Let's try emotional correctness | Sally Kohn

Translator: Chatthip Chaichakan Reviewer: Patama Patamajinda

So when I do my job, people hate me.

เวลาที่ฉันทำงานของฉัน คนจะเกลียดฉันค่ะ

In fact, the better I do my job,

ที่จริงแล้ว ยิ่งฉันทำงานดีเท่าไหร่

the more people hate me.

คนก็ยิ่งเกลียดฉันมากขึ้น

และไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ใช่เจ้าหน้าที่ออกใบสั่ง

And no, I'm not a meter maid,

และฉันก็ไม่ใช่สัปเหร่อด้วย

and I'm not an undertaker.

ฉันเป็นผู้ประกาศข่าวหญิงรักหญิงหัวก้าวหน้า

I am a progressive, lesbian talking head on Fox News.

แห่ง Fox News ค่ะ (เสียงปรบมือ)

(Applause)

So y'all heard that, right? Just to make sure, right?

ทุกคนได้ยินใช่ไหมคะ แค่อยากจะแน่ใจค่ะ

I am a gay talking head on Fox News.

ฉันเป็นผู้ประกาศข่าวเกย์ของ Fox News ค่ะ

I am going to tell you how I do it,

ฉันกำลังจะบอกคุณว่า ฉันทำงานอย่างไร

and the most important thing I've learned.

และอะไรที่สำคัญที่สุดที่ฉันได้เรียนรู้

So I go on television.

ฉันก็ออกทีวีค่ะ

I debate people who literally want to obliterate everything I believe in --

ฉันถกเถียงกับผู้คนที่อยากจะทำลาย

ทุกอย่างที่ฉันเชื่อ และในบางกรณี

in some cases, who don't want me and people like me to even exist.

คนที่ไม่อยากให้ฉัน และคนอย่างฉันมีตัวตนเสียด้วยซ้ำไป

It's sort of like Thanksgiving with your conservative uncle

มันเป็นอารมณ์ประมาณกินเลี้ยงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า กับคุณลุงหัวอนุรักษ์ของคุณ

ในแบบที่แย่กว่านั้นหลายเท่า

on steroids,

with a live television audience of millions.

พร้อมๆ ไปกับการมีผู้ชมเป็นล้านๆ คนหน้าทีวี

It's totally almost just like that.

มันแทบจะเป็นอารมณ์ประมาณนั้นเลยล่ะ

And that's just on air.

และมันก็แค่ออกอากาศน่ะค่ะ

The hate mail I get is unbelievable.

จดหมายที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง (hate mail) ที่ฉันได้รับนั้น ช่างเหลือเชื่อ

Last week alone, I got 238 pieces of nasty email

อาทิตย์ที่แล้วอาทิตย์เดียว ฉันได้รับอีเมลน่าขยะแขยงพวกนั้น 238 ฉบับ

and more hate tweets than I can even count.

และได้รับทวีตเกลียดชัง (hate tweets) จำนวนมากกว่าที่ฉันจะนับได้

I was called an idiot, a traitor, a scourge,

ฉันถูกเรียกว่า คนโง่เง่า คนทรยศ ตัวหายนะ

a cunt and an ugly man,

กะหรี่ และผู้ชายอัปลักษณ์

and that was just in one email.

และทั้งหมดนั่นก็อยู่ในอีเมลเพียงฉบับเดียว

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

So what have I realized,

ดังนั้น อะไรล่ะที่ฉันตระหนักได้

being on the receiving end of all this ugliness?

เมื่อเป็นผู้รองรับความน่าเกลียดทั้งหมดนี้

Well, my biggest takeaway

เอาล่ะ ประเด็นสำคัญของฉันก็คือว่า เป็นเวลาหลายทศวรรษมาแล้ว

is that for decades, we've been focused on political correctness,

ที่เราสนใจแต่เรื่องความถูกต้องทางการเมือง

but what matters more is emotional correctness.

แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือความถูกต้องทางอารมณ์ต่างหาก

Let me give you a small example.

ให้ฉันยกตัวอย่างเล็กๆอันนึงนะคะ

I don't care if you call me a dyke. I really don't.

ฉันไม่สนว่าคุณจะเรียนฉันว่า ทอม ฉันไม่สนเลย

I care about two things.

ฉันสนแค่สองอย่าง

หนึ่ง ฉันสนว่าคุณสะกดมันถูกไหม

One, I care that you spell it right.

(Laughter) (Applause)

(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)

Just quick refresher, it's D-Y-K-E.

ทวนแบบเร็วๆนะคะ มันสะกดด้วย ท-อ-ม

You'd totally be surprised.

คุณอาจจะประหลาดใจมากๆ

And second, I don't care about the word, I care about how you use it.

และสอง ฉันไม่สนเรื่องของคำ

ฉันสนวิธีที่คุณใช้มัน

Are you being friendly? Are you just being naive?

คุณกำลังเป็นมิตรมั้ย คุณแค่ไม่รู้ประสารึเปล่า

Or do you really want to hurt me personally?

หรือคุณอยากที่จะทำให้ฉันเจ็บใจจริงๆ

Emotional correctness is the tone, the feeling,

ความถูกต้องทางอารมณ์คือ โทนเสียง ความรู้สึก

how we say what we say,

วิธีการที่เราพูดในสิ่งที่เราพูด

the respect and compassion we show one another.

ความเคารพและความเห็นใจที่เรามีต่อกันและกัน

And what I've realized is that political persuasion

และสิ่งที่ฉันได้ตระหนักก็คือว่า การโน้มน้าวทางการเมือง

doesn't begin with ideas or facts or data.

ไม่ได้เริ่มด้วย ไอเดีย หรือข้อเท็จจริง หรือข้อมูล

Political persuasion begins with being emotionally correct.

การโน้มน้าวทางการเมืองเริ่มด้วย ความถูกต้องทางอารมณ์

So when I first went to go work at Fox News,

ตอนแรกที่ฉันเริ่มงานที่ Fox News

true confession,

เป็นคำสารภาพจริงๆเลยนะคะ

I expected there to be marks in the carpet

ฉันคาดหวังว่ามันจะมีร่องรอยบนพื้นพรม

from all the knuckle-dragging.

จากพวกหัวโบราณ ที่ทำตัวเหมือนลิง ที่เดินลากกำปั้นไปกับพื้น

That, by the way, in case you're paying attention, is not emotionally correct.

แต่ว่าก็ว่านะคะ ในกรณีที่คุณกำลังตั้งใจฟัง นั่นไม่ได้ถูกต้องทางอารมณ์เลย

But liberals on my side,

แต่ด้วยความเป็นเสรีนิยมในตัวฉัน

we can be self-righteous, we can be condescending,

เรามีความชอบธรรมในตัวเองได้ เราจองหองได้

we can be dismissive of anyone who doesn't agree with us.

เราเมินใครต่อใครที่ไม่เห็นด้วยกับเราได้

In other words, we can be politically right

หรือพูดอีกอย่าง เราถูกต้องทางการเมืองได้

but emotionally wrong.

แต่ผิดพลาดทางอารมณ์ความรู้สึก

และโดยบังเอิญ นั่นหมายความว่า

And incidentally, that means that people don't like us. Right?

คนอื่นๆ ไม่ชอบเรา ใช่ไหมคะ

เอาล่ะ นี่ล่ะคือจุดเปลี่ยน

Now here's the kicker.

พวกอนุรักษ์นิยมนั้นน่ารักมาก

Conservatives are really nice.

I mean, not all of them,

ฉันไม่ได้หมายถึงพวกเขาทั้งหมดนะคะ

และก็ไม่ได้หมายถึงพวกที่ส่งจดหมายเกลียดชังมาให้ฉันด้วย

and not the ones who send me hate mail,

but you would be surprised.

แต่คุณจะประหลาดใจค่ะ

Sean Hannity is one of the sweetest guys I've ever met.

ฌอน แฮนนิตี้ (Sean Hannity) เป็นหนึ่งในคนที่น่ารักที่สุด

ที่ฉันเคยพบมา

He spends his free time trying to fix up his staff on blind dates,

เขาใช่เวลาว่างของเขา

พยายามหาทางให้พนักงานของเขาได้ไปนัดบอด

และฉันรู้ว่า ถ้าหากว่าฉันมีปัญหา

and I know that if I ever had a problem,

เขาจะช่วยฉันในทุกทางที่เขาทำได้

he would do anything he could to help.

Now, I think Sean Hannity is 99 percent politically wrong,

เอาล่ะ ฉันคิดว่า ชอน แฮนนิตี้นั้น

ผิดพลาดทางการเมือง 99 เปอร์เซ็นต์

แต่ความถูกต้องทางอารมณ์ของเขานั้นน่าประทับใจอย่างที่สุด

but his emotional correctness is strikingly impressive.

And that's why people listen to him.

และนั่นเป็นเหตุผลที่หลายคนฟังเขา

Because you can't get anyone to agree with you

เพราะคุณทำให้คนเห็นด้วยกับคุณไม่ได้หรอก

ถ้าพวกเขาไม่แม้แต่จะฟังคุณตั้งแต่แรก

if they don't even listen to you first.

We spend so much time talking past each other

เราใช้เวลามากมายพูดกันไปมา

and not enough time talking through our disagreements.

และใช้เวลาน้อยไปในการพูดคุย เรื่องข้อตกลงต่างๆ ของเราอย่างละเอียด

And if we can start to find compassion for one another,

และถ้าเราสามารถมองหาความเห็นอกเห็นใจต่อกันและกันเจอ

then we have a shot at building common ground.

เราก็มีโอกาสที่จะมีความเห็นตรงกันได้

It actually sounds really hokey to say it standing up here,

จริงๆ แล้ว มันก็ฟังดูกลวงๆ นะคะ

ที่จะพูดเรื่องนี้ แล้วก็ยืนอยู่ตรงนี้

but when you try to put it in practice,

แต่เมื่อคุณพยายามทำมันให้ได้

it's really powerful.

มันมีพลังมากค่ะ

So someone who says they hate immigrants,

ดังนั้น กับบางคนที่พูดว่า เขาเกลียดผู้อพยพ

I try to imagine how scared they must be

ฉันพยายามนึกว่า พวกเขาต้องกลัวแค่ไหนนะ

that their community is changing from what they've always known.

กับการที่ชุมชนของพวกเขาเปลี่ยนแปลง ไปจากอะไรที่พวกเขารู้จักมาตลอด

Or someone who says they don't like teachers' unions,

หรือกับบางคนที่บอกว่า ไม่ชอบสหภาพครู

I bet they're really devastated to see their kid's school going into the gutter,

ฉันพนันเลยว่า พวกเขาหวาดหวั่นเหลือเกินที่จะเห็น

โรงเรียนของลูกของพวกเขาต้องกลายเป็นโรงเรียนชั้นสอง

และพวกเขาก็แค่กำลังมองหาใครสักคนมาเป็นแพะ

and they're just looking for someone to blame.

Our challenge is to find the compassion for others

ความท้าทายของเราก็คือ การมองหาความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นให้เจอ

ความเห็นอกเห็นใจแบบที่เราต้องการให้พวกเขามีต่อเรา

that we want them to have for us.

That is emotional correctness.

นั่นคือ ความถูกต้องทางอารมณ์

I'm not saying it's easy.

ฉันไม่ได้บอกว่ามันง่ายนะคะ

An average of, like, 5.6 times per day

โดยเฉลี่ยประมาณ 5.6 ครั้งต่อวัน

I have to stop myself from responding to all of my hate mail

ที่ฉันต้องคอยห้ามตัวเองไม่ให้ตอบ

จดหมายเกลียดชังทั้งหมดนั้นไปอย่างหยาบคาย

with a flurry of vile profanities.

This whole finding compassion and common ground with your enemies thing

การค้นหาความเห็นอกเห็นใจ

และจุดร่วมกับศัตรูของคุณเหล่านี้

is kind of like a political-spiritual practice for me,

เป็นอะไรที่เหมือนกับ การฝึกฝนทางจิตวิญญาณและการเมืองสำหรับฉันค่ะ

and I ain't the Dalai Lama.

และฉันก็ไม่ใช่ดาไลลามะซะด้วย

I'm not perfect, but what I am is optimistic.

ฉันไม่ได้ดีสมบูรณ์แบบ แต่ฉันเป็นคนมองโลกในแง่ดีค่ะ

Because I don't just get hate mail.

เพราะฉันไม่ได้ได้รับแต่จดหมายเกลียดชัง

I get a lot of really nice letters, lots of them.

ฉันได้รับจดหมายน่ารักๆ หลายฉบับด้วย

และหนึ่งในฉบับที่ฉันชอบที่สุดตลอดกาลเริ่มด้วย

And one of my all-time favorites begins:

"I am not a big fan of your political leanings

"ฉันไม่ใช่แฟนตัวยงของความเห็นด้านการเมืองของคุณ

or your sometimes tortured logic,

หรือตรรกะที่บางครั้งดูจะป่วยของคุณ

(Laughter)

แต่ฉันเป็นแฟนตัวยงของคุณในฐานะคนๆ หนึ่ง"

but I'm a big fan of you as a person."

Now this guy doesn't agree with me -- yet.

ตอนนี้ คนๆ นี้ยังไม่เห็นด้วยกับฉันค่ะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

But he's listening --

แต่เขาฟังค่ะ ไม่ใช่เพราะสิ่งที่ฉันพูด

not because of what I said, but because of how I said it.

แต่เป็นเพราะวิธีที่ฉันพูดมันค่ะ

และด้วยอะไรบางอย่าง เราสร้างความเชื่อมโยงขึ้นได้

And somehow, even though we've never met, we've managed to form a connection.

ทั้งๆ ที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อน

นั่นแหละค่ะ คือ ความถูกต้องทางอารมณ์

That's emotional correctness,

and that's how we start the conversations

และนั่นคือวิธีที่เราจะเริ่มบทสนทนา

ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

that really lead to change.

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)