Why you should know how much your coworkers get paid | David Burkus

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Rawee Ma

How much do you get paid?

คุณได้เงินเดือนเท่าไรครับ

Don't answer that out loud.

อย่าพูดออกมานะครับ

But put a number in your head.

แต่นึกตัวเลขนั้นไว้ในใจ

Now: How much do you think the person sitting next to you gets paid?

ทีนี้ คุณคิดว่าคนที่นั่นอยู่ข้าง ๆ คุณ ได้เงินเดือนเท่าไร

Again, don't answer out loud.

เหมือนกันครับ อย่าพูดออกมานะครับ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

At work, how much do you think

ในที่ทำงาน คุณคิดว่า

the person sitting in the cubicle or the desk next to you gets paid?

คนที่นั่งอยู่ในคอกทำงานหรือมุมมืด ๆ ข้าง ๆ คุณ ได้เงินเดือนเท่าไร

Do you know?

คุณรู้หรือเปล่าครับ

Should you know?

คุณควรที่จะรู้หรือเปล่า

Notice, it's a little uncomfortable for me to even ask you those questions.

สังเกตไหมครับว่า สำหรับผมแล้ว มันรู้สึกไม่ค่อยดีที่จะถามคำถามพวกนี้

But admit it -- you kind of want to know.

แต่ยอมรับเถอะครับ -- คุณก็อยากที่จะรู้

Most of us are uncomfortable with the idea of broadcasting our salary.

พวกคุณส่วนใหญ่ไม่สบายใจ กับแนวคิดที่จะป่าวประกาศเงินเดือนของเรา

We're not supposed to tell our neighbors,

เราไม่ควรที่จะบอกเพื่อนบ้านของเรา

and we're definitely not supposed to tell our office neighbors.

และเราไม่ควรที่จะบอกเพื่อนบริษัทอื่น ๆ

The assumed reason is that if everybody knew what everybody got paid,

เหตุผลโดยสรุปก็เพราะว่า ถ้าทุกคนรู้ว่าทุกคนได้เงินเดือนเท่าไร

then all hell would break loose.

ก็จะเกิดภาวะนรกแตก

There'd be arguments, there'd be fights,

จะมีการถกเถียงกัน จะมีการฟาดฟัน

there might even be a few people who quit.

และอาจทำให้บางคนลาออก

But what if secrecy is actually the reason for all that strife?

แต่ถ้าหากว่าความลับนี้อันที่จริงแล้ว เป็นที่มาของการแข่งขันทั้งหมดนี่ล่ะ

And what would happen if we removed that secrecy?

และจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเรากำจัดความลับนี้ออกไป

What if openness actually increased the sense of fairness and collaboration

ถ้าหากจริง ๆ แล้วการเปิดเผยเป็นการเพิ่ม ความรู้สึกยุติธรรมเท่าเทียมและความร่วมมือ

inside a company?

ภายในบริษัทล่ะ

What would happen if we had total pay transparency?

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราทำให้ เรื่องเงินเดิอนได้รับการเปิดเผย

For the past several years,

สองสามปีที่ผ่านมา

I've been studying the corporate and entrepreneurial leaders

ผมได้ศึกษาผู้นำองค์กรและผู้ลงทุน

who question the conventional wisdom about how to run a company.

ผู้ที่ตั้งคำถามต่อปรัชญาที่มีมาแต่ดั้งเดิม เกี่ยวกับการบริหารบริษัท

And the question of pay keeps coming up.

และคำถามที่เกี่ยวข้องกับเงินเดือน ก็ผุดขึ้นมาอยู่เรื่อย

And the answers keep surprising.

แล้วคำตอบก็น่าประหลาดใจไม่แพ้กัน

It turns out that pay transparency --

กลายเป็นว่าการเปิดเผยเงินเดือน --

sharing salaries openly across a company --

การเปิดเผยตัวเลขเงินเดือนทั่วทั้งบริษัท --

makes for a better workplace for both the employee

ทำให้ที่ทำงานมีบรรยากาศดีกว่า ทั้งสำหรับลูกจ้าง

and for the organization.

และสำหรับตัวองค์กร

When people don't know how their pay compares to their peers',

เมื่อผู้คนไม่รู้ว่าพวกเขาได้เงินเดือนเท่าไร เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมงาน

they're more likely to feel underpaid

พวกเขาจะรู้สึกว่าได้รับเงินน้อยเกินไป

and maybe even discriminated against.

และอาจทำให้เกิดการแบ่งแยกกัน

Do you want to work at a place that tolerates the idea

คุณอยากทำงานในที่ซึ่งยอมให้เกิดแนวคิด

that you feel underpaid or discriminated against?

ที่ทำให้คุณรู้สึกว่าได้เงินน้อยเกินไป หรือเกิดการแบ่งแยกหรือเปล่า

But keeping salaries secret does exactly that,

แต่การทำให้เรื่องเงินเดือนเป็นความลับนี่แหละ ที่เป็นการทำแบบนั้น

and it's a practice as old as it is common,

และมันก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ทั้งมีมาเนิ่นนานและพบได้ทั่วไป

despite the fact that in the United States,

แม้ว่าอันที่จริงแล้วในสหรัฐอเมริกา

the law protects an employee's right to discuss their pay.

กฎหมายคุ้มครองสิทธิที่ลูกจ้าง จะพูดถึงเงินเดือนของพวกเขา

In one famous example from decades ago,

หนึ่งในตัวอย่างที่โด่งดังเมื่อหลายสิบปีก่อน

the management of Vanity Fair magazine

การบริหารงานของนิตยสาร วานิตี แฟร์

actually circulated a memo entitled:

มีการส่งจดหมายเวียนที่มีหัวข้อว่า

"Forbidding Discussion Among Employees of Salary Received."

" ห้ามลูกจ้างพูดคุยกัน เรื่องเงินเดือนที่ได้รับ"

"Forbidding" discussion among employees of salary received.

"การห้าม" การพูดคุยระหว่างลูกจ้าง เกี่ยวกับเงินเดือนที่ได้รับ

Now that memo didn't sit well with everybody.

ทีนี้ จดหมายเวียนดังกล่าว ก็ไม่ได้เป็นที่พึงใจกับทุกคน

New York literary figures Dorothy Parker,

นักประพันธ์ชื่อดังชาวนิวยอร์ก โดโรธี ปาร์กเกอร์

Robert Benchley and Robert Sherwood,

โรเบิร์ต เบนช์เลย์ และ โรเบิร์ต เชอร์วู๊ด

all writers in the Algonquin Round Table,

นักเขียนทั้งหมดจาก อะโกนควิน ราวด์ เทเบิล

decided to stand up for transparency

ตัดสินใจที่จะสนับสนุนให้เกิดการเปิดเผย

and showed up for work the next day

และเข้ามาทำงานในวันรุ่งขึ้น

with their salary written on signs hanging from their neck.

พร้อมกับป้ายระบุเงินเดือน ที่คล้องอยู่รอบคอของพวกเขา

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Imagine showing up for work

ลองนึกภาพดูสิครับ คุณเข้าทำงาน

with your salary just written across your chest for all to see.

พร้อมกับป้ายระบุเงินเดือนที่คาดอยู่บนอก ซึ่งทุกคนเห็นได้

But why would a company even want to discourage salary discussions?

แต่ทำไมบริษัทถึงไม่สนับสนุน ให้เกิดการพูดคุยกันเรื่องเงินเดือนล่ะ

Why do some people go along with it, while others revolt against it?

ทำไมบางคนยอมทำตามแนวทางนี้

It turns out that in addition to the assumed reasons,

กลายเป็นว่า นอกจากข้อสรุปโดยรวมนี้แล้ว

pay secrecy is actually a way to save a lot of money.

อันที่จริงแล้วความลับเรื่องเงินเดือน ยังเป็นวิธีการที่ช่วยประหยัดเงินได้มาก

You see, keeping salaries secret

เห็นไหมครับ การเก็บเรื่องเงินเดือนเป็นความลับ

leads to what economists call "information asymmetry."

นำไปสู่สิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่า "ความไม่สมมาตรของข้อมูล"

This is a situation where, in a negotiation,

นั่นเป็นสถานการณ์ ที่ในการต่อรอง

one party has loads more information than the other.

ฝ่ายหนึ่งมีข้อมูลมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่งมาก

And in hiring or promotion or annual raise discussions,

และในพูดคุยเรื่องการจ้างงาน การเลื่อนตำแหน่ง หรือการขึ้นเงินเดือน

an employer can use that secrecy to save a lot of money.

นายจ้างสามารถใช้ความลับนี้ ในการช่วยประหยัดเงินได้เป็นจำนวนมาก

Imagine how much better you could negotiate for a raise

ลองนึกดูว่าคุณจะต่อรอง เรื่องการขึ้นเงินเดือนได้ดีกว่าเดิมแค่ไหน

if you knew everybody's salary.

ถ้าคุณรู้ว่าทุกคนได้เงินเดือนเท่าไร

Economists warn that information asymmetry

นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า ความไม่สมมาตรของข้อมูลนี้

can cause markets to go awry.

สามารถทำให้ตลาดแรงงานเกิดความบิดเบี้ยว

Someone leaves a pay stub on the copier,

ใครบางคนอาจลืมใบรับเงินเดือน ไว้บนเครื่องถ่ายเอกสาร

and suddenly everybody is shouting at each other.

และทุกคนก็จะเริ่มทะเลาะถกเถียงกัน

In fact, they even warn

อันที่จริงแล้ว พวกเขาเตือนด้วยซ้ำว่า

that information asymmetry can lead to a total market failure.

ความไม่สมมาตรของข้อมูลสามารถนำไปสู่ การล้มเหลวของตลาดแรงงาน

And I think we're almost there.

และผมคิดว่าเราเกือบจะไปถึงจุดนั้นแล้ว

Here's why:

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมครับ

first, most employees have no idea how their pay compares to their peers'.

ประการแรก ลูกจ้างส่วนใหญ่ไม่รู้เลยว่า พวกเขาได้เงินดีแต่ไหนเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมงาน

In a 2015 survey of 70,000 employees,

ในปี ค.ศ. 2015 การสำรวจลูกจ้าง 70,000 คน

two-thirds of everyone who is paid at the market rate

เผยว่า สองในสามของทุกคนที่ได้รับค่าจ้าง ในอัตราค่าแรงของตลาดแรงงาน

said that they felt they were underpaid.

บอกว่า พวกเขารู้สึกว่าได้เงินเดือนน้อยเกินไป

And of everybody who felt that they were underpaid,

และในบรรดาทุกคนที่รู้สึกว่า พวกเขาได้เงินเดือนน้อยเกินไป

60 percent said that they intended to quit,

60 เปอร์เซ็นต์บอกว่า พวกเขาตั้งใจที่จะลาออก

regardless of where they were -- underpaid, overpaid

ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน -- ได้เงินน้อยเกินไป ได้เงินมากเกินไป

or right at the market rate.

หรือได้เงินพอดี กับอัตราค่าแรงของตลาดแรงงาน

If you were part of this survey, what would you say?

ถ้าคุณเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจนี้ คุณจะบอกว่าอย่างไรครับ

Are you underpaid?

คุณคิดว่าคุณได้เงินน้อยเกินไปหรือเปล่า

Well, wait -- how do you even know,

เดี๋ยว ๆ รอเดี๋ยวนะครับ -- คุณจะรู้ได้อย่างไรกันล่ะครับ

because you're not allowed to talk about it?

เพราะว่าคุณไม่ได้รับอนุญาต ให้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้นี่นา

Next, information asymmetry, pay secrecy,

ต่อไป ความไม่สมมาตรของข้อมูล ความลับเรื่องเงินเดือน

makes it easier to ignore the discrimination

ทำให้มันง่ายกว่าต่อการเพิกเฉย ไม่ใส่ใจการแบ่งแยก

that's already present in the market today.

ที่ปรากฏตัวอยู่แล้วในตลาดแรงงานทุกวันนี้

In a 2011 report from the Institute for Women's Policy Research,

ใน ค.ศ. 2011 รายงานจากสถาบัน เพื่อการวิจัยนโยบายของสตรี

the gender wage gap between men and women

เผยว่า ช่วงระหว่างเพศชายและหญิง

was 23 percent.

คือ 23 เปอร์เซ็นต์

This is where that 77 cents on the dollar comes from.

นี่เป็นที่มาของเงิน 77 เซ็นต์

But in the Federal Government,

แต่ในรัฐบาลกลาง

where salaries are pinned to certain levels

ที่ซึ่งเงินเดือนถูกกำหนดไว้ที่ระดับขั้นจำเพาะ

and everybody knows what those levels are,

และทุกคนก็รู้ว่าระดับขั้นเหล่านั้นคือเท่าไรบ้าง

the gender wage gap shrinks to 11 percent --

และช่วงระหว่างเพศ ลดลงเหลือ 11 เปอร์เซ็นต์ --

and this is before controlling for any of the factors

และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนการควบคุม ต่อปัจจัยใด ๆ

that economists argue over whether or not to control for.

ที่นักเศรษฐศาสตร์ถกเถียงกัน ว่ามันควรหรือไม่ควรที่จะควบคุม

If we really want to close the gender wage gap,

ถ้าคุณต้องการกำจัดช่องว่างค่าจ้าง ระหว่างเพศลง

maybe we should start by opening up the payroll.

บางทีคุณอาจต้องเริ่มต้น ด้วยการเปิดเผยเงินเดือน

If this is what total market failure looks like,

ถ้านี่เป็นหน้าตาของความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ของตลาดแรงงานแล้วล่ะก็

then openness remains the only way to ensure fairness.

การเปิดเผยก็คงจะเป็นหนทางเดียว ที่จะทำให้เกิดความยุติธรรม

Now, I realize that letting people know what you make

เอาล่ะครับ ผมตระหนักว่า การให้คนอื่นรู้ว่าคุณได้เงินเท่าไร

might feel uncomfortable,

อาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร

but isn't it less uncomfortable

แต่มันจะรู้สึกไม่ดียิ่งกว่าหรือเปล่า

than always wondering if you're being discriminated against,

ที่จะคอยคิดอยู่เสมอ ว่าคุณถูกแบ่งแยกหรือเปล่า

or if your wife or your daughter or your sister is being paid unfairly?

หรือว่าภรรยา ลูกสาว หรือน้องสาวของคุณ ได้รับเงินอย่างเป็นธรรมไหม

Openness remains the best way to ensure fairness,

การเปิดเผยยังคงเป็นหนทางที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรม

and pay transparency does that.

และการเปิดเผยเงินเดือนอย่างโปร่งใส จะนำมาซึ่งสิ่งนั้น

That's why entrepreneurial leaders and corporate leaders

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้นำการลงทุน และผู้นำองค์กรทั้งหลาย

have been experimenting with sharing salaries for years.

ได้ทำการทดสอบทดลอง เปิดเผยข้อมูลเงินเดือนมานานหลายปีแล้ว

Like Dane Atkinson.

อย่างเช่น เดน แอทคินสัน

Dane is a serial entrepreneur who started many companies

เดน เป็นนักลงทุนผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย

in a pay secrecy condition

ด้วยกติการการจ่ายเงินเดือน อย่างเป็นความลับ

and even used that condition to pay two equally qualified people

และแม้กระทั่งใช้กติกานั้น ในการจ่ายเงินเดือนที่แตกต่างกันอย่างมาก

dramatically different salaries,

ให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติเท่ากันสองคน

depending on how well they could negotiate.

โดยขึ้นอยู่กับว่า พวกเขาต่อรองได้มากน้อยแค่ไหน

And Dane saw the strife that happened as a result of this.

และเดนก็เห็นการแข่งขัน ที่เกิดขึ้นจากสิ่งนี้

So when he started his newest company, SumAll,

เมื่อเขาก่อตั้งบริษัทใหม่ล่าสุดของเขา ซัมออล์ (SumAll)

he committed to salary transparency from the beginning.

เขายึดมั่นกับการเปิดเผยเรื่องเงินเดือน มาตั้งแต่เริ่มต้น

And the results have been amazing.

และผลลัพธ์ก็น่าทึ่ง

And in study after study,

และในการศึกษาครั้งแล้วครั้งเล่า

when people know how they're being paid

เมื่อคนรู้ว่าพวกเขาได้เงินเดือนดีแค่ไหน

and how that pay compares to their peers',

และเงินเดือนนั้นเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมงาน

they're more likely to work hard to improve their performance,

พวกเขามักจะทำงานหนัก เพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวเอง

more likely to be engaged, and they're less likely to quit.

มักจะใจจดใจจ่อมากขึ้น และมักลาออกน้อยกว่า

That's why Dane's not alone.

นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมเดนไม่ใช่คนเดียวที่ทำแบบนี้

From technology start-ups like Buffer,

ตั้งแต่เทคโนโลยีสตาร์ทอัพ อย่างเช่น บัฟเฟอร์ (Buffer)

to the tens of thousands of employees at Whole Foods,

ไปจนถึง โฮล ฟู๊ดส์ (Whole Foods) ที่มีลูกจ้างเป็นหมื่น ๆ คน

where not only is your salary available for everyone to see,

ที่ไม่เพียงแต่เงินเดือนของคุณจะถูกเปิดเผย ให้ทุกคนได้รับทราบ

but the performance data for the store and for your department

แต่ข้อมูลประสิทธิภาพการทำงานของคุณ ที่มีต่อห้างร้าน และแผนกของคุณ

is available on the company intranet

ยังถูกเปิดเผยในอินทราเน็ตของบริษัท

for all to see.

ให้กับทุกคนอีกด้วย

Now, pay transparency takes a lot of forms.

ทีนี้ การเปิดเผยเงินเดือนนั้นมีหลายรูปแบบ

It's not one size fits all.

ไม่ใช่ว่าทุกรูปแบบจะเหมาะกับทุกบริษัท

Some post their salaries for all to see.

บ้างเปิดเผยเงินเดือนของพวกเขา ให้ทุกคนได้รับทราบ

Some only keep it inside the company.

บางก็เก็บไว้เป็นเรื่องภายในของบริษัท

Some post the formula for calculating pay,

บ้างก็ให้สูตรสำหรับการคำนวณเงินเดือน

and others post the pay levels

และบ้างก็ให้ระดับขั้นของเงินเดือน

and affix everybody to that level.

และจัดแบ่งทุก ๆ คนไปตามระดับนั้น

So you don't have to make signs

ฉะนั้น คุณไม่จำเป็นต้องทำป้าย

for all of your employees to wear around the office.

สำหรับลูกจ้างของคุณทุกคน เพื่อที่จะแขวนเอาไว้เมื่ออยู่ในที่ทำงาน

And you don't have to be the only one wearing a sign

และคุณไม่จำเป็น ที่จะต้องเป็นคนเดียวที่แขวนป้าย

that you made at home.

ที่คุณทำมาจากบ้าน

But we can all take greater steps towards pay transparency.

แต่พวกเราสามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ในเรื่องการเปิดเผยเงินเดือนได้

For those of you that have the authority

สำหรับพวกคุณที่มีอำนาจหน้าที่

to move forward towards transparency:

ที่จะผลักดันความโปร่งใสดังกล่าว

it's time to move forward.

มันถึงเวลาแล้วที่เราจะเดินหน้า

And for those of you that don't have that authority:

และสำหรับพวกคุณที่ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่นั้น

it's time to stand up for your right to.

มันถึงเวลาแล้วที่จะสนับสนุนเพื่อสิทธินั้น

So how much do you get paid?

เอาล่ะ แล้วคุณได้เงินเดือนเท่าไรครับ

And how does that compare to the people you work with?

และนั่นมันเป็นอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่คุณทำงานด้วย

You should know.

คุณควรรู้เอาไว้

And so should they.

และพวกเขาก็ควรรู้เช่นกัน

Thank you.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)