The most Martian place on Earth | Armando Azua-Bustos

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma

This is a picture of a sunset on Mars

นี่คือภาพพระอาทิตย์ตกดินบนดาวอังคาร

taken by NASA's Curiosity rover in 2013.

ที่ถูกบันทึกไว้โดย ยานคิวริโอซิตี โรเวอร์ ของนาซ่า ในปี ค.ศ. 2013

Mars is a very cold planet,

ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่หนาวเย็นมาก

flooded with high levels of UV radiation

มันเต็มไปด้วยระดับการแผ่รังสียูวีที่สูง

and extremely dry.

และแห้งมาก ๆ

In fact, Mars is considered to be too dry for life as we know it.

อันที่จริง ดาวอังคารได้รับการพิจารณาว่า แห้งเกินไปต่อการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต

I'm an astrobiologist.

ผมเป็นนักชีววิทยาอวกาศ

I try to understand the origin of life on Earth

ผมพยายามที่จะทำความเข้าใจ ถึงจุดกำเนิดของชีวิตบนโลก

and the possibilities of finding life

และความเป็นไปได้ที่จะค้นหาสิ่งมีชีวิต

elsewhere in the universe.

ในที่อื่น ๆ ในจักรวาล

People sometimes ask me,

บางครั้งมีคนก็ถามผมว่า

how can you be an astrobiologist

คุณเป็นนักชีววิทยาอวกาศได้อยางไร

if you don't have your own spaceship?

ถ้าคุณไม่ได้มียานอวกาศเป็นของตัวเอง

Well, what I do is that I study life

ครับ สิ่งที่ผมทำก็คือ ผมศึกษาชีวิต

in those environments on Earth

ในสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ บนโลก

that most closely resemble other interesting places in the universe.

ที่มีความคล้ายคลึงมาก ๆ กับสถานที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจในจักรวาล

All life on Earth requires water,

สิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกต้องการน้ำ

so in my case I focus on the intimate relationship

ฉะนั้น ในกรณีของผม ผมมุ่งความสนใจ ไปยังความสัมพันธ์อันใกล้ชิด

between water and life

ระหว่างน้ำกับชีวิต

in order to understand

เพื่อที่จะทำความเข้าใจ

if we could find life in a planet as dry as Mars.

ว่าถ้าเราจะสามารถพบชีวิตบนดาวเคราะห์ ที่แห้งอย่างดาวอังคารได้หรือไม่

But since I do not have the 2.5 billion dollars

แต่ในเมื่อผมไม่มีเงิน 250 ล้านดอลลาร์

to send my own robot to Mars,

ที่จะส่งหุ่นยนต์ของผมไปยังดาวอังคาร

I study the most Martian place on Earth,

ผมศึกษาบริเวณ ที่เหมือนกับดาวอังคารมากที่สุดบนโลก

the Atacama Desert.

นั่นคือ ทะเลทรายอะทาคามา

Located in northern Chile,

ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศชิลี

it is the oldest and driest desert on Earth.

มันเป็นทะเลทรายที่เก่าแก่ที่สุด และแห้งที่สุดบนโลก

To give you an idea of how dry it is,

เพื่อที่จะให้คุณนึกออกว่ามันแห้งขนาดไหน

consider here in Vancouver it rains over 1,000 millimeters of rain every year.

ลองนึกว่า ในแวนคูเวอร์ มีฝนตกกว่า 1,000 มิลลิเมตรต่อปี

In the Atacama, there are places with no reported rains

ในอะทาคามา มันมีที่ที่ไม่มีรายงานว่ามีฝนตกเลย

in the last 400 years.

ในช่วง 400 ปีที่ผ่านมา

How do I know this?

ผมทราบได้อย่างไรหรือครับ

Well, because I was born and raised in the Atacama --

ครับ เพราะว่าผมเกิดและเติบโตในอะทาคามา

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

So I had a unique advantage

ผมมีข้อได้เปรียบ

when I started studying this desert.

เมื่อผมเริ่มศึกษาทะเลทรายนี้

So let me tell you guys a few fantastic examples

ให้ผมได้ยกตัวอย่างอะไรสักนิด ให้พวกพวกคุณฟังหน่อยนะ

he has found

ว่าผมได้พบอะไร

on how life has adapted to live with almost no water at all.

เกี่ยวกับชีวิตที่ได้มีการปรับตัว เพื่อที่จะใช้ชีวิตโดยที่แทบจะปราศจากน้ำ

One of my first findings was in the entrance of a cave

หนึ่งในสิ่งแรก ๆ ที่ผมค้นพบก็คือทางเข้าถ้ำ

facing the Pacific Ocean.

ที่หันหน้าให้กับมหาสมุทรเปซิฟิก

In this place, we reported a new type of microalgae

ในสถานที่นี้ เราได้รับการรายงาน เกี่ยวกับสาหร่ายชนิดใหม่

that grew only on top of the spiderwebs that covered the cave entrance.

ที่เติบโตบนใยแมงมุม ที่ปกคลุมทางเข้าของถ้ำเท่านั้น

Have you ever seen a spiderweb early in the morning?

คุณเคยเห็นใยแมงมุมในตอนเช้า ๆ ไหมครับ

It's covered with dew,

มันถูกปกคลุมไปด้วยน้ำค้าง

so this microalgae learned that in order to carry photosynthesis

ฉะนั้น สาหร่ายขนาดเล็กนี้เรียนรู้ว่า เพื่อที่จะทำการสังเคราะห์แสง

in the coast of the driest desert on Earth,

บนชายฝั่งของทะเลทราย ที่แห้งที่สุดในโลก

they could use the spiderwebs.

พวกมันจะต้องใช้ใยแมงมุม

So here they may access the water from the fogs

ฉะนั้น ที่นี่พวกมันอาจจะเข้าถึงแหล่งน้ำ ได้จากหมอก

that regularly cover these areas in the morning.

ที่มักจะปกคลุมบริเวณนี้ในตอนเช้า

In another cave, we found a different type of microalgae.

ในถ้ำอีกแห่งหนึ่ง พวกเราพบกับ สาหร่ายขนาดเล็กอีกชนิด

This one is able to use ocean mist as a source of water,

สาหร่ายนี้สามารถที่จะใช้ไอระเหยจากมหาสมุทร เป็นแหล่งน้ำได้

and strikingly lives in the very bottom of a cave,

และสามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่ ที่บริเวณปลายถ้ำได้อย่างน่าทึ่ง

so it has adapted to live with less than 0.1 percent

ฉะนั้นมันได้ปรับตัวที่จะใช้ชีวิต

of the amount of light that regular plants need.

ด้วยปริมาณแสงน้อยกว่า ที่พืชทั่วไปต้องการ 0.1 เปอร์เซ็นต์

These type of findings suggest to me that on Mars,

การค้นพบในลักษณะนี้ บอกกับผมว่าบนดาวอังคาร

we may find even photosynthetic life inside caves.

เราอาจพบได้กับสิ่งมีชีวิตในถ้ำ ที่สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้

And by the way, that's me.

อ้อ แล้วนั่นผมเองครับ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Now, for almost 15 years this region of Yungay, discovered by NASA,

ทีนี้ เป็นเวลาเกือบ 15 ปี ที่บริเวณ ยุนเกย์ ที่ถูกค้นพบโดยนาซ่า

was thought to be the driest place of this desert,

ถูกเข้าใจว่าเป็นสถานที่ ที่แห้งที่สุดของทะเลทรายแห่งนี้

but I knew that it was not.

แต่ผมรู้ว่านั่นไม่จริง

How? You already know the answer.

ผมรู้ได้อย่างไรน่ะหรือครับ คุณก็รู้คำตอบอยู่แล้ว

Because I was born and raised in this desert.

เพราะว่าผมเกิด และเติบโตในทะเลทรายแห่งนี้น่ะสิ

So I remembered that I usually see fogs in Yungay,

ฉะนั้น ผมจำได้ว่า ผมมักเห็นหมอกในยุนเกย์

so after setting sensors in a number of places,

ฉะนั้น หลังจากที่ติดตั้งเครื่องตรวจจับ ในหลาย ๆ สถานที่

where I remember never seeing fogs or clouds,

ที่ผมจำได้ว่าไม่เคยเห็นหมอกหรือเมฆเลย

I reported four other sites much drier than Yungay,

ผมรายงานพื้นที่อีกสี่แห่ง ที่แห้งกว่ายุนเกย์

with this one, María Elena South,

ที่แห่งนี้คือ มาเรีย เอลนา ทางตอนใต้

being the truly driest place on Earth,

เป็นที่ที่แห้งที่สุดบนโลก

as dry as Mars,

แห้งพอ ๆ กับดาวอังคาร

and amazingly, just a 15-minute ride

และน่าทึ่งที่ว่า มันห่างออกไปเพียง 15 นาที

from the small mining town where I was born.

จากเมืองเหมืองแร่ขนาดเล็ก ที่เป็นบ้านเกิดของผม

Now, in this search, we were trying to actually find the dry limit

ทีนี้ ในการค้นหานี้ เราพยายาม ที่จะหาขอบเขตของความแห้ง

for life on Earth,

ที่ชีวิตบนโลกจะทนได้

a place so dry that nothing was able to survive in it.

ที่ซึ่งแห้งมากเสียจนไม่มีอะไร จะสามารถมีชีวิตรอดได้

But even here, well hidden underground,

แต่แม้แต่ที่นี่ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน

we found a number of different microorganisms,

เราพบกับจุลชีพต่าง ๆ มากมาย

which suggested to me that similarly dry places, like Mars,

ซึ่งมันบอกกับผมว่าสถานที่แห้ง ๆ คล้าย ๆ กัน อย่างเช่นดาวอังคาร

may be inhabited.

อาจเป็นแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิต

We even have some preliminary evidences

เรามีหลักฐานคร่าว ๆ ด้วยซ้ำว่า

that these microorganisms may still be active

จุลชีพเหล่านี้อาจยังสามารถใช้ชีวิต

in the desiccated state,

ในสภาวะที่แห้งสนิทได้

like walking mummies all around us,

เฉกเช่น มัมมี่เดินได้ที่อยู่ท่ามกลางพวกเรา

and that they may be using UV radiation as a source of energy.

และพวกมันอาจใช้ การแผ่รังสียูวีเป็นแหล่งพลังงาน

If confirmed, this would have a huge impact on our definition of life,

ถ้าสิ่งนี้ได้รับการยืนยัน นี่อาจส่งผลอย่างมากต่อนิยามของสิ่งมีชีวิต

on how we look for life elsewhere in the universe.

ต่อมุมมองที่เรามีต่อสิ่งมีชีวิต ในสถานที่อื่น ๆ ในจักรวาล

Due to its clear skies, by 2020,

ด้วยท้องฟ้าที่ชัดเจน ในปี ค.ศ. 2020

60 percent of the biggest telescopes on Earth

60 เปอร์เซ็นต์ของกล้องโทรทรรศน์ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนโลก

will be located in the Atacama,

จะถูกติดตั้งที่อะทาคามา

and while everyone else will be looking among the stars

และในขณะที่คนอื่น ๆ จะมองออกไปท่ามกลางดวงดาว

to answer the question, "Are we alone?"

เพื่อหาคำตอบว่า "พวกเรานั้นโดดเดี่ยวหรือไม่"

I will be looking down to the ground

ผมจะมองลงมายังพื้นดิน

searching for this same answer

เพื่อมองหาคำตอบเดียวกัน

in my own backyard.

ในสวนหลังบ้านของผม

Thank you.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)