I got 99 problems... palsy is just one | Maysoon Zayid

Translator: Bongkot Charoensak Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

สวัสดี ชาวTEDWomen เป็นอย่างไรกันบ้าง

Hello, TEDWomen, what's up.

(Cheering)

(เสียงตอบรับ)

Not good enough.

ยังไม่ดีพอ

Hello, TEDWomen, what is up?

สวัสดี ชาวTEDWomen เป็นอย่างไรกันบ้าง

(Loud cheering)

(เสียงตอบรับ)

My name is Maysoon Zayid,

ฉันชื่อเมซูน ซายิด

ฉันไม่ได้เมานะคะ

and I am not drunk,

but the doctor who delivered me was.

แต่แพทย์ที่ทำคลอดฉัน เขาเมา

He cut my mom six different times

เขาผ่าท้องแม่ฉันหกครั้ง

in six different directions,

ในหกทิศทางที่ต่างกัน

suffocating poor little me in the process.

ทำให้ฉันที่กำลังจะคลอดออกมา ขาดอากาศหายใจ

As a result, I have cerebral palsy,

ผลลัพธ์คือ สมองฉันพิการ (cerebral palsy)

which means I shake all the time.

ซึ่งทำให้ฉันตัวสั่นตลอดเวลา

Look.

ดูสิคะ

It's exhausting.

เหนื่อยนะคะ รู้สึกเหมือนเป็นชากีรา ชากีรา

I'm like Shakira, Shakira meets Muhammad Ali.

ปะทะมูฮัมหมัด อาลี

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

CP is not genetic.

สมองพิการไม่ใช่โรคทางพันธุกรรม

It's not a birth defect. You can't catch it.

ไม่ใช่ความพิการแต่กำเนิด คุณไปติดมาจากใครไม่ได้

No one put a curse on my mother's uterus,

ไม่มีใครเสกคำสาปใส่ครรภ์แม่ฉัน

and I didn't get it because my parents are first cousins,

และฉันไม่ได้เป็นแบบนี้ เพราะพ่อแม่ของฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน

which they are.

ซึ่งพ่อกับแม่ก็เป็นซะด้วยสิ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

It only happens from accidents,

สาเหตุเกิดได้จากอุบัติเหตุเท่านั้น

like what happened to me on my birth day.

อย่างที่เกิดขึ้นกับฉันในวันเกิด

Now, I must warn you,

ตอนนี้ ฉันขอเตือนคุณก่อนว่า ฉันให้แรงบันดาลใจได้ไม่เก่งนะ

I'm not inspirational.

(Laughter)

And I don't want anyone in this room to feel bad for me,

และฉันไม่อยากให้ใครในที่นี้

รู้สึกสงสารฉัน

because at some point in your life,

เพราะบางช่วงในชีวิต

you have dreamt of being disabled.

คุณอาจนึกฝันอยากเป็นคนทุพพลภาพ

Come on a journey with me.

ลองคิดตามฉันสิคะ

It's Christmas Eve, you're at the mall,

คืนวันคริสต์มาสอีฟ คุณไปซื้อของที่ห้าง

ขับรถวนไปมาหาที่จอด

you're driving around in circles looking for parking,

and what do you see?

แล้วคุณเห็นอะไร

Sixteen empty handicapped spaces.

ที่จอดรถสำหรับคนพิการว่างอยู่ 16 ที่

(Laughter)

คุณเลยแบบว่า "ให้ตาย ขอให้ฉัน

And you're like, "God, can't I just be a little disabled?"

ทุพพลภาพสักนิดได้ไหม"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Also, I've got to tell you,

และฉันต้องบอกคุณว่า

ฉันมีปัญหา 99 อย่าง สมองพิการเป็นแค่หนึ่งในนั้น

I've got 99 problems, and palsy is just one.

(Laughter)

If there was an Oppression Olympics,

ถ้ามีการแข่งโอลิมปิคคนด้อยโอกาส

I would win the gold medal.

ฉันคงชนะเหรียญทอง

I'm Palestinian, Muslim,

ฉันเป็นคนปาเลสไตน์ เป็นมุสลิม เป็นผู้หญิง เป็นคนทุพพลภาพ

I'm female, I'm disabled,

and I live in New Jersey.

และอาศัยอยู่ในนิวเจอร์ซีย์

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)

(Applause)

If you don't feel better about yourself, maybe you should.

ถ้าคุณยังไม่รู้สีกดีกับตัวเอง ขอให้รู้สึกได้แล้ว

(Laughter)

Cliffside Park, New Jersey is my hometown.

คลิฟไซด์พาร์ค นิวเจอร์ซีย์ คือบ้านเกิดของฉัน

I have always loved the fact

ฉันชอบการที่

that my hood and my affliction share the same initials.

บ้านเกิดกับโรคของฉัน

ใช้ตัวย่อว่าซี.พี.เหมือนกัน

I also love the fact

และฉันยังชอบที่ เวลาที่ฉันอยากเดิน

that if I wanted to walk from my house to New York City, I could.

จากบ้านไปนิวยอร์กซิตี้ ก็ทำได้

A lot of people with CP don't walk,

คนที่สมองพิการ ส่วนใหญ่ไม่เดินกัน

but my parents didn't believe in "can't."

แต่พ่อแม่ฉันไม่เชื่อในคำว่า "ทำไม่ได้"

My father's mantra was,

คาถาของพ่อคือ

"You can do it, yes you can can."

"เธอทำได้ ใช่แล้ว ทำได้ ทำได้"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

เพราะอย่างนั้น ถ้าพี่สาวทั้งสามกำลังถูพื้น

So, if my three older sisters were mopping,

I was mopping.

ฉันก็ถูด้วย

If my three older sisters went to public school,

ถ้าพี่สาวของฉันไปเรียนโรงเรียนของรัฐ

พ่อแม่ฉันก็จะยื่นคำร้องไปยังระบบของโรงเรียน

my parents would sue the school system

and guarantee that I went too,

และรับประกันว่าฉันจะได้ไปโรงเรียนด้วย

and if we didn't all get A's,

และถ้าเราไม่ได้เกรดเอทุกวิชา

we all got my mother's slipper.

ทุกคนก็โดนแม่หวดก้นกันทั่วหน้า

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

พ่อสอนให้ฉันเดินตอนอายุห้าขวบ

My father taught me how to walk when I was five years old

โดยเอาส้นเท้าฉันวางบนเท้าพ่อ

by placing my heels on his feet

and just walking.

แล้วพ่อก็เดิน

Another tactic that he used

อีกวิธีหนึ่งที่พ่อใช้ คือพ่อจะห้อย

is he would dangle a dollar bill in front of me

แบงค์หนึ่งดอลลาร์ไว้ข้างหน้าฉัน แล้วให้วิ่งไล่

and have me chase it.

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

วิญญาณสาวระบำเปลื้องผ้าในตัวของฉัน ก็ถูกปลดปล่อย และ...

My inner stripper was very strong.

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Yeah.

อ่า ไม่ใช่หรอกค่ะ วันแรกในโรงเรียนอนุบาล

No, by the first day of kindergarten,

I was walking like a champ

ฉันก็เดินคล่องเหมือนแชมป์มวย

ที่โดนซัดเข้าหลายหมัด

who had been punched one too many times.

(Laughter)

Growing up, there were only six Arabs in my town,

ฉันเติบโตขึ้นในเมืองที่มีชาวอาหรับหกคน

and they were all my family.

ทุกคนเป็นคนในครอบครัวฉัน

(Laughter)

Now there are 20 Arabs in town,

ถึงตอนนี้มีชาวอาหรับในเมือง 20 คนแล้ว

and they are still all my family.

และทุกคนก็ยังเป็นคนในครอบครัวฉัน (เสียงหัวเราะ)

(Laughter)

I don't think anyone even noticed we weren't Italian.

แทบจะไม่มีใครสังเกตว่าเราไม่ใช่คนอิตาเลียน

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)

(Applause)

This was before 9/11

นั่นเป็นช่วงก่อนเหตุการณ์ 11 ก.ย. และก่อนที่นักการเมือง

and before politicians thought it was appropriate

จะคิดว่ามันรับได้ที่จะใช้สโลแกน "เราเกลียดคนมุสลิม"

to use "I hate Muslims" as a campaign slogan.

ในการหาเสียง

คนรอบข้างที่เติบโตมากับฉัน ไม่มีปัญหากับความศรัทธาของฉัน

The people that I grew up with had no problem with my faith.

They did, however, seem very concerned

แต่เขาอาจจะเป็นห่วง

that I would starve to death during Ramadan.

ว่าฉันจะอดจนตายในช่วงเดือนรอมฎอน

I would explain to them that I have enough fat

ฉันต้องอธิบายว่าฉันมีไขมันมากพอ

to live off of for three whole months,

ที่จะทำให้อยู่รอดได้ตลอดสามเดือนเต็มๆ

so fasting from sunrise to sunset is a piece of cake.

การถือศีลอดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น จนพระอาทิตย์ตกจึงเป็นเรื่องกล้วยๆ

(Laughter)

I have tap-danced on Broadway.

ฉันได้เต้นแท็บที่บอร์ดเวย์

Yeah, on Broadway. It's crazy.

ใช่ค่ะ บอร์ดเวย์ นั่นมันบ้ามาก (เสียงปรบมือ)

(Applause)

My parents couldn't afford physical therapy,

พ่อแม่ฉันไม่มีเงินจ่ายค่ากายภาพบำบัด

so they sent me to dancing school.

พ่อแม่เลยส่งฉันไปเรียนเต้น

I learned how to dance in heels,

ฉันเรียนรู้การเต้นโดยที่ยังสวมส้นสูง

which means I can walk in heels.

ซึ่งหมายความว่าฉันใส่ส้นสูงเดินเป็น

และฉันเป็นคนเจอร์ซีย์

And I'm from Jersey,

and we are really concerned with being chic,

และพวกเราก็ช่างแต่งตัว

เพราะอย่างนั้น ถ้าเพื่อนใส่ส้นสูง ฉันก็ใส่ด้วย

so if my friends wore heels, so did I.

And when my friends went and spent their summer vacations

และพอเพื่อนๆ ฉันไปพักผ่อนหน้าร้อน

on the Jersey Shore, I did not.

ที่หาดเจอร์ซีย์ ฉันก็ไม่ได้ไปด้วย

I spent my summers in a war zone,

ฉันใช้วันหยุดหน้าร้อนในเขตสงคราม

because my parents were afraid

เพราะพ่อแม่กลัว

that if we didn't go back to Palestine every single summer,

ว่าถ้าเราไม่กลับปาเลสไตน์

ทุกๆ หน้าร้อน

we'd grow up to be Madonna.

เราจะโตขึ้นเป็นมาดอนน่า

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Summer vacations often consisted of my father trying to heal me,

วันหยุดหน้าร้อนมักจะประกอบด้วย

การที่พ่อพยายามรักษาฉัน

ฉันได้ดื่มนมกวาง

so I drank deer's milk,

I had hot cups on my back,

มีถ้วยร้อนๆ วางบนหลัง

I was dunked in the Dead Sea,

โดนจับทุ่มลงในทะเลสาบเดดซี

and I remember the water burning my eyes

ฉันจำได้ตอนที่โดนน้ำทะเลจนแสบตา

and thinking, "It's working! It's working!"

ตอนนั้นคิดว่า "สำเร็จแล้ว สำเร็จแล้ว"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

But one miracle cure we did find was yoga.

แต่ความมหัศจรรย์เดียวที่เราพบว่าช่วยบำบัดได้คือโยคะ

I have to tell you, it's very boring,

ฉันต้องบอกคุณก่อน โยคะน่าเบื่อมาก

but before I did yoga,

แต่ก่อนที่ฉันจะฝึกโยคะ

I was a stand-up comedian who can't stand up.

ฉันเป็นนักแสดงสแตนด์อัพ คอเมดีที่ยืนไม่ได้

And now I can stand on my head.

แต่ตอนนี้ฉันยืนด้วยหัวได้แล้ว

My parents reinforced this notion

พ่อแม่ฉันคอยสนับสนุนความเชื่อที่ว่า

that I could do anything,

ฉันทุกอย่างได้

that no dream was impossible,

ว่าไม่มีฝันไหนไกลเกินไป

and my dream was to be

และความฝันของฉันก็คือการ

on the daytime soap opera "General Hospital."

ได้แสดงในละครเรื่อง "เจเนอรอล ฮอสพิทอล" (General Hospital)

(Laughter)

ฉันเข้าเรียนในวิทยาลัย ช่วงที่มีประเด็นเรื่องความเท่าเทียม

I went to college during affirmative action

and got a sweet scholarship to ASU,

และฉันได้รับทุนไปเรียนที่ เอเอสยู

Arizona State University,

มหาวิทยาลัยแห่งรัฐอริโซนา

because I fit every single quota.

เพราะมีคุณสมบัติครบตามโควต้าทุกข้อ

(Laughter)

ฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวลีเมอร์แห่งภาคการละคร

I was like the pet lemur of the theater department.

Everybody loved me.

ทุกคนรักฉัน

I did all the less-than-intelligent kids' homework,

การบ้านที่ต้องทำมีความยากแค่ระดับเด็กป.สี่

I got A's in all of my classes,

ฉันได้เอทุกวิชาที่เรียน

A's in all of their classes.

เอทุกวิชาเลยล่ะ

(Laughter)

ทุกครั้งที่ฉันสวมบทบาท

Every time I did a scene from "The Glass Menagerie,"

จากบทเรื่อง "ตุ๊กตาแก้ว" (The Glass Menagerie)

my professors would weep.

อาจารย์ฉันต้องร้องไห้ทุกที

But I never got cast.

แต่ฉันไม่เคยได้บทเล่นละครจริงๆ เลย

Finally, my senior year,

และในที่สุด ตอนเรียนปีสุดท้าย

ASU decided to do a show called "They Dance Real Slow in Jackson."

เอเอสยูก็ตัดสินใจจัดละครที่ชื่อว่า

"ค่ำคืนยาวนานในเมืองแจ็คสัน" (They Dance Real Slow in Jackson)

It's a play about a girl with CP.

เป็นละครเกี่ยวกับผู้หญิงสมองพิการ

I was a girl with CP.

ฉันเป็นผู้หญิงสมองพิการ

So I start shouting from the rooftops,

ฉันเลยกู่ร้องเสียงดังจากหลังคา

"I'm finally going to get a part!

"ในที่สุด ฉันก็จะได้บทเสียที

I have cerebral palsy!

ฉันสมองพิการ

Free at last! Free at last!

สำเร็จแล้ว สำเร็จแล้ว

Thank God almighty, I'm free at last!"

ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า ฉันทำสำเร็จแล้ว

I didn't get the part.

ฉันไม่ได้ร่วมแสดงค่ะ (เสียงหัวเราะ)

(Laughter)

Sherry Brown got the part.

เชอร์รี บราวน์ได้แสดง

ฉันรีบวิ่งไปขอพบหัวหน้าภาคการละคร

I went racing to the head of the theater department

crying hysterically, like someone shot my cat,

ร้องไห้ฟูมฟาย เหมือนมีใครมายิงแมวฉันตาย

แล้วถามว่าเป็นเพราะอะไร

to ask her why,

and she said it was because they didn't think I could do the stunts.

และเธอตอบว่า เหตุผลคือ

ฉันไม่น่าจะแสดงบทผาดโผนได้

I said, "Excuse me, if I can't do the stunts,

ฉันเลยตอบว่า "ขอโทษนะคะ ถ้าฉันแสดงผาดโผนไม่ได้

neither can the character."

ตัวละครในบทก็ทำไม่ได้เหมือนกัน"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)

(Applause)

This was a part that I was literally born to play

ฉันเกิดมาเพื่อเล่นบทนี้ชัดๆ

they gave it to a non-palsy actress.

เขาให้บทกับนักแสดงสมองไม่พิการ

วิทยาลัยเป็นสถานที่ซึ่งสะท้อนชีวิตจริง

College was imitating life.

Hollywood has a sordid history

ฮอลลีวู๊ดมีประวัติศาสตร์ที่เลวร้าย

of casting able-bodied actors to play disabled onscreen.

ในการคัดนักแสดงร่างกายปกติ

ให้สวมบทเป็นคนทุพพลภาพบนหน้าจอ

Upon graduating, I moved back home,

เมื่อเรียนจบ ฉันก็ย้ายกลับบ้าน

and my first acting gig was as an extra on a daytime soap opera.

และอาชีพครั้งแรกในฐานะนักแสดงคือ

เป็นตัวประกอบในละครช่วงกลางวัน

My dream was coming true.

ความฝันของฉันกลายเป็นจริง

And I knew that I would be promoted

และฉันรู้ว่าฉันน่าจะได้บทที่ดีขึ้น

from "Diner Diner" to "Wacky Best Friend" in no time.

จาก "ตัวประกอบนั่งในร้าน" เป็น "เพื่อนซี้สุดเพี้ยน" ในเร็ววัน

(Laughter)

But instead, I remained a glorified piece of furniture

แต่ฉันก็ยังคงเป็นเครื่องเรือนชิ้นหรูหรา

that you could only recognize from the back of my head,

ที่ถูกทิ้งไว้ในความทรงจำเลือนลางแทน

and it became clear to me

และทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น

that casting directors

ว่าผู้กำกับที่คัดเลือกนักแสดงนั้น

didn't hire fluffy, ethnic, disabled actors.

ไม่เลือกนักแสดงเจ้าเนื้อ คนชาติพันธุ์ที่แตกต่าง และทุพพลภาพหรอก

They only hired perfect people.

เขาเลือกแต่คนสมบูรณ์แบบ

But there were exceptions to the rule.

แต่กฎก็ยังมีข้อยกเว้น

I grew up watching Whoopi Goldberg,

ฉันโตมาโดยได้ดูวูปี โกลด์เบิร์ก

Roseanne Barr, Ellen,

โรสแอนน์ บาร์, เอลเลน

and all of these women had one thing in common:

และผู้หญิงพวกนี้ทุกคนมีอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน

they were comedians.

คือเป็นนักแสดงตลก

So I became a comic.

ฉันเลยเป็นนักแสดงตลกบ้าง

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)

(Applause)

My first gig was driving famous comics

การทำงานครั้งแรกของฉัน คือขับรถให้นักแสดงตลกชื่อดัง

from New York City to shows in New Jersey,

จากนิวยอร์กซิตี้ไปแสดงที่นิวเจอร์ซีย์

and I'll never forget the face of the first comic I ever drove

และฉันคงลืมหน้าของนักแสดงตลกคนแรก

ที่ฉันขับรถไปส่งไม่ลง ตอนที่เขารู้

when he realized that he was speeding down the New Jersey Turnpike

ว่าเขากำลังผ่านด่านเก็บเงินนิวเจอร์ซีย์

with a chick with CP driving him.

ไปพร้อมกับผู้หญิงสมองพิการที่ขับรถให้เขา

(Laughter)

I've performed in clubs all over America,

ฉันได้ไปแสดงในคลับทั่วอเมริกา

and I've also performed in Arabic in the Middle East,

และยังได้แสดงเป็นภาษาอาราบิคในตะวันออกกลางด้วย

uncensored and uncovered.

ไม่เซ็นเซอร์ ไม่ต้องปิดหน้า

(Laughter)

Some people say I'm the first stand-up comic in the Arab world.

บางคนพูดว่าฉันเป็นคนแรก

ที่ได้เป็นแสตนด์อัพ คอเมเดียนในโลกอาหรับ

I never like to claim first,

ฉันไม่อยากอ้างว่าเป็นคนแรก

but I do know that they never heard

แต่ฉันรู้ว่าพวกเขาไม่เคยได้ยิน

that nasty little rumor that women aren't funny,

ข่าวลือบ้าๆ ว่าผู้หญิงตลกไม่เป็น

and they find us hysterical.

เขามองว่าเราประสาทมากกว่า

(Laughter)

In 2003, my brother from another mother and father

ปี 2003 พี่ชายต่างพ่อต่างแม่ของฉัน

Dean Obeidallah and I started

ดีน โอบีดัลเลาะห์กับฉัน เราริเริ่ม

the New York Arab-American Comedy Festival,

เทศกาลคอเมดีของอเมริกันเชื้อสายอาหรับในนิวยอร์ก

now in its 10th year.

ถึงตอนนี้ ก็ปีที่ 10 แล้ว

จุดมุ่งหมายของเรา ก็เพื่อเปลี่ยนแปลงภาพเชิงลบ

Our goal was to change the negative image of Arab-Americans in media,

ของชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับในสื่อ

while also reminding casting directors

และคอยเตือนผู้กำกับทั้งหลายว่า

that South Asian and Arab are not synonymous.

เอเชียใต้กับอาหรับ ไม่ใช่คำเดียวกัน

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Mainstreaming Arabs was much, much easier

การทำให้วัฒนธรรมอาหรับ ไหลเข้าสู่กระแสหลักเป็นเรื่องง่าย

กว่าการเอาชนะข้อท้าทาย

than conquering the challenge against the stigma against disability.

ด้านปมด้อยของการเป็นคนทุพพลภาพ

My big break came in 2010.

โอกาสทองครั้งใหญ่ของชีวิต มาเคาะประตูในปี 2010

I was invited to be a guest on the cable news show

ฉันได้รับเชิญไปเป็นแขก

ในรายการข่าวทางช่องเคเบิล

"Countdown with Keith Olbermann."

"เคานท์ดาวน์กับคีธ โอลเบอร์มันน์"

I walked in looking like I was going to the prom,

ฉันเดินเข้าในรายการ ท่าทางเหมือนเตรียมตัวไปงานเลี้ยงรุ่น

and they shuffle me into a studio

พวกเขาประคองร่างฉันเข้าไปในสตูดิโอ

and seat me on a spinning, rolling chair.

แล้วจัดให้นั่งบนเก้าอี้รถเข็นที่ไหลไปมา

(Laughter)

ฉันมองไปที่ผู้จัดการเวลที แล้วทำท่าเป็นเชิงว่า

So I looked at the stage manager

and I'm like, "Excuse me, can I have another chair?"

"ขอโทษค่ะ ขอเก้าอี้อีกตัวได้ไหม"

And she looked at me and she went,

เธอมองมาที่ฉัน แล้วก็เริ่มพูดว่า

"ห้า สี่ สาม สอง..."

"Five, four, three, two ..."

And we were live, right?

แล้วเราก็ออกอากาศ

So I had to grip onto the anchor's desk

ฉันต้องคอยเอามือจับโต๊ะผู้ประกาศไว้แน่น

so that I wouldn't roll off the screen during the segment,

เพื่อที่จะได้ไม่กลิ้งตกขอบจอระหว่างสัมภาษณ์

and when the interview was over, I was livid.

และพอการสัมภาษณ์จบลง ฉันก็หน้าตาซีดเซียว

I had finally gotten my chance and I blew it,

ฉันเพิ่งได้รับโอกาส แล้วก็ทำหลุดลอยไป

and I knew I would never get invited back.

ฉันรู้ว่าคงไม่ได้รับเชิญกลับไปอีกแล้ว

But not only did Mr. Olbermann invite me back,

แต่ไม่เพียงแค่คุณโอลเบอร์มันน์เชิญฉันกลับไป

he made me a full-time contributor,

เขายังให้ฉันเป็นผู้ร่วมรายการประจำ

and he taped down my chair.

และเอาเทปติดเก้าอี้ยึดกับพื้นไว้ด้วย

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)

(Applause)

One fun fact I learned while on the air with Keith Olbermann

ความตลกที่ฉันได้เรียนรู้จากการออกอากาศ

กับคีธ โอลเบอร์มันน์

was that humans on the Internet are scumbags.

คือผู้คนในโลกอินเทอร์เน็ตเป็นพวกปากเสีย

(Laughter)

คนมักพูดว่าเด็กๆ มักใจร้าย

People say children are cruel,

แต่ฉันไม่เคยถูกล้อไม่ว่าตอนเด็กหรือตอนโต

but I was never made fun of as a child or an adult.

Suddenly, my disability on the world wide web is fair game.

แต่ทันใดนั้น ความทุพพลภาพของฉัน ก็กลายเป็นหัวข้อโจมตีทางอินเทอร์เน็ต

I would look at clips online and see comments like,

ฉันนั่งดูคลิปออนไลน์

และอ่านความเห็น อย่างเช่น

"Yo, why's she tweakin'?"

"เฮ้ย ทำไมเธอต้องกระตุกด้วย"

"Yo, is she retarded?"

"เธอปัญญาอ่อนหรือเปล่า"

And my favorite, "Poor Gumby-mouth terrorist.

และที่ฉันชอบที่สุด "ผู้ก่อการร้ายปากเปื่อยผู้น่าสงสาร

What does she suffer from?

เธอป่วยเป็นอะไรกัน

We should really pray for her."

เราควรสวดอวยพรให้เธอนะ"

One commenter even suggested that I add my disability to my credits:

มีความเห็นหนึ่งยังแนะนำ

ให้ฉันใส่ความทุพพลภาพลงในเครดิตตอนท้าย

screenwriter, comedian, palsy.

นักเขียนบทภาพยนตร์ นักแสดงตลก สมองพิการ

ความทุพพลภาพเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับเชื้อชาติ

Disability is as visual as race.

ถ้าคนนั่งรถเข็นเล่นบทเป็นบียองเซ่ไม่ได้

If a wheelchair user can't play Beyoncé,

then Beyoncé can't play a wheelchair user.

บียองเซ่ก็ไม่ควรรับบทเป็นคนนั่งรถเข็น

The disabled are the largest —

คนทุพพลภาพเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด

Yeah, clap for that, man. Come on.

ค่ะ ขอเสียงปรบมือหน่อย เอาเลยค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

People with disabilities are the largest minority in the world,

คนทุพพลภาพเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดที่ไม่ได้รับความสนใจ

ในโลก และเรายังเป็นกลุ่มที่ได้รับการนำเสนอน้อยที่สุด

and we are the most underrepresented in entertainment.

ในวงการบันเทิง

แพทย์บอกว่าฉันจะเดินไม่ได้

The doctors said that I wouldn't walk,

but I am here in front of you.

แต่ตอนนี้ฉันมาอยู่ตรงนี้ เบื้องหน้าคุณ

ถ้าหากว่าฉันเติบโตมาพร้อมกับโซเชียลมีเดีย

However, if I grew up with social media,

I don't think I would be.

ฉันคงมายืนตรงนี้ไม่ไหว

I hope that together,

ฉันหวังว่าเราจะร่วมมือกันได้

we can create more positive images

เพื่อสร้างสรรค์ภาพพจน์ที่ดี

of disability in the media and in everyday life.

ในกับคนทุพพลภาพในวงการบันเทิงและในชีวิตประจำวัน

Perhaps if there were more positive images,

ถ้าหากว่ามันมีภาพพจน์ที่ดีมากกว่านี้

it would foster less hate on the Internet.

คงมีคนเกลียดกันน้อยกว่านี้ทางอินเทอร์เน็ต

หรืออาจจะไม่ใช่อย่างนั้น

Or maybe not.

Maybe it still takes a village to teach our children well.

บางทีอาจต้องให้คนทั้งหมู่บ้าน

เพื่ออบรมเลี้ยงดูลูกๆ ให้ดี

My crooked journey has taken me to some very spectacular places.

การเดินทางที่บิดเบี้ยวของฉันได้นำพา

ให้ฉันไปยืนยังจุดที่น่าประทับใจหลายแห่ง

I got to walk the red carpet

ฉันได้เดินบนพรมแดง

flanked by soap diva Susan Lucci

เคียงข้างนักแสดงชั้นน้ำ ซูซาน ลุชชี

and the iconic Loreen Arbus.

และดาวเด่นอย่าง ลอร์เรน อาร์บัส

I got to act in a movie with Adam Sandler

ฉันได้ร่วมแสดงภาพยนตร์กับอดัม แซนด์เลอร์

and work with my idol, the amazing Dave Matthews.

และได้ทำงานกับขวัญใจของฉัน

เดฟ แมธธิวส์ ผู้น่าทึ่ง

I toured the world as a headliner on Arabs Gone Wild.

ฉันเดินสายทัวร์รอบโลกในฐานะนักแสดงนำ

ของเรื่อง ชาวอาหรับสุดเหวี่ยง (Arabs Gone Wild)

I was a delegate representing the great state of New Jersey

ฉันเป็นผู้แทน

ของรัฐนิวเจอร์ซีย์

at the 2008 DNC.

ร่วมในคณะกรรมการเพื่อประชาธิปไตย ปี 2008

And I founded Maysoon's Kids,

และฉันได้ก่อตั้งองค์กร เมย์ซูน คิดส์

a charity that hopes to give Palestinian refugee children

องค์การการกุศลที่หวังว่า

จะทำให้เด็กๆ ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์

ได้รับโอกาสทองแบบที่พ่อแม่เคยให้ฉัน

a sliver of the chance my parents gave me.

But the one moment that stands out the most

แต่ช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่สุด

was when I got -- before this moment --

คือตอนที่ ถ้าไม่นับรวมตอนนี้ด้วยนะคะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)

(Applause)

But the one moment that stands out the most

ช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่สุด

was when I got to perform

คือตอนที่ฉันได้แสดง

ต่อหน้าชายที่โบยบินเหมือนผีเสื้อ

for the man who floats like a butterfly

and stings like a bee,

ต่อยเหมือนผึ้ง

has Parkinson's and shakes just like me,

เป็นโรคพาร์กินสัน และตัวสั่นเหมือนกับฉัน

Muhammad Ali.

มูฮัมหมัด อาลี

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

(Applause ends)

It was the only time that my father ever saw me perform live,

นั่นเป็นเพียงครั้งเดียว

ที่พ่อได้เห็นฉันแสดงสด

และฉันขออุทิศการบรรยายครั้งนี้ให้กับเขา

and I dedicate this talk to his memory.

(Arabic) Allah yerhamak yaba.

(ภาษาอาราบิค) [ขอพระอัลเลาะห์โปรดเมตตาดวงวิญญาณของพ่อด้วย]

(English) My name is Maysoon Zayid,

ฉันชื่อ เมซูน ซายิด

and if I can can, you can can.

และถ้าฉันทำได้ ทำได้ คุณเองก็ทำได้ ทำได้

(Cheering)

(เสียงปรบมือ)

(Applause)