How germs travel on planes -- and how we can stop them | Raymond Wang

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma

Can I get a show of hands --

ขอผมดูมือหน่อยครับ

how many of you in this room have been on a plane in this past year?

มีใครในห้องนี้บ้างครับ ที่เดินทางโดยเครื่องบินในปีที่ผ่านมา

That's pretty good.

ค่อนข้างดีครับ

Well, it turns out that you share that experience

ครับ มันกลายเป็นว่า พวกคุณมีประสบการณ์ร่วมกัน

with more than three billion people every year.

กับคนอีกกว่าสามพันล้านคนทุกปี

And when we put so many people in all these metal tubes

และเมื่อพวกเราเอาคนจำนวนมาก เข้าไปอยู่ในกระเปาะเหล็กเหล่านี้

that fly all over the world,

ที่บินไปทั่วโลก

sometimes, things like this can happen

บางครั้ง อะไรประมาณนี้เกิดขึ้น

and you get a disease epidemic.

ก็จะเกิดการระบาดของโรค

I first actually got into this topic

จริง ๆ แล้วผมเริ่มสนใจเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก

when I heard about the Ebola outbreak last year.

เมื่อผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ การระบาดของอีโบลาปีที่แล้ว

And it turns out that,

และมันกลายเป็นว่า

although Ebola spreads through these more range-limited,

แม้ว่าอีโบลาแพร่กระจายไป ในแบบที่จำกัดขอบเขตมากกว่า

large-droplet routes,

ผ่านสารคัดหลั่งหลัก ๆ

there's all these other sorts of diseases

มันยังมีโรคแบบอื่น ๆ อีก

that can be spread in the airplane cabin.

ที่สามารถแพร่กระจายไป ในห้องโดยสารของเครื่องบินได้

The worst part is, when we take a look at some of the numbers,

สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือ เมื่อเรามองดูตัวเลขเหล่านี้

it's pretty scary.

มันค่อนข้างน่ากลัว

So with H1N1,

ฉะนั้น ชายผู้นี้ที่มีเอชวันเอ็นวัน (H1N1)

there was this guy that decided to go on the plane

ตัดสินใจที่จะขึ้นเครื่องบิน

and in the matter of a single flight

และการบินขาเดียว

actually spread the disease to 17 other people.

ก็สามารถแพร่เชื้อโรคให้กับคนอื่นได้ 17 คน

And then there was this other guy with SARS,

และจากนั้น ก็ยังมีอีกคนที่มีซาร์ (SARS)

who managed to go on a three-hour flight

ที่โดยสารโดยการบินสามชั่วโมง

and spread the disease to 22 other people.

และแพร่กระจายเชื้อโรคให้คนอีก 22 คน

That's not exactly my idea of a great superpower.

นั่นไม่ใช่พลังเหนือมนุษย์ในความคิดของผม

When we take a look at this, what we also find

เมื่อเรามองดูสิ่งนี้ สิ่งที่เรายังได้พบ

is that it's very difficult to pre-screen for these diseases.

คือว่า มันยากมาก ที่จะตรวจเชื้อโรคเหล่านี้ได้ก่อน

So when someone actually goes on a plane,

ฉะนั้น เมื่อใครสักคนขึ้นไปบนเครื่องบิน

they could be sick

พวกเขาอาจป่วย

and they could actually be in this latency period

และพวกเขาที่จริงอาจอยู่ในระยะฟักตัว

in which they could actually have the disease

ระยะที่พวกเขามีเชื้อโรค

but not exhibit any symptoms,

แต่ไม่แสดงอาการใด ๆ

and they could, in turn, spread the disease

และพวกเขาก็อาจจะเป็นผู้แพร่กระจายโรค

to many other people in the cabin.

ให้กับคนอื่น ๆ ในห้องโดยสารได้

How that actually works is that right now

มันเป็นไปได้ก็เพราะว่าตอนนี้

we've got air coming in from the top of the cabin

พวกเราได้รับอากาศเข้ามา จากส่วนบนของห้องโดยสาร

and from the side of the cabin, as you see in blue.

และจากด้านข้างของห้องโดยสาร

And then also, that air goes out through these very efficient filters

และจากนั้น อากาศก็ออกไป ผ่านตัวกรองที่มีประสิทธิภาพสูงเหล่านี้

that eliminate 99.97 percent of pathogens near the outlets.

ซึ่งกำจัด 99.97 เปอร์เซ็นต์ ของเชื้อก่อโรคใกล้กับช่องทางออก

What happens right now, though,

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ

is that we have this mixing airflow pattern.

เรามีรูปแบบการไหลเวียนอากาศที่ปนเป

So if someone were to actually sneeze,

ฉะนั้น ถ้าใครสักคนจามขึ้นมา

that air would get swirled around multiple times

อากาศนั้นก็จะวนไปวนมาอยู่หลายรอบ

before it even has a chance to go out through the filter.

ก่อนที่มันจะมีโอกาสผ่านเข้าไปในตัวกรอง

So I thought: clearly, this is a pretty serious problem.

ผมก็เลยคิดว่า นี่มันเป็นปัญหา ที่ค่อนข้างเอาเรื่อง

I didn't have the money to go out and buy a plane,

ผมไม่ได้มีเงินที่จะซื้อเครื่องบินได้

so I decided to build a computer instead.

ฉะนั้น ผมเลยตัดสินใจที่จะสร้างคอมพิวเตอร์แทน

It actually turns out that with computational fluid dynamics,

มันกลายเป็นว่า ด้วยพลศาสตร์ของไหลเชิงคอมพิวเตอร์

what we're able to do is create these simulations

สิ่งที่เราสามารถทำได้คือ การสร้างการจำลอง

that give us higher resolutions

ที่ให้ความคมชัดกับเรามากขึ้น

than actually physically going in and taking readings in the plane.

กว่าสิ่งที่กำลังเป็นไปเชิงกายภาพ

And so how, essentially, this works is you would start out

และโดยหลักแล้ว ด้วยวิธีการนี้เอง คุณเริ่มต้นจาก

with these 2D drawings --

ภาพวาดสองมิติ

these are floating around in technical papers around the Internet.

สิ่งเหล่านี้ล่องลอยไปมา ในกระดาษทางเทคนิคไปทั่วอินเทอร์เน็ต

I take that and then I put it into this 3D-modeling software,

ผมนำมันมา และจากนั้น นำมันใส่เข้าไปในโปรแกรมแบบจำลองสามมิติ

really building that 3D model.

เป็นการสร้างแบบจำลองสามมิตินั้นขึ้นมา

And then I divide that model that I just built into these tiny pieces,

และจากนั้น ผมแบ่งแบบจำลอง ที่ผมเพิ่งสร้างขึ้นเป็นสามส่วนเล็ก ๆ

essentially meshing it so that the computer can better understand it.

พูดง่าย ๆ คือ บดมันเป็นชิ้น เพื่อที่คอมพิวเตอร์จะได้เข้าใจมันง่ายขึ้น

And then I tell the computer where the air goes in and out of the cabin,

และจากนั้น ผมบอกคอมพิวเตอร์ว่า อากาศเข้าและออกจากห้องโดยสารทางไหน

throw in a bunch of physics

โยนกฎทางฟิสิกส์เข้าไป

and basically sit there and wait until the computer calculates the simulation.

และก็แค่นั้นอยู่ตรงนั้น รอจนกว่าคอมพิวเตอร์ จะทำการคำนวนการจำลองดังกล่าว

So what we get, actually, with the conventional cabin is this:

อันที่จริง สิ่งที่เราได้ จากห้องโดยสารทั่วไป ก็คือ

you'll notice the middle person sneezing,

คุณจะสังเกตเห็นคนตรงกลางกำลังจาม

and we go "Splat!" -- it goes right into people's faces.

และมันก็ "กระจาย" มันกระเด็นเข้าใส่หน้าคน

It's pretty disgusting.

ค่อนข้างน่าขยะแขยงนะครับ

From the front, you'll notice those two passengers

จากด้านหน้า คุณจะสังเกต เห็นผู้โดยสารสองคนนั่น

sitting next to the central passenger

ที่นั่งอยู่ติดกับผู้โดยสารตรงกลาง

not exactly having a great time.

ไม่ได้มีความสุขสักเท่าไร

And when we take a look at that from the side,

และเมื่อเรามองดูพวกเขาจากด้านข้าง

you'll also notice those pathogens spreading across the length of the cabin.

คุณจะยังสังเกตเห็นเชื้อโรคแพร่กระจาย ไปตามความยาวของห้องโดยสาร

The first thing I thought was, "This is no good."

สิ่งแรกที่ผมคิดก็คือ "นี่มันไม่ดีเลย"

So I actually conducted more than 32 different simulations

อันที่จริงผมได้กำกับการจำลอง มากกว่า 32 แบบ

and ultimately, I came up with this solution right here.

และในที่สุด ผมก็ได้ข้อสรุปที่อยู่ตรงนี้

This is what I call a -- patent pending -- Global Inlet Director.

นี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่า เครื่องตรวจจับ ช่องทางเข้าสากล ที่อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร

With this, we're able to reduce pathogen transmission

ด้วยสิ่งนี้ เราจะสามารถ ลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค

by about 55 times,

ได้ถึงประมาณ 55 เท่า

and increase fresh-air inhalation by about 190 percent.

และเพิ่มการหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไป ได้ถึงประมาณ 190 เปอร์เซ็นต์

So how this actually works

มันทำงานอย่างนี้ครับ

is we would install this piece of composite material

เราจะติดตั้งชื้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่อง

into these existing spots that are already in the plane.

ในจุดที่มีอยู่แล้วบนเครื่องบิน

So it's very cost-effective to install

ฉะนั้น มันจึงถูกมากในการติดตั้ง

and we can do this directly overnight.

และเราสามารถทำได้ภายในคืนเดียว

All we have to do is put a couple of screws in there and you're good to go.

ที่เราต้องทำก็คือ ติดตั้งตะปูเกลียวสองสามตัว ก็เป็นอันเสร็จ

And the results that we get are absolutely amazing.

และผลลัพท์ที่เราได้ก็น่าทึ่งมาก

Instead of having those problematic swirling airflow patterns,

แทนที่จะเห็นรูปแบบการไหลวนของอากาศ ที่เป็นปัญหา

we can create these walls of air

เราสามารถสร้างกำแพงอากาศ

that come down in-between the passengers

ที่ลงมาอยู่ระหว่างผู้โดยสาร

to create personalized breathing zones.

เพื่อสร้างบริเวณหายใจส่วนบุคคล

So you'll notice the middle passenger here is sneezing again,

ฉะนั้น คุณจะสังเกตว่า ผู้โดยสารตรงกลาง ที่กำลังจามอีกแล้ว

but this time, we're able to effectively push that down

แต่ครั้งนี้ เราสามารถที่จะดันมันลง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

to the filters for elimination.

ไปยังตัวกรองสำหรับการกำจัด

And same thing from the side,

และเช่นเดียวกันจากด้านข้าง

you'll notice we're able to directly push those pathogens down.

คุณจะสังเกตว่าเราสามารถดันเชื้อโรคเหล่านี้ ลงไปได้โดยตรง

So if you take a look again now at the same scenario

ฉะนั้น ถ้าคุณดูอีกทีตอนนี้ ในเหตุการณ์เดียวกัน

but with this innovation installed,

แต่มีนวัตกรรมนี้อยู่

you'll notice the middle passenger sneezes,

คุณจะสังเกตว่าผู้โดยสารตรงกลางจาม

and this time, we're pushing that straight down into the outlet

และในครั้งนี้ เราจะสามารถดันมันลง ตรงไปยังช่องทางออก

before it gets a chance to infect any other people.

ก่อนที่มันจะมีโอกาสสัมผัสกับคนอื่น

So you'll notice the two passengers sitting next to the middle guy

คุณจะสังเกตเห็นว่าผู้โดยสารสองคน ที่นั่งติดอยู่กับคนตรงกลาง

are breathing virtually no pathogens at all.

กำลังหายใจโดยไม่มีเชื้อโรคเลย

Take a look at that from the side as well,

ลองดูที่ด้านข้างก็เช่นกัน

you see a very efficient system.

คุณจะเห็นว่ามันเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ

And in short, with this system, we win.

และสั้น ๆ ก็คือ ด้วยระบบนี้ เราจะเป็นผู้ชนะ

When we take a look at what this means,

เมื่อเรามองหาความหมายจากมัน

what we see is that this not only works if the middle passenger sneezes,

สิ่งที่เราได้ ไม่ใช่เพียงแต่ว่ามันจะได้ผล เมื่อผู้โดยสารตรงกลางจาม

but also if the window-seat passenger sneezes

แต่มันยังได้ผลเมื่อผู้โดยสารริมหน้าต่างจาม

or if the aisle-seat passenger sneezes.

หรือถ้าผู้โดยสารที่นั่งติดทางเดินจาม

And so with this solution, what does this mean for the world?

และด้วยการแก้ปัญหานี้ มันมีความหมายอย่างไรต่อโลกงั้นหรือ

Well, when we take a look at this

ครับ เมื่อเรามองดูสิ่งนี้

from the computer simulation into real life,

จากการจำลองทางคอมพิวเตอร์ในชีวิตจริง

we can see with this 3D model that I built over here,

เราสามารถเห็นจากแบบจำลองสามมิติ ที่ผมสร้างขึ้น

essentially using 3D printing,

โดยใช้เครื่องพิมพ์สามมิติเป็นหลัก

we can see those same airflow patterns coming down,

เราสามารถเห็นรูปแบบการไหลอากาศแบบเดียวกัน เคลื่อนลงมา

right to the passengers.

ถึงผู้โดยสาร

In the past, the SARS epidemic actually cost the world

ในอดีต การแพร่ระบาดของซาร์ ทำโลกของเราเสียเงินไป

about 40 billion dollars.

ประมาณ 4 แสนล้านดอลลาร์

And in the future,

และในอนาคต

a big disease outbreak could actually cost the world

การระบาดครั้งใหญ่ของโรค อาจทำให้โลกของเราต้องเสียเงิน

in excess of three trillion dollars.

มากกว่า สามล้านล้านดอลลาร์

So before, it used to be that you had to take an airplane out of service

ฉะนั้นก่อนหน้านี้ คุณก็คงจะต้องหยุด การให้บริการการบิน

for one to two months,

เป็นเวลาหนึ่งถึงสองเดือน

spend tens of thousands of man hours and several million dollars

ใช้เวลาการทำงานเป็นหมื่น ๆ ชั่วโมง และเงินสองสามล้านดอลลาร์

to try to change something.

ในการพยายามเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง

But now, we're able to install something essentially overnight

แต่ตอนนี้ เราสามารถติดตั้งอะไรบางอย่างได้ ภายในคืนเดียว

and see results right away.

และเห็นผลทันตา

So it's really now a matter of taking this through to certification,

ฉะนั้น ตอนนี้มันก็เป็นแค่การทำให้สิ่งนี้ ได้รับการรับรอง

flight testing,

ทดสอบในการบิน

and going through all of these regulatory approvals processes.

และผ่านกระบวนการรับรอง ตามข้อบังคับทั้งหมดเหล่านี้

But it just really goes to show that sometimes the best solutions

แต่มันยังแสดงอีกว่า บางครั้งการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด

are the simplest solutions.

คือการแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุด

And two years ago, even,

และสองปีก่อน หรือก่อนหน้านั้น

this project would not have happened,

โครงการแบบนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้

just because the technology then wouldn't have supported it.

เพราะเทคโนโลยีในตอนนั้นยังไม่รองรับมัน

But now with advanced computing

แต่ตอนนี้ ด้วยคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย

and how developed our Internet is,

และการพัฒนาไปของอินเทอร์เน็ต

it's really the golden era for innovation.

มันเป็นยุคทองของนวัฒกรรมจริง ๆ

And so the question I ask all of you today is: why wait?

และคำถามที่ผมถามทุกท่านในวันนี้คือ จะรอทำไม

Together, we can build the future today.

พวกเราสามารถสร้างอนาคตด้วยกันได้ในวันนี้

Thanks.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)