How to green the world's deserts and reverse climate change | Allan Savory

Translator: Joseph Geni Reviewer: Morton Bast

Translator: Unnawut Leepaisalsuwanna Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

The most massive

สึนามิ และพายุ

tsunami perfect storm

ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา

is bearing down upon us.

กำลังโถมเข้าหาเรา

This perfect storm

พายุที่ว่านี้

is mounting a grim reality, increasingly grim reality,

กำลังบดบังความเป็นจริง ให้มืดมนลงเรื่อยๆ

and we are facing that reality

และเรากำลังเผชิญหน้ากับความเป็นจริงนั้น

with the full belief

ด้วยความเชื่อสนิทใจ

that we can solve our problems with technology,

ว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยเทคโนโลยี

and that's very understandable.

ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้

Now, this perfect storm that we are facing

พายุที่เรากำลังเผชิญหน้านี้

is the result of our rising population,

เป็นผลจากประชากรที่เพิ่มมากขึ้น

rising towards 10 billion people,

ที่กำลังเข้าใกล้ 1 หมื่นล้านคน เข้าไปทุกขณะ

land that is turning to desert,

จากพื้นดินที่กำลังกลายเป็นทะเลทราย

and, of course, climate change.

และแน่นอน จากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ

Now there's no question about it at all:

มันปราศจากข้อกังขา

we will only solve the problem

ว่าเราจะแก้ปัญหา

of replacing fossil fuels with technology.

การแทนที่เชื้อเพลิงฟอสซิลได้ด้วยเทคโนโลยี

But fossil fuels, carbon -- coal and gas --

แต่เชื้อเพลงฟอสซิล เช่น ถ่านหินและน้ำมัน

are by no means the only thing

ไม่ใช่ปัจจัยหนึ่งเดียว

that is causing climate change.

ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ

Desertification

การกลายสภาพเป็นทะเลทราย (Desertification)

is a fancy word for land that is turning to desert,

คือศัพท์หรูๆ ที่ใช้เรียกผืนดินที่กำลังกลายเป็นทะเลทราย

and this happens only when

และสิ่งนี้เกิดขึ้น

we create too much bare ground.

เมื่อเราปล่อยให้มีผืนดินโล่งๆ มากเกินไป

There's no other cause.

ไม่มีสาเหตุอื่นใดเลย

And I intend to focus

และผมตั้งใจจะเน้นที่

on most of the world's land that is turning to desert.

ผืนดินส่วนใหญ่ของโลก ที่กำลังกลายเป็นทะเลทราย

But I have for you a very simple message

แต่ผมมีข้อความง่ายๆ ข้อความหนึ่ง

that offers more hope than you can imagine.

ที่ให้ความหวังมากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้

We have environments

เรามีสภาพแวดล้อม

where humidity is guaranteed throughout the year.

ที่มีความชื้นตลอดทั้งปี

On those, it is almost impossible

ในพื้นที่เหล่านั้น มันเกือบเป็นไปไม่ได้เลย

to create vast areas of bare ground.

ที่จะปล่อยพื้นที่ให้โล่งเป็นบริเวณกว้าง

No matter what you do, nature covers it up so quickly.

ไม่ว่าคุณจะทำอย่างไร ธรรมชาติก็จะเข้ามาครอบคลุมพื้นที่นั้นอย่างรวดเร็ว

And we have environments

และเรามีสภาพแวเล้อม

where we have months of humidity

ที่เรามีความชื้นในหลายๆ เดือน

followed by months of dryness,

ต่อด้วยความแห้งอีกหลายๆ เดือน

and that is where desertification is occurring.

และนี่คือสถานที่ที่กำลังกลายเป็นทะเลทราย

Fortunately, with space technology now,

โชคดีที่ทุกวันนี้ เรามีเทคโนโลยีอวกาศ

we can look at it from space,

ทำให้เรามองมันจากนอกโลกได้

and when we do, you can see the proportions fairly well.

และเมื่อเรามองกลับมา เราจะเห็นสัดส่วนได้อย่างชัดเจน

Generally, what you see in green

โดยรวมแล้ว อะไรที่คุณเห็นเป็นสีเขียว

is not desertifying,

คือส่วนที่ยังไม่กลายเป็นทะเลทราย

and what you see in brown is,

ส่วนที่คุณเห็นสีน้ำตาลนั้น

and these are by far the greatest areas of the Earth.

ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก

About two thirds, I would guess, of the world is desertifying.

ประมาณ 2 ใน 3 ส่วนของโลกทั้งใบ กำลังกลายเป็นทะเลทราย

I took this picture in the Tihamah Desert

ผมถ่ายรูปนี้จากทะเลทรายทิฮามาห์ (Tihamah Desert)

while 25 millimeters -- that's an inch of rain -- was falling.

ที่ที่ฝนตก 25 มิลลิลิตร หรือ 1 นิ้ว

Think of it in terms of drums of water,

ลองจินตนาการว่าเป็นถังน้ำ

each containing 200 liters.

แต่ละถังจุได้ 200 ลิตร

Over 1,000 drums of water fell on every hectare

ในวันนั้น ในพื้นที่ทุกๆ 10,000 ตารางเมตร

of that land that day.

จะมีน้ำฝนตกลงมากว่า 1,000 ถัง

The next day, the land looked like this.

แต่วันถัดมา พื้นที่นั้นกลายเป็นแบบนี้

Where had that water gone?

น้ำพวกนั้นหายไปไหนหมด

Some of it ran off as flooding,

บางส่วนไหลทะลักออกจากพื้นที่ไป

but most of the water that soaked into the soil

แต่น้ำส่วนใหญ่ที่ซึมเข้าไปในดิน

simply evaporated out again,

ระเหยออกมาอย่างง่ายๆ

exactly as it does in your garden

เฉกเช่นเดียวกับในสวนของคุณ

if you leave the soil uncovered.

ถ้าคุณปล่อยให้ดินเปลือยเปล่า

Now, because the fate of water and carbon

และเนื่องจากชะตากรรมของน้ำและคาร์บอนนั้น

are tied to soil organic matter,

ผูกติดอยู่กับสารอินทรีย์ในดิน

when we damage soils, you give off carbon.

เมื่อเราทำดินเสียหาย เราปล่อยคาร์บอนออกมา

Carbon goes back to the atmosphere.

คาร์บอนก็กลับเข้าไปในชั้นบรรยากาศ

Now you're told over and over, repeatedly,

มีคนบอกคุณหลายต่อหลายครั้ง

that desertification is only occurring

ว่าการเกิดทะเลทรายนั้น

in arid and semi-arid areas of the world,

เกิดขึ้นในพื้นที่ที่แห้งแล้ง หรือเกือบแห้งแล้งแล้วเท่านั้น

and that tall grasslands like this one

และทุ่งหญ้าแบบนี้

in high rainfall are of no consequence.

ในพื้นที่ที่ฝนตกชุก ไม่ได้รับผลกระทบเลย

But if you do not look at grasslands but look down into them,

แต่ถ้าคุณมองลงไปใต้ทุ่งหญ้าเหล่านี้

you find that most of the soil in that grassland

คุณจะพบว่า ดินส่วนใหญ่ในทุ่งหญ้า

that you've just seen is bare and covered with a crust of algae,

ที่คุณเพิ่งเห็นนั้น ถูกเปิดโล่ง และคลุมไว้ด้วยสาหร่ายบางๆเท่านั้น

leading to increased runoff and evaporation.

ซึ่งทำให้น้ำไหลออก และระเหยออกมากขึ้น

That is the cancer of desertification

นั่นคือมะเร็งของการเกิดทะเลทรายครับ

that we do not recognize till its terminal form.

เรามองไม่เห็นมัน จนมันอยู่ในระยะสุดท้าย

Now we know that desertification is caused by livestock,

เรารู้ว่าทะเลทรายเกิดจากปศุสัตว์

mostly cattle, sheep and goats,

ส่วนใหญ่จากวัว แกะ และแพะ

overgrazing the plants,

ที่กินหญ้าปริมาณมากเกินไป

leaving the soil bare and giving off methane.

ทำให้พื้นดินเปลือยเปล่า และปล่อยก๊าซมีเทน

Almost everybody knows this,

เกือบทุกคนรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว

from nobel laureates to golf caddies,

ตั้งแต่ผู้ได้รางวัลโนเบล ยันแคดดี้ตามสนามกอล์ฟ

or was taught it, as I was.

หรืออย่างพวกเรา ที่ถูกสอนเรื่องนี้ในโรงเรียน

Now, the environments like you see here,

สภาพแวดล้อมอย่างที่เราเห็นอยู่นี้

dusty environments in Africa where I grew up,

แอฟริกาที่เต็มไปด้วยฝุ่น นี่คือที่ที่ผมโตมา

and I loved wildlife,

และผมรักสัตว์ป่าทั้งหลาย

and so I grew up hating livestock

และโตขึ้นพร้อมกับความเกลียดชังปศุสัตว์

because of the damage they were doing.

เพราะความเสียหายที่พวกมันทำ

And then my university education as an ecologist

การเรียนระดับมหาวิทยาลัยของผม เพื่อเป็นนักนิเวศวิทยา

reinforced my beliefs.

ยิ่งช่วยตอกย้ำความคิดเหล่านั้น

Well, I have news for you.

วันนี้ผมมีข่าวใหม่มาบอกครับ

We were once just as certain

เราเคยเชื่อมั่นกันว่า

that the world was flat.

โลกนั้นแบนราบ

We were wrong then, and we are wrong again.

ตอนนั้นเราคิดผิด และตอนนี้เราก็คิดผิดอีกครั้ง

And I want to invite you now

ผมอยากเชื้อเชิญให้คุณ

to come along on my journey of reeducation and discovery.

ตามผมไปยังเส้นทางแห่งการเรียนรู้ใหม่ และการค้นพบ

When I was a young man,

สมัยที่ผมยังหนุ่มๆ

a young biologist in Africa,

นักชีววิทยาหนุ่มในแอฟริกา

I was involved in setting aside marvelous areas

ผมทำงานด้านการวางแผนจัดตั้ง

as future national parks.

อุทยานแห่งชาติใหม่ๆ ในอนาคต

Now no sooner — this was in the 1950s —

ไม่นานหลังจาก -- นี่ช่วงปี 1950 นะครับ --

and no sooner did we remove the hunting,

ไม่นานหลังจากที่เราประกาศห้ามล่าสัตว์

drum-beating people to protect the animals,

และสนับสนุนให้ผู้คนอนุรักษ์สัตว์ป่า

than the land began to deteriorate,

ผืนดินกลับเริ่มเสื่อมโทรม

as you see in this park that we formed.

ดังที่คุณเห็นในอุทยานที่เราตั้งขึ้นมานี้

Now, no livestock were involved,

ไม่มีปศุสัตว์มาเกี่ยวข้อง

but suspecting that we had too many elephants now,

แต่เราสงสัยว่า เรามีช้างมากเกินไป

I did the research and I proved we had too many,

ผมทำการวิจัย และพิสูจน์ว่ามีช้างมากเกินไปจริงๆ

and I recommended that we would have to reduce their numbers

ผมเสนอให้เราลดจำนวนช้างลง

and bring them down to a level that the land could sustain.

เพื่อที่ผืนดินจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน

Now, that was a terrible decision for me to have to make,

นั่นเป็นการตัดสินใจที่ทำใจยากมากสำหรับผม

and it was political dynamite, frankly.

เป็นระเบิดทางการเมืองเลย

So our government formed a team of experts

รัฐบาลของเราจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญ

to evaluate my research.

เพื่อประเมินงานวิจัยของผม

They did. They agreed with me,

เขาประเมินออกมา เห็นด้วยกับผม

and over the following years,

และในหลายปีต่อมา

we shot 40,000 elephants to try to stop the damage.

เรายิงช้างไปกว่า 40,000 เชือก เพื่อยับยั้งการทำลายผืนดิน

And it got worse, not better.

แต่สภาพแวดล้อมกลับเลวร้ายลง

Loving elephants as I do,

ผมรักช้างนะครับ

that was the saddest and greatest blunder of my life,

ผมเสียใจ และนั่นเป็นความผิดพลาด ที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตของผม

and I will carry that to my grave.

ผมจะจำไปจนวันตาย

One good thing did come out of it.

แต่มีเรื่องดีเรื่องหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้

It made me absolutely determined

มันทำให้ผมตั้งมั่น

to devote my life to finding solutions.

ว่าจะต้องทุ่มเทชีวิตนี้ แก้ไขปัญหานี้ให้ได้

When I came to the United States, I got a shock,

ตอนที่ผมมาสหรัฐอเมริกา ผมตกใจมาก

to find national parks like this one

ที่เห็นอุทยานแห่งชาติแบบนี้

desertifying as badly as anything in Africa.

กำลังกลายเป็นทะเลทราย เลวร้ายพอๆกับในแอฟริกา

And there'd been no livestock on this land

และไม่มีปศุสัตว์ในพื้นที่นี้

for over 70 years.

มากว่า 70 แล้ว

And I found that American scientists

และผมพบว่า นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน

had no explanation for this

ก็หาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน

except that it is arid and natural.

รู้แค่ว่ามันแห้งแล้ง และเป็นไปตามธรรมชาติของมัน

So I then began looking

ผมเลยเริ่มมองหา

at all the research plots I could

พื้นที่วิจัยทั้งหมดที่หาได้

over the whole of the Western United States

ในฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา

where cattle had been removed

ที่ซึ่งวัวถูกย้ายออก

to prove that it would stop desertification,

และพบว่ามันหยุดการก่อตัวของทะเลทรายได้

but I found the opposite,

แต่ผมกลับพบสิ่งที่ตรงกันข้าม

as we see on this research station,

ในสถานีวิจัยนี้

where this grassland that was green in 1961,

ที่ที่ทุ่งหญ้าเขียวขจี เมื่อปี 1961

by 2002 had changed to that situation.

แต่ในปี 2002 มันกลายเป็นแบบนี้

And the authors of the position paper on climate change

และเจ้าของงานวิจัยเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศนี้

from which I obtained these pictures

ผู้ที่ให้รูปเหล่านี้มา

attribute this change to "unknown processes."

กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจาก "กระบวนการที่ไม่อาจทราบได้"

Clearly, we have never understood

มันชัดเจนว่า เราไม่เคยเข้าใจ

what is causing desertification,

ว่าทะเลทรายเกิดขึ้นได้อย่างไร

which has destroyed many civilizations

ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำลายอารยธรรมมากมาย

and now threatens us globally.

และกำลังเป็นภัยคุกคามพวกเราทั่วโลก

We have never understood it.

เราไม่เคยเข้าใจมันเลย

Take one square meter of soil

ลองยกผืนดิน 1 ตารางเมตร

and make it bare like this is down here,

และทำให้มันโล่งโจ้งแบบนี้

and I promise you, you will find it much colder at dawn

ผมฟันธงได้ว่า มันจะเย็นกว่าในตอนรุ่งเช้า

and much hotter at midday

และร้อนกว่าในตอนกลางวัน

than that same piece of ground if it's just covered with litter,

เมื่อเทียบกับ พื้นที่อื่นที่ถูกปกคลุมด้วยขยะ

plant litter.

ขยะของเหล่าต้นไม้

You have changed the microclimate.

คุณได้เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ระดับจุลภาคแล้ว

Now, by the time you are doing that

และถ้าคุณทำแบบนั้น

and increasing greatly the percentage of bare ground

เพิ่มปริมาณผืนดินเปลือยเปล่า

on more than half the world's land,

มากกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่โลกใบนี้

you are changing macroclimate.

คุณก็เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศระดับมหภาคไปแล้ว

But we have just simply not understood

แต่เราก็ไม่เข้าใจ

why was it beginning to happen 10,000 years ago?

ว่าทำไมมันเพิ่งเริ่มต้นเมื่อ 10,000 ปีที่แล้ว

Why has it accelerated lately?

และเร่งความเร็วขึ้นระยะหลังมานี้

We had no understanding of that.

เราไม่เข้าใจเลยสักนิด

What we had failed to understand

สิ่งที่เราไม่อาจจะเข้าใจ

was that these seasonal humidity environments of the world,

คือความชื้นตามฤดูกาลบนโลกใบนี้

the soil and the vegetation

ผืนดินและพืชผัก

developed with very large numbers of grazing animals,

ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆ กับสัตว์กินหญ้าจำนวนมาก

and that these grazing animals

และสัตว์กินหญ้าเหล่านี้

developed with ferocious pack-hunting predators.

ก็มีการเปลี่ยนแปลงสัมพันธ์กับฝูงสัตว์ผู้ล่าที่ดุร้าย

Now, the main defense against pack-hunting predators

การป้องกันหลักจากนักล่าพวกนั้น

is to get into herds,

คือการอยู่ร่วมกันเป็นฝูง

and the larger the herd, the safer the individuals.

ยิ่งฝูงใหญ่เท่าไหร่ แต่ละตัวก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้น

Now, large herds dung and urinate all over their own food,

ทีนี้ สัตว์ฝูงใหญ่นั้น ทิ้งมูลและฉี่ บนอาหารของตนเอง

and they have to keep moving,

และต้องเคลื่อนย้ายไปเรื่อยๆ

and it was that movement

มันคือการเคลื่อนย้ายนั้นล่ะ

that prevented the overgrazing of plants,

ที่ป้องกันการกินหญ้าในบริเวณหนึ่งมากเกินไป

while the periodic trampling

ในขณะที่การเหยียบย่ำอย่างสม่ำเสมอ

ensured good cover of the soil,

ก็ทำให้มูลเหล่านั้น กระจายปกคลุมผืนดิน

as we see where a herd has passed.

ดังที่เราเห็นเวลาฝูงสัตว์ผ่านไป

This picture is a typical seasonal grassland.

นี่คือรูปของทุ่งหญ้าทั่วๆ ไป

It has just come through four months of rain,

เพิ่งมีฝนตกติดต่อกัน 4 เดือน

and it's now going into eight months of dry season.

และกำลังเข้าหน้าแล้งใน 8 เดือนที่เหลือ

And watch the change as it goes into this long dry season.

ลองดูการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ย่างเข้าหน้าแล้ง

Now, all of that grass you see aboveground

หญ้าที่คุณเห็นทั้งหมดนั้น

has to decay biologically

ต้องย่อยสลายทางชีวภาพ

before the next growing season, and if it doesn't,

ก่อนถึงหน้าฝนถัดไป เพราะถ้าย่อยสลายไม่ทัน

the grassland and the soil begin to die.

ทุ่งหญ้าและดินตรงนั้น ก็จะเริ่มตายลง

Now, if it does not decay biologically,

ทีนี้ ถ้ามันไม่ย่อยสลายทางชีวภาพ

it shifts to oxidation, which is a very slow process,

ก็จะเกิดปฎิกิริยาเคมีแบบออกซิเดชั่นแบบช้าๆ

and this smothers and kills grasses,

ซึ่งจะปกคลุมและฆ่าหญ้าเหล่านั้น

leading to a shift to woody vegetation

ทำให้พื้นที่ มีแต่พืชที่มีใบน้อย

and bare soil, releasing carbon.

และดินเปลือย ซึ่งปล่อยคาร์บอนออกมา

To prevent that, we have traditionally used fire.

ปกติแล้วเราป้องกันสิ่งนี้ด้วยการเผา

But fire also leaves the soil bare, releasing carbon,

แต่การเผาก็ทำให้ดินเปลือย ซึ่งปล่อยคาร์บอนอีก

and worse than that,

และที่แย่ไปกว่านั้น

burning one hectare of grassland

การเผาทุกหญ้าขนาด 1 เฮกตาร์ (10,000 ตร.ม.) นั้น

gives off more, and more damaging, pollutants

สร้างมลพิษมากกว่า และร้ายแรงกว่า

than 6,000 cars.

รถ 6,000 คันเสียอีก

And we are burning in Africa, every single year,

และในแอฟริกา เราเผาทุ่งหญ้า

more than one billion hectares of grasslands,

มากกว่า 1 พันล้านเฮกตาร์ ทุกๆปี

and almost nobody is talking about it.

และแทบจะไม่มีใครพูดถึงมัน

We justify the burning, as scientists,

เรายอมรับการเผาหญ้า ในฐานะนักวิทยาศาสตร์

because it does remove the dead material

ก็เพราะมันกำจัดสิ่งที่ตายแล้ว

and it allows the plants to grow.

และทำให้พืชพรรณเจริญเติบโตได้อีก

Now, looking at this grassland of ours that has gone dry,

ที่นี้ ลองมาดูทุ่งหญ้าที่แห้งแล้วนี้กัน

what could we do to keep that healthy?

เราจะทำอย่างไรให้มันอุดมสมบูรณ์ได้ต่อไป

And bear in mind, I'm talking of most of the world's land now.

อย่าลืมนะครับ ผมกำลังพูดถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก

Okay? We cannot reduce animal numbers to rest it more

เราไม่สามารถลดจำนวนสัตว์ลง

without causing desertification and climate change.

โดยที่ไม่เพิ่มทะเลทราย หรือเร่งการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ

We cannot burn it without causing

เราไม่สามารถเผามัน โดยไม่เพิ่มทะเลทราย

desertification and climate change.

หรือเร่งการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ

What are we going to do?

แล้วเราจะทำอย่างไร

There is only one option,

มีเพียงทางเลือกเดียวครับ

I'll repeat to you, only one option

ขอย้ำอีกที เรามีเพียงทางเลือกเดียว

left to climatologists and scientists,

เหลือให้กับนักภูมิอากาศและนักวิทยาศาตร์

and that is to do the unthinkable,

นั่นคือการทำสิ่งที่เราไม่เคยคิด

and to use livestock,

การใช้ปศุสัตว์นั่นเอง

bunched and moving,

ต้อนรวมพวกมัน แล้วย้ายมันไปเรื่อยๆ

as a proxy for former herds and predators,

เสมือนกับระบบนักล่าและฝูงผู้ถูกล่าแบบแต่ก่อน

and mimic nature.

เพื่อเลียนแบบธรรมชาติ

There is no other alternative left to mankind.

มนุษยชาติไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

So let's do that.

ดังนั้น เรามาทำกันเถอะครับ

So on this bit of grassland, we'll do it, but just in the foreground.

เราจะทดลองบริเวณส่วนบนของทุ่งหญ้านี้

We'll impact it very heavily with cattle to mimic nature,

เราจะปล่อยวัวเข้าไปเป็นจำนวนมาก เพื่อเลียนแบบธรรมชาติ

and we've done so, and look at that.

และเราก็จะได้ผลลัพธ์แบบนี้

All of that grass is now covering the soil

หญ้าทั้งหมดนั้นปกคลุมดินไว้อยู่

as dung, urine and litter or mulch,

เช่นเดียวกับมูลสัตว์ ฉี่ และสิ่งปกคลุมอื่นๆ

as every one of the gardeners amongst you would understand,

ซึ่งทุกคนที่ชอบทำสวนในนี้น่าจะเข้าใจ

and that soil is ready to absorb and hold the rain,

ผืนดินนั้นพร้อมที่จะซึมซับ และเก็บกักน้ำฝนไว้

to store carbon, and to break down methane.

เพื่อเก็บกักคาร์บอน และย่อยมีเทน

And we did that,

และเราทำสิ่งเหล่านั้นได้

without using fire to damage the soil,

โดยไม่ต้องใช้ไฟ ซึ่งทำลายดิน

and the plants are free to grow.

และพืชพรรณก็ยังเติบโตได้

When I first realized

ตอนที่ผมคิดได้

that we had no option as scientists

ว่านักวิทยาศาสตร์อย่างเราไม่มีทางเลือก

but to use much-vilified livestock

นอกจากการใช้ปศุสัตว์ที่เรากล่าวหาให้ร้าย

to address climate change and desertification,

เพื่อแก้ปัญหาทะเลทราย และการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ

I was faced with a real dilemma.

ผมเจอปัญหากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

How were we to do it?

เราจะทำได้อย่างไร

We'd had 10,000 years of extremely knowledgeable pastoralists

เรามีการปศุสัตว์มามากกว่า 10,000 ปี

bunching and moving their animals,

ต้อนและย้ายสัตว์ไปมา

but they had created the great manmade deserts of the world.

แต่พวกเขาก็ได้สร้างทะเลทราย ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มนุษย์สร้าง

Then we'd had 100 years of modern rain science,

ต่อด้วย 100 ปีแห่งวิทยาศาสตร์ด้านฝน

and that had accelerated desertification,

ที่เร่งให้เกิดทะเลทรายเร็วยิ่งกว่าเดิม

as we first discovered in Africa

ดังที่เราเห็นในแอฟริกา

and then confirmed in the United States,

และยืนยันชัดเจนอีกในสหรัฐอเมริกา

and as you see in this picture

ดังที่คุณเห็นในรูปนี้

of land managed by the federal government.

ผืนดินที่จัดการโดยรัฐบาลกลาง

Clearly more was needed

แน่นอนว่าเราต้องการ

than bunching and moving the animals,

มากกว่าการต้อน และเคลื่อนย้ายสัตว์ไปมา

and humans, over thousands of years,

และหลายพันปีที่ผ่านมา มนุษย์เรา

had never been able to deal with nature's complexity.

ไม่เคยสู้กับความซับซ้อนของธรรมชาติได้

But we biologists and ecologists

แต่เราในฐานะนักชีววิทยา และนักนิเวศวิทยา

had never tackled anything as complex as this.

ไม่เคยลองต่อกรกับอะไรที่ซับซ้อนเช่นนี้

So rather than reinvent the wheel,

ดังนั้น แทนที่จะประดิษฐ์ล้อขึ้นมาอีกรอบ

I began studying other professions to see if anybody had.

ผมศึกษาว่าอาชีพอื่นเขาทำอะไรกันบ้าง

And I found there were planning techniques

และพบว่ามีเทคนิคการวางแผน

that I could take and adapt to our biological need,

ที่ผมสามารถปรับมาใช้ กับความต้องการด้านชีววิทยาของเรา

and from those I developed what we call

และด้วยข้อมูลเหล่านั้น ผมพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า

holistic management and planned grazing,

การจัดการและวางแผนการเลี้ยง ปศุสัตว์กินหญ้าแบบองค์รวม

a planning process,

เป็นแนวทางการวางแผน

and that does address all of nature's complexity

ซึ่งจัดการกับความซับซ้อนทางธรรมชาติทั้งหมด

and our social, environmental, economic complexity.

รวมถึงความซับซ้อนทางสังคม ทางสิ่งแวดล้อม และเศษฐกิจของเรา

Today, we have young women like this one

วันนี้ เรามีหญิงสาวเช่นนี้

teaching villages in Africa

สอนหนังสือหมู่บ้านในแอฟริกา

how to put their animals together into larger herds,

ถึงวิธีการรวมฝูงสัตว์ให้เป็นกลุ่มใหญ่ขึ้น

plan their grazing to mimic nature,

วางแผนการปล่อยปศุสัตว์กินหญ้า ให้เลียนแบบธรรมชาติ

and where we have them hold their animals overnight --

และในบริเวณที่เราปล่อยให้สัตว์อยู่ตรงนั้นชั่วข้ามคืน --

we run them in a predator-friendly manner,

เราจัดการมันในลักษณะเป็นมิตรต่อนักล่า

because we have a lot of lands, and so on --

เพราะเรามีพื้นที่มากมาย ฯลฯ --

and where they do this and hold them overnight

ในบริเวณที่เราปล่อยสัตว์ทิ้งไว้ข้ามคืน

to prepare the crop fields,

เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำไร่

we are getting very great increases in crop yield as well.

เราเห็นผลผลิตที่สูงขึ้นอย่างมากด้วยเช่นกัน

Let's look at some results.

ลองมาดูผลลัพธ์กัน

This is land close to land that we manage in Zimbabwe.

ที่ดินนี้อยู่ใกล้กับที่ดินที่เราจัดการ ในซิมบับเว

It has just come through four months of very good rains

เพิ่งมีฝนตกชุกมาตลอด 4 เดือน

it got that year, and it's going into the long dry season.

และกำลังเข้าสู่ฤดูแล้งที่ยาวนาน

But as you can see, all of that rain, almost of all it,

แต่ดังที่คุณเห็นได้ น้ำฝนทั้งหมด เกือบทั้งหมดเลย

has evaporated from the soil surface.

ได้ระเหยไปจากพื้นดิน

Their river is dry despite the rain just having ended,

แม่น้ำก็เหือดแห้ง ถึงแม้ว่าฝนเพิ่งหมดช่วงไป

and we have 150,000 people

และเรามีคน 150,000 คน

on almost permanent food aid.

ที่ต้องรับความช่วยเหลือเรื่องอาหาร เกือบจะเป็นประจำ

Now let's go to our land nearby on the same day,

ลองมาดูอีกพื้นที่ใกล้ๆกัน ในวันเดียวกัน

with the same rainfall, and look at that.

ในปริมาณฝนเท่ากัน ดูสิครับ

Our river is flowing and healthy and clean.

แม่น้ำมีน้ำไหล อุดมสมบูรณ์และสะอาด

It's fine.

ดูเป็นปกติเลย

The production of grass, shrubs, trees, wildlife,

ผลผลิตของต้นหญ้า พุ่มไม้ ต้นไม้ สัตว์ป่า

everything is now more productive,

ทุกอย่างกำลังสร้างผลผลิตมากขึ้น

and we have virtually no fear of dry years.

และเราไม่ต้องกลัวปีแล้งอีกต่อไป

And we did that by increasing the cattle and goats

เราทำได้โดยการเพิ่มจำนวนวัวและแพะ

400 percent,

ขึ้นไป 400 เปอร์เซ็นต์

planning the grazing to mimic nature

วางแผนการกินหญ้าให้สอดคล้องกับธรรมชาติ

and integrate them with all the elephants, buffalo,

และผสมผสานกับช้าง ควาย

giraffe and other animals that we have.

ยีราฟ และสัตว์อื่นๆ ที่เรามี

But before we began, our land looked like that.

ซึ่งก่อนหน้าที่เราจะเริ่ม พื้นดินเราหน้าตาแบบนี้

This site was bare and eroding for over 30 years

พื้นที่นี้โล่งเปล่า และโดนกัดกร่อนมากว่า 30 ปี

regardless of what rain we got.

ไม่ว่าฝนจะตกแค่ไหนก็ตาม

Okay? Watch the marked tree and see the change

ดูความแตกต่างตรงที่ทำเครื่องหมายไว้

as we use livestock to mimic nature.

เมื่อเราใช้ปศุสัตว์เลียนแบบธรรมชาติ

This was another site

นี่เป็นอีกพื้นที่หนึ่ง

where it had been bare and eroding,

ที่โล่งเปล่าและโดนกัดกร่อน

and at the base of the marked small tree,

บริเวณที่ทำเครื่องหมายไว้

we had lost over 30 centimeters of soil. Okay?

เราสูญเสียดินไปกว่า 30 เซนติเมตร เอาล่ะ

And again, watch the change

ลองดูความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

just using livestock to mimic nature.

โดยใช้ปศุสัตว์เลียนแบบธรรมชาติเท่านั้น

And there are fallen trees in there now,

เราเริ่มเห็นต้นไม้ล้มลง

because the better land is now attracting elephants, etc.

เพราะช้างเริ่มเข้ามาอาศัยอยู่กันแล้ว

This land in Mexico was in terrible condition,

พื้นที่นี้ในเม็กซิโก ตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มาก

and I've had to mark the hill

ผมต้องทำเครื่องหมายที่เนินนั้นไว้

because the change is so profound.

เพราะมันเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

I began helping a family in the Karoo Desert in the 1970s

ผมเริ่มช่วยเหลือครอบครัวในทะเลทรายคารู (Karoo Desert) ในช่วงปี 1970

turn the desert that you see on the right there

ด้วยการเปลี่ยนทะเลทรายที่คุณเห็นซ้ายมือนี้

back to grassland,

ให้กลับไปเป็นทุ่งหญ้า

and thankfully, now their grandchildren are on the land

และต้องขอบคุณที่ทุกวันนี้ ลูกหลานเขาอยู่บนพื้นดิน

with hope for the future.

ที่มีความหวังในอนาคตแล้ว

And look at the amazing change in this one,

ตรงนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างน่าอัศจรรย์มาก

where that gully has completely healed

ธารน้ำตรงนั้นได้รับการเยียวยาอย่างสมบูรณ์

using nothing but livestock mimicking nature,

โดยใช้เพียงปศุสัตว์เลียนแบบธรรมชาติ

and once more, we have the third generation of that family

เป็นอีกครั้ง ที่ครอบครัวยุคที่สาม

on that land with their flag still flying.

อาศัยอย่างมีความสุข อยู่บนผืนดินเดิมของพวกเขา

The vast grasslands of Patagonia

ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ใน พาตาโกเนีย (Patagonia)

are turning to desert as you see here.

กำลังกลายเป็นทะเลทราย อย่างที่คุณเห็น

The man in the middle is an Argentinian researcher,

ผู้ชายตรงกลางนั้นเป็นนักวิจัยชาวอาร์เจนติน่า

and he has documented the steady decline of that land

เขาได้บันทึกการเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ ของพื้นดินบริเวณนั้น

over the years as they kept reducing sheep numbers.

ตลอดหลายปีที่เขาลดจำนวนแกะลงเรื่อยๆ

They put 25,000 sheep in one flock,

เขานำฝูงแกะ 25,000 ตัวกลับเข้าไป

really mimicking nature now with planned grazing,

เลียนแบบธรรมชาติด้วยการวางแผนปศุสัตว์กินหญ้า

and they have documented a 50-percent increase

ตอนนี้พวกเขาบันทึกว่า ผลผลิตในพื้นที่มากขึ้น

in the production of the land in the first year.

ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปีแรก

We now have in the violent Horn of Africa

บริเวณคาบสมุทรโซมาลีที่มีความรุนแรงของปัญหา

pastoralists planning their grazing to mimic nature

นักปศุสัตว์วางแผนการกินหญ้าของสัตว์เลียนแบบธรรมชาติ

and openly saying it is the only hope they have

และพูดอย่างเต็มปากว่ามันคือทางเลือกสุดท้าย

of saving their families and saving their culture.

ที่จะปกป้องครอบครัวและวัฒนธรรมของพวกเขาได้

Ninety-five percent of that land

กว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่

can only feed people from animals.

มีแต่การเลี้ยงสัตว์ได้เท่านั้น ที่จะช่วยจุนเจือชีวิตคน

I remind you that I am talking about

ผมขอย้ำอีกทีว่าผมกำลังพูดถึง

most of the world's land here that controls our fate,

พื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก ที่กำหนดชะตากรรมของพวกเรา

including the most violent region of the world,

รวมถึงพื้นที่ที่มีความรุนแรงมากที่สุดในโลก

where only animals can feed people

ที่ๆ จาก 95 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่

from about 95 percent of the land.

ใช้เลี้ยงสัตว์ได้อย่างเดียว

What we are doing globally is causing climate change

สิ่งที่ทั่วโลกกำลังทำคือ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ

as much as, I believe, fossil fuels,

พอๆ กับการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

and maybe more than fossil fuels.

หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

But worse than that, it is causing hunger, poverty,

แต่ที่แย่กว่าคือ มันกำลังสร้างความหิวโหย ความยากจน

violence, social breakdown and war,

ความรุนแรง สังคมที่วิบัติ และสงคราม

and as I am talking to you,

และในขณะที่ผมพูดอยู่นี้

millions of men, women and children

ชายหญิงและเด็กเป็นล้านๆคน

are suffering and dying.

ก็กำลังทุกข์ทรมาน และตายลง

And if this continues,

และถ้าทุกอย่างยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

we are unlikely to be able to stop the climate changing,

มันคงยากที่เราจะหยุด การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศได้

even after we have eliminated the use of fossil fuels.

ถึงแม้ว่าเราจะเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลแล้วก็ตาม

I believe I've shown you how we can work with nature

ผมเชื่อว่าผมได้แสดงให้เห็น ว่าเราทำงานร่วมกับธรรมชาติได้อย่างไร

at very low cost

ด้วยต้นทุนที่ต่ำมาก

to reverse all this.

เพื่อย้อนทุกอย่างเหล่านี้

We are already doing so

เรากำลังทำสิ่งนี้

on about 15 million hectares

บนพื้นที่กว่า 15 ล้านเฮกตาร์

on five continents,

บน 5 ทวีป

and people who understand

และผู้คนที่เข้าใจ

far more about carbon than I do

เรื่องคาร์บอนมากกว่าผม

calculate that, for illustrative purposes,

คำนวณออกมา เพื่อให้เห็นภาพ

if we do what I am showing you here,

ว่าถ้าเราทำสิ่งที่ผมกำลังนำเสนอนี้

we can take enough carbon out of the atmosphere

เราสามารถนำคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศ

and safely store it in the grassland soils

และกักเก็บมันไว้ในพื้นดินของทุ่งหญ้า

for thousands of years,

เป็นพันๆปี

and if we just do that on about half the world's grasslands

และถ้าเราสามารถทำได้ กับทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งของโลก

that I've shown you,

ที่ผมแสดงให้คุณเห็น

we can take us back to pre-industrial levels,

เราสามารถลดระดับคาร์บอน ลงไปต่ำกว่าก่อนยุคอุตสาหกรรม

while feeding people.

ในขณะเดียวกัน ก็สร้างอาหารจุนเจือผู้คนไปด้วย

I can think of almost nothing

ผมคิดไม่ออกว่ามีอะไร

that offers more hope for our planet,

ที่ให้ความหวังกับโลกใบนี้ของเรา

for your children,

ให้ความหวังกับลูกของคุณ

and their children, and all of humanity.

และลูกของพวกเขา และมนุษยชาติทั้งปวง ได้มากกว่านี้

Thank you.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Thank you. (Applause)

ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)

Thank you, Chris.

ขอบคุณครับ คริส

Chris Anderson: Thank you. I have,

คริส แอนเดอร์สัน: ขอบคุณครับ ตัวผมเอง

and I'm sure everyone here has,

และเชื่อว่าทุกคนในที่นี้

A) a hundred questions, B) wants to hug you.

1) มี 100 คำถาม และ 2) อยากจะกอดคุณ

I'm just going to ask you one quick question.

ผมจะถามสั้นๆ 1 คำถามนะครับ

When you first start this and you bring in a flock of animals,

ตอนที่คุณเริ่มต้น นำสัตว์ฝูงแรกเข้ามา

it's desert. What do they eat? How does that part work?

พื้นที่เป็นทะเลทรายอยู่ พวกมันกินอะไร ระบบทำงานอย่างไร

How do you start?

คุณเริ่มต้นอย่างไร

Allan Savory: Well, we have done this for a long time,

อัลลัน ซาวอรี่: เราทำมานานมากแล้ว

and the only time we have ever had to provide any feed

และครั้งเดียวที่เราต้องใส่อาหารเข้าไป

is during mine reclamation,

คือพื้นที่เหมืองในอดีต

where it's 100 percent bare.

ซึ่งมีพื้นดินเปลือย 100 เปอร์เซ็นต์

But many years ago, we took the worst land in Zimbabwe,

แต่หลายปีที่แล้ว เราเจอพื้นที่ที่แย่ที่สุดในซิมบับเว

where I offered a £5 note

ที่ผมเสนอจะให้เงิน5 ปอนด์

in a hundred-mile drive

ในรัศมี 100 ไมล์

if somebody could find one grass

ถ้ามีใครหาต้นหญ้าเจอสักต้น

in a hundred-mile drive,

ในรัศมี 100 ไมล์

and on that, we trebled the stocking rate,

ที่พื้นที่นั่น เราเพิ่มอัตราการทำปศุสัตว์เป็น 3 เท่า

the number of animals, in the first year with no feeding,

และจำนวนของสัตว์ ในปีแรก โดยไม่มีการให้อาหาร

just by the movement, mimicking nature,

ใช้แค่การเคลื่อนที่เลียนแบบธรรมชาติ

and using a sigmoid curve, that principle.

และใช้หลักกการตามแบบ เส้นโค้งการเจริญเติบโต (sigmoid curve)

It's a little bit technical to explain here, but just that.

มันค่อนข้างจะวิชาการไปหน่อยที่จะอธิบายน่ะครับ

CA: Well, I would love to -- I mean, this such an interesting and important idea.

คริส: ผมอยากฟังต่อนะครับ ผมว่ามันเป็นความคิดที่น่าสนใจ และสำคัญมาก

The best people on our blog are going to come and talk to you

คนที่เขียนบล็อกของเราจะมาคุยกับคุณ

and try and -- I want to get more on this

และลอง และ... คือผมอยากได้ข้อมูลเพิ่ม

that we could share along with the talk.AS: Wonderful.

จะได้แบ่งปันความรู้นี้ เพิ่มเติมจากที่คุณพูด อัลลัน: เยี่ยมเลยครับ

CA: That is an astonishing talk, truly an astonishing talk,

คริส: เป็นการพูดที่น่าทึ่งมาก น่าทึ่งมากจริงๆ

and I think you heard that we all are cheering you on your way.

ผมคิดว่าคุณทราบ ว่าเรากำลังเอาใจช่วยคุณตลอดนะครับ

Thank you so much.AS: Well, thank you. Thank you. Thank you, Chris.

ขอบคุณมากเลยครับ อัลลัน: ขอบคุณมากครับ คริส

(Applause)

(เสียงปรบมือ)