Melissa Marshall: Talk nerdy to me

Translator: Joseph Geni Reviewer: Morton Bast

Translator: Sritala Dhanasarnsombut Reviewer: Panon Leelamanit

Five years ago, I experienced a bit

5 ปีที่แล้ว ฉันได้มีประสบการณ์

of what it must have been like to be Alice in Wonderland.

ที่น่าจะไม่ต่างกับสิ่งที่ "อลิซ" เจอใน "อลิซในดินแดนมหัสจรรย์"

Penn State asked me, a communications teacher,

มหาลัย Penn State ได้ทาบทามให้ดิฉัน

to teach a communications class for engineering students.

ไปสอนเรื่องการสื่อสาร ให้กับนักเรียนวิศวะฯ

And I was scared. (Laughter)

และฉันก็กลัวมาก (หัวเราะ)

Really scared. Scared of these students with their big brains

กลัวมาก ๆ ซะด้วย ฉันกลัวเด็กนักเรียนฉลาด ๆ พวกนี้

and their big books and their big, unfamiliar words.

กับหนังสือเล่มเบอเริ่ม และก็ภาษาเฉพาะทางที่พวกเขาใช้

But as these conversations unfolded,

แต่เมื่อฉันได้เริ่มพูดคุยกับพวกเขา

I experienced what Alice must have when she went down

ฉันก็รู้สึกได้เลยว่าอลิซรู้สึกอย่างไร ตอนที่เธอ

that rabbit hole and saw that door to a whole new world.

มองเข้าไปในรูกระต่ายและเห็นโลกมหัศจรรย์ข้างใน

That's just how I felt as I had those conversations

นั่นล่ะเป็นความรู้สึกที่ฉันมี ตอนได้พูดคุย

with the students. I was amazed at the ideas

กับนักเรียนกลุ่มนั้น ฉันตื่นเต้นกับไอเดีย

that they had, and I wanted others to experience this wonderland as well.

ที่พวกเขามี และอยากให้คนอื่น ๆ ได้มีประสบการณ์ลักษณะที่ฉันเจอกับตัวเองนี้เช่นกัน

And I believe the key to opening that door

และฉันเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เข้าถึงประสบการณ์นี้ได้

is great communication.

คือการสื่อสารที่ดี

We desperately need great communication from our

มันจำเป็นอย่างมาก ที่เราต้องมีการสื่อสารที่ดีกับ

scientists and engineers in order to change the world.

นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรเพื่อที่จะเปลี่ยนโลกของเรา

Our scientists and engineers are the ones

นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรคือกลุ่มคน

that are tackling our grandest challenges, from energy

ที่ทำให้เราก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ตั้งแต่เรื่องพลังงาน

to environment to health care, among others,

ไปจนถึงสิ่งแวดล้อม, การแพทย์, และอื่น ๆ

and if we don't know about it and understand it,

แต่ถ้าเราไม่รู้และไม่เข้าใจอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

then the work isn't done, and I believe it's our responsibility

งานทั้งหมดนี้ก็คงไม่อาจสำเร็จได้ และฉันเชื่อว่ามันเป็นความรับผิดชอบของเรา

as non-scientists to have these interactions.

ในฐานะคนที่ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ที่จะต้องมีการสื่อสารโต้ตอบกัน

But these great conversations can't occur if our scientists

แต่เช่นกัน การสนทนาดี ๆ เหล่านี้ก็ไม่อาจเกิดขึ้นหากนักวิทยาศาสตร์

and engineers don't invite us in to see their wonderland.

และวิศวกรเหล่านี้ไม่เชิญให้เราเข้าไปเห็นดินแดนมหัศจรรย์ของพวกเขา

So scientists and engineers, please, talk nerdy to us.

เพราะฉะนั้นนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรทุกท่าน ได้โปรด พูดเนิร์ด ๆ กับเราเถอะ

I want to share a few keys on how you can do that

ฉันอยากจะแชร์เคล็ดนิด ๆ ให้พวกคุณสามารถ

to make sure that we can see that your science is sexy

ทำให้พวกเราเห็นได้ว่าศาสตร์ของพวกคุณ

and that your engineering is engaging.

มันเซ็กซี่และน่าติดตามแค่ไหน

First question to answer for us: so what?

คำถามแรกที่คุณต้องตอบเรา: มันทำไมล่ะ?

Tell us why your science is relevant to us.

คุณต้องบอกว่าศาสตร์ของคุณมันเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร

Don't just tell me that you study trabeculae,

อย่าบอกเราแค่ว่าคุณกำลังเรียนเรื่อง กระดูกเนื้อโปร่ง

but tell me that you study trabeculae, which is the mesh-like structure of our bones

แต่ให้เล่าว่ากำลังเรียนเรื่องกระดูกเนื้อโปร่ง ซึ่งก็คือส่วนที่เหมือนโครงสร้างตะข่ายในกระดูกของเรา

because it's important to understanding and treating osteoporosis.

เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าใจและรักษาโรคกระดูกพรุน

And when you're describing your science, beware of jargon.

และเวลาที่คุณอธิบาย ควรระวังการใช้ศัพท์เฉพาะ

Jargon is a barrier to our understanding of your ideas.

ศัพท์เฉพาะเป็นสิ่งที่ขวางกั้นไม่ให้เข้าใจไอเดียของคุณ

Sure, you can say "spatial and temporal," but why not just say

แน่อยู่แล้วว่าคุณสามารถพูดว่า "ข้อมูลเชิงพื้นที่และเวลา" แต่ทำไมไม่พูดว่า

"space and time," which is so much more accessible to us?

"ระยะห่างและเวลา" ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราเข้าถึงได้ง่ายกว่ามาก

And making your ideas accessible is not the same as dumbing it down.

และการทำให้ไอเดียเข้าถึงได้ง่าย ไม่เหมือนกับการตัดทอนข้อมูลออก

Instead, as Einstein said, make everything

ไอสไตน์เคยกล่าวไว้ว่า "ทำให้ทุกอย่าง...

as simple as possible, but no simpler.

ให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่อย่าง่ายเกิน"

You can clearly communicate your science

คุณสามารถสื่อสารศาสตร์ของคุณได้ชัดเจน

without compromising the ideas.

โดยไม่ต้องแลกกับใจความของไอเดียที่น้อยลง

A few things to consider are having examples, stories

อีกอย่างที่คุณควรพิจารณา ก็คือการเอาตัวอย่างกับเรื่อง

and analogies. Those are ways to engage

และสิ่งเปรียบเทียบมาใช้ เพราะวิธีเหล่านี้ทำให้เรามีส่วนร่วม

and excite us about your content.

และทำให้เราตื่นเต้นในเรื่องของคุณได้

And when presenting your work, drop the bullet points.

และเวลาคุณนำเสนองาน โปรดเอาลิสต์หัวข้อออกเถอะ

Have you ever wondered why they're called bullet points? (Laughter)

เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมภาษาอังกฤษเขาเรียกมันว่า "บูเล็ต พอยท์" (หัวเราะ)

What do bullets do? Bullets kill,

เพราะว่าบูเล็ต แปลว่ากระสุน และกระสุนมีว่าฆ่า

and they will kill your presentation.

มันจะฆ่าการนำเสนองานของคุณ

A slide like this is not only boring, but it relies too much

สไลด์แบบนี้นอกจากจะน่าเบื่อแล้ว มันยังต้องพึ่งพา

on the language area of our brain, and causes us to become overwhelmed.

การใช้ภาษาในสมองของเราอีกด้วย มันทำให้เรารู้สึกว่ามัน "เยอะ" เกินไป

Instead, this example slide by Genevieve Brown is

เราลองทำแบบสไลด์นี้แทน นี่คือสไลด์โดย Genevieve Brown

much more effective. It's showing that the special structure

มันได้ผลมากกว่าเยอะ มันแสดงให้เห็นถึงโครงสร้างพิเศษ

of trabeculae are so strong that they actually inspired

ของกระดูกเนื้อโปร่ง ที่แข็งแรง และเป็น

the unique design of the Eiffel Tower.

แรงบันดาลใจในดีไซน์และก่อสร้างหอไอเฟล

And the trick here is to use a single, readable sentence

และเคล็ดลับของมันอยู่ที่ใช้ประโยคที่อ่านง่ายอันเดียว

that the audience can key into if they get a bit lost,

ไว้เป็นหลัก เมื่อผู้ชมเริ่มหลงเนื้อหา

and then provide visuals which appeal to our other senses

และใส่รูปภาพที่ทำให้พวกเราสัมผัส...

and create a deeper sense of understanding

และสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น

of what's being described.

กับสิ่งที่เรากำลังพยายามอธิบาย

So I think these are just a few keys that can help

ฉันคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือเคล็ดลับที่ช่วยให้

the rest of us to open that door and see the wonderland

เราทุกคนสามารถเปิดประตูไปเห็นดินแดนมหัศจรรย์

that is science and engineering.

ที่เต็มไปด้วยวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม

And because the engineers that I've worked with have

และวิศวกรเหล่านี้ที่ฉันได้ร่วมงานด้วย ได้สอนให้ฉัน

taught me to become really in touch with my inner nerd,

สามารถเข้าถึงเนิร์ดที่อยู่ลึก ๆ ในตัวของฉัน

I want to summarize with an equation. (Laughter)

ฉันอยากสรุปเรื่องนี้ในรูปของสมการเหลือเกิน (หัวเราะ)

Take your science, subtract your bullet points

เอาศาสตร์ของคุณ ลบด้วยลิสต์หัวข้อ

and your jargon, divide by relevance,

และลบด้วยศัพท์เฉพาะ หารด้วยความเกี่ยวข้อง

meaning share what's relevant to the audience,

ซึ่งหมายความว่าแชร์สิ่งที่เกี่ยวข้องกับผู้ฟัง

and multiply it by the passion that you have for

และคูณด้วยความหลงใหลที่คุณมีต่อ

this incredible work that you're doing,

งานที่คุณทุ่มเททำ

and that is going to equal incredible interactions

ทั้งหมดนี้เท่ากับผลตอบรับที่ยอดเยี่ยม

that are full of understanding.

ที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ

And so, scientists and engineers, when you've solved

เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรทั้งหลาย คุณได้คำตอบ

this equation, by all means, talk nerdy to me. (Laughter)

ของสมการข้อนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแน่นอน พูดเนิร์ด ๆ กัน! (หัวเราะ)

Thank you. (Applause)

ขอบคุณค่ะ (ตบมือ)