saw the demo by Jeff Han, or some of you may think,

"Well, doesn't this look like the Microsoft Surface Table?"

และคุณอาจคิดว่า "อุปกรณ์นี้ก็เหมือนโต๊ะสัมผัส ของไมโครซอฟท์ไม่ใช่หรือ"

And yes, you also interact using natural gestures,

ตอบว่าใช่ คุณก็สามารถโต้ตอบได้ โดยใช้ท่าทางที่เป็นธรรมชาติ

both hands, etc.

เช่นทั้งสองมือ เป็นต้น

But the difference here is that you can use any surface,

แต่สิ่งที่แตกต่างคือ อุปกรณ์นี้สามารถใช้กับพื้นผิวอะไรก็ได้

you can walk up to any surface,

คุณสามารถใช้กับพื้นผิวไหนก็ได้

including your hand, if nothing else is available,

ซึ่งแม้แต่มือของคุณถ้ามันไม่มีพื้นผิวใดๆ แล้ว

and interact with this projected data.

และโต้ตอบกับข้อมูลที่เครื่องฉายภาพแสดงออกมา

The device is completely portable, and can be --

อุปกรณ์นี้มันสามารถพกพาได้อย่างสมบูรณ์

และก็สามารถ.......

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

(Applause ends)

So, one important difference is that it's totally mobile.

ข้อแตกต่างที่สำคัญคือ อุปกรณ์นี้มันสามารถเคลื่อนย้ายไปที่ไหนก็ได้

Another even more important difference is that in mass production,

และข้อแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างคือ เมื่อผลิตในจำนวนมากแล้ว

this would not cost more tomorrow than today's cell phones

ราคามันก็จะไม่แพงไปกว่า โทรศัพท์มือถือที่ใช้อยู่ในทุกวันนี้เลย

and would actually not sort of be a bigger packaging --

และมันอาจจะไม่ใหญ่เทอะทะ

could look a lot more stylish

และอาจจะทำให้ดูเท่ห์ล้ำสมัย

than this version that I'm wearing around my neck.

กว่ารุ่นที่ฉันกำลังห้อยไว้ที่คอฉันนี่

และนอกจากนั้นก็ ทำให้คุณเหมือนอยู่ในนิยาย

But other than letting some of you live out your fantasy

และดูเท่ห์เหมือน ทอม ครูซ ในภาพยนตร์เรื่อง "Minority Report"

of looking as cool as Tom Cruise in "Minority Report,"

เหตุผลที่เราตื่นเต้นกับอุปกรณ์นี้

the reason why we're really excited about this device

ก็เพราะว่ามันสามารถทำหน้าที่ เหมือนประสาทสัมผัสที่หก

is that it really can act as one of these sixth-sense devices

that gives you relevant information about whatever is in front of you.

ที่สามารถทำให้เราเข้าถึงข้อมูลต่างๆ

เกี่ยวกับอะไรก็ได้ที่อยู่ตรงหน้าคุณ

ดังเช่นที่เราเห็น ปรานาฟกำลังไปที่ร้านซุปเปอร์มาร์เก๊ต

So we see Pranav here going into the supermarket

and he's shopping for some paper towels.

และเขากำลังเลือกซื้อกระดาษทิชชู

And, as he picks up a product,

และระหว่างที่เขาหยิบสินค้า ระบบก็จะจดจำ

the system can recognize the product that he's picking up,

สินค้าที่เขากำลังเลือก

using either image recognition or marker technology,

โดยอาจใช้การจดจำแบบรูปภาพ หรือเทคโนโลยีการจับสีที่นิ้ว

and give him the green light or an orange light.

และตอบกลับเขาด้วยสีเขียวหรือสีส้ม

He can ask for additional information.

เขาก็สามารถถามข้อมูลอื่นๆ เพื่มได้

So this particular choice here

ซึ่งเกณฑ์การเลือกนี้

is a particularly good choice, given his personal criteria.

ก็เป็นเกณฑ์ที่ตั้งตามที่เขาต้องการ

Some of you may want the toilet paper with the most bleach in it

พวกคุณบางคนอาจต้องการ กระดาษชำระชนิดที่ผ่านการฟอกขาว

rather than the most ecologically responsible choice.

มากกว่าชนิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

(Laughter)

(หัวเราะ)

If he picks up a book in the bookstore, he can get an Amazon rating --

และเมื่อเขาหยิบหนังสือในร้าน

เขาก็สามารถหาข้อมููลการจัดอันดับจากเวบไซต์อะแมซอน

it gets projected right on the cover of the book.

โดยจะแสดงที่หน้าปกของหนังสือ

นี่คือหนังสือที่เขียนโดย คุณฮวน คนที่มาพูดในงาน TED ก่อนหน้านี้

This is Juan's book, our previous speaker,

which gets a great rating, by the way, at Amazon.

ซึ่งได้รับการจัดอันดับยอดเยี่ยมโดย อะแมซอน

And so, Pranav turns the page of the book

และ ปรานาฟก็เปิดหน้าหนังสือ

and can then see additional information about the book --

และสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมของหนังสือได้

reader comments, maybe sort of information by his favorite critic, etc.

เช่น ความเห็นของผู้อ่าน และอาจจะเป็นข้อวิจารณ์ จากคนที่เขาชอบ เป็นต้น

If he turns to a particular page,

และถ้าเขาเปิดไปที่หน้าใดหน้านึง

he finds an annotation by maybe an expert or a friend of ours

เขาเจอหมายเหตุซึ่งอาจจะเป็นความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งเพื่อนของเรา

that gives him a little bit of additional information

ซึ่งจะสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมบ้าง

เกี่ยวกับอะไรก็ได้ที่อยู่บนหน้านั้น

about whatever is on that particular page.

แล้วการอ่านหนังสือพิมพ์

Reading the newspaper -- it never has to be outdated.

ก็จะไม่เหมือนเดิมเช่นกัน

(Laughter)

(หัวเราะ)

You can get video annotations of the events that you're reading about.

คุณสามารถดูวิดีโอเกี่ยวกับเรื่องที่คุณกำลังอ่าน

You can get the latest sports scores, etc.

คุณสามารถหาผลล่าสุดของการแข่งกีฬา

เอ่อ..จริงๆ อันนี้อาจไม่เหมาะสมนักก็ได้

This is a more controversial one.

(Laughter)

(หัวเราะ)

As you interact with someone at TED,

และเมื่อคุณพูดคุยกับใครที่งาน TED

maybe you can see a word cloud of the tags,

คุณอาจสามารถมองเห็นข้อมูล

the words that are associated with that person

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคนคนนั้น

in their blog and personal web pages.

ซึ่งมากจากบล๊อกหรือเวบไซต์ของเขา

In this case, the student is interested in cameras, etc.

เช่นในวิดีโอ นักเรียนคนนี้สนใจเรื่องกล้องถ่ายภาพ เป็นต้น

On your way to the airport,

และระหว่างที่คุณเดินทางไปสนามบิน

if you pick up your boarding pass, it can tell you that your flight is delayed,

เมื่อคุณหยิบบัตรผ่านขึ้นเครื่องมาดู มันก็สามารถบอกได้ว่าเครื่องได้ล่าช้า

that the gate has changed, etc.

และประตูขึ้นเครื่องได้เปลี่ยนไป เป็นต้น

And, if you need to know what the current time is,

และถ้าคุณต้องการทราบว่าขณะนี้เวลาเท่าไร

it's as simple as drawing a watch --

ก็ทำได้ง่ายๆ โดยการวาดนาฬิกา

(Laughter)

(หัวเราะ)

(Applause)

(ปรบมือ)

on your arm.

บนแขนของคุณ

และทั้งหมดนี้คือความก้าวหน้าที่เราได้ทำ

So that's where we're at so far in developing this sixth sense

ในการพัฒนาปราสาทสัมผัสที่หกที่จะ

that would give us seamless access to all this relevant information

ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างไร้ขอบเขต

about the things that we may come across.

และอะไรที่เราได้เกริ่นไว้ก่อนนี้

My student Pranav, who's really, like I said, the genius behind this.

และนี่คือ ปรานาฟ นักเรียนอัจฉริยะที่คิดค้นอุปกรณ์นี้ขึ้น

(ผู้ชมทั้งห้องยืนขึ้นพร้อมกับปรบมือให้เกียรติ)

(Applause and cheering)

(Applause ends)

He does deserve a lot of applause,

เขาสมควรที่จะได้รับการปรบมือ เพราะดิฉันคิดว่า

because I don't think he's slept much in the last three months, actually.

เขาคงไม่ได้พักผ่อนมากนักในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

And his girlfriend is probably not very happy about him either.

ซึ่งแฟนของเขาก็คงไม่ได้ชอบมากนักเช่นกัน

But it's not perfect yet, it's very much a work in progress.

แต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์นัก และมันยังต้องปรับปรุงอีกมาก

And who knows, maybe in another 10 years

แต่ใครจะรู้หละ บางทีในอีก 10 ปีข้างหน้า เราอาจจะมาที่นี่พร้อมกับ

we'll be here with the ultimate sixth sense brain implant.

อุปกรณ์ประสาทสัมผัสที่หกที่สามารถสั่งการโดยสมอง

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

(Applause)

(ปรบมือ)