Christopher deCharms: A look inside the brain in real time

Translator: Paravee Asava-Anan Reviewer: Krittika Wutthipat-arree

Hi. I'm going to ask you to raise your arms and wave back,

สวัสดีครับ ผมจะขอให้คุณช่วยยกมือขึ้นแล้วโบกมือให้ผม

just the way I am -- kind of a royal wave.

แบบที่ผมกำลังทำอยู่นี่เลยครับ -- โบกมือคล้ายๆ ราชวงศ์นะครับ

You can mimic what you can see.

คุณสามารถเลียนแบบสิ่งที่คุณเห็น

You can program the hundreds of muscles in your arm.

คุณสามารถตั้งโปรแกรมบังคับกล้ามเนื้อเป็นร้อยๆมัดในแขนของคุณ

Soon, you'll be able to look inside your brain and program,

อีกไม่นาน คุณจะสามารถมองเข้าไปในสมองของคุณเองได้

control the hundreds of brain areas that you see there.

ควบคุมส่วนต่างๆในสมองนับร้อยที่คุณเห็นอยู่นี่

I'm going to tell you about that technology.

ผมจะพูดถึงเกี่ยวกับเจ้าเทคโนโลยีตัวนี้นะครับ

People have wanted to look inside the human mind,

คนเรามีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์

the human brain, for thousands of years.

ของสมองมนุษย์ มานานนับพันปีแล้ว

Well, coming out of the research labs just now, for our generation, is the possibility to do that.

เอาละครับ ผลผลิตจากห้องทดลองในยุคของเราอาจมีความสามารถพอที่จะทำได้

People envision this as being very difficult.

คนเรามักคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ยากมากๆ

You had to take a spaceship, shrink it down, inject it into the bloodstream.

ประมาณว่าคุณต้องขึ้นยานอวกาศ ย่อส่วนมัน แล้วฉีดเข้าไปในกระแสเลือด

It was terribly dangerous. (Laughter)

นั่นมันอันตรายอย่างร้ายกาจเลยนะครับ

You could be attacked by white blood cells in the arteries.

ถ้าทำแบบนั้นคุณก็อาจจะโดนโจมตีโดยเม็ดเลือดขาวในหลอดเลือด

But now, we have a real technology to do this.

แต่ในตอนนี้ เรามีเทคโนโลยีที่จะสามารถทำเรื่องนี้ให้เป็นจริงขึ้นมาได้

We're going to fly into my colleague Peter's brain.

เรากำลังจะเข้าไปดูในสมองของปีเตอร์ซึงเป็นเพื่อนร่วมงานของผม

We're going to do it non-invasively using MRI.

เราจะใช้ MRI ในการเข้าไปดูแบบไม่ทำอันตรายต่อร่างกาย

We don't have to inject anything. We don't need radiation.

เราไม่ต้องฉีดสารอะไรเลยครับ แล้วก็ไม่ต้องใช้รังสีใดๆฉายแสงด้วย

We will be able to fly into the anatomy of Peter's brain -- literally, fly into his body --

เราจะสามารถท่องเข้าไปสู่กายวิภาคของสมองของปีเตอร์ -- ง่ายๆก็คือ เราจะเข้าไปในร่างกายของเขา --

but more importantly, we can look into his mind.

แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น เราสามารถดูความคิดของเขาได้

When Peter moves his arm, that yellow spot you see there

ตอนที่ปีเตอร์ขยับแขนของเขา คุณจะเห็นว่ามีจุดเหลืองๆ ตรงนั้น

is the interface to the functioning of Peter's mind taking place.

นั่นคือจอภาพที่แสดงให้เห็นการทำงานของความคิดว่ามันเกิดขึ้นตรงส่วนไหน

Now you've seen before that with electrodes you can control robotic arms,

นี่เป็นสิ่งที่คุณเคยเห็นมาก่อนจากระบบควบคุมแขนหุ่นยนต์นั่นเองครับ

that brain imaging and scanners can show you the insides of brains.

เครื่องผลิตภาพสมองสามารถแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่อยู่ในสมองได้

What's new is that that process has typically taken days or months of analysis.

สิ่งที่ต่างไปก็คือ โดยปกติแล้วกระบวนการนี้ต้องใช้เวลาหลายวัน หรือหลายเดือนเลยทีเดียว

We've collapsed that through technology to milliseconds,

แต่เราได้ทำให้มันเหลือเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น สำหรับกระบวนการแบบเดียวกันนี้

and that allows us to let Peter to look at his brain in real time as he's inside the scanner.

และนั่นก็ทำให้ปีเตอร์สามารถมองเห็นสมองของตัวเองได้ในทันที

He can look at these 65,000 points of activation per second.

เขาสามารถดูจุดเชื่อมโยงสัญญานกว่าหกหมื่นห้าพันจุดเหล่านี้

If he can see this pattern in his own brain, he can learn how to control it.

ถ้าเขาสามารถเห็นระบบการทำงานของมัน เขาก็สามารถเรียนรู้ที่จะควบคุมมันได้

There have been three ways to try to impact the brain:

มีอยู่สามวิธีที่เราสามารถสร้างผลกระทบต่อสมองได้ครับ

the therapist's couch, pills and the knife.

จากการแนะนำของนักบำบัด การใช้ยา หรือ ใช้มีดหมอ

This is a fourth alternative that you are soon going to have.

นี่คือทางเลือกที่สี่ที่คุณกำลังจะมี

We all know that as we form thoughts, they form deep channels in our minds and in our brains.

เราทุกคนทราบดีว่าครามคิดถูกสร้างขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตใจ และจากสมองของเรา

Chronic pain is an example. If you burn yourself, you pull your hand away.

ยกตัวอย่างเช่นความเจ็บปวดที่เรื้อรัง ถ้าคุณทำไฟให้มือตัวเอง คุณคงจะรีบดึงมือตัวเองออกมา

But if you're still in pain in six months' or six years' time,

แต่ถ้าคุณยังคงรู้สึกเจ็บปวดหลังจากที่ผ่านไปได้หกเดือน หรือหกปีแล้ว

it's because these circuits are producing pain that's no longer helping you.

นั่นเป็นเพราะว่าระบบที่สร้างความเจ็บปวดมันไม่ได้ช่วยคุณอีกค่อไป

If we can look at the activation in the brain that's producing the pain,

ถ้าเราสามารถมองเห็นถึงระบบการกระตุ้นในสมองเวลาเกิดความรู้สึกเจ็บบปวด

we can form 3D models and watch in real time the brain process information,

เราสามารถสร้างแบบจำลองสามมิติที่สามารถแสดงผลแบบเวลาจริงเมื่อสมองทำงาน

and then we can select the areas that produce the pain.

จากนั้นเราจะสามารถเลือกส่วนที่สร้างความรู้สึกเจ็บปวดออกมาได้

So put your arms back up and flex your bicep.

เอาล่ะครับ ช่วยยกแขนของคุณขึ้น

Now imagine that you will soon be able to look inside your brain

ทีนี้ลองนึกดูว่า คุณกำลังจะได้เห็นภายในสมองของคุณเองแล้ว

and select brain areas to do that same thing.

และเลือกส่วนของสมองเพื่อที่จะทำแบบเดียวกันนี้

What you're seeing here is, we've selected the pathways in the brain of a chronic pain patient.

สิ่งที่คุณกำลังได้เห็นนี้ คือส่วนที่เราได้เลือกตรงจุดที่สร้างความรู้สึกเจ็บปวดเรื้อรังในผู้ป่วย

This may shock you, but we're literally reading this person's brain in real time.

สิ่งนี้อาจทำให้คุณตกใจ แต่เรากำลังดูสมองของผู้ป่วยรายนี้อยู่จริงๆครับ

They're watching their own brain activation,

พวกเขากำลังดูการทำงานของสมองของตัวเองอยู่

and they're controlling the pathway that produces their pain.

พวกเขากำลังควบคุมระบบที่สร้างความเจ็บปวด

They're learning to flex this system that releases their own endogenous opiates.

พวกเขากำลังเรียนรู้ที่จะจัดการกับมัน แล้วผลิตยาระงับความเจ็บปวดด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งมอร์ฟีน

As they do it, in the upper left is a display

ในระหว่างที่พวกเขาทำเช่นนั้น ดูที่มุมบนซ้ายในจอภาพนะครับ

that's yoked to their brain activation of their own pain being controlled.

มันได้กดทับการสื่อสารในสมอง ณ ส่วนนั้น และความรู้สึกเจ็บปวดก็ถูกควบคุมได้

When they control their brain, they can control their pain.

เมื่อผู้ป่วยสามารถบังคับสมองของตัวเองได้ พวกเขาก็สามารถควบคุมความเจ็บปวดได้

This is an investigational technology,

เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นของการตรวจหาข้อบกพร่อง

but, in clinical trials, we're seeing a 44 to 64 percent decrease in chronic pain patients.

แต่ในการทดลองนั้น ผลได้แสดงให้เห็นว่าความรู้สึกเจ็บปวดของผู้ป่วยนั้นลดลงถึง 44 - 64%

This is not "The Matrix." You can only do this to yourself. You take control.

นี่ไม่ใช่หนังเรื่อง "เดอะ แม็ททริกซ์" (The Matrix) นะครับ คุณต้องลองดูด้วยตัวคุณเองเท่านั้น คุณต้องควบคุมมัน

I've seen inside my brain. You will too, soon.

ผมได้เห็นภายในสมองของผมเองแล้ว คุณก็จะได้เห็นในอีกไม่ช้าเช่นกัน

When you do, what do you want to control?

เมื่อคุณมีโอกาสทำเช่นนั้นได้ คุณอยากที่จะควบคุมอะไรครับ?

You will be able to look at all the aspects that make you yourself, all your experiences.

คุณจะมีโอกาสได้เห็นทุกๆ ด้านที่ทำให้คุณเป็นคุณ ทุกๆประสบการณ์

These are some of the areas we're working on today that I don't have time to go into in detail.

นี่คือบางส่วนที่เรากำลังศึกษาอยู่ครับ แต่วันนี้ผมคงไม่มีเวลาพอที่จะพูดถึงและลงลึกไปในรายละเอียด

But I want to leave with you the big question.

แต่ผมอยากทิ้งคำถามให้คุณไว้หนึ่งคำถามใหญ่ๆ

We are the first generation that's going to be able to enter into,

พวกเราจะเป็นคนรุ่นแรกที่จะสามารถ

using this technology, the human mind and brain.

ใช้เทคโนโลยีแบบนี้ เพื่อเข้าไปดูความคิด และ สมองของมนุษย์

Where will we take it?

เราจะเอามันไปใช้ทำอะไร?