The playful wonderland behind great inventions | Steven Johnson

Translator: Kom Wongsawat Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

(Music)

(เสียงดนตรี)

Roughly 43,000 years ago,

เมื่อประมาณ 43,000 ปีก่อน

a young cave bear died in the rolling hills

หมีถ้ำอายุน้อยเสียชีวิตในหุบเขา

on the northwest border of modern day Slovenia.

ทางชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ของสโลวีเนียในปัจจุบัน

A thousand years later, a mammoth died in southern Germany.

หนึ่งพันปีต่อมา ช้างแมมมอธเสียชีวิต ในทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี

A few centuries after that, a griffon vulture also died

ไม่กี่ศตวรรษหลังจากนั้น นกแร้งกริฟฟอนก็เสียชีวิต

in the same vicinity.

ในบริเวณใกล้เคียงกัน

And we know almost nothing about how these animals met their deaths,

และเราแทบจะไม่ทราบเลย ว่าสัตว์เหล่านี้พบกับจุดจบได้อย่างไร

but these different creatures dispersed across both time and space

แต่สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เหล่านี้ ที่กระจายตัวอยู่ในหลายช่วงเวลาและสถานที่

did share one remarkable fate.

มีชะตากรรมร่วมกันอย่างหนึ่ง

After their deaths, a bone from each of their skeletons

หลังจากการเสียชีวิตของพวกมัน กระดูกจากแต่ละโครงกระดูกของพวกมัน

was crafted by human hands

ถูกประดิษฐ์ขึ้นด้วยมือมนุษย์

into a flute.

จนกลายเป็นขลุ่ย (flute)

Think about that for a second.

ลองคิดดูสักครู่นะครับ

Imagine you're a caveman, 40,000 years ago.

จินตนาการดูว่าคุณเป็นมนุษย์ถ้ำ เมื่อ 40,000 ปีก่อน

You've mastered fire.

คุณรู้จักการใช้ไฟเป็นอย่างดีแล้ว

You've built simple tools for hunting.

คุณได้สร้างเครื่องมือง่าย ๆ สำหรับการล่าหาอาหาร

You've learned how to craft garments from animal skins

คุณได้เรียนรู้ว่าจะประดิษฐ์เสื้อผ้า จากหนังสัตว์ได้อย่างไร

to keep yourself warm in the winter.

เพื่อที่ทำให้คุณอบอุ่นในฤดูหนาว

What would you choose to invent next?

คุณเลือกที่จะประดิษฐ์อะไรต่อไปดีครับ

It seems preposterous that you would invent the flute,

มันฟังดูไร้สาระที่สุดที่คุณจะประดิษฐ์ขลุ่ย

a tool that created useless vibrations in air molecules.

ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สร้างการสั่นสะเทือน ที่ไร้ประโยชน์ในโมเลกุลของอากาศ

But that is exactly what our ancestors did.

แต่นั่นคือสิ่งที่บรรพบุรุษของเราได้ทำครับ

Now this turns out to be surprisingly common

แต่กลายเป็นว่า นี่เป็นเรื่องที่แสนปกติธรรมดา เสียจนคาดไม่ถึง

in the history of innovation.

ในประวัติศาสตร์ของนวัตกรรม

Sometimes people invent things

บางครั้งผู้คนประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ

because they want to stay alive or feed their children

เพราะว่าพวกเขาต้องการที่จะอยู่รอด หรือเลี้ยงดูลูก ๆ ของพวกเขา

or conquer the village next door.

หรือปราบหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ ๆ

But just as often,

แต่ที่เกิดขึ้นบ่อยพอ ๆ กัน

new ideas come into the world

ก็คือ แนวคิดใหม่ ๆ ถือกำเนิดเกิดขึ้นในโลกนี้ได้

simply because they're fun.

ก็เพียงแค่เพราะมันสนุก

And here's the really strange thing:

และสิ่งที่แปลกประหลาดจริง ๆ ก็คือ

many of those playful but seemingly frivolous inventions

พวกนักประดิษฐ์ขี้เล่นหลายคน ที่เหมือนว่าจะไม่ได้จริงจังกับอะไรนัก

ended up sparking momentous transformations

ลงเอยด้วยการจุดประกาย แห่งเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

in science, in politics and society.

ในวงการวิทยาศาสตร์, การเมือง และสังคม

Take what may be the most important invention of modern times:

ลองดูนวัตกรรมที่สำคัญในยุคปัจจุบัน:

programmable computers.

คอมพิวเตอร์ที่โปรแกรมได้

Now, the standard story is that computers descend from military technology,

เรื่องราวตามแบบฉบับก็คือคอมพิวเตอร์นั้น สืบเชื้อสายมาจากเทคโนโลยีทางการทหาร

since many of the early computers were designed specifically

เนื่องจากคอมพิวเตอร์ในยุคแรก ๆ จำนวนมาก ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ

to crack wartime codes or calculate rocket trajectories.

เพื่อถอดรหัสในยามศึกสงคราม หรือคำนวณวิถีจรวด

But in fact, the origins of the modern computer

แต่อันที่จริงแล้ว ต้นกำเนิดของคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบัน

are much more playful,

มีความสนุกสนานมากกว่านั้น

even musical,

ทั้งยังไพเราะชวนฟัง

than you might imagine.

เกินกว่าที่คุณจะจิตนาการ

The idea behind the flute,

แนวคิดในเบื้องหลังการประดิษฐ์ขลุ่ย

of just pushing air through tubes to make a sound,

ซึ่งเป็นแค่การผลักอากาศผ่านท่อ เพื่อที่จะทำให้เกิดเสียง

was eventually modified to create the first organ

ในที่สุด ก็ได้ถูกดัดแปลง เพื่อสร้างออแกนตัวแรกขึ้น

more than 2,000 years ago.

เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน

Someone came up with the brilliant idea of triggering sounds

ใครสักคนได้แนวคิดเยี่ยม ๆ ในการทำให้เกิดเสียง

by pressing small levers with our fingers,

โดยการกดคันโยกขนาดเล็ก ด้วยนิ้วมือของเรา

inventing the first musical keyboard.

ซึ่งเป็นการประดิษฐ์ คีย์บอร์ดดนตรีตัวแรกขึ้นมา

Now, keyboards evolved from organs to clavichords to harpsichords

คีย์บอร์ดถูกพัฒนาจากออแกน ไปเป็น คลาวิคอร์ด ไปเป็น ฮาร์ปซิคอร์ด

to the piano,

ไปเป็นเปียโน

until the middle of the 19th century,

จนกระทั่งกลางศตวรรษที่ 19

when a bunch of inventors finally hit on the idea

เมื่อในที่สุด นักประดิษฐ์กลุ่มหนึ่งก็ได้แนวคิด

of using a keyboard to trigger not sounds but letters.

ที่จะใช้คีย์บอร์ดเพื่อทำให้เกิดตัวอักษร แทนการทำให้เกิดเสียง

In fact, the very first typewriter

ที่จริงแล้ว เครื่องพิมพ์ดีดตัวแรก

was originally called "the writing harpsichord."

แต่เดิมถูกเรียกว่า “ฮาร์ปซิคอร์ดสำหรับใช้เขียน”

Flutes and music led to even more powerful breakthroughs.

ขลุ่ยและดนตรี นำไปสู่ความก้าวหน้าที่ทรงพลังยิ่งกว่า

About a thousand years ago,

ประมาณหนึ่งพันปีก่อน

at the height of the Islamic Renaissance,

ณ จุดสูงสุดของ ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิสลาม

three brothers in Baghdad designed a device

พี่ชายน้องชายทั้งสามในกรุงแบกแดด ออกแบบอุปกรณ์

that was an automated organ.

ที่เป็นออแกนอัตโนมัติ

They called it "the instrument that plays itself."

พวกเขาเรียกมันว่า “เครื่องดนตรีที่เล่นได้ด้วยตัวเอง”

Now, the instrument was basically a giant music box.

โดยหลักแล้ว เครื่องดนตรีนั้น ก็คือกล่องดนตรีขนาดยักษ์

The organ could be trained to play various songs by using instructions

ออแกนสามารถถูกสอน ให้เล่นเพลงหลากหลายโดยใช้คำสั่ง

encoded by placing pins on a rotating cylinder.

ที่ถูกเข้ารหัสโดยการวางหมุด บนทรงกระบอกที่หมุนได้

And if you wanted the machine to play a different song,

และถ้าคุณต้องการให้จักรกลนั้น เล่นเพลงที่แตกต่างออกไป

you just swapped a new cylinder in with a different code on it.

คุณก็แค่เปลี่ยนทรงกระบอกใหม่ ที่มีรหัสที่แตกต่างกันเข้าไป

This instrument was the first of its kind.

นี่เป็นกล่องดนตรีชนิดแรก

It was programmable.

มันถูกโปรแกรมได้

Now, conceptually, this was a massive leap forward.

นี่เป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ ในเชิงแนวคิด

The whole idea of hardware and software

แนวคิดทั้งหมดเกี่ยวกับ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

becomes thinkable for the first time with this invention.

เกิดขึ้นมาเป็นครั้งแรกได้ด้วยสิ่งประดิษฐ์นี้

And that incredibly powerful concept

และแนวความคิด ที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อนั้น

didn't come to us as an instrument of war or of conquest,

ไม่ได้เกิดขึ้นมาในฐานะ เครื่องมือเพื่อการสงครามหรือการพิชิต

or necessity at all.

หรือจากความจำเป็นใด ๆ เลย

It came from the strange delight of watching a machine play music.

มันมาจากความสุขที่แปลก ๆ ที่ได้ดูจักรกลเล่นดนตรีได้

In fact, the idea of programmable machines

อันที่จริงแล้ว แนวคิดเกี่ยวกับ เครื่องจักรกลถูกโปรแกรมได้

was exclusively kept alive by music for about 700 years.

อยู่รอดมาได้ด้วยดนตรีล้วน ๆ มาเป็นเวลา 700 ปีแล้ว

In the 1700s, music-making machines

ในช่วงยุค 1700 จักรกลที่สร้างเสียงดนตรีได้

became the playthings of the Parisian elite.

กลายเป็นของเล่นของชาวปารีสชั้นสูง

Showmen used the same coded cylinders

นักแสดงใช้ทรงกระบอกที่มีรหัสแบบเดียวกัน

to control the physical movements of what were called automata,

ในการควบคุมการเคลื่อนไหวทางกายภาพ ของสิ่งที่เราเรียกว่า ออโตมาตา (automata)

an early kind of robot.

หรือหุ่นยนต์ชนิดแรก ๆ

One of the most famous of those robots

หุ่นยนต์จำพวกนั้นที่โด่งดังที่สุด

was, you guessed it, an automated flute player

คุณลองเดาสิครับ ก็คือตัวที่เป่าขลุ่ยได้อย่างอัตโนมัติ

designed by a brilliant French inventor

ที่ถูกออกแบบ โดยนักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศสที่ยอดเยี่ยม

named Jacques de Vaucanson.

ที่มีชื่อว่า ฌาร์ค เดอ ฟูคอนซอน (Jacques de Vaucanson)

And as de Vaucanson was designing his robot musician,

และขณะที่ ฌาร์ค เดอ ฟูคอนซอน กำลังออกแบบหุ่นยนต์นักดนตรีของเขา

he had another idea.

เขาก็เกิดแนวคิดอีกอย่างขึ้น

If you could program a machine to make pleasing sounds,

ถ้าคุณสามารถโปรแกรมจักรกล ให้สร้างเสียงที่บันเทิงใจ

why not program it to weave delightful patterns of color out of cloth?

ทำไมไม่โปรแกรมมันให้ทอ รูปแบบสีงาม ๆ ไปบนผืนผ้าล่ะ

Instead of using the pins of the cylinder to represent musical notes,

แทนที่จะใช้หมุดบนทรงกระบอก เพื่อแทนโน้ตดนตรี

they would represent threads with different colors.

มันใช้ด้ายแทนสีต่าง ๆ

If you wanted a new pattern for your fabric,

หากคุณต้องการรูปแบบใหม่ สำหรับผ้าของคุณ

you just programmed a new cylinder.

คุณก็เพียงแค่โปรแกรมทรงกระบอกใหม่

This was the first programmable loom.

นี่เป็นเครื่องทอผ้า ที่ถูกโปรแกรมได้เครื่องแรก

Now, the cylinders were too expensive and time-consuming to make,

เอาล่ะ ทรงกระบอกนั้นมีราคาแพงเกินไป และเปลืองเวลาในการผลิต

but a half century later,

แต่ครึ่งศตวรรษต่อมา

another French inventor named Jacquard

นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศสอีกคน ชื่อว่า จาการ์ด (Jacquard)

hit upon the brilliant idea of using paper-punched cards

ได้แนวคิดที่ยอดเยี่ยม ในการใช้บัตรกระดาษเจาะรู

instead of metal cylinders.

แทนการใช้ทรงกระบอกโลหะ

Paper turned out to be much cheaper and more flexible

กลายเป็นว่ากระดาษมีราคาที่ถูกกว่ามาก และมีความยืดหยุ่นมากกว่า

as a way of programming the device.

ต่อวิธีการการเขียนโปรแกรมให้อุปกรณ์

That punch card system inspired Victorian inventor Charles Babbage

ระบบบัตรเจาะรูนั้นเป็นแรงบันดาลใจ ให้นักประดิษฐ์ชาววิคตอเรีย ชาร์ล แบบเบจ

to create his analytical engine,

ในการสร้างเครื่องมือการวิเคราะห์ของเขา

the first true programmable computer

ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกโปรแกรมได้จริง เป็นเครื่องแรก

ever designed.

ที่เคยถูกออกแบบมา

And punch cards were used by computer programmers

และบัตรเจาะรูยังถูกนำมาใช้ โดยนักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์

as late as the 1970s.

จนถึงปลายช่วงยุค 1970

So ask yourself this question:

ทีนี้ลองถามตัวคุณเอง ด้วยคำถามนี้ครับว่า

what really made the modern computer possible?

สิ่งใดที่ทำให้คอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน เกิดขึ้นได้จริง ๆ

Yes, the military involvement is an important part of the story,

ใช่ครับ ความเกี่ยวข้องจากการทหาร ก็เป็นส่วนสำคัญของเรื่องนี้

but inventing a computer also required other building blocks:

แต่การประดิษฐ์คอมพิวเตอร์ ยังต้องการส่วนสำคัญอื่นอีก

music boxes,

นั่นก็คือ กล่องดนตรี

toy robot flute players,

หุ่นยนต์ของเล่นที่เล่นขลุ่ยได้

harpsichord keyboards,

คีย์บอร์ดฮาร์ปซิคอร์ด

colorful patterns woven into fabric,

รูปแบบที่มีสีสันที่ถูกถักทอบนผืนผ้า

and that's just a small part of the story.

และนั่นก็เป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ของเรื่องราวนี้

There's a long list of world-changing ideas and technologies

มีแนวคิดและเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงโลกนี้มากมาย

that came out of play:

ที่มีกำเนิดมาจากการเล่น

public museums, rubber,

เช่น พิพิธภัณฑ์สาธารณะ, ยาง,

probability theory, the insurance business

ทฤษฎีความน่าจะเป็น, ธุรกิจประกันภัย

and many more.

และอื่น ๆ อีกมากมาย

Necessity isn't always the mother of invention.

ความจำเป็นไม่ได้เป็น แม่ผู้ให้กำเนิดนวัตกรรมเสมอไป

The playful state of mind is fundamentally exploratory,

ความขี้เล่นซุกซนของจิตใจต่างหาก ที่เป็นรากฐานของการสำรวจ

seeking out new possibilities in the world around us.

การค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเป็นรอบ ๆ ตัวเรา

And that seeking is why so many experiences

และการค้นหานั้นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมประสบการณ์มากมาย

that started with simple delight and amusement

ที่เริ่มต้นจากแค่ความความสุข และความสนุกเพลิดเพลิน

eventually led us to profound breakthroughs.

ในที่สุดแล้ว นำเราไปสู่ความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่

Now, I think this has implications for how we teach kids in school

ตอนนี้ ผมคิดว่า สิ่งนี้มีความหมาย ต่อวิธีการที่เราสอนเด็ก ๆ ในโรงเรียน

and how we encourage innovation in our workspaces,

และวิธีที่เราจะส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรม ในที่ทำงานของเรา

but thinking about play and delight this way

แต่แนวคิดเกี่ยวกับการเล่น และความสุขในรูปแบบนี้

also helps us detect what's coming next.

ยังช่วยให้เรารู้ได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

Think about it: if you were sitting there in 1750

ลองคิดดูสิครับ ถ้าคุณอยู่ตรงนั้นในปี ค.ศ. 1750

trying to figure out the big changes coming to society

พยายามคิดว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นในสังคม

in the 19th, the 20th centuries,

ในที่ศตวรรษที่ 19 หรือ 20

automated machines, computers,

จักรกลอัตโนมัติ, คอมพิวเตอร์,

artificial intelligence,

ปัญญาประดิษฐ์,

a programmable flute

ขลุ่ยที่โปรแกรมได้

entertaining the Parisian elite

ที่ให้ความบันเทิงต่อชาวปารีสชั้นสูง

would have been as powerful a clue as anything else at the time.

ก็คงจะเป็นเบาะแสที่ทรงอิทธิพล พบ ๆ กับสิ่งอื่นในเวลานั้น

It seemed like an amusement at best,

ดูเหมือนว่าความเพลิดเพลินที่ดีที่สุด

not useful in any serious way,

ที่ไม่ได้มีประโยชน์จริงจังอะไร

but it turned out to be the beginning of a tech revolution

กลับกลายเป็นว่ามันเป็นจุดเริ่มต้น ของการปฏิวัติเทคโนโลยี

that would change the world.

ที่อาจเปลี่ยนแปลงโลก

You'll find the future

คุณจะพบกับอนาคต

wherever people are having the most fun.

ในที่ใดก็ตามที่ผู้คน กำลังมีความสนุกสนานกันมากที่สุด