Atheism 2.0 | Alain de Botton

1,446,653 views ・ 2012-01-17

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Wachara Fungwacharakorn Reviewer: Unnawut Leepaisalsuwanna
00:15
One of the most common ways of dividing the world
0
15260
3000
หนึ่งในวิธีทั่วไปที่ใช้มองโลก
00:18
is into those who believe
1
18260
2000
คือการแบ่งออกเป็นคนที่มีความเชื่อ
00:20
and those who don't --
2
20260
2000
กับคนที่ไม่มี --
00:22
into the religious and the atheists.
3
22260
3000
เป็นกลุ่มศาสนากับกลุ่มอเทวนิยม
00:25
And for the last decade or so,
4
25260
2000
และในช่วงสิบปีที่ผ่านมาราวๆ นั้น
00:27
it's been quite clear
5
27260
2000
มันค่อนข้างชัดว่า
00:29
what being an atheist means.
6
29260
2000
กลุ่มอเทวนิยมเป็นอย่างไร
00:31
There have been some very vocal atheists
7
31260
3000
มีนักอเทวนิยมคนสำคัญหลายคน
00:34
who've pointed out,
8
34260
2000
ที่ชี้ว่า
00:36
not just that religion is wrong,
9
36260
2000
เรื่องศาสนาไม่ใช่แค่ผิดแค่นั้น
00:38
but that it's ridiculous.
10
38260
2000
แต่ยังไร้สาระอีกด้วย
00:40
These people, many of whom have lived in North Oxford,
11
40260
3000
กลุ่มคนเหล่านี้ พวกที่ส่วนมากอยู่แถวนอร์ทอ๊อกซฟอร์ด
00:43
have argued --
12
43260
2000
บอกว่า --
00:45
they've argued that believing in God
13
45260
3000
การเชื่อในพระเจ้า
00:48
is akin to believing in fairies
14
48260
2000
ก็เหมือนๆ กับการเชื่อในพวกภูติแฟรี่
00:50
and essentially that the whole thing
15
50260
2000
ซึ่งทั้งหมดนี้โดยพื้นฐานแล้ว
00:52
is a childish game.
16
52260
2000
เป็นเพียงนิทานหลอกเด็ก
00:54
Now I think it's too easy.
17
54260
2000
ผมคิดว่ามันง่ายเกินไป
00:56
I think it's too easy
18
56260
2000
มันง่ายเกินไป
00:58
to dismiss the whole of religion that way.
19
58260
3000
ที่จะไม่สนใจศาสนาโดยสิ้นเชิง
01:01
And it's as easy as shooting fish in a barrel.
20
61260
2000
มันง่ายพอๆ กับการยิงปลาในถัง
01:03
And what I'd like to inaugurate today
21
63260
2000
และสิ่งที่ผมอยากเปิดประเด็นวันนี้
01:05
is a new way of being an atheist --
22
65260
2000
คือการเป็นอเทวนิยมแบบใหม่ --
01:07
if you like, a new version of atheism
23
67260
3000
อเทวนิยมเวอร์ชั่นใหม่
01:10
we could call Atheism 2.0.
24
70260
3000
เราอาจเรียกว่า อเทวนิยม 2.0
01:13
Now what is Atheism 2.0?
25
73260
2000
อะไรคืออเทวนิยม 2.0?
01:15
Well it starts from a very basic premise:
26
75260
2000
ก่อนอื่น มันเริ่มต้นจากเงื่อนไขพื้นฐานที่สุดว่า
01:17
of course, there's no God.
27
77260
3000
แน่นอน ไม่มีพระเจ้า
01:20
Of course, there are no deities or supernatural spirits
28
80260
3000
แน่นอน ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืออำนาจเหนือธรรมชาติ
01:23
or angels, etc.
29
83260
2000
หรือเทพยดา ฯลฯ
01:25
Now let's move on; that's not the end of the story,
30
85260
3000
ลองคิดต่อไปจากนั้น เรื่องมันยังไม่จบ
01:28
that's the very, very beginning.
31
88260
3000
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นแค่นั้น
01:31
I'm interested in the kind of constituency
32
91260
3000
ผมสนใจกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง
01:34
that thinks something along these lines:
33
94260
2000
ที่คิดในทำนองนี้นะ
01:36
that thinks, "I can't believe in any of this stuff.
34
96260
2000
ทำนองว่า "ฉันไม่เชื่อในสิ่งต่างๆ เหล่านี้
01:38
I can't believe in the doctrines.
35
98260
3000
ฉันไม่เชื่อในหลักศาสนาต่างๆ
01:41
I don't think these doctrines are right.
36
101260
2000
ฉันไม่เชื่อว่าหลักศาสนาเหล่านี้ถูกต้อง
01:43
But," a very important but, "I love Christmas carols.
37
103260
4000
แต่" เป็นแต่ที่สำคัญมาก "ฉันชอบเพลงคริสต์มาส
01:47
I really like the art of Mantegna.
38
107260
3000
ฉันชอบงานศิลปะของมานเทนยา
01:50
I really like looking at old churches.
39
110260
2000
ฉันชอบไปดูตามโบสถ์เก่าต่างๆ
01:52
I really like turning the pages of the Old Testament."
40
112260
3000
ฉันชอบพลิกดูคัมภีร์ไบเบิลเดิมไปมา"
01:55
Whatever it may be,
41
115260
2000
ประมาณนี้
01:57
you know the kind of thing I'm talking about --
42
117260
2000
คุณคงรู้ว่าผมพูดเรื่องอะไรอยู่
01:59
people who are attracted to the ritualistic side,
43
119260
2000
คนที่ชื่นชอบในด้านพิธีทางศาสนา
02:01
the moralistic, communal side of religion,
44
121260
3000
ด้านศีลธรรม ด้านประเพณีทางศาสนา
02:04
but can't bear the doctrine.
45
124260
2000
แต่ไม่ได้เชื่อหลักศาสนาไปซะหมด
02:06
Until now, these people have faced a rather unpleasant choice.
46
126260
3000
จนถึงตอนนี้ คนเหล่านี้เผชิญหน้ากับทางเลือกที่ไม่น่าภิรมย์เลย
02:09
It's almost as though either you accept the doctrine
47
129260
3000
คุณแทบต้องเลือกระหว่าง ยอมรับหลักศาสนา
02:12
and then you can have all the nice stuff,
48
132260
2000
จึงจะสามารถทำสิ่งยอดเยี่ยมเหล่านั้นได้
02:14
or you reject the doctrine and
49
134260
2000
หรือปฏิเสธหลักศาสนาและ
02:16
you're living in some kind of spiritual wasteland
50
136260
2000
อาศัยอยู่ในแดนตะกอนแห่งจิตวิญญาณ
02:18
under the guidance of CNN and Walmart.
51
138260
2000
ภายใต้การนำของซีเอ็นเอ็นและวอลมาร์ต
02:20
So that's a sort of tough choice.
52
140260
2000
ดังนั้นมันเป็นทางเลือกที่ลำบากมาก
02:22
I don't think we have to make that choice.
53
142260
2000
ผมไม่คิดว่าเราต้องเลือกขนาดนั้น
02:24
I think there is an alternative.
54
144260
2000
ผมคิดว่ายังมีทางเลือกอื่นอีก
02:26
I think there are ways --
55
146260
2000
ผมคิดว่ามันมีทาง
02:28
and I'm being both very respectful and completely impious --
56
148260
3000
และผมรู้สึกทั้งเคารพและไม่เคารพ
02:31
of stealing from religions.
57
151260
2000
ต่อการขโมยหลักการต่างๆ จากศาสนา
02:33
If you don't believe in a religion,
58
153260
2000
ถ้าคุณไม่เชื่อในศาสนา
02:35
there's nothing wrong with picking and mixing,
59
155260
2000
มันไม่ปัญหาอะไรเลยที่จะหยิบและผสม
02:37
with taking out the best sides of religion.
60
157260
3000
ที่จะดึงเอาข้อดีต่างๆ จากศาสนา
02:40
And for me, atheism 2.0
61
160260
2000
และสำหรับผม อเทวนิยม 2.0
02:42
is about both, as I say,
62
162260
2000
ก็ประกอบด้วยสองส่วน อย่างที่ผมว่า
02:44
a respectful and an impious way
63
164260
3000
ทั้งการให้เคารพและการไม่ให้เคารพ
02:47
of going through religions and saying, "What here could we use?"
64
167260
3000
ต่อการมองศาสนาและหาว่า "อะไรที่เราใช้ได้บ้าง"
02:50
The secular world is full of holes.
65
170260
2000
โลกปุถุชนเต็มไปด้วยช่องโหว่
02:52
We have secularized badly, I would argue.
66
172260
3000
เราจัดการโลกแบบปุถุชนได้ไม่ดีนัก ผมจะบอกเช่นนั้น
02:55
And a thorough study of religion
67
175260
2000
และการศึกษาศาสนาอย่างถ่องแท้
02:57
could give us all sorts of insights
68
177260
2000
จะช่วยให้เรามีหนทางแก้ปัญหา
02:59
into areas of life that are not going too well.
69
179260
3000
ในประเด็นต่างๆ ของชีวิตที่ไปไม่ได้ด้วยดี
03:02
And I'd like to run through a few of these today.
70
182260
4000
และผมจะพูดถึงบางเรื่องในวันนี้
03:06
I'd like to kick off by looking at education.
71
186260
3000
ผมอยากจะเริ่มต้นด้วยการมองถึงการศึกษา
03:09
Now education is a field
72
189260
2000
ตอนนี้การศึกษาเป็นที่ที่
03:11
the secular world really believes in.
73
191260
2000
โลกปุถุชนเชื่อถืออย่างแท้จริง
03:13
When we think about how we're going to make the world a better place,
74
193260
2000
ทุกครั้งที่เราคิดว่าจะทำให้ โลกเราน่าอยู่ขึ้นได้อย่างไร
03:15
we think education; that's where we put a lot of money.
75
195260
3000
เราก็จะคิดถึงการศึกษา ที่ที่เราทุ่มเงินลงไปจำนวนมหาศาล
03:18
Education is going to give us, not only commercial skills, industrial skills,
76
198260
3000
การศึกษาให้ทักษะการค้า ทักษะอุตสาหกรรม
03:21
it's also going to make us better people.
77
201260
2000
และยังทำให้เราเป็นพลเมืองที่ดี
03:23
You know the kind of thing a commencement address is, and graduation ceremonies,
78
203260
3000
งานปัจฉิมนิเทศ พิธีจบการศึกษา
03:26
those lyrical claims
79
206260
2000
ล้วนเรียกร้อง
03:28
that education, the process of education -- particularly higher education --
80
208260
3000
ว่าการศึกษา -- โดยเฉพาะการศึกษาระดับสูง --
03:31
will make us into nobler and better human beings.
81
211260
3000
จะยกระดับและทำให้เราเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้น
03:34
That's a lovely idea.
82
214260
2000
นั่นเป็นแนวคิดที่ดีมาก
03:36
Interesting where it came from.
83
216260
2000
น่าสนใจว่าแนวคิดนี้มาจากไหน
03:38
In the early 19th century,
84
218260
2000
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19
03:40
church attendance in Western Europe
85
220260
2000
อัตราการเข้าโบสถ์ในยุโรปตะวันตก
03:42
started sliding down very, very sharply, and people panicked.
86
222260
3000
เริ่มลดลงอย่างรวดเร็วจนทุกคนตกใจ
03:45
They asked themselves the following question.
87
225260
2000
พวกเขาเริ่มถามคำถามตัวเองว่า
03:47
They said, where are people going to find the morality,
88
227260
3000
แล้วพลเมืองไปค้นหาศีลธรรมที่ไหนล่ะ
03:50
where are they going to find guidance,
89
230260
2000
พลเมืองไปค้นหาหลักดำรงชีวิตที่ไหนล่ะ
03:52
and where are they going to find sources of consolation?
90
232260
2000
และพลเมืองไปค้นหาที่พึ่งทางใจที่ไหนล่ะ
03:54
And influential voices came up with one answer.
91
234260
2000
และทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
03:56
They said culture.
92
236260
2000
ทุกคนตอบว่า วัฒนธรรม
03:58
It's to culture that we should look
93
238260
2000
วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่เราควรมองหา
04:00
for guidance, for consolation, for morality.
94
240260
3000
ทั้งหลักดำรงชีวิต ที่พึ่งทางใจ และหลักศีลธรรม
04:03
Let's look to the plays of Shakespeare,
95
243260
2000
ลองอ่านบทละครของเชกสเปียร์
04:05
the dialogues of Plato, the novels of Jane Austen.
96
245260
3000
บทสนทนาของเพลโต นวนิยายของเจน ออสเตน
04:08
In there, we'll find a lot of the truths
97
248260
2000
ในนั้น เราจะพบสัจธรรมหลายอย่าง
04:10
that we might previously have found in the Gospel of Saint John.
98
250260
3000
ที่เราอาจเคยพบในวรสารของนักบุญยอห์น
04:13
Now I think that's a very beautiful idea and a very true idea.
99
253260
3000
ผมคิดว่านั่นเป็นแนวคิดที่สวยงามและเป็นจริงมาก
04:16
They wanted to replace scripture with culture.
100
256260
3000
พวกเขาต้องการแทนที่พระคัมภีร์ด้วยวัฒนธรรม
04:19
And that's a very plausible idea.
101
259260
2000
และนั่นเป็นความคิดที่สมเหตุสมผล
04:21
It's also an idea that we have forgotten.
102
261260
4000
และเป็นความคิดที่เราหลงลืมไป
04:25
If you went to a top university --
103
265260
2000
ถ้าคุณไปที่มหาวิทยาลัยชั้นนำ --
04:27
let's say you went to Harvard or Oxford or Cambridge --
104
267260
2000
เช่นฮาร์วาร์ด หรืออ็อกซฟอร์ด หรือเคมบริดจ์ --
04:29
and you said, "I've come here
105
269260
2000
และพูดว่า "ผมมานี่
04:31
because I'm in search of morality, guidance and consolation;
106
271260
2000
เพราะผมต้องการค้นหาหลักศีลธรรม หลักดำรงชีวิต และที่พึ่งทางใจ
04:33
I want to know how to live,"
107
273260
2000
ผมต้องการรู้ว่าควรใช้ชีวิตอย่างไร"
04:35
they would show you the way to the insane asylum.
108
275260
3000
เขาจะชี้ให้คุณไปหาโรงพยาบาลวิกลจริต
04:38
This is simply not what our grandest and best institutes of higher learning
109
278260
3000
นี่ไม่ใช่สิ่งที่สถาบันการศึกษาชั้นสูงและยิ่งใหญ่
04:41
are in the business of.
110
281260
2000
จะทำ
04:43
Why? They don't think we need it.
111
283260
2000
เพราะอะไร? พวกเขาจึงไม่คิดว่าเราต้องการมัน
04:45
They don't think we are in an urgent need of assistance.
112
285260
3000
ไม่คิดว่าเราต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
04:48
They see us as adults, rational adults.
113
288260
2000
พวกเขาเห็นเราเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ที่มีหัวคิด
04:50
What we need is information.
114
290260
2000
ที่เราต้องการคือ ข้อมูล
04:52
We need data, we don't need help.
115
292260
2000
เราต้องการข่าวสาร เราไม่ต้องการความช่วยเหลือ
04:54
Now religions start from a very different place indeed.
116
294260
3000
แต่ศาสนาเริ่มต้นจากมุมมองที่ต่างออกไปอย่างยิ่ง
04:57
All religions, all major religions,
117
297260
2000
ทุกศาสนา ทุกศาสนาหลักๆ
04:59
at various points call us children.
118
299260
3000
ไม่ว่าที่ใดก็ตาม มองเราเหมือนลูก
05:02
And like children,
119
302260
2000
และการมองเหมือนลูกนั่นเอง
05:04
they believe that we are in severe need of assistance.
120
304260
2000
พวกเขาเชื่อว่า เราต้องการความช่วยเหลืออย่างสุดซึ้ง
05:06
We're only just holding it together.
121
306260
2000
พวกเราเพียงแค่รวมใจเป็นหนึ่ง
05:08
Perhaps this is just me, maybe you.
122
308260
2000
เผลอๆ ผมต้องรวมคนเดียว คุณอาจรวมด้วยมั้ง
05:10
But anyway, we're only just holding it together.
123
310260
3000
อย่างไรก็ดี พวกเราแค่ต้องรวมใจเป็นหนึ่ง
05:13
And we need help. Of course, we need help.
124
313260
2000
และเราก็ต้องการความช่วยเหลือ
05:15
And so we need guidance and we need didactic learning.
125
315260
3000
และเราก็ต้องการหลักดำรงชีวิต และเราก็ต้องการการสั่งสอน
05:18
You know, in the 18th century in the U.K.,
126
318260
2000
ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 18 ในสหราชอาณาจักร
05:20
the greatest preacher, greatest religious preacher, was a man called John Wesley,
127
320260
3000
นักเทศน์ทางศาสนาที่มียิ่งใหญ่ที่สุดท่านหนึ่งซึ่งก็คือ จอห์น วีสลีย์
05:23
who went up and down this country delivering sermons,
128
323260
3000
ได้เดินทางไปทั่วประเทศนี้เพื่อเทศนาสั่งสอน
05:26
advising people how they could live.
129
326260
2000
แนะนำว่าพวกเขาควรใช้ชีวิตอย่างไร
05:28
He delivered sermons on the duties of parents to their children
130
328260
2000
เขาเทศนาสั่งสอนเสมือนหนึ่งว่า เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรทำต่อลูก
05:30
and children to their parents,
131
330260
2000
และลูกควรทำต่อพ่อแม่
05:32
the duties of the rich to the poor and the poor to the rich.
132
332260
2000
สิ่งที่คนรวยควรทำต่อคนจน และคนจนควรทำต่อคนรวย
05:34
He was trying to tell people how they should live
133
334260
2000
เขาพยายามบอกคนอื่นว่า พวกเขาควรใช้ชีวิตอย่างไร
05:36
through the medium of sermons,
134
336260
2000
โดยสื่อผ่านคำเทศนา
05:38
the classic medium of delivery of religions.
135
338260
3000
สื่อดั้งเดิมที่ใช้สอนศาสนา
05:41
Now we've given up with the idea of sermons.
136
341260
2000
ตอนนี้เราพิจารณาแนวทางการเทศนา
05:43
If you said to a modern liberal individualist,
137
343260
2000
ถ้าเราพูดกับนักเสรีปัจเจกนิยมสมัยใหม่
05:45
"Hey, how about a sermon?"
138
345260
2000
"เฮ้ ต้องการฟังเทศน์มั้ย?"
05:47
they'd go, "No, no. I don't need one of those.
139
347260
2000
คงตอบว่า "ไม่ ไม่หรอก ฉันไม่ต้องการฟังหรอก
05:49
I'm an independent, individual person."
140
349260
2000
ฉันเป็นอิสระ เป็นปัจเจกบุคคล"
05:51
What's the difference between a sermon
141
351260
2000
อะไรคือความแตกต่างระหว่างการเทศนา
05:53
and our modern, secular mode of delivery, the lecture?
142
353260
3000
กับวิธีการสั่งสอนในโลกสมัยใหม่ การสอนเชิงบรรยาย
05:56
Well a sermon wants to change your life
143
356260
3000
คำเทศนาต้องการเปลี่ยนชีวิตคุณ
05:59
and a lecture wants to give you a bit of information.
144
359260
3000
และการสอนเชิงบรรยายแค่ต้องการให้ข้อมูลเท่านั้น
06:02
And I think we need to get back to that sermon tradition.
145
362260
3000
และผมคิดว่าเราควรกลับไปสู่ วัฒนธรรมการเทศนา
06:05
The tradition of sermonizing is hugely valuable,
146
365260
2000
วัฒนธรรมการเทศนาเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่ง
06:07
because we are in need of guidance,
147
367260
2000
เพราะเราต้องการหลักดำรงชีวิต
06:09
morality and consolation --
148
369260
2000
หลักศีลธรรม และที่พึ่งทางใจ
06:11
and religions know that.
149
371260
2000
และศาสนาก็เข้าใจเรื่องนี้
06:13
Another point about education:
150
373260
2000
อีกประเด็นหนึ่งของการศึกษาก็คือ
06:15
we tend to believe in the modern secular world
151
375260
2000
เรามีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าในโลกสมัยใหม่
06:17
that if you tell someone something once, they'll remember it.
152
377260
3000
ว่าเราบอก ใคร เรื่องอะไร ครั้งหนึ่งแล้ว พวกเขาจะจำได้หมด
06:20
Sit them in a classroom, tell them about Plato
153
380260
2000
ให้เขานั่งในห้องเรียน เล่าเรื่องเพลโตให้เขาฟัง
06:22
at the age of 20, send them out for a career in management consultancy for 40 years,
154
382260
3000
ตอนเขาอายุ 20 ส่งเขาไปเป็นที่ปรึกษาฝ่ายบริหารเป็นเวลา 40 ปี
06:25
and that lesson will stick with them.
155
385260
2000
และคิดว่าบทเรียนจะอยู่กับเขาตลอดไป
06:27
Religions go, "Nonsense.
156
387260
2000
กลุ่มศาสนาบอกว่า "ไม่มีทาง
06:29
You need to keep repeating the lesson 10 times a day.
157
389260
3000
คุณต้องทบทวนบทเรียนซ้ำๆ 10 ครั้งต่อวัน
06:32
So get on your knees and repeat it."
158
392260
2000
คุกเข่าลงและท่องมันซ้ำๆ
06:34
That's what all religions tell us:
159
394260
2000
นั่นคือสิ่งที่ศาสนาบอกเรา
06:36
"Get on you knees and repeat it 10 or 20 or 15 times a day."
160
396260
3000
คุกเข่าและท่องมันซ้ำๆ 10 หรือ 20 หรือ 15 รอบต่อวัน
06:39
Otherwise our minds are like sieves.
161
399260
2000
มิฉะนั้นเราจะได้หน้าแล้วลืมหลัง
06:41
So religions are cultures of repetition.
162
401260
2000
ดังนั้นศาสนาคือวัฒนธรรมแห่งการซ้ำ
06:43
They circle the great truths again and again and again.
163
403260
2000
ท่องสัจธรรมอันยิ่งใหญ่ต่างๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
06:45
We associate repetition with boredom.
164
405260
2000
เรามักเชื่อมโยงการซ้ำกับความน่าเบื่อ
06:47
"Give us the new," we're always saying.
165
407260
2000
"ให้อะไรใหม่ๆ กับเราสิ" เรามักพูดเช่นนี้
06:49
"The new is better than the old."
166
409260
2000
"ของใหม่ย่อมดีกว่าของเก่าเสมอ"
06:51
If I said to you, "Okay, we're not going to have new TED.
167
411260
2000
อย่างถ้าผมบอกคุณว่า "โอเค เราจะไม่มี TED ใหม่ๆ
06:53
We're just going to run through all the old ones
168
413260
2000
เราจะทบทวนคลิปเก่าทั้งหมด
06:55
and watch them five times because they're so true.
169
415260
2000
และเราจะทวนมันห้าครั้ง เพราะมันเป็นสัจธรรมมากๆ
06:57
We're going to watch Elizabeth Gilbert five times
170
417260
3000
เราจะดู อลิสซาเบธ กิลเบิร์ต ถึงห้าครั้ง
07:00
because what she says is so clever," you'd feel cheated.
171
420260
3000
เพราะเธอพูดในสิ่งที่ชาญฉลาดสุดๆ" คุณจะรู้สึกถูกหลอกลวง
07:03
Not so if you're adopting a religious mindset.
172
423260
2000
แต่ไม่จริงเสมอไป ถ้าเรามองในมุมมองศาสนา
07:05
The other things that religions do
173
425260
2000
อีกสิ่งหนึ่งที่กลุ่มศาสนาทำ
07:07
is to arrange time.
174
427260
2000
คือการเรียงลำดับเวลา
07:09
All the major religions give us calendars.
175
429260
2000
ทุกๆ ศาสนาหลักได้กำหนดปฏิทินแก่เรา
07:11
What is a calendar?
176
431260
2000
ปฏิทินคืออะไร?
07:13
A calendar is a way of making sure that across the year
177
433260
3000
ปฏิทินคือสิ่งที่ทำให้แน่ใจว่าในช่วงปี
07:16
you will bump into certain very important ideas.
178
436260
3000
เราจะโคจรมาพบกับความคิดที่สำคัญต่างๆ
07:19
In the Catholic chronology, Catholic calendar,
179
439260
3000
ในลำดับเวลาแบบคาทอลิก ปฏิทินแบบคาทอลิก
07:22
at the end of March you will think about St. Jerome
180
442260
2000
ในปลายเดือนมีนาคมคุณจะคิดถึงเซนต์เจอโรม
07:24
and his qualities of humility and goodness
181
444260
2000
และคุณธรรมที่สำคัญทางด้านมนุษยธรรมและความดีความงาม
07:26
and his generosity to the poor.
182
446260
2000
และความเมตตากรุณาต่อผู้ยากไร้
07:28
You won't do that by accident; you will do that because you are guided to do that.
183
448260
3000
คุณไม่ได้คิดถึงมันโดยบังเอิญ คุณคิดถึงมันเพราะว่าถูกชี้นำให้คิดถึงมัน
07:31
Now we don't think that way.
184
451260
2000
ในปัจจุบัน เราไม่ได้คิดเช่นนั้น
07:33
In the secular world we think, "If an idea is important, I'll bump into it.
185
453260
2000
ในทางโลกเราคิดว่า "สำหรับความคิดที่สำคัญๆ เราก็แค่โคจรมาพบกัน
07:35
I'll just come across it."
186
455260
2000
แล้วก็ผ่านไป"
07:37
Nonsense, says the religious world view.
187
457260
2000
ไม่มีทาง เมื่อมองจากโลกทัศน์ของศาสนา
07:39
Religious view says we need calendars, we need to structure time,
188
459260
3000
มุมมองของศาสนาบอกว่าเราต้องการปฏิทิน เราต้องกำหนดตารางเวลา
07:42
we need to synchronize encounters.
189
462260
2000
เราต้องผ่านมันไปเป็นจังหวะ
07:44
This comes across also
190
464260
2000
การผ่านไปก็
07:46
in the way in which religions set up rituals
191
466260
2000
เป็นไปตามที่ศาสนาได้จัดวางพิธีกรรม
07:48
around important feelings.
192
468260
2000
ไว้รอบความรู้สึกที่สำคัญต่างๆ
07:50
Take the Moon. It's really important to look at the Moon.
193
470260
3000
ลองคิดถึงดวงจันทร์สิ มันเป็นเรื่องสำคัญเวลามองไปที่ดวงจันทร์
07:53
You know, when you look at the Moon,
194
473260
2000
คุณก็รู้ เมื่อคุณมองไปที่ดวงจันทร์
07:55
you think, "I'm really small. What are my problems?"
195
475260
2000
คุณก็คิดว่า "ฉันนั้นช่างตัวเล็กเหลือเกิน อะไรคือปัญหาของฉัน"
07:57
It sets things into perspective, etc., etc.
196
477260
2000
มันเป็นการกำหนดมุมมองต่อสิ่งต่างๆ อื่นๆ อีกมากมาย
07:59
We should all look at the Moon a bit more often. We don't.
197
479260
2000
เราควรมองดวงจันทร์บ่อยขึ้นกว่านี่หน่อย ซึ่งเราไม่ค่อยทำ
08:01
Why don't we? Well there's nothing to tell us, "Look at the Moon."
198
481260
3000
ทำไมเราถึงไม่มอง นั่นเพราะว่าไม่มีใครบอกเราให้ทำ "มองดวงจันทร์สิ"
08:04
But if you're a Zen Buddhist in the middle of September,
199
484260
3000
แต่ถ้าคุณเป็นพุทธศาสนิกชนนิกายเซน ในช่วงกลางเดือนกันยายน
08:07
you will be ordered out of your home, made to stand on a canonical platform
200
487260
3000
คุณก็ควรจะออกจากบ้าน ไปยืนที่แท่นบูชา
08:10
and made to celebrate the festival of Tsukimi,
201
490260
2000
และฉลองเทศกาลสึคิมิ
08:12
where you will be given poems to read
202
492260
2000
ที่ที่คุณจะอ่านบทกลอน
08:14
in honor of the Moon and the passage of time
203
494260
2000
เพื่อชื่นชมดวงจันทร์ การไหลผ่านของกาลเวลา
08:16
and the frailty of life that it should remind us of.
204
496260
2000
และความเปราะบางของชีวิตที่ย้ำเตือนเรา
08:18
You'll be handed rice cakes.
205
498260
2000
คุณจะได้รับเค้กที่ทำจากข้าว
08:20
And the Moon and the reflection on the Moon
206
500260
2000
ดวงจันทร์และเงาสะท้อนของดวงจันทร์
08:22
will have a secure place in your heart.
207
502260
2000
ทำให้ความสงบสุขเกิดขึ้นในใจเรา
08:24
That's very good.
208
504260
2000
มันช่างสวยงามยิ่งนัก
08:26
The other thing that religions are really aware of
209
506260
2000
อีกสิ่งหนึ่งที่กลุ่มศาสนามักคำนึงถึง
08:28
is: speak well --
210
508260
2000
ก็คือ สิ่งที่เรียกว่า --
08:30
I'm not doing a very good job of this here --
211
510260
2000
ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผมถนัดนัก --
08:32
but oratory, oratory is absolutely key to religions.
212
512260
3000
นั่นก็คือลีลาการเทศน์ ลีลาการเทศน์เป็นกุญแจสำคัญทางศาสนา
08:35
In the secular world, you can come through the university system and be a lousy speaker
213
515260
3000
ในทางโลก คุณสามารถจบจากมหาวิทยาลัย และไปเป็นนักพูดที่น่าดึงดูดใจ
08:38
and still have a great career.
214
518260
2000
และยังเป็นอาชีพที่ดีอีกด้วย
08:40
But the religious world doesn't think that way.
215
520260
2000
แต่มุมมองของศาสนาไม่ได้คิดแบบนั้น
08:42
What you're saying needs to be backed up
216
522260
2000
อะไรที่คุณพูดต้องได้รับการสนับสนุน
08:44
by a really convincing way of saying it.
217
524260
2000
ด้วยวิธีการพูดที่โน้มน้าวอย่างแท้จริง
08:46
So if you go to an African-American Pentecostalist church
218
526260
2000
อย่างเมื่อคุณไปที่โบสถ์เพ็นเทคอส แอฟริกัน อเมริกัน
08:48
in the American South
219
528260
2000
ในอเมริกาใต้
08:50
and you listen to how they talk,
220
530260
2000
คุณลองฟังดูว่าพวกเขาพูดว่าอย่างไร
08:52
my goodness, they talk well.
221
532260
2000
สุดยอดจริงๆ พวกเขาพูดได้ดีมาก
08:54
After every convincing point, people will go, "Amen, amen, amen."
222
534260
3000
ทุกครั้งหลังคำพูดที่โน้มน้าว ทุกคนก็จะพูดว่า "อาเมน อาเมน อาเมน"
08:57
At the end of a really rousing paragraph, they'll all stand up,
223
537260
2000
ทุกๆ ครั้งหลังคำพูดที่ดึงดูดใจ พวกเขาก็จะยืนขึ้น
08:59
and they'll go, "Thank you Jesus, thank you Christ, thank you Savior."
224
539260
3000
และพูดว่า "ขอบคุณพระเยซู ขอบคุณพระคริสต์ ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า"
09:02
If we were doing it like they do it --
225
542260
2000
ถ้าคุณจะทำให้เหมือนกับที่พวกเขาทำ --
09:04
let's not do it, but if we were to do it --
226
544260
3000
ไม่ต้องทำหรอกนะครับ แต่ถ้าพวกเราจะทำ --
09:07
I would tell you something like, "Culture should replace scripture."
227
547260
2000
สมมติว่าผมพูดประมาณว่า "วัฒนธรรมจะมาแทนที่พระคัมภีร์น่ะ"
09:09
And you would go, "Amen, amen, amen."
228
549260
2000
และคุณก็พูดว่า "อาเมน อาเมน อาเมน"
09:11
And at the end of my talk, you would all stand up
229
551260
2000
และเมื่อผมพูดจบ ทุกคนก็จะยืนขึ้น
09:13
and you would go, "Thank you Plato, thank you Shakespeare, thank you Jane Austen."
230
553260
2000
และพูดว่า "ขอบคุณเพลโต ขอบคุณเชกสเปียร์ ขอบคุณเจน ออสเตน"
09:15
And we'd know that we had a real rhythm going.
231
555260
3000
และเราก็รู้ว่ามันมีท่วงทำนองของมัน
09:18
All right, all right. We're getting there. We're getting there.
232
558260
2000
เอาล่ะ เอาล่ะ คุณเข้าใจแล้ว คุณเข้าใจแล้ว
09:20
(Applause)
233
560260
2000
(เสียงปรบมือ)
09:22
The other thing that religions know is we're not just brains,
234
562260
2000
อีกสิ่งหนึ่งที่ศาสนาคำนึงถึงคือเราไม่ได้มีแค่สมองอย่างเดียว
09:24
we are also bodies.
235
564260
2000
เรายังมีร่างกาย
09:26
And when they teach us a lesson,
236
566260
2000
และเมื่อพวกเขาสั่งสอนเรา
09:28
they do it via the body.
237
568260
2000
เขายังทำมันผ่านร่างกายอีกด้วย
09:30
So for example,
238
570260
2000
ยกตัวอย่างเช่น
09:32
take the Jewish idea of forgiveness.
239
572260
2000
คำสอนของยิวเกี่ยวกับการให้อภัย
09:34
Jews are very interested in forgiveness
240
574260
2000
ยิวให้ความสำคัญกับการให้อภัยอย่างยิ่ง
09:36
and how we should start anew and start afresh.
241
576260
2000
และการที่เราต้องเริ่มสิ่งใหม่ๆ และกลับมามีชีวิตชีวา
09:38
They don't just deliver us sermons on this.
242
578260
2000
พวกเขาไม่ได้เทศนาสั่งสอนเราแค่นั้น
09:40
They don't just give us books or words about this.
243
580260
2000
เขาไม่ได้ให้คัมภีร์หรือคำสอนแก่เราแค่นั้น
09:42
They tell us to have a bath.
244
582260
2000
เขาให้เราชำระร่างกาย
09:44
So in Orthodox Jewish communities, every Friday you go to a Mikveh.
245
584260
3000
ชาวยิวแบบดั้งเดิม ทุกวันศุกร์คุณจะไปทำพิธีมิกเวห์
09:47
You immerse yourself in the water,
246
587260
2000
คุณจุ่มตัวเองลงไปในน้ำ
09:49
and a physical action backs up a philosophical idea.
247
589260
3000
และการกระทำทางกาย จะสนับสนุนความคิดทางปรัชญา
09:52
We don't tend to do that.
248
592260
2000
พวกเราไม่มีแนวโน้มจะทำแบบนั้น
09:54
Our ideas are in one area and our behavior with our bodies is in another.
249
594260
3000
ความคิดของเราอยู่ในอีกส่วนหนึ่ง และพฤติกรรมทางร่างกายอยู่ในอีกส่วนหนึ่ง
09:57
Religions are fascinating in the way they try and combine the two.
250
597260
2000
ศาสนานั้นน่าสนใจในการพยายามรวมทั้งสองเข้าด้วยกัน
09:59
Let's look at art now.
251
599260
2000
ลองคิดไปถึงงานศิลปะ
10:01
Now art is something that in the secular world,
252
601260
3000
ปัจจุบันนี้ศิลปะเป็นสิ่งที่ในทางโลกนั้น
10:04
we think very highly of. We think art is really, really important.
253
604260
3000
คิดว่าสูงส่ง เราคิดว่างานศิลปะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม
10:07
A lot of our surplus wealth goes to museums, etc.
254
607260
3000
คนที่มั่งคั่งเงินเหลือก็จะไปพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น
10:10
We sometimes hear it said
255
610260
2000
บางครั้งเราก็ได้ยินว่า
10:12
that museums are our new cathedrals, or our new churches.
256
612260
3000
พิพิธภัณฑ์เปรียบเสมือนศาสนสถาน เปรียบเสมือนโบสถ์ในยุคใหม่
10:15
You've heard that saying.
257
615260
2000
คุณคงเคยได้ยินเช่นนั้น
10:17
Now I think that the potential is there,
258
617260
2000
ผมคิดว่าประเด็นมันอยู่ตรงนั้น
10:19
but we've completely let ourselves down.
259
619260
2000
แต่นั่นกลับทำให้เรารู้สึกแย่ลง
10:21
And the reason we've let ourselves down
260
621260
2000
และสาเหตุที่เรารู้สึกแย่ลง
10:23
is that we're not properly studying
261
623260
2000
เพราะเราไม่ได้ศึกษาว่า
10:25
how religions handle art.
262
625260
4000
ศาสนามีบทบาทต่อศิลปะอย่างไร
10:29
The two really bad ideas that are hovering in the modern world
263
629260
3000
ความคิดที่แย่มากสองประการ ที่เวียนวนอยู่ในสังคมสมัยใหม่
10:32
that inhibit our capacity to draw strength from art:
264
632260
4000
ที่ขัดขวางความสามารถของเรา ในการดึงจุดแข็งจากศิลปะคือ
10:36
The first idea is that art should be for art's sake --
265
636260
2000
ความคิดแรกที่ว่างานศิลปะนั้น
10:38
a ridiculous idea --
266
638260
2000
มีประโยชน์ทางศิลปะเท่านั้น -- แนวคิดนี้ไม่จริง --
10:40
an idea that art should live in a hermetic bubble
267
640260
2000
และอีกแนวคิดหนึ่งที่ว่า ศิลปะควรอยู่ในฟองอากาศที่ปิดทึบ
10:42
and should not try to do anything with this troubled world.
268
642260
3000
และไม่เกี่ยวข้องกับโลกอันแสนเลวร้ายนี้
10:45
I couldn't disagree more.
269
645260
2000
ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
10:47
The other thing that we believe is that art shouldn't explain itself,
270
647260
3000
และอีกอย่างหนี่งที่เราเชื่อก็คือ ศิลปะไม่ควรมีคำอธิบายด้วยตัวมันเอง
10:50
that artists shouldn't say what they're up to,
271
650260
2000
เราเชื่อว่า ศิลปินไม่ควรอธิบายในสิ่งที่เขาทำ
10:52
because if they said it, it might destroy the spell
272
652260
2000
เพราะว่าถ้าพูดออกมา มันจะทำลายเสน่ห์ของชิ้นงาน
10:54
and we might find it too easy.
273
654260
2000
และเราจะสามารถดื่มด่ำมันได้ง่ายเกินไป
10:56
That's why a very common feeling when you're in a museum --
274
656260
2000
นั่นเป็นความรู้สึกร่วมกัน เมื่อคุณอยู่ในพิพิธภัณฑ์
10:58
let's admit it --
275
658260
2000
-- ยอมรับเถอะครับ --
11:00
is, "I don't know what this is about."
276
660260
2000
ก็คือ "ผมไม่รู้เลยว่ามันต้องการสื่อถึงอะไร"
11:02
But if we're serious people, we don't admit to that.
277
662260
2000
แต่ถ้าเราเป็นคนจริงจัง เราคงไม่ยอมรับมัน
11:04
But that feeling of puzzlement is structural
278
664260
3000
แต่ความรู้สึกสงสัยกลายเป็นปัจจัยสำคัญ
11:07
to contemporary art.
279
667260
3000
สำหรับศิลปะร่วมสมัย
11:10
Now religions have a much saner attitude to art.
280
670260
2000
แต่ศาสนามีทัศนคติต่องานศิลปะ ที่เรียบง่ายกว่านั้น
11:12
They have no trouble telling us what art is about.
281
672260
2000
พวกเขาไม่มีปัญหาที่จะบอกเราว่า งานชิ้นนี้ต้องการสื่อถึงอะไร
11:14
Art is about two things in all the major faiths.
282
674260
2000
ในความเชื่อหลักๆ งานศิลปะต้องการสื่อถึงสองประการ
11:16
Firstly, it's trying to remind you
283
676260
2000
ประการแรก งานศิลปะต้องการให้คุณตระหนัก
11:18
of what there is to love.
284
678260
2000
ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณควรรัก
11:20
And secondly, it's trying to remind you
285
680260
2000
และประการที่สอง งานศิลปะต้องการให้คุณตระหนัก
11:22
of what there is to fear and to hate.
286
682260
2000
ว่าสิ่งใดที่คุณควรเกลียดและกลัว
11:24
And that's what art is.
287
684260
2000
และนี่คือสิ่งที่งานศิลปะต้องการสื่อถึง
11:26
Art is a visceral encounter with the most important ideas of your faith.
288
686260
3000
ศิลปะเป็นสื่อความคิดที่สำคัญของศาสนาผ่านการมองเห็น
11:29
So as you walk around a church,
289
689260
2000
เมื่อคุณเดินรอบโบสถ์
11:31
or a mosque or a cathedral,
290
691260
2000
หรือสุเหร่า หรือวัด
11:33
what you're trying to imbibe, what you're imbibing is,
291
693260
2000
สิ่งที่คุณจะได้ซึมซับ สิ่งที่คุณจะได้รับรู้
11:35
through your eyes, through your senses,
292
695260
2000
ผ่านสายตาคุณ ผ่านประสาทสัมผัสของคุณ
11:37
truths that have otherwise come to you through your mind.
293
697260
2000
คือสัจธรรมที่ปกติแล้วคุณรับรู้ผ่านจิตใจ
11:39
Essentially it's propaganda.
294
699260
2000
โดยพื้นฐานแล้ว มันก็คือโฆษณาชวนเชื่อ
11:41
Rembrandt is a propagandist
295
701260
2000
แรมบรังด์เป็นนักโฆษณาชวนเชื่อ
11:43
in the Christian view.
296
703260
2000
ในมุมมองของคริสเตียน
11:45
Now the word "propaganda" sets off alarm bells.
297
705260
2000
คำว่า "โฆษณาชวนเชื่อ" นั้นทำให้เราวิตก
11:47
We think of Hitler, we think of Stalin. Don't, necessarily.
298
707260
2000
เรามักคิดไปถึงฮิตเลอร์ คิดไปถึงสตาลิน ไม่จำเป็นเสมอไป
11:49
Propaganda is a manner of being didactic in honor of something.
299
709260
3000
โฆษณาชวนเชื่อ เป็นวิธีการสั่งสอนเพื่อชื่นชมบางสิ่ง
11:52
And if that thing is good, there's no problem with it at all.
300
712260
3000
และถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดี มันก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย
11:55
My view is that museums should take a leaf out of the book of religions.
301
715260
4000
ในความคิดเห็นของผม พิพิธภัณฑ์ควรจะเลียนแบบศาสนาในเรื่องนี้บ้าง
11:59
And they should make sure that when you walk into a museum --
302
719260
2000
และควรทำให้แน่ใจว่า เมื่อคุณก้าวเข้าไปในพิพิธภัณฑ์
12:01
if I was a museum curator,
303
721260
2000
-- สมมติว่าผมเป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์นะ --
12:03
I would make a room for love, a room for generosity.
304
723260
3000
ผมจะสร้างห้องแห่งความรัก ห้องแห่งความเมตตากรุณา
12:06
All works of art are talking to us about things.
305
726260
2000
งานศิลปะทั้งหมดจะสื่อถึงสิ่งเหล่านี้
12:08
And if we were able to arrange spaces
306
728260
2000
และถ้าเราสามารถจัดสถานที่
12:10
where we could come across works
307
730260
2000
ให้เราสามารถเดินผ่านงานต่างๆ
12:12
where we would be told, use these works of art
308
732260
2000
ให้เราสามารถบอก ให้เราสามารถใช้งานศิลปะต่างๆ
12:14
to cement these ideas in your mind,
309
734260
2000
เพื่อสร้างความคิดใหม่ๆ ในใจของเรา
12:16
we would get a lot more out of art.
310
736260
2000
เราจะเรียนรู้อะไรจากงานศิลปะได้อีกมาก
12:18
Art would pick up the duty that it used to have
311
738260
3000
งานศิลปะก็จะมีหน้าที่เฉกเช่นเดียวกับที่มันเคยเป็น
12:21
and that we've neglected because of certain mis-founded ideas.
312
741260
3000
ที่เราละเลยมันเพราะขาดความคิดเหล่านี้
12:24
Art should be one of the tools
313
744260
2000
งานศิลปะควรเป็นเครื่องมือหนึ่ง
12:26
by which we improve our society.
314
746260
2000
ที่ปรับปรุงสังคมให้ดีขึ้น
12:28
Art should be didactic.
315
748260
3000
งานศิลปะควรสอนเราได้
12:31
Let's think of something else.
316
751260
2000
ลองคิดไปถึงอีกด้านหนึ่ง
12:33
The people in the modern world, in the secular world,
317
753260
2000
คนในโลกสมัยใหม่ ในโลกปุถุชนธรรมดา
12:35
who are interested in matters of the spirit,
318
755260
2000
ที่ยังสนใจในเรื่องของจิตวิญญาณ
12:37
in matters of the mind,
319
757260
2000
ในเรื่องของจิตใจ
12:39
in higher soul-like concerns,
320
759260
3000
ในเรื่องที่อยู่เหนือตัวตนของเราขึ้นไป
12:42
tend to be isolated individuals.
321
762260
2000
มักมีแนวโน้มที่จะโดดเดี่ยวและเป็นปัจเจก
12:44
They're poets, they're philosophers, they're photographers, they're filmmakers.
322
764260
3000
เป็นนักกวี เป็นนักปรัชญา เป็นนักถ่ายรูป เป็นนักทำหนัง
12:47
And they tend to be on their own.
323
767260
2000
และมักมีแนวทางเป็นของตนเอง
12:49
They're our cottage industries. They are vulnerable, single people.
324
769260
3000
พวกเขาเหมือนทำอุตสาหกรรมครัวเรือน พวกเขาล้วนมีค่า แต่โดดเดี่ยว
12:52
And they get depressed and they get sad on their own.
325
772260
2000
พวกเขาเครียดและซึมเศร้าอยู่คนเดียว
12:54
And they don't really change much.
326
774260
2000
และยังไม่เปลี่ยนไปมาก
12:56
Now think about religions, think about organized religions.
327
776260
2000
ตอนนี้ลองคิดถึงเรื่องศาสนา คิดถึงองค์กรทางศาสนา
12:58
What do organized religions do?
328
778260
2000
อะไรที่องค์กรทางศาสนาทำ
13:00
They group together, they form institutions.
329
780260
3000
พวกเขารวมกลุ่มกัน จัดตั้งเป็นสถาบัน
13:03
And that has all sorts of advantages.
330
783260
2000
ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์ในหลายๆ ด้าน
13:05
First of all, scale, might.
331
785260
3000
ด้านแรกเลยคือ ขนาด อำนาจต่อรอง
13:08
The Catholic Church pulled in 97 billion dollars last year
332
788260
3000
โบสถ์คาทอลิกรวบรวมเงินได้ถึง 97 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
13:11
according to the Wall Street Journal.
333
791260
2000
ตามรายงานของเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล
13:13
These are massive machines.
334
793260
2000
มันเหมือนเครื่องจักรขนาดใหญ่
13:15
They're collaborative, they're branded, they're multinational,
335
795260
3000
พวกเขารวมตัวกัน สร้างแบรนด์ มีสาขาข้ามชาติ
13:18
and they're highly disciplined.
336
798260
2000
และมีระบบจัดการที่ยอดเยี่ยม
13:20
These are all very good qualities.
337
800260
2000
นี่คือจุดเด่นต่างๆ
13:22
We recognize them in relation to corporations.
338
802260
2000
เรารู้จักมันในรูปแบบของบริษัท
13:24
And corporations are very like religions in many ways,
339
804260
2000
และบริษัทก็มีลักษณะเหมือนกับศาสนาหลายอย่าง
13:26
except they're right down at the bottom of the pyramid of needs.
340
806260
2000
ยกเว้นแต่บริษัทมักอยู่ที่ ฐานพีระมิดของความต้องการ
13:28
They're selling us shoes and cars.
341
808260
2000
พวกเขาขายรองเท้าและรถยนต์
13:30
Whereas the people who are selling us the higher stuff --
342
810260
2000
ในขณะที่ผู้คนที่ขายสิ่งที่อยู่เหนือกว่านั้น
13:32
the therapists, the poets --
343
812260
2000
นักบำบัด นักกวี
13:34
are on their own and they have no power,
344
814260
2000
อยู่กับตัวเอง และไม่มีอำนาจ
13:36
they have no might.
345
816260
2000
พวกเขาไม่มีอำนาจการต่อรอง
13:38
So religions are the foremost example
346
818260
3000
ดังนั้น ศาสนาเป็นตัวอย่างที่สำคัญที่สุด
13:41
of an institution that is fighting for the things of the mind.
347
821260
3000
ของสถาบันที่เรียกร้องประเด็นต่างๆ ในระดับจิตใจ
13:44
Now we may not agree with what religions are trying to teach us,
348
824260
3000
แม้ว่าเราอาจไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ศาสนาสอนเรา
13:47
but we can admire the institutional way
349
827260
2000
แต่เราสามารถชื่นชมระบบองค์กร
13:49
in which they're doing it.
350
829260
2000
ที่พวกเขาทำได้
13:51
Books alone, books written by lone individuals,
351
831260
3000
หนังสืออย่างเดียว หนังสือที่เขียนโดยบุคคลธรรมดาเพียงอย่างเดียว
13:54
are not going to change anything.
352
834260
2000
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
13:56
We need to group together.
353
836260
2000
เราต้องรวมกลุ่มกัน
13:58
If you want to change the world, you have to group together, you have to be collaborative.
354
838260
3000
ถ้าเราต้องการเปลี่ยนโลก เราต้องรวมกลุ่มกัน เราต้องทำงานร่วมกัน
14:01
And that's what religions do.
355
841260
2000
และนั่นคือสิ่งที่ศาสนาทำ
14:03
They are multinational, as I say,
356
843260
2000
พวกเขามีสาขาข้ามชาติ ดังที่ผมกล่าว
14:05
they are branded, they have a clear identity,
357
845260
3000
พวกเขาสร้างแบรนด์ มีเอกลักษณ์อย่างชัดเจน
14:08
so they don't get lost in a busy world.
358
848260
2000
ดังนั้นพวกเขาจะไม่สูญหายไป ในโลกที่แสนวุ่นวายนี้
14:10
That's something we can learn from.
359
850260
2000
นี่คือสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้
14:12
I want to conclude.
360
852260
2000
ผมอยากจะสรุป
14:14
Really what I want to say
361
854260
2000
สิ่งที่ผมต้องการจะพูดจริงๆ
14:16
is for many of you who are operating in a range of different fields,
362
856260
3000
คือสำหรับคุณทุกคนที่ทำงานในสาขาที่แตกต่างกัน
14:19
there is something to learn from the example of religion --
363
859260
3000
มันมีอะไรบางอย่างที่สามารถเรียนรู้ได้จากศาสนา
14:22
even if you don't believe any of it.
364
862260
3000
แม้ว่าคุณจะไม่ได้นับถือศาสนาใดเลยก็ตาม
14:25
If you're involved in anything that's communal,
365
865260
2000
ถ้าคุณทำงานอะไรก็ตามที่เป็นสาธารณะ
14:27
that involves lots of people getting together,
366
867260
2000
ที่ต้องการความร่วมมือจากผู้คนหลายกลุ่ม
14:29
there are things for you in religion.
367
869260
2000
มักมีประเด็นเหล่านี้อยู่แล้วในศาสนา
14:31
If you're involved, say, in a travel industry in any way,
368
871260
3000
เช่นถ้าคุณทำงาน ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
14:34
look at pilgrimage.
369
874260
2000
ไม่ว่าทางไหนก็ตาม ลองมองไปที่นักจาริกแสวงบุญ
14:36
Look very closely at pilgrimage.
370
876260
2000
มองนักจาริกแสวงบุญลงไปให้ลึกลงไป
14:38
We haven't begun to scratch the surface
371
878260
2000
เราไม่จำเป็นต้องเริ่มคิดใหม่
14:40
of what travel could be
372
880260
2000
ว่าการท่องเที่ยวควรเป็นอย่างไร
14:42
because we haven't looked at what religions do with travel.
373
882260
2000
เพราะเราสามารถมองว่า ศาสนาจัดการในเรื่องการท่องเที่ยวอย่างไร
14:44
If you're in the art world,
374
884260
2000
ถ้าคุณอยู่ในโลกศิลปะ
14:46
look at the example of what religions are doing with art.
375
886260
2000
ลองมองว่าศาสนาจัดการในเรื่องศิลปะอย่างไร
14:48
And if you're an educator in any way,
376
888260
3000
และถ้าคุณเป็นผู้ให้การศึกษาไม่ว่าทางไหนก็ตาม
14:51
again, look at how religions are spreading ideas.
377
891260
3000
ลองมองว่าศาสนาจัดการในเรื่อง การแพร่ขยายความคิดอย่างไร
14:54
You may not agree with the ideas,
378
894260
2000
คุณอาจไม่เห็นด้วยกับความคิดทั้งหมด
14:56
but my goodness, they're highly effective mechanisms for doing so.
379
896260
3000
แต่อย่างน้อย มันก็เป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน
14:59
So really my concluding point
380
899260
2000
ดังนั้นโดยสรุปแล้ว
15:01
is you may not agree with religion,
381
901260
2000
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วยกับศาสนา
15:03
but at the end of the day,
382
903260
2000
ถึงอย่างนั้น
15:05
religions are so subtle, so complicated,
383
905260
2000
ศาสนาก็ยังเป็นระบบที่ปราณีต ซับซ้อน
15:07
so intelligent in many ways
384
907260
2000
และชาญฉลาด อยู่หลายประการ
15:09
that they're not fit to be abandoned to the religious alone;
385
909260
3000
จนไม่สามารถที่จะละเลยศาสนาโดยสิ้นเชิง
15:12
they're for all of us.
386
912260
2000
เพราะว่าศาสนาเกิดมาเพื่อเราทุกคน
15:14
Thank you very much.
387
914260
2000
ขอบคุณมากครับ
15:16
(Applause)
388
916260
17000
(เสียงปรบมือ)
15:33
Chris Anderson: Now this is actually a courageous talk,
389
933260
2000
คริส แอนเดอร์สัน: นี่เป็นการพูดที่กล้าหาญอย่างยิ่ง
15:35
because you're kind of setting up yourself in some ways
390
935260
2000
เพราะคุณจะต้องจัดวางตัวเองในรูปแบบที่
15:37
to be ridiculed in some quarters.
391
937260
2000
ถูกเย้ยหยันจากบางกลุ่ม
15:39
AB: You can get shot by both sides.
392
939260
2000
อาลัน เดอ บันทัน: คุณอาจถูกยิงจากทั้งสองฝ่าย
15:41
You can get shot by the hard-headed atheists,
393
941260
2000
คุณอาจถูกยิงจากกลุ่มอเทวนิยมที่ดื้อรั้น
15:43
and you can get shot by those who fully believe.
394
943260
3000
และคุณอาจถูกยิงจาก กลุ่มที่เชื่อศาสนาอย่างสุดโต่ง
15:46
CA: Incoming missiles from North Oxford at any moment.
395
946260
2000
คริส แอนเดอสัน: อาจเจอมิสไซส์จากนอร์ทอ๊อกซฟอร์ด ในเวลาใดก็ได้
15:48
AB: Indeed.
396
948260
2000
อาลัน เดอ บันทัน: จริงทีเดียว
15:50
CA: But you left out one aspect of religion
397
950260
3000
คริส แอนเดอสัน: แต่คุณยังเหลืออีกด้านหนึ่งต่อศาสนา
15:53
that a lot of people might say
398
953260
2000
ที่คนจำนวนมากอาจกล่าวว่า
15:55
your agenda could borrow from,
399
955260
2000
สามารถนำความคิดของคุณไปใช้ได้
15:57
which is this sense --
400
957260
2000
นั่นคือความรู้สึกแบบ ---
15:59
that's actually probably the most important thing to anyone who's religious --
401
959260
2000
ที่จริงค่อนข้างจะเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อใครก็ตามที่นับถือศาสนา --
16:01
of spiritual experience,
402
961260
2000
ถึงประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ
16:03
of some kind of connection
403
963260
2000
ถึงลักษณะการติดต่อ
16:05
with something that's bigger than you are.
404
965260
2000
กับบางสิ่งที่เหนือกว่าตัวตนของคุณ
16:07
Is there any room for that experience in Atheism 2.0?
405
967260
3000
จะมีเนื้อที่สำหรับประสบการณ์แบบนั้นใน อเทวนิยม 2.0 ไหมครับ?
16:10
AB: Absolutely. I, like many of you, meet people
406
970260
3000
อาลัน เดอ บันทัน: แน่นอน ผม คงเหมือนกับคนอื่นจำนวนมาก ที่เคยพบ
16:13
who say things like, "But isn't there something bigger than us,
407
973260
3000
กับคนที่พูดทำนองว่า "แต่มันมีสิ่งที่อยู่เหนือกว่าเรา
16:16
something else?"
408
976260
2000
ยังมีสิ่งอื่นอีก?"
16:18
And I say, "Of course." And they say, "So aren't you sort of religious?"
409
978260
3000
และผมก็พูดว่า "แน่นอน" และเขาก็พูดว่า "แล้วเช่นนั้นคุณนับถือศาสนาหรือเปล่า?"
16:21
And I go, "No." Why does that sense of mystery,
410
981260
3000
และผมก็พูดว่า "ไม่" ทำไมความรู้สึกถึงความลึกลับ
16:24
that sense of the dizzying scale of the universe,
411
984260
3000
ความรู้สึกถึงขนาดอันน่าเวียนหัวของจักรวาล
16:27
need to be accompanied by a mystical feeling?
412
987260
3000
จึงต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งลึกลับด้วย?
16:30
Science and just observation
413
990260
2000
วิทยาศาสตร์ หรือการสังเกตเฉยๆ
16:32
gives us that feeling without it,
414
992260
2000
ก็ทำให้เรารู้สึกโดยปราศจากมันได้
16:34
so I don't feel the need.
415
994260
2000
ดังนั้นผมจึงไม่รู้สึกต้องการแบบนั้น
16:36
The universe is large and we are tiny,
416
996260
2000
จักรวาลนั้นยิ่งใหญ่และเราก็ตัวเล็กนิดเดียวได้
16:38
without the need for further religious superstructure.
417
998260
4000
โดยไม่จำเป็นต้องใช้ โครงสร้างพิเศษทางศาสนาเพิ่มเติม
16:42
So one can have so-called spiritual moments
418
1002260
2000
ดังนั้นแต่ละคนจึงสามารถมีสิ่งที่เรียกว่า ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณได้
16:44
without belief in the spirit.
419
1004260
2000
โดยไม่ต้องเชื่อในจิตวิญญาณเหล่านั้น
16:46
CA: Actually, let me just ask a question.
420
1006260
2000
คริส แอนเดอสัน: จริงทีเดียว ผมขอถามคำถามหนึ่ง
16:48
How many people here would say
421
1008260
2000
ใครในห้องนี้บ้างที่บอกว่า
16:50
that religion is important to them?
422
1010260
2000
ศาสนามีความสำคัญต่อเขา?
16:54
Is there an equivalent process
423
1014260
3000
มันจะมีวิธีการในลักษณะเดียวกันหรือไม่
16:57
by which there's a sort of bridge
424
1017260
2000
ที่จะเป็นสะพาน
16:59
between what you're talking about and what you would say to them?
425
1019260
3000
เชื่อมระหว่างสิ่งที่คุณพูดไปเมื่อสักครู่นี้ กับสิ่งที่คุณจะบอกพวกเขา
17:02
AB: I would say that there are many, many gaps in secular life
426
1022260
2000
อาลัน เดอ บันทัน: ผมจะพูดว่ามันมีช่องว่างจำนวนมาก ในชีวิตปุถุชนคนธรรมดา
17:04
and these can be plugged.
427
1024260
2000
และเราก็สามารถอยู่ร่วมกันมันได้
17:06
It's not as though, as I try to suggest,
428
1026260
2000
มันไม่ได้ราวกับว่า อย่างที่ผมได้พูดไป
17:08
it's not as though either you have religion
429
1028260
2000
มันไม่ได้ราวกับว่าคุณจะต้องนับถือศาสนา
17:10
and then you have to accept all sorts of things,
430
1030260
2000
จึงจะอยู่กับสิ่งต่างๆ เหล่านั้นได้
17:12
or you don't have religion
431
1032260
2000
หรือคุณจะไม่นับถือศาสนา
17:14
and then you're cut off from all these very good things.
432
1034260
3000
และตัดขาดจากสิ่งดีๆ เหล่านั้น
17:17
It's so sad that we constantly say,
433
1037260
3000
มันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีที่เรามักพูดว่า
17:20
"I don't believe so I can't have community,
434
1040260
2000
"ฉันไม่เชื่อ ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถอยู่ร่วมกลุ่มได้
17:22
so I'm cut off from morality,
435
1042260
2000
ดังนั้นฉันจึงตัดขาดจากหลักศีลธรรม
17:24
so I can't go on a pilgrimage."
436
1044260
2000
ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถไปจาริกแสวงบุญได้"
17:26
One wants to say, "Nonsense. Why not?"
437
1046260
2000
ต้องมีคนหนึ่งบอกว่า "ไม่จริง ทำไมจะไม่ได้ล่ะ"
17:28
And that's really the spirit of my talk.
438
1048260
2000
และนั่นคือจิตวิญญาณอันแท้จริง ในการพูดของผม
17:30
There's so much we can absorb.
439
1050260
2000
มันมีเรื่องราวมากมายที่เราสามารถซึมซับ
17:32
Atheism shouldn't cut itself off from the rich sources of religion.
440
1052260
3000
กลุ่มอเทวนิยมไม่ควรตัดขาดตนเองออกจาก แหล่งความรู้อันมั่งคั่งของศาสนา
17:35
CA: It seems to me that there's plenty of people in the TED community
441
1055260
3000
คริส แอนเดอสัน: ผมเห็นว่ามีคนมากมายในผู้ชม TED ตอนนี้
17:38
who are atheists.
442
1058260
2000
ที่เป็นอเทวนิยม
17:40
But probably most people in the community
443
1060260
2000
แต่อาจจะเป็นคนส่วนมากในที่นี้
17:42
certainly don't think that religion is going away any time soon
444
1062260
3000
ที่คิดว่าศาสนาจะไม่สูญหายไป ในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน
17:45
and want to find the language
445
1065260
2000
และต้องการหาภาษา
17:47
to have a constructive dialogue
446
1067260
3000
เพื่อสร้างบทสนทนาที่ส่งเสริม
17:50
and to feel like we can actually talk to each other
447
1070260
2000
และรู้สึกเหมือนเราสามารถ พูดคุยกันได้อย่างจริงจัง
17:52
and at least share some things in common.
448
1072260
2000
และแบ่งปันบางสิ่งบางอย่าง ที่เหมือนกันได้เป็นอย่างน้อย
17:54
Are we foolish to be optimistic
449
1074260
2000
เราจะเขลาเกินไปหรือไม่ที่มองโลกในแง่ดี
17:56
about the possibility of a world
450
1076260
2000
ถึงโอกาสที่โลกเรา
17:58
where, instead of religion being the great rallying cry
451
1078260
3000
ซึ่งแทนที่ศาสนาจะเป็นแค่เงื่อนไข
18:01
of divide and war,
452
1081260
2000
แห่งความแตกแยกและสงคราม
18:03
that there could be bridging?
453
1083260
2000
จะกลายเป็นสะพานเชื่อมกันได้หรือไม่
18:05
AB: No, we need to be polite about differences.
454
1085260
3000
อาลัน เดอ บันทัน: ไม่ เราต้องมีมารยาทในเรื่องความแตกต่าง
18:08
Politeness is a much-overlooked virtue.
455
1088260
2000
มารยาทเป็นคุณธรรมเบื้องต้น
18:10
It's seen as hypocrisy.
456
1090260
2000
มันดูเหมือนเสแสร้ง
18:12
But we need to get to a stage when you're an atheist
457
1092260
2000
แต่เมื่อเราก็ต้องเผชิญหน้า เมื่อเราเป็นอเทวนิยม
18:14
and someone says, "Well you know, I did pray the other day,"
458
1094260
3000
และใครบางคนพูดว่า "คุณก็รู้ ผมสวดภาวนา"
18:17
you politely ignore it.
459
1097260
2000
แล้วคุณนั่งเงียบๆ อย่างมีมารยาท
18:19
You move on.
460
1099260
2000
นั่นก็ทำดีแล้ว
18:21
Because you've agreed on 90 percent of things,
461
1101260
3000
เพราะเราเห็นด้วยกับ 90 เปอร์เซนต์ของสิ่งที่เขาทำ
18:24
because you have a shared view on so many things,
462
1104260
2000
เพราะเรามีมุมมองร่วมกันหลายอย่าง
18:26
and you politely differ.
463
1106260
2000
และคุณก็แตกต่างกันอย่างมีมารยาท
18:28
And I think that's what the religious wars of late have ignored.
464
1108260
4000
และผมคิดว่า นี่เป็นสิ่งที่สงครามศาสนาที่ผ่านมานั้นละเลย
18:32
They've ignored the possibility of harmonious disagreement.
465
1112260
3000
พวกเขาละเลย ความเป็นไปได้ที่จะแตกต่างอย่างกลมกลืนกัน
18:36
CA: And finally, does this new thing that you're proposing
466
1116260
2000
คริส แอนเดอสัน: และสุดท้ายนี้ สิ่งใหม่ที่คุณนำเสนอ
18:38
that's not a religion but something else,
467
1118260
2000
ซึ่งไม่ใช่ศาสนา แต่เป็นสิ่งอื่น
18:40
does it need a leader,
468
1120260
2000
ต้องมีผู้นำหรือไม่?
18:42
and are you volunteering to be the pope?
469
1122260
2000
และคุณจะอาสาเป็นโป๊ปให้หรือไม่?
18:44
(Laughter)
470
1124260
2000
(เสียงหัวเราะ)
18:46
AB: Well, one thing that we're all very suspicious of
471
1126260
2000
อาลัน เดอ บันทัน: มีเรื่องหนึ่งที่เราทุกคนมักตั้งคำถามอย่างยิ่ง
18:48
is individual leaders.
472
1128260
2000
คือผู้นำที่เป็นบุคคล
18:50
It doesn't need it.
473
1130260
2000
เราไม่ได้ต้องการมัน
18:52
What I've tried to lay out is a framework
474
1132260
2000
สิ่งที่ผมพยายามคือการวางกรอบไว้
18:54
and I'm hoping that people can just fill it in.
475
1134260
3000
และผมหวังว่าทุกคนจะสามารถอยู่กับมันได้
18:57
I've sketched a sort of broad framework.
476
1137260
2000
ผมเพียงแค่ร่างกรอบกว้างๆ เอาไว้
18:59
But wherever you are, as I say, if you're in the travel industry, do that travel bit.
477
1139260
3000
แล้วแต่คุณอยู่ตรงไหน ถ้าคุณอยู่ในภาคการท่องเที่ยว ก็นำไปต่อยอดในเรื่องท่องเที่ยว
19:02
If you're in the communal industry, look at religion and do the communal bit.
478
1142260
3000
ถ้าคุณอยู่ในภาคบริการสาธารณะ ก็ลองมองศาสนาและนำไปต่อยอดในภาคบริการสาธารณะ
19:05
So it's a wiki project.
479
1145260
2000
ดังนั้น มันจึงเป็นโครงการแบบวิกิ
19:07
(Laughter)
480
1147260
2000
(เสียงหัวเราะ)
19:09
CA: Alain, thank you for sparking many conversations later.
481
1149260
3000
CA: อาลัน ขอบคุณที่จุดประกายสู่บทสนทนาอื่นๆ ต่อไป
19:12
(Applause)
482
1152260
3000
(เสียงปรบมือ)

Original video on YouTube.com
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7