A virtual choir 2,000 voices strong | Eric Whitacre

Translator: Thipnapa Huansuriya Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

I wanted to be a rock star.

ผมเคยฝันอยากเป็นดาราเพลงร็อค

I dreamed of it, and that's all I dreamed of.

มันเป็นความฝันอย่างเดียวของผม

To be more accurate, I wanted to be a pop star.

ที่จริง เอาให้ตรงกว่านั้น ผมอยากเป็นดาราเพลงป๊อบ

This was in the late '80s.

นั่นคือตอนยุค 80s

And mostly I wanted to be the fifth member

ผมอยากเป็นสมาชิกคนที่ห้า

of Depeche Mode or Duran Duran.

ของวง Depeche Mode หรือไม่ก็ Duran Duran

They wouldn't have me.

เขาคงไม่รับผมเข้าวงหรอกครับ

I didn't read music, but I played synthesizers and drum machines.

ผมอ่านโน้ตไม่เป็น แต่ก็เล่นเครื่องซินธิไซเซอร์กับกลองไฟฟ้าได้นะ

And I grew up in this little farming town in northern Nevada.

ผมโตขึ้นมาในเมืองการเกษตรเล็กๆ ตอนเหนือของรัฐเนวาดา

And I was certain that's what my life would be.

ตอนนั้นผมมั่นใจว่าชีวิตผมคงจบที่นั่นแหละ

And when I went to college at the University of Nevada, Las Vegas

พอผมเข้ามหาวิทยาลัยที่ University of Nevada ที่ลาสเวกัส

when I was 18,

ตอนอายุ 18

I was stunned to find

ผมก็อึ้งไปเลยเมื่อพบว่า

that there was not a Pop Star 101,

มันไม่มีวิชาการเป็นดาราเพลงป๊อบเบื้องต้น

or even a degree program for that interest.

หรือแม้แต่หลักสูตรปริญญาเพื่อการนี้

And the choir conductor there

วาทยากรวงประสานเสียงของที่นั่น

knew that I sang

เขารู้ว่าผมร้องเพลงได้

and invited me to come and join the choir.

ก็เลยชวนผมไปเข้าวง

And I said, "Yes, I would love to do that. It sounds great."

ผมบอกว่า "ครับ ผมอยากเข้าวง มันคงจะเยี่ยมมากเลย"

And I left the room and said, "No way."

พอออกจากห้อง ผมก็คิดนะ "ไม่มีทางหรอก"

The choir people in my high school were pretty geeky,

เด็กในวงขับร้องประสานเสียงที่โรงเรียนมัธยมของผมน่ะบ้าตำรากันจะตาย

and there was no way I was going to have anything to do with those people.

ผมไม่มีทางไปทำอะไรร่วมกับคนพวกนั้นหรอก

And about a week later, a friend of mine came to me and said,

หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ เพื่อนผมคนหนึ่งมาบอกผมว่า

"Listen, you've got to join choir.

"ฟังนะ นายจะต้องเข้าวงขับร้องประสานเสียง

At the end of the semester, we're taking a trip to Mexico,

ตอนปลายเทอม เราจะไปเม็กซิโก

all expenses paid.

มหาวิทยาลัยออกค่าใช้จ่ายให้หมด

And the soprano section is just full of hot girls."

แล้วนักร้องโซปราโนก็มีสาวๆ สวยๆ เพียบเลย

And so I figured for Mexico and babes,

ผมเลยคิดว่า เพื่อเม็กซิโกและสาวๆ

I could do just about anything.

ผมยอมทำได้ทุกอย่าง

And I went to my first day in choir,

วันแรกที่ผมไปเข้าวง

and I sat down with the basses

ผมนั่งอยู่กับพวกนักร้องเสียงเบส

and sort of looked over my shoulder

แล้วมองข้ามไหล่ไปดูว่า

to see what they were doing.

เขาทำอะไรกัน

They opened their scores, the conductor gave the downbeat,

พวกเขาเปิดโน้ตเพลง แล้ววาทยากรก็ให้สัญญาณเริ่มต้น

and boom, they launched into the Kyrie

แล้วก็ บูม วงเริ่มร้องท่อน Kyrie

from the "Requiem" by Mozart.

จากบทประพันธ์ "Requiem" ของโมซาร์ท

In my entire life I had seen in black and white,

มันเหมือนกับว่า ผมมองเห็นแต่ภาพขาวดำมาตลอดชีวิต

and suddenly everything was in shocking Technicolor.

แล้วอยู่ดีๆ ทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็นสีสันเจิดจ้างดงามไปหมด

The most transformative experience I've ever had --

มันเป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตผมมากที่สุด

in that single moment, hearing dissonance and harmony

ณ ขณะนั้น ที่ผมได้ยินทั้งความขัดแย้งและสอดประสาน

and people singing, people together,

ของเสียงผู้คนที่ร้องเพลงร่วมกัน

the shared vision.

และเห็นภาพที่เป็นหนึ่งเดียวกัน

And I felt for the first time in my life

ผมรู้สึกเป็นครั้งแรกในชีวิตว่า

that I was part of something bigger than myself.

ผมได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง

And there were a lot of cute girls in the soprano section, as it turns out.

แล้วก็ปรากฏว่ามีนักร้องโซปราโนสวยๆ เยอะจริงๆ ด้วย

I decided to write a piece for choir

ผมได้ตัดสินใจแต่งเพลงให้วงเพลงหนึ่ง

a couple of years later

หลังจากนั้นสองสามปี

as a gift to this conductor

เพื่อเป็นของขวัญให้วาทยากรคนนี้

who had changed my life.

ที่ได้เปลี่ยนชีวิตผม

I had learned to read music by then, or slowly learning to read music.

ผมเริ่มเรียนอ่านโน้ตตั้งแต่นั้น อย่างช้าๆ

And that piece was published,

แล้วงานชิ้นนั้นก็ได้รับการเผยแพร่

and then I wrote another piece, and that got published.

แล้วผมก็แต่งอีกเพลง ได้เผยแพร่อีก

And then I started conducting,

จากนั้นผมก็เริ่มกำกับวง

and I ended up doing my master's degree at the Juilliard School.

จนมาลงเอยด้วยการเรียนปริญญาโทที่ Juilliard School

And I find myself now in the unlikely position

แล้วตอนนี้ก็พบว่าตัวเองมายืนในตำแหน่งที่ไม่น่าเป็นไปได้

of standing in front of all of you

คือมายืนอยู่ต่อหน้าคุณตรงนี้

as a professional classical composer and conductor.

ในฐานะวาทยากรและนักประพันธ์เพลงคลาสสิค

Well a couple of years ago,

เมื่อสองสามปีที่แล้ว

a friend of mine emailed me

เพื่อนผมคนหนึ่งส่งอีเมล์

a link, a YouTube link,

ลิ้งค์วิดีโอบน YouTube มาให้ผม

and said, "You have got to see this."

แล้วบอกว่า "นายต้องดูคลิปนี้"

And it was this young woman who had posted a fan video to me,

สาวน้อยคนหนึ่งโพสต์วิดีโอถึงผม

singing the soprano line

เป็นคลิปที่เธอร้องท่อนโซปราโน

to a piece of mine called "Sleep."

ในเพลง "Sleep" ที่ผมแต่ง

(Video) Britlin Losee: Hi Mr. Eric Whitacre.

(วิดีโอ) บริทลิน โลซี: สวัสดีค่ะคุณเอริค

My name is Britlin Losee,

ฉันชื่อบริทลิน โลซี

and this is a video

นี่เป็นวิดีโอ

that I'd like to make for you.

ที่ฉันอยากมอบให้คุณ

Here's me singing "Sleep."

ฉันจะร้องเพลง "Sleep" ค่ะ

I'm a little nervous, just to let you know.

จะบอกว่าฉันตื่นเต้นนิดหน่อยนะคะ

♫ If there are noises ♫

♫ If there are noises ♫

♫ in the night ♫

♫ in the night ♫

Eric Whitacre: I was thunderstruck.

เอริค: ผมรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า

Britlin was so innocent and so sweet,

บริทลินดูช่างอ่อนหวาน ไร้เดียงสา

and her voice was so pure.

และเสียงเธอก็ช่างสดใสบริสุทธิ์

And I even loved seeing behind her;

อ้อ ผมชอบที่เห็นฉากหลังในห้องของเธอ

I could see the little teddy bear sitting on the piano behind her in her room.

มีตุ๊กตาหมีนั่งอยู่บนเปียโนด้วย

Such an intimate video.

เป็นวิดีโอที่ทำให้รู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมมาก

And I had this idea: if I could get 50 people

ผมเลยเกิดความคิดว่า ถ้าผมให้คน 50 คน

to all do this same thing,

มาทำแบบนี้บ้าง

sing their parts -- soprano, alto, tenor and bass --

ให้เขาร้องเสียงโซปราโน อัลโต เทนเนอร์ และเบส

wherever they were in the world, post their videos to YouTube,

ไม่ว่าเขาจะอยู่มุมไหนของโลก บันทึกและโพสต์วิดีโอของเขาบน YouTube

we could cut it all together and create a virtual choir.

เราก็สามารถเอามาตัดต่อเข้าด้วยกัน สร้างเป็นวงประสานเสียงเสมือนจริงได้

So I wrote on my blog, "OMG OMG."

ผมเลยเขียนในบล็อกของผมว่า "OMG OMG" (โอ้พระเจ้า)

I actually wrote, "OMG,"

ผมเขียนว่า "OMG" ลงไปจริงๆ

hopefully for the last time in public ever.

หวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมพูดคำนี้ต่อหน้าสาธารณะนะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And I sent out this call to singers.

แล้วผมก็ส่งข้อความนี้ออกไปยังเหล่านักร้องทั้งหลาย

And I made free the download of the music

และผมก็ให้คนมาดาวน์โหลดเพลง

to a piece that I had written in the year 2000

ที่ผมแต่งไว้เมื่อปี 2000 ได้ฟรี

called "Lux Aurumque," which means "light and gold."

เป็นเพลงชื่อ "Lux Aurumque" ที่แปลว่า "แสงสว่างและทอง"

And lo and behold, people started uploading their videos.

แล้วก็เริ่มมีคนอัพโหลดวิดีโอเข้ามา ซึ่งน่าทึ่งมาก

Now I should say, before that,

อ้อผมลืมบอกไปว่า ก่อนหน้านั้น

what I did is I posted a conductor track

ผมโพสวิดีโอของวาทยากร

of myself conducting.

เป็นภาพผมเองกำลังกำกับวง

And it's in complete silence when I filmed it,

ซึ่งตอนถ่ายทำนั้นมันเป็นวิดีโอที่เงียบสนิท

because I was only hearing the music in my head,

ผมได้ยินเสียงเพลงในหัวของผมเท่านั้น

imagining the choir that would one day come to be.

แล้วจินตนาการถึงวงประสานเสียงที่จะเป็นจริงขึ้นมาสักวันหนึ่ง

Afterwards, I played a piano track underneath

จากนั้นผมเล่นเปียโนเพิ่มเข้าไปอีกแทรค

so that the singers would have something to listen to.

นักร้องจะได้มีอะไรให้ฟังเพื่อจับจังหวะและทำนองบ้าง

And then as the videos started to come in ...

แล้วก็เริ่มมีคนส่งวิดีโอเข้ามา...

(Singing)

(เสียงร้องเพลง)

This is Cheryl Ang from Singapore.

นี่คือเชอริล อึ้ง จากสิงคโปร์

(Singing)

(เสียงร้องเพลง)

This is Evangelina Etienne

นี่แองเจลินา เอเตียน

(Singing)

(เสียงร้องเพลง)

from Massachusetts.

จากแมสซาจูเซตต์

(Singing)

(เสียงร้องเพลง)

Stephen Hanson from Sweden.

สตีเฟน แฮนสัน จากสวีเดน

(Singing)

(เสียงร้องเพลง)

This is Jamal Walker from Dallas, Texas.

นี่จามาล วอล์คเกอร์จากดัลลัส เท็กซัส

(Singing)

(เสียงร้องเพลง)

There was even a little soprano solo in the piece,

ในเพลงนี้มีท่อนโซโลของเสียงโซปราโนด้วย

and so I had auditions.

ผมก็เลยจัดออดิชั่นเพื่อคัดเลือกนักร้อง

And a number of sopranos uploaded their parts.

มีนักร้องโซปราโนจำนวนหนึ่งอัพโหลดวิดีโอเข้ามา

I was told later,

ผมมาทราบทีหลัง

and also by lots of singers who were involved in this,

ว่านักร้องหลายคนที่เข้าร่วมโครงการนี้

that they sometimes recorded 50 or 60 different takes

บางคนบันทึกวิดีโอตั้ง 50-60 รอบ

until they got just the right take -- they uploaded it.

จนได้ครั้งที่ดีที่สุด กว่าจะอัพโหลดเข้ามา

Here's our winner of the soprano solo.

และนี่คือผู้ชนะการคัดเลือกนักร้องนำโซปราโนของเรา

This is Melody Myers from Tennessee.

นี่คือเมโลดี ไมเยอร์สจากเทนเนสซี

(Singing)

(เสียงร้องเพลง)

I love the little smile she does right over the top of the note --

ผมชอบรอยยิ้มเธอตอนขึ้นเสียงสูงสุดนะ

like, "No problem, everything's fine."

เหมือนจะบอกว่า "ไม่มีปัญหา ทุกอย่างเรียบร้อยดี"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And from the crowd

แล้วจู่ๆ หนุ่มคนหนึ่ง

emerged this young man, Scott Haines.

ชื่อนายสก็อต เฮนส์ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้

And he said, "Listen, this is the project

เขาบอกว่า "ฟังนะ นี่เป็นโครงการ

I've been looking for my whole life.

ที่ผมเฝ้ารอมาตลอดชีวิต

I'd like to be the person to edit this all together."

ผมอยากเป็นคนตัดต่อวิดีโอทั้งหมดนี้เข้าด้วยกัน"

I said, "Thank you, Scott. I'm so glad that you found me."

ผมบอกว่า "ขอบคุณมากสก็อต ผมดีใจมากเลยนะเนี่ยที่คุณหาผมเจอ"

And Scott aggregated all of the videos.

สก็อตตัดต่อวิดีโอทั้งหมดเข้าด้วยกัน

He scrubbed the audio.

เขาปรับแต่งเสียงอย่างปราณีต

He made sure that everything lined up.

ให้แน่ใจว่าทุกอย่างประสานกันอย่างแนบเนียน

And then we posted this video to YouTube about a year and a half ago.

แล้วเราก็โพสต์วิดีโอนี้บน YouTube เมื่อปีครึ่งที่ผ่านมา

This is "Lux Aurumque" sung by the Virtual Choir.

และนี่คือ "Lux Aurumque" โดย The Virtual Choir

(Singing)

(เสียงร้องเพลง)

I'll stop it there in the interest of time.

ผมจะหยุดตรงนี้เพราะเวลามีน้อยนะครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Thank you. Thank you.

ขอบคุณครับ ขอบคุณ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Thank you.

ขอบคุณครับ

So there's more. There's more.

ยังมีอีกนะครับ ยังมีอีก

Thank you so much.

ขอบคุณมากครับ

And I had the same reaction you did.

ผมเองก็มีปฏิกิริยาแบบเดียวกับคุณนี่ล่ะ

I actually was moved to tears when I first saw it.

จริงๆ ตอนผมดูวิดีโอนี้ครั้งแรกผมน้ำตาไหลเลย

I just couldn't believe the poetry of all of it --

ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันช่างงดงามราวกับบทกวี

these souls all on their own desert island,

จิตวิญญาณที่ต่างอยู่บนเกาะร้างอันโดดเดี่ยว

sending electronic messages in bottles to each other.

ได้ส่งข้อความอิเล็กทรอนิคส์ในขวดแก้วถึงกัน

And the video went viral.

แล้ววิดีโอก็แพร่กระจายไปเร็วมาก

We had a million hits in the first month

มีคนคลิกเข้ามาดูหนึ่งล้านครั้งในเดือนแรก

and got a lot of attention for it.

และพวกเราก็ได้รับความสนใจเยอะมาก

And because of that, then a lot of singers started saying,

จากความสำเร็จตรงนี้ บรรดานักร้องก็เลยเริ่มถามว่า

"All right, what's Virtual Choir 2.0?"

"Virtual Choir หมายเลข 2 เราจะทำอะไรดี?"

And so I decided for Virtual Choir 2.0

ผมเลยตัดสินใจว่า Virtual Choir หมายเลข 2

that I would choose the same piece that Britlin was singing,

ผมจะเลือกเพลงที่บริทลินร้องไว้

"Sleep," which is another work

"Sleep" ซึ่งเป็นอีกเพลงหนึ่ง

that I wrote in the year 2000 --

ที่ผมแต่งไว้เมื่อปี 2000

poetry by my dear friend Charles Anthony Silvestri.

เนื้อร้องโดยเพื่อนซี้ของผม ชาร์ลส แอนโทนี ซิลเวสทรี

And again, I posted a conductor video,

คราวนี้ผมก็โพสต์วิดีโอการกำกับวงให้ดาวน์โหลดเหมือนเดิม

and we started accepting submissions.

แล้วเราก็เริ่มเปิดรับวิดีโอ

This time we got some more mature members.

คราวนี้เราได้นักร้องรุ่นใหญ่กว่าเดิม

(Singing)

(เสียงร้องเพลง)

And some younger members.

และก็รุ่นเล็กกว่าเดิมด้วย

(Video) Soprano: ♫ Upon my pillow ♫

(วิดีโอ) เสียงโซปราโน: ♫ Upon my pillow ♫

♫ Safe in bed ♫

♫ Safe in bed ♫

EW: That's Georgie from England. She's only nine.

เอริค: นั่นคือจอร์จี จากอังกฤษ เธออายุเก้าขวบ

Isn't that the sweetest thing you've ever seen?

น่ารักมากๆ เลยใช่ไหมครับ?

Someone did all eight videos --

บางคนถ่ายวิดีโอมาแปดแทรคเลย

a bass even singing the soprano parts.

ร้องตั้งแต่เสียงเบสไปจนเสียงโซปราโน

This is Beau Awtin.

นี่คือโบ ออทิน

(Video) Beau Awtin: ♫ Safe in bed ♫

(วิดีโอ) โบ ออทิน: ♫ Safe in bed ♫

EW: And our goal -- it was sort of an arbitrary goal --

เอริค: และเป้าหมายของเรา ซึ่งไม่ได้ตั้งจากหลักการอะไรหรอกครับ

there was an MTV video where they all sang "Lollipop"

คือ เคยมีวิดีโอของ MTV เพลง "Lollipop"

and they got people from all over the world to just sing that little melody.

ที่ให้คนจากทั่วโลกร้องทำนองท่อนสั้นๆ

And there were 900 people involved in that.

โดยมีคนเข้าร่วมทั้งหมด 900 คน

So I told the singers, "That's our goal.

ผมเลยบอกเหล่านักร้องว่า "นั่นแหละเป้าหมายของเรา"

That's the number for us to beat."

เราจะทำลายสถิตินั้นแหละ"

And we just closed submissions January 10th,

เราเพิ่งปิดรับวิดีโอไปเมื่อวันที่ 10 มกราคม (ค.ศ. 2011)

and our final tally was 2,051 videos

โดยเราได้รับวิดีโอทั้งหมด 2,051 คลิป

from 58 different countries.

จาก 58 ประเทศ

Thank you.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

From Malta, Madagascar, Thailand, Vietnam,

จากมัลตา มาดากัสการ์ ไทย เวียดนาม

Jordan, Egypt, Israel,

จอร์แดน อียิปต์ อิสราเอล

as far north as Alaska and as far south as New Zealand.

เหนือสุดจากอลาสกา ใต้สุดจากนิวซีแลนด์

And we also put a page on Facebook

และเราก็สร้างเว็บเพจบนเฟซบุค

for the singers to upload their testimonials,

ให้บรรดานักร้องโพสต์ข้อความจากประสบการณ์ของเขา

what it was like for them, their experience singing it.

ว่ารู้สึกอย่างไร ที่ได้ร่วมร้องเพลงในโครงการนี้

And I've just chosen a few of them here.

ผมเลือกมาสองสามข้อความนะครับ

"My sister and I used to sing in choirs together constantly.

"ฉันกับพี่สาวเคยร้องเพลงในวงประสานเสียงด้วยกันเสมอ

Now she's an airman in the air force constantly traveling.

ตอนนี้พี่ของฉันทำงานในกองทัพอากาศ ต้องเดินทางตลอด

It's so wonderful to sing together again!"

มันรู้สึกดีมากเลยที่ได้มาร้องเพลงด้วยกันอีกครั้ง"

I love the idea that she's singing with her sister.

ผมชอบที่เธอรู้สึกว่าเธอได้ร้องเพลงกับพี่สาวอีกครั้ง

"Aside from the beautiful music,

"นอกจากเพลงที่ไพเราะแล้ว

it's great just to know I'm part of a worldwide community of people I never met before,

มันยังเยี่ยมมากด้วยที่ฉันได้เป็นส่วนหนึ่งในชุมชมของคนที่ฉันไม่เคยพบมาก่อน

but who are connected anyway."

แต่กลับรู้สึกว่าต่อกันติดจริงๆ"

And my personal favorite,

และอันนี้ ที่ผมชอบที่สุด

"When I told my husband that I was going to be a part of this,

"ตอนฉันบอกสามีว่าฉันจะเข้าร่วมโครงการนี้

he told me that I did not have the voice for it."

เขาบอกว่าเสียงฉันไม่ให้หรอก"

Yeah, I'm sure a lot of you have heard that too.

ผมว่าหลายคนคงเคยได้ยินคนพูดกับคุณแบบนี้เหมือนกัน

Me too.

ผมก็เคยนะ

"It hurt so much, and I shed some tears,

"มันเจ็บปวดมากเลย จนฉันร้องไห้

but something inside of me wanted to do this despite his words.

แต่ข้างในใจลึกๆ ฉันต้องการทำสิ่งนี้ แม้ว่าเขาจะสบประมาทฉัน

It is a dream come true to be part of this choir,

การได้เป็นส่วนหนึ่งของวงประสานเสียงนี้มันเหมือนฝันเป็นจริง

as I've never been part of one.

เพราะฉันไม่เคยได้ร่วมวงประสานเสียงเลย

When I placed a marker on the Google Earth Map,

ตอนฉันทำเครื่องหมายว่าฉันอยู่เมืองไหนแผนที่ Google Earth

I had to go with the nearest city, which is about 400 miles away from where I live.

ฉันต้องทำเครื่องหมายที่เมืองที่ใกล้ที่สุด ซึ่งห่างจากบ้านฉันไป 400 ไมล์

As I am in the Great Alaskan Bush,

เพราะฉันอยู่ในเขต Great Alaskan Bush

satellite is my connection to the world."

ดาวเทียมเป็นทางเดียวที่ฉันใช้ติดต่อกับโลกภายนอกได้"

So two things struck me deeply about this.

เรื่องนี้โดนใจผมมากในสองแง่

The first is that human beings

อย่างแรกคือ มันทำให้เห็นว่าคนเรา

will go to any lengths necessary

ยอมทำได้ทุกอย่างที่จำเป็น

to find and connect with each other.

เพื่อให้ได้ติดต่อสัมพันธ์กัน

It doesn't matter the technology.

ไม่ว่าจะต้องใช้เทคโนโลยีอะไร

And the second is

อย่างที่สองคือ

that people seem to be experiencing an actual connection.

ดูเหมือนคนที่เข้าร่วมโครงการนี้จะรู้สึกว่าเขามีสื่อสัมพันธ์กันจริงๆ

It wasn't a virtual choir.

มันไม่ใช่แค่วงประสานเสียงในโลกเสมือนจริง

There are people now online that are friends; they've never met.

ผู้คนในโลกออนไลน์เหล่านี้เป็นเพื่อนกันทั้งที่ไม่เคยพบหน้ากัน

But, I know myself too, I feel

แต่ผมเข้าใจ ผมเองก็รู้สึกถึง

this virtual esprit de corps, if you will, with all of them.

จิตวิญญาณกลุ่มอันนี้ร่วมกับพวกเขาทุกคน

I feel a closeness to this choir --

ผมรู้สึกผูกพันใกล้ชิดกับวงประสานเสียงวงนี้

almost like a family.

แทบจะเหมือนกับครอบครัวเลย

What I'd like to close with then today

และวันนี้ ผมอยากจะทิ้งท้ายไว้ด้วย

is the first look

ตัวอย่างของผลงานเพลง

at "Sleep" by Virtual Choir 2.0.

"Sleep" โดยวง Virtual Choir 2.0

This will be a premiere today.

นี่เป็นรอบปฐมทัศน์เลยนะครับ

We're not finished with the video yet.

เรายังตัดต่อวิดีโอไม่เสร็จ

You can imagine, with 2,000 synchronized YouTube videos,

คุณคงจินตนาการออก ว่าเอาวิดีโอจาก YouTube 2,000 คลิปมาตัดต่อเข้าด้วยกัน

the render time is just atrocious.

เวลาแปลงไฟล์มันจะโหดร้ายขนาดไหน

But we do have the first three minutes.

แต่เราก็ตัดต่อช่วงสามนาทีแรกเสร็จแล้ว

And it's a tremendous honor

และนับเป็นเกียรติอย่างสูง

for me to be able to show it to you here first.

ที่ผมจะมีโอกาสได้ฉายให้คุณดูที่นี่เป็นครั้งแรก

You're the very first people to see this.

คุณเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้เห็นวิดีโอนี้เลยครับ

This is "Sleep," the Virtual Choir.

และนี่คือ "Sleep" โดย The Virtual Choir

(Video) Virtual Choir: ♫ The evening hangs ♫

(วิดีโอ) Virtual Choir: ♫ ค่ำคืนทอดกาย ♫

♫ beneath the moon ♫

♫ ใต้จันทรา ♫

♫ A silver thread on darkened dune ♫

♫ แสงเงินฉาบทาบทาทรายมืดมิด ♫

♫ With closing eyes and resting head ♫

♫ พักกายพริ้มตาลงหลับสนิท ♫

♫ I know that sleep is coming soon ♫

♫ ไม่ช้าคงหยุดความคิดสู่นิทรา ♫

♫ Upon my pillow, ♫

♫ ปลอดภัยในห้องนอนบนหมอนหนุน ♫

♫ safe in bed, ♫

♫ เตียงเคยคุ้นอุ่นไอที่ใฝ่หา ♫

♫ a thousand pictures fill my head ♫

♫ ร้อยพันภาพผุดพรายไม่เลิกรา ♫

♫ I cannot sleep ♫

♫ จะข่มตาหลับลงได้อย่างไร ♫

♫ my mind's aflight ♫

♫ ใจลอยเลื่อนลับหายในเวหา ♫

♫ and yet my limbs seem made of lead ♫

♫ แม้แขนขาหนักอึ้งปานเหล็กไหล ♫

♫ If there are noises in the night ♫

♫ หากราตรีมีสำเนียงสรรพเสียงใด... ♫

Eric Whitacre: Thank you very, very much. Thank you.

เอริค: ขอบคุณมากๆ เลยครับ ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Thank you very much. Thank you. Thank you.

ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมาก

(Applause)

(เสียงปรบมือ)