Turning trash into toys for learning | Arvind Gupta

Translator: Suwitcha Chandhorn Reviewer: Bank Light

My name is Arvind Gupta, and I'm a toymaker.

ผมชื่ออาร์วิน คุปตะ เป็นนักประดิษฐ์ของเล่น

I've been making toys for the last 30 years.

ผมทำของเล่นมา 30 ปีแล้ว

The early '70s, I was in college.

ในช่วงแรกของยุค 70s (ราวปี พ.ศ.2513) ผมกำลังเรียนมหาวิทยาลัย

It was a very revolutionary time.

มันเป็นช่วงเวลาแห่งการปฏิวัติ

It was a political ferment, so to say --

มันเป็นความวุ่นวายทางการเมือง บอกได้ว่า

students out in the streets of Paris,

นักศึกษาออกมาตามท้องถนนในปารีส

revolting against authority.

ต่อต้านผู้มีอำนาจ

America was jolted

อเมริกาตื่นตระหนก

by the anti-Vietnam movement, the Civil Rights movement.

กับการเคลื่อนไหวต่อต้านเวียดนาม และสิทธิพลเมือง

In India, we had the Naxalite movement,

ในอินเดีย เรามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักซัลไลท์

the [unclear] movement.

เป็นการเคลื่อนไหวที่ ...

But you know, when there is a political churning of society,

แต่รู้ไหม เมื่อการเมืองทำให้สังคมป่วน

it unleashes a lot of energy.

มันได้คายพลังงานออกมามากมาย

The National Movement of India

การเคลื่อนไหวระดับชาติของอินเดีย

was testimony to that.

เป็นหลักฐานยืนยันเรื่องนั้น

Lots of people resigned from well-paid jobs

คนมากมายออกจากงานที่มีรายได้ดี

and jumped into the National Movement.

แล้วเข้าร่วมการเคลื่อนไหวดังกล่าว

Now in the early '70s,

แล้วในช่วงต้นของปี 70s

one of the great programs in India

หนึ่งในแผนงานที่ดีที่สุดในอินเดีย

was to revitalize

คือการฟื้นฟูสภาพให้กับ

primary science in village schools.

วิทยศาสตร์พื้นฐานในโรงเรียนประจำหมู่บ้าน

There was a person, Anil Sadgopal, did a Ph.D. from Caltech

มีคนนึง อนิล แซดโกพัล ผู้ที่ได้ปริญญาเอกจากวิทยาลัย Caltech

and returned back as a molecular biologist

และกลับมาในฐานะนักชีววิทยาโมเลกุล

in India's cutting-edge research institute, the TIFR.

แห่งสถาบันสุดล้ำของอินเดียที่ชื่อ TIFR

At 31, he was not able

ตอนอายุ 31 เขาไม่สามารถ

to relate the kind of [unclear] research,

ที่จะเชื่อมโยงงานวิจัยบางอย่าง...

which he was doing with the lives of the ordinary people.

ซึ่งเขาทดลองกับชีวิตผู้คนได้

So he designed and went and started a village science program.

ดังนั้นเขาจึงออกแบบ และริเริ่มแผนงานวิทยาศาตร์หมู่บ้านขึ้น

Many people were inspired by this.

หลายคนได้แรงบันดาลใจจากเรื่องนี้

The slogan of the early '70s

สโลแกนของช่วงต้นยุค 70s

was "Go to the people.

จึงเป็น "ไปหาผู้คน

Live with them; love them.

อยู่กับพวกเขา รักพวกเขา

Start from what they know. Build on what they have."

เริ่มจากสิ่งที่เขารู้ สร้างจากสิ่งที่เขามี"

This was kind of the defining slogan.

สโลแกนอะไรประมาณนี้แหละ

Well I took one year.

อืม ผมใช้เวลาประมาณหนึ่งปี

I joined Telco, made TATA trucks, pretty close to Pune.

เข้าร่วมกับเทลโค สร้างรถบรรทุกทาทา ใกล้ๆเมืองปูเน่

I worked there for two years,

ทำงานอยู่ที่นั่นสองปี

and I realized that I was not born to make trucks.

แล้วเลยคิดได้ว่า ผมไม่เหมาะกับงานนี้เลย

Often one doesn't know what one wants to do,

บ่อยครั้งที่คนเราไม่รู้ว่าเราต้องการจะทำอะไรกันแน่

but it's good enough to know what you don't want to do.

แต่ก็ยังดีที่คนเรารู้ว่าเราไม่อยากจะทำอะไร

So I took one year off, and I went to this village science program.

เพราะงั้นผมเลยหยุดงานปีนึง แล้วไปที่หมู่บ้าน

And it was a turning point.

และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตผม

It was a very small village --

มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆ

a weekly bazaar

มีตลาดนัดทุกอาทิตย์

where people, just once in a week, they put in all the vats.

ที่ซึ่งคนมารวมกัน ทุกสัปดาห์ เอาภาชนะทั้งหมดมารวมกัน

So I said, "I'm going to spend a year over here."

ผมบอกคุณแล้วว่า "ผมจะมาอยู่ที่นี่ซักปีนึง"

So I just bought one specimen

ผมเลยซึ้อของตัวอย่างมาหนึ่งชิ้น

of everything which was sold on the roadside.

สำหรับทุกอย่างที่ขายอยู่ริมถนน

And one thing which I found

และสิ่งหนึ่งที่ผมค้นพบ

was this black rubber.

คือยางสีดำ

This is called a cycle valve tube.

นี่เรียกว่าท่อวาล์ววงกลม

When you pump in air in a bicycle, you use a bit of this.

ตอนที่คุณเติมลมจักรยาน คุณต้องใช้มันนิดหน่อย

And some of these models --

และของตัวอย่างบางชิ้น

so you take a bit of this cycle valve tube,

คุณเอาเจ้ายางนี่นิดหน่อย

you can put two matchsticks inside this, and you make a flexible joint.

คุณใส่ไม้ขีดเข้าไปสองก้านด้านใน แล้วทำข้อต่อที่หมุนได้

It's a joint of tubes. You start by teaching angles --

มันกลายเป็นจุดรวมท่อ คุณเริ่มโดยสอนเรื่องมุม

an acute angle, a right angle, an obtuse angle, a straight angle.

มุมแหลม มุมขวา มุมป้าน มุมตรง

It's like its own little coupling.

มันคล้ายคู่ชิ้นเล็กๆของมันเอง

If you have three of them, and you loop them together,

ถ้าคุณมีสามอัน แล้วประกบเข้าด้วยกัน

well you make a triangle.

คุณจะได้สามเหลี่ยม

With four, you make a square,

ถ้าสี่ คุณจะได้สี่เหลี่ยม

you make a pentagon, you make a hexagon,

คุณทำห้าเหลี่ยม หกเหลี่ยม

you make all these kind of polygons.

คุณทำรูปหลายเหลี่ยมได้ทุกแบบ

And they have some wonderful properties.

และพวกมันมีคุณสมบัติที่มหัศจรรย์

If you look at the hexagon, for instance,

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณดูที่หกเหลี่ยม

it's like an amoeba, which is constantly changing its own profile.

มันคล้ายๆตัวอมีบา ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบตัวมันเองไปเรื่อยๆ

You can just pull this out, this becomes a rectangle.

คุณแค่ดึงตรงนี้ มันกลายเป็นสี่เหลี่ยม

You give it a push, this becomes a parallelogram.

ถ้าคุณผลัก มันจะกลายเป็นสี่เหลี่ยมรูปขนาน

But this is very shaky.

และนี่น่าตัวสั่นมาก

Look at the pentagon, for instance,

ตัวอย่างเช่น ดูที่ห้าเหลี่ยม

pull this out -- it becomes a boat shape trapezium.

ดึงนี่ออก มักลายเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูทรงเรือ

Push it and it becomes house shaped.

ผลักมัน แล้วมันจะกลายเป็นรูปบ้าน

This becomes an isosceles triangle --

นี่กลายเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า

again, very shaky.

อีกครั้ง น่าตัวสั่นมาก

This square might look very square and prim.

สี่เหลี่ยมนี่ดูเท่ากันและเรียบร้อย

Give it a little push -- this becomes a rhombus.

ผลักมันนิดหน่อย มันก็กลายเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน

It becomes kite-shaped.

มันกลายเป็นทรงว่าว

But give a child a triangle,

แต่ถ้าให้สามเหลี่ยมกับเด็ก

he can't do a thing to it.

เขาจะทำอะไรกับมันไม่ได้

Why use triangles?

ทำไมต้องสามเหลี่ยมล่ะ?

Because triangles are the only rigid structures.

เพราะสามเหลี่ยมเป็นโครงสร้างเดียวที่ไม่ยืดหยุ่น

We can't make a bridge with squares

เราไม่สามารถสร้างสะพานด้วยสี่เหลี่ยม

because the train would come, it would start doing a jig.

เพราะเมื่อรถไฟมา มันจะส่ายไปมา

Ordinary people know about this

คนทั่วไปรู้เรื่องนี้

because if you go to a village in India,

เพราะถ้าคุณไปตามหมู่บ้านในอินเดีย

they might not have gone to engineering college,

พวกเขาอาจจะไม่ได้ไปเรียนวิทยาลัยที่สอนวิศวกรรม

but no one makes a roof placed like this.

แต่ก็ไม่มีใครสร้างหลังคาตามรูปแบบนี้

Because if they put tiles on top, it's just going to crash.

เพราะถ้าเขาเอากระเบื้องวางข้างบน มันก็จะพังลงมา

They always make a triangular roof.

พวกเขาจะทำหลังคาสามเหลี่ยมเสมอ

Now this is people science.

ตอนนี้มันคือศาสตร์ของคน

And if you were to just poke a hole over here

และถ้าคุณแค่เจาะรูตรงนี้

and put a third matchstick,

และใส่ไม่ขีดก้านที่สามเข้าไป

you'll get a T joint.

คุณจะได้ข้อต่อรูปตัว T

And if I were to poke all the three legs of this

แล้วถ้าผมจิ้มขาทั้งสามของมัน

in the three vertices of this triangle,

ไปยังจุดตัดทั้งสามของสามเหลี่ยม

I would make a tetrahedron.

ผมก็จะได้ทรงสี่หน้า

So you make all these 3D shapes.

ดังนั้นคุณสร้างทรงสามมิติทั้งหมดนี่

You make a tetrahedron like this.

คุณสร้างทรงสี่หน้าเหมือนอย่างนี้

And once you make these,

และเมื่อคุณสร้างนี่

you make a little house.

คุณได้สร้างบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่งขึ้นมา

Put this on top.

วางนี่ลงข้างบน

You can make a joint of four. You can make a joint of six.

คุณสามารถสร้างจุดร่วมของสี่ชิ้น หกชิ้น

You just need a ton.

คุณแค่ต้องการมากๆ

Now this was -- you make a joint of six,

ตอนนี้คือ คุณสร้างจุดร่วมของหกชิ้น

you make an icosahedron.

คุณจะได้ทรงยี่สิบหน้า

You can play around with it.

คุณเล่นกับมันไปได้เรื่อย

This makes an igloo.

นี่คือกระท่อมน้ำแข็ง

Now this is in 1978.

ตอนนั้นปี 1978

I was a 24-year-old young engineer.

ผมเป็นวิศวกรหนุ่ม อายุแค่ 24

And I thought this was so much better than making trucks.

และผมก็คิดว่านี่มันเจ๊งกว่าการสร้างรถบรรทุกมาก

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

If you, as a matter of fact, put four marbles inside,

ความจริง ถ้าคุณใส่ลูกหินเข้าไปข้างใน

you simulate the molecular structure of methane, CH4.

คุณกระตุ้นโครงสร้างโมเลกุลของมีเธน CH4

Four atoms of hydrogen, the four points of the tetrahedron,

อะตอมจากไฮโดรเจน 4 แทน 4 จุดในทรงสี่หน้า

which means the little carbon atom.

หมายความถึงอะตอมของคาร์บอนเล็กๆ

Well since then,

ตั้งแต่นั้นมา

I just thought that I've been really privileged

ผมคิดว่าผมมีอภิสิทธิ์จริงๆ

to go to over 2,000 schools in my country --

ที่ได้ไปยังโรงเรียนกว่าสองพันโรงทั่วประเทศ

village schools, government schools,

โรงเรียนหมู่บ้าน โรงเรียนรัฐ

municipal schools, Ivy League schools --

โรงเรียนเทศบาล โรงเรียนชั้นนำ

I've been invited by most of them.

โดยมากผมจะได้รับเชิญ

And every time I go to a school,

ทุกครั้งที่ผมไปโรงเรียน

I see a gleam in the eyes of the children.

ผมเห็นเด็กๆตาเป็นประกาย

I see hope. I see happiness in their faces.

ผมเห็นความหวัง ความสุขบนใบหน้าของพวกเขา

Children want to make things. Children want to do things.

เด็กๆต้องการสร้างบางสิ่ง ต้องการทำบางสิ่ง

Now this, we make lots and lots of pumps.

เราทำปั๊มลมจำนวนมาก

Now this is a little pump

นี่คือปั๊มลมเล็กๆ

with which you could inflate a balloon.

ซึ่งคุณใช้เติมลมลูกโป่งได้

It's a real pump. You could actually pop the balloon.

มันเป็นปั๊มจริงๆ คุณใช้เติมลมลูกโป่งได้จริง

And we have a slogan

และเรามีสโลแกนว่า

that the best thing a child can do with a toy is to break it.

สิ่งที่ดีที่สุดที่เด็กทำได้กับของเล่นก็คือ ทำมันพัง

So all you do is --

ดังนั้นสิ่งที่คุณทำคือ

it's a very kind of provocative statement --

มันค่อนข้างจะเป็นประโยคที่กวนโทสะหน่อยนะ

this old bicycle tube and this old plastic [unclear]

ท่อจักรยานเก่า และพลาสติกเก่านี่

This filling cap will go very snugly into an old bicycle tube.

ฝาครอบนี้น่าจะพอดีกับท่อจักรยาน

And this is how you make a valve.

และนี่คือวิธีที่คุณทำวาล์ว

You put a little sticky tape.

คุณใช้เทปกาวเล็กน้อย

This is one-way traffic.

มันเป็นวิธีเดียว

Well we make lots and lots of pumps.

เราทำปั๊มลมจำนวนมาก

And this is the other one --

และนี่คืออีกอันหนึ่ง

that you just take a straw, and you just put a stick inside

ที่คุณแค่เอาหลอดมา เอาแท่งไม้ใส่ด้านใน

and you make two half-cuts.

ตัดครึ่งสองส่วน

Now this is what you do,

และนี่คือวิธีที่คุณเล่น

is you bend both these legs into a triangle,

คือคุณพับสองขานี้เข้าด้วยกันเป็นสามเหลี่ยม

and you just wrap some tape around.

แล้วคุณก็พันเทปรอบๆ

And this is the pump.

และนี่คือปั๊ม

And now, if you have this pump,

ตอนนี้คุณมีปั๊มนี่

it's like a great, great sprinkler.

มันคล้ายกับที่พ่นน้ำเจ๋งๆอันนึง

It's like a centrifuge.

มันคล้ายกับเครื่องรดน้ำต้นไม้

If you spin something, it tends to fly out.

ถ้าคุณปั่นบางอย่าง มันมักจะบินออกไป

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Well in terms of -- if you were in Andhra Pradesh,

เรื่องเกี่ยวกับ ถ้าคุณอยู่ในรัฐอานธรประเทศ

you would make this with the palmyra leaf.

คุณจะทำสิ่งนี้ด้วยใบปาล์มรูปพัด

Many of our folk toys

ของเล่นประจำถิ่นของเราหลายชิ้น

have great science principles.

เป็นไปตามหลักวิทยาศาตร์ที่ยอดเยี่ยม

If you spin-top something, it tends to fly out.

ถ้าคุณปั่นบางสิ่ง มันมักจะบินออกไป

If I do it with both hands, you can see this fun Mr. Flying Man.

ถ้าคุณปั่นมันด้วยสองมือ คุณจะได้สนุกไปกับ คนบิน!

Right.

ช่าย

This is a toy which is made from paper. It's amazing.

ของเล่นนี่ทำจากกระดาษ เจ๋งมากใช่ไหมล่ะ

There are four pictures.

มีภาพสี่ภาพ

You see insects,

คุณเห็นแมลง

you see frogs, snakes, eagles, butterflies,

คุณเห็นกบ งู อินทรี ผีเสื้อ

frogs, snakes, eagles.

กบ งู อินทรี

Here's a paper which you could [unclear] --

นี่เป็นกระดาษที่คุณสามารถ...[ไม่ชัด]

designed by a mathematician at Harvard in 1928,

ออกแบบโดยนักคณิตศาสตร์จากฮาวาร์ดในปี 1928

Arthur Stone,

อาเธอร์ สโตน

documented by Martin Gardner in many of his many books.

บันทึกโดยมาร์ติน การ์ดเนอร์ในหนังสือหลายเล่มของเขา

But this is great fun for children.

แต่นี่คือความสนุกสุดยอดของเด็กๆ

They all study about the food chain.

พวกเขาทั้งหมดได้เรียนรู้เกี่ยวกับห่วงโซ่อาหาร

The insects are eaten by the frogs; the frogs are eaten by the snakes;

แมลงถูกกินโดยกบ กบถูกกินโดยงู

the snakes are eaten by the eagles.

งูถูกกินโดยอินทรี

And this can be, if you had a whole photocopy paper --

และนี่เป็นไปได้ เพียงแค่คุณมีกระดาษถ่ายเอกสาร

A4 size paper --

ขนาด A4

you could be in a municipal school, you could be in a government school --

คุณอาจจะอยู่ในโรงเรียนเทศบาล คุณอาจจะอยู่ในโรงเรียนรัฐ

a paper, a scale and a pencil -- no glue, no scissors.

กระดาษ ไม้บรรทัด และดินสอ กาวไม่ต้อง กรรไกรไม่ต้อง

In three minutes, you just fold this up.

ในสามนาที คุณแค่พับนี่

And what you could use it for is just limited by your imagination.

และวิธีที่คุณจะใช้มันก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของคุณ

If you take a smaller paper, you make a smaller flexagon.

ถ้าคุณใช้กระดาษเล็กหน่อย คุณก็จะได้ทรงหกเหลี่ยมที่ขนาดเล็กลง

With a bigger one, you make a bigger one.

ถ้าใช้กระดาษใหญ่ คุณก็จะได้อันใหญ่

Now this is a pencil with a few slots over here.

นี่คือดินสอที่มีช่องนิดหน่อยตรงนี้

And you put a little fan here.

และคุณใส่พัดลมเล็กๆที่นี่

And this is a hundred-year-old toy.

และนี่คือของเล่นอายุร้อยปี

There have been six major research papers on this.

มีคนทำงานวิจัยสำคัญถึงหกฉบับเกี่ยวกับมัน

There's some grooves over here, you can see.

มีร่องตรงนี้ คุณเห็นได้

And if I take a reed -- if I rub this,

และถ้าผมใช้ไม้รวก ถ้าผมถูตรงนี้

something very amazing happens.

สิ่งมหัศจรรย์มากๆจะเกิดขึ้น

Six major research papers on this.

มีงานวิจัยสำคัญหกเรื่องเกี่ยวกับสิ่งนี้

As a matter of fact, Feynman, as a child, was very fascinated by this.

ที่จริงแล้ว เฟย์นแมน เมื่อตอนเป็นเด็ก ก็หลงไหลด้วยสิ่งนี้เช่นกัน

He wrote a paper on this.

เขาเขียนงานเกี่ยวกับมัน

And you don't need the three billion-dollar Hadron Collider

คุณไม่ต้องการเครื่องเร่งความเร็วอนุภาคราคาแพง

for doing this. (Laughter) (Applause)

เพื่อทำสิ่งนี้

This is there for every child,

มันอยู่ที่นั่นเพื่อเด็กทุกคน

and every child can enjoy this.

และเด็กทุกคนสามารถสนุกกับมันได้

If you want to put a colored disk,

ถ้าคุณต้องการเพิ่มจานสี

well all these seven colors coalesce.

ทั้งหมดเจ็ดสีนี้เชื่อมต่อกัน

And this is what Newton talked about 400 years back,

และนี่คือสิ่งที่นิวตันพูดถึงเมื่อสี่ร้อยปีที่แล้ว

that white light's made of seven colors,

ที่ว่าแสงประกอบด้วยสีทั้งเจ็ด

just by spinning this around.

แค่เพียงหมุนนี่ไปเรื่อยๆ

This is a straw.

นี่คือหลอด

What we've done, we've just sealed both the ends with tape,

ที่เราทำคือ ปิดปลายทั้งสองด้วยเทป

nipped the right corner and the bottom left corner,

หนีบตรงมุมขวา และมุมล่างซ้าย

so there's holes in the opposite corners, there's a little hole over here.

แล้วจะมีรูตรงมุมตรงข้าม มีรูเล็กๆตรงนี้

This is a kind of a blowing straw.

นี่เป็นหลอดหมุนได้ชนิดหนึ่ง

I just put this inside this.

ผมแค่เอามันใส่ลงไปในนี้

There's a hole here, and I shut this.

มีรูตรงนี้ ผมปิดตรงนี้

And this costs very little money to make --

และนี่เสียเงินนิดเดียวในการทำ

great fun for children to do.

เด็กๆสนุกสุดๆที่จะทำมัน

What we do

สิ่งที่เราทำ

is make a very simple electric motor.

คือการสร้างมอเตอร์ไฟฟ้าง่ายๆ

Now this is the simplest motor on Earth.

และนี่คือมอเตอร์ที่พื้นฐานที่สุดในโลก

The most expensive thing is the battery inside this.

สิ่งที่แพงที่สุดคือถ่านที่อยู่ด้านใน

If you have a battery, it costs five cents to make it.

ถ้าคุณมีถ่าน ก็สร้างมันได้แค่ไม่กี่บาท

This is an old bicycle tube,

นี่คือยางจักรยานเก่า

which gives you a broad rubber band, two safety pins.

ซึ้งกลายเป็นแผ่นยางกว้าง มีหมุดยึดสองจุด

This is a permanent magnet.

นี่คือแม่เหล็ก

Whenever current flows through the coil, this becomes an electromagnet.

เมื่อไรก็ตามที่มีกระแสผ่านขดลวด มันจะกลายเป็นแม่เหล็กไฟฟ้า

It's the interaction of both these magnets

มันเป็นปฏิกริยาระหว่างแม่เหล็กสองชิ้นนี้

which makes this motor spin.

ที่ทำให้มอเตอร์หมุน

We made 30,000.

เราทำมันสามหมื่นชิ้น

Teachers who have been teaching science for donkey years,

ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์มานานหลายปี

they just muck up the definition and they spit it out.

ได้ทำให้คำนิยามเสียไป พวกเขาพ่นมันออกมา

When teachers make it, children make it.

เมื่อครูทำมัน เด็กๆก็ทำมัน

You can see a gleam in their eye.

คุณจะได้เห็นประกายในตาพวกเขา

They get a thrill

พวกเขาตื่นเต้น

of what science is all about.

เกี่ยวกับสิ่งที่วิทยาศาสตร์บอก

And this science is not a rich man's game.

และวิทยาศาสตร์นี้ไม่ใช่เรื่องของคนรวย

In a democratic country,

ในประเทศประชาธิปไตย

science must reach to our most oppressed,

วิทยาศาสตร์ต้องเข้าถึงเด็กที่ถูกกดขี่

to the most marginalized children.

ไปจนถึงเด็กที่ถูกละเลยที่สุด

This program started with 16 schools

แผนงานนี้เริ่มจากโรงเรียน 16 แห่ง

and spread to 1,500 government schools.

และขยายไปยังโรงเรียนรัฐบาลถึง 1,500 แห่ง

Over 100,000 children learn science this way.

เด็กกว่าแสนคนเรียนวิทยาศาสตร์ด้วยวิธีนี้

And we're just trying to see possibilities.

และเราแค่อยากลองเพื่อให้เห็นความเป็นไปได้

Look, this is the tetrapak --

ดูสิ นี่คือ Tetra Pak

awful materials from the point of view of the environment.

วัสดุที่แย่มากในมุมมองของสิ่งแวดล้อม

There are six layers -- three layers of plastic, aluminum --

มีทั้งหมดหกชั้น พลาสติกสามชั้น อลูมิเนียม

which are are sealed together.

ที่ปิดผนึกเข้าด้วยกัน

They are fused together, so you can't separate them.

มันรวมเข้าด้วยกัน ดังนั้นคุณจะแยกมันไม่ได้

Now you can just make a little network like this

ตอนนี้คุณแค่ทำแผ่นพับอย่างนี้

and fold them and stick them together

แล้วพับมัน และติดมันเข้าด้วยกัน

and make an icosahedron.

แล้วสร้างทรงยี่สิบหน้าขึ้นมา

So something which is trash,

ดังนั้นบางอย่างที่เป็นขยะ

which is choking all the seabirds,

ซึ่งทำให้นกทะเลหายใจไม่ออก

you could just recycle this into a very, very joyous --

คุณสามารถนำกลับมาใช้ได้อีกด้วยวิธีที่น่าสนุกมากๆ

all the platonic solids can be made with things like this.

สิ่งนี้สามารถสร้างทรงตันเพลโตทั้งหมดในวิทยาศาสตร์ได้เช่นนี้

This is a little straw,

นี่ืคือหลอดขนาดเล็ก

and what you do is you just nip two corners here,

สิ่งที่คุณทำคือคุณแค่หนีบมุมทั้งสองตรงนี้

and this becomes like a baby crocodile's mouth.

แล้วมันจะกลายเป็นรูปคล้ายปากจระเข้เด็กๆ

You put this in your mouth, and you blow.

คุณประกบมันที่ปาก แล้วเป่า

(Honk)

(เสียงเหมือนห่านร้อง)

It's children's delight, a teacher's envy, as they say.

มันเป็นความสุขของเด็ก ความอิจฉาของครู อย่างที่เขาว่า

You're not able to see how the sound is produced,

คุณจะไม่เห็นว่าเสียงออกมาได้อย่างไร

because the thing which is vibrating goes inside my mouth.

เพราะสิ่งที่สั่นอยู่ภายในปากของผม

I'm going to keep this outside, to blow out. I'm going to suck in air.

ผมจะเอามันออกมาข้างนอก เป่า ผมกำลังดูดอากาศ

(Honk)

(เสียงเหมือนห่านร้อง)

So no one actually needs to muck up the production of sound

ไม่จำเป็นที่ใครจะต้องผลิตเสียง

with wire vibrations.

ด้วยการสั่นสาย

The other is that you keep blowing at it,

สิ่งอื่นก็คือคุณเป่ามัน

keep making the sound,

คอยทำให้เกิดเสียงขึ้น

and you keep cutting it.

และคอยตัดมันเรื่อยๆ

And something very, very nice happens.

และสิ่งที่ดีมากๆจะเกิดขึ้น

(Honk)

(เสียงเหมือนห่านร้อง)

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

And when you get a very small one --

และเมื่อคุณได้อันที่เล็กมากๆ

(Honk)

(เสียงเหมือนห่านร้อง)

This is what the kids teach you. You can also do this.

นี่คือสิ่งที่เด็กๆสอนคุณ คุณก็ทำได้

Well before I go any further,

ก่อนที่ผมจะพูดต่อ

this is something worth sharing.

มีบางส่ิงที่คุ้มที่จะแบ่งปัน

This is a touching slate meant for blind children.

นี่คือแผ่นจับสำหรับเด็กตาพิการ

This is strips of Velcro, this is my drawing slate,

นี่คือแถบเวลโคร(Velcro), ส่วนนี่คือแผ่นวาดเขียน

and this is my drawing pen,

และนี่คือปากกาสำหรับวาด

which is basically a film box.

ซึ่งโดยพื้นฐานคือกล่องฟิล์ม

It's basically like a fisherman's line,

โดยพื้นฐานมันคล้ายเอ็นตกปลา

a fishing line.

สายเอ็นตกปลา

And this is wool over here.

และมีขนแกะตรงนี้

If I crank the handle, all the wool goes inside.

ถ้าผมหมุนที่จับ ขนทั้งหมดจะถูกเก็บเข้าด้านใน

And what a blind child can do is to just draw this.

และสิ่งที่เด็กตาพิการทำได้คือแค่วาดมัน

Wool sticks on Velcro.

ขนแกะติดอยู่กับเวลโคร

There are 12 million blind children in our country --

มีเด็กตาพิการ 12 ล้านคนในประเทศ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

who live in a world of darkness.

ที่อยู่ในโลกมืด

And this has come as a great boon to them.

และนี่กลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับพวกเขา

There's a factory out there making our children blind,

มีโรงงานที่ทำให้เด็กตาพิการ

not able to provide them with food,

ไม่สามารถให้อาหารพวกเขา

not able to provide them with vitamin A.

ไม่สามารถให้วิตามินเอกับพวกเขา

But this has come as a great boon for them.

แต่นี่กลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากสำหรับเด็กๆ

There are no patents. Anyone can make it.

ไม่มีสิทธิบัตร ใครก็สร้างมันได้

This is very, very simple.

มันง่ายมากๆ

You can see, this is the generator. It's a crank generator.

คุณดูนี่ นี่คือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบมือหมุน

These are two magnets.

มีแม่เหล็กสองชิ้น

This is a large pulley made by sandwiching rubber between two old CDs.

นี่คือรอกขนาดใหญ่ สร้างโดยการประกบยางเข้าด้วยกันระหว่างซีดีเก่าสองแผ่น

Small pulley and two strong magnets.

รอกเล็กๆ และแม่เหล็กสองชิ้น

And this fiber turns a wire attached to an LED.

และเส้นใยนี้กลายเป็นสายไฟที่ติดกับหลอด LED

If I spin this pulley, the small one's going to spin much faster.

ถ้าผมปั่นรอกนี่ รอกเล็กจะปั่นเร็วขึ้นมาก

There will be a spinning magnetic field.

มันจะเกิดสนามแม่เหล็กหมุนไป

Lines, of course, would be cut, the force will be generated.

แน่นอนเส้นจะถูกตัด พลังงานจะถูกสร้างขึ้น

And you can see, this LED is going to glow.

และคุณจะได้เห็น หลอด LED ค่อยๆสว่างขึ้น

So this is a small crank generator.

ดังนั้นนี่คือเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามือหมุนขนาดเล็ก

Well, this is, again,

และ นี่ อีกที

it's just a ring, a steel ring with steel nuts.

มันคือแหวน แหวนโลหะและแหวนสกรูโลหะ

And what you can do

และสิ่งที่คุณทำได้

is just, if you give it a twirl,

ก็แค่ ถ้าคุณหมุนมัน

well they just keep going on.

มันก็จะไปต่อไปเรื่อยๆ

And imagine a bunch of kids

ลองนึกถึงกลุ่มเด็กๆ

standing in a circle

ยืนอยู่ในวงกลม

and just waiting for the steel ring to be passed on.

และคอยให้แหวนโลหะส่งไปรอบๆ

And they'd be absolutely joyous playing with this.

และพวกเขาเล่นมันอย่างสนุกสนานจริงๆ

Well in the end, what we can also do:

และสุดท้าย สิ่งที่เราก็ทำได้

we use a lot of old newspapers

เราใช้หนังสือพิมพ์เก่าๆจำนวนมาก

to make caps.

เพื่อสร้างหมวก

This is worthy of Sachin Tendulkar.

นี่ควรเรียกว่า ซาชิน เทนดุลกา (นักคริกเก็ตระดับตำนาน)

It's a great cricket cap. (Laughter) (Applause)

มันเป็นหมวกคริกเก็ตที่เจ๋งมาก

When first you see Nehru and Gandhi,

ครั้งแรกที่คุณเห็น เนรู และ คานธี

this is the Nehru cap -- just half a newspaper.

นี่คือหมวกของเนรู แค่ครึ่งหนังสือพิมพ์

We make lots of toys with newspapers,

เราสร้างของเล่นจำนวนมากจากหนังสือพิมพ์

and this is one of them.

และนี่คือหนึ่งในนั้น

And this is -- you can see --

และนี่คือ เห็นไหม

this is a flapping bird.

นี่คือนกกระพือปีก

All of our old newspapers, we cut them into little squares.

หนังสือพิมพ์เก่าๆทั้งหมด เราตัดมันเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ

And if you have one of these birds --

และถ้าคุณมีนกซักตัวในนี้

children in Japan have been making this bird for many, many years.

เด็กๆในญี่ปุ่นพับนกนี่มาหลายปีแล้ว

And you can see,

ดูนี่

this is a little fantail bird.

นี่คือนกบินไปรอบๆเหมือนพัดลม

Well in the end, I'll just end with a story.

ท้ายที่สุดนี้ ผมจะปิดท้ายด้วยเรื่องเล่า

This is called "The Captain's Hat Story."

มันมีชื่อว่า "เรื่องหมวกของกัปตัน"

The captain was a captain of a sea-going ship.

กัปตันเป็นกัปตันของเรือเดินทะเล

It goes very slowly.

มันแล่นช้าๆ

And there were lots of passengers on the ship,

และมีผู้โดยสารจำนวนมากบนเรือ

and they were getting bored, so the captain invited them on the deck.

และพวกเขาก็เบื่อ ดังนั้นกัปตันเลยเชิญเขาไปที่ดาดฟ้าเรือ

"Wear all your colorful clothes and sing and dance,

"สวมเสื้อสวยๆ ร้องเพลง และเต้นรำ

and I'll provide you with good food and drinks."

ผมจะเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่มรสเลิศแก่คุณ"

And the captain would wear a cap everyday

กัปตันจะสวมหมวกทุกวัน

and join in the regalia.

และสวมเครื่องราชกกุธภัณฑ์

The first day, it was a huge umbrella cap,

ในวันแรก มันเป็นหมวกปีกกว้างขนาดใหญ่

like a captain's cap.

เหมือนกับหมวกกัปตัน

That night, when the passengers would be sleeping,

คืนนั้น เมื่อผู้โดยสารเข้านอน

he would give it one more fold,

เขาจะพับมันครั้งหนึ่ง

and the second day, he would be wearing a fireman's cap --

และในวันที่สอง เขาจะสวมหมวกของนักดับเพลิง

with a little shoot just like a designer cap,

มีส่วนงอกเล็กๆคล้ายกับหมวกของดีไซเนอร์

because it protects the spinal cord.

เพราะมันป้องกันเส้นประสาทไขสันหลัง

And the second night, he would take the same cap

และในคืนที่สอง เขาเอาหมวกใบเดิม

and give it another fold.

มาพับอีกครั้ง

And the third day, it would be a Shikari cap --

และวันที่สาม มันกลายเป็นหมวก ชิคาริ

just like an adventurer's cap.

คล้ายๆกับหมวกของนักผจญภัย

And the third night, he would give it two more folds --

และในคืนที่สาม เขาพับมันอีกสองครั้ง

and this is a very, very famous cap.

และนึ่คือหมวกที่มีชื่อเสียงมากๆ

If you've seen any of our Bollywood films,

ถ้าคุณเคยดูหนังบอลลิวูดของเรา

this is what the policeman wears,

นี่คือหมวกที่ตำรวจใส่

it's called a zapalu cap.

มันเรียกว่าหมวกซาปาลู

It's been catapulted to international glory.

มันถูกยกให้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ

And we must not forget that he was the captain of the ship.

และเราต้องไม่ลืมว่าเขาเป็นกัปตันเรือ

So that's a ship.

ดังนั้นมันคือเรือ

And now the end:

และในตอบจบ

everyone was enjoying the journey very much.

ทุกคนสนุกสนานไปกับการเดินทางมาก

They were singing and dancing.

พวกเขาร้องเพลงและเต้นรำ

Suddenly there was a storm and huge waves.

ทันใดนั้นก็มีพายุและคลื่นยักษ์

And all the ship can do is to dance and pitch along with the waves.

และเรือทั้งหมดก็ทำได้แค่เต้นและเอียงไปตามคลื่น

A huge wave comes and slaps the front

คลื่นยักษ์คลื่นหนึ่งปะทะเข้าที่หัวเรือ

and knocks it down.

และทำมันพัง

And another one comes and slaps the aft and knocks it down.

อีกคลื่นหนึ่งมาปะทะทางท้ายเรือและทำมันพัง

And there's a third one over here.

และมีคลื่นที่สามอีกคลื่นตรงนั้น

This swallows the bridge and knocks it down.

มันกลืนสะพานเรือและพังมันลง

And the ship sinks,

แล้วเรือก็จม

and the captain has lost everything,

และกัปตันสูญเสียทุกอย่าง

but for a life jacket.

นอกจากเสื้อชูชีพ

Thank you so much.

ขอบคุณมากครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)