Isaac Lidsky: What reality are you creating for yourself? | TED

643,763 views ・ 2016-10-27

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Chanyanart Kiattiporn-opas Reviewer: Vera Chicharito
00:12
When Dorothy was a little girl,
0
12960
1576
ตอนโดโรธียังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย
00:14
she was fascinated by her goldfish.
1
14560
1800
เธอชื่นชอบปลาทองมาก
00:17
Her father explained to her that fish swim by quickly wagging their tails
2
17080
3456
พ่อของเธออธิบายให้ฟังว่า ปลาว่ายน้ำโดยการสะบัดหางไว ๆ
00:20
to propel themselves through the water.
3
20560
1880
เพื่อพุ่งทะยานตัวเองไปในน้ำ
00:23
Without hesitation, little Dorothy responded,
4
23040
2136
โดโรธีตัวน้อยตอบกลับทันที อย่างไม่ลังเล
00:25
"Yes, Daddy, and fish swim backwards by wagging their heads."
5
25200
3256
"ค่ะ ป๊ะป๋า แล้วปลาก็ว่ายน้ำถอยหลัง โดยการส่ายหัวไปมาด้วยค่ะ"
00:28
(Laughter)
6
28480
1616
(เสียงหัวเราะ)
00:30
In her mind, it was a fact as true as any other.
7
30120
2816
ในใจของเธอ มันคือความจริง เช่นเดียวกับความจริงในเรื่องอื่น ๆ
00:32
Fish swim backwards by wagging their heads.
8
32960
2336
ปลาว่ายน้ำถอยหลังโดย การส่ายหัวไปมา
00:35
She believed it.
9
35320
1200
เธอเชื่อเช่นนั้น
00:37
Our lives are full of fish swimming backwards.
10
37320
2976
แท้จริงแล้ว ในชีวิตของพวกเรา ล้วนเต็มไปด้วยปลาที่ว่ายน้ำถอยหลัง
00:40
We make assumptions and faulty leaps of logic.
11
40320
2496
พวกเราสร้างสมมติฐานและ ก้าวกระโดดสู่ตรรกะอย่างผิด ๆ
00:42
We harbor bias.
12
42840
1255
พวกเราเก็บซ่อนอคติไว้ในใจ
00:44
We know that we are right, and they are wrong.
13
44119
2257
เรารู้แต่ว่า พวกเราทำถูก ส่วนพวกเขาเป็นฝ่ายผิด
00:46
We fear the worst.
14
46400
1616
พวกเราเกรงว่าจะเป็นคนที่แย่ที่สุด
00:48
We strive for unattainable perfection.
15
48040
2160
เราใฝ่หา ความสมบูรณ์แบบที่ไม่อาจถึงพร้อม
00:50
We tell ourselves what we can and cannot do.
16
50920
2080
เราเฝ้าบอกตัวเองว่า อะไรคือสิ่งที่เราทำได้และทำไม่ได้
00:53
In our minds, fish swim by in reverse frantically wagging their heads
17
53880
4096
ในใจเรา ก็เหมือนปลาที่ว่ายน้ำถอยหลัง โดยการสะบัดหัวไปมาอย่างลนลาน
00:58
and we don't even notice them.
18
58000
1429
และเรายังไม่รู้สึกตัวอีกด้วย
01:01
I'm going to tell you five facts about myself.
19
61160
2176
ผมจะขอกล่าวถึงข้อเท็จจริง 5 ประการของผมเองแก่ทุกท่าน
01:03
One fact is not true.
20
63360
1320
โดยมีอยู่ข้อเดียวที่โกหก
01:05
One: I graduated from Harvard at 19 with an honors degree in mathematics.
21
65760
4800
หนึ่ง ผมจบจากฮาร์วาร์ดตอนอายุ 19 ด้านคณิตศาสตร์ ด้วยคะแนนเกียรตินิยม
01:11
Two: I currently run a construction company in Orlando.
22
71680
3960
สอง ปัจจุบันผมทำธุรกิจก่อสร้าง ในเมืองออร์แลนโด
01:16
Three: I starred on a television sitcom.
23
76920
3120
สาม ผมเคยแสดงบทนำใน ละครซิทคอมทางโทรทัศน์
01:21
Four: I lost my sight to a rare genetic eye disease.
24
81440
4440
สี่ ผมสูญเสียการมองเห็นจากการเป็น โรคสายตาทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก
01:26
Five: I served as a law clerk to two US Supreme Court justices.
25
86960
4440
ห้า ผมเคยเป็นเจ้าหน้าที่ศาลใน ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ สองแห่ง
01:32
Which fact is not true?
26
92360
1200
ข้อไหนที่เป็นเรื่องโกหกครับ
01:35
Actually, they're all true.
27
95880
1360
ที่แท้แล้ว เป็นจริงหมดทุกข้อ
01:38
Yeah. They're all true.
28
98240
1280
ใช่ครับ ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง
01:40
(Applause)
29
100800
2160
(เสียงปรบมือ)
01:44
At this point, most people really only care about the television show.
30
104680
3656
ณ จุดนี้ คนส่วนใหญ่คงสนใจแต่ การแสดงละครโทรทัศน์สินะครับ
01:48
(Laughter)
31
108360
1680
(เสียงหัวเราะ)
01:51
I know this from experience.
32
111680
1560
ผมทราบได้จากประสบการณ์
01:54
OK, so the show was NBC's "Saved by the Bell: The New Class."
33
114320
3336
ก็ได้ครับ เป็นเรื่อง "ระฆังช่วยชีวิต : ชั้นเรียนใหม่" ทางช่อง NBC ครับ
01:57
And I played Weasel Wyzell,
34
117680
3600
และผมแสดงเป็น วิสเซิล ไวเซล (Weasel Wyzell)
02:02
who was the sort of dorky, nerdy character on the show,
35
122240
4056
ในเรื่องเป็นคนที่มีบุคลิกออกเฉิ่ม ๆ และเป็นเด็กเนิร์ด
02:06
which made it a very major acting challenge
36
126320
4776
ซึ่งทำให้เกิดความท้าทาย ในการแสดงมาก
02:11
for me as a 13-year-old boy.
37
131120
1496
สำหรับเด็กผู้ชายอายุ 13 อย่างผม
02:12
(Laughter)
38
132640
1520
(เสียงหัวเราะ)
02:15
Now, did you struggle with number four, my blindness?
39
135320
2920
คราวนี้ คุณรู้สึกอึดอัดกับข้อ 4 อาการตาบอดของผมบ้างไหมครับ
02:19
Why is that?
40
139120
1200
เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
02:21
We make assumptions about so-called disabilities.
41
141280
2976
เราได้สร้างสมมติฐานขึ้นมา ที่ใคร ๆ ต่างเรียกว่า ความพิการ
02:24
As a blind man, I confront others' incorrect assumptions
42
144280
3176
ในฐานะผู้พิการทางสายตาคนหนึ่ง ผมต้องเผชิญกับการเข้าใจผิด ๆ ของคนอื่น
02:27
about my abilities every day.
43
147480
1760
เกี่ยวกับความสามารถของผมอยู่ทุกวัน
02:30
My point today is not about my blindness, however.
44
150640
2536
อย่างไรก็ดีครับ ประเด็นของวันนี้ ไม่ใช่เรื่องอาการตาบอดของผม
02:33
It's about my vision.
45
153200
1200
แต่มันเกี่ยวกับ วิสัยทัศน์
02:35
Going blind taught me to live my life eyes wide open.
46
155480
3800
การมองไม่เห็นได้สอนให้ผม ใช้ชีวิตอย่างเปิดตาเปิดใจให้กว้าง
02:40
It taught me to spot those backwards-swimming fish
47
160200
2376
มันสอนผมให้เห็น เหล่าปลาที่ว่ายน้ำถอยหลัง
02:42
that our minds create.
48
162600
1496
ภายในใจที่เราปรุงแต่งขึ้นมา
02:44
Going blind cast them into focus.
49
164120
2160
การตาบอดได้จับให้ไปอยู่ในจุดโฟกัส
02:47
What does it feel like to see?
50
167760
2080
ความรู้สึกของการมองเห็นเป็นเช่นไร น่ะหรือ
02:50
It's immediate and passive.
51
170720
1640
มันเป็นไปอย่างฉับพลัน และ รับข้อมูลเพียงอย่างเดียว
02:52
You open your eyes and there's the world.
52
172800
2136
เพียงแค่ลืมตาก็มองเห็นโลก
02:54
Seeing is believing. Sight is truth.
53
174960
2096
เห็นด้วยตาแล้วจึงเชื่อ ภาพที่เห็นคือความเป็นจริง
02:57
Right?
54
177080
1200
ใช่ไหมครับ
02:59
Well, that's what I thought.
55
179120
1680
ครับ นั่นคือสิ่งที่ผมเคยคิด
03:01
Then, from age 12 to 25, my retinas progressively deteriorated.
56
181520
4920
เมื่ออายุ 12 ถึง 25 จอประสาทตาผมเสื่อมสภาพไปทีละน้อย
03:07
My sight became an increasingly bizarre
57
187280
3016
การมองเห็นก็เริ่มแปลกขึ้นเรื่อย ๆ
03:10
carnival funhouse hall of mirrors and illusions.
58
190320
2280
ในห้องโถงของบ้านหรรษากระจกเงา และภาพลวงตาที่งานเทศกาล
03:13
The salesperson I was relieved to spot in a store
59
193640
2336
พนักงานขายที่ผมรู้สึกสบายใจที่ ได้เห็นในร้านค้า
03:16
was really a mannequin.
60
196000
1200
แท้จริงแล้ว คือหุ่นจำลอง
03:17
Reaching down to wash my hands,
61
197880
1496
เมื่อไปถึงที่ที่ผมจะล้างมือ
03:19
I suddenly saw it was a urinal I was touching, not a sink,
62
199400
3216
ทันใดนั้น ผมก็เห็นว่าที่ผมจับอยู่นั้น คือโถปัสสาวะ ไม่ใช่อ่างล้างมือ
03:22
when my fingers felt its true shape.
63
202640
1715
ต่อเมื่อนิ้วได้สัมผัสถึงรูปร่าง จริง ๆ ของมัน
03:25
A friend described the photograph in my hand,
64
205160
2136
เพื่อนคนหนึ่งเคยบรรยาย รูปถ่ายที่อยู่ในมือผม
03:27
and only then I could see the image depicted.
65
207320
2120
เพียงวิธีนี้ผมจึงจะมองเห็น ภาพจริงที่ปรากฎ
03:30
Objects appeared, morphed and disappeared in my reality.
66
210720
4320
วัตถุปรากฎขึ้น ปรับเปลี่ยนรูปร่าง และสูญหายไปในความเป็นจริงของผม
03:36
It was difficult and exhausting to see.
67
216080
2440
มันทั้งลำบากและเหนื่อยล้าที่จะมองเห็น
03:39
I pieced together fragmented, transitory images,
68
219600
3256
ผมปะติดปะต่อชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เป็นภาพที่เกิดเพียงชั่วครู่
03:42
consciously analyzed the clues,
69
222880
1976
วิเคราะห์คำใบ้ปริศนาอย่างมีสติ
03:44
searched for some logic in my crumbling kaleidoscope,
70
224880
3080
มองหาหลักการบางอย่าง ในภาพอันลานตาที่แตกเป็นชิ้น ๆ
03:48
until I saw nothing at all.
71
228840
1286
จนกระทั่งผมมองไม่เห็นอะไรเลย
03:51
I learned that what we see
72
231600
1656
ผมได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่พวกเราเห็น
03:53
is not universal truth.
73
233280
2360
มันไม่ใช่ความเป็นจริงโดยสากล
03:56
It is not objective reality.
74
236200
2200
มันไม่ใช่ความเป็นจริงเชิงวัตถุวิสัย
04:00
What we see is a unique, personal, virtual reality
75
240000
4696
สิ่งที่เราเห็นคือความเป็นจริงเฉพาะตัว เฉพาะบุคคล และความเป็นจริงเสมือน
04:04
that is masterfully constructed by our brain.
76
244720
2120
ที่สมองของเราได้สร้างมันขึ้นมา อย่างชาญฉลาด
04:07
Let me explain with a bit of amateur neuroscience.
77
247560
2334
ขอผมอธิบายด้วยความรู้ทาง ประสาทวิทยาสักเล็กน้อยนะครับ
04:09
Your visual cortex takes up about 30 percent of your brain.
78
249918
3240
เปลือกสมองส่วนการมองเห็นครองพื้นที่ ประมาณ 30 เปอร์เซนต์ของสมองคุณ
04:13
That's compared to approximately eight percent for touch
79
253560
3456
นั่นเทียบได้กับส่วนการรับสัมผัส ที่มีอยู่ประมาณ 8 เปอร์เซนต์
04:17
and two to three percent for hearing.
80
257040
1800
และ 2-3 เปอร์เซนต์ในส่วนของการฟัง
04:19
Every second, your eyes can send your visual cortex
81
259600
3736
ทุกวินาที ตาของคุณสามารถส่งข้อมูล ไปยังเปลือกสมองส่วนการมองเห็น
04:23
as many as two billion pieces of information.
82
263360
2160
มากเท่ากับข้อมูลนับสองพันล้านข้อมูล
04:26
The rest of your body can send your brain only an additional billion.
83
266360
3440
ร่างกายส่วนอื่น ๆ จะสามารถส่งข้อมูล ไปยังสมองของคุณเพิ่มได้อีกพันล้านเท่านั้น
04:30
So sight is one third of your brain by volume
84
270680
4216
การมองเห็นจึงใช้หนึ่งในสาม ปริมาตรของเนื้อสมองทั้งหมด
04:34
and can claim about two thirds of your brain's processing resources.
85
274920
3320
และสามารถกล่าวได้ว่าประมาณสองในสาม นั้นเป็นแหล่งประมวลผลข้อมูลของสมอง
04:39
It's no surprise then
86
279040
1216
มันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย
04:40
that the illusion of sight is so compelling.
87
280280
2096
ว่าภาพลวงตาของการมองเห็น ถึงไม่อาจต้านทานได้อยู่
04:42
But make no mistake about it: sight is an illusion.
88
282400
2400
แต่มันไม่ได้ก่อความผิดพลาด เพราะการมองเห็นคือภาพมายา
04:45
Here's where it gets interesting.
89
285920
1816
ตรงนี้แหละที่เริ่มน่าสนใจ
04:47
To create the experience of sight,
90
287760
2096
ในการสร้างประสบการณ์การมองเห็น สิ่งต่าง ๆ
04:49
your brain references your conceptual understanding of the world,
91
289880
3536
สมองของคุณจะอ้างอิงจากความเข้าใจ เชิงมโนทัศน์ของคุณที่มีต่อโลก
04:53
other knowledge, your memories, opinions, emotions, mental attention.
92
293440
4056
ความรู้อื่น ความทรงจำ ความคิดเห็น อารมณ์ความรู้สึก และการจดจ่อ
04:57
All of these things and far more are linked in your brain to your sight.
93
297520
4560
ทั้งหมดนี้ และนอกเหนือจากนี้ นำมา เชื่อมโยงสมองของคุณกับการมองเห็น
05:03
These linkages work both ways, and usually occur subconsciously.
94
303040
3416
การเชื่อมโยงนี้ทำงานสองทิศทาง และมักเกิดขึ้นที่จิตใต้สำนึก
05:06
So for example,
95
306480
1856
ยกตัวอย่างเช่น
05:08
what you see impacts how you feel,
96
308360
2136
สิ่งที่คุณเห็น จะมีอิทธิพลต่อความรู้สึก
05:10
and the way you feel can literally change what you see.
97
310520
2600
และความรู้สึก สามารถไปเปลี่ยนสิ่งที่คุณเห็นได้
05:14
Numerous studies demonstrate this.
98
314040
1720
งานวิจัยจำนวนมากพิสูจน์ถึงเรื่องนี้
05:16
If you are asked to estimate
99
316600
1856
ตัวอย่างเช่นหากคุณถูกขอให้ประมาณ
05:18
the walking speed of a man in a video, for example,
100
318480
3176
ความเร็วในการเดินของคนที่อยู่ในวิดิโอ
05:21
your answer will be different if you're told to think about cheetahs or turtles.
101
321680
4120
คำตอบของคุณจะต่างออกไป หากบอกให้ คุณประมาณความเร็วของเสือชีตาร์หรือเต่า
05:27
A hill appears steeper if you've just exercised,
102
327120
3296
เนินเขาจะดูสูงชันขึ้น หากคุณเพิ่งออกกำลังกายมา
05:30
and a landmark appears farther away
103
330440
2216
และตำแหน่งของมันจะดูไกลออกไป
05:32
if you're wearing a heavy backpack.
104
332680
1680
หากคุณสะพายกระเป๋าเป้ใบหนัก ๆ
05:35
We have arrived at a fundamental contradiction.
105
335960
2880
เรามาพูดกันถึงเรื่อง ความขัดแย้งที่เป็นพื้นฐานกันครับ
05:40
What you see is a complex mental construction of your own making,
106
340160
4416
สิ่งที่คุณเห็นคือความซับซ้อนของ โครงสร้างทางจิตที่ตัวคุณสร้างขึ้นเอง
05:44
but you experience it passively
107
344600
1776
แต่เป็นประสบการณ์ที่คุณรับข้อมูล
05:46
as a direct representation of the world around you.
108
346400
2400
เสมือนเป็นทางตรงในการสร้างภาพ โลกรอบ ๆ ตัวคุณ
05:49
You create your own reality, and you believe it.
109
349680
2600
คุณเนรมิตความเป็นจริงให้ตัวเอง และคุณก็เชื่อความจริงนั้น
05:53
I believed mine until it broke apart.
110
353560
2240
ผมเคยเชื่อว่าเป็นความจริงของผม จนมันพังทลาย
05:56
The deterioration of my eyes shattered the illusion.
111
356920
2440
การเสื่อมสภาพของดวงตา ได้ทำให้ภาพลวงตาสลายลง
06:00
You see, sight is just one way
112
360720
2296
การมองเห็นเป็นเพียงหนทางเดียว
06:03
we shape our reality.
113
363040
1680
ที่พวกเราก่อร่างความเป็นจริงของเรา
06:05
We create our own realities in many other ways.
114
365280
2600
พวกเราเนรมิตความเป็นจริงของตัวเอง ในหลากหลายทาง
06:09
Let's take fear as just one example.
115
369160
2960
ผมขอนำเรื่องความกลัวมาเป็นตัวอย่าง นะครับ
06:13
Your fears distort your reality.
116
373440
2840
ความกลัวได้บิดเบือนความจริงของคุณ
06:17
Under the warped logic of fear, anything is better than the uncertain.
117
377880
4176
ภายใต้ตรรกะของความกลัวที่บิดเบี้ยว อะไรก็ตามล้วนดูดีกว่าความรู้สึกไม่มั่นคง
06:22
Fear fills the void at all costs,
118
382080
2456
ความกลัวเติมเต็มช่องว่าง ในทุกสถานการณ์
06:24
passing off what you dread for what you know,
119
384560
2136
ดึงความสนใจจากสิ่งที่คุณรู้ ไปหาสิ่งที่คุณกลัวจับจิต
06:26
offering up the worst in place of the ambiguous,
120
386720
2776
นำพามาสู่สถานที่อันเลวร้ายที่สุด ของความแยกแยะไม่ออก
06:29
substituting assumption for reason.
121
389520
1760
ด้วยการตั้งข้อสันนิษฐาน มาแทนที่เหตุผล
06:32
Psychologists have a great term for it: awfulizing.
122
392120
2736
นักจิตวิทยาให้คำนิยามไว้ว่า การสร้างความเลวร้าย (awfulizing)
06:34
(Laughter)
123
394880
1096
(เสียงหัวเราะ)
06:36
Right?
124
396000
1536
ใช่ไหมครับ
06:37
Fear replaces the unknown with the awful.
125
397560
3280
ความกลัวแทนที่สิ่งที่คุณไม่รู้ ด้วยการคิดไปในแง่เลวร้ายเกินจริง
06:42
Now, fear is self-realizing.
126
402080
1896
ณ ตอนนี้ ความกลัวคือการตระหนักรู้ในตัวเอง
06:44
When you face the greatest need
127
404000
1736
เมื่อคุณเผชิญความต้องการที่ยิ่งใหญ่
06:45
to look outside yourself and think critically,
128
405760
2656
ให้มองออกไปภายนอกตัวคุณ และคิดอย่างมีวิจารณญาณ
06:48
fear beats a retreat deep inside your mind,
129
408440
2816
ความกลัวจะทำลายความสงบ ส่วนลึกในจิตใจคุณ
06:51
shrinking and distorting your view,
130
411280
1776
บิดเบือนและบีบมุมมอง ของคุณให้แคบลง
06:53
drowning your capacity for critical thought
131
413080
2056
ถาโถมความสามารถ ในการคิดวิเคราะห์ของคุณให้จมลง
06:55
with a flood of disruptive emotions.
132
415160
1720
ด้วยอารมณ์ความรู้สึกแปรปรวนต่าง ๆ ที่เอ่อล้น
06:57
When you face a compelling opportunity to take action,
133
417880
2856
เมื่อคุณสบโอกาสที่บีบบังคับ ให้ลงมือทำ
07:00
fear lulls you into inaction,
134
420760
2496
ความกลัวจะเป่าหูคุณ ให้ไม่ต้องลงมือทำอะไร
07:03
enticing you to passively watch its prophecies fulfill themselves.
135
423280
3520
ล่อลวงให้คุณได้แต่นิ่งดูดาย ให้มันทำนายว่าตัวคุณเป็นเช่นนั้น
07:09
When I was diagnosed with my blinding disease,
136
429880
2216
ตอนที่ผมถูกวินิจฉัยด้วยโรคตาบอด
07:12
I knew blindness would ruin my life.
137
432120
3040
ผมรู้ว่าการตาบอดจะทำลายชีวิตผม
07:16
Blindness was a death sentence for my independence.
138
436400
2936
การตาบอดคือคำตัดสินโทษประหาร ความเป็นอิสระเสรีของผม
07:19
It was the end of achievement for me.
139
439360
1880
มันเป็นจุดจบของ การประสบความสำเร็จของผม
07:22
Blindness meant I would live an unremarkable life,
140
442600
3976
การตาบอดหมายถึง ผมจะใช้ชีวิตที่ไม่อาจประทับใจ
07:26
small and sad,
141
446600
1696
ต่ำต้อยและทุกข์ระทม
07:28
and likely alone.
142
448320
1200
แล้วก็คงจะโดดเดี่ยว
07:30
I knew it.
143
450280
1200
ผมทราบดี
07:33
This was a fiction born of my fears, but I believed it.
144
453440
2800
นี่คือนิยายที่ถือกำเนิดจาก ความกลัวของผม และผมก็เชื่อมัน
07:36
It was a lie, but it was my reality,
145
456800
2616
เป็นเรื่องโกหก แต่มันคือความเป็นจริงของผม
07:39
just like those backwards-swimming fish in little Dorothy's mind.
146
459440
3160
ดังเช่นเหล่าปลาที่ว่ายน้ำถอยหลัง ในความคิดของโดโรธี
07:43
If I had not confronted the reality of my fear,
147
463920
2496
หากผมไม่ได้เผชิญหน้ากับ ความกลัวที่เป็นจริงของผม
07:46
I would have lived it.
148
466440
1200
ผมคงจะใช้ชีวิตแบบนั้น
07:48
I am certain of that.
149
468200
1280
ผมแน่ใจว่าเป็นอย่างนั้น
07:51
So how do you live your life eyes wide open?
150
471920
2520
ดังนั้นคุณจะใช้ชีวิต อย่างเปิดตาเปิดใจได้อย่างไร
07:55
It is a learned discipline.
151
475480
1480
มันคือกฎเกณฑ์ที่ต้องเรียนรู้
07:57
It can be taught. It can be practiced.
152
477520
2440
สามารถสอนกันได้ ฝึกกันได้
08:00
I will summarize very briefly.
153
480680
1429
ผมจะสรุปอย่างสั้น ๆ นะครับ
08:03
Hold yourself accountable
154
483640
1896
คุณต้องรับผิดชอบต่อตัวคุณเอง
08:05
for every moment, every thought,
155
485560
2496
ในทุกขณะ ทุกความคิด
08:08
every detail.
156
488080
1200
และในทุกรายละเอียด
08:10
See beyond your fears.
157
490120
1656
มองให้โผล่พ้นความกลัวของคุณ
08:11
Recognize your assumptions.
158
491800
1736
ตระหนักว่ามันคือสมมุติฐานของคุณ
08:13
Harness your internal strength.
159
493560
1776
ใช้พลังจากความเข้มแข็งในใจ
08:15
Silence your internal critic.
160
495360
2176
เงียบเสียงคำติเตียนที่อยู่ในตัว
08:17
Correct your misconceptions about luck and about success.
161
497560
2800
แก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ โชคชะตาและความสำเร็จ
08:21
Accept your strengths and your weaknesses, and understand the difference.
162
501480
3440
ยอมรับจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง และเข้าใจในความต่างนั้น
08:25
Open your hearts
163
505600
1296
เปิดใจของคุณออกรับ
08:26
to your bountiful blessings.
164
506920
1400
คำอวยพรอันมากมาย
08:29
Your fears, your critics,
165
509480
2216
ความกลัวของคุณ คำติเตียนของคุณ
08:31
your heroes, your villains --
166
511720
1856
ฮีโร่ของคุณ ศัตรูตัวร้ายของคุณ
08:33
they are your excuses,
167
513600
3016
เหล่านี้เป็นข้อแก้ตัวของคุณทั้งสิ้น
08:36
rationalizations, shortcuts,
168
516640
2336
การหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง การคิดหาทางลัด
08:39
justifications, your surrender.
169
519000
2320
การให้เหตุผลแก้ตัว การยอมแพ้
08:42
They are fictions you perceive as reality.
170
522360
2319
เหล่านี้คือนิยายที่คุณ เข้าใจว่ามันคือความจริง
08:46
Choose to see through them.
171
526000
1655
จงเลือกที่จะมองผ่านมันไป
08:47
Choose to let them go.
172
527679
1240
จงเลือกที่จะปล่อยมันไป
08:50
You are the creator of your reality.
173
530080
2959
คุณคือผู้เนรมิตความเป็นจริง ของตัวคุณเอง
08:54
With that empowerment comes complete responsibility.
174
534240
3040
ด้วยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งนั้น ความรับผิดชอบอย่างเต็มรูปแบบจะตามมา
08:58
I chose to step out of fear's tunnel into terrain uncharted and undefined.
175
538440
5120
ผมเลือกที่จะก้าวออกมาจากอุโมงค์แห่ง ความกลัวมายังดินแดนนิรนามอันเป็นปริศนา
09:04
I chose to build there a blessed life.
176
544440
2400
ผมได้เลือกที่จะสร้างชีวิตที่เปี่ยมสุข
09:08
Far from alone,
177
548120
1776
ห่างไกลจากความโดดเดี่ยว
09:09
I share my beautiful life with Dorothy,
178
549920
2976
ผมได้ใช้ชีวิตอันสวยงาม ร่วมกับโดโรธี
09:12
my beautiful wife,
179
552920
1656
กับภรรยาแสนสวยของผม
09:14
with our triplets, whom we call the Tripskys,
180
554600
2160
กับเจ้าแฝดสามที่เราเรียกว่า "ทริปสกี้"
09:18
and with the latest addition to the family,
181
558400
2016
และสมาชิกคนล่าสุด ของครอบครัวเรา
09:20
sweet baby Clementine.
182
560440
1360
เจ้าตัวเล็ก "น้องเคลเมนไทน์"
09:22
What do you fear?
183
562840
1200
คุณหวาดกลัวอะไรครับ
09:25
What lies do you tell yourself?
184
565600
1760
คำโกหกอะไร ที่คุณพร่ำบอกกับตัวเอง
09:28
How do you embellish your truth and write your own fictions?
185
568520
2920
คุณปรุงแต่งความเป็นจริงและ เขียนลงนิยายของคุณอย่างไร
09:32
What reality are you creating for yourself?
186
572360
2480
ความเป็นจริงอะไร ที่คุณเนรมิตให้กับตัวคุณเอง
09:36
In your career and personal life, in your relationships,
187
576200
3176
ในอาชีพการงาน ในชีวิตส่วนตัว และในด้านความสัมพันธ์
09:39
and in your heart and soul,
188
579400
1616
รวมถึงในหัวใจและจิตวิญญาณ
09:41
your backwards-swimming fish do you great harm.
189
581040
2400
ปลาที่ว่ายน้ำถอยหลังของคุณ ทำร้ายคุณได้อย่างใหญ่หลวง
09:44
They exact a toll in missed opportunities and unrealized potential,
190
584560
3920
พวกมันเป็นตัวบ่อนทำลายในบรรดาโอกาส ที่พลาดไปและศักยภาพที่ไม่เคยล่วงรู้
09:49
and they engender insecurity and distrust
191
589400
2376
และยังก่อความรู้สึกไม่มั่นคงและ ความไม่เชื่อใจ
09:51
where you seek fulfillment and connection.
192
591800
2440
ที่จะแสวงหาความสำเร็จสมปรารถนา และการปฏิสัมพันธ์
09:55
I urge you to search them out.
193
595560
2200
ผมจะกระตุ้นให้คุณค้นหามันออกมาให้ได้
09:59
Helen Keller said that the only thing worse than being blind
194
599360
4176
เฮเลน เคลเลอร์ เคยกล่าวไว้ว่า สิ่งเดียวที่เลวร้ายกว่าการตาบอด
10:03
is having sight but no vision.
195
603560
2000
คือการมองเห็น แต่ปราศจากวิสัยทัศน์
10:06
For me, going blind was a profound blessing,
196
606920
3776
สำหรับผมแล้ว การตาบอด คือพรอันประเสริฐ
10:10
because blindness gave me vision.
197
610720
2040
เพราะการตาบอด ได้มอบวิสัยทัศน์แก่ผม
10:13
I hope you can see what I see.
198
613720
2000
ผมหวังว่าคุณจะได้พบ ในสิ่งที่ผมพบนะครับ
10:16
Thank you.
199
616280
1216
ขอบคุณครับ
10:17
(Applause)
200
617520
2160
(เสียงปรบมือ)
10:32
Bruno Giussani: Isaac, before you leave the stage, just a question.
201
632720
3176
บรูโน จิสซานี : คุณไอแซค ก่อนที่ จะลงจากเวที ผมมีคำถามหนึ่งครับ
10:35
This is an audience of entrepreneurs, of doers, of innovators.
202
635920
3776
ท่านผู้ชมของเราเป็น ผู้ประกอบการ ผู้ปฏิบัติงาน นักนวัตกรรม
10:39
You are a CEO of a company down in Florida,
203
639720
3656
คุณซึ่งเป็นซีอีโอของบริษัท แห่งหนึ่งในรัฐฟลอริดา
10:43
and many are probably wondering,
204
643400
2136
และหลายท่านคงสงสัยว่า
10:45
how is it to be a blind CEO?
205
645560
2216
การเป็นซีอีโอที่มองไม่เห็น นั้นเป็นอย่างไรครับ
10:47
What kind of specific challenges do you have, and how do you overcome them?
206
647800
3776
คุณมีอุปสรรคสำคัญแบบไหน และคุณผ่านมันมาได้อย่างไรครับ
10:51
Isaac Lidsky: Well, the biggest challenge became a blessing.
207
651600
3136
ไอแซค ลิดสกี: ครับ อุปสรรคอันใหญ่ยิ่งนี้กลายมาเป็นพรของผมครับ
10:54
I don't get visual feedback from people.
208
654760
2560
คือ ผมจะมองไม่เห็นท่าทีตอบกลับจากผู้คนครับ
10:57
(Laughter)
209
657880
2096
(เสียงหัวเราะ)
11:00
BG: What's that noise there? IL: Yeah.
210
660000
2176
แล้วพวกเสียงล่ะครับ ไอแซค : ได้รับครับ
11:02
So, for example, in my leadership team meetings,
211
662200
3496
ตัวอย่างเช่น ในการประชุมหัวหน้าแผนก
11:05
I don't see facial expressions or gestures.
212
665720
2360
ผมจะไม่เห็นสีหน้าท่าทาง ของพวกเขาครับ
11:09
I've learned to solicit a lot more verbal feedback.
213
669640
3736
ผมได้เรียนรู้ที่จะขอให้มีการ บอกผลตอบกลับรูปแบบคำพูดมากขึ้น
11:13
I basically force people to tell me what they think.
214
673400
4000
โดยทั่วไปผมจะให้พวกเขาบอกผม เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาคิด
11:18
And in this respect,
215
678080
1856
ซึ่งในเรื่องนี้
11:19
it's become, like I said, a real blessing for me personally and for my company,
216
679960
4096
อย่างที่ผมเคยบอก มันกลายเป็นพร อันแท้จริงให้ทั้งโดยส่วนตัวและบริษัท
11:24
because we communicate at a far deeper level,
217
684080
2600
เพราะเราจะมีการสื่อสารกัน ในระดับที่ลึกซึ้งมากขึ้น
11:27
we avoid ambiguities,
218
687400
1920
พวกเราหลีกเลี่ยงความคลุมเครือ
11:30
and most important, my team knows that what they think truly matters.
219
690080
5930
และที่สำคัญที่สุด พวกเขาต่างรู้ว่า สิ่งที่พวกเขาคิดเป็นสิ่งสำคัญจริง ๆ
11:38
BG: Isaac, thank you for coming to TED. IL: Thank you, Bruno.
220
698560
2896
บรูโน: คุณไอแซค ขอบคุณที่มา TED นะครับ ไอแซค: ขอบคุณครับ คุณบรูโน
11:41
(Applause)
221
701480
3705
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7