Optical illusions show how we see | Beau Lotto

3,135,318 views ・ 2009-10-08

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Pongsakorn Puavaranukroh Reviewer: Sritala Dhanasarnsombut
00:13
I want to start with a game. Okay?
0
13525
2626
ผมอยากจะเริ่มด้วยการเล่นเกม
00:16
And to win this game,
1
16175
2395
วิธีที่จะชนะเกมนี้
00:18
all you have to do is see the reality that's in front of you
2
18594
2889
สิ่งที่ต้องทำคือ ดูความจริงที่อยู่ตรงหน้าคุณ
00:21
as it really is, all right?
3
21507
1992
อย่างที่คุณเห็น โอเคไหมครับ?
00:23
So we have two panels here, of colored dots.
4
23523
2587
เรามีกระดาน 2 อัน ที่มีจุดสีต่างๆ
00:27
And one of those dots is the same in the two panels.
5
27006
4325
และจะมีจุดสีหนึ่งที่เหมือนกัน ทั้งในสองกระดาน
00:33
And you have to tell me which one.
6
33530
2048
และคุณต้องบอกผมว่าเป็นสีไหน
00:35
Now, I narrowed it down
7
35602
1448
ผมช่วยตัดตัวเลือกให้เหลือแค่
00:37
to the gray one, the green one, and, say, the orange one.
8
37074
4671
จุดสีเทา สีเขียว หรือสีส้ม
00:41
So by a show of hands, we'll start with the easiest one.
9
41769
3063
ที่นี้ให้ยกมือขึ้นเวลาตอบนะครับ มาเริ่มกันเลย
00:44
Show of hands: how many people think it's the gray one?
10
44856
2714
ใครบ้างที่คิดว่าเป็นสีเทา? ให้ยกมือขึ้น
00:48
Really? Okay.
11
48594
1542
จริงหรือนี่? โอเค
00:50
How many people think it's the green one?
12
50160
2974
ใครที่คิดว่าเป็นสีเขียว?
00:54
And how many people think it's the orange one?
13
54737
2434
ใครที่คิดว่าเป็นสีส้ม?
00:59
Pretty even split.
14
59035
1885
มีคนเลือกพอๆ กัน
01:02
Let's find out what the reality is.
15
62483
2267
ทีนี้มาดูเฉลยกัน
01:04
Here is the orange one.
16
64774
1820
นี่เป็นสีส้ม
01:07
(Laughter)
17
67873
1436
(เสียงหัวเราะ)
01:10
Here is the green one.
18
70160
1324
อันนี้สีเขียว
01:13
And here is the gray one.
19
73372
2001
และนี่เป็นสีเทา
01:16
(Laughter)
20
76872
3264
(เสียงหัวเราะ)
01:20
So for all of you who saw that, you're complete realists.
21
80160
2799
สำหรับคนที่ดูออก คุณเป็นพวกสัจนิยมตัวจริง
01:23
All right?
22
83428
1173
ใช่ไหมครับ
01:24
(Laughter)
23
84625
1511
(เสียงหัวเราะ)
01:26
So this is pretty amazing, isn't it?
24
86160
1771
นี่มันน่าทึ่งจริงๆ เห็นด้วยไหมครับ?
01:27
Because nearly every living system
25
87955
1802
เพราะว่าสิ่งมีชีวิตเกือบทุกชนิด
01:29
has evolved the ability to detect light in one way or another.
26
89781
3908
ได้มีวิวัฒนาการให้มีความสามารถ ในการรับรู้แสงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
01:33
So for us, seeing color
27
93713
1841
สำหรับมนุษย์ การมองเห็นสี
01:35
is one of the simplest things the brain does.
28
95578
2310
เป็นงานง่ายๆ ที่สมองเราทำได้
01:37
And yet, even at this most fundamental level,
29
97912
2801
แม้แต่ในความสามารถพื้นๆ นี้
01:40
context is everything.
30
100737
2619
ก็ยังขึ้นอยู่กับบริบทแวดล้อม
01:43
What I'm going to talk about is not that context is everything,
31
103380
3181
ที่ผมจะพูดไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับ ความสำคัญของบริบท
01:46
but why context is everything.
32
106585
2025
แต่เป็นเรื่องที่ว่าทำไมบริบทจึงสำคัญ
01:48
Because it's answering that question
33
108634
2216
เพราะว่ามันไม่เพียงจะช่วยตอบคำถามที่ว่า
01:50
that tells us not only why we see what we do,
34
110874
3544
ทำไมเราจึงมองเห็นสิ่งที่เราทำ
01:54
but who we are as individuals,
35
114442
1694
แต่ยังรวมถึงเราเป็นใครในระดับปัจเจก
01:56
and who we are as a society.
36
116160
1881
รวมถึงเราเป็นใครในระดับสังคม
01:59
But first, we have to ask another question,
37
119649
2063
แต่ก่อนอื่น เราต้องถามอีกคำถามหนึ่งก่อน
02:01
which is, "What is color for?"
38
121736
1508
ซึ่งคือ "สีต่างๆ มีไว้เพื่ออะไร?"
02:03
And instead of telling you, I'll just show you.
39
123268
2215
แทนที่จะเล่า ผมจะแสดงให้คุณดูรูปแทน
02:05
What you see here is a jungle scene,
40
125507
2629
ที่คุณเห็นอยู่นี้เป็นฉากป่าดงดิบแห่งหนึ่ง
02:08
and you see the surfaces according to the amount of light
41
128160
2784
คุณจะเห็นลักษณะพื้นผิวต่างๆ ตามปริมาณของแสง
02:10
that those surfaces reflect.
42
130968
1665
ที่พื้นผิวนั้นสะท้อนออกมา
02:12
Now, can any of you see the predator that's about to jump out at you?
43
132657
4383
ทีนี้ คุณมองเห็นสัตว์นักล่าไหม? ที่มันพร้อมจะกระโจนเข้าใส่คุณ
02:17
And if you haven't seen it yet, you're dead, right?
44
137064
3024
ถ้าคุณไม่เห็น คุณก็ตาย จริงไหม?
02:20
(Laughter)
45
140112
1001
(เสียงหัวเราะ)
02:21
Can anyone see it? Anyone? No?
46
141137
2338
มีใครเห็นมันไหม? ไม่มีเลยเหรอครับ?
02:23
Now let's see the surfaces
47
143499
1469
ทีนี้ดูลักษณะพื้นผิวต่างๆ
02:24
according to the quality of light that they reflect.
48
144992
2854
ที่แสงสะท้อนออกมาในเชิงคุณภาพ
02:27
And now you see it.
49
147870
1541
ตอนนี้คุณเห็นมันแล้ว
02:30
So, color enables us to see
50
150489
2265
สีสันทำให้เรามองเห็นถึง
02:32
the similarities and differences between surfaces,
51
152778
2426
ความคล้ายและความต่าง ระหว่างพื้นผิวต่างๆ
02:35
according to the full spectrum of light that they reflect.
52
155228
3046
ตามสเปกตรัมของแสงที่มันสะท้อนออกมา
02:38
But what you've just done
53
158298
1461
แต่สิ่งที่คุณเพิ่งทำไปนั้น
02:39
is in many respects mathematically impossible.
54
159783
3040
ในหลายๆ แง่มุมแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ในทางคณิตศาสตร์
02:42
Why?
55
162847
1247
ทำไมล่ะ?
02:44
Because, as Berkeley tells us,
56
164118
1430
ก็เพราะว่า อย่างที่เบิร์กลีย์บอกเรา
02:45
we have no direct access to our physical world,
57
165572
2563
เราไม่สามารถเข้าถึงโลกกายภาพได้โดยตรง
02:48
other than through our senses.
58
168159
1977
ถ้าปราศจากประสาทสัมผัสต่างๆ ของเรา
02:50
And the light that falls onto our eyes
59
170160
1815
แสงที่ตกกระทบสู่ตาเรา
02:51
is determined by multiple things in the world,
60
171999
2262
ถูกกำหนดโดยหลายปัจจัยภายนอก
02:54
not only the color of objects,
61
174285
1851
ไม่ใช่กำหนดจากแค่เพียงสีของตัววัตถุ
02:56
but also the color of their illumination,
62
176160
1976
แต่ยังรวมถึงสีสันของทัศนวิสัยรอบๆด้วย
02:58
and the color of the space between us and those objects.
63
178160
2809
และสีสันของสิ่งที่อยู่ระหว่างเรากับวัตถุ
03:00
You vary any one of those parameters,
64
180993
2253
ถ้าคุณเปลี่ยนตัวแปรเหล่านั้นไปสักอย่าง
03:03
and you'll change the color of the light that falls onto your eye.
65
183270
3522
มันก็จะเปลี่ยนแสงสีที่คุณจะเห็นไปด้วย
03:08
This is a huge problem,
66
188308
1184
นี่เป็นปัญหาใหญ่
03:09
because it means that the same image
67
189516
2969
เพราะว่ามันหมายความว่า ภาพอย่างเดียวกัน
03:12
could have an infinite number of possible real-world sources.
68
192509
3521
อาจเกิดจากต้นกำเนิดได้นับไม่ถ้วน
03:16
Let me show you what I mean.
69
196054
1341
ผมจะแสดงให้ดูว่าผมหมายถึงอะไร
03:17
Imagine that this is the back of your eye, okay?
70
197419
2833
นึกภาพว่านี่เป็นจอประสาทตาของคุณ
03:20
And these are two projections from the world.
71
200276
2500
และนี่เป็นสองภาพที่ฉายมากจากโลกภายนอก
03:22
They're identical in every single way.
72
202800
2463
พวกมันเหมือนกันทุกประการ
03:25
Identical in shape, size, spectral content.
73
205287
4032
ในแง่ของรูปร่าง ขนาด สเปกตรัมของสี
03:29
They are the same, as far as your eye is concerned.
74
209343
2769
มันเหมือนกัน เท่าที่ตาคุณรับรู้
03:33
And yet they come from completely different sources.
75
213158
4094
แต่พวกมันมาจากต้นกำนิดที่ต่างกัน
03:38
The one on the right comes from a yellow surface,
76
218380
4501
อันที่อยู่ทางขวา มาจากพื้นผิวสีเหลือง
03:42
in shadow, oriented facing the left,
77
222905
2405
อยู่ในเงา หันออกด้านซ้าย
03:45
viewed through a pinkish medium.
78
225334
2872
มองผ่านตัวกลางสีชมพู
03:48
The one on the left comes from an orange surface,
79
228230
3244
ส่วนอันที่ซ้ายมือมาจากพื้นผิวสีส้ม
03:51
under direct light, facing to the right,
80
231498
2183
อยู่ในที่สว่าง หันออกด้านขวา
03:53
viewed through sort of a bluish medium.
81
233705
1984
มองผ่านตัวกลางสีน้ำเงิน
03:55
Completely different meanings,
82
235713
2175
นัยยะต่างกันโดยสิ้นเชิง
03:57
giving rise to the exact same retinal information.
83
237912
3277
แต่ให้ข้อมูลแก่จอประสาทตาในแบบเดียวกัน
04:01
And yet it's only the retinal information that we get.
84
241213
3317
และเราก็รับรู้ได้เพียงแค่ข้อมูล จากจอประสาทตาเท่านั้น
04:05
So how on Earth do we even see?
85
245240
3282
แล้วเรามองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างไร?
04:08
So if you remember anything in this next 18 minutes,
86
248546
3207
ถ้าคุณจะได้อะไรติดไปจากการพูดของผมในวันนี้
04:11
remember this:
87
251777
1246
จำไว้อย่างหนึ่งว่า :
04:13
that the light that falls onto your eye,
88
253047
1942
แสงที่ตกกระทบตาของคุณ
04:15
sensory information, is meaningless,
89
255013
2423
ข้อมูลจากการมองเห็น นั้นไม่มีความหมายใดๆ
04:17
because it could mean literally anything.
90
257460
2118
เพราะมันสามารถหมายถึงอะไรก็ได้
04:20
And what's true for sensory information is true for information generally.
91
260158
3545
สิ่งที่เกิดกับข้อมูลจากประสาทสัมผัส ก็เป็นจริงสำหรับข้อมูลอื่นทั่วไป
04:23
There's no inherent meaning in information.
92
263727
2033
ข้อมูลโดยตัวมันเองไม่ได้มีความหมายอะไร
04:25
It's what we do with that information that matters.
93
265784
2413
แต่สิ่งที่สำคัญคือเราเอาข้อมูลนั้นไปทำอะไรต่างหาก
04:28
So, how do we see? Well, we see by learning to see.
94
268895
3723
แล้วเราเห็นสิ่งต่างๆ อย่างไร? เราเห็นโดยการเรียนรู้ที่จะเห็น
04:32
The brain evolved the mechanisms for finding patterns,
95
272642
3539
สมองเราได้พัฒนากลไกในการมองหารูปแบบต่างๆ
04:36
finding relationships in information,
96
276205
2040
มองหาความสัมพันธ์จากในข้อมูล
04:38
and associating those relationships with a behavioral meaning,
97
278269
4198
และนำความสัมพันธ์ที่พบนั้น มาจับคู่ให้ความหมายในเชิงพฤติกรรม
04:42
a significance, by interacting with the world.
98
282491
2865
หาความสำคัญของมัน และมีปฏิสัมพันธ์กับโลกรอบๆ ตัว
04:45
We're very aware of this
99
285380
1755
เราตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
04:47
in the form of more cognitive attributes, like language.
100
287159
2829
ในแบบของคุณลักษณะที่เกี่ยวกับ กระบวนการรับรู้ เช่นเดียวกับภาษา
04:50
I'm going to give you some letter strings,
101
290012
2033
ผมจะให้คุณดูตัวอักษร 2-3 แถว ให้คุณช่วยอ่านให้ผมหน่อย
04:52
and I want you to read them out for me, if you can.
102
292069
2493
ถ้าคุณทำได้
04:54
Audience: "Can you read this?"
103
294586
1665
ผู้ชม : "Can you read this?" (คุณอ่านนี่ได้ไหม?)
04:57
"You are not reading this."
104
297092
2044
"You are not reading this." (คุณไม่ได้กำลังอ่านมัน)
04:59
"What are you reading?"
105
299590
1446
"What are you reading?" (คุณกำลังอ่านอะไร?)
05:01
Beau Lotto: "What are you reading?" Half the letters are missing, right?
106
301060
3384
โบ ล็อตโต :"What are you reading?" ครึ่งหนึ่งของตัวอักษรหายไปใช่ไหม?
05:04
There's no a priori reason
107
304468
1309
มันไม่ได้มีเหตุผลว่า
05:05
why an "H" has to go between that "W" and "A."
108
305801
2492
ทำไม "H" ถึงต้องไปอยู่ ระหว่าง "W" และ "A"
05:08
But you put one there. Why?
109
308317
1555
แต่คุณก็ใส่มันไปตรงนั้น ทำไมน่ะเหรอ?
05:09
Because in the statistics of your past experience,
110
309896
2356
ก็เพราะว่าประสบการณ์ในอดีตของคุณ
05:12
it would have been useful to do so.
111
312276
1694
มันอาจมีประโยชน์ที่จะทำเช่นนั้น
05:13
So you do so again.
112
313994
1441
ดังนั้นคุณจึงทำมันอีก
05:15
And yet you don't put a letter after that first "T."
113
315459
2677
นอกจากนี้คุณยังไม่ใส่ตัวอักษรลงไป หลัง "T" ตัวแรก
05:18
Why? Because it wouldn't have been useful in the past.
114
318160
2864
ทำไมนะเหรอ? ก็เพราะว่ามันไม่มีประโยชน์ จากประสบการณ์ของคุณ
05:21
So you don't do it again.
115
321048
2088
ดังนั้นคุณจึงยังคงไม่ทำมัน
05:23
So, let me show you how quickly our brains can redefine normality,
116
323160
3869
ผมจะแสดงให้คุณดูว่าสมองเราสามารถ ปรับตัวไปสู่ค่าปกติค่าใหม่ได้เร็วแค่ไหน
05:27
even at the simplest thing the brain does, which is color.
117
327053
2730
แม้แต่ในเรื่องของสี ซึ่งเป็น เรื่องสุดธรรมดา
05:29
So if I could have the lights down up here.
118
329807
2634
ช่วยปิดไฟบนเวทีหน่อยครับ
05:32
I want you to first notice that those two desert scenes are physically the same.
119
332465
3799
ผมขอให้คุณสังเกตดู ภาพทะเลทรายทั้งสองว่าเหมือนกัน
05:36
One is simply the flipping of the other.
120
336288
2177
ซึ่งภาพหนึ่งเป็นภาพสะท้อนของอีกภาพ
05:40
Now I want you to look at that dot
121
340244
2310
ทีนี้ผมอยากให้คุณมองไปที่จุด
05:42
between the green and the red.
122
342578
2557
ระหว่างสีเขียวกับสีแดง
05:45
And I want you to stare at that dot. Don't look anywhere else.
123
345159
2977
จ้องไปที่จุดจุดนั้น อย่างมองไปที่อื่น
05:48
We're going to look at it for about 30 seconds,
124
348160
2206
นานประมาณ 30 วินาที
05:50
which is a bit of a killer in an 18-minute talk.
125
350390
2442
ซึ่งนานจริงๆ เพราะผมยิ่งมีเวลาพูดไม่ค่อยจะพออยู่
05:52
(Laughter)
126
352856
1293
(เสียงหัวเราะ)
05:54
But I really want you to learn.
127
354173
1594
แต่ผมอยากให้คุณได้เรียนรู้
05:55
And I'll tell you -- don't look anywhere else --
128
355791
2301
-- อย่าเพิ่งละสายตาจากจุดนะครับ --
05:58
I'll tell you what's happening in your head.
129
358116
2055
ผมจะบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้นในสมองคุณ
06:00
Your brain is learning,
130
360195
1267
สมองคุณกำลังเรียนรู้ว่า
06:01
and it's learning that the right side of its visual field
131
361486
2728
ลานสายตาด้านขวา
06:04
is under red illumination;
132
364238
1293
อยู่ใต้แหล่งกำเนิดแสงสีแดง
06:05
the left side of its visual field is under green illumination.
133
365555
2927
ลานสายตาด้านซ้ายอยู่ใต้แหล่งกำเนิด แสงสีเขียว
06:08
That's what it's learning. Okay?
134
368506
2886
นี่คือสิ่งที่สมองกำลังเรียนรู้
06:11
Now, when I tell you, I want you to look at the dot between the two desert scenes.
135
371416
4679
ทีนี้ผมขอให้คุณลองมองไปที่จุด ที่อยู่ระหว่างทะเลทรายทั้งสอง
06:16
So why don't you do that now?
136
376119
2015
เอาเลยครับ
06:18
(Laughter)
137
378158
3360
(เสียงหัวเราะ)
06:21
Can I have the lights up again?
138
381542
1903
ช่วยเปิดไฟบนเวทีหน่อยครับ
06:23
I take it from your response they don't look the same anymore, right?
139
383469
3466
ผมเดาจากปฏิกิริยาของพวกคุณว่า ภาพทะเลทรายดูไม่เหมือนกันอีกต่อไป ใช่ไหม?
06:26
(Applause)
140
386959
1177
(เสียงปรบมือ)
06:28
Why? Because your brain is seeing that same information
141
388160
2976
ทำไมล่ะ? ก็เพราะว่าสมองคุณมองเห็นว่า ชุดข้อมูลชุดเดียวกัน
06:31
as if the right one is still under red light,
142
391160
2687
ราวกับว่ารูปขวามือยังคงอยู่ใต้แสงสีแดง
06:33
and the left one is still under green light.
143
393871
2158
และรูปซ้ายมือยังอยู่ใต้แสงสีเขียว
06:36
That's your new normal.
144
396053
1365
นั่นเป็นค่าปกติอันใหม่ของคุณ
06:37
Okay? So, what does this mean for context?
145
397442
2006
นี่มันมีความหมายอย่างไร กับบริบทแวดล้อม?
06:39
It means I can take two identical squares,
146
399472
2334
มันมีความหมายว่า ผมสามารถ นำสี่เหลี่ยมที่เหมือนกัน 2 อัน
06:41
put them in light and dark surrounds,
147
401830
1820
นำมันไปวางบนพื้นหลังที่มีสีอ่อนหรือเข้ม
06:43
and the one on the dark surround looks lighter than on the light surround.
148
403674
3485
อันที่มีสีเข้มล้อมรอบจะดูมีโทนสีอ่อนกว่า อีกอันที่มีสีอ่อนล้อมรอบ
06:47
What's significant is not simply the light and dark surrounds that matter.
149
407183
3584
สิ่งสำคัญไม่เพียงแค่ว่า สีที่ล้อมรอบเป็นสีอ่อนหรือเข้ม
06:50
It's what those light and dark surrounds meant for your behavior in the past.
150
410791
3645
แต่รวมถึงว่าสีที่ล้อมรอบสีอ่อนหรือเข้ม มีความหมายกับคุณในอดีตอย่างไร
06:54
So I'll show you what I mean.
151
414460
1397
ผมจะแสดงให้ดูว่าผมหมายถึงอะไร
06:55
Here we have that exact same illusion.
152
415881
1983
เรายังคงใช้ภาพชุดเดิม
06:57
We have two identical tiles on the left,
153
417888
2126
ภาพซ้ายมือ ซึ่งมีแผ่นสีเหลี่ยม 2 อัน
07:00
one in a dark surround, one in a light surround.
154
420038
2286
อันนึงล้อมรอบด้วยสีเข้ม อีกอันล้อมรอบด้วยสีอ่อน
07:02
And the same thing over on the right.
155
422348
2079
ภาพขวามือก็เช่นเดียวกัน
07:04
Now, I'll reveal those two scenes,
156
424451
2851
ที่ผมจะทำต่อไปก็คือ เผยให้เห็นฉากหลังทั้งสองข้าง
07:07
but I'm not going to change anything within those boxes,
157
427326
2668
แต่ผมจะไม่ไปเปลี่ยนแปลงอะไร กับภาพที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม
07:10
except their meaning.
158
430018
1151
ยกเว้นความหมายของภาพ
07:11
And see what happens to your perception.
159
431193
2313
แล้วดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับการรับรู้ของคุณ
07:13
Notice that on the left
160
433530
1606
สังเกตว่าภาพด้านซ้ายมือ
07:15
the two tiles look nearly completely opposite:
161
435160
2765
สี่เหลี่ยมทั้งสองอันดูราวกับ มีสีที่แทบจะตรงข้ามกันเลย
07:17
one very white and one very dark, right?
162
437949
3091
อันหนึ่งขาวมาก อีกอันเกือบดำ
07:21
Whereas on the right, the two tiles look nearly the same.
163
441064
3275
ขณะที่ภาพด้านขวามือ สี่เหลี่ยมทั้งสองดูเกือบจะเหมือนกัน
07:24
And yet there is still one on a dark surround,
164
444363
2238
ถึงกระนั้น พวกมันยังคงถูกล้อมรอบด้วยสีเข้ม
07:26
and one on a light surround.
165
446625
1365
07:28
Why?
166
448014
1151
ทำไมล่ะ?
07:29
Because if the tile in that shadow were in fact in shadow,
167
449189
3947
ก็เพราะว่า ถ้าสี่เหลี่ยมนั้นอยู่ใต้เงา ถ้าเกิดต้องไปอยู่ใต้เงาจริงๆ
07:33
and reflecting the same amount of light to your eye
168
453160
2429
และสะท้อนแสงเข้าสู่ตาคุณในปริมาณที่เท่ากับ
07:35
as the one outside the shadow,
169
455613
1768
อันที่อยู่นอกเงา
07:37
it would have to be more reflective -- just the laws of physics.
170
457405
3397
มันควรต้องมีการสะท้อนแสงออกมามากกว่า --ตามกฎของฟิสิกส์
07:40
So you see it that way.
171
460826
1518
คุณจึงเห็นมันออกมาเป็นแบบนั้น
07:42
Whereas on the right, the information is consistent
172
462368
2658
ขณะที่ภาพขวามือนั้น ข้อมูลจะเป็นว่า
07:45
with those two tiles being under the same light.
173
465050
2683
สี่เหลี่ยมทั้งสองอันอยู่ภายใต้แสงไฟอันเดียวกัน
07:47
If they're under the same light reflecting the same amount of light to your eye,
174
467757
3833
ถ้ามันอยู่ใต้แสงแบบเดียวกัน มันก็ควรจะสะท้อนแสงเข้าสู่ตาในปริมาณเท่าๆ กัน
07:51
then they must be equally reflective.
175
471614
1785
ดังนั้นพวกมันต้องมีการสะท้อนแสงที่เท่าๆกัน
07:53
So you see it that way.
176
473423
1263
ดังนั้นคุณจึงเห็นพวกมันเกือบจะเหมือนกัน
07:54
Which means we can bring all this information together
177
474710
2526
ซึ่งหมายความว่าเราสามารถนำข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน
07:57
to create some incredibly strong illusions.
178
477260
2048
เพื่อสร้างภาพลวงตาที่น่าทึ่งได้
07:59
This is one I made a few years ago.
179
479332
1804
อันนี้เป็นงานที่ผมทำเมื่อสองสามปีก่อน
08:01
And you'll notice you see a dark brown tile at the top,
180
481160
3313
คุณจะเห็นช่องสีเหลี่ยมสีน้ำตาลที่อยู่ด้านบน
08:04
and a bright orange tile at the side.
181
484497
2479
และช่องสีเหลี่ยมสีส้มอ่อนที่อยู่ด้านข้าง
08:07
That is your perceptual reality.
182
487000
1730
นั้นเป็นความจริงในการรับรู้ของคุณ
08:08
The physical reality is that those two tiles are the same.
183
488754
2964
แต่ในทางกายภาพนั้น ทั้งสองอันมีสีที่เหมือนกัน
08:14
Here you see four gray tiles on your left,
184
494160
2976
คุณเห็นแผ่นสี่เหลี่ยมสีเทา 4 อันทางด้านซ้าย
08:17
seven gray tiles on the right.
185
497160
2512
7 อันทางด้านขวา
08:19
I'm not going to change those tiles at all,
186
499696
2057
ผมจะไม่ทำอะไรแผ่นสีเหลี่ยมพวกนั้น
08:21
but I'm going to reveal the rest of the scene.
187
501777
2167
แต่ผมจะเผยให้เห็นถึง ฉากรอบๆ แผ่นสี่เหลี่ยมเหล่านั้น
08:23
And see what happens to your perception.
188
503968
1958
ดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับการรับรู้ของคุณ
08:26
The four blue tiles on the left are gray.
189
506521
3509
แผ่นสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน 4 อันด้านซ้าย มีสีเทา
08:30
The seven yellow tiles on the right are also gray.
190
510054
3653
แผ่นสีเหลี่ยมสีเหลือง 7 อันด้านขวา ก็มีสีเทา
08:33
They are the same. Okay?
191
513731
1881
พวกมันดูเหมือนกัน เห็นไหม?
08:35
Don't believe me? Let's watch it again.
192
515636
2038
ไม่เชื่อผมเหรอ? ลองดูอีกทีก็ได้
08:39
What's true for color is also true for complex perceptions of motion.
193
519558
4254
สิ่งที่เป็นจริงสำหรับสีสันก็เป็นจริงสำหรับ การรับรู้ที่ซับซ้อนเช่นการเคลื่อนไหวเช่นกัน
08:43
So, here we have --
194
523836
2809
ทีนี้เรามี
08:46
let's turn this around -- a diamond.
195
526669
3264
วัตถุทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด
08:51
And what I'm going to do is, I'm going to hold it here,
196
531160
2620
ผมจะถือมันไว้อย่างนี้
08:53
and I'm going to spin it.
197
533804
1846
แล้วก็หมุนมัน
08:56
And for all of you, you'll see it probably spinning this direction.
198
536991
3144
ทุกคนจะเห็นว่ามันจะหมุนไปทิศทางนี้
09:00
Now I want you to keep looking at it.
199
540159
2612
ผมขอให้คุณจ้องมันไว้
09:02
Move your eyes around, blink, maybe close one eye.
200
542795
2500
กลอกตาไปมา กระพริบตา จะปิดตาข้างนึงก็ได้
09:05
And suddenly it will flip, and start spinning the opposite direction.
201
545319
3817
ทันใดนั้นมันจะพลิกกลับ เริ่มหมุนไปอีกด้าน
09:09
Yes? Raise your hand if you got that. Yes?
202
549160
3172
ใช่ไหม? ยกมือขึ้นถ้าคุณเห็นเช่นที่ว่า
09:12
Keep blinking.
203
552356
1207
กระพริบตาต่อไป
09:13
Every time you blink, it will switch.
204
553587
2585
ทุกครั้งที่กระพริบตามันจะเปลี่ยนทิศหมุน
09:16
So I can ask you, which direction is it rotating?
205
556196
2597
ผมถามคุณว่า ตอนนี้มันกำลังหมุนไปทิศไหน?
09:20
How do you know?
206
560317
1270
คุณรู้ได้อย่างไร?
09:22
Your brain doesn't know, because both are equally likely.
207
562300
3110
สมองคุณไม่รู้หรอก เพราะว่ามันเป็นไปได้เท่าๆ กัน
09:25
So depending on where it looks,
208
565434
1538
มันขึ้นอยู่กับว่าเรามองไปที่ไหน
09:26
it flips between the two possibilities.
209
566996
3329
มันพลิกกลับไปมาระหว่างความเป็นไปได้ทั้งสองด้าน
09:30
Are we the only ones that see illusions?
210
570349
1924
แล้วมีเพียงมนุษย์ที่เห็นภาพลวงตาใช่ไหม?
09:32
The answer to this question is no.
211
572297
1839
คำตอบคือ ไม่
09:34
Even the beautiful bumblebee,
212
574160
1719
แม้แต่ในผึ้งตัวน้อย
09:35
with its mere one million brain cells,
213
575903
2874
ที่มีเซลล์สมองเพียง 1 ล้านเซลล์
09:38
which is 250 times fewer cells than you have in one retina,
214
578801
3015
ซึ่งน้อยกว่าเซลล์จอประสาทตาถึง 250 เท่า
09:41
sees illusions, does the most complicated things
215
581840
2828
พวกมันก็เห็นภาพลวงตา ทำสิ่งซับซ้อนที่สุด
09:44
that even our most sophisticated computers can't do.
216
584692
2444
ที่แม้แต่คอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดก็ยังทำไม่ได้
09:47
So in my lab we work on bumblebees,
217
587501
1856
ที่ห้องทดลองผม ทำการศึกษาพวกผึ้ง
09:49
because we can completely control their experience,
218
589381
2489
เพราะว่าเราสามารถควบคุม ประสบการณ์ของพวกมันได้อย่างสมบูรณ์
09:51
and see how it alters the architecture of their brain.
219
591894
2533
แล้วดูว่ามันทำให้สมองของพวกมันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
09:54
We do this in what we call the Bee Matrix.
220
594451
2101
เราทำการทดลองนี้ในสิ่งที่เราเรียกว่า "Bee Matrix"
09:56
Here you have the hive.
221
596576
1274
ซึ่งเรามีรังผึ้ง
09:57
You can see the queen bee, the large bee in the middle.
222
597874
2595
คุณจะเห็นนางพญาผึ้ง ผึ้งตัวใหญ่ๆ ที่อยู่ตรงกลาง
10:00
Those are her daughters, the eggs.
223
600493
1626
นั่นเป็นลูกๆ ของเธอ และไข่
10:02
They go back and forth between this hive and the arena, via this tube.
224
602143
3615
พวกมันไปมาระหว่างรังผึ้ง และสนามทดลองผ่านทางท่อแบบนี้
10:09
You'll see one of the bees come out here.
225
609002
2587
คุณจะเห็นผึ้งตัวหนึ่งออกมาจากท่อ
10:11
You see how she has a little number on her?
226
611613
2094
เห็นไหมว่ามันมีเบอร์ติดบนตัวด้วย?
10:14
There's another one coming out, she also has a number on her.
227
614160
2936
ผึ้งอีกตัวก็กำลังออกมา มันก็มีเบอร์ติดอยู่เช่นกัน
10:17
Now, they're not born that way, right?
228
617585
2271
มันไม่ได้มีมาแต่เกิดใช่ไหม? เบอร์พวกนั้น
10:19
We pull them out, put them in the fridge, and they fall asleep.
229
619880
3015
เราเอาผึ้งออกมา ใส่ในตู้เย็น จนมันหลับ
10:22
Then you can superglue little numbers on them.
230
622919
2293
แล้วเราจะสามารถติดเบอร์ลงบนตัวพวกมันได้
10:25
(Laughter)
231
625236
1183
(เสียงหัวเราะ)
10:26
And now, in this experiment they get a reward if they go to the blue flowers.
232
626443
3693
ในการทดลองนี้ผึ้งจะได้รางวัล ถ้าพวกมันไปที่ดอกไม้สีฟ้า
10:30
They land on the flower,
233
630160
1193
เมื่อพวกมันมาถึงดอกไม้นั้น ก็จะยื่นลิ้นเข้าไปในนั้น
10:31
stick their tongue in there, called a proboscis, and drink sugar water.
234
631377
3509
โดยอวัยวะคล้ายหลอดดูด เพื่อดูดน้ำหวาน
10:34
She's drinking a glass of water that's about that big to you and I,
235
634910
3158
ผึ้งตัวนี้กำลังดูดน้ำหวานที่มีขนาดใหญ่เกือบเท่าตัวมัน
10:38
will do that about three times, then fly.
236
638092
3634
มันจะทำทั้งหมดสามคร้้งแล้วบินกลับ
10:44
And sometimes they learn not to go to the blue,
237
644066
2278
บางครั้งพวกมันก็เรียนรู้ว่าไม่ควรไปที่ดอกสีฟ้า
10:46
but to go where the other bees go.
238
646368
1768
แต่ให้ไปยังดอกไม้ที่ผึ้งตัวอื่นๆไป
10:48
So they copy each other.
239
648160
1214
พวกมันทำตามกัน
10:49
They can count to five. They can recognize faces.
240
649398
2286
พวกมันสามารถนับเลขได้ถึง 5 มันสามารถจดจำหน้ากันได้
10:51
And here she comes down the ladder.
241
651708
1961
ผึ้งตัวนี้กำลังลงมาตามทาง
10:53
And she'll come into the hive, find an empty honey pot,
242
653693
2581
มันจะกลับไปที่รัง หาโพรงที่ยังว่างอยู่
10:56
and throw up, and that's honey.
243
656298
2057
แล้วก็อาเจียนออกมา กลายเป็นน้ำผึ้ง
10:58
(Laughter)
244
658379
1151
(เสียงหัวเราะ)
10:59
Now remember, she's supposed to be going to the blue flowers,
245
659554
4810
จำได้ไหมครับว่า มันควรจะไปที่ดอกไม้สีฟ้า
11:04
but what are these bees doing in the upper right corner?
246
664388
2627
แต่ผึ้งพวกนี้กำลังทำอะไรอยู่ตรงมุมขวาบน?
11:07
It looks like they're going to green flowers.
247
667039
2489
ดูเหมือนพวกมันจะไปที่ดอกไม้สีเขียว
11:09
Now, are they getting it wrong?
248
669552
2806
พวกมันเข้าใจอะไรผิดอยู่หรือเปล่า?
11:12
And the answer to the question is no. Those are actually blue flowers.
249
672382
3492
คำตอบคือ ไม่ใช่ ดอกไม้พวกนั้นจริงๆ เป็นสีฟ้า
11:15
But those are blue flowers under green light.
250
675898
3563
แต่เป็นดอกไม้สีฟ้าภายใต้แสงสีเขียว
11:19
So they're using the relationships between the colors to solve the puzzle,
251
679485
3732
พวกมันกำลังใช้ความสัมพันธ์ของสีต่างๆ ในการจัดการปัญหา
11:23
which is exactly what we do.
252
683241
2071
ซึ่งก็เหมือนๆ กับที่พวกเราทำ
11:25
So, illusions are often used,
253
685336
2331
ภาพลวงตาถูกนำมาใช้บ่อยๆ
11:27
especially in art, in the words of a more contemporary artist,
254
687691
3611
โดยเฉพาะในงานศิลป์ จากคำกล่าวของศิลปินร่วมสมัยคนหนึ่ง
11:31
"to demonstrate the fragility of our senses."
255
691326
2460
"เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของ ประสาทสัมผัสของเรา"
11:33
Okay, this is complete rubbish.
256
693810
2324
โอเค นี่มันเป็นเรื่องไร้สาระ
11:36
The senses aren't fragile. And if they were, we wouldn't be here.
257
696158
3950
ประสาทสัมผัสไม่ได้เปราะบาง เพราะถ้าเป็นจริง พวกเราคงไม่ได้มาอยู่ที่นี่เป็นแน่
11:40
Instead, color tells us something completely different,
258
700132
2899
ในทางตรงกันข้าม สีบอกเราถึงบางอย่าง ที่ต่างออกไปเป็นคนละเรื่อง
11:43
that the brain didn't actually evolve to see the world the way it is.
259
703055
3368
เรื่องที่ว่าสมองไม่ได้พัฒนามา เพื่อมองโลกอย่างที่มันเป็นจริงๆ
11:46
We can't.
260
706447
1211
เราทำเช่นนั้นไม่ได้
11:47
Instead, the brain evolved to see the world
261
707682
2412
แต่สมองพัฒนามาเพื่อที่จะเห็นโลก
11:50
the way it was useful to see in the past.
262
710118
3018
ในแบบที่มันเคยมีประโยชน์กับเรา จากประสบการณ์ในอดีต
11:53
And how we see is by continually redefining normality.
263
713160
4171
การมองเห็นของเราเกิดจากความต่อเนื่อง ในการให้นิยามใหม่ๆ ของสภาวะปกติ
11:59
So, how can we take this incredible capacity of plasticity of the brain
264
719650
6872
แล้วเราจะนำความสามารถ ในการแปรเปลี่ยนไปได้อย่างมากมายของสมอง
12:06
and get people to experience their world differently?
265
726546
2524
แล้วทำให้ผู้คนรับรู้โลกอย่างแตกต่างกันได้อย่างไร?
12:09
Well, one of the ways we do it in my lab and studio
266
729094
2697
หนึ่งในหลายๆ วิธีที่เราทำในห้องทดลอง
12:11
is we translate the light into sound,
267
731815
3238
ก็คือ เราแปลงแสงให้กลายเป็นเสียง
12:15
and we enable people to hear their visual world.
268
735077
3074
ทำให้ผู้คนสามารถได้ยินเสียง จากโลกของการมองเห็น
12:19
And they can navigate the world using their ears.
269
739160
2658
พวกเขาสามารถสำรวจโลกโดยการใช้หูของพวกเขา
12:22
Here's David on the right, and he's holding a camera.
270
742425
3356
นี่คือเดวิด เขากำลังถือกล้องตัวหนึ่งอยู่
12:25
On the left is what his camera sees.
271
745805
1730
ทางซ้ายคือสิ่งที่กล้องของเขาเห็น
12:27
And you'll see there's a faint line going across that image.
272
747559
3008
จะเห็นว่ามันมีเส้นจางๆเส้นหนึ่งเคลื่อนผ่านรูปภาพนั้นไป
12:30
That line is broken up into 32 squares.
273
750591
2409
เส้นๆนั้นถูกแบ่งออกเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส 32 อัน
12:33
In each square, we calculate the average color.
274
753024
2327
ในแต่ละอันเราได้คำนวนค่าเฉลี่ยของสี
12:35
And then we just simply translate that into sound.
275
755375
2381
แล้วก็เปลี่ยนค่านั้นให้กลายเป็นเสียง
12:37
And now he's going to turn around,
276
757780
3233
ทีนี้ เขากำลังจะกลับหลังหัน
12:41
close his eyes,
277
761037
2860
โดยปิดตาอยู่
12:43
and find a plate on the ground with his eyes closed.
278
763921
3262
หาจานบนพื้นโดยที่ยังปิดตาอยู่
12:47
(Continuous sound)
279
767207
1224
(เสียงดังต่อเนื่อง)
12:50
(Sound changes momentarily)
280
770164
1328
(เสียงเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง)
12:52
(Sound changes momentarily)
281
772302
1350
(เสียงเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง)
12:55
(Sound changes momentarily)
282
775143
2230
(เสียงเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง)
12:59
(Sound changes momentarily)
283
779580
1837
(เสียงเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง)
13:03
(Sound changes momentarily)
284
783286
1837
(เสียงเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง)
13:05
Beau Lotto: He finds it. Amazing, right?
285
785773
1941
เขาเจอมัน น่าทึ่งใช่ไหม?
13:07
So not only can we create a prosthetic for the visually impaired,
286
787738
3063
ไม่เพียงแค่เราจะสามารถสร้างอวัยวะเทียม สำหรับคนที่พิการทางการมองเห็น
13:10
but we can also investigate
287
790825
2483
แต่เรายังสามารถศึกษา
13:13
how people literally make sense of the world.
288
793332
2696
ว่าผู้คนทำความเข้าใจโลก กันอย่างไรด้วย?
13:16
But we can also do something else.
289
796052
1635
เรายังสามารถทำสิ่งอื่นได้อีก
13:17
We can also make music with color.
290
797711
3088
เราสามารถสร้างดนตรีขึ้นจากสีได้
13:20
So, working with kids,
291
800823
1676
ด้วยความช่วยเหลือของเด็กๆ
13:22
they created images,
292
802523
1793
พวกเขาวาดภาพขึ้นมา
13:24
thinking about what might the images you see
293
804340
2116
ลองคิดดูว่าภาพที่คุณเห็น
13:26
sound like if we could listen to them.
294
806480
1824
จะมีเสียงเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถฟังมันได้
13:28
And then we translated these images.
295
808328
1808
เราทำการแปลภาพวาดเหล่านั้น
13:30
And this is one of those images.
296
810160
1976
และนี่ก็เป็นหนึ่งในภาพเหล่านั้น
13:32
And this is a six-year-old child composing a piece of music
297
812160
2976
นี่เป็นเด็กหกขวบที่แต่งเพลงเพลงหนึ่ง
13:35
for a 32-piece orchestra.
298
815160
2976
สำหรับวงออร์เคสตรา 32 ชิ้น
13:38
And this is what it sounds like.
299
818160
2001
นี่เป็นเสียงของมัน
13:40
(Electronic representation of orchestral music)
300
820185
6678
(เสียงเพลงอิเล็กทรอนิกส์ เลียนแบบวงออร์เคสตรา)
14:06
So, a six-year-old child. Okay?
301
846749
2267
ผลงานจากเด็กหกขวบ
14:09
Now, what does all this mean?
302
849040
2117
ทั้งหมดนี้หมายถึงอะไร?
14:12
What this suggests is that no one is an outside observer of nature, okay?
303
852753
4340
มันบอกเราว่า มันไม่มีผู้สังเกตการณ์ ที่อยู่ภายนอกระบบธรรมชาติ
14:17
We're not defined by our central properties,
304
857117
2065
พวกเราไม่ได้ถูกนิยามโดยคุณสมบัติภายในของเรา
14:19
by the bits that make us up.
305
859206
1664
จากเซลล์แต่ละเซลล์ที่ประกอบกันเป็นตัวเรา
14:20
We're defined by our environment and our interaction with that environment,
306
860894
3674
แต่เราถูกนิยามโดยสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา และการปฏิสัมพันธ์ของเรากับมัน
14:24
by our ecology.
307
864592
1652
ในระบบนิเวศของเรา
14:26
And that ecology is necessarily relative, historical and empirical.
308
866268
6032
ทั้งในเชิงความสัมพันธ์ ในเชิงประวัติศาสตร์ และในเชิงประสบการณ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
14:34
So, what I'd like to finish with is this over here.
309
874205
4261
ผมอยากจะปิดท้ายการพูดด้วยสิ่งนี้
14:38
Because what I've been trying to do is really celebrate uncertainty.
310
878490
3261
เพราะว่าสิ่งที่ผมได้พยายามทำ ก็คือ การยกย่องความไม่แน่นอน
14:41
Because I think only through uncertainty is there potential for understanding.
311
881775
3761
ผมคิดว่า โดยอาศัยความไม่แน่นอนเท่านั้น ที่มีศักยภาพในการทำความเข้าใจ
14:45
So, if some of you are still feeling a bit too certain,
312
885560
2868
หากบางคนยังคงรู้สึกถึงความเที่ยงแท้แน่นอนอยู่
14:48
I'd like to do this one.
313
888452
1542
ผมอยากจะแสดงสิ่งนี้ให้ดู
14:50
So, if we have the lights down.
314
890018
2414
ช่วยปิดไฟบนเวทีด้วยครับ
14:52
And what we have here --
315
892456
4882
บนเวทีนี้เรามี
14:58
Can everyone see 25 purple surfaces on your left,
316
898546
4770
ทุกคนเห็นช่องสีม่วง 25 ช่อง ทางด้านซ้าย
15:03
and 25, call it yellowish, surfaces on your right?
317
903340
4192
และช่องสีเหลือง 25 ช่อง ทางด้านขวา ใช่ไหม?
15:07
So now, what I want to do,
318
907556
1314
สิ่งที่ผมจะทำ คือ
15:08
I'm going to put the middle nine surfaces here
319
908894
3017
ผมจะปิดช่องตรงกลาง 9 ช่องนี้ด้วย
15:11
under yellow illumination,
320
911935
1627
แสงสีเหลือง
15:13
by simply putting a filter behind them.
321
913586
2006
โดยใช้แผ่นกรองแสงวางที่ด้านหลัง
15:18
Now you can see that changes the light that's coming through there, right?
322
918054
3971
ทีนี้คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของแสง ที่ส่องออกมาตรงนั้น
15:22
Because now the light is going through a yellowish filter
323
922049
3081
เพราะตอนนี้แสงส่องผ่านแผ่นกรองแสงสีเหลือง
15:25
and then a purplish filter.
324
925154
1547
และผ่านแผ่นกรองแสงสีม่วง
15:26
I'm going to do the opposite on the left here.
325
926725
4311
ผมจะทำสิ่งตรงกันข้ามที่กระดานด้านซ้าย
15:31
I'm going to put the middle nine under a purplish light.
326
931060
5667
ผมจะใส่แผ่นกรองแสงสีม่วงที่ 9 ช่องตรงกลาง
15:38
Now, some of you will have noticed that the consequence
327
938160
4537
ทีนี้บางคนอาจจะเห็นแล้วว่า
15:42
is that the light coming through those middle nine on the right,
328
942721
3063
แสงที่ผ่านช่องตรงกลาง 9 ช่อง
15:45
or your left, is exactly the same as the light
329
945808
2808
ทางซ้ายมือ นั้นเหมือนกันกับแสงที่ผ่าน
15:48
coming through the middle nine on your right.
330
948640
2692
ช่องตรงกลาง 9 ช่องทางขวามือ
15:51
Agreed? Yes?
331
951356
2585
เห็นตรงกันนะครับ
15:53
Okay. So they are physically the same.
332
953965
2549
พวกมันเหมือนกันในเชิงกายภาพ
15:56
Let's pull the covers off.
333
956538
2638
ทีนี้ลองดึงเอาฉากกั้นด้านหน้าออก
16:02
Now remember --
334
962160
1341
จำไว้ว่า
16:05
you know that the middle nine are exactly the same.
335
965864
3719
คุณรู้ว่าช่องตรงกลาง 9 ช่องนั้นเหมือนกัน
16:09
Do they look the same?
336
969607
1219
ตอนนี้มันยังดูเหมือนกันอยู่ไหมครับ? ไม่เหมือนแล้ว
16:12
No.
337
972462
1155
คำถามคือ "นี่เป็นภาพลวงตาหรือไม่?"
16:13
The question is, "Is that an illusion?"
338
973641
1955
ผมจะทิ้งไว้ให้เก็บไปคิดนะครับ
16:15
And I'll leave you with that.
339
975620
1407
ขอบคุณมากครับ
16:17
So, thank you very much.
340
977051
1205
(เสียงปรบมือ)
16:18
(Laughter)
341
978280
1165
16:19
(Applause)
342
979469
2691
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7