There's more to life than being happy | Emily Esfahani Smith | TED

6,127,700 views ・ 2017-09-26

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Wajasit Losereewanich Reviewer: Sritala Dhanasarnsombut
00:12
I used to think
0
12724
1279
ฉันเคยคิดว่า
00:14
the whole purpose of life was pursuing happiness.
1
14027
3734
เราเกิดมา เพื่อที่จะหาความสุขในชีวิตเป็นหลัก
00:18
Everyone said the path to happiness was success,
2
18500
3384
ทุกคนบอกว่า ความสำเร็จนำมาซึ่งความสุข
00:21
so I searched for that ideal job,
3
21908
2498
ฉันจึงพยายามหางานดี ๆ ทำ
00:24
that perfect boyfriend, that beautiful apartment.
4
24430
3031
หาแฟนที่แสนน่ารัก หาอพาร์ทเมนต์ที่สวยหรู
00:28
But instead of ever feeling fulfilled,
5
28818
2998
แต่ถึงมีสิ่งเหล่านี้แล้ว ฉันก็ไม่ได้รู้สึกพึงพอใจเลย
00:31
I felt anxious and adrift.
6
31840
2604
ฉันกลับรู้สึกกังวล เคว้งคว้าง
00:35
And I wasn't alone; my friends -- they struggled with this, too.
7
35015
4009
และฉันไม่ได้รู้สึกแบบนี้คนเดียวด้วย เพื่อนหลายคนก็รู้สึกแย่พอกัน
00:40
Eventually, I decided to go to graduate school for positive psychology
8
40540
4269
ในที่สุด ฉันจึงตัดสินใจไปเรียนต่อโท ด้านจิตวิทยาเชิงบวก
00:44
to learn what truly makes people happy.
9
44833
3220
เพื่อจะได้รู้ว่า อะไรทำให้คนเรา มีความสุขจริง ๆ
00:48
But what I discovered there changed my life.
10
48791
2656
แต่ฉันได้พบ เป็นสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตของฉันเอง
00:52
The data showed that chasing happiness can make people unhappy.
11
52272
4610
มีข้อมูลชี้ว่า การวิ่งไล่หาความสุข อาจทำให้เราเป็นทุกข์
00:57
And what really struck me was this:
12
57787
2257
เรื่องที่ทำฉันอึ้งมากก็คือ
01:00
the suicide rate has been rising around the world,
13
60878
2787
อัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก
01:03
and it recently reached a 30-year high in America.
14
63689
3091
ในอเมริกา ไม่นานมานี้ ตัวเลขขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปี
01:07
Even though life is getting objectively better
15
67573
2763
แม้ว่าความเป็นอยู่ของคนเราจะดีขึ้นจริง ๆ
01:10
by nearly every conceivable standard,
16
70360
2690
ถ้าดูจากตัวชี้วัดต่าง ๆ
01:13
more people feel hopeless,
17
73074
2199
แต่กลับมีคนที่รู้สึกสิ้นหวังมากขึ้น
01:15
depressed and alone.
18
75297
2125
ทั้งซึมเศร้าและอ้างว้าง
01:18
There's an emptiness gnawing away at people,
19
78034
2813
ความเปล่าเปลี่ยวกำลังกัดกินจิตใจผู้คน
01:20
and you don't have to be clinically depressed to feel it.
20
80871
3270
คุณก็รู้สึกได้ โดยไม่ต้องเป็นโรคซึมเศร้า
01:24
Sooner or later, I think we all wonder:
21
84165
2900
ถึงจุดหนึ่ง เราทุกคนจะสงสัยว่า
01:27
Is this all there is?
22
87604
2232
ชีวิตมีแค่นี้เองหรือ
01:30
And according to the research, what predicts this despair
23
90987
3206
งานวิจัยบอกว่า สิ่งที่ทำนายความรู้สึกสิ้นหวัง
01:34
is not a lack of happiness.
24
94217
1827
ไม่ใช่การขาดความสุข
01:36
It's a lack of something else,
25
96068
1842
แต่เป็นการขาดเรื่องอื่น
01:38
a lack of having meaning in life.
26
98637
2938
นั่นคือ ขาดความหมายในชีวิต
01:42
But that raised some questions for me.
27
102782
2393
ฉันเลยถามตัวเองว่า
01:45
Is there more to life than being happy?
28
105675
2599
มีอะไรที่สำคัญต่อชีวิต มากกว่าความสุขหรือ
01:49
And what's the difference between being happy
29
109036
2423
อะไรคือความแตกต่างระหว่างความสุข
01:51
and having meaning in life?
30
111483
1891
กับการมีความหมายในชีวิต
01:54
Many psychologists define happiness as a state of comfort and ease,
31
114699
4600
นักจิตวิทยาบอกว่า ความสุขคือ ความรู้สึกที่สบายผ่อนคลาย
01:59
feeling good in the moment.
32
119323
1889
เมื่อมีความสุข เราจะรู้สึกดี
02:01
Meaning, though, is deeper.
33
121918
1658
แต่ความหมายเป็นอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้น
02:04
The renowned psychologist Martin Seligman says
34
124098
2564
มาร์ติน เซลิกแมน นักจิตวิทยาชื่อดังบอกว่า
02:06
meaning comes from belonging to and serving something beyond yourself
35
126686
4647
ความหมายมาจากการเป็นส่วนหนึ่งของสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรา และรับใช้สิ่งนั้น
02:11
and from developing the best within you.
36
131357
2683
และยังมาจากการพัฒนาตัวเองให้เก่ง
02:15
Our culture is obsessed with happiness,
37
135437
2595
เราอยู่ในวัฒนธรรมที่หมกมุ่น กับการหาความสุข
02:18
but I came to see that seeking meaning is the more fulfilling path.
38
138056
4107
แต่ฉันรู้แล้วว่า การหาความหมาย เป็นหนทางที่น่าพึงพอใจมากกว่า
02:22
And the studies show that people who have meaning in life,
39
142187
2929
และผลจากการศึกษาพบว่า คนที่มีชีวิตที่มีความหมาย
02:25
they're more resilient,
40
145140
1410
เมื่อล้มแล้วจะลุกได้ง่ายกว่า
02:26
they do better in school and at work,
41
146574
2557
พวกเขาประสบความสำเร็จในการเรียน และการทำงานมากกว่า
02:29
and they even live longer.
42
149155
1607
และยังมีอายุยืนยาวกว่าด้วย
02:31
So this all made me wonder:
43
151805
2021
ฉันจึงสงสัยว่า
02:33
How can we each live more meaningfully?
44
153850
2474
แล้วเราจะมีชีวิต อย่างมีความหมายมากขึ้นได้อย่างไร
02:37
To find out, I spent five years interviewing hundreds of people
45
157800
3678
ฉันใช้เวลา 5 ปี เพื่อสัมภาษณ์ผู้คนหลายร้อยคน
02:41
and reading through thousands of pages of psychology,
46
161502
2901
อ่านหนังสือหลายพันหน้า ทั้งจิตวิทยา
02:44
neuroscience and philosophy.
47
164427
2101
ประสาทวิทยา และปรัชญา
02:47
Bringing it all together,
48
167186
1789
พอรวบรวมสิ่งเหล่านี้เพื่อหาข้อสรุป
02:48
I found that there are what I call four pillars of a meaningful life.
49
168999
5341
ฉันพบว่า มีสิ่งที่ฉันเรียกว่า 4 เสาหลักของชีวิตที่มีความหมาย
02:54
And we can each create lives of meaning
50
174364
2434
และเราทุกคนก็สามารถ สร้างชีวิตที่มีความหมายได้
02:56
by building some or all of these pillars in our lives.
51
176822
3349
โดยการสร้างเสาพวกนี้ขึ้นมาในชีวิต จะแค่บางเสา หรือทุกเสาก็ได้
03:01
The first pillar is belonging.
52
181248
2188
เสาต้นแรกคือ การเป็นส่วนหนึ่งของบางอย่าง
03:04
Belonging comes from being in relationships
53
184198
2307
การเป็นส่วนหนึ่งมาจาก สร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน
03:06
where you're valued for who you are intrinsically
54
186529
2705
ในแบบที่ทำให้เรารู้สึกมีค่า จากสิ่งที่เรามีอยู่ข้างในตัว
03:09
and where you value others as well.
55
189258
2113
และเห็นค่าของคนอื่นในแบบที่เขาเป็น
03:12
But some groups and relationships deliver a cheap form of belonging;
56
192038
4690
แต่บางกลุ่มบางความสัมพันธ์ก็ให้ ความเป็นส่วนหนึ่งแบบด้วยคุณภาพกับเรา
03:16
you're valued for what you believe,
57
196752
1893
คือ คุณจะมีค่ากับเขาเพราะคุณเชื่อตามเขา
03:18
for who you hate,
58
198669
1246
เกลียดอะไรเหมือนเขา
03:19
not for who you are.
59
199939
1545
ไม่ใช่จากสิ่งที่คุณเป็น
03:22
True belonging springs from love.
60
202240
2783
การเป็นส่วนหนึ่งที่แท้จริง ต้องมาจากความรัก
03:25
It lives in moments among individuals,
61
205047
2985
มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้น ระหว่างคนกับคนด้วยกัน
03:28
and it's a choice -- you can choose to cultivate belonging with others.
62
208056
3845
และเป็นสิ่งที่เราเลือกเองว่า จะเป็นส่วนหนึ่งกับอะไร
03:32
Here's an example.
63
212481
1607
ตัวอย่างอันหนึ่งคือ
03:34
Each morning, my friend Jonathan buys a newspaper
64
214112
3555
ฉันมีเพื่อนชื่อโจนาธาน ทุกเช้าเขาจะซื้อหนังสือพิมพ์
03:37
from the same street vendor in New York.
65
217691
2218
จากร้านเจ้าประจำริมถนนในนิวยอร์ค
03:40
They don't just conduct a transaction, though.
66
220322
2280
ระหว่างเขากับเจ้าของร้าน ไม่ใช่แค่ซื้อของขายของให้กัน
03:42
They take a moment to slow down, talk,
67
222626
2683
แต่พวกเขาทักทาย พูดคุยกัน
03:45
and treat each other like humans.
68
225333
1906
เหมือนเป็นเพื่อนกัน
03:47
But one time, Jonathan didn't have the right change,
69
227858
3394
เช้าวันหนึ่ง โจนาธานไม่มีแบงค์ย่อย
03:51
and the vendor said,
70
231276
1220
เจ้าของร้านบอกว่า
03:52
"Don't worry about it."
71
232520
1520
“ไม่เป็นไร เงินเล็กน้อย”
03:54
But Jonathan insisted on paying,
72
234064
2487
แต่โจนาธานยืนยันที่จะจ่าย
03:56
so he went to the store and bought something he didn't need
73
236575
3012
เขาจึงเดินไปที่ร้านขายของ ซื้ออะไรบางอย่างที่ไม่จำเป้น
03:59
to make change.
74
239611
1461
เพื่อให้ได้เศษเหรียญมาจ่าย
04:01
But when he gave the money to the vendor,
75
241812
2623
แต่พอเขายื่นเงินให้กับเจ้าของร้าน
04:04
the vendor drew back.
76
244459
1522
เจ้าของร้านผงะถอยหลัง
04:06
He was hurt.
77
246640
1278
เพราะเขารู้สึกเสียใจ
04:08
He was trying to do something kind,
78
248535
1849
เขาพยายามแสดงน้ำใจ
04:10
but Jonathan had rejected him.
79
250408
2247
แต่โจนาธานกลับปฏิเสธน้ำใจเขา
04:13
I think we all reject people in small ways like this without realizing it.
80
253933
4151
ฉันคิดว่า เราทุกคนปฏิเสธคนอื่น ในเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้โดยไม่รู้ตัว
04:18
I do.
81
258108
1198
ฉันเองก็ทำ
04:19
I'll walk by someone I know and barely acknowledge them.
82
259330
3063
บางครั้งเดินผ่านคนที่รู้จัก แต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น
04:22
I'll check my phone when someone's talking to me.
83
262417
2647
หรือเล่นโทรศัพท์ ขณะที่ใครกำลังคุยกับฉันอยู่
04:25
These acts devalue others.
84
265498
1929
การทำแบบนี้เท่ากับไม่เห็นค่าของคนอื่น
04:27
They make them feel invisible and unworthy.
85
267451
2753
ทำให้พวกเขารู้สึกไร้ตัวตน ไร้ค่า
04:30
But when you lead with love, you create a bond
86
270950
2752
แต่ถ้าคุณทำอะไรด้วยความรัก ก็จะสร้างความสัมพันธ์
04:33
that lifts each of you up.
87
273726
1672
ที่ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกดีขึ้น
04:36
For many people, belonging is the most essential source of meaning,
88
276850
3628
สำหรับใครหลายคน การเป็นส่วนหนึ่ง เป็นที่มาของความหมายในชีวิต
04:40
those bonds to family and friends.
89
280502
1998
เช่น กับครอบครัว กับเพื่อนฝูง
04:42
For others, the key to meaning is the second pillar: purpose.
90
282996
4005
แต่สำหรับบางคน ความหมายที่สำคัญของชีวิต อยู่ที่เสาต้นที่สอง นั่นคือ จุดมุ่งหมาย
04:47
Now, finding your purpose is not the same thing
91
287664
2915
การค้นหาจุดมุ่งหมายนี้ไม่เหมือนกับ
04:50
as finding that job that makes you happy.
92
290603
2248
การหางานที่จะทำให้คุณมีความสุข
04:53
Purpose is less about what you want than about what you give.
93
293340
3459
จุดประสงค์เป็นเรื่องที่คุณเป็นฝ่ายให้ มากกว่าเป็นฝ่ายรับ
04:56
A hospital custodian told me her purpose is healing sick people.
94
296823
4488
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนหนึ่งบอกฉันว่า จุดประสงค์ของเธอคือ เยียวยาคนป่วย
05:01
Many parents tell me,
95
301335
1711
พ่อแม่หลายคนบอกว่า
05:03
"My purpose is raising my children."
96
303070
1936
“จุดประสงค์ของฉันคือ เลี้ยงดูลูก ๆ จนโต“
05:05
The key to purpose is using your strengths to serve others.
97
305347
4044
หัวใจสำคัญของจุดมุ่งหมายคือ ใช้จุดแข็งของคุณเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
05:10
Of course, for many of us, that happens through work.
98
310201
3508
สำหรับพวกเราหลายคน นั่นย่อมหมายถึงการทำงาน
05:13
That's how we contribute and feel needed.
99
313733
2979
มันเป็นวิธีทำตัวให้เป็นประโยชน์ และรู้สึกมีคนต้องการเรา
05:16
But that also means that issues like disengagement at work,
100
316736
3860
แต่นั่นก็ยังแปลได้ว่า ปัญหาต่าง ๆ อย่างเช่นการไม่สนใจทำงาน
05:20
unemployment,
101
320620
1413
ตกงาน
05:22
low labor force participation --
102
322057
2227
ขาดการมีส่วนร่วมในงาน
05:24
these aren't just economic problems, they're existential ones, too.
103
324308
3691
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่เป็นปัญหาของการดำรงชีวิตด้วย
05:28
Without something worthwhile to do,
104
328641
2213
ถ้าไม่ได้ทำสิ่งที่มีคุณค่า
05:30
people flounder.
105
330878
1301
เราจะรู้สึกลำบากใจ
05:33
Of course, you don't have to find purpose at work,
106
333313
2616
จริงอยู่ ที่คุณไม่ต้องหาจุดประสงค์ จากการทำงานก็ได้
05:35
but purpose gives you something to live for,
107
335953
2729
แต่ถ้าคุณมีจุดประสงค์ คุณก็จะรู้ว่าจะอยู่เพื่ออะไร
05:38
some "why" that drives you forward.
108
338706
2080
คุณจะมีพลังที่จะก้าวไปข้างหน้า
05:42
The third pillar of meaning is also about stepping beyond yourself,
109
342967
3300
เสาต้นที่สามของความหมาย ยังเป็นเรื่องการก้าวข้ามความเป็นตัวเองด้วย
05:46
but in a completely different way:
110
346291
1842
แต่ในแง่มุมที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
05:48
transcendence.
111
348157
1587
เรียกว่า การสลายตัวตน
05:49
Transcendent states are those rare moments
112
349768
2377
มันคือสภาวะที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
05:52
when you're lifted above the hustle and bustle of daily life,
113
352169
3412
เมื่อคุณรู้สึกตัวลอย อยู่เหนือภาระความวุ่นวายจากชีวิตประจำวัน
05:55
your sense of self fades away,
114
355605
1705
ความรู้สึกที่มีต่ออัตตาหายไป
05:57
and you feel connected to a higher reality.
115
357334
2774
และคุณสัมผัสได้ถึง ความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่สูงกว่า
06:01
For one person I talked to, transcendence came from seeing art.
116
361034
3690
คนหนึ่งที่ฉันคุยด้วยบอกว่า เขารู้สึกถึงการสลายตัวตนเมื่อมองงานศิลปะ
06:04
For another person, it was at church.
117
364748
2530
อีกคนบอกว่า เป็นตอนที่อยู่ในโบสถ์
06:07
For me, I'm a writer, and it happens through writing.
118
367302
3554
ส่วนฉัน ซึ่งเป็นนักเขียน จะเกิดขึ้นเวลาเขียนหนังสือ
06:10
Sometimes I get so in the zone that I lose all sense of time and place.
119
370880
5070
บางครั้ง ฉันลืมตัวไปเลย ว่ากี่โมงแล้ว หรืออยู่ที่ไหน
06:16
These transcendent experiences can change you.
120
376577
3146
ประสบการณ์สลายตัวตนเหล่านี้ อาจเปลี่ยนแปลงคุณได้
06:19
One study had students look up at 200-feet-tall eucalyptus trees
121
379747
4524
การศึกษาหนึ่งมอบหมายให้นักศึกษา มองขึ้นไปบนยอดต้นยูคาลิปตัสที่สูงถึง 200 ฟุต
06:24
for one minute.
122
384295
1201
นานหนึ่งนาที
06:26
But afterwards they felt less self-centered,
123
386083
2154
หลังจากนั้น พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาถือตัวน้อยลง
06:28
and they even behaved more generously
124
388261
1944
และมีน้ำใจกับคนอื่นมากขึ้น
06:30
when given the chance to help someone.
125
390229
2070
เมื่อมีโอกาสที่จะได้ช่วยเหลือผู้อื่น
06:33
Belonging, purpose, transcendence.
126
393402
3720
เราได้พูดถึงการเป็นส่วนหนึ่ง จุดประสงค์ และการสลายตัวตนแล้ว
06:38
Now, the fourth pillar of meaning, I've found,
127
398194
2723
มาถึงเสาที่ให้ความหมายต้นที่สี่
06:40
tends to surprise people.
128
400941
1755
ฉันพบว่า มันมักทำให้คนแปลกใจ
06:43
The fourth pillar is storytelling,
129
403186
2734
เสาต้นที่สี่คือ การเล่าเรื่อง
06:45
the story you tell yourself about yourself.
130
405944
2865
คือเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเราเอง ที่เราเล่าให้ตัวเองฟัง
06:49
Creating a narrative from the events of your life brings clarity.
131
409436
4144
การร้อยเรียงเรื่องเล่าจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตทำให้เกิดความชัดเจน
06:53
It helps you understand how you became you.
132
413604
3036
มันช่วยให้คุณเข้าใจว่า คุณเป็นคุณแบบนี้ได้อย่างไร
06:57
But we don't always realize that we're the authors of our stories
133
417489
3096
แต่เราไม่ค่อยได้ตระหนักว่า เราเป็นผู้เขียนเรื่องของตัวเอง
07:00
and can change the way we're telling them.
134
420609
2163
และเราสามารถเปลี่ยนวิธีการเล่าเรื่องได้
07:02
Your life isn't just a list of events.
135
422796
2491
ชีวิตของคุณไม่ใช่แค่เหตุการณ์ ที่เรียงต่อกันเท่านั้น
07:05
You can edit, interpret and retell your story,
136
425311
3216
แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไข แปลความหมาย แล้วเล่าเรื่องใหม่ได้
07:08
even as you're constrained by the facts.
137
428551
2220
ถึงแม้ว่าความจริงจะไม่ได้เปลี่ยนไปก็ตาม
07:11
I met a young man named Emeka, who'd been paralyzed playing football.
138
431501
4628
ฉันเจอชายหนุ่มที่ชื่อ เอมิก้า ที่เป็นอัมพาตจากการเล่นฟุตบอล
07:16
After his injury, Emeka told himself,
139
436740
2459
หลังจากบาดเจ็บ เอมิกาบอกตัวเองว่า
07:19
"My life was great playing football,
140
439223
2705
“ฉันเคยเป็นนักฟุตบอลที่เก่ง
07:21
but now look at me."
141
441952
2124
แต่ดูสภาพฉันตอนนี้สิ”
07:25
People who tell stories like this --
142
445822
2292
คนที่เล่าเรื่องทำนองนี้ว่า
07:28
"My life was good. Now it's bad." --
143
448138
2524
“ฉันเคยมีชีวิตที่ดี แต่เดี๋ยวนี้แย่มาก”
07:30
tend to be more anxious and depressed.
144
450686
2822
มักจะหดหู่และซึมเศร้ามากขึ้น
07:33
And that was Emeka for a while.
145
453532
2329
เอมิก้าเคยเป็นแบบนั้นอยู่ช่วงหนึ่ง
07:36
But with time, he started to weave a different story.
146
456393
3391
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาค่อย ๆ เปลี่ยนวิธีการเล่าเรื่องของตนเอง
07:40
His new story was,
147
460235
1733
เรื่องราวใหม่ของเขาก็คือ
07:41
"Before my injury, my life was purposeless.
148
461992
3267
"ก่อนที่จะเป็นอัมพาต ฉันไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรในชีวิต
07:45
I partied a lot and was a pretty selfish guy.
149
465283
3253
มีแต่เรื่องสังสรรค์บันเทิง นึกถึงแต่เรื่องของตัวเอง
07:48
But my injury made me realize I could be a better man."
150
468560
3708
แต่การเป็นอัมพาตทำให้ฉันรู้ว่า ฉันเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้"
07:53
That edit to his story changed Emeka's life.
151
473308
3541
การปรับเรื่องเล่าใหม่นี้ ได้เปลี่ยนชีวิตของเอมิก้า
07:56
After telling the new story to himself,
152
476873
2431
หลังจากเขาเรียบเรียงเรื่องของตัวเองใหม่
07:59
Emeka started mentoring kids,
153
479328
1922
เขาก็เริ่มให้คำแนะนำกับเด็ก ๆ
08:01
and he discovered what his purpose was:
154
481274
2366
และเขาก็ได้ค้นพบว่าจุดมุ่งหมายใหม่ก็คือ
08:03
serving others.
155
483664
1390
การช่วยเหลือผู้อื่น
08:05
The psychologist Dan McAdams calls this a "redemptive story,"
156
485921
3378
นักจิตวิทยา แดน อดัมส์ เรียกสิ่งนี้ว่า “เรื่องเล่าฟื้นฟูจิตใจ”
08:09
where the bad is redeemed by the good.
157
489323
2283
คือ การเปลี่ยนเรื่องแย่ให้เป็นเรื่องดี
08:12
People leading meaningful lives, he's found,
158
492447
2183
เขาพบว่า คนที่ใช้ชีวิตที่มีความหมาย
08:14
tend to tell stories about their lives
159
494654
1931
มักเล่าเรื่องราวในชีวิตตัวเอง
08:16
defined by redemption, growth and love.
160
496609
3022
ที่เต็มไปด้วยการฟื้นฟูจิตใจ การเติบโต และความรัก
08:20
But what makes people change their stories?
161
500543
2462
แต่อะไรล่ะ ที่ทำให้คนเรา เปลี่ยนเรื่องเล่าของตัวเองได้
08:23
Some people get help from a therapist,
162
503545
1928
บางคนมีนักจิตบำบัดคอยให้คำแนะนำ
08:25
but you can do it on your own, too,
163
505497
1810
แต่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเอง
08:27
just by reflecting on your life thoughtfully,
164
507331
2760
เพียงแค่ทบทวนชีวิตของคุณอย่างถี่ถ้วน
08:30
how your defining experiences shaped you,
165
510115
2087
มีประสบการณ์สำคัญอะไรบ้างหล่อหลอมตัวคุณ
08:32
what you lost, what you gained.
166
512226
1737
คุณสูญเสียอะไรไป คุณได้อะไรมา
08:34
That's what Emeka did.
167
514409
1534
เอมิก้าทำเช่นนั้น
08:36
You won't change your story overnight;
168
516832
2046
คุณเปลี่ยนเรื่องเล่าคุณไม่ได้แค่เพียงชั่วคืน
08:38
it could take years and be painful.
169
518902
2345
มันอาจใช้เวลาหลายปีและอาจจะเจ็บปวด
08:41
After all, we've all suffered, and we all struggle.
170
521271
2934
ถ้าจะว่าไป เราทุกคนก็มีทุกข์ มีเรื่องให้ต้องกลุ้มใจ
08:44
But embracing those painful memories can lead to new insights and wisdom,
171
524777
4339
แต่การโอบรับความทรงจำที่เจ็บปวดเหล่านี้ จะทำให้เราเกิดความรู้ใหม่และเกิดปัญญา
08:49
to finding that good that sustains you.
172
529140
3065
ได้เจอสิ่งดี ๆ ที่คอยค้ำจุนตัวคุณ
08:54
Belonging, purpose, transcendence, storytelling:
173
534404
4533
การเป็นส่วนหนึ่ง การมีจุดมุ่งหมาย การสลายตัวตน และการเล่าเรื่อง
08:59
those are the four pillars of meaning.
174
539683
2731
เป็นสี่เสาที่สร้างความหมาย
09:03
When I was younger,
175
543446
1606
ตอนที่ฉันยังเด็ก
09:05
I was lucky enough to be surrounded by all of the pillars.
176
545076
3638
ฉันโชคดี ที่ชีวิตแวดล้อมไปด้วย เสาเหล่านี้ทั้งหมด
09:09
My parents ran a Sufi meetinghouse from our home in Montreal.
177
549201
4540
พ่อแม่ของฉันใช้บ้านในเมืองมอนทรีล เป็นที่พบปะของชาวซูฟี
09:14
Sufism is a spiritual practice associated with the whirling dervishes
178
554506
4483
นิกายซูฟีคือ คือแนวทางการปฏิบัติตามความเชื่อ ที่มีความเกี่ยวข้องกับนักบวชลัทธิลมวน
09:19
and the poet Rumi.
179
559013
1393
และกวีที่ชื่อรูมี
09:21
Twice a week, Sufis would come to our home
180
561250
2575
ชาวซูฟีจะมาที่บ้านเราสัปดาห์ละสองครั้ง
09:23
to meditate, drink Persian tea, and share stories.
181
563849
3760
นั่งสมาธิ ดื่มชาเปอร์เซีย และพูดคุยเล่าเรื่องกัน
09:28
Their practice also involved serving all of creation
182
568029
2957
ชาวซูฟียังสอนให้เรารับใช้ทุกสรรพสิ่ง
09:31
through small acts of love,
183
571010
1810
ด้วยการกระทำด้วยความรัก
09:32
which meant being kind even when people wronged you.
184
572844
3341
ซึ่งหมายถึง การมีเมตตา แม้แต่กันคนที่ทำผิดกับเรา
09:36
But it gave them a purpose: to rein in the ego.
185
576209
3154
จุดประสงค์ก็คือเพื่อให้เราเป็นผู้ครองใจตน
09:40
Eventually, I left home for college
186
580732
2616
ต่อมา ฉันย้ายออกจากบ้าน เพื่อไปเรียนที่มหาวิทยาลัย
09:43
and without the daily grounding of Sufism in my life,
187
583372
3702
ชีวิตประจำวันที่ห่างหายจากการวิถีแบบซูฟี
09:47
I felt unmoored.
188
587098
1588
ทำให้ฉันรู้สึกเคว้งคว้าง
09:48
And I started searching for those things that make life worth living.
189
588710
3588
ฉันจึงเริ่มค้นหาสิ่งต่าง ๆ ที่จะทำให้การใช้ชีวิตมีคุณค่า
09:52
That's what set me on this journey.
190
592322
2113
นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางนี้
09:54
Looking back, I now realize
191
594832
1757
นึกย้อนกลับไป ฉันตระหนักได้ว่า
09:56
that the Sufi house had a real culture of meaning.
192
596613
3242
บ้านที่เป็นที่พบปะของนิกายซูฟีนั้น เป็นแหล่งวัฒนธรรมแห่งความหมาย
09:59
The pillars were part of the architecture,
193
599879
2506
เสาต่าง ๆ นั้นเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างบ้าน
10:02
and the presence of the pillars helped us all live more deeply.
194
602409
3226
และการมีเสาอยู่นี้ ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ลึกซึ้งมากขึ้น
10:06
Of course, the same principle applies
195
606234
2321
แน่นอนค่ะว่า หลักการเดียวกันนี้
10:08
in other strong communities as well --
196
608579
2201
ใช้ได้กับคนกลุ่มสังคมอื่น ที่มีความเหนียวแน่นได้เช่นเดียวกัน
10:10
good ones and bad ones.
197
610804
2022
ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี
10:13
Gangs, cults:
198
613376
2029
กลุ่มอันธพาล หรือลัทธิต่าง ๆ
10:15
these are cultures of meaning that use the pillars
199
615429
3013
กลุ่มเหล่านี้มีวัฒนธรรมแห่งความหมาย ที่ใช้เสาเหล่านี้
10:18
and give people something to live and die for.
200
618466
3378
และสิ่งยึดเหนี่ยวที่คนในกลุ่มรู้สึกว่า จะอยู่และหรือตายเพื่อสิ่งใด
10:21
But that's exactly why we as a society
201
621868
2867
นั่นเป็นสาเหตุที่แท้จริงว่าในฐานะสังคม
10:24
must offer better alternatives.
202
624759
2109
เราต้องให้ทางเลือกที่ดีกว่านี้
10:26
We need to build these pillars within our families and our institutions
203
626892
3751
เราต้องสร้างเสาเหล่านี้ ภายในครอบครัวและสถาบันต่าง ๆ
10:30
to help people become their best selves.
204
630667
2582
เพื่อช่วยให้คนเป็นคนเต็มศักยภาพของตน
10:34
But living a meaningful life takes work.
205
634344
2586
แต่การใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย ต้องใช้ความพยายาม
10:36
It's an ongoing process.
206
636954
1875
และมันเป็นกระบวนการต่อเรื่อง
10:38
As each day goes by, we're constantly creating our lives,
207
638853
3729
เราสร้างสรรค์ชีวิตของเรา ในแต่ละวันที่ล่วงเลยผ่านไป
10:42
adding to our story.
208
642606
1569
เติมแต่งเรื่องราวของเรา
10:44
And sometimes we can get off track.
209
644651
2749
และบางครั้ง เราก็อาจออกนอกลู่นอกทางได้
10:48
Whenever that happens to me,
210
648182
1911
เมื่อใดก็ตามที่ฉันเริ่มเป็นแบบนั้น
10:50
I remember a powerful experience I had with my father.
211
650117
3389
ฉันจะนึกถึงประสบการณ์ที่ทรงค่าครั้งหนึ่ง ที่ฉันมีร่วมกับพ่อ
10:55
Several months after I graduated from college,
212
655641
2647
หลังจากที่ฉันรับปริญญาสองสามเดือน
10:58
my dad had a massive heart attack that should have killed him.
213
658312
3858
คุณพ่อของฉันหัวใจวายรุนแรง จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
11:02
He survived, and when I asked him what was going through his mind
214
662853
3214
เมื่อฉันถามพ่อว่า ณ วินาทีชีวิตนั้น พ่อคิดอะไร
11:06
as he faced death,
215
666091
1622
เมื่อพ่อกำลังเผชิญกับพญามจุราช
11:07
he said all he could think about was needing to live
216
667737
2683
พ่อตอบว่า พ่อคิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องไม่ตาย
11:10
so he could be there for my brother and me,
217
670444
2138
เพื่อที่จะได้อยู่กับฉันและน้องชาย
11:12
and this gave him the will to fight for life.
218
672606
2589
และนี่เอง ที่ทำให้เขามีพลังใจที่จะสู้
11:15
When he went under anesthesia for emergency surgery,
219
675883
3298
ตอนที่พ่อได้รับยาสลบเพื่อการผ่าตัดฉุกเฉิน
11:19
instead of counting backwards from 10,
220
679205
2330
แทนที่จะนับถอยหลังก่อนจะหลับไปนั้น
11:21
he repeated our names like a mantra.
221
681559
3170
พ่อเอ่ยชื่อพวกเราซ้ำ ๆ แทนการสวดมนต์
11:25
He wanted our names to be the last words he spoke on earth
222
685610
3811
พ่ออยากให้ชื่อของพวกเรา เป็นคำสุดท้ายที่ออกจากปาก
11:29
if he died.
223
689445
1225
หากเขาต้องจากโลกนี้ไป
11:32
My dad is a carpenter and a Sufi.
224
692853
3612
พ่อของฉันเป็นช่างไม้และเป็นชาวซูฟี
11:37
It's a humble life,
225
697005
1547
ท่านใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
11:38
but a good life.
226
698576
1269
แต่เป็นชีวิตที่ดี
11:40
Lying there facing death, he had a reason to live:
227
700384
3912
ขณะที่ล้มป่วยและเผชิญหน้ากับความตายนั้น เขามีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่
11:44
love.
228
704320
1408
นั่นคือ ความรัก
11:45
His sense of belonging within his family,
229
705752
2451
เขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
11:48
his purpose as a dad,
230
708227
1729
จุดประสงค์ของความเป็นพ่อ
11:49
his transcendent meditation, repeating our names --
231
709980
3014
เขาทำทำสมาธิเพื่อสลายตัวตน ด้วยการเอ่ยชื่อของพวกเราซ้ำ ๆ
11:53
these, he says, are the reasons why he survived.
232
713018
2781
พ่อบอกว่า สิ่งเหล่านี้แหละ ที่ทำให้ท่านรอดชีวิต
11:55
That's the story he tells himself.
233
715823
2439
นั่นเป็นเรื่องเล่าที่พ่อบอกกับตัวเอง
11:59
That's the power of meaning.
234
719567
2150
นั่นคือพลังแห่งความหมาย
12:02
Happiness comes and goes.
235
722463
2792
ความสุขนั้นไม่ได้ยั่งยืนจีรัง
12:05
But when life is really good
236
725279
1849
แต่ไม่ว่าจะชีวิตของคุณจะสุดแสนดี
12:07
and when things are really bad,
237
727152
1889
หรือแสนจะเลวร้าย
12:09
having meaning gives you something to hold on to.
238
729061
3053
การมีความหมายในชีวิต จะช่วยให้คุณยืนหยัดอยู่ได้
12:12
Thank you.
239
732142
1224
ขอบคุณคะ
12:13
(Applause)
240
733390
3582
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7