Juan Enriquez: Your online life, permanent as a tattoo

Translator: Joseph Geni Reviewer: Morton Bast

Translator: Chatthip Chaichakan Reviewer: Dollaya Piumsuwan

All right, so let's take

เอาล่ะ มาดูสี่อย่าง

four subjects that obviously go together:

ที่ดูจะไปด้วยกันได้ดีมาก กันเถอะครับ

big data, tattoos, immortality and the Greeks.

ข้อมูลขนาดใหญ่ รอยสัก การเป็นอมตะ และชาวกรีก

Right?

ไปด้วยกันได้ใช่มั้ยครับ?

Now, the issue about tattoos is that,

ประเด็นเกี่ยวกับรอยสักก็คือว่า

without a word, tattoos really do shout.

ปราศจากคำพูดใดๆ รอยสักสื่อความได้จริงๆ

[Beautiful]

[สวยงาม]

[Intriguing]

[มีเสน่ห์ น่าค้นหา]

So you don't have to say a lot.

คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก

[Allegiance]

[คำสัตย์ปฏิญาณ]

[Very intimate]

[การชิดใกล้]

[Serious mistakes]

[ความผิดพลาดร้ายแรง]

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And tattoos tell you a lot of stories.

และรอยสักยังบอกเรื่องราวมากมายได้ด้วย

If I can ask an indiscreet question,

ถ้าผมสามารถถามคำถามแบบส่งๆ

how many of you have tattoos?

ในจำนวนพวกคุณมีกี่คนที่มีรอยสัก?

A few, but not most.

มีบ้าง แต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่

What happens if Facebook, Google, Twitter, LinkedIn,

แล้วอะไรจะเกิดขึ้นล่ะ ถ้าเฟซบุค กูเกิ้ล ทวิตเตอร์ ลิงค์อิน

cell phones, GPS, Foursquare, Yelp, Travel Advisor,

มือถือ GPS โฟร์สแควร์ เยลพ์ ทราเวลแอดไวเซอร์

all these things you deal with every day

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ที่คุณใช้ทุกวัน

turn out to be electronic tattoos?

กลายเป็นรอยสักอิเล็กทรอนิกส์

And what if they provide as much information

และถ้าหากว่ามันสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ

about who and what you are as any tattoo ever would?

ว่าคุณเป็นใครและอะไร ได้มากพอๆ กับที่รอยสักสามารถทำได้ล่ะ?

What's ended up happening over the past few decades

สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา

is the kind of coverage that you had as a head of state

ก็คือ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับผู้นำรัฐ

or as a great celebrity

หรือเซเลบคนดัง

is now being applied to you every day by all these people

ได้เกิดขึ้นกับคุณในทุกวันนี้แล้ว โดยผู้คนทั้งหลายเหล่านี้

who are Tweeting, blogging, following you,

ที่ทวีตคุณ บล็อกเกี่ยวกับคุณ ติดตามคุณ

watching your credit scores and what you do to yourself.

เฝ้าดูความน่าเชื่อถือของคุณและสิ่งที่คุณทำกับตัวคุณเอง

And electronic tattoos also shout.

และรอยสักอิเล็กทรอนิกส์พวกนี้ ก็สื่อความได้ด้วยเช่นกัน

And as you're thinking of the consequences of that,

และในระหว่างที่คุณกำลังคิดถึงผลลัพธ์ของมันอยู่นั้น

it's getting really hard to hide from this stuff, among other things,

ก็เป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะซ่อนตัวจากสิ่งเหล่านี้

because it's not just the electronic tattoos,

เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงรอยสักอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น

it's facial recognition that's getting really good.

มันเป็นการจดจำใบหน้าที่ทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

So you can take a picture with an iPhone and get all the names,

ด้วยเหตุนี้คุณถึงสามารถถ่ายรูปด้วยไอโฟน แล้วได้ชื่อของคนเหล่านั้นมาทันที

although, again, sometimes it does make mistakes. (Laughter)

ถึงแม้ว่าบางทีมันจะมีพลาดบ้างก็เถอะ (เสียงหัวเราะ)

But that means you can take a typical bar scene like this,

แต่นั่นหมายความว่าคุณสามารถที่จะถ่ายภาพในบาร์แบบนี้

take a picture, say, of this guy right here,

ถ่ายรูปของผู้ชายคนนี้ ตรงนี้

get the name, and download all the records

ได้ชื่อเขามา แล้วก็ดาวน์โหลดข้อมูลมา

before you utter a word or speak to somebody,

ก่อนที่คุณจะได้พูดจาสักคำกับใครคนหนึ่ง

because everybody turns out to be

เพราะทุกคนกำลัง

absolutely plastered by electronic tattoos.

ถูกรอยสักอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้แปะติดไว้

And so there's companies like face.com that now have

และแล้วมันก็มีบริษัทอย่างเช่น face.com ที่ตอนนี้

about 18 billion faces online.

มีรูปใบหน้าคน 1.8 พันล้านคนบนโลกออนไลน์

Here's what happened to this company.

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับบริษัทนี้

[Company sold to Facebook, June 18, 2012...]

[บริษัทถูกขายให้เฟซบุค 18 มิถุนายน 2012...]

There are other companies that will place a camera

ยังมีบริษัทอื่นๆ อีกที่จะวางกล้องไว้

like this — this has nothing to do with Facebook —

แบบนี้ -- อันนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเฟซบุคนะครับ --

they take your picture, they tie it to the social media,

พวกเขาถ่ายรูปคุณ แล้วก็เอามันไปแปะไว้ในโซเชียลมีเดีย

they figure out you really like to wear black dresses,

พวกเขาเจอว่าคุณชอบใส่ชุดเดรสสีดำเอามากๆ

so maybe the person in the store comes up and says,

เพราะงั้น บางทีคนในร้านค้าอาจมาหาคุณแล้วพูดว่า

"Hey, we've got five black dresses

"เฮ้ เรามีชุดเดรสสีดำ 5 ชุด

that would just look great on you."

ซึ่งจะดูสวยมากบนตัวคุณนะ"

So what if Andy was wrong?

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าแอนดี้คิดผิด?

Here's Andy's theory.

นี่คือทฤษฎีของแอนดี้

[In the future, everybody will be world famous for 15 minutes.]

[ในอนาคต ทุกคนจะโด่งดังระดับโลกเป็นเวลา 15 นาที]

What if we flip this?

แล้วถ้าเรามองมุมกลับล่ะ?

What if you're only going to be anonymous for 15 minutes? (Laughter)

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณจะกลายเป็นคนนิรนามได้แค่ 15 นาที (เสียงหัวเราะ)

Well, then, because of electronic tattoos,

เอาล่ะ เพราะเจ้ารอยสักอิเลกทรอนิกส์

maybe all of you and all of us are very close to immortality,

บางทีพวกคุณทุกคน พวกเราทุกคน อาจเข้าใกล้การเป็นอมตะ

because these tattoos will live

เพราะรอยสักพวกนี้มันจะอยู่

far longer than our bodies will.

ยืนยาวไปกว่าร่างกายของพวกเรา

And if that's true, then what we want to do

และถ้านั่นเป็นเรื่องจริง สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือ

is we want to go through four lessons from the Greeks

เราต้องผ่านบทเรียนสี่บทจากชาวกรีก

and one lesson from a Latin American.

และหนึ่งบทเรียนจากชาวละตินอเมริกัน

Why the Greeks?

ทำไมต้องเป็นกรีกล่ะ?

Well, the Greeks thought about what happens

ก็ชาวกรีกได้คิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

when gods and humans and immortality mix for a long time.

เมื่อเทพเจ้า มนุษย์ และความอมตะ ได้ผสานกัน เอาไว้เมื่อนานมาแล้ว

So lesson number one: Sisyphus.

บทเรียนที่ 1: ซีซิฟัส (Sisyphus)

Remember? He did a horrible thing, condemned for all time

จำได้มั้ยครับ? เขาทำสิ่งที่เลวร้ายมาก และถูกลงโทษให้

to roll this rock up, it would roll back down,

กลิ้งหินก้่อนนี้ขึ้น ซึ่งมันมักจะกลิ้งลงมาที่เดิม

roll back up, roll back down.

กลิ้งมันกลับขึ้นไป มันก็กลิ้งลงมา

It's a little like your reputation.

มันก็เหมือนกับชื่อเสียงของคุณ

Once you get that electronic tattoo,

เมื่อคุณมีรอยสักอิเล็กทรอนิกส์แล้ว

you're going to be rolling up and down for a long time,

คุณก็จะถูกดันขึ้นและลงไปเรื่อยๆ

so as you go through this stuff,

เพราะงั้นระหว่างที่คุณใช้สิ่งนี้

just be careful what you post.

ให้ระวังสิ่งที่คุณจะโพสต์ลงไป

Myth number two: Orpheus, wonderful guy,

นิทานปรัมปราที่สอง: ออเฟียส (Orpheus) ชายหนุ่มมหัศจรรย์

charming to be around, great partier, great singer,

มีเสน่ห์ดึงให้อยู่ใกล้ เป็นนักสังสรรค์และนักร้องที่ยอดเยี่ยม

loses his beloved, charms his way into the underworld,

สูญเสียคนรัก แล้วใช้เสน่ห์ของเขาไปยังโลกใต้พิภพ

only person to charm his way into the underworld,

เป็นคนเดียวที่ทำแบบนั้นได้

charms the gods of the underworld,

ใช้เสน่ห์กับเทพแห่งโลกใต้พิภพ

they release his beauty on the condition

พวกเขาปล่อยสาวงามของเขาด้วยเงื่อนไขว่า

he never look at her until they're out.

เขาจะต้องไม่หันมามองเธอจนกว่าจะออกไปได้

So he's walking out and walking out and walking out

เขาจึงออกเดิน เดินแล้วเดินเล่า

and he just can't resist. He looks at her, loses her forever.

แต่แล้วเขาก็ทนไม่ไหว เขาหันไปมองเธอ แล้วก็สูญเสียเธอไปตลอดกาล

With all this data out here, it might be a good idea

ด้วยข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ข้างนอกนั่น มันอาจจะเป็นความคิดที่ดีก็ได้

not to look too far into the past of those you love.

ที่จะไม่มองย้อนอดีตของคนที่คุณรักไปไกลนัก

Lesson number three: Atalanta.

บทเรียนที่สาม: อตาลันต้า (Atalanta)

Greatest runner. She would challenge anybody.

นักวิ่งผู้ยิ่งใหญ่ เธอมักจะท้าทายทุกคน

If you won, she would marry you.

ถ้าคุณชนะ เธอจะแต่งงานกับคุณ

If you lost, you died.

ถ้าคุณแพ้ คุณตาย

How did Hippomenes beat her?

แล้วฮิปโปเมเนส (Hippomenes) เอาชนะเธอได้ยังไงล่ะ?

Well, he had all these wonderful little golden apples,

ก็เพราะเขามีเจ้าแอปเปิ้ลทองคำเหล่านี้ไงล่ะ

and she'd run ahead, and he'd roll a little golden apple.

เมื่อเธอวิ่งนำหน้า เขาก็จะกลิ้งเจ้าแอปเปิ้ลทองคำนี้ไป

She'd run ahead, and he'd roll a little golden apple.

เธอวิ่งนำหน้า เขาก็กลิ้งเจ้าแอปเปิ้ลทองคำนี้ไปอีก

She kept getting distracted. He eventually won the race.

เธอเสียสมาธิ แล้วท้ายที่สุดเขาก็ชนะ

Just remember the purpose as all these little golden apples

เพียงจำเอาไว้นะครับ เมื่อเจ้าแอปเปิ้ลทองคำเหล่านี้

come and reach you and you want to post about them

มาถึงตัวคุณ แล้วคุณอยากจะโพสต์เกี่ยวกับมัน

or tweet about them or send a late-night message.

หรือทวีตเกี่ยวกับ หรือส่งข้อความยามดึกเกี่ยวกับมัน

And then, of course, there's Narcissus.

และแล้วก็แน่นอนว่าต้องมี นาซิสซัส (Narcissus)

Nobody here would ever be accused or be familiar with Narcissus.

คงไม่มีใครที่เคยถูกกล่าวหาว่าเป็น หรือคุ้นเคยกับนาซิสซัสนะครับ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

But as you're thinking about Narcissus,

แต่เมื่อคุณคิดถึงนาซิสซัส

just don't fall in love with your own reflection.

เพียงอย่าตกหลุมรักเงาสะท้อนของคุณเองเท่านั้นเอง

Last lesson, from a Latin American:

บทเรียนสุดท้ายจากชาวละตินอเมริกัน

This is the great poet Jorge Luis Borges.

นี่คือกวีผู้ยิ่งใหญ่ ฮอร์ ลูอิส บอร์เกส (Jorge Luis Borges)

When he was threatened by the thugs

เมื่อตอนที่เขาถูกข่มขู่โดยอันธพาล

of the Argentine military junta,

จากรัฐบาลทหารแห่งอาร์เจนไตน์

he came back and said, "Oh, come on,

เขากลับมาแล้วก็พูดว่า "โอ ไม่เอาน่า

how else can you threaten, other than with death?"

คุณจะมีวิธีการข่มขู่ผู้อื่นที่ยิ่งไปกว่า การข่มขู่ด้วยความตายได้อย่างไร?

The interesting thing, the original thing,

สิ่งที่น่าสนใจและแปลกใหม่ก็คือ

would be to threaten somebody with immortality.

การข่มขู่ใครสักคนด้วยความอมตะ

And that, of course, is what we are all

และนั่น แน่นอน ก็คือสิ่งที่พวกเรา

now threatened with today because of electronic tattoos.

กำลังถูกข่มขู่อยู่ทุกวันนี้ จากรอยสักอิเล็กทรอนิกส์นั่นเอง

Thank you.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)