What we do (and don't) know about the coronavirus | David Heymann

Translator: Chawankorn Kasinobhas Reviewer: Tisa Tontiwatkul

[As of the morning February 27, 2020,

[เช้าวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2020

there were at least 82,000 confirmed cases worldwide of the coronavirus

มีผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัส 82,000 ราย ทั่วโลกที่ได้รับการยืนยันแล้ว

and 2,810 deaths from it.

มีผู้เสียชีวิต 2,810 ราย

TED invited Dr. David Heymann to share the latest findings about the outbreak.]

TED จึงได้เชิญ ดร.เดวิด เฮย์แมนน์ มาแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการระบาดครั้งนี้]

[What happens if you get infected with the coronavirus?]

[ถ้าคุณติดเชื้อไวรัสโคโรน่า จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?]

This looks like a very mild disease, like a common cold,

อาการจะเหมือนกับโรคไม่รุนแรงทั่วไป เช่น มีไข้

in the majority of people.

ซึ่งจะพบได้ในผู้ป่วยส่วนใหญ่

There are certain people who get infected and have very serious illness;

แต่ก็มีผู้ติดเชื้อและมีอาการป่วยรุนแรง

among them are health workers.

หนึ่งในนั้นคือหมอและพยาบาล

It's a very serious infection in them,

พวกเขาจะติดเชื้อที่รุนแรง

as they get a higher dose than normal people,

เพราะพวกเขาได้รับเชื้อ ในปริมาณมากกว่าคนทั่วไป

and at the same time, they have no immunity.

แถมยังไม่มีภูมิคุ้มกัน

So in the general population,

จึงกล่าวได้ว่าในกลุ่มประชากรทั่วไป

it's likely that the dose of virus that you receive when you are infected

หากติดเชื้อ คุณมีแนวโน้มที่จะได้รับเชื้อน้อยกว่า

is much less than the dose that a health worker would receive,

ปริมาณเชื้อที่หมอและพยาบาลได้รับ

health workers having more serious infections.

กลุ่มหมอและพยาบาลจึงติดเชื้อ ในขั้นรุนแรงกว่ามาก

So your infection would be less serious, hopefully.

ดังนั้นการติดเชื้อของคุณ จึงเบากว่ากลุ่มนี้แน่ ๆ

So that leaves the elderly and those with comorbidities

ทีนี้กลุ่มผู้สูงวัยและกลุ่มคนมีโรคประจำตัว

to really be the ones that we have to make sure

เป็นกลุ่มที่เราต้องมั่นใจว่า

are taken care of in hospitals.

พวกเขาจะได้รับการดูแลอย่างดีที่โรงพยาบาล

[Who are the people who should be most concerned about this?]

[คนกลุ่มไหนที่ต้องพึงระวังกับ ปัญหานี้มากที่สุด ?]

Well, the most concerned are people

กลุ่มที่ต้องพึงระวังก็คือ

who are, first of all, in developing countries

กลุ่มแรกคือประชากรในประเทศกำลังพัฒนา

and who don't have access to good medical care

และกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงสถานพยาบาล

and may not have access at all to a hospital,

และอาจไม่สามารถเข้าถึงโรงพยาบาลได้เลย

should an epidemic occur in their country.

ถ้าเกิดการแพร่เชื้อขึ้นในประเทศนั้น

Those people would be at great risk,

จะเกิดความเสี่ยงต่อ คนเหล่านั้นอย่างมาก

especially the elderly.

โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย

Elderly in all populations are at risk,

จริง ๆ ผู้สูงวัยในทุกกลุ่มประชากร นั้นเป็นกลุ่มเสี่ยงหมด

but especially those who can't get to oxygen.

โดยเฉพาะคนที่เขาไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ

In industrialized countries,

ในประเทศที่มีการทำอุตสาหกรรม

it's the very elderly who have comorbidities,

คนสูงวัยที่มีโรคประจำตัว

who have diabetes, who have other diseases,

คนที่เป็นเบาหวานและโรคอื่นๆ

who are at risk.

คนที่มีความเสี่ยง

The general population doesn't appear to be at great risk.

มองในภาพรวม ประชากรทั่วไป จะยังไม่ค่อยมีความเสี่ยงนัก

[What pre-existing medical conditions put people at higher risk?]

[คนทีมีสภาพร่างกายยังไง ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคนี้ ?]

First of all,

อย่างแรก

pulmonary disease existing as a comorbidity is also important.

คนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับ ปอดจะได้รับผลกระทบตรง ๆ

In general, the elderly are at greater risk,

และถ้ายิ่งเป็นผู้สูงวัยจะยิ่งเสี่ยง

especially those over 70,

โดยเฉพาะคนที่อายุมากกว่า 70 ปี

because their immune systems are not as effective

เพราะระบบภูมิคุ้มกันพวกเขาไม่แข็งแรง

as they might have once been,

เหมือนตอนวัยเยาว์

and they are more susceptible to infections.

ทำให้ติดเชื้อง่ายขึ้น

In addition, in some instances in China,

ยกตัวอย่างกรณีหนึ่งในประเทศจีน

there's been a coinfection with influenza

ที่มีการติดเชื้อร่วมระหว่างไข้หวัดใหญ่

and at the same time,

และในขณะเดียวกัน

there have been some bacterial superinfections

ติดเชื้อแบคทีเรียอีกตัว

on the pneumonias that are occurring.

จากอาการปอดบวม

[Where can we find up-to-date information?]

[พวกเราจะหาข้อมูลข่าวสาร ที่อัพเดตล่าสุดได้จากไหน ?]

The Center for Disease Control in Atlanta keeps track

ศูนย์ควบคุมโรคในแอตแลนตาคอยเก็บข้อมูล

and has updates on a regular basis on its website.

และปรับปรุงข่าวสารสม่ำเสมอบนเว็บไซต์

Also, the World Health Organization in Geneva,

และองค์การอนามัยโลกในเจนีวา

which is coordinating many of the activities

ซึ่งคอยประสานงานความเคลื่อนไหวต่าง ๆ

going on internationally,

รอบโลก

also has a website with daily updates.

มีการปรับปรุงข้อมูลบนเว็บไซต์ทุกวันเช่นกัน

It's our responsibility to get that information as individuals,

แต่มันก็เป็นความรับผิดชอบที่พวกเรา ต้องติดตามข่าวสารเองด้วย

so we understand

เพื่อที่เราจะได้เข้าใจ

and can make sure that we can contribute in our own way

และทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้

to prevention of major spread.

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการแพร่เชื้อ

[You led the global response to the SARS outbreak in 2003.

[คุณเป็นคนที่ทำให้โลกตื่นตัวกับ โรคระบาดซาร์ส ในปี 2003

How does this outbreak compare?]

ถ้าเทียบกับการระบาดครั้งนี้ ต่างกันอย่างไร ?]

That's the same problem with all new infections.

มีปัญหาเดียวกันเมื่อมีโรคระบาดใหม่ ๆ

This is an infection that's coming to humans

นี่เป็นการติดเชื้อที่กระจายสู่มนุษย์

who have never been exposed to this virus before.

คนที่ไม่เคยประสบกับไวรัสนี้มาก่อน

They don't have any antibody protection,

พวกเขาจะยังไม่มีภูมิต้านทาน

and it's not clear whether their immune system

และก็ยังยืนยันไม่ได้ว่า ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์นั้น

can handle this virus or not.

สามารถรับมือกับไวรัสนี้ได้หรือไม่

This is a virus that usually finds itself in bats or in other animals,

เพราะปกติไวรัสนี้มักเจอใน ค้างคาวหรือสัตว์ชนิดอื่น ๆ

and all of a sudden, it's in humans.

แต่จู่ ๆ มันก็มาเกิดขึ้นกับมนุษย์

And humans just don't have experience with this virus.

เรายังไม่เคยมีประสบการณ์กับไวรัสนี้มาก่อน

But gradually,

แต่พวกเราก็ค่อย ๆ

we are beginning to learn a lot, as we did with SARS.

เริ่มเรียนรู้เหมือนครั้งของซาร์ส

And you know, there are certainly a larger number of deaths

รู้มั้ยว่าครั้งนี้จำนวนผู้เสียชีวิต

than there were with SARS.

มีมากกว่าครั้งของซาร์ส

But when you divide that by a denominator of persons who are infected,

แต่ถ้าเราหารด้วยจำนวนคนติดเชื้อ

there are many, many more persons infected than there were with SARS.

ครั้งนี้มีจำนวนติดเชื้อมากกว่าซาร์สเยอะมาก

The case fatality ratio,

อัตราของความร้ายแรงโรค

that is the ratio of deaths to the numbers of cases in SARS,

คำนวณจากจำนวนผู้เสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อ ในกรณีของซาร์ส

was about 10 percent.

คือประมาณร้อยละ 10

With the current coronavirus, COVID-19,

เทียบกับไวรัสโคโรน่า (โควิด 19)

it is two percent or probably less.

คือร้อยละ 2 หรืออาจน้อยกว่านั้น

So it's a much less virulent virus,

จึงกล่าวได้ว่าไวรัสนี้มีความรุนแรงน้อยกว่า

but it's still a virus that causes mortality,

แต่มันก็ยังถือเป็นไวรัสที่คร่าชีวิตได้

and that's what we don't want entering human populations.

ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดขึ้นกับประชากรมนุษย์

[Have we responded adequately at border crossings, such as airports?]

[มาตรการที่เรารับมือเวลาคนข้ามประเทศ ในตอนนี้นั้นเพียงพอหรือไม่เช่นที่สนามบิน]

It's clearly understood that airports or any land borders

ต้องเข้าใจตรงกันก่อนว่าที่สนามบิน หรือบริเวณด่านตรวจข้ามประเทศ

cannot prevent a disease from entering.

ไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคไม่ให้ผ่านได้

People in the incubation period can cross that border,

คนที่อยู่ในระยะฟักตัวยังสามารถข้ามด่านตรวจ

can enter countries

ข้ามประเทศ

and can then infect others when they become sick.

และค่อยมาแพร่เชื้อให้คนอื่นหลังป่วยได้

So borders are not a means of preventing infections from entering a country

เพราะฉะนั้นด่านตรวจไม่ใช่จุดที่จะ หลีกเลี่ยงเชื้อให้เข้าประเทศได้

by checking temperatures.

โดยการวัดอุณหภูมิ

Borders are important because you can provide to people arriving

แต่ด่านตรวจเหล่านี้ยังมีบทบาทสำคัญ ในการบอกประชาชน

from areas that might be at risk of having had infection,

ที่มาจากประเทศเสี่ยง

provide them with an understanding,

บอกให้พวกเขาเข้าใจ

either a printed understanding or a verbal understanding,

ทั้งการใช้ลายลักษณ์อักษรและการบอกกล่าว

of what the signs and symptoms are of this infection,

ว่าสัญญาณและอาการของโรคนี้เป็นยังไง

and what they should do if they feel that they might be infected.

พวกเขาควรทำอย่างไร ถ้าพวกเขาสงสัยว่าเขาอาจติดเชื้อ

[What's the timeline for a vaccine?]

[เราจะคิดค้นวัคซีนได้เมื่อไหร่ ?]

Vaccines are under development right now,

ตอนนี้เรากำลังพัฒนาวัคซีนอยู่

there's a lot of research going on.

ทำการวิจัยหลายรูปแบบ

That research requires first that the vaccine be developed,

ต้องทำการวิจัยก่อน จึงจะพัฒนาวัคซีนได้

then that it be studied for safety and effectiveness in animals,

จากนั้นจึงศึกษาว่ามันปลอดภัยและใช้ได้ผลไหม หลังจากฉีดวัคซีนลงไปในสัตว์

who are challenged with the virus after they are vaccinated,

ที่ได้รับเชื้อ

and then it must go into human studies.

ต่อจากนั้นเราจะมาทดสอบกับคน

The animal studies have not yet begun,

แต่ในตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนทดสอบกับสัตว์

but will soon begin for certain vaccines.

แต่คงจะได้เริ่มเร็ว ๆ นี้เมื่อพัฒนาวัคซีน

And it's thought that by the end of the year,

และผมคิดว่าในสิ้นปีนี้

or early next year,

หรือต้นปีหน้า

there may be some candidate vaccines

จะมีวัคซีนที่น่าจะรักษาอาการ

that can then be studied for licensing by regulatory agencies.

ถูกนำไปศึกษาต่อและได้รับ อนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล

So we're talking about at least a year until there's vaccine available

แปลว่าเราอาจต้องรออย่างน้อยเป็นปี จนกว่าวัคซีนจะถูกผลิต

that can be used in many populations.

และนำไปใช้ในหลาย ๆ ประเทศได้

[What questions about the outbreak are still unanswered?]

[ตอนนี้มีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับโรคระบาดนี้ ที่ยังให้คำตอบไม่ได้ ?]

It's clear we know how it transmits,

ตอนนี้เรารู้แน่ชัดว่ามันติดต่อกันได้

we don't know how easily it transmits in humans,

แต่ยังไม่รู้ว่ามันติดต่อแบบคนสู่คน

in communities or in unenclosed areas.

ในสถานที่เปิดโล่งได้ง่ายแค่ไหน

We know, for example,

ตอนนี้ที่เรารู้แน่ ๆ ตัวอย่างเช่น

that in the enclosed area of a cruise ship, it spread very easily.

ในสถานที่ปิด เช่น เรือสำราญ มันแพร่กระจายง่ายมาก

We need to better understand

และเราจำเป็นจะต้องเข้าใจให้ได้

how it will spread once it gets into more open areas

ว่าถ้ามันกระจายในสถานที่ เปิดโล่งมันจะเป็นยังไง

where people are exposed to people who might be sick.

ที่ ๆ ซึ่งคนอาจจะได้รับเชื้อ จากคนที่อาจติดเชื้ออยู่แล้ว

[What about the global response could be improved?]

[ทั่วโลกจะมีวิธีที่รับมือกับโรคนี้ให้ รัดกุมมากขึ้นได้อย่างไรบ้าง ?]

A major problem in the world today is that we look at outbreaks

ปัญหาใหญ่หลัก ๆ คือมุมมองที่ เรามองต่อโรคระบาด

in developing countries

ในประเทศที่กำลังพัฒนา

as something that we need to go and stop.

ว่าเป็นสิ่งที่เราต้องรีบเข้าไปหยุด

So when there's an outbreak of Ebola,

เช่น กรณีโรคระบาดอีโบลา

we think "How can we go and stop this outbreak in the country?"

พวกเรามองว่า "เราจะหยุด โรคระบาดในประเทศนี้ยังไงดี ?"

We don't think about "How can we help that country

แต่เราไม่มองว่า "เราจะช่วยประเทศนี้

strengthen its capacity,

ให้เขาเพิ่มศักยภาพตัวเองมากพอที่จะ

so that it can detect and respond to infections?"

ตรวจพบและรับมือกับการติดเชื้อได้อย่างไร ?"

So we haven't invested enough

จึงกล่าวได้ว่าเราไม่ได้ลงทุนมากพอ

in helping countries develop their core capacity in public health.

ให้กับประเทศเหล่านี้ให้เขามี ระบบสาธารณสุขที่ดียิ่งขึ้น

What we've done is invested in many mechanisms globally,

สิ่งที่เราทำคือลงทุนในวิธีการ หลายอย่างทั่วโลก

which can provide support to other countries

เพื่อที่จะช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ

to go and help stop outbreaks.

และหยุดการระบาดเหล่านั้น

But we want to see a world where every country

แต่ผมอยากให้เรามองโลกนี้ เป็นสถานที่ที่ทุกประเทศ

can do its best to stop its own outbreaks.

สามารถรับมือและหยุดยั้งการระบาดได้

[Will we see more emerging disease outbreaks in the future?]

[ในอนาคตเรามีสิทธิ์จะเห็น การระบาดมากกว่านี้อีกมั้ย ?]

Today, there are over seven billion people.

ทุกวันนี้เรามีประชากรมากกว่าเจ็ดพันล้านคน

And when those people come into the world,

และเมื่อมีประชากรเกิดบนโลกใบนี้

they demand more food,

เขาก็ต้องการอาหาร

they demand a whole series of things

เขาต้องการหลายสิ่ง

and they live closer together.

เราอยู่อาศัยแบบแออัดกันมากขึ้น

In fact, we're an urban world, where people live in urban areas.

จริง ๆ แล้ว รูปแบบการใช้ชีวิตของพวกเรา คืออยู่กันในเมือง

And at the same time, we're growing more animals,

และเราก็เลี้ยงสัตว์มากขึ้น

and those animals are contributing food to humans as well.

โดยสัตว์เหล่านี้ ก็เป็นอาหารให้กับคน

So what we see

จะเห็นได้ว่า

is that that animal-human interface is becoming closer and closer together.

วิถีคนและสัตว์เริ่มหลอมรวม เข้าใกล้กันมากขึ้น

And this intensive agriculture of animals

เรามีการเลี้ยงสัตว์มากขึ้น

and this intensive increase in human populations

ประชากรเพิ่มจำนวนขึ้น

living together on the same planet

การอยู่อาศัยอยู่บนโลกใบเดียวกัน

is really a melting pot where outbreaks can occur and do occur.

มันจึงเหมือนเป็นหม้อหลอมที่ สามารถเกิดการระบาดขึ้นได้ทุกเมื่อ

We will eventually have more and more of these outbreaks.

ท้ายสุดพวกเราจะมีการระบาดมากขึ้นแน่ ๆ

So an emerging infection today is just a warning

เพราะฉะนั้นการติดเชื้อวันนี้ จึงเป็นสัญญาณเตือนภัย

of what will happen in the future.

ของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

We have to make sure

เราต้องทำให้

that that technical collaboration in the world

ศาสตร์วิชาการบนโลกนี้

is there to work together

จับมือร่วมกัน

to make sure that we can understand these outbreaks when they occur

เพื่อหาทางเข้าใจสถานการณ์ เวลามีการระบาดเกิดขึ้น

and rapidly provide the information necessary to control them.

และรีบกระจายข้อมูลที่สำคัญเพื่อควบคุมมัน

[Is the worst behind us?]

[สถานการณ์ยังเลวร้ายได้กว่านี้อีกมั้ย ?]

I can't predict with accuracy.

ผมไม่อาจคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ

So all I can say is that we must all be prepared

ผมพูดได้แค่พวกเราต้องเตรียมตัว

for the worst-case scenario.

สำหรับกรณีที่เลวร้ายที่สุด

And at the same time,

และในขณะเดียวกัน

learn how we can protect ourselves and protect others

ต้องเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเอง และคนรอบข้าง

should we become a part of that epidemic.

หากเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของโรคระบาด

[To learn more, visit: Centers for Disease Control and Prevention

[หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเข้าดูได้ที่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค

World Health Organization]

และองค์การอนามัยโลก]