The history of chocolate - Deanna Pucciarelli

ความเป็นมาของช็อคโกแลต - ดิอานนา พุคเชียเรยิ (Deanna Pucciarelli)

Translator: siriporn chatratana Reviewer: Rawee Ma

If you can't imagine life without chocolate,

หากคุณนึกถึงชีวิต ที่ไร้ช็อคโกแลตไม่ออกแล้วล่ะก็

you're lucky you weren't born before the 16th century.

คุณโชคดีแล้วล่ะที่ไม่ได้เกิด ก่อนศตวรรษที่ 16

Until then, chocolate only existed in Mesoamerica

จนถึงตอนนั้น ช็อคโกแลต ก็มีอยู่เพียงแค่ในเมโสอเมริกา

in a form quite different from what we know.

และมีหน้าตาที่ไม่เหมือนที่เรารู้จัก

As far back as 1900 BCE,

ย้อนกลับไปเมื่อ 1900 ปีก่อนคริสตกาล

the people of that region had learned to prepare the beans

ผู้คนในดินแดนแถบนั้น ได้เรียนรู้การเตรียมเมล็ด

of the native cacao tree.

ของต้นกาเกาพื้นเมือง

The earliest records tell us the beans were ground

บันทึกเก่าแก่ที่สุดบอกไว้ว่าเมล็ดนั้นถูกบด

and mixed with cornmeal and chili peppers

และนำมาผสมกับคอร์นมีลและพริก

to create a drink -

เพื่อทำเป็นเครื่องดื่ม -

not a relaxing cup of hot cocoa,

ไม่ใช่เป็นโกโก้ร้อนที่อุ่น ๆ สักถ้วยหรอกนะ

but a bitter, invigorating concoction frothing with foam.

แต่เป็นน้ำยาขม ๆ ฟองฟอดที่ดื่มแล้วตื่นตัว

And if you thought we make a big deal about chocolate today,

แต่หากคุณเคยคิดว่าทุกวันนี้ เราเรื่องมากเกี่ยวกับช็อคโกแลตแล้วล่ะก็

the Mesoamericans had us beat.

ชาวเมโสอเมริกันยิ่งหนักกว่าเราอีก

They believed that cacao was a heavenly food

พวกเขาเชื่อว่ากาเกาเป็นอาหารจากสวรรค์

gifted to humans by a feathered serpent god,

ที่เทพเจ้างูมีปีกมอบเป็นของขวัญแก่มนุษย์

known to the Maya as Kukulkan

ชาวมายารู้จักในนามของคูคุลคาน

and to the Aztecs as Quetzalcoatl.

ชาวแอสเตคเรียกเทพนี้ว่าเคทซาลควาเทิ่ล

Aztecs used cacao beans as currency

ชาวแอสเตคใช้เมล็ดกาเกาแทนเงิน

and drank chocolate at royal feasts,

และดื่มช็อคโกแลตในงานเลี้ยงในวัง

gave it to soldiers as a reward for success in battle,

ใช้เป็นรางวัลแก่ทหารผู้รบชนะในการรบ

and used it in rituals.

และใช้ในพิธีกรรม

The first transatlantic chocolate encounter occurred in 1519

ช็อคโกแลตได้ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาเป็นครั้งแรกในปีค.ศ.1519

when Hernán Cortés visited the court of Moctezuma

ครั้งที่ แอร์นาน คอร์เตส ได้เข้าเยี่ยมชมวังของมอคเตซูมา

at Tenochtitlan.

ที่เทนอชติทลาน

As recorded by Cortés's lieutenant,

ดังที่นายทหารของคอร์เตสได้บันทึกไว้ว่า

the king had 50 jugs of the drink brought out and poured into golden cups.

พระราชาให้นำเครื่องดื่ม 50 เหยือกออกมา และรินลงในถ้วยทองคำ

When the colonists returned with shipments of the strange new bean,

เมื่อชาวอาณานิคมเดินทางกลับมา พร้อมกับเมล็ดถั่วประหลาดหลายลำเรือ

missionaries' salacious accounts of native customs

เรื่องราวของประเพณีที่สัปดน ที่มิชชันนารีนำมาเล่าเผยแพร่

gave it a reputation as an aphrodisiac.

ทำให้มันมีชื่อเสียงว่าเป็นยากระตุ้นกำหนัด

At first, its bitter taste made it suitable as a medicine for ailments,

ตอนแรก ด้วยรสที่ขม เลยทำให้มันเหมาะนำมาทำเป็นยารักษาโรค

like upset stomachs,

อย่างเช่น อาการปวดท้อง

but sweetening it with honey, sugar, or vanilla

แต่พอถูกปรุงแต่งให้หวาน ด้วยน้ำผึ้ง น้ำตาล หรือวนิลา

quickly made chocolate a popular delicacy in the Spanish court.

มันก็เลยกลายเป็นอาหารโอชะยอดนิยม ในราชสำนักสเปนอย่างรวดเร็ว

And soon, no aristocratic home was complete without dedicated chocolate ware.

และไม่นาน บ้านขุนนางคนใดจะไม่สมบูรณ์ได้ ถ้าไม่มีภาชนะเฉพาะสำหรับใช้กับช็อคโกแลต

The fashionable drink was difficult and time consuming to produce

เครื่องดื่มตามแฟชั่นชนิดนี้ มีวิธีการผลิตที่ยากและใช้เวลานาน

on a large scale.

ในปริมาณมาก

That involved using plantations and imported slave labor

ต้องมีการทำไร่เพาะปลูก และนำเข้าแรงงานทาส

in the Caribbean and on islands off the coast of Africa.

ในหมู่เกาะคาริบเบียนและหมู่เกาะต่าง ๆ ตามชายฝั่งทวีปแอฟริกา

The world of chocolate would change forever in 1828

โลกของช็อคโกแลต ก็ได้เปลี่ยนไปตลอดกาลในปี ค.ศ.1828

with the introduction of the cocoa press by Coenraad van Houten of Amsterdam.

เมื่อคอนราด แวน เฮาเทนแห่งอัมสเตอร์ดัม ได้นำเครื่องบดอัดโกโก้มาใช้

Van Houten's invention could separate the cocoa's natural fat, or cocoa butter.

สิ่งประดิษฐ์ของ แวน เฮาเทน สามารถแยก น้ำมันโกโก้ธรรมชาติ หรือสารไขมันที่ได้จากเมล็ดโกโก้

This left a powder that could be mixed into a drinkable solution

ทำให้เหลือแต่ส่วนที่เป็นผง ที่สามารถนำมาผสมเป็นเครื่องดื่มได้

or recombined with the cocoa butter

หรือเอามาผสมเข้ากับสารไขมันที่ได้จาก เมล็ดโกโก้

to create the solid chocolate we know today.

เพื่อทำให้เป็นช็อคโกแลตแท่ง อย่างที่เรารู้จักกันทุกวันนี้

Not long after, a Swiss chocolatier named Daniel Peter

ไม่นานหลังจากนั้น ช่างทำช็อคโกแลต ชาวสวิสที่ชื่อ แดเนียล ปีเตอร์

added powdered milk to the mix,

ได้เติมนมผงลงไปในส่วนผสม

thus inventing milk chocolate.

ช็อคโกแลตนมเลยถือกำเนิดขึ้น

By the 20th century, chocolate was no longer an elite luxury

จนมาถึงศตวรรษที่ 20 ช็อคโกแลตก็ไม่ได้เป็น อาหารหรูหราเฉพาะชนชั้นสูงอีกต่อไป

but had become a treat for the public.

แต่มันกลายเป็นของหวานพิเศษสำหรับคนทั่วไป

Meeting the massive demand required more cultivation of cocoa,

เพื่อตอบสนองความต้องการที่มากมาย จึงต้องมีการเพาะปลูกโกโก้จำนวนมาก

which can only grow near the equator.

ซึ่งปลูกได้เฉพาะพื้นที่ใกล้เส้นศูนย์สูตร

Now, instead of African slaves being shipped

ตอนนี้ แทนที่ทาสชาวแอฟริกันจะถูกขนใส่เรือ

to South American cocoa plantations,

ไปยังไร่ปลูกโกโก้ในอเมริกาใต้

cocoa production itself would shift to West Africa

การผลิตโกโก้เองจึงถูกย้าย ไปอยู่ในแอฟริกาตะวันตกแทน

with Cote d'Ivoire providing two-fifths of the world's cocoa as of 2015.

โดยประเทศโกต์ดิวัวร์ผลิตโกโก้ได้สองในห้า ของผลผลิตโกโก้ทั่วโลกในปี ค.ศ.2015

Yet along with the growth of the industry,

ถึงกระนั้น การเติบโตของอุตสาหกรรมชนิดนี้

there have been horrific abuses of human rights.

มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างน่าตกใจตลอดมา

Many of the plantations throughout West Africa,

ไร่โกโก้จำนวนมากทั่วทั้งแอฟริกาตะวันตก

which supply Western companies,

ที่ส่งผลผลิตให้กับบริษัทเวสเทิร์น

use slave and child labor,

ใช้ทาสและแรงงานเด็ก

with an estimation of more than 2 million children affected.

ประมาณการว่าพวกเด็ก จำนวนมากกว่า 2 ล้านรายที่ได้รับผลกระทบ

This is a complex problem that persists

นี่เป็นปัญหาที่สลับซับซ้อนที่แก้ไม่ตก

despite efforts from major chocolate companies to partner with African nations

ถึงแม้ว่ามีความพยายามจากความร่วมมือของ บริษัทช็อคโกแลตรายใหญ่และประเทศในแอฟริกา

to reduce child and indentured labor practices.

ที่ลดการใช้เด็กและข้อตกลงเรื่องแรงงาน

Today, chocolate has established itself in the rituals of our modern culture.

ทุกวันนี้ ช็อคโกแลตได้ฝังรากลงใน พิธีกรรมของวัฒนธรรมยุคใหม่

Due to its colonial association with native cultures,

อันเนื่องมาจากความเกี่ยวข้องของมัน กับวัฒนธรรมพื้นเมืองผ่านระบบอาณานิคม

combined with the power of advertising,

ผสานเข้ากับพลังของการโฆษณา

chocolate retains an aura of something sensual,

ช็อคโกแลตจึงมีพลังของสิ่งเร้าอารมณ์

decadent,

ความเสื่อม

and forbidden.

และเป็นสิ่งต้องห้าม

Yet knowing more about its fascinating and often cruel history,

ถึงกระนั้น การที่ได้รู้ประวัติอันน่าทึ่ง และโหดร้ายอย่างมาก

as well as its production today,

รวมถึงการผลิตในปัจจุบัน

tells us where these associations originate

บ่งบอกให้เรารู้ว่า ความเกี่ยวข้องเหล่านี้มีจุดเริ่มต้นที่ใด

and what they hide.

และมันปิดบังอะไรไว้

So as you unwrap your next bar of chocolate,

ดังนั้น เวลาคุณแกะห่อ ช็อคโกแลตแท่งต่อไปของคุณ

take a moment to consider that not everything about chocolate is sweet.

ลองหยุดพิจารณาก่อน เพราะว่าทุกเรื่องราว ของช็อคโกแลตนั้นไม่ได้หวานไปเสียทั้งหมด