Isabel Allende: Tales of passion | TED

Translator: Weaw J. Reviewer: palakon kotchapansompote

Thank you so much.

ขอบคุณมากคะ มันน่ากลัวมากที่จะมาที่นี่

It's really scary to be here among the smartest of the smart.

แล้วถูกรายล้อมไปด้วยสุดยอดของหัวกะทิทั้งหลาย

(Laughter)

ฉันมาที่นี่เพื่อจะเล่าเรื่องราวของความปรารถนาอย่างแรงกล้าสักเรื่องสองเรื่อง

I'm here to tell you a few tales of passion.

There's a Jewish saying that I love:

มีคำกล่าวของยิวอันหนึ่งที่ฉันชอบ

What is truer than truth?

อะไรคือสิ่งที่จริงแท้ยิ่งกว่าความจริง คำตอบ: เรื่องราว

Answer: the story.

I'm a storyteller.

ฉันเป็นนักเล่าเรื่อง ฉันต้องการจะเล่าเรื่องราวบางอย่างที่จริงแท้ยิ่งเสียกว่าความจริง

I want to convey something that is truer than truth

about our common humanity.

เกี่ยวกับเรื่องมนุษย์ทั่วๆไปของเรา

All stories interest me,

ทุกเรื่องราวทำให้ฉันสนใจ และบางเรื่องก็ตามหลอกหลอนฉัน

and some haunt me until I end up writing them.

จนในที่สุดฉันได้เขียนเกี่ยวกับมัน

Certain themes keep coming up:

แก่นเรื่องบางเรื่อง ผุดขึ้นมาในหัวฉันตลอดเวลา

justice, loyalty, violence, death, political and social issues,

ประเด็นทาง ความยุติธรรม, ความซื่อสัตย์, ความรุนแรง, ความตาย, การเมืองและสังคม

freedom.

อิสรภาพ

I'm aware of the mystery around us,

ฉันตระหนักถึงสิ่งเร้นลับต่าง ๆ รอบตัวฉัน

so I write about coincidences, premonitions,

ฉันจึงเขียนเกี่ยวกับความบังเอิญ, ลางร้ายต่าง ๆ

emotions, dreams, the power of nature, magic.

อารมณ์, ความฝัน, พลังของธรรมชาติ, เรื่องอัศจรรย์​

In the last 20 years, I have published a few books,

ใน 20 ปีหลัง ฉันได้เผยแพร่หนังสือสองสามเล่ม

but I have lived in anonymity until February of 2006,

แต่ฉันใช้ชีวิตอย่างไม่มีใครรู้จักจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ในปี 2006

when I carried the Olympic flag in the Winter Olympics in Italy.

เมื่อฉันได้ถือธงโอลิมปิกในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่ประเทศอิตาลี

นั่นได้ทำให้ฉันเป็นที่รู้จัก ตอนนี้ผู้คนที่ห้างเมซีส์จำฉันได้แล้ว

That made me a celebrity.

(Laughter)

Now people recognize me in Macy's,

และหลาน ๆ ฉันก็คิดว่าฉันเท่ห์

and my grandchildren think that I'm cool.

(Laughter)

(หัวเราะ)

Allow me to tell you about my four minutes of fame.

ฉันขออนุญาตเล่าเรื่อง 4 นาทีแห่งชื่อเสียงของฉันให้ฟัง

ผู้จัดงานโอลิมปิกคนหนึ่ง

One of the organizers of the Olympic ceremony,

of the opening ceremony,

ที่ดูแลเรื่องพิธีเปิด

called me and said that I had been selected to be one of the flag bearers.

โทรศัพท์หาฉันและบอกว่าฉันได้รับเลือก

ให้เป็นหนึ่งในผู้ถือธงโอลิมปิก

I replied that surely, this was a case of mistaken identity,

ฉันตอบกลับไปว่าคุณติดต่อผิดคนอย่างแน่นอน

because I'm as far as you can get from being an athlete.

เพราะว่าฉันไม่ใกล้เคียงที่จะเป็นนักกีฬาเลย

Actually, I wasn't even sure that I could go around the stadium

จริง ๆ แล้ว ฉันไม่แน่ใจแม้กระทั่งว่าจะสามารถเดินรอบสนามกีฬา

without a walker.

โดยที่ไม่ต้องใช้ไม้เท้าหรือเปล่า

(หัวเราะ)

(Laughter)

I was told that this was no laughing matter.

เขาบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่น

This would be the first time

ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก

that only women would carry the Olympic flag.

ที่มีเฉพาะผู้หญิงที่เป็นคนถือธงโอลิมปิก

ผู้หญิง 5 คน เป็นตัวแทน 5 ทวีป

Five women, representing five continents,

and three Olympic gold medal winners.

และผู้ชนะเหรียญทองโอลิมปิกอีก 3 คน

My first question was, naturally:

คำถามแรกที่ฉันถามไปโดยอัตโนมัติคือ

What was I going to wear?

ฉันจะได้ใส่ชุดอะไร

(Laughter)

(หัวเราะ)

"A uniform," she said,

เขาบอกว่าใส่ชุดยูนิฟอร์ม

and asked for my measurements.

และถามถึงสัดส่วนของฉัน

My measurements.

สัดส่วนของฉันนะ

ฉันได้มองเห็นภาพตัวเองในแจ๊กเก็ตตัวหลวมโคร่ง

I had a vision of myself in a fluffy anorak,

looking like the Michelin Man.

ที่ดูเหมือนหุ่่นแบบยางมิชลิน

(Laughter)

(หัวเราะ)

ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์

By the middle of February, I found myself in Turin,

ฉันได้มาอยู่ที่เมืองทูริน ที่ ๆ ผู้คนที่ตื่นเต้น

where enthusiastic crowds cheered

เชียร์โห่ร้องเมื่อทีมนักกีฬากว่า 80 ชีวิตเดินอยู่บนถนน

when any of the 80 Olympic teams was in the street.

Those athletes had sacrificed everything to compete in the games.

นักกีฬาเหล่านั้นได้เสียสละทุก ๆ อย่างเพื่อชัยชนะ

They all deserved to win, but there's the element of luck.

พวกเขาก็สมควรที่จะได้รับชัยชนะกันทุก ๆ คน แต่มันก็ต้องมีเรื่องของโชคด้วย

A speck of snow, an inch of ice, the force of the wind

ไม่ว่าจะเป็นเพียงจุดหิมะเล็ก ๆ ก้อนนำ้้แข็งบาง ๆ หรือ แรงลม

can determine the result of a race or a game.

ก็สามารถเปลี่ยนผลของการแข่งขันได้

However, what matters most, more than training or luck, is the heart.

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุด มากกว่าการฝึกซ้อมหรือโชคชะตา สิ่งนั้นคือจิตใจ

Only a fearless and determined heart will get the gold medal.

มีเพียงใจที่ปลอดความกลัวและแน่วแน่เท่านั้นที่จะคว้าเหรียญทองไปได้

It is all about passion.

มันเป็นเรื่องของความปรารถนาอย่างแรงกล้า

The streets of Turin were covered with red posters

ท้องถนนของทูรินเต็มไปด้วยโปสเตอร์สีแดง

announcing the slogan of the Olympics:

ป่าวประกาศคำขวัญของงานโอลิมปิกนี้

"Passion lives here."

ความปรารถนาอย่างแรงกล้าอยู่ที่นี่ นั่นเป็นสิ่งที่จริงอยู่แล้วไม่ใช่หรือ

Isn't it always true?

Heart is what drives us and determines our fate.

จิตใจเป็นส่วนที่กระตุ้นเราและเป็นตัวกำหนดโชคชะตาของเรา

และนั้นก็เป็นสิ่งที่ฉันต้องการในตัวละครสำหรับหนังสือของฉัน

That is what I need for my characters in my books:

a passionate heart.

ใจที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาอันแรงกล้า

I need mavericks, dissidents, adventurers, outsiders and rebels,

ฉันต้องการผู้มีตัวตนอิสระ ไม่ท้อต่ออุปสรรค ชอบผจญภัย คนคิดนอกกรอบและนักปฏิวัติ

who ask questions, bend the rules and take risks.

คนที่กล้าถามคำถาม ไม่ยอมต่อกฎข้อบังคับและกล้าที่จะเสี่ยง

People like all of you in this room.

คนที่เหมือน ๆ กับทุกคนที่อยู่ในห้องนี้

ผู้คนจิตใจดีแบบธรรมดา ๆ มักจะไม่ค่อยเป็นที่น่าสนใจมากนัก

Nice people with common sense do not make interesting characters.

(Laughter)

(หัวเราะ)

They only make good former spouses.

พวกเขาเหล่านั้นเหมาะที่จะเป็นอดีตคู่รักที่ดีเท่านั้น

(Laughter)

(หัวเราะ)

(Applause)

(ปรบมือ)

In the greenroom of the stadium, I met the other flag bearers:

ในห้องสีเขียวที่สนามกีฬา ฉันได้พบกับผู้ถือธงคนอื่น ๆ

นักกีฬา 3 คน และก็มีดาราอย่าง ซูซาน ซแลนดอน และ โซเฟีย ลอเรน

three athletes and the actresses Susan Sarandon and Sophia Loren.

Also, two women with passionate hearts:

และก็ยังมี สุภาพสตรีที่มีหัวใจที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาอย่างแรงกล้าอีก 2 คน

Wangari Maathai, the Nobel Prize winner from Kenya

วันการี มาไท ผู้ได้รับรางวัลโนเบลจากประเทศเคนย่า

who has planted 30 million trees,

เธอผู้ซึ่งปลูกต้นไม้กว่า 30 ล้านต้น และจากการที่ทำเช่นนั้น

and by doing so, she has changed the soil, the weather, in some places in Africa,

เธอได้เปลี่ยนผืนดินและสภาพอากาศ

ในหลาย ๆ พื้นที่ในทวีปแอฟริกา รวมทั้งเรื่อง

and of course, the economic conditions in many villages;

สภาพเศรษฐกิจของอีกหลาย ๆ หมู่บ้าน

and Somaly Mam,

และอีกคนคือ โซมาลี แมม นักปฏิวัติชาวกัมพูชาผู้ซึ่งต่อสู้อย่างแรงกล้า

a Cambodian activist who fights passionately against child prostitution.

เพื่อยุติการค้าประเวณีเด็ก

When she was 14 years old, her grandfather sold her to a brothel.

เธอถูกขายโดยตาของเธอให้กับซ่องเมื่อเธออายุเพียง 14 ปี

She told us of little girls raped by men

เธอบอกกับเราว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หลายคนถูกข่มขืนด้วยชายที่มีความคิดว่่า

who believe that having sex with a very young virgin

การมีเซ็กซ์กับเด็กบริสุทธิ์จะสามารถรักษาพวกเขาจากโรคเอดส์ได้

will cure them from AIDS,

และในซ่องที่ ๆ เด็ก ๆ ถูกบังคับในรับแขกจาก 5 คน

and of brothels where children are forced to receive 15 clients per day,

15 คนต่อวัน

and if they rebel, they are tortured with electricity.

และถ้าพวกเธอขัดขืนก็จะถูกทรมานด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า

In the greenroom, I received my uniform.

ในห้องสีเขียวนั้น ฉันได้รับชุดยูนิฟอร์ม

It was not the kind of outfit that I normally wear,

มันไม่ได้เป็นชุดแบบที่ฉันใส่อยู่เป็นประจำ

but it was far from the Michelin Man suit that I had anticipated.

แต่ก็ไม่ได้คล้ายหรือใกล้เคียงกับหุ่นยางมิชลิน

ที่ฉันเคยคาดคิดไว้ จริง ๆ ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด

Not bad, really.

I looked like a refrigerator.

ฉันแค่ดูเหมือนตู้เย็นเท่านั้นเอง

(Laughter)

(หัวเราะ)

But so did most of the flag bearers, except Sophia Loren,

แต่ผู้ถือธงคนอื่น ๆ ก็รู้สึกเหมือนกัน ยกเว้นแต่โซเฟีย ลอเรน

the universal symbol of beauty and passion.

ผู้ที่เป็นสัญลักษณ์ไปทั่วโลกในเรื่องของความสวยและแรงปรารถนาอันแรงกล้า

Sophia is over 70 and she looks great.

โซเฟียอายุเกิน 70 ปีแล้วแต่ก็ยังดูยอดเยี่ยมมาก

She's sexy, slim and tall, with a deep tan.

เธอนั้นเซ็กซี่ ผอม สูงและมีผิวสีแทน

Now, how can you have a deep tan and have no wrinkles?

จริง ๆ เลยว่าคุณทำได้อย่างไรที่มีผิวสีแทนแต่ไม่มีรอยเหี่ยวย่นเลยนะ

I don't know.

ฉันไม่รู้

ตอนที่เธอให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีว่า ทำอย่างไรเธอถึงดูดีอยู่เสมอ

When asked in a TV interview how could she look so good,

she replied, "Posture."

เธอตอบว่า "ท่าทาง หลังของฉันตรงอยู่เสมอ

(Laughter)

"My back is always straight,

and I don't make old people's noises."

และฉันก็ไม่ทำเสียงคนแก่"

(หัวเราะ)

(Laughter)

So there you have some free advice

ฉะนั้น นั่นคือคำแนะนำดี ๆ ที่ไม่ต้องเสียตังค์​

จากหนึ่งในผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก

from one of the most beautiful women on earth:

no grunting, no coughing, no wheezing,

ห้ามโอดครวญ ห้ามไอ ห้ามทำเสียงฟืดฟาด

no talking to yourselves, no farting.

ห้ามคุยกับตัวเองและห้ามผายลม

(หัวเราะ)

(Laughter)

จริง ๆ แล้วเธอก็ไม่ได้พูดแบบนี้โดยตรงหรอกนะ

Well, she didn't say that, exactly.

(Laughter)

(หัวเราะ)

At some point around midnight,

ในเวลาเกือบ ๆ เที่ยงคืน

we were summoned to the wings of the stadium,

พวกเราก็รวมตัวกันอยู่ที่บริเวณด้านข้างของสนามกีฬา

and the loudspeakers announced the Olympic flag,

และเสียงประกาศเรียกผู้ถือธงโอลิมปิกและดนตรีก็ดังขึ้น

and the music started --

by the way, the same music that starts here, the "Aida" march.

มันเป็นเพลงเดียวกับที่นี่ใช้เหมือนกัน

เพลง ไอด้ามาร์ช

Sophia Loren was right in front of me.

โซเฟีย ลอเรนยืนอยู่หน้าฉัน เธอสูงกว่าฉันประมาณ 1 ฟุต

She's a foot taller than I am, not counting the poofy hair.

นั่นไม่นับรวมทรงผมฟู ๆ หรอกนะ

(Laughter)

(หัวเราะ)

She walked elegantly, like a giraffe on the African savanna,

เธอเดินอย่างสง่างาม เหมือนกับยีราฟในทุ่งหญ้าซาวาน่าในแอฟริกา

holding the flag on her shoulder.

ถือธงไว้บนบ่าของเธอ และก็มีฉันวิ่งเหยาะ ๆ ตามอยู่ด้านหลัง

I jogged behind --

(Laughter)

(หัวเราะ)​

on my tiptoes, holding the flag on my extended arm,

ด้วยปลายเท้าก็ฉัน และยืดธงไปให้สุดแขนของฉัน

so that my head was actually under the damn flag.

เพื่อที่ว่าศีรษะของฉันจะได้ไปอยู่ที่ใต้ธงอันนั้น

(Laughter)

(หัวเราะ)

All the cameras were, of course, on Sophia.

ก็อีกนั่นแหละ กล้องทุก ๆ ตัวจับจ้องไปที่โซเฟีย

That was fortunate for me,

ซึ่งก็เป็นโชคสำหรับฉันเพราะว่าในทุก ๆ ภาพถ่ายของสื่อ

because in most press photos, I appear too --

ก็จะมีฉันอยู่ด้วย อยู่ตรงระหว่างขาของโซเฟียนะ

although, often between Sophia's legs --

(Laughter)

(หัวเราะ)

a place where most men would love to be.

ที่ ๆ ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่อยากจะไปอยู่

(Laughter)

(หัวเราะ)​

(ปรบมือ)

(Applause)

The best four minutes of my entire life were those in the Olympic stadium.

มันเป็น 4 นาทีที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน

ก็คือที่สนามกีฬาโอลิมปิกแห่งนั้น

สามีฉันเหมือนจะถูกดูถูกเมื่อฉันพูดเช่นนั้น

My husband is offended when I say this,

although I have explained to him that what we do in private

แต่ฉันก็อธิบายกลับไปว่าอะไรที่เราทำด้วยกันในที่ลับนั้น

usually takes less than four minutes --

ปกติจะใช้เวลาน้อยกว่า 4 นาทีเท่านั้น

(Laughter)

(หัวเราะ)

so he shouldn't take it personally.

ฉะนั้นเขาก็ไม่ควรจะถือสาอะไรกับมัน

(Laughter)

I have all the press clippings of those four magnificent minutes

ฉันได้เก็บรวบรวมข่าวเหล่านั้นไว้หมด เรื่องเกี่ยวกับ 4 นาทีที่มีค่ายิ่ง

because I don't want to forget them

เพราะว่าฉันไม่ต้องการที่จะลืมมัน

when old age destroys my brain cells.

เมื่อความชราเริ่มทำลายเซล์ลสมองไปเรื่อย ๆ

I want to carry in my heart forever the key word of the Olympics:

ฉันต้องการที่จะจดจำคำขวัญโอลิมปิกไว้ในจิตใจตลอดกาล

แรงปรารถนาอันแรงกล้า

passion.

และนี่ก็คือเรื่องราวของแรงปรารถนานั้น ๆ

So here's a tale of passion.

The year is 1998,

ในปี 1998 ณ ค่ายกักกันแห่งหนึ่ง

the place is a prison camp for Tutsi refugees in Congo.

สำหรับผู้อพยพชาวทุตซี่ในประเทศคองโก

By the way, 80 percent of all refugees and displaced people in the world

กว่า 80 % ของผู้อพยพและผู้อพยพย้ายถิ่นในโลกนั้น

are women and girls.

เป็นผู้หญิงและเด็กหญิง

เราเรียกที่แห่งนั้นในคองโก ว่าค่ายแห่งความตาย

We can call this place in Congo a death camp,

because those who are not killed will die of disease or starvation.

เพราะว่าคนที่ไม่ได้ถูกฆ่าก็จะตายด้วยโรคร้ายหรือไม่ก็อดตาย

The protagonists of this story are a young woman, Rose Mapendo,

ผู้แสดงนำในเรื่องนี้คือ

หญิงสาวชื่อ โรส มาเพนโดและลูก ๆ ของเธอ

and her children.

She's pregnant and a widow.

เธอกำลังตั้งครรภ์และเป็นม่าย

เหล่าทหารบังคับให้เธอดู

Soldiers had forced her to watch as her husband was tortured and killed.

สามีเธอถูกทรมานและถูกฆ่าตาย

Somehow she manages to keep her seven children alive,

อย่างไรก็ตามเธอสามารถรักษาชีวิตของลูก ๆ ทั้ง 7 ของเธอได้

and a few months later, she gives birth to premature twins,

แต่ต่อมาไม่กี่เดือน เธอก็ได้คลอดก่อนกำหนดให้กำเนิดทารกแฝด

two tiny little boys.

เด็กทารกตัวน้อย ๆ เพศชาย 2 คน

She cuts the umbilical cord with a stick

เธอตัดสายสะดือของลูกเองด้วยแท่งไม้

and ties it with her own hair.

และมัดมันด้วยผมของเธอเอง

She names the twins after the camp's commanders

เธอตั้งชื่อลูกแฝดตามชื่อของหัวหน้าแคมป์

to gain their favor,

เพื่อที่จะได้รับความปราณีและเลี้ยงชาดำให้กับคู่แฝด

and feeds them with black tea because her milk cannot sustain them.

เพราะว่านำ้นมของเธอไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงพวกเขา

When the soldiers burst in her cell to rape her oldest daughter,

เมื่อตอนที่ทหารบุกเข้ามาเพื่อที่จะข่มขืนลูกสาวคนโตของเธอ

เธอได้กอดลูกไว้แน่นและไม่ยอมปล่อยไป

she grabs hold of her and refuses to let go,

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเอาปืนมาจ่อไว้ที่หัวของเธอ

even when they hold a gun to her head.

Somehow, the family survives for 16 months,

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวสามารถรอดชีวิตไปได้อีก 16 เดือน

and then, by extraordinary luck

จากนั้นด้วยโชคช่วยอย่างมหาศาลและจิตปรารถนาอันแรงกล้า

and the passionate heart of a young American man, Sasha Chanoff,

ของชายชาวอเมริกันชื่อ ซาช่า ชาน๊อฟ

who manages to put her in a US rescue plane,

ที่จัดการพาเธอขึ้นเครื่องบินช่วยเหลือของอเมริกา

Rose Mapendo and her nine children end up in Phoenix, Arizona,

โรส มาเพนโดและลูก ๆ ทั้ง 9 ของเธอได้มาอาศัยอยู่ที่ฟีนิกซ์ อริโซนา

where they're now living and thriving.

ที่ ๆ ซึ่งพวกเขายังคงอาศัยและเอาตัวรอดอยู่

"Mapendo," in Swahili, means "great love."

ในภาษาสวาฮิลี มาเพนโดหมายถึงความรักอันยิ่งใหญ่

The protagonists of my books are strong and passionate women

ตัวละครเด่นในหนังสือของฉันเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งพร้อมแรงปรารถนาอันแรงกล้า

like Rose Mapendo.

เหมือนกับ โรส มาเพนโด

I don't make them up;

ฉันไม่ได้แต่งพวกเขาขึ้นมา ไม่มีความจำเป็นที่จะทำเช่นนั้น

there's no need for that.

ฉันแค่มองไปรอบ ๆ ฉันก็เห็นพวกเขาเหล่านั้นในทุก ๆ ที่

I look around, and I see them everywhere.

I have worked with women and for women all my life.

ฉันได้ทำงานกับสตรีและเพื่อสตรีมาตลอดทั้งชีวิต

I know them well.

ฉันรู้จักพวกเขาดี

I was born in ancient times, at the end of the world,

ฉันเกิดมาในช่วงยุคเก่า ในยุคที่โลกล่มสลาย

in a patriarchal Catholic and conservative family.

ในครอบครัวคาธอริคที่เคร่งครัดและหัวโบราณ

No wonder that by age five, I was a raging feminist --

ไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่าฉันได้เป็นนักสตรีนิยมอย่างแข็งขันตอนอายุ 5 ปี

although the term had not reached Chile yet,

ถึงแม้ว่าขณะนั้นคำ ๆ นี้ยังไปไม่ถึงประเทศชิลีเลยก็ตาม

so nobody knew what the heck was wrong with me.

ก็เลยไม่มีใครเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่

(Laughter)

(หัวเราะ)

I would soon find out that there was a high price to pay for my freedom

จากนั้นไม่นานฉันก็ได้พบว่านั่นเป็นบทเรียนราคาแพง

สำหรับอิสรภาพของฉันและคำถามเกี่ยวกับระบบการปกครองแบบพ่อปกครองลูก

and for questioning the patriarchy.

But I was happy to pay it,

แต่ฉันก็ยินดีที่จะจ่ายได้รับบทเรียนเหล่านั้นเพราะว่าในทุก ๆ แรงที่ฉันได้รับนั้น

because for every blow that I received,

I was able to deliver two.

ฉันสามารถตอบกลับได้เป็นสองเท่า

(Laughter)

(หัวเราะ)​

Once, when my daughter Paula was in her twenties,

ครั้งหนึ่งเมื่อลูกสาวฉันพอลล่าอายุประมาณ​ 20 ปี

เธอบอกว่านักสตรีนิยมนั้นมันล้าสมัยไปแล้วและฉันควรจะปล่อยเธอไป

she said to me that feminism was dated, that I should move on.

We had a memorable fight.

มันเป็นการทะเลาะที่น่าจดจำมาก สตรีนิยมเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้วนะหรือ

Feminism is dated?

Yes, for privileged women like my daughter and all of us here today,

ใช่ สำหรับผู้หญิงที่มีโอกาสมากมายเหมือนกับลูกสาวของฉันและทุก ๆ คนในที่นี้

but not for most of our sisters in the rest of the world,

แต่ไม่ใช่สำหรับพี่สาวน้องสาวที่อยู่ที่อื่น ๆ ในโลกใบนี้

ผู้ที่ยังต้องต่อสู้ในเรื่องการถูกบังคับในแต่งงานในวัยก่อนอันควร

who are still forced into premature marriage,

prostitution, forced labor.

การค้าประเวณี แรงงานผู้ถูกกดขี่

They have children that they don't want or they cannot feed.

พวกเธอมีลูกที่พวกเขาไม่ต้องการหรือไม่สามารถดูแลได้

They have no control over their bodies or their lives.

พวกเธอไม่สามารถเป็นเจ้าของร่างกายหรือชีวิตตัวเองได้เลย

พวกเธอไม่มีการศึกษาและปราศจากเสรีภาพ

They have no education and no freedom.

They are raped, beaten up and sometimes killed with impunity.

พวกเธอถูกข่มขืน ทุบตี และบางครั้งก็รอดพ้นโทษโดยการถูกฆ่าตาย

For most Western young women of today,

ในวันนี้ สำหรับสาว ๆ ในฝั่งตะวันตก

being called a "feminist" is an insult.

การถูกเรียกว่านักสตรีนิยมถือว่าเป็นการดูถูก

Feminism has never been sexy,

นักสตรีนิยมนั้นไม่เซ็กซี่ แต่ฉันสามารถบอกคุณ ๆ ได้เลยว่า

but let me assure you that it never stopped me from flirting,

นั่นไม่เคยหยุดฉันจากการคบหาผู้คน

และมีน้อยครั้งมากที่ฉันจะทุกข์จากการขาดผู้ชาย

and I have seldom suffered from lack of men.

(หัวเราะ)​

(Laughter)

Feminism is not dead, by no means.

นักสตรีนิยมนั่นยังไม่ตาย

มันได้กลายพันธุ์ไป หากคุณไม่ชอบชื่อนี้

It has evolved.

If you don't like the term,

change it, for Goddess' sake.

ก็เปลี่ยนสักทีเถอะ พระเจ้าช่วย!

Call it "Aphrodite" or "Venus" or "bimbo" or whatever you want.

อยากจะเรียกเป็นเทพอะโฟรไดท์ หรือ วีนัส หรือ สาวน้อย หรืออะไรก็ได้ที่คุณต้องการ

The name doesn't matter,

ชื่อไม่ใช่สิ่งสำคัญ​

as long as we understand what it is about, and we support it.

เท่ากับสิ่งที่เราเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ และเราสนับสนุนมัน

และนี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งของแรงปรารถนาอันแรงกล้า อันนี้เป็นเรื่องเศร้า

So here's another tale of passion, and this is a sad one.

The place is a small women's clinic in a village in Bangladesh.

ณ คลีนิกเล็ก ๆ สำหรับผู้หญิงแห่งหนึ่งในหมู่บ้านที่ประเทศบังกลาเทศ

The year is 2005.

ในปี 2005

Jenny is a young American dental hygienist

มีทัตนแพทย์สาวชาวอเมริกันชื่อ เจนนี่

who has gone to the clinic as a volunteer during her three-week vacation.

ผู้ซึ่งมาเป็นอาสาสมัครที่คลีนิคแห่งนี้

ในช่วงวันหยุดเป็นเวลา 3 อาทิตย์​

She's prepared to clean teeth,

เธอเตรียมตัวมาทำความสะอาดฟัน

but when she gets there,

แต่เมื่อเธอไปถึงที่นั่น เธอพบว่าไม่มีหมออยู่เลย

she finds out that there are no doctors, no dentists,

ไม่มีทัตนแพทย์และคลีนิคก็เต็มไปด้วยแมลงวัน

and the clinic is just a hut full of flies.

Outside, there is a line of women

ด้านนอกมีผู้หญิงต่อแถวยาว

who have waited several hours to be treated.

พวกเธอรอมาหลายชั่วโมงเพื่อที่จะได้รับการรักษา

The first patient is in excruciating pain

คนไข้รายแรกนั้นเจ็บปวดอย่างมาก

เพราะว่าเธอมีฟันผุหลายซี่

because she has several rotten molars.

Jenny realizes that the only solution is to pull out the bad teeth.

เจนนี่ตระหนักว่าทางออกทางเดียวคือต้องถอนฟันผุออก

แต่เธอไม่มีประกาศนียบัตรที่จะทำได้ และเธอก็ไม่เคยทำมาก่อน

She's not licensed for that; she has never done it.

She risks a lot and she's terrified.

เธอเสี่ยงอย่างมากและกลัวมากด้วย

She doesn't even have the proper instruments,

เธอนั้นไม่มีแม้กระทั่งเครื่องมือสำหรับการถอนฟัน

but fortunately, she has brought some novocaine.

แต่ก็โชคดีที่เธอได้พกเอายาโนวาเคนมาด้วย

Jenny has a brave and passionate heart.

เจนนี่กล้าหาญและมีิแรงปรารถนาอันแรงกล้า

She murmurs a prayer and she goes ahead with the operation.

เธอจึงสวดมนต์เล็กน้อยและเริ่มการถอนฟัน

At the end, the relieved patient kisses her hands.

ในตอนท้าย คนไข้ที่หายปวดแล้วจูบเธอที่ฝ่ามือ

That day the hygienist pulls out many more teeth.

ในวันนั้นคนทำความสะอาดฟันได้ถอนฟันออกไปอีกหลายซี่

The next morning, when she comes again to the so-called clinic,

เช้าวันต่อมา เมื่อเธอมาที่ ๆ ถูกเรียกว่าคลีนิค

her first patient is waiting for her with her husband.

คนไข้รายแรกของเมื่อวานได้รออยู่พร้อมกับสามีของเธอ

The woman's face looks like a watermelon.

ใบหน้าของเธอบวมเหมือนกับแตงโม

It is so swollen that you can't even see the eyes.

มันบวมมากเสียจนมองไปเห็นตาของเธอ

The husband, furious, threatens to kill the American.

สามีนั้นเกรี้ยวกราดมากและขู่ที่จะฆ่าชาวอเมริกัน

Jenny is horrified at what she has done.

เจนนี่กลัวมากสำหรับสิ่งที่เธอได้ทำลงไป

But then, the translator explains

แต่แล้วล่ามก็อธิบายให้ฟังว่า

that the patient's condition has nothing to do with the operation.

สภาพของคนไข้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการถอนฟัน

The day before, her husband beat her up

เมื่อวานนี้สามีเธอทุบตีเธอเพราะว่าเธอไม่อยู่บ้าน

because she was not home in time to prepare dinner for him.

ในเวลาที่ต้องเตรียมข้าวเย็นให้กับเขา

ยังมีผู้หญิงอีกหลายล้านคนใช้ชีวิตในสภาพนี้

Millions of women live like this today.

They are the poorest of the poor.

พวกเธอเป็นคนที่จนยิ่งกว่าคนจนทั่วไป

Although women do two-thirds of the world's labor,

และถึงแม้ว่าสองในสามของแรงงานในโลกนี้เป็นผู้หญิง

they own less than one percent of the world's assets.

น้อยกว่า 1% ได้ถือสิทธิเป็นเจ้าของอย่างใดอย่างหนึ่งบนโลกนี้

They are paid less than men for the same work, if they're paid at all,

พวกเธอได้ค่าจ้างน้อยกว่าผู้ชายในงานแบบเดียวกัน

ถ้าพวกเธอได้รับค่าจ้างนะ และพวกเธอก็ยังไม่มั่นคง

and they remain vulnerable because they have no economic independence,

เพราะว่าพวกเธอไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้

and they are constantly threatened by exploitation,

และบ่อยครั้งที่พวกเธอถูกล่อลวงในการแสวงหาผลประโยชน์หลากหลาย

violence and abuse.

ความรุนแรงและการทำร้าย

It is a fact that giving women education, work,

มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าให้การศึกษาหรืองานกับผู้หญิง

the ability to control their own income, inherit and own property

ความสามารถในการควบคุมรายได้ของตนเอง

ได้รับมรดกและเป็นเจ้าของที่ดินนั้นจะก่อประโยชน์ให้กับสังคม

benefits the society.

If a woman is empowered,

หากผู้หญิงได้รับการเสริมพลัง

her children and her family will be better off.

ลูก ๆ และครอบครัวของเธอก็จะมีชีวิตที่ดี

If families prosper, the village prospers,

หากครอบครัวเป็นสุข หมู่บ้านก็เป็นสุข

and eventually, so does the whole country.

และแล้วทั้งประเทศก็จะเป็นสุข

Wangari Maathai goes to a village in Kenya.

วันการี มาไทเดินทางไปที่หมู่บ้านในประเทศเคนยา

She talks with the women and explains that the land is barren

เธอได้พูดคุยกับผู้หญิงและอธิบายว่าดินแห้งแล้ง

because they have cut and sold the trees.

เกิดจากการที่พวกเขาตัดและขายต้นไม้

เธอได้ให้ผู้หญิงเหล่านั้นปลูกและรดน้ำต้นไม้ใหม่

She gets the women to plant new trees and water them,

drop by drop.

ทีละหยด ๆ

In a matter of five or six years, they have a forest,

ภายในระยะเวลา 5 ถึง 6 ปี พวกเธอก็จะมีผืนป่า

the soil is enriched, and the village is saved.

ดินที่สมบูรณ์และหมู่บ้านก็จะรอด

The poorest and most backward societies

ในสังคมที่ยากจนและล้าหลังที่สุด

are always those that put women down.

คือที่ ๆ ผู้หญิงถูกกดขี่

Yet this obvious truth is ignored by governments

ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องจริงมากแค่ไหนก็ตามก็ยังถูกละเลยจากรัฐบาล

and also by philanthropy.

และเหล่าผู้ใจบุญทั้งหลาย

For every dollar given to a women's program,

สำหรับทุก ๆ ดอลล่าร์ที่ให้กับโครงการช่วยเหลือผู้หญิง

20 dollars are given to men's programs.

20 ดอลล่าร์จะเอาไปให้กับโครงการของผู้ชาย

Women are 51 percent of humankind.

51% ของมนุษยชาติเป็นผู้หญิง

Empowering them will change everything,

เสริมพลังพวกเขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้

more than technology and design and entertainment.

มากกว่าเทคโนโลยีหรืองานดีไซน์หรือสิ่งบันเทิงต่าง ๆ

I can promise you that women working together --

ฉันให้คำสัญญาได้เลยว่าหากผู้หญิงทำงานร่วมกัน

linked, informed and educated --

เกี่ยวเนื่อง บอกต่อและได้รับการศึกษา

จะสามารถนำสันติสุขและความอยู่เย็นเป็นสุขให้กับดาวเคราะห์ดวงนี้ได้

can bring peace and prosperity to this forsaken planet.

In any war today, most of the casualties are civilians,

ในสงครามสมัยนี้ ผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่คือประชาชน

mainly women and children.

เป็นผู้หญิงและเด็กเสียส่วนใหญ่ เป็นความเสียหายที่ขนานกัน

They are collateral damage.

Men run the world,

โลกถูกควบคุมโดยผู้ชาย แล้วดูความยุ่งเหยิงในตอนนี้สิคะ

and look at the mess we have.

What kind of world do we want?

เราต้องการโลกแบบไหนกันแน่

This is a fundamental question that most of us are asking.

นี่เป็นคำถามพื้นฐานที่เรายังคงถามกันอยู่

มันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้หรือในการมีชีวิตอยู่ในโลกแบบนี้

Does it make sense to participate in the existing world order?

We want a world where life is preserved

เราต้องการอยู่ในโลกที่ชีวิตได้รับการรักษาไว้

and the quality of life is enriched for everybody,

และคุณภาพชีวิตที่ถูกเสริมสร้างสำหรับทุกๆคน

not only for the privileged.

ไม่ใช่สำหรับแต่กลุ่มที่มีสิทธิพิเศษ

เมื่อเดือนมกราคมฉันได้ไปดูนิทรรศการภาพวาดของเฟอร์นันโด โบเทโร

In January, I saw an exhibit of Fernando Botero's paintings

ที่หอสมุดยูซี เบิร์คเลย์

at the UC Berkeley library.

No museum or gallery in the United States,

ไม่มีพิพิธภัณฑ์หรือแกเลอรี่ที่ไหนในอเมริกา

except for the New York gallery that carries Botero's work,

นอกจากแกลอรี่นิวยอร์คที่นำเสนองานของโบเทโร

has dared to show the paintings,

ไม่มีใครกล้าที่จะโชว์ภาพเขียนเพราะเนื้อหา

because the theme is the Abu Ghraib prison.

เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุกอาบูกราอิบ

มีภาพเขียนขนาดมหึมาเกี่ยวกับการทารุณกรรมและการใช้อำนาจกดขี่

They are huge paintings of torture and abuse of power,

ในสไตล์ของโบเทโร

in the voluminous Botero style.

I have not been able to get those images out of my mind

ถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่สามารถที่จะลบภาพนั้นออกไปจากความคิด

or my heart.

หรือจากจิตใจได้เลย

What I fear most is power with impunity.

สิ่งที่ฉันหวาดกลัวมากที่สุดคืออำนาจที่มาพร้อมกับการละเว้นโทษ

I fear abuse of power, and the power to abuse.

ฉันกลัวการใช้อำนาจในทางที่ผิด และการใช้อำนาจเพื่อการกดขี่ข่มเหง

In our species, the alpha males define reality,

ในเผ่าพันธ์ุของเรานั้น มนุษยเพศชายเป็นคนกำหนดความเป็นจริง

and force the rest of the pack to accept that reality

และบีบบังคับคนอื่นๆให้ยอมรับความจริงที่สร้างขึ้นมา

and follow the rules.

อีกทั้งปฏิบัติตามกฎทั้งหลาย

The rules change all the time, but they always benefit them,

กฏได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาแต่พวกเขาก็ยังคงได้รับผลประโยชน์จากมัน

and in this case, the trickle-down effect, which does not work in economics,

ในกรณีนี้เป็นผลกระทบแบบบนลงล่าง

ซึ่งไม่สามารถนำไปใช้กับภาวะเศรษฐกิจได้ สามารถนำไปใช้ได้อย่างดีเยี่ยม

works perfectly.

Abuse trickles down from the top of the ladder to the bottom.

การกดขี่จากขั้นบันไดบนลงล่าง

Women and children, especially the poor, are at the bottom.

ผู้หญิงและเด็ก ๆ โดยเฉพาะที่เป็นคนจนที่อยู่ด้านล่างสุด

Even the most destitute of men have someone they can abuse --

แม้กระทั่งผู้ชายที่แร้นแค้นที่สุดก็ยังสามารถกดขี่ใครสักคนได้เสมอ

a woman or a child.

ไม่ผู้หญิงก็เด็ก

I'm fed up with the power that a few exert over the many

ฉันทนไม่ได้กับการที่คนส่วนน้อยใช้อำนาจกับคนส่วนใหญ่

through gender, income, race and class.

ผ่านทางกดขี่ทางเพศ รายได้ เชื้อชาติ และ วรรณะ

ฉันคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะต้องเริ่มเปลี่ยนแปลง

I think that the time is ripe to make fundamental changes

in our civilization.

ในยุคสมัยของเรา

But for real change, we need feminine energy

แต่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงนั้น เราต้องการพลังของสตรี

in the management of the world.

มาจัดการโลกนี้

We need a critical number of women in positions of power,

เราต้องการผู้หญิงสักจำนวนหนึ่งในตำแหน่งหน้าที่ที่มีอำนาจ

and we need to nurture the feminine energy in men.

และเราต้องสร้างพลังสตรีในเหล่าผู้ชาย

I'm talking about men with young minds, of course.

แน่นอน... ฉันกำลังพูดถึงผู้ชายที่มีจิตยังหนุ่ม

Old guys are hopeless; we have to wait for them to die off.

อย่าไปหวังกับพวกคนแก่ ๆ เราได้แต่รอให้พวกเขาแก่ตายไปเท่านั้น

(Laughter)

(หัวเราะ)

Yes, I would love to have Sophia Loren's long legs

ใช่ ฉันอยากที่จะมีขาเรียวยาวของโซเฟีย ลอเรน

and legendary breasts.

และทรวงอกที่เป็นที่กล่าวขานนั้น

But given a choice, I would rather have the warrior hearts

แต่หากเลือกได้ ฉันอยากจะมีจิตใจกล้าหาญอย่าง

วันการี มาไท, โซมาลี แมม, เจนนี่ และ โรส มาเพนโด

of Wangari Maathai, Somaly Mam, Jenny, and Rose Mapendo.

ฉันต้องการทำโลกให้มันดี

I want to make this world good.

ไม่ต้องดีขึ้น แต่ให้มันดี

Not better -- but to make it good.

Why not? It is possible.

ทำไม่จะไม่ละ มันเป็นไปได้ ลองมองไปรอบ ๆ ห้องนี้สิ

Look around in this room --

all this knowledge, energy, talent and technology.

ความรู้ทั้งหลาย พลังงาน ความสามารถและเทคโนโลยี

Let's get off our fannies, roll up our sleeves

มาถกกระโปรงและพับแขนเสื้อขึ้น

and get to work, passionately,

มาเริ่มลงมือทำด้วยแรงปรารถนาอันแรงกล้า

ในการสร้างโลกที่เกือบจะสมบูรณ์แบบนี้ด้วยกัน

in creating an almost-perfect world.

Thank you.

ขอบคุณ​ค่ะ

(Applause and cheers)