Marco Tempest: The electric rise and fall of Nikola Tesla

Translator: Thu-Huong Ha Reviewer: Jenny Zurawell

Translator: Pattapon Kasemtanakul Reviewer: PanaEk Warawit

As a magician, I'm always interested in performances that incorporate elements of illusion.

ในฐานะของนักเล่นกลคนหนึ่ง ผมมีความสนใจในการแสดง ที่มีองค์ประกอบของภาพลวงตาตลอดมา

And one of the most remarkable was the tanagra theater, which was popular in the

และจะมีที่ใดทำได้น่าทึ่งไปกว่า โรงละครทานากร้า (Tanagra Theater) ที่มีชื่อเสียง

early part of the 20th century.

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20

It used mirrors

ที่นั่นใช้กระจก

to create the illusion of tiny people

เพื่อสร้างภาพลวงตาของคนตัวเล็กๆ

performing on a miniature stage. Now, I won't use mirrors,

แสดงอยู่บนเวทีขนาดย่อม เอาล่ะ ผมจะไม่ใช้กระจก

but this is my digital tribute to the tanagra theater.

แต่นี่เป็นการแสดงแบบดิจิตอลที่ผมจะมอบ เพื่อเป็นเกียรติแก่โรงละครทานากร้า

So let the story begin.

เรามาเริ่มกันเถอะครับ

On a dark and stormy night -- really! --

ในค่ำคืนที่มืดมิด พายุโหมกระหน่ำ

it was the 10th of July, 1856.

ของวันที่ 10 กรกฎาคม 1856

Lightning lit the sky,

ฟ้าแลบสว่างไปทั่วท้องฟ้า

and a baby was born.

ทารกคนหนึ่งลืมตาดูโลก

His name was Nikola,

ชื่อของเขาคือ นิโคล่า

Nikola Tesla.

นิโคล่า เทสล่า (Nikola Tesla)

Now the baby grew into a very smart guy.

เขาเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กหนุ่มที่เฉลียวฉลาด

Let me show you.

มา ผมจะแสดงให้คุณดู

Tesla, what is 236 multiplied by 501?

เทสล่า จงหาคำตอบของ 236 คูณด้วย 501 ซิ

Nikola Tesla: The result is 118,236.

นิโคล่า เทสล่า: คำตอบคือ 118,236 ครับ

Marco Tempest: Now Tesla's brain worked in the most extraordinary way.

มาร์โค เทมเปสต์: สมองของเทสล่านั้นทำงานด้วยวิธีที่น่าอัศจรรย์

When a word was mentioned,

เมื่อได้ยินคำใดๆ ก็ตาม

an image of it

ภาพของมัน

instantly appeared in his mind.

จะปรากฎขึ้นทันทีทันใดในหัวของเขา

Tree. Chair. Girl.

ต้นไม้ เก้าอี้ เด็กหญิง

They were hallucinations, which vanished

มันเป็นภาพลวงตา ที่จะหายไป

the moment he touched them.

ทันทีที่เขาพยายามสัมผัสมัน

Probably a form of synesthesia.

ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากอาการซินเนสทีเซียร์ [Synesthesia; อาการทางประสาทชนิดหนึ่งที่ทำให้การมองเห็นผิดปกติจากคนทั่วไป]

But it was something

แต่มันกลับเป็นสิ่ง

he later turned to his advantage.

ที่สร้างประโยชน์ให้กับเขามากมายในภายหลัง

Where other scientists would play in their laboratory,

นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ จะทำการทดลองในห้องแล็บ

Tesla created his inventions in his mind.

แต่เทสล่าจะสร้างสิ่งเหล่านั้นในหัวของเขา

NT: To my delight, I discovered I could visualize my inventions with the greatest facility.

นิโคล่า เทสล่า: ผมสามารถจินตนาการ การสร้างสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ด้วยอุปกรณ์ที่เยี่ยมที่สุดได้ภายในสมองของผมเอง

MT: And when they worked in the vivid playground of his imagination,

มาร์โค เทมเปสต์: และเมื่อเขาโลดแล่น อยู่ในสนามเด็กเล่นแห่งจินตนาการ

he would build them in his workshop.

เขาก็จะสร้างมันขึ้นมาจริงๆ ในห้องปฏิบัติการ

NT: I needed no models, drawings or experiments.

นิโคล่า เทสล่า: สำหรับผม ผมไม่ต้องการแบบจำลอง แบบร่าง หรือการทดลองใดๆ

I could picture them as real in my mind,

ผมสามารถสร้างมันขึ้นมาได้จริงๆ ในหัวของผม

and there I run it, test it and improve it.

และที่นั่นผมจะลองใช้มัน ทดสอบมัน พัฒนามัน

Only then do I construct it.

เมื่อสำเร็จแล้วผมถึงจะสร้างมันขึ้นมาจริงๆ

MT: His great idea

มาร์โค เทมเพสต์: หนึ่งในไอเดียที่ยิ่งใหญ่ของเขา

was alternating current.

คือไฟฟ้ากระแสสลับ

But how could he convince the public that

แต่เขาจะโน้มน้าวบุคคลทั่วๆ ไป

the millions of volts required to make it work were safe?

ให้เชื่อว่ากระแสไฟฟ้านับล้านๆ โวลต์นั้นปลอดภัยได้ยังไงล่ะ

To sell his idea,

เพื่อทำเช่นนั้น

he became a showman.

เขาจึงมาเป็นนักแสดง

NT: We are at the dawn of a new age,

นิโคล่า เทสล่า: เรากำลังอยู่ในรุ่งอรุณของยุคใหม่

the age of electricity.

ยุคของกระแสไฟฟ้า

I have been able, through careful invention, to

ด้วยการทดลองอย่างระมัดระวัง ผมสามารถที่จะ

transmit, with the mere flick of a switch,

เปิดสวิตซ์เพื่อส่งกระแสไฟ

electricity across the ether.

ผ่านสายไปสู่ที่ต่างๆ ได้

It is the magic of science.

ด้วยเวทมนตร์ของวิทยาศาสตร์

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Tesla has over 700 patents to his name:

เทสล่าได้จดสิทธิบัตรเอาไว้กว่า 700 อย่าง

radio, wireless telegraphy,

ทั้งวิทยุ การส่งโทรเลขแบบไร้สาย

remote control, robotics.

รีโมทคอนโทรล หุ่นยนต์

He even photographed the bones of the human body.

เขาทำแม้กระทั่งการถ่ายภาพโครงกระดูกของมนุษย์

But the high point was the realization of a childhood dream:

แต่เป้าหมายสูงสุดของเขาคือการทำให้ฝันในวัยเด็กเป็นจริง

harnessing the raging powers of Niagara Falls,

การใช้อำนาจที่บ้าคลั่งของน้ำตกไนอากร้า (Niagara Falls)

and bringing light to the city.

และนำแสงสว่างมาสู่เมือง

But Tesla's success didn't last.

แต่ความสำเร็จของเขาไม่ได้ยั่งยืน

NT: I had bigger ideas.

นิโคล่า เทสล่า: ผมมีไอเดียที่ดีกว่านี้

Illuminating the city was only the beginning.

การทำให้เมืองสว่างไสวมันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

A world telegraphy center -- imagine news,

ผมจะสร้างศูนย์โทรเลขของโลก ลองนึกภาพข่าวต่างๆ

messages, sounds, images delivered to

ทั้งข้อความ เสียง หรือภาพถูกส่ง

any point in the world

ไปทั่วทุกมุมโลก

instantly and wirelessly.

แบบไร้สาย ได้ในทันทีทันใด

MT: It's a great idea; it was a huge project. Expensive, too.

มาร์โค เทมเปสต์: มันเป็นไอเดียที่เยี่ยม และเป็นโครงการขนาดยักษ์ที่ใช้เงินทุนมหาศาล

NT: They wouldn't give me the money.

นิโคล่า เทสล่า: พวกเขาไม่อนุมัติเงินทุนให้ผม

MT: Well, maybe you shouldn't have told them it could be used to contact other planets.

มาร์โค เทมเปสต์: บางทีคุณไม่น่าบอกพวกเขา ว่ามันใช้ติดต่อดาวอื่นได้ด้วย

NT: Yes, that was a big mistake.

นิโคล่า เทสล่า: อืม นั่นมันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่เลย

MT: Tesla's career as an inventor never recovered.

มาร์โค เทมเปสต์: ชื่อเสียงของเทสล่า ในฐานะนักประดิษฐ์ไม่เคยกลับคืนมา

He became a recluse.

เขากลายเป็นคนสันโดษ

Dodged by death,

ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ

he spent much of his time

เขาใช้เวลาส่วนใหญ่

in his suite at the Waldorf-Astoria.

อยู่ในห้องพักส่วนตัวที่โรงแรม วัลดอฟ แอสโตเรีย (Waldorf-Astoria)

NT: Everything I did, I did for mankind,

นิโคล่า เทสล่า: ทุกสิ่งที่ผมทำ ผมทำเพื่อมวลมนุษยชาติ

for a world where there would be no humiliation of the poor by the violence of the rich,

เพื่อโลกที่คนยากจนจะไม่ถูกคนรวยเอาเปรียบ

where products of intellect, science and art

ที่ๆ ผลผลิตทางปัญญา วิทยาศาสตร์ และศิลปะ

will serve society for the betterment and beautification of life.

จะพัฒนาสังคมให้ดี และสวยงามยิ่งขึ้น

MT: Nikola Tesla died on the 7th of January, 1943.

มาร์โค เทมเปสต์: นิโคล่า เทสล่า เสียชีวิตในวันที่ 7 มกราคม 1943

His final resting place

ที่พำนักสุดท้ายของเขา

is a golden globe that contains his ashes

คือลูกโลกทองคำที่บรรจุอัฐิของเขา

at the Nikola Tesla Museum in Belgrade.

ในพิพิธภัณฑ์นิโคล่า เทสล่าที่เบลเกรด (Belgrade)

His legacy is with us still.

มรดกของเขายังคงสืบทอดมาถึงเรา

Tesla became the man who lit the world,

เทสล่ากลายเป็นคนที่จุดแสงไฟให้กับโลก

but this was only the beginning.

แต่นั่นมันก็แค่จุดเริ่มต้น

Tesla's insight was profound.

เทสล่านั้นมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

NT: Tell me, what will man do when the forests disappear,

นิโคล่า เทสล่า: บอกผมหน่อยซิ มนุษย์จะทำอย่างไรเมื่อป่า

and the coal deposits are exhausted?

และถ่านหินหมดไป

MT: Tesla thought he had the answer.

มาร์โค เทมเปสต์: เทสล่าคิดว่าเขามีคำตอบ

We are still asking the question.

แต่พวกเรากลับเพิ่มเริ่มตั้งคำถามกันเท่านั้น

Thank you.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)