What you don't know about marriage | Jenna McCarthy

Translator: Chonnipa Kanchaikham Reviewer: Wisuwat Songnuan

Every year in the United States alone,

ทุกๆปี แค่เฉพาะในสหรัฐอเมริกา

2,077,000 couples make a legal and spiritual decision

คู่รัก 2,077,000 คู่

ได้ตัดสินใจ ทางกฎหมายและทางใจ

ที่จะใช้เวลาที่เหลือในชีวิต ร่วมกัน

to spend the rest of their lives together --

(เสียงหัวเราะ)

(Laughter)

And not to have sex with anyone else.

และจะไม่มีเซ็กซ์กับคนอื่นอีก

ตลอดไป

Ever.

He buys a ring, she buys a dress.

ผู้ชายซื้อแหวน ส่วนผู้หญิงก็ซื้อชุดแต่งงาน

พวกเขาออกไปชอปปิ้ง

They go shopping for all sorts of things.

ซื้อหาทุกๆอย่าง

She takes him to Arthur Murray for ballroom-dancing lessons.

เธอพาเขาไปที่อาร์เธอร์เมอร์เรย์

เข้าคลาสเต้นลีลาศ

And the big day comes.

และในที่สุด วันนั้นก็มาถึง

And they'll stand before God and family

วันที่พวกเขาได้ยืนต่อหน้าพระเจ้าและต่อหน้าครอบครัว

and some guy her dad once did business with,

แล้วก็คนที่เคยเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับพ่อของฝ่ายหญิง

and they'll vow that nothing --

พวกเขาสาบานว่า จะไม่มี

ไม่มี ความยากจนข้นแค้น

not abject poverty,

ไม่มี โรคร้ายใดๆ

not life-threatening illness,

not complete and utter misery --

หรือเรื่องทุกข์ใจหนักหนาที่สุดเรื่องไหน

will ever put the tiniest damper on their eternal love and devotion.

จะทำให้พวกเขาท้อแท้และสิ้นหวัง

ในความรักและภักดี ของกันและกันได้เลย

(เสียงหัวเราะ)

(Laughter)

ดูพวกบ้าที่มองโลกในแง่ดีพวกนี้สิ

These optimistic young bastards promise to honor and cherish each other

พวกเขาสัญญาที่จะรักและดูแลซึ่งกันและกัน

ผ่านความผันผวนเวลาใกล้หมดประจำเดือน

through hot flashes and midlife crises

รักกัน แม้จะเข้าสู่ช่วงเวลาแย่ๆในวัยกลางคน

and a cumulative 50-pound weight gain,

รักกัน แม้น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นมาอีก 50 ปอนด์

until that far-off day, when one of them is finally able to rest in peace.

รักกัน จนถึงวันนั้น

วันที่ใครคนใดคนหนึ่ง

ได้นอนหลับอย่างสบาย

(Laughter)

You know, because they can't hear the snoring anymore.

เพราะว่า เธอจะไม่ต้องฟังเสียงกรนอีกต่อไป ยังไงล่ะ

And then they'll get stupid drunk

หลังจากนั้น ก็ได้เวลาเมาจนหัวราน้ำ

and smash cake in each other's faces and do the Macarena.

เล่นละเลงเค้กบนหน้าอีกฝ่าย พร้อมทำท่า "มาการีน่า"

And we'll be there,

และเราก็ไปรวมกันอยู่ที่นั่น

showering them with towels and toasters and drinking their free booze

เรามอบผ้าขนหนูและเครื่องปิ้งขนมปัง เป็นของขวัญแก่บ่าวสาว

ร่วมกันดื่มเหล้าฟรีๆ

and throwing birdseed at them every single time ...

และโปรยเมล็ดพืชแก่พวกเขา

งานแต่งงานก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง

even though we know, statistically,

ถึงแม้ พวกเราจะทราบว่า

ในทางสถิติแล้ว

half of them will be divorced within a decade.

ครึ่งนึงของคู่แต่งงาน จะจบชีวิตคู่ด้วยการหย่าร้างภายใน10ปี

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Of course, the other half won't, right?

จริงอยู่ ที่คู่แต่งงานอีกครึ่งนึงที่เหลือ ไม่ได้หย่า ใช่มั๊ยคะ

พวกเขาก็แค่ค่อยๆหลงลืมวันครบรอบแต่งงาน

They'll keep forgetting anniversaries

ทะเลาะกัน ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนช่วงวันหยุด

and arguing about where to spend holidays

and debating --

หรือไม่ก็เถียงกันว่า

(Laughter)

Which way the toilet paper should come off of the roll.

จะใส่กระดาษทิชชู่

ให้หันไปทางไหนดี

แต่ก็ยังมีบางคู่

And some of them will even still be enjoying each other's company

ที่ยังคงมีความสุขกับกับการอยู่ด้วยกันจนแก่

when neither of them can chew solid food anymore.

แก่จนขนาดที่ ไม่มีฟันจะเคี้ยวอาหารได้อีก

นี่แหละค่ะ ที่นักวิจัยอยากรู้ว่าทำไม

And researchers want to know why.

I mean, look -- it doesn't take a double-blind, placebo-controlled study

ก็ คือว่า มันไม่เห็นต้องทำการทดลองแบบมีตัวควบคุมอะไรซับซ้อน

เพื่อที่จะหาคำตอบว่า อะไรที่ทำให้การแต่งงานไปไม่รอด

to figure out what makes a marriage not work:

disrespect, boredom,

การไม่เคารพซึ่งการและกัน ความเบื่อ

ใช้เวลาเล่นเฟสบุ๊คเยอะเกินไป

too much time on Facebook,

having sex with other people.

หรือว่าไปมีเซ็กซ์กับคนอื่น

But you can have the exact opposite of all of those things --

แต่คุณก็สามารถปฏิบัติตรงกันข้ามกับสิ่งที่กล่าวมาได้

respect, excitement,

เคารพกันและกัน ใช้ชีวิตให้น่าตื่นเต้น

a broken Internet connection,

ตัดขาดตัวเองจากโลกอินเตอร์เน็ต

mind-numbing monogamy --

รักเดียวใจเดียว

and the thing still can go to hell in a handbasket.

แต่ชีวิตรักก็ยังตกนรกได้อยู่ดี

So, what's going on when it doesn't?

แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับคู่ที่ไม่เป็นอย่างนั้นล่ะ

คู่รักที่อยู่กันได้

What do the folks who make it all the way to side-by-side burial plots

จนกระทั่งฝังร่างไว้ข้างๆกัน

พวกเค้าทำยังไงกันเหรอ?

have in common?

พวกเขาอะไรถูกต้อง

What are they doing right?

What can we learn from them?

เราเรียนรู้อะไรจากพวกเขาได้บ้าง

And if you're still happily sleeping solo,

แล้วถ้าคุณนอนหลับอย่างมีความสุขคนเดึยวอยู่แล้ว

why should you stop what you're doing and make it your life's work

จะหยุดสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่

แล้วมุ่งมั่นทุ่มเท

to find that one special person

ในการตามหาใครสักคนที่แสนพิเศษ

that you can annoy for the rest of your life?

ไว้ทำอะไรให้คุณหงุดหงิดรำคาญไปตลอดชีวิตเพื่ออะไร

Well, researchers spend billions of your tax dollars

คืออย่างนี้นะคะ นักวิจัยใช้เงินภาษีของพวกคุณกว่าพันล้านดอลลาร์

เพื่อพยายามหาคำตอบในเรื่องนี้

trying to figure that out.

They stalk blissful couples

พวกเขาสะกดรอยตามพฤติกรรมของคู่รักที่มีความสุขสุดๆ

and study their every move and mannerism.

ศึกษาทุกการเคลื่อนไหว ทุกกริยาท่าทาง

และพยายามระบุให้ชัดเจน ว่าอะไร

And they try to pinpoint what it is that sets them apart

ที่ทำให้พวกเขาแตกต่าง

from their miserable neighbors and friends.

จากเพื่อนบ้านและเพื่อนๆที่น่าสงสาร

และก็ได้คำตอบแล้วค่ะ

And it turns out, the success stories share a few similarities,

เรื่องราวความรักที่ประสบความสำเร็จทั้งหลาย

มี 2-3 ปัจจัยที่คล้ายกัน

ที่มากกว่าการที่พวกเค้าไม่เคยมีเซ็กซ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่สามีภรรยา

beyond that they don't have sex with other people.

อย่างเช่น ในชีวิตแต่งงานที่มีความสุขที่สุด

For instance, in the happiest marriages,

ภรรยาจะผอมเพรียวและดูดีกว่าฝ่ายสามี

the wife is thinner and better-looking

than the husband.

(เสียงหัวเราะ)

(Laughter)

Obvious. Right?

ใช่มั๊ยล่ะคะ เห็นได้ชัดเลย

It's obvious that this leads to marital bliss,

นี่แหละ เห็นได้ชัด ว่าสิ่งนี้แหละที่นำพวกเขาไปสู่ความสุข

เพราะว่า ผู้หญิง พวกเราใส่ใจตัวเอง

because women -- we care a great deal about being thin and good-looking,

พยายามรักษาหุ่นและทำให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ

whereas men mostly care about sex,

ในขณะที่ผู้ชายสนใจแต่เรื่องบนเตียง

โดยเฉพาะกับผู้หญิงในอุดมคติ

ideally, with women who are thinner and better looking than they are.

ที่แสนจะผอมเพรียวและดูดีกว่าพวกเขา

งานวิจัยนี้ทำให้เรารู้ว่า

The beauty of this research, though,

เราไม่จำเป็นต้องเชื่อตามคำแนะนำ

is that no one is suggesting that women have to be thin to be happy.

ที่ว่าผู้หญิงจำเป็นต้องผอมเท่านั้น ถึงจะมีความสุข

ก็แค่ต้องผอมกว่าคู่รักของเราก็เท่านั้นพอ

We just have to be thinner than our partners.

So instead of all that laborious dieting and exercising,

ทีนี้แทนที่เราจะต้องพยายามอย่างสุดๆ

เพื่อควบคุมอาหารและออกกำลังกาย

เราก็แค่รอให้พวกผู้ชายค่อยๆอ้วนขึ้น

we just need to wait for them to get fat --

(Laughter)

ง่ายๆเลย เราก็อาจจะอบพายซักนิดหน่อย

Maybe bake a few pies.

This is good information to have, and it's not that complicated.

เป็นข้อมูลที่ง่ายใช่มั๊ยล่ะ

และมันก็ไม่ยุ่งยากเลยด้วย

(Laughter)

Research also suggests

งานวิจัยยังบอกเราอีกว่า

that the happiest couples are the ones that focus on the positives.

คู่รักที่มีความสุขที่สุด

ก็คือคู่ที่เน้นการใช้ชีวิตแบบคิดบวก

ตัวอย่างเช่น ภรรยาที่มีความสุข

For example: the happy wife.

แทนที่จะบอกสามีว่า เขากำลังอ้วนลงพุงขึ้น

Instead of pointing out her husband's growing gut

or suggesting he go for a run,

หรือแนะนำให้เขาออกไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง

เธอก็เลือกที่จะพูดว่า

she might say,

"Wow, honey, thank you for going out of your way

โอ้โห ที่รัก ขอบคุณมากที่คุณเลือกไว้หุ่นแบบนี้

to make me relatively thinner."

เพื่อทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันผอมกว่าคุณเยอะเลย

(Laughter)

These are couples who can find good in any situation.

นี่แหละค่ะ คู่รักที่มองเห็นเรื่องดีๆได้ในทุกสถานการณ์

เยี่ยมไปเลย ถึงแม้ว่า

"Yeah, it was devastating when we lost everything in that fire.

เราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปในกองเพลิง

แต่ก็ยังโชคดี เรายังเหลือพื้นที่ตรงนี้ ให้นอนแหงนมองดาว

But it's kind of nice sleeping out here under the stars.

และสิ่งดีๆอีกอย่างที่คุณตัวอ้วนได้เท่านี้

And it's a good thing you've got all that body fat to keep us warm."

ก็เพื่อให้ความอบอุ่นแก่พวกเรานี่เอง

(Laughter)

การศึกษาวิจัยเรื่องนึงที่ฉันชอบมาก

One of my favorite studies found

that the more willing a husband is to do housework,

เค้าว่า ยิ่งฝ่ายสามีตั้งใจจะช่วยทำงานบ้านมากเท่าไหร่

the more attractive his wife will find him.

ยิ่งเพิ่มแรงดึงดูดใจ ให้กับภรรยามากขึ้น

ต้องมีงานวิจัยบอก เราถึงจะรู้นะเนี่ย

Because we needed a study to tell us this.

(Laughter)

But here's what's going on here.

ทำไมเหรอคะ

The more attractive she finds him, the more sex they have;

ยิ่งภรรยาสนใจสามีมากขึ้น พวกเขายิ่งมีเซ็กซ์เพิ่มขึ้นด้วย

the more sex they have, the nicer he is to her;

ยิ่งมีเซ็กซ์มากขึ้น สามียิ่งต้องทำดีกับภรรยามากขึ้น

ยิ่งทำดีกับภรรยามากขึ้น

the nicer he is to her,

the less she nags him about leaving wet towels on the bed,

ภรรยาจะยิ่งบ่นจู้จี้น้อยลง เวลาสามีทิ้งผ้าเช็ดตัวเปียกๆไว้บนเตียง

and ultimately, they live happily ever after.

และในที่สุด พวกเขาก็จะครองรักกันอย่างมีความสุข ตลอดไป

In other words, men, you might want to pick it up a notch

พูดง่ายๆว่า คุณผู้ชายทั้งหลาย พวกคุณควร

ช่วยทำงานบ้านเพิ่มซักนิดนะคะ

in the domestic department.

Here's an interesting one.

นี่คืออีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ

One study found that people who smile in childhood photographs

การศึกษาเรื่องนึง พบว่า

คนที่ยิ้มตอนถ่ายรูป สมัยที่ยังเป็นเด็ก

are less likely to get a divorce.

จะมีโอกาสน้อยที่จะหย่าร้างกัน

นี่คือเรื่องที่เรานำมาศึกษากันจริงๆ

This is an actual study, and let me clarify:

ให้ฉันได้อธิบายอีกซักหน่อย

the researchers were not looking at documented self-reports

ผลการวิจัยไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับ

รายงานการวัดระดับความสุขของตนเองในช่วงชีวิตวัยเด็ก

of childhood happiness,

หรือศึกษาไดอารี่เก่าๆ

or even studying old journals.

ข้อมูลทั้งหมดได้มาจาก

The data were based entirely on whether people looked happy

การสังเกตดูว่าคนนั้นดูมีความสุข

in these early pictures.

จากภาพถ่ายสมัยเด็กเหล่านี้

ฉันไม่ทราบ ว่าพวกคุณในที่นี้อายุกันเท่าไหร่

Now, I don't know how old all of you are, but when I was a kid,

แต่ตอนที่ฉันยังเป็นเด็กอยู่นั้น

your parents took pictures with a special kind of camera

พ่อแม่พวกเราถ่ายรูป ด้วยกล้องถ่ายรูปแบบพิเศษ

พวกเขาใช้บางอย่างที่เราเรียกว่าฟิล์ม

that held something called "film."

และพระเจ้า ฟิล์มเป็นอะไรที่แพงมากสมัยนั้น

And, by God, film was expensive.

They didn't take 300 shots of you in that rapid-fire digital video mode

พวกเค้าไม่ได้ถ่ายรูปคุณ300แอคชั่น

ด้วยโหมดถ่ายรัวๆ ของกล้องดิจิตอล

and then pick out the nicest, smiliest one for the Christmas card.

เพื่อเลือกรูปที่น่ารักที่สุด รูปที่ยิ้มหวานที่สุด

สำหรับการ์ดวันคริสต์มาส

โอ๊ย ไม่มีหรอก

Oh, no.

พวกเขาจับคุณแต่งตัว บังคับให้คุณยืนตรงนั้น

They dressed you up, they lined you up,

แล้วยิ้มให้กล้องซังกะบ๊วยนี่ ตามที่พวกเขาบอก

and you smiled for the fucking camera like they told you to

ไม่งั้น จะไม่มีการจัดปาร์ตี้วันเกิดของคุณ

or you could kiss your birthday party goodbye.

แต่ก็เหอะ ฉันมีรูปถ่ายในวัยเด็ก

But still, I have a huge pile of fake happy childhood pictures

ที่สุดเสแสร้งมีความสุขอยู่เป็นกองๆเลย

and I'm glad they make me less likely than some people to get a divorce.

แต่ฉันดีใจนะคะ ที่อย่างน้อยพวกเขาก็ทำให้ฉันดูไม่เหมือนคนที่

จบชีวิตรักลงด้วยการหย่าร้าง

So, what else can you do to safeguard your marriage?

ทีนี้ มีอะไรที่พวกคุณจะทำได้บ้าง

เพื่อปกป้องการแต่งงานของคุณ

Do not win an Oscar for best actress.

อย่างแรกคือ ห้ามได้รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมในการประกวดออสการ์

(เสียงหัวเราะ)

(Laughter)

I'm serious.

นี่ฉันจริงจังนะคะ

Bettie Davis, Joan Crawford, Halle Berry, Hilary Swank,

เบ็ตตี้ เดวิส, โจแอน ครอว์ฟอร์ด, ฮัลลี เบอร์รี, ฮิลลารี สแวงค์

แซนดร้า บูลล็อค, รีส วิเธอร์สปูน

Sandra Bullock, Reese Witherspoon --

ทั้งหมดนี้ โสด ค่ะ

all of them single, soon after taking home that statue.

เพียงไม่นานหลังจากกลับบ้านพร้อมรูปปั้นที่ว่านั่น

They actually call it the Oscar curse.

พวกเขาเรียกมันว่า คำสาปออสการ์

มันคือจุมพิตแห่งความตาย ของการแต่งงาน

It is the marriage kiss of death and something that should be avoided.

และเป็นสิ่งที่ควรเลี่ยง

And it's not just successfully starring in films that's dangerous.

ไม่ใช่เฉพาะความสำเร็จจากการแสดงหนังเท่านั้น

ที่อันตราย

ปรากฏว่า การดูหนังโรแมนติก คอมเมดี้

It turns out, merely watching a romantic comedy

causes relationship satisfaction to plummet.

ก็ทำให้ความพึงพอใจในความสัมพันธ์ลดต่ำลง

(เสียงหัวเราะ)

(Laughter)

Apparently, the bitter realization that maybe it could happen to us,

เห็นได้ชัดว่า การตระหนัก

ว่าชีวิตอย่างนั้นอาจจะเกิดขึ้นกับเราก็ได้นะ

but it obviously hasn't and it probably never will,

แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายังไม่เกิดขึ้น และคงจะไม่มีวัน

ทำให้ชีวิตของเรามันช่างดูเหมือนแย่จนสุดจะทน

makes our lives seem unbearably grim in comparison.

เมื่อเปรียบเทียบกับชีวิตในหนัง

และในทางทฤษฎีแล้ว

And theoretically,

I suppose if we opt for a film where someone gets brutally murdered

สมมุติว่า ถ้าเราเลือกชมภาพยนตร์เกี่ยวกับการฆาตกรรมอันโหดร้าย

or dies in a fiery car crash,

หรือไม่ก็พระเอกตายเพราะถูกรถชนเข้าอย่างจัง

สุดท้ายเราก็เดินออกจากโรงหนัง

we are more likely to walk out of that theater

feeling like we've got it pretty good.

คิดได้ว่า ชีวิตเราตอนนี้ช่างมีความสุขดีเหลือเกิน

(Laughter)

ดูเหมือนว่าการดื่มเหล้า

Drinking alcohol, it seems, is bad for your marriage.

ก็เป็นอะไรที่แย่ สำหรับการแต่งงานของคุณ

ใช่

Yeah.

ฉันคงไม่ต้องบอกคุณ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

I can't tell you anymore about that one

เพราะแค่อ่านแต่พาดหัวก็เข้าใจพอแล้ว

because I stopped reading it at the headline.

เรื่องน่ากลัวสุดๆ คือเรื่องนี้ค่ะ

But here's a scary one: divorce is contagious.

การหย่า ถือเป็นโรคติดต่อ

That's right, when you have a close couple friend split up,

เรื่องจริงนะคะ เวลาที่เพื่อนหรือคนใกล้ชิดของคุณหย่าร้าง

it increases your chances of getting a divorce by 75 percent.

มันจะเพิ่มโอกาสที่คุณจะตัดสินใจหย่า

ถึงร้อยละ 75 ทีเดียว

ฉันต้องสารภาพว่า ฉันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้เลย

Now, I have to say, I don't get this one at all.

สามีฉัน และตัวฉันเอง

My husband and I have watched quite a few friends divide their assets

เคยเห็นเพื่อนบางคนจัดการแบ่งทรัพย์สิน

หลังจากนั้นก็ต้องต่อสู้สุดๆ

and then struggle with being our age and single

ที่จะอยู่แบบคนโสด ที่อายุขนาดนี้

in an age of sexting and Viagra and eHarmony.

ในยุคที่มีทั้งส่งข้อความลามก

ไวอากร้า บริการเวปหาคู่

จนฉันอดคิดไม่ได้ว่า พวกเขาช่วยคู่ของฉัน

And I'm thinking they've done more for my marriage

มากกว่าการไปปรึกษาหมอซะอีก

than a lifetime of therapy ever could.

ตอนนี้คุณคงแปลกใจแล้วล่ะสิ

So now you may be wondering: Why does anyone get married ever?

ทำไมยังมีอีกหลายคนที่ยังอยากแต่งงานอยู่ดี

Well, the US federal government counts more than a thousand legal benefits

คืออย่างนี้ค่ะ รัฐบาลสหรัฐอเมริกา

ได้รวบรวมสถิติ ผลประโยชน์ทางกฏหมายมากกว่าหนึ่งพันข้อ

to being someone's spouse.

ที่ได้จากการจดทะเบียนสมรส

A list that includes visitation rights in jail,

หนึ่งในนั้น รวมถึง สิทธิในการเข้าเยี่ยมในคุก ด้วย

but hopefully, you'll never need that one.

แต่ฉันหวังว่าคุณคงไม่เคยต้องใช้สิทธินั้นนะคะ

But beyond the profound federal perks,

แต่นอกเหนือจากผลประโยชน์ที่ได้จากรัฐอย่างมากมายนี้

คนที่แต่งงานแล้วยังหาเงินได้มากกว่า

married people make more money.

มีสุขภาพดีกว่า

We're healthier, physically and emotionally.

ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

We produce happier, more stable and more successful kids.

เรามีลูกที่ มีความสุข มีความมั่นคงในชีวิต

และประสบความสำเร็จมากกว่า

เรามีเซ็กซ์

We have more sex than our supposedly swinging single friends,

มากกว่าพวกเพื่อนเราที่เป็นโสด

คุณเชื่อที่ฉันบอกมั๊ยล่ะ

believe it or not.

เรายังมีอายุยืนยาวกว่า

We even live longer,

which is a pretty compelling argument for marrying someone you like a lot

ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยที่คุณจะ

แต่งงานกับใครซักคนที่คุณชอบเค้ามาก

ตั้งแต่แรก

in the first place.

(Laughter)

Now, if you're not currently experiencing the joy of the joint tax return,

ตอนนี้ ถ้าคุณยังไม่มี

ความสุขที่ได้จากการกรอกฟอร์มภาษีร่วมกัน

I can't tell you how to find a chore-loving person

ฉันก็บอกคุณไม่ได้ ว่าจะหาคนที่ชอบทำงานบ้านได้ที่ยังไง

แบบที่มีความน่าสนใจ ดึงดูดใจ พอดีกับเรา

of the approximately ideal size and attractiveness,

who prefers horror movies

คนแบบที่ชอบดูหนังสยองขวัญ และมีเพื่อนไม่มากนัก

and doesn't have a lot of friends hovering on the brink of divorce,

หรือคนที่ใกล้จะหย่า

แต่ฉันแค่อยากเป็นกำลังใจ ให้พวกคุณลอง

but I can only encourage you to try,

because the benefits, as I've pointed out,

เพราะว่า ผลประโยชน์ ที๋ฉันชี้ให้คุณเห็น

เป็นสิ่งที่มีความหมาย

are significant.

ไม่ว่าคุณจะแต่งงานแล้ว หรือกำลังตามหาสิ่งนี้อยู่

The bottom line is: whether you're in it or you're searching for it,

ฉันเชื่อว่าการแต่งงานเป็นธรรมเนียมที่ยึดถือกันมา

I believe marriage is an institution worth pursuing and protecting.

คุ้มค่าแก่การไขว่คว้า และรักษามันเอาไว้

So I hope you'll use the information I've given you today

ฉันหวังว่า คุณจะใช้ข้อมูลที่ฉันบอกคุณในวันนี้

ชั่งน้ำหนัก หาจุดแข็งของคุณ

to weigh your personal strengths against your own risk factors.

กับปัจจัยเสี่ยงของตัวคุณเอง

For instance, in my marriage, I'd say I'm doing OK.

ในชีวิตการแต่งงานของฉัน

ฉันพูดได้ว่า ฉันทำสิ่งที่โอเคแล้ว

และชีวิตฉัน

One the one hand,

ฉันมีสามีที่แสนจะผอมเพรียว

I have a husband who's annoyingly lean and incredibly handsome.

และรูปหล่อ อย่างไม่น่าเชื่อ

So I'm obviously going to need fatten him up.

ดังนั้น ฉันเลยพยายามจะทำให้เขาอ้วนขึ้นเรื่อยๆ

And like I said, we have those divorced friends

ก็อย่างที่ฉันบอกนั่นแหละค่ะ พวกเรามีเพื่อนที่เคยหย่าร้าง

เพื่อนที่ในใจลึกๆของเขาแล้ว

who may secretly or subconsciously be trying to break us up.

ก็คงพยายามอยากให้เราเลิกกัน

So we have to keep an eye on that.

ดังนั้น เราควรระวังในเรื่องนี้

ที่เราทำ ก็แค่ค๊อกเทลซักแก้วสองแก้ว

And we do like a cocktail or two.

ในทางกลับกัน

On the other hand,

I have the fake happy picture thing.

ฉันมีรูปที่ฉันแสร้งมีความสุข

And also, my husband does a lot around the house,

และสามีของฉัน ยังอยู่ที่บ้าน ทำอะไรต่างๆนานา

และเขาก็มีความสุขกับการที่ไม่เคยต้องดู

and would happily never see another romantic comedy

หนังโรแมนติกคอมเมดี้ ตลอดช่วงเวลาที่เค้ายังอยู่

as long as he lives.

ดังนั้น ฉันทำสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้แล้ว

So I've got all those things going for me.

But just in case,

แต่ฉันก็ไม่ได้อยู่นิ่ง

I plan to work extra hard to not win an Oscar anytime soon.

ฉันยังพยายามอย่างมากที่สุด

เพื่อจะได้ไม่ได้รับรางวัลออสการ์ในเร็วๆนี้

And for the good of your relationships,

และเพื่อสิ่งดีๆ สำหรับความรักของคุณ

I would encourage you to do the same.

ฉันก็อยากให้พวกคุณทำเช่นกัน

แล้วเจอกันที่บาร์นะคะ

I'll see you at the bar.

(เสียงปรบมือ)

(Laughter)

(Applause)