Paul Zak: Trust, morality - and oxytocin

349,035 views ・ 2011-11-01

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Unnawut Leepaisalsuwanna
00:15
Is there anything unique about human beings?
0
15260
3000
มนุษย์มีเอกลักษณ์อะไรไหมครับ
00:18
There is.
1
18260
2000
มีครับ
00:20
We're the only creatures
2
20260
2000
เราเป็นสัตว์ชนิดเดียว
00:22
with fully developed moral sentiments.
3
22260
2000
ที่มีความรู้สึกทางศีลธรรมที่พัฒนาขั้นสูงสุด
00:24
We're obsessed with morality as social creatures.
4
24260
3000
เราหมกมุ่นกับศีลธรรมในฐานะสัตว์สังคม
00:27
We need to know why people are doing what they're doing.
5
27260
3000
เราต้องรู้ว่าทำไมคนถึงทำในสิ่งที่เขาทำ
00:30
And I personally am obsessed with morality.
6
30260
3000
และผมเองก็หมกมุ่นกับคุณธรรมเป็นการส่วนตัว
00:33
It was all due to this woman,
7
33260
2000
ทั้งหมดเกิดจากผู้หญิงคนนี้ครับ
00:35
Sister Mary Marastela,
8
35260
2000
แม่ชี แมรี มาราสเตลลา (Mary Marastela)
00:37
also known as my mom.
9
37260
3000
หรืออีกชื่อหนึ่งคือ แม่ของผม
00:41
As an altar boy, I breathed in a lot of incense,
10
41260
3000
สมัยเป็นเด็กผู้ช่วยพระ ผมสูดควันธูปไปเยอะมาก
00:44
and I learned to say phrases in Latin,
11
44260
2000
และผมก็เรียนรู้ที่จะขานประโยคในภาษาละติน
00:46
but I also had time to think
12
46260
2000
แต่ผมก็มีเวลาคิดด้วยว่า
00:48
about whether my mother's top-down morality
13
48260
2000
ศีลธรรมแบบที่ถ่ายทอดลงมาของแม่ผมนั้น
00:50
applied to everybody.
14
50260
2000
ใช้ได้กับทุกคนหรือเปล่า
00:52
I saw that people who were religious and non-religious
15
52260
3000
ผมมองเห็นว่าคนที่เคร่งศาสนา และคนอื่นที่ไม่เคร่งศาสนา
00:55
were equally obsessed with morality.
16
55260
2000
ล้วนหมกมุ่นกับศีลธรรมพอๆ กัน
00:57
I thought, maybe there's some earthly basis
17
57260
2000
ผมคิดว่าบางที อาจมีรากฐานในธรรมชาติ
00:59
for moral decisions.
18
59260
2000
ที่อยู่ใต้การตัดสินใจทางศีลธรรมก็ได้
01:01
But I wanted to go further
19
61260
2000
แต่ผมอยากไปให้ไกลกว่านั้น
01:03
than to say our brains make us moral.
20
63260
2000
แค่พูดว่าสมองของเราทำให้เรามีศีลธรรม
01:05
I want to know if there's a chemistry of morality.
21
65260
3000
ผมอยากรู้ว่า มีสารเคมีแห่งศีลธรรมหรือเปล่า
01:08
I want to know
22
68260
2000
ผมอยากรู้
01:10
if there was a moral molecule.
23
70260
2000
ว่ามีโมเลกุลศีลธรรมหรือเปล่า
01:12
After 10 years of experiments,
24
72260
2000
หลังจากทำการทดลอง 10 ปี
01:14
I found it.
25
74260
2000
ผมก็ค้นพบมันครับ
01:16
Would you like to see it? I brought some with me.
26
76260
3000
คุณอยากเห็นมันไหม ผมเอามาด้วย
01:20
This little syringe
27
80260
2000
เข็มฉีดยาเล็กๆ อันนี้
01:22
contains the moral molecule.
28
82260
3000
มีโมเลกุลศีลธรรมข้างใน
01:31
(Laughter)
29
91260
3000
(เสียงหัวเราะ)
01:34
It's called oxytocin.
30
94260
2000
มันเรียกว่าออกซีโตซินครับ
01:36
So oxytocin is a simple and ancient molecule
31
96260
3000
ออกซีโตซิน เป็นโมเลกุลที่เรียบง่ายและเก่าแก่
01:39
found only in mammals.
32
99260
2000
พบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเท่านั้น
01:41
In rodents, it was known
33
101260
2000
ในหนู นักวิจัยค้นพบว่า
01:43
to make mothers care for their offspring,
34
103260
2000
มันทำให้แม่ดูแลลูกๆ ของมัน
01:45
and in some creatures,
35
105260
2000
และในสัตว์บางชนิด
01:47
allowed for toleration of burrowmates.
36
107260
2000
มันทำให้ยอมรับเพื่อนร่วมโพรง
01:49
But in humans, it was only known
37
109260
2000
แต่ในมนุษย์ เรารู้แต่เพียงว่า
01:51
to facilitate birth and breastfeeding in women,
38
111260
2000
ออกซีโตซิน ช่วยผู้หญิง ในการคลอดและให้นม
01:53
and is released by both sexes during sex.
39
113260
3000
ทั้งสองเพศปล่อยมันออกมาระหว่างร่วมเพศ
01:57
So I had this idea that oxytocin might be the moral molecule.
40
117260
3000
ผมก็เลยมีความคิดว่า ออกซีโตซิน อาจเป็นโมเลกุลศีลธรรม
02:00
I did what most of us do -- I tried it on some colleagues.
41
120260
3000
ผมทำในสิ่งที่พวกเราส่วนใหญ่ทำ -- ผมพยายามทดลองกับเพื่อนร่วมงาน
02:03
One of them told me,
42
123260
2000
เพื่อนคนหนึ่งบอกผมว่า
02:05
"Paul, that is the world's stupidist idea.
43
125260
3000
"พอล นั่นคือความคิดที่แย่ที่สุดในโลกเลย
02:08
It is," he said, "only a female molecule.
44
128260
2000
เขาบอกว่า "มันก็แค่โมเลกุล ของเพศหญิง
02:10
It can't be that important."
45
130260
2000
มันไม่สำคัญขนาดนั้นหรอก"
02:12
But I countered, "Well men's brains make this too.
46
132260
3000
แต่ผมค้านว่า "สมองของผู้ชายก็ผลิตมันเหมือนกัน
02:15
There must be a reason why."
47
135260
2000
ต้องมีเหตุผลสิว่าทำไม"
02:17
But he was right, it was a stupid idea.
48
137260
3000
แต่เขาพูดถูก มันเป็นความคิดที่แย่มาก
02:20
But it was testably stupid.
49
140260
2000
แต่ก็เป็นความคิดที่พิสูจน์ได้ว่าแย่
02:22
In other words, I thought I could design an experiment
50
142260
3000
พูดอีกอย่างคือ ผมคิดว่าผมสามารถออกแบบการทดลอง
02:25
to see if oxytocin made people moral.
51
145260
3000
เพื่อดูว่าออกซีโตซิน ทำให้คนมีศีลธรรมหรือไม่
02:29
Turns out it wasn't so easy.
52
149260
2000
แต่ปรากฏว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด
02:31
First of all, oxytocin is a shy molecule.
53
151260
3000
ก่อนอื่นออกซีโตซิน เป็นโมเลกุลที่ขี้อายมาก
02:34
Baseline levels are near zero,
54
154260
2000
ระดับพื้นฐาน อยู่ใกล้กับศูนย์
02:36
without some stimulus to cause its release.
55
156260
3000
เมื่อไม่มีสิ่งกระตุ้น ที่จะทำให้เกิดการปล่อยออกมา
02:39
And when it's produced, it has a three-minute half-life,
56
159260
2000
เมื่อมันถูกผลิตออกมาแล้ว มันมีครึ่งชีวิต สามนาที
02:41
and degrades rapidly at room temperature.
57
161260
3000
และ สลายตัวอย่างรวดเร็วที่อุณหภูมิห้อง
02:44
So this experiment would have to cause a surge of oxytocin,
58
164260
2000
การทดสอบนี้ จะต้องทำให้เกิดการหลั่งไหลของ ออกซีโตซิน
02:46
have to grab it fast and keep it cold.
59
166260
2000
ต้องคว้ามันไว้ให้มั่น และจับมันให้นิ่ง
02:48
I think I can do that.
60
168260
2000
ผมคิดว่า สามารถทำได้
02:50
Now luckily, oxytocin is produced
61
170260
2000
โชคดี ที่ออกซีโตซิน สามารถผลิตได้
02:52
both in the brain and in the blood,
62
172260
3000
ทั้ง ในสมอง และ ในเลือด
02:55
so I could do this experiment without learning neurosurgery.
63
175260
3000
ดังนั้น ผมสามารถทำการทดลองนี้ ได้โดยไม่ต้องเรียนศัลยกรรมประสาท
02:59
Then I had to measure morality.
64
179260
3000
แล้ว ผมจะต้องวัดระดับศีลธรรม
03:02
So taking on Morality with a capital M is a huge project.
65
182260
3000
ดังนั้น การศึกษาเรื่องคุณธรรม โดยเฉพาะคุณธรรมทั้งปวง (Morality) จึงเป็นเรื่องใหญ่
03:05
So I started smaller.
66
185260
2000
ผมเริ่มต้นขนาดเล็กก่อน
03:07
I studied one single virtue:
67
187260
3000
ผมศึกษาคุณธรรมชนิดเดียว
03:10
trustworthiness.
68
190260
2000
ความซื่อสัตย์
03:12
Why? I had shown in the early 2000s
69
192260
3000
ทำไมหรอครับ ผมได้แสดงไปในต้นปี 2000
03:15
that countries with a higher proportion of trustworthy people
70
195260
3000
ประเทศที่พลเมือง มีความซื่อสัตย์มาก ในจำนวนสัดส่วนที่สูง
03:18
are more prosperous.
71
198260
2000
จะมีความเจริญรุ่งเรืองมากกว่า
03:20
So in these countries, more economic transactions occur
72
200260
3000
ดังนั้น ประเทศเหล่านี้ มีธุรกรรมทางเศรษฐกิจมากกว่า
03:23
and more wealth is created,
73
203260
2000
ความมั่งคั่งจะถูกสร้างขึ้นมากกว่า
03:25
alleviating poverty.
74
205260
2000
บรรเทาความยากจน
03:27
So poor countries are by and large low trust countries.
75
207260
3000
ประเทศยากจน จะมีปริมาณความซื่อสัตย์น้อยกว่า เมื่อเทียบกัน
03:30
So if I understood the chemistry of trustworthiness,
76
210260
3000
ดังนั้นถ้าผมเข้าใจ คุณสมบัติทางเคมีของความซื่อสัตย์
03:33
I might help alleviate poverty.
77
213260
2000
ผมอาจช่วยลดปัญหาความยากจนได้
03:35
But I'm also a skeptic.
78
215260
2000
แต่ผมมียังข้อสงสัย
03:37
I don't want to just ask people, "Are you trustworthy?"
79
217260
2000
ผมไม่ต้องการเพียงแต่ถามว่า "คุณซื่อสัตย์ไหม"
03:39
So instead I use
80
219260
2000
ดังนั้นผมจึงใช้การวิจัยแทนการถาม
03:41
the Jerry Maguire approach to research.
81
221260
2000
ใช้วิธีการแบบ เจอรี่ แมคกวาย ในการวิจัย
03:43
If you're so virtuous,
82
223260
2000
ถ้าคุณมีความบริสุทธิ์ใจ
03:45
show me the money.
83
225260
2000
ให้แสดงจำนวนเงินออกมา
03:47
So what we do in my lab
84
227260
2000
ดังนั้น สิ่งที่เราทำในแลปของผม
03:49
is we tempt people with virtue and vice by using money.
85
229260
2000
คือ เราหลอกล่อคนที่ มีความบริสุทธิ์ใจ โดยการใช้เงิน
03:51
Let me show you how we do that.
86
231260
2000
ขออธิบายนะครับว่าเราทำอย่างไร
03:53
So we recruit some people for an experiment.
87
233260
2000
เราเปิดรับสมัคร บุคคลเข้าร่วมการทดลอง
03:55
They all get $10 if they agree to show up.
88
235260
3000
พวกเขาทั้งหมดได้รับ 10 ดอลล่าร์ ถ้าเขาตกลงที่จะร่วมทดลอง
03:58
We give them lots of instruction, and we never ever deceive them.
89
238260
3000
เราได้ให้คำแนะนำพวกเขามากมาย แต่เราไม่หลอกลวงพวกเขา
04:01
Then we match them in pairs by computer.
90
241260
3000
จากนั้น เราจับคู่พวกเขา โดยคอมพิวเตอร์
04:04
And in that pair, one person gets a message saying,
91
244260
2000
และในคู่นั้น คนหนึ่งจะได้รับข้อความแจ้งว่า
04:06
"Do you want to give up some of your $10
92
246260
2000
"คุณยินยอมเสียสละ เงิน 10 ดอลล่าร์ ของคุณ
04:08
you earned for being here
93
248260
2000
ซึ่งคุณจะได้รับ จากการทดลอง
04:10
and ship it to someone else in the lab?"
94
250260
2000
โดยโอนเงิน ให้คนที่ร่วมในการทดลองนั้นหรือเปล่า
04:12
The trick is you can't see them,
95
252260
2000
อุบายนี้คือ คุณจะไม่สามารถพบกัน
04:14
you can't talk to them.
96
254260
2000
คุณไม่สามารถพูดคุย
04:16
You only do it one time.
97
256260
2000
คุณเสียสละเงินได้เพียงครั้งเดียว
04:18
Now whatever you give up
98
258260
2000
ตอนคุณสละเงิน
04:20
gets tripled in the other person's account.
99
260260
3000
ในบัญชีของคนที่ได้รับจะมีเงินเพิ่มขึ้น 3 เท่า
04:23
You're going to make them a lot wealthier.
100
263260
2000
คุณกำลังจะทำให้ ผู้อื่นรวยขึ้นมากเลย
04:25
And they get a message by computer saying
101
265260
2000
และพวกเขาได้รับข้อความ จากคอมพิวเตอร์ว่า
04:27
person one sent you this amount of money.
102
267260
2000
คนหนึ่งส่งเงินจำนวนนี้ให้คุณ
04:29
Do you want to keep it all,
103
269260
2000
คุณต้องการเก็บไว้ทั้งหมด
04:31
or do you want to send some amount back?
104
271260
3000
หรือคุณต้องการส่งเงินบางส่วนกลับ
04:34
So think about this experiment for minute.
105
274260
2000
ลองมาคิดเกี่ยวกับการทดลองนี้ ดูสักนิดนะครับ
04:36
You're going to sit on these hard chairs for an hour and a half.
106
276260
3000
คุณกำลังจะนั่งบนเก้าอี้แข็งๆนี้เป็นเวลาชั่วโมงครึ่่ง
04:39
Some mad scientist is going to jab your arm with a needle
107
279260
2000
ถูกนักวิทยาศาสตร์สติเพื่องกระทุ้งเข็มฉีดยาที่แขนคุณ
04:41
and take four tubes of blood.
108
281260
2000
สูบเลือดไป 4 หลอด
04:43
And now you want me to give up this money and ship it to a stranger?
109
283260
3000
และตอนนี้ คุณต้องการให้ฉันมอบเงินนี้ และจัดส่งไปกับคนแปลกหน้าเนี่ยนะ
04:46
So this was the birth of vampire economics.
110
286260
3000
นี่จึงเป็นกำเนิดของ เศรษฐศาสตร์แวมไพร์ (vampire economics)
04:49
Make a decision and give me some blood.
111
289260
3000
ตัดสินใจและสละลือดให้ฉันบ้าง
04:52
So in fact, experimental economists
112
292260
2000
ความเป็นจริง นักวิจัยทางเศรษฐศาสตร์
04:54
had run this test around the world,
113
294260
2000
ทำการทดสอบนี้ทั่วโลก
04:56
and for much higher stakes,
114
296260
2000
และในระดับใหญ่กว่านี้
04:58
and the consensus view
115
298260
2000
และภาพโดยรวม
05:00
was that the measure from the first person to the second was a measure of trust,
116
300260
3000
คือการวัดความไว้ใจจากคนแรกไปที่คนสอง
05:03
and the transfer from the second person back to the first
117
303260
3000
และวัดจากความซื่อสัตย์จากบุคคลที่สอง
05:06
measured trustworthiness.
118
306260
2000
ถ่ายโอนกลับไปยังคนแรก
05:08
But in fact, economists were flummoxed
119
308260
2000
แต่ความเป็นจริง นักเศรษฐศาสตร์สับสน
05:10
on why the second person would ever return any money.
120
310260
3000
ว่าทำไมคนที่สองจะต้องคืนเงินกลับมา
05:13
They assumed money is good,
121
313260
2000
พวกเขาถือว่า เงินเป็นสิ่งดี
05:15
why not keep it all?
122
315260
2000
ทำไมไม่เก็บไว้ทั้งหมด
05:17
That's not what we found.
123
317260
2000
แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เราพบ
05:19
We found 90 percent of the first decision-makers sent money,
124
319260
3000
เราค้นพบว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของคนแรกตัดสินใจส่งเงิน
05:22
and of those who received money,
125
322260
2000
และบรรดาผู้ที่รับเงิน
05:24
95 percent returned some of it.
126
324260
2000
95 เปอร์เซ็นต์จะส่งเงินคืนกลับบางส่วน
05:26
But why?
127
326260
2000
แต่ทำไม
05:28
Well by measuring oxytocin
128
328260
2000
จากการวัด ออกซีโตซิน
05:30
we found that the more money the second person received,
129
330260
2000
เราพบว่า ยิ่งคนที่สองได้เงินมากเท่าไร
05:32
the more their brain produced oxytocin,
130
332260
2000
สมองของพวกเขายิ่งผลิต ออกซีโตซิน
05:34
and the more oxytocin on board,
131
334260
2000
และ เมื่อมี ออกซีโตซินมากขึ้นไปจากเดิม
05:36
the more money they returned.
132
336260
3000
เงินจำนวนมากขึ้นก็จะถูกส่งกลับ
05:39
So we have a biology of trustworthiness.
133
339260
3000
ดังนั้นเรามีชีววิทยาของ ความซื่อสัตย์
05:42
But wait. What's wrong with this experiment?
134
342260
3000
แต่เดี๋ยวก่อน การทดลองนี้มีอะไรผิดหรือ
05:45
Two things.
135
345260
2000
สองสิ่ง
05:47
One is that nothing in the body happens in isolation.
136
347260
3000
หนึ่งคือว่า ในร่ายกายเราไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดดๆ
05:50
So we measured nine other molecules that interact with oxytocin,
137
350260
3000
ดังนั้น เราจึงวัดโมเลกุลอีกเก้าชนิด ที่มีความสัมพันธ์กับ ออกซีโตซิน
05:53
but they didn't have any effect.
138
353260
2000
แต่พวกมันไม่มีผลใด ๆ
05:55
But the second is
139
355260
2000
สิ่งที่สอง
05:57
that I still only had this indirect relationship
140
357260
2000
ผมทราบแค่เพียงความสัมพันธ์ทางอ้อม
05:59
between oxytocin and trustworthiness.
141
359260
2000
ระหว่างถ่ายโอนและความซื่อสัตย์
06:01
I didn't know for sure
142
361260
2000
ผมไม่รู้แน่ว่า
06:03
oxytocin caused trustworthiness.
143
363260
2000
ถ่ายโอน ทำให้เกิด ความซื่อสัตย์
06:05
So to make the experiment,
144
365260
2000
ดังนั้นเพื่อทำการทดลอง
06:07
I knew I'd have to go into the brain
145
367260
2000
ผมจะต้องรู้ลึกลงไปในสมอง
06:09
and manipulate oxytocin directly.
146
369260
2000
และจัดการ ออกซีโตซิน โดยตรง
06:11
I used everything short of a drill
147
371260
2000
ผมลองทุกวิธีการ
06:13
to get oxytocin into my own brain.
148
373260
3000
เพื่อเอา ออกซีโตซิน เข้าไปในสมองของผม
06:16
And I found I could do it
149
376260
2000
และผมพบว่าสามารถทำได้
06:18
with a nasal inhaler.
150
378260
2000
ด้วยเครื่อง ยาสูดพ่นทางจมูก
06:20
So along with colleagues in Zurich,
151
380260
2000
เพื่อนร่วมงานใน Zurich กับผม
06:22
we put 200 men on oxytocin or placebo,
152
382260
2000
ใน ผู้ชาย 200 คน เราให้ ออกซีโตซิน หรือ ให้ยาหลอก
06:24
had that same trust test with money,
153
384260
2000
ทำการวัดความซื่อสัตย์โดยใช้เงินล่อวิธีเดิม
06:26
and we found that those on oxytocin not only showed more trust,
154
386260
3000
และเราพบว่า คนที่ได้ ออกซีโตซิน ไม่เพียงแสดงความไว้ใจมากกว่า
06:29
we can more than double the number of people
155
389260
3000
เรายังพบว่ามีคำเป็นจำนวนถึงสองเท่า
06:32
who sent all their money to a stranger --
156
392260
2000
ที่ส่งเงินทั้งหมดให้คนแปลกหน้า
06:34
all without altering mood or cognition.
157
394260
3000
โดยไม่ต้องดัดแปลงอารมณ์หรือ ความรู้ความเข้าใจ
06:38
So oxytocin is the trust molecule,
158
398260
4000
ดังนั้น ออกซีโตซิน ก็คือโมเลกุลความน่าเชื่อถือ
06:42
but is it the moral molecule?
159
402260
3000
แต่เป็นโมเลกุลศึลธรรมหรือเปล่านะ
06:45
Using the oxytocin inhaler,
160
405260
2000
เราใช้เครื่องพ่น ออกซีโตซิน
06:47
we ran more studies.
161
407260
2000
ทำการศึกษาเพิ่มเติม
06:49
We showed that oxytocin infusion
162
409260
2000
เราพบว่าการรับ ออกซีโตซิน นั้น
06:51
increases generosity
163
411260
2000
เพิ่มความเอื้ออาทร
06:53
in unilateral monetary transfers
164
413260
2000
ในการโอนเงินฝ่ายเดียว
06:55
by 80 percent.
165
415260
2000
ถึง 80 เปอร์เซ็นต์
06:57
We showed it increases donations to charity
166
417260
2000
เราได้แสดงให้เห็นว่า มันเพิ่มการบริจาคเพื่อการกุศล
06:59
by 50 percent.
167
419260
2000
ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
07:01
We've also investigated
168
421260
2000
เราได้ตรวจสอบ
07:03
non-pharmacologic ways to raise oxytocin.
169
423260
2000
วิธีที่ไม่ใช้ยา เพิ่มออกซีโตซิน
07:05
These include massage,
170
425260
2000
รวมไปถึงการนวด
07:07
dancing and praying.
171
427260
2000
เต้นรำ และ สวดมนต์
07:09
Yes, my mom was happy about that last one.
172
429260
3000
ใช่แล้ว แม่ของผมมีความสุขกับสิ่งสุดท้ายนี้
07:12
And whenever we raise oxytocin,
173
432260
2000
และเมื่อใดก็ตามที่เราเพิ่มออกซีโตซิน
07:14
people willingly open up their wallets
174
434260
2000
คนก็เต็มใจที่จะล้วงกระเป๋าสตางค์ ของพวกเขา
07:16
and share money with strangers.
175
436260
2000
และบริจาคเงินให้กับคนแปลกหน้า
07:18
But why do they do this?
176
438260
2000
แต่ทำไมพวกเขาทำเช่นนี้
07:20
What does it feel like
177
440260
2000
อะไรที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น
07:22
when your brain is flooded with oxytocin?
178
442260
2000
เมื่อสมองของคุณท่วมไปด้วยออกซีโตซิน
07:24
To investigate this question, we ran an experiment
179
444260
3000
เพื่อทำการตอบคำถามนี้ เราทำการทดลอง
07:27
where we had people watch a video
180
447260
2000
เราให้คนดูวิดีโอ
07:29
of a father and his four year-old son,
181
449260
2000
เกี่ยวกับพ่อและลูกชายของเขาอายุ 4 ขวบ
07:31
and his son has terminal brain cancer.
182
451260
2000
และบุตรชายของเขาเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้าย
07:33
After they watched the video, we had them rate their feelings
183
453260
3000
หลังจากที่ดูวีดีโอ เราให้พวกเขาให้คะแนนความรู้สึกของพวกเขา
07:36
and took blood before and after to measure oxytocin.
184
456260
3000
และได้เก็บตัวอย่างเลือดพวกเขา ก่อน และหลังการทดลอง เพื่อการวัดออกซีโตซิน
07:39
The change in oxytocin
185
459260
2000
การเปลี่ยนแปลงระดับออกซีโตซิน
07:41
predicted their feelings of empathy.
186
461260
3000
ส่งผลปรากฏต่อความรู้สึกของความเห็นอกเห็นใจ
07:45
So it's empathy
187
465260
2000
ดังนั้น ความเห็นอกเห็นใจนั่นเอง
07:47
that makes us connect to other people.
188
467260
2000
ที่ทำให้เราเชื่อมต่อกับบุคคลอื่น
07:49
It's empathy that makes us help other people.
189
469260
3000
ความเห็นอกเห็นใจนั่นเอง ที่ทำให้เราช่วยคนอื่น
07:52
It's empathy that makes us moral.
190
472260
4000
มันคือ ความเห็นอกเห็นใจทำให้เกิดศีลธรรม
07:56
Now this idea is not new.
191
476260
2000
ความคิดนี้ไมไ่ด้แปลกใหม่เลย
07:58
A then unknown philosopher named Adam Smith
192
478260
2000
นักปรัชญาที่ไม่ใครรูจัก ชื่อ อดัม สมิท
08:00
wrote a book in 1759
193
480260
2000
เขียนหนังสือในปี 1759
08:02
called "The Theory of Moral Sentiments."
194
482260
2000
เรียกว่า "ทฤษฎีของความรู้สึกทางศีลธรรม"
08:04
In this book, Smith argued
195
484260
3000
ในหนังสือเล่มนี้ สมิท โต้เถียงว่า
08:07
that we are moral creatures, not because of a top-down reason,
196
487260
3000
เราเป็นสัตว์ประเสริฐ ไม่ใช่เนื่องจากเหตุผลที่บอกต่อๆกันมา
08:10
but for a bottom-up reason.
197
490260
2000
แต่ด้วยเหตุผลที่เราพิสูจน์กลับขึ้นไป
08:12
He said we're social creatures,
198
492260
2000
เขากล่าวว่า เราเป็นสัตว์สังคม
08:14
so we share the emotions of others.
199
494260
2000
ดังนั้น เรามีการแบ่งปันถ่ายทอดอารมณ์กับผู้อื่น
08:16
So if I do something that hurts you, I feel that pain.
200
496260
3000
ถ้าผมทำอะไรให้ผู้อื่นเจ็บปวด ผมจะรู้สึกเจ็บปวดด้วย
08:19
So I tend to avoid that.
201
499260
2000
ดังนั้น ผมมักจะหลีกเลี่ยง
08:21
If I do something that makes you happy, I get to share your joy.
202
501260
3000
ถ้าผมทำบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้คุณมีความสุข ผมได้รับส่วนร่วมความปิติของคุณ
08:24
So I tend to do those things.
203
504260
2000
ดังนั้น ผมมักจะทำสิ่งเหล่านั้น
08:26
Now this is the same Adam Smith who, 17 years later,
204
506260
2000
อดัม สมิท ผู้เดียวกัน ในอีก 17 ปี ต่อมา
08:28
would write a little book called "The Wealth of Nations" --
205
508260
3000
เขียนหนังสือเล็ก ๆ ที่เรียกว่า "ความมั่งคั่งของประเทศ" -
08:31
the founding document of economics.
206
511260
2000
เป็นเอกสารการที่ก่อตั้งวิชาเศรษฐศาสตร์
08:33
But he was, in fact, a moral philosopher,
207
513260
3000
ความจริงแล้วเขาเป็น นักปรัชญาทางศีลธรรม
08:36
and he was right on why we're moral.
208
516260
2000
และเขากล่าวถูกต้องว่า ทำไมเรามีศีลธรรม
08:38
I just found the molecule behind it.
209
518260
3000
ผมเพิ่งพบว่า มันมีโมเลกุลศีลธรรมอยู่เบื้องหลัง
08:41
But knowing that molecule is valuable,
210
521260
3000
แต่ที่การที่ได้รู้ว่ามีโมเลกุลนี้นั่น มันช่างมีค่า
08:44
because it tells us how to turn up this behavior
211
524260
3000
เนื่องจากมันจะบอก วิธีการกระตุ้นประพฤตินี้
08:47
and what turns it off.
212
527260
2000
และอะไรที่ไปยับยั้งพฤติกรรมดังกล่าว
08:49
In particular, it tells us
213
529260
2000
โดยเฉพาะ มันบอกเรา
08:51
why we see immorality.
214
531260
3000
ทำไมเราถึงเห็นคนขาดศีลธรรม
08:54
So to investigate immorality,
215
534260
2000
ดังนั้นเพื่อการตรวจสอบการขาดศีลธรรม
08:56
let me bring you back now to 1980.
216
536260
2000
ขอให้ผมนำคุณย้อนกลับไป 1980
08:58
I'm working at a gas station
217
538260
2000
ผมทำงานที่ปั๊มน้ำมัน
09:00
on the outskirts of Santa Barbara, California.
218
540260
3000
ชานเมืองของ ซานตา บาบาร่า รัฐแคลิฟอเนีย
09:03
You sit in a gas station all day,
219
543260
2000
คุณนั่งในปั๊มน้ำมันทั้งวัน
09:05
you see lots of morality and immorality, let me tell you.
220
545260
2000
คุณจะเห็นทั้งการมี และ ขาด ศีลธรรมจำนวนมาก ให้ผมเล่าอะให้คุณฟัง
09:07
So one Sunday afternoon, a man walks into my cashier's booth
221
547260
3000
วันหนึ่งตอนบ่ายวันอาทิตย์ ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปในตู้แคชเชียร์ของผม
09:10
with this beautiful jewelry box.
222
550260
2000
กับกล่องเครื่องประดับสวยงาม
09:12
Opens it up and there's a pearl necklace inside.
223
552260
2000
เปิดมันขึ้น และมีสร้อยมุกอยู่ภายใน
09:14
And he said, "Hey, I was in the men's room.
224
554260
2000
และเขากล่าวว่า "นึ่่คุณ ผมใช้ห้องน้ำผู้ชาย
09:16
I just found this. What do you think we should do with it?"
225
556260
3000
แล้วเพิ่งเจอกล่องนี้ คิดว่า เราควรทำอย่างไร"
09:19
"I don't know, put it in the lost and found."
226
559260
2000
"ไม่รู้สิ เอาไปใส่ในกล่องของหายไหม"
09:21
"Well this is very valuable.
227
561260
2000
"แต่มันมีมูลค่าสูงนะ
09:23
We have to find the owner for this." I said, "Yea."
228
563260
2000
เราต้องหาเจ้าของกล่องนี้" ผมบอกว่า "ใช่."
09:25
So we're trying to decide what to do with this,
229
565260
2000
เราพยายามตัดสินใจว่า จะทำอย่างไรกับมัน
09:27
and the phone rings.
230
567260
2000
แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
09:29
And a man says very excitedly,
231
569260
2000
ชายในโทรศัพท์พูดย่างตื้นเต้นว่า
09:31
"I was in your gas station a while ago,
232
571260
2000
"เมื่อสักครู่ ผมอยู่ในปั๊มน้ำมันของคุณ
09:33
and I bought this jewelry for my wife, and I can't find it."
233
573260
2000
และฉันได้ซื้อเครื่องประดับสำหรับภรรยาของผม และตอนนนี้หาไม่เจอ"
09:35
I said, "Pearl necklace?" "Yeah."
234
575260
2000
ฉันถาม "สร้อยมุกหรือ" ชายในโทรศัพท์ตอบ "ใช่"
09:37
"Hey, a guy just found it."
235
577260
2000
"อ้อ มีคนพบมัน"
09:39
"Oh, you're saving my life. Here's my phone number.
236
579260
2000
"โอ้ คุณช่วยชีวิตของผมไว้เลย นี้หมายเลขโทรศัพท์ของผมครับ
09:41
Tell that guy to wait half an hour.
237
581260
2000
บอกคนพบให้รอครึ่งชั่วโมงนะครับ
09:43
I'll be there and I'll give him a $200 reward."
238
583260
2000
ฉันจะไปที่ปั๊ม และจะให้รางวัล 200 ดอลล่าร์"
09:45
Great, so I tell the guy, "Look, relax.
239
585260
2000
เยี่ยมเลย ผมก็เลยบอกผู้ชายคนนั้นว่า "เอาหล่ะ สบายใจได้เลยนะ
09:47
Get yourself a fat reward. Life's good."
240
587260
3000
คุณจะได้รับรางวัลก้อนใหญ่ ชีวิตนี้ช่างดีจริง"
09:50
He said, "I can't do it.
241
590260
2000
เขากลับกล่าวว่า "ผมไม่สามารถทำได้
09:52
I have this job interview in Galena in 15 minutes,
242
592260
2000
ผมมีสัมภาษณ์งาน ที่ กาลีน่า ใน 15 นาที
09:54
and I need this job, I've got to go."
243
594260
3000
และผมต้องการงานนี้ ผมต้องไป"
09:57
Again he asked me, "What do you think we should do?"
244
597260
2000
อีกครั้ง เขาถามผม "คุณคิดว่า เราควรทำอย่างไร"
09:59
I'm in high school. I have no idea.
245
599260
3000
ผมเป็นนักเรียน ผมคิดไม่ออก
10:02
So I said, "I'll hold it for you."
246
602260
2000
ผมพูดว่า "ผมจะเก็บเงินรางวัลใว้ให้คุณ
10:04
He said, "You know, you've been so nice, let's split the reward."
247
604260
3000
เขากล่าวว่า "คุณรู้ไหม คุณเป็นคนดี เราแบ่งรางวัลกัน
10:07
I'll give you the jewelry, you give me a hundred dollars,
248
607260
2000
ผมจะให้กล่องคุณ คุณให้ฉัน 100 ดอลล่าร์นะ
10:09
and when the guy comes ... "
249
609260
2000
และเมื่อ เจ้าของมา... "
10:11
You see it. I was conned.
250
611260
2000
คุณเห็นไหม ฉันถูกตุ๋น
10:13
So this is a classic con called the pigeon drop,
251
613260
3000
ดังนั้น นี้เป็นศิลปะการลวง เรียกว่าการล่านกพิราบ
10:16
and I was the pigeon.
252
616260
2000
และผมเป็นนกพิราบ
10:18
So the way many cons work
253
618260
2000
วิธีการหลอกลวงทั่วไปที่ทำกัน
10:20
is not that the conman gets the victim to trust him,
254
620260
3000
มันไม่ใช่เรื่องปกติที่เหยื่อจะไว้ใจเขา
10:23
it's that he shows he trusts the victim.
255
623260
3000
แต่เขาแสดงให้เห็นว่าเขาไว้ใจเหยื่อ
10:26
Now we know what happens.
256
626260
2000
ตอนนี้ เรารู้ว่าอะไรเกิดขึ้น
10:28
The victim's brain releases oxytocin,
257
628260
2000
สมองของเหยื่อผลิต ออกซีโตซิน
10:30
and you're opening up your wallet or purse, giving away the money.
258
630260
3000
และคุณก็ให้กระเป๋าสตางค์ของคุณ ส่งเงินให้คนหลอกหลวงไป
10:33
So who are these people
259
633260
2000
ดังนั้น คนเหล่านี้คือใคร
10:35
who manipulate our oxytocin systems?
260
635260
3000
คือผู้จัดการระบบออกซีโตซินของเราหรือ
10:38
We found, testing thousands of individuals,
261
638260
3000
จากการทดสอบกับคนนับพัน เราพบว่า
10:41
that five percent of the population
262
641260
2000
ห้าเปอร์เซ็นต์ของประชากร
10:43
don't release oxytocin on stimulus.
263
643260
3000
ไม่ปล่อย ออกซีโตซิน เมื่อมีการกระตุ้น
10:47
So if you trust them, their brains don't release oxytocin.
264
647260
3000
ดังนั้น หากคุณไว้ใจเขา สมองของผู้หลอกลวงไม่ปล่อยออกซีโตซิน
10:50
If there's money on the table, they keep it all.
265
650260
3000
ถ้ามีเงินบนโต๊ะเท่าไร พวกเขาเก็บไปหมดแน่
10:53
So there's a technical word for these people in my lab.
266
653260
2000
มีคำทางเทคนิคสำหรับคนเหล่านี้ในแลปของผม
10:55
We call them bastards.
267
655260
3000
เราเรียกพวกเขา คนสารเลว
10:58
(Laughter)
268
658260
2000
(เสียงหัวเราะ)
11:00
These are not people you want to have a beer with.
269
660260
2000
พวกนี้ไม่ใช่คนที่คุณต้องการดื่มเบียร์ด้วย
11:02
They have many of the attributes of psychopaths.
270
662260
3000
พวกเขามีคุณลักษณะหลายข้อของพวก โรคจิต
11:06
Now there are other ways the system can be inhibited.
271
666260
2000
มีวิธีอื่น ที่ระบบสามารถถูกยับยั้งได้
11:08
One is through improper nurturing.
272
668260
3000
หนึ่งคือ ผ่านการเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม
11:11
So we've studied sexually abused women,
273
671260
3000
เราได้ศึกษา หญิงผู้ทารุณกรรมทางเพศ
11:14
and about half those don't release oxytocin on stimulus.
274
674260
3000
และประมาณครึ่งหนึ่งของพวกเขา ที่ไม่ปล่อยออกซีโตซินเมื่อมีการกระตุ้น
11:17
You need enough nurturing
275
677260
2000
คุณต้องได้รับการเลี้ยงดูที่ดีเพียงพอ
11:19
for this system to develop properly.
276
679260
2000
เพื่อให้ระบบพัฒนาอย่างถูกต้อง
11:21
Also, high stress inhibits oxytocin.
277
681260
3000
ความตรึงเครียดสูงจะยับยั้ง ออกซีโตซิน
11:24
So we all know this, when we're really stressed out,
278
684260
2000
ดังนั้น เราทุกคนทราบดีว่า เมื่อเราตรึงเครียดมากๆ
11:26
we're not acting our best.
279
686260
3000
เราทำหน้าที่ไม่ได้ดีที่สุด ที่เราทำได้
11:29
There's another way oxytocin is inhibited, which is interesting --
280
689260
3000
มีอีกวิธีที่ยับยั้ง ออกซีโตซิน ซึ่งเป็นที่น่าสนใจ
11:32
through the action of testosterone.
281
692260
3000
คือผ่านการกระทำของ ฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน)
11:35
So we, in experiments, have administered testosterone to men.
282
695260
3000
ในการทดลอง เราได้ให้ฮอร์โมนเพศชาย กับผู้ชาย
11:38
And instead of sharing money,
283
698260
2000
และแทนที่ มีการแบ่งปันการเงิน
11:40
they become selfish.
284
700260
2000
พวกเขากลับเห็นแก่ตัว
11:42
But interestingly,
285
702260
3000
แต่เป็นที่น่าสนใจว่า
11:45
high testosterone males are also more likely
286
705260
2000
ชายที่มีฮอร์โมนเพศชายสูงมักจะ
11:47
to use their own money to punish others for being selfish.
287
707260
3000
ใช้เงินของตนเองเพื่อลงโทษบุคคลอื่น ที่เห็นแก่ตัว
11:50
(Laughter)
288
710260
2000
(เสียงหัวเราะ)
11:52
Now think about this. It means, within our own biology,
289
712260
3000
ลองคิดดู นี่มันหมายความว่า ภายในชีววิทยาของเราเอง
11:55
we have the yin and yang of morality.
290
715260
3000
เรามี ทั้งด้านมืดและด้านสว่าง (หยินและหยาง) ในเรื่องศีลธรรมจรรยา
11:58
We have oxytocin that connects us to others,
291
718260
2000
เรามีออกซีโตซินที่เชื่อมต่อเรากับผู้อื่น
12:00
makes us feel what they feel.
292
720260
2000
ทำให้เรารู้สึกสิ่งที่พวกเขารู้สึก
12:02
And we have testosterone.
293
722260
2000
และเรามี ฮอร์โมนเพศชาย
12:04
And men have 10 times the testosterone as women,
294
724260
2000
และผู้ชายมี ฮอร์โมนเพศชาย มากเป็น 10 เท่าของผู้หญิง
12:06
so men do this more than women --
295
726260
2000
ดังนั้น ผู้ชายมากกว่าผู้หญิง -
12:08
we have testosterone that makes us want to punish
296
728260
3000
เรามี ฮอร์โมนเพศชาย ที่ทำให้เราต้องการลงโทษ
12:11
people who behave immorally.
297
731260
2000
คนที่ประพฤติผิดศีลธรรม
12:13
We don't need God or government telling us what to do.
298
733260
2000
เราไม่ต้องการพระเจ้าหรือรัฐบาลที่จะมาบอกเรา ว่าต้องทำอย่างไร
12:15
It's all inside of us.
299
735260
3000
ทั้งหมดอยู่ภายในเรา
12:18
So you may be wondering:
300
738260
2000
ดังนั้น คุณอาจจะสงสัย:
12:20
these are beautiful laboratory experiments,
301
740260
2000
ทั้งหมดนี้เป็นการทดลองทางห้องปฏิบัติการที่สวยงาม
12:22
do they really apply to real life?
302
742260
2000
มันนำมาใช้กับชีวิตจริงได้หรือ
12:24
Yeah, I've been worrying about that too.
303
744260
2000
ครับ ผมก็มีความกังวล เกี่ยวกับการทดลองนี้
12:26
So I've gone out of the lab
304
746260
2000
ดังนั้น ผมได้ไปออกไปจากแลป
12:28
to see if this really holds in our daily lives.
305
748260
2000
เพื่อจะได้ดูว่า มันเป็นเรื่องจริงในชีวิตประจำวันของเรา
12:30
So last summer, I attended a wedding in Southern England.
306
750260
3000
ดังนั้นฤดูร้อนที่แล้ว ผมไปงานแต่งงานใน อังกฤษทางตอนใต้
12:33
200 people in this beautiful Victorian mansion.
307
753260
3000
มีคน 200 คนในคฤหาสน์ยุควิกตอเรียที่สวยงามนี้
12:36
I didn't know a single person.
308
756260
2000
ผมไม่รู้จักใครเลยสักคนเดียว
12:38
And I drove up in my rented Vauxhall.
309
758260
2000
และผมขับรถเช่าว๊อกฮอล (Vauxhall)
12:40
And I took out a centrifuge and dry ice
310
760260
2000
เอาตู้เย็นและน้ำแข็งแห้ง
12:42
and needles and tubes.
311
762260
2000
และเข็ม และหลอด
12:44
And I took blood from the bride and the groom
312
764260
2000
และผมเก็บเลือดจากเจ้าสาวและเจ้าบ่าว
12:46
and the wedding party and the family and the friends
313
766260
2000
และคนที่งานแต่งงาน และครอบครัว และเพื่อน
12:48
before and immediately after the vows.
314
768260
2000
ก่อน และ หลังการกล่าวคำสาบาน ทันที
12:50
(Laughter)
315
770260
2000
(เสียงหัวเราะ)
12:52
And guess what?
316
772260
2000
และเดาซิว่าอะไร
12:54
Weddings cause a release of oxytocin,
317
774260
2000
พิธีแต่งงานทำให้เกิด ออกซีโตซิน
12:56
but they do so in a very particular way.
318
776260
3000
มันทำให้เกิดเช่นนั้นด้วยวิธีการหนึ่ง
12:59
Who is the center of the wedding solar system?
319
779260
2000
ใครเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะแต่งงานหรือ?
13:01
The bride.
320
781260
2000
เจ้าสาว
13:03
She had the biggest increase in oxytocin.
321
783260
2000
เธอมีออกซีโตซินเพิ่มสูงมากที่สุด
13:05
Who loves the wedding almost as much as the bride?
322
785260
3000
ผู้ที่รักงานการแต่งเกือบเท่าเจ้าสาวคือใคร
13:08
Her mother, that's right.
323
788260
2000
คุณแม่เจ้าสาว ถูกต้อง
13:10
Her mother was number two.
324
790260
2000
แม่ของเธอเป็นอันดับสอง
13:12
Then the groom's father, then the groom,
325
792260
2000
จาก นั้นคุณพ่อของเจ้าบ่าว แล้วเจ้าบ่าว
13:14
then the family, then the friends --
326
794260
2000
จาก นั้นครอบครัว และเพื่อนๆ
13:16
arrayed around the bride
327
796260
2000
รอบๆ จ้าสาว
13:18
like planets around the Sun.
328
798260
2000
เหมึอนเช่นดาวเคราะห์รอบๆ ดวงอาทิตย์
13:20
So I think it tells us that we've designed this ritual
329
800260
3000
ดังนั้นคิดดูครับ มันบอกเราว่า เราได้ออกแบบพิธีการนี้
13:23
to connect us to this new couple,
330
803260
2000
เพื่อเชื่อมต่อเรากับคู่รักใหม่นี้
13:25
connect us emotionally.
331
805260
2000
เชื่อมต่อเราด้านอารมณ์
13:27
Why? Because we need them to be successful at reproducing
332
807260
3000
ทำไม เนื่องจากเราต้องการประสบความสำเร็จ ในการสร้างทายาท
13:30
to perpetuate the species.
333
810260
3000
ขยายเผ่าพันธ์
13:33
I also worried that my trust experiments with small amounts of money
334
813260
3000
ผมยังเป็นกังวลว่า การทดลองเรื่องความซื่อสัตย์ของผม ด้วยเงินจำนวนน้อย
13:36
didn't really capture how often we actually trust our lives to strangers.
335
816260
4000
ไม่ได้จับความจริงเรื่องความไว้ใจใน ชีวิตของเรากับคนแปลกหน้า
13:40
So even though I have a fear of heights,
336
820260
2000
แม้ว่า ผมจะกลัวความสูง
13:42
I recently strapped myself to another human being
337
822260
2000
ผมเพิ่งจะผูกตัวเองกับมนุษย์อีกคน
13:44
and stepped out of an airplane at 12,000 ft.
338
824260
3000
และโดดออกเครื่องบินความสูง 12,000 ฟุต
13:47
I took my blood before and after,
339
827260
2000
ผมเก็บเลือดของตัวเองก่อน และหลัง
13:49
and I had a huge spike of oxytocin.
340
829260
3000
และผมมี ออกซีโตซิน พุ่งสูงมาก
13:52
And there are so many ways we can connect to people.
341
832260
3000
มีหลายวิธีที่เราสามารถเชื่อมต่อกับคน
13:55
For example, through social media.
342
835260
2000
ตัวอย่าง ผ่านสื่อสังคม
13:57
Many people are Tweeting right now.
343
837260
2000
หลายคนกำลังเล่นทวิตเตอร์อยู่
13:59
So we investigated the role of social media
344
839260
2000
ดังนั้นเราทำการตรวจสอบ บทบาทของสื่อต่อสังคม
14:01
and found the using social media
345
841260
2000
และพบว่าการใช้สื่อสังคม
14:03
produced a solid double-digit increase in oxytocin.
346
843260
3000
ผลิตออกซีโตซิน สูงขึ้นด้วยเลขสองหลักอย่างชัดเจน
14:06
So I ran this experiment recently for the Korean Broadcasting System.
347
846260
3000
ดังนั้น ผมทำการทดลองเมื่อเร็ว ๆ นี้ สำหรับระบบกระจายเสียงภาษาเกาหลี
14:09
And they had the reporters and their producers participate.
348
849260
4000
และเขาเหล่านั้นมีนักข่าว และ ผู้ผลิตรายการเข้าร่วมด้วย
14:13
And one of these guys, he must have been 22,
349
853260
2000
และชายคนหนึ่งในกลุ่ม อายุคงจะ 22
14:15
he had 150 percent spike in oxytocin.
350
855260
3000
เขามี ออกซีโตซินเพิ่มสูงขึ้น 150 เปอร์เซ็นต์
14:18
I mean, astounding; no one has this.
351
858260
2000
น่าประหลาดใจที่ไม่มีใครเป็นแบบนี้
14:20
So he was using social media in private.
352
860260
2000
เขาใช้ สื่อสังคมเป็นการส่วนตัว
14:22
When I wrote my report to the Koreans,
353
862260
2000
เมื่อผมเขียนรายงานให้คนเกาหลี
14:24
I said, "Look, I don't know what this guy was doing,"
354
864260
2000
ผมบอกว่า "อืม ผมไม่รู้นะ ว่าผู้ชายคนนั้นทำอะไร"
14:26
but my guess was interacting with his mother or his girlfriend.
355
866260
3000
แต่ผมเดาว่า เขาคงติดต่อกับแม่ของเขาหรือแฟนของเขาอยู่
14:29
They checked.
356
869260
2000
เขาตรวจสอบ
14:31
He was interacting on his girlfriend's Facebook page.
357
871260
2000
เขาเล่นเฟสบุ๊คกับของแฟนของเขา
14:33
There you go. That's connection.
358
873260
3000
นั่นไงหล่ะ นี่แหละคือการเชื่อมต่อ
14:36
So there's tons of ways that we can connect to other people,
359
876260
3000
มีวิธีที่เราสามารถเชื่อมต่อกับคนอื่นมากมาย
14:39
and it seems to be universal.
360
879260
2000
และดูเหมือนว่าเป็นสากล
14:41
Two weeks ago,
361
881260
2000
สองสัปดาห์ที่ผ่านมา
14:43
I just got back from Papua New Guinea
362
883260
2000
ฉันเพิ่งได้กลับมาจากปาปัวนิวกินี
14:45
where I went up to the highlands --
363
885260
2000
ที่ผมไปบนเขตตอนเหนือ
14:47
very isolated tribes of subsistence farmers
364
887260
3000
มีเผ่าของเกษตรกรที่แยกจากการติดต่อ
14:50
living as they have lived for millenia.
365
890260
3000
ชีวิตพวกเขาได้ อาศัยอยู่มาเป็นพันปี
14:53
There are 800 different languages in the highlands.
366
893260
3000
มีภาษาต่าง ๆ 800 ภาษา ในเขตภูเขาทางตอนเหนือนั้น
14:56
These are the most primitive people in the world.
367
896260
3000
พวกเขาเป็นคนกลุ่มดั้งเดิมที่สุดของโลก
14:59
And they indeed also release oxytocin.
368
899260
3000
และพวกเขาแน่นอน มีการสร้าง ออกซีโตซิน
15:02
So oxytocin connects us to other people.
369
902260
4000
ดังนั้น ออกซีโตซินเชื่อมต่อเรากับคนอื่น
15:06
Oxytocin makes us feel what other people feel.
370
906260
2000
ออกซีโตซินทำให้เรารู้สึกว่าคนอื่นรู้สึกอะไร
15:08
And it's so easy to cause people's brains
371
908260
3000
และมันง่ายมาก ที่จะทำให้สมองของคน
15:11
to release oxytocin.
372
911260
2000
หลั่งออกซีโตซิน
15:13
I know how to do it,
373
913260
2000
ผมรู้วิธีการทำ
15:15
and my favorite way to do it is, in fact, the easiest.
374
915260
2000
และวิธีที่ผมชอบที่สุด ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
15:17
Let me show it to you.
375
917260
2000
ผมจะแสดงคุณดู
15:24
Come here. Give me a hug.
376
924260
2000
มานี่สิ ให้ผมกอด
15:26
(Laughter)
377
926260
2000
(เสียงหัวเราะ)
15:28
There you go.
378
928260
2000
นั่นปะไร
15:30
(Applause)
379
930260
9000
(เสียงปรบมือ)
15:39
So my penchant for hugging other people
380
939260
2000
ดังนั้น การที่ผมชอบกอดคนอื่น
15:41
has earned me the nickname Dr. Love.
381
941260
2000
ทำให้ผมได้ชื่อเล่น ว่า ดร.เลิฟ
15:43
I'm happy to share a little more love in the world,
382
943260
2000
ยินดีที่ร่วมแบ่งปันความรักเล็กๆนี้ให้กับโลก
15:45
it's great,
383
945260
2000
มันเยี่ยมมาก
15:47
but here's your prescription from Dr. Love:
384
947260
2000
แต่นี่เป็นของใบสั่งยาจาก ดร.เลิฟ
15:49
eight hugs a day.
385
949260
3000
กอดกันแปดครั้งต่อวัน
15:52
We have found that people who release more oxytocin
386
952260
2000
เราพบว่าคนที่หลั่งออกซีโตซินมาก
15:54
are happier.
387
954260
2000
มีความสุขมากขึ้น
15:56
And they're happier
388
956260
2000
และพวกเขาก็มีความสุขมากขึ้น
15:58
because they have better relationships of all types.
389
958260
3000
เนื่องจากพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีทุกชนิด
16:01
Dr. Love says eight hugs a day.
390
961260
3000
ดร.เลิฟ บอกให้กอดแปดครั้งต่อวัน
16:04
Eight hugs a day -- you'll be happier
391
964260
2000
กอดแปดครั้งต่อวัน แล้วคุณจะมีความสุขมากขึ้น
16:06
and the world will be a better place.
392
966260
2000
และโลกจะเป็นที่ที่ดีกว่านี้
16:08
Of course, if you don't like to touch people, I can always shove this up your nose.
393
968260
3000
แน่นอน ถ้าคุณไม่ชอบสัมผัสคนอื่น ผมสามารถเอาเข็มฉีดทิ่มไปในจมูกคุณได้นะครับ
16:11
(Laughter)
394
971260
2000
(เสียงหัวเราะ)
16:13
Thank you.
395
973260
2000
ขอบคุณครับ
16:15
(Applause)
396
975260
13000
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7