Questioning the universe | Stephen Hawking

Translator: Taweesak Paepimparath Reviewer: Prathan Thananart

There is nothing bigger or older than the universe.

ไม่มีอะไรจะใหญ่หรืออายุมากไปกว่าเอกภพ

คำถามที่ผมจะพูดถึงในวันนี้คือ

The questions I would like to talk about are:

ข้อหนึ่ง เรามาจากไหน?

one, where did we come from?

How did the universe come into being?

เอกภพเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เราโดดเดี่ยวในเอกภพหรือไม่?

Are we alone in the universe?

มีสิ่งมีชีวิตอื่นไหมในห้วงอวกาศ?

Is there alien life out there?

อนาคตของมนุษยชาติจะเป็นอย่างไร?

What is the future of the human race?

Up until the 1920s,

ก่อนช่วงทศวรรษ 1920

ทุกคนเชื่อว่าเอกภพต้องคงที่

everyone thought the universe was essentially static

and unchanging in time.

และไม่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา

ภายหลังจึงพบว่าแท้จริงเอกภพกำลังขยายตัว

Then it was discovered that the universe was expanding.

Distant galaxies were moving away from us.

แกแล็กซีอื่นกำลังเคลื่อนตัวออกห่างเรา

แสดงว่าแกแล็กซีเหล่านี้ต้องเคยใกล้กันมาก่อนในอดีต

This meant they must have been closer together in the past.

If we extrapolate back,

หากคิดย้อนกลับไป

we find we must have all been on top of each other

จะถึงจุดหนึ่งที่เราเคยอัดกันกว่าปลากระป๋อง

about 15 billion years ago.

เมื่อ 15,000 ล้านปีที่แล้ว

นั่นคือบิ๊กแบง จุดเริ่มต้นของเอกภพ

This was the Big Bang, the beginning of the universe.

But was there anything before the Big Bang?

ว่าแต่ มีอะไรก่อนบิ๊กแบงหรือไม่?

หากไม่มี อะไรสร้างเอกภพขึ้นมา?

If not, what created the universe?

ทำไมเอกภพจึงเกิดจากบิ๊กแบงในลักษณะนั้น?

Why did the universe emerge from the Big Bang the way it did?

เราเคยคิดว่าทฤษฎีกำเนิดเอกภพ

We used to think that the theory of the universe

could be divided into two parts.

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน

ส่วนแรกคือ กฎฟิสิกส์ต่าง ๆ

First, there were the laws

like Maxwell's equations and general relativity

เช่น สมการแมกซ์เวลล์และสัมพัทธภาพทั่วไป

that determined the evolution of the universe,

ที่กำหนดวิวัฒนาการเอกภพ

given its state over all of space at one time.

กำหนดสภาวะให้ทุกอณูเอกภพชั่วขณะพร้อมกัน

และส่วนที่สองที่เลี่ยงไม่ได้เลย

And second, there was no question of the initial state of the universe.

ก็คือสภาวะแรกเริ่มของเอกภพ

เราก้าวหน้าไปได้ดีในส่วนแรก

We have made good progress on the first part,

and now have the knowledge of the laws of evolution

เราเข้าใจกฎวิวัฒนาการ

in all but the most extreme conditions.

ในทุกสภาพการณ์เว้นก็แต่ที่สุดโต่งที่สุด

But until recently, we have had little idea

แต่สำหรับสภาวะแรกเริ่มของเอกภพนั้น

about the initial conditions for the universe.

เราเคยเข้าใจมันน้อยมาก

However, this division into laws of evolution and initial conditions

อย่างไรก็ตาม การแบ่งทฤษฎีออกเป็นสองส่วนคือ กฎวิวัฒนาการ และ สภาวะตั้งต้นนั้น

depends on time and space being separate and distinct.

ถีอว่าเวลาและอวกาศเป็นคนละสิ่งที่แยกขาดกัน

Under extreme conditions, general relativity and quantum theory

แต่ในภาวะสุดโต่งนั้น อิทธิพลของสัมพัทธภาพทั่วไปร่วมกับทฤษฎีควอนตัม

allow time to behave like another dimension of space.

ส่งผลให้เวลาเสมือนเป็นมิติหนึ่งของอวกาศ

This removes the distinction between time and space,

แปลว่าเวลาและอวกาศมิใช่สิ่งที่แยกขาดจากกันอีกต่อไป

and means the laws of evolution can also determine the initial state.

ทำให้กฎวิวัฒนาการสามารถระบุสภาวะแรกเริ่มของเอกภพได้

The universe can spontaneously create itself out of nothing.

หมายความว่า เอกภพสามารถสร้างตัวขึ้นมาได้โดยไม่ต้องมีอะไรอยู่ก่อน

เรายังคำนวณความน่าจะเป็นได้ว่าเมื่อแรกกำเนิดนั้น

Moreover, we can calculate a probability that the universe

was created in different states.

เอกภพมีสภาพต่างจากนี้

ซึ่งผลคำนวณนี้สอดคล้องเป็นอย่างดี

These predictions are in excellent agreement

with observations by the WMAP satellite of the cosmic microwave background,

กับผลสังเกตการณ์จากดาวเทียม WMAP ในการตรวจวัด

รังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาล

ซึ่งเป็นภาพประทับของเอกภพช่วงแรกกำเนิด

which is an imprint of the very early universe.

เราเชื่อว่าเราไขปริศนากำเนิดสรรพสิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

We think we have solved the mystery of creation.

Maybe we should patent the universe

บางทีน่าจดสิทธิบัตรเอกภพไว้

and charge everyone royalties for their existence.

แล้วเก็บค่าธรรมเนียมทุกคนสำหรับการมีตัวตนนะครับ

I now turn to the second big question:

ขอเข้าสู่คำถามสำคัญข้อที่สองนะครับ

are we alone, or is there other life in the universe?

เราโดดเดี่ยว หรือมีสิ่งมีชีวิตอื่นอีกในเอกภพ?

We believe that life arose spontaneously on the Earth,

เราเชื่อว่าชีวิตกำเนิดขึ้นเองบนโลก

so it must be possible for life to appear on other suitable planets,

ดังนั้นต้องเป็นได้ที่จะเกิดสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์อื่นที่อำนวย

of which there seem to be a large number in the galaxy.

ซึ่งมีอยู่ไม่น้อยในแกแล็กซีนี้

แต่เราก็ไม่รู้ว่าชีวิตเริ่มปรากฏได้อย่างไร

But we don't know how life first appeared.

We have two pieces of observational evidence

เราค้นพบหลักฐานอยู่ 2 ชิ้น ที่บ่งชี้

on the probability of life appearing.

ความน่าจะเป็นของการเกิดสิ่งมีชีวิต

The first is that we have fossils of algae from 3.5 billion years ago.

ชิ้นแรกคือฟอสซิลสาหร่ายอัลจี

จากเมื่อ 3,500 ล้านปีที่แล้ว

The Earth was formed 4.6 billion years ago

โลกถือกำเนิดเมื่อ 4,600 ล้านปีที่แล้ว

and was probably too hot for about the first half billion years.

ความร้อนน่าจะยังสูงไปในช่วง 500 ล้านปีแรก

So life appeared on Earth

ซึ่งหมายความว่าชีวิตแรก

within half a billion years of it being possible,

ปรากฎขึ้นภายในช่วง 500 ล้านปีถัดมา

which is short compared to the 10-billion-year lifetime

ถือว่าเร็วเมื่อเทียบอายุขัย 10,000 ล้านปี

of a planet of Earth type.

ของดาวเคราะห์อย่างโลก

This suggests that the probability of life appearing is reasonably high.

แสดงให้เห็นว่าความน่าจะเป็นในการเกิดสิ่งมีชีวิตค่อนข้างสูง

หากความน่าจะเป็นต่ำแล้ว คงกินเวลาจนเกือบจะครบ

If it was very low, one would have expected it

to take most of the ten billion years available.

อายุขัย 10,000 ล้านปีของโลก กว่าชีวิตจะถือกำเนิด

แต่อีกมุมหนึ่ง ก็ยังไม่เห็นมนุษย์ต่างดาวที่ไหนแวะมาเยือนโลก

On the other hand, we don't seem to have been visited by aliens.

I am discounting the reports of UFOs.

ไม่นับรายงานพบเห็น UFO นะครับ

ทำไมผู้พบเห็น UFO มักสติเฟื่องไม่เต็มบาท

Why would they appear only to cranks and weirdos?

If there is a government conspiracy to suppress the reports

หากรัฐบาลสมรู้ร่วมคิดที่จะปิดข่าว

and keep for itself the scientific knowledge the aliens bring,

และปกปิดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มากับมนุษย์ต่างดาวจริง

it seems to have been a singularly ineffective policy so far.

ก็เป็นนโยบายที่ไร้ประสิทธิภาพเกินไป

นอกจากนี้ แม้โครงการ SETI จะค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกมายาวนาน เราก็ยังไม่เคยรับโทรทัศน์

Furthermore, despite an extensive search by the SETI project,

we haven't heard any alien television quiz shows.

ช่องเกมโชว์ของมนุษย์ต่างดาวได้เลยสักครั้ง

อาจเป็นเพราะยังไม่มีดาวดวงใด มีอารยธรรม

This probably indicates that there are no alien civilizations

at our stage of development

ใกล้เคียงกับเรา

within a radius of a few hundred light years.

ในรอบรัศมีสองสามร้อยปีแสงนี้

Issuing an insurance policy

ใครมีประกันให้พวกที่กลัว

against abduction by aliens seems a pretty safe bet.

มนุษย์ต่างดาวลักพาตัวไป มั่นใจไปเลย ไม่มีขาดทุน

This brings me to the last of the big questions:

มาสู่คำถามสำคัญข้อสุดท้าย

the future of the human race.

อนาคตของมนุษยชาติ

If we are the only intelligent beings in the galaxy,

หากเราเป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาเดียวในแกแล็กซีนี้

we should make sure we survive and continue.

เราต้องแน่ใจว่าจะอยู่รอดและดำรงชีวิตต่อได้

But we are entering an increasingly dangerous period of our history.

นี่เรากำลังก้าวสู่ยุคที่อันตรายขึ้นเรื่อยในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

ปริมาณประชากรและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติสูงขึ้นทวีคูณ

Our population and our use of the finite resources of planet Earth

are growing exponentially,

ไปพร้อมกับเทคโนโลยีที่สามารถส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม

along with our technical ability to change the environment for good or ill.

ให้ดีขึ้นหรือเลวลงได้ทั้งนั้น

But our genetic code

แต่ในรหัสพันธุกรรม

still carries the selfish and aggressive instincts

เรายังคงเห็นแก่ตัวและมีสัญชาตญาณความรุนแรงที่

that were of survival advantage in the past.

เคยเป็นประโยชน์ต่อการอยู่รอดในอดีต

ยากพอควรที่จะหลีกเลี่ยงหายนะที่จะเกิดขึ้น

It will be difficult enough to avoid disaster

in the next hundred years,

ในอีกร้อยปีข้างหน้า

let alone the next thousand or million.

ไม่ต้องกล่าวถึงอีกพันปีหรือล้านปี

Our only chance of long-term survival

โอกาสเดียวที่เราจะอยู่รอดในระยะยาว

is not to remain inward-looking on planet Earth,

คือเราต้องไม่ปิดกั้นตัวเองแค่บนโลก

but to spread out into space.

เราต้องเดินทางสู่ห้วงอวกาศ

การที่เราสามารถตอบคำถามสำคัญเหล่านี้ได้

The answers to these big questions

show that we have made remarkable progress in the last hundred years.

แสดงถึงความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา

แต่หากเราต้องการดำรงเผ่าพันธุ์ให้พ้นร้อยปีข้างหน้า

But if we want to continue beyond the next hundred years,

our future is in space.

ทางรอดคือห้วงอวกาศครับ

ผมจึงสนับสนุนให้มนุษย์ออกเดินทางสู่อวกาศ

That is why I am in favor of manned --

or should I say, personned -- space flight.

หรือต้องเรียกว่าประชากรอวกาศดีครับ

ตลอดชีวิต ผมแสวงหาที่จะเข้าใจเอกภพ และพยายามจะตอบ

All of my life I have sought to understand the universe

and find answers to these questions.

คำถามเหล่านี้

ผมโชคดีมาก

I have been very lucky

that my disability has not been a serious handicap.

ที่ความพิการของผมไม่รุนแรงมากนัก

Indeed, it has probably given me more time than most people

แท้จริงแล้ว อาจเป็นความพิการนี้เองที่ทำให้ผมมีเวลามากกว่าผู้อื่น

to pursue the quest for knowledge.

ในการแสวงหาความรู้

เป้าหมายสูงสุดคือทฤษฎีที่สมบูรณ์ของเอกภพ

The ultimate goal is a complete theory of the universe,

and we are making good progress.

และเราก็กำลังก้าวหน้าไปได้ดี

ขอบคุณที่ตั้งใจฟังครับ

Thank you for listening.

Chris Anderson: Professor, if you had to guess either way,

คริส แอนเดอร์สัน: ศาสตราจารย์ครับ

do you now believe that it is more likely than not

หากต้องลองทายดู ศาสตราจารย์เชื่อไหมครับว่า

that we are alone in the Milky Way,

เราอยู่โดดเดี่ยวบนทางช้างเผือก

พูดถึงอารยธรรมที่ภูมิปัญญาเทียบเท่าหรือสูงกว่าเรานะครับ

as a civilization of our level of intelligence or higher?

This answer took seven minutes, and really gave me an insight

คำตอบนี้ใช้เวลา 7 นาทีครับ ยิ่งทำให้ผมตระหนักถึง

into the incredible act of generosity this whole talk was for TED.

ความกรุณาที่ท่านมีให้ในการบรรยายสำหรับ TED ครั้งนี้

Stephen Hawking: I think it quite likely that we are the only civilization

สตีเฟน ฮอว์กิ้ง: ผมว่าค่อนข้างเป็นไปได้ที่เราจะเป็นอารยธรรมเดียว

within several hundred light years;

ในรอบรัศมีหลายร้อยปีแสง

otherwise we would have heard radio waves.

ไม่อย่างนั้นเราคงได้รับคลื่นวิทยุอะไรบ้างแล้ว

หรือที่เป็นไปได้อีกทางก็คือ อารยธรรมเหล่านั้นได้ล่มสลายไปเสียก่อน

The alternative is that civilizations don't last very long,

but destroy themselves.

ด้วยน้ำมือตนเอง

คริส แอนเดอร์สัน: ศาสตราจารย์ฮอว์กิ้ง ขอบคุณครับ

CA: Professor Hawking, thank you for that answer.

We will take it as a salutary warning, I think,

เป็นคำเตือนที่จะเป็นประโยชน์มากเลยครับ

สำหรับการสัมมนาที่เหลือของเราในสัปดาห์นี้

for the rest of our conference this week.

Professor, we really thank you for the extraordinary effort you made

ศาสตราจารย์ครับ พวกเราขอบคุณจริงๆ ครับสำหรับความอุตสาหะเอื้อเฟื้อ

to share your questions with us today.

ที่ได้มาร่วมแบ่งปันคำถามให้พวกเราทุกคนในวันนี้

Thank you very much indeed.

ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ

(ปรบมือ)

(Applause)