How to fix a broken heart | Guy Winch | TED

Translator: Aj Muu Reviewer: Ashiraya Phobut

At some point in our lives,

ที่จุดหนึ่งในชีวิตของเรา

almost every one of us will have our heart broken.

พวกเราแทบจะทุกคนต้องเคยอกหัก

My patient Kathy planned her wedding when she was in middle school.

คนไข้ของผม ชื่อแคธี วางแผนงานแต่งงานของเธอตอนอยู่มัธยมต้น

She would meet her future husband

เธอวางแผนว่าจะได้เจอคนที่จะมาเป็นสามี

by age 27,

เมื่ออายุ 27

get engaged a year later

อีกหนึ่งปีต่อมาก็จะหมั้นกัน

and get married a year after that.

แล้วก็แต่งงานกันอีกหนึ่งปีหลังจากนั้น

But when Kathy turned 27, she didn't find a husband.

แต่พอแคธีอายุ 27 เธอไม่ได้เจอคนที่จะมาเป็นสามี

She found a lump in her breast.

แต่เจอก้อนเนื้อในเต้านม

She went through many months of harsh chemotherapy

เธอต้องรับการใช้เคมีบำบัด ที่มีผลข้างเคียงรุนแรงอยู่หลายเดือน

and painful surgeries,

และเข้ารับการผ่าตัดเจ็บตัวหลายครั้ง

and then just as she was ready to jump back into the dating world,

พอเธอพร้อมที่จะกระโดดเข้าไป ในวงการหาคู่นัดคู่หมายอีกครั้ง

she found a lump in her other breast

เธอก็เจอก้อนเนื้อในเต้านมอีกข้าง

and had to do it all over again.

และต้องผ่านกระบวนการรักษาอีกรอบหนึ่ง

Kathy recovered, though,

ถึงยังไง แคธีก็หายป่วย

and she was eager to resume her search for a husband

และเธอก็กระตือรือร้นที่จะหาสามีต่อไป

as soon as her eyebrows grew back in.

ทันทีที่ขนคิ้วงอกขึ้นใหม่

When you're going on first dates in New York City,

เวลาคุณไปออกนัดแรกในนิวยอร์คซิตี้

you need to be able to express a wide range of emotions.

คุณจำเป็นต้องใช้คิ้วเพื่อ แสดงอารมณ์หลากหลายน่ะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Soon afterwards, she met Rich and fell in love.

ไม่นานต่อมา เธอได้พบกับริชและตกหลุมรัก

The relationship was everything she hoped it would be.

ความสัมพันธ์นั้นเป็นไปอย่าง ที่เธอหวังไว้ทุกอย่าง

Six months later,

หกเดือนต่อมา

after a lovely weekend in New England,

หลังจากสุดสัปดาห์ที่น่ารักในนิวอิงแลนด์

Rich made reservations at their favorite romantic restaurant.

ริชก็จองโต๊ะอาหารที่ร้านโปรดแสนโรแมนติก

Kathy knew he was going to propose,

แคธีรู้เลยว่าเขาต้องขอเธอแต่งงาน

and she could barely contain her excitement.

เธอแทบจะสะกดกลั้นความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่

But Rich did not propose to Kathy that night.

แต่คืนนั้น ริชไม่ได้ขอเธอแต่งงาน

He broke up with her.

เขาบอกเลิกกับเธอ

As deeply as he cared for Kathy -- and he did --

แม้ว่าเขาจะแคร์เธอมากแค่ไหน เขาแคร์เธอจริงๆ

he simply wasn't in love.

เขาเพียงแค่ไม่ได้รัก

Kathy was shattered.

แคธีรู้สึกเหมือนหัวใจแตกเป็นเสี่ยงๆ

Her heart was truly broken, and she now faced yet another recovery.

หัวใจของเธอแตกสลายโดยแท้ ทีนี้ เธอก็ต้องรักษาตัวอีกครั้ง

But five months after the breakup,

แต่ห้าเดือนผ่านไปหลังจากที่เลิกกัน

Kathy still couldn't stop thinking about Rich.

แคธีก็ยังหยุดคิดถึงริชไม่ได้

Her heart was still very much broken.

หัวใจของเธอยังแหลกสลายอยู่

The question is:

คำถามคือ

Why?

ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

Why was this incredibly strong and determined woman

ทำไม ผู้หญิงที่เข้มแข็ง มุ่งมั่นเหลือเชื่ออย่างเธอ

unable to marshal the same emotional resources

ไม่สามารถที่จะใช้ ความเข้มแข็งมุ่งมั่นแบบเดียวกับ

that got her through four years of cancer treatments?

ที่ช่วยให้เธอผ่านพ้นการรักษาตัว จากโรคมะเร็งอยู่สี่ปีมาได้

Why do so many of us flounder

ทำไมมันถึงลำบากนักสำหรับพวกเราหลายคน

when we're trying to recover from heartbreak?

ที่จะฟื้นคืนจากอาการหัวใจสลายได้

Why do the same coping mechanisms

ทำไมกลไกของการจัดการแบบเดียวกัน

that get us through all kinds of life challenges

ที่ช่วยให้เราผ่านปัญหาสารพัดในชีวิตมาได้

fail us so miserably when our heart gets broken?

ถึงช่วยอะไรเราไม่ได้เลยเมื่อเราอกหัก

In over 20 years of private practice,

ในระยะยี่สิบปีที่ผมรักษาคนไข้มา

I have seen people of every age and background

ผมได้พบกับผู้คนทุกวัย จากภูมิหลังทุกแบบ

face every manner of heartbreak,

ที่เจอกับอาการหัวใจสลายทุกรูปแบบ

and what I've learned is this:

และผมได้เรียนรู้มาว่าอย่างนี้

when your heart is broken,

เวลาคุณอกหักรักสลาย

the same instincts you ordinarily rely on

สัญชาตญาณแบบเดียวกันที่คุณใช้อยู่เป็นปกติ

will time and again lead you down the wrong path.

จะพาคุณไปตามเส้นทาง ที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก

You simply cannot trust what your mind is telling you.

คุณไปเชื่อสิ่งที่ใจบอกคุณไม่ได้หรอก

For example, we know from studies of heartbroken people

ตัวอย่างเช่น เรารู้จากงานวิจัยเรื่องคนอกหักว่า

that having a clear understanding of why the relationship ended

ความเข้าใจชัดเจนว่าทำไมความสัมพันธ์ถึงจบลง

is really important for our ability to move on.

สำคัญจริงๆ ที่จะให้เราสามารถก้าวต่อไปได้

Yet time and again,

แต่กระนั้น ครั้งแล้วครั้งเล่า

when we are offered a simple and honest explanation

เวลาที่เราได้รับคำอธิบายที่ง่ายๆ และจริงใจ

like the one Rich offered Kathy,

อย่างที่ริชบอกกับแคธี

we reject it.

เราก็ปฏิเสธมัน

Heartbreak creates such dramatic emotional pain,

อาการอกหักสร้างความเจ็บปวดแก่จิตใจอย่างมาก

our mind tells us the cause must be equally dramatic.

ใจของเราบอกเราว่า สาเหตุก็ต้องสาหัสพอๆ กัน

And that gut instinct is so powerful,

แล้วความรู้สึกลึกๆ ในใจนี้ ก็มีพลังเหลือขนาด

it can make even the most reasonable and measured of us

จนกระทั่งพวกเราบางคนที่ว่า เป็นคนมีเหตุผล และรู้จักไตร่ตรอง

come up with mysteries and conspiracy theories

ยังสามารถสร้างเรื่องลึกลับ กับทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ ขึ้นมาได้

where none exist.

โดยที่ไม่มีอะไรจริงเลย

Kathy became convinced something must have happened

แคธีเกิดปักใจเชื่อว่า จะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ

during her romantic getaway with Rich

ระหว่างที่เธอไปพักผ่อนอย่างโรแมนติกกับริช

that soured him on the relationship,

ที่ทำให้เขาหมองหมางกับความสัมพันธ์

and she became obsessed with figuring out what that was.

แล้วเธอก็หมกมุ่นครุ่นคิดว่ามันคืออะไร

And so she spent countless hours

เธอใช้เวลาหลายชั่วโมงนับไม่ถ้วน

going through every minute of that weekend in her mind,

ทบทวนถึงทุกนาทีของสุดสัปดาห์นั้นในใจ

searching her memory for clues that were not there.

ค้นหาในความทรงจำถึง เรื่องที่น่าจะเป็นต้นเหตุซึ่งไม่มีอยู่

Kathy's mind tricked her into initiating this wild goose chase.

ใจของแคธีหลอกล่อ ให้เธอวุ่นวายค้นหาสิ่งที่ไม่มีอยู่

But what compelled her to commit to it for so many months?

แต่อะไรกันที่บังคับให้เธอ อยู่กับความคิดนั้นตั้งหลายเดือน

Heartbreak is far more insidious than we realize.

การอกหักนี้ร้ายกาจกว่า ที่เราตระหนักกันมากนัก

There is a reason we keep going down one rabbit hole after another,

มีเหตุผลอย่างหนึ่งว่า ทำไมเราถึงอยู่ในภาวะอย่างนั้นอยู่เรื่อย

even when we know it's going to make us feel worse.

แม้กระทั่งเวลาที่เรารู้ว่า มันจะทำให้เรารู้สึกแย่ลง

Brain studies have shown

การศึกษาเรื่องสมองแสดงว่า

that the withdrawal of romantic love

อาการขาดความรักโรแมนติก

activates the same mechanisms in our brain that get activated

กระตุ้นกลไกเดียวกันในสมองที่ถูกกระตุ้น

when addicts are withdrawing from substances like cocaine or opioids.

เวลาที่คนติดยากำลังถอนตัวจากสารเสพติด และขาดยาอย่างโคเคนและกัญชา

Kathy was going through withdrawal.

แคธีกำลังอยู่ในภาวะขาดยา

And since she could not have the heroin of actually being with Rich,

แต่เนื่องจากเธอหาเฮโรอีน ซึ่งคือการอยู่กับริชจริงๆ ไม่ได้

her unconscious mind chose the methadone of her memories with him.

จิตใต้สำนึกของเธอจึงใช้เมธาโดน ซึ่งคือความทรงจำที่เธอมีกับเขา

Her instincts told her she was trying to solve a mystery,

สัญชาตญาณของเธอบอกเธอว่า เธอกำลังไขปัญหาเรื่องลึกลับ

but what she was actually doing

แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่

was getting her fix.

คือ การให้สิ่งที่ตัวเองจำเป็นต้องได้

This is what makes heartbreak so difficult to heal.

นี่คือสิ่งที่ทำให้การรักษา อาการอกหักของเธอเป็นไปได้ยาก

Addicts know they're addicted.

คนติดยารู้ว่าตัวเองเสพติด

They know when they're shooting up.

และรู้ตัวเวลาที่ใช้ยา

But heartbroken people do not.

แต่คนที่หัวใจสลายนั้นไม่รู้ตัว

But you do now.

แต่ตอนนี้ คุณรู้แล้ว

And if your heart is broken, you cannot ignore that.

ถ้าคุณหัวใจสลาย คุณจะเมินเฉยอยู่ไม่ได้

You have to recognize that, as compelling as the urge is,

คุณจะต้องรับรู้ว่า ไม่ว่าจะรู้สึกอยากแค่ไหน

with every trip down memory lane, every text you send,

ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องที่อยู่ในความทรงจำ ทุกข้อความที่คุณส่งไป

every second you spend stalking your ex on social media,

ทุกวินาทีที่คุณลอบติดตามอดีตคนรักของคุณ ตามโซเชียลมีเดีย

you are just feeding your addiction,

คุณเพียงแต่กำลังป้อนสิ่งที่คุณเสพติด

deepening your emotional pain

ทำให้รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวลึกลงไปอีก

and complicating your recovery.

และทำให้การฟื้นฟูใจยุ่งยากขึ้น

Getting over heartbreak is not a journey.

การฟื้นคืนจากอาการอกหัก ไม่ใช่การเดินทาง

It's a fight, and your reason is your strongest weapon.

หากเป็นการต่อสู้ และเหตุผลคืออาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณ

There is no breakup explanation that's going to feel satisfying.

ไม่มีคำอธิบายถึงการบอกเลิกใดๆ จะน่าฟังน่าพอใจ

No rationale can take away the pain you feel.

ไม่มีหลักเหตุผลใดๆ ที่จะขจัดความรู้สึกเจ็บปวดของคุณไปได้

So don't search for one, don't wait for one,

เพราะฉะนั้น อย่าไปพยายามหาคำอธิบาย อย่าไปรอมัน

just accept the one you were offered or make up one yourself

แค่ยอมรับคำอธิบายที่คุณได้รับ หรือไม่ก็แต่งขึ้นมาเองสักเรื่อง

and then put the question to rest,

แล้วก็หยุดตั้งคำถามเสียที

because you need that closure to resist the addiction.

เพราะคุณจำเป็นต้องยอมรับการสิ้นสุดนั้น เพื่อต่อต้านการเสพติด

And you need something else as well:

และคุณต้องการอะไรอย่างอื่นด้วย

you have to be willing to let go,

นั่นคือ คุณต้องเต็มใจที่จะปล่อยวาง

to accept that it's over.

ที่จะยอมรับว่ามันจบลงแล้ว

Otherwise, your mind will feed on your hope

ไม่อย่างนั้น ใจของคุณจะใช้ความหวังหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ

and set you back.

และทำให้การตัดใจช้าออกไปอีก

Hope can be incredibly destructive when your heart is broken.

ความหวังบ่อนทำลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อหัวใจสลาย

Heartbreak is a master manipulator.

หัวใจที่สลายเป็นนักบงการชั้นยอด

The ease with which it gets our mind to do the absolute opposite

มันสั่งให้เราทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม โดยสิ้นเชิงได้อย่างง่ายดาย

of what we need in order to recover

ตรงข้ามกับสิ่งที่เราต้องทำเพื่อฟื้นฟูใจ

is remarkable.

ง่ายอย่างน่าทึ่ง

One of the most common tendencies we have when our heart is broken

สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นมากที่สุดอย่างหนึ่ง เวลาที่เราหัวใจสลาย

is to idealize the person who broke it.

คือการเห็นว่าคนที่หักอกเรานั้นดีเลิศ

We spend hours remembering their smile,

เราใช้เวลาหลายๆ ชั่วโมง นึกถึงรอยยิ้มของพวกเขา

how great they made us feel,

นึกถึงว่ามันทำให้เรารู้สึกดีขนาดไหน

that time we hiked up the mountain and made love under the stars.

นึกถึงเวลาที่เราไต่ขึ้นไปบนภูเขาด้วยกัน และรักกันใต้แสงดาว

All that does is make our loss feel more painful.

แต่ทั้งหมดนั้นก็รังแต่จะทำให้ การสูญเสียของเรายิ่งเจ็บปวดมากขึ้น

We know that.

เรารู้หมดแหละ

Yet we still allow our mind to cycle through one greatest hit after another,

แต่เราก็ยังปล่อยใจให้วนเวียน คิดถึงเรื่องที่เจ็บปวด

like we were being held hostage by our own passive-aggressive Spotify playlist.

ราวกับเป็นเชลยของเพลย์ลิสท์ ที่เล่นซ้ำไปมาแบบที่เราต้องทนฟัง

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Heartbreak will make those thoughts pop into your mind.

การอกหักทำให้การคิดถึง เรื่องเหล่านั้นเกิดขึ้นในใจ

And so to avoid idealizing, you have to balance them out

เพื่อหลีกเลี่ยงคิดว่าเขาคนนั้นดีเลิศไปหมด คุณจะต้องสร้างสมดุล

by remembering their frown, not just their smile,

โดยนึกถึงเวลาที่เขาหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วย อย่าคิดถึงแต่รอยยิ้ม

how bad they made you feel,

นึกถึงว่า มันทำให้คุณรู้สึกแย่แค่ไหน

the fact that after the lovemaking, you got lost coming down the mountain,

และที่ว่า หลังจากรักกันใต้แสงดาวแล้ว คุณหลงทางตอนไต่เขาลงมา

argued like crazy and didn't speak for two days.

ทะเลาะกันแทบคลั่ง และไม่พูดกันไปสองวัน

What I tell my patients is to compile an exhaustive list

ผมจะบอกให้คนไข้ของผมทำรายการโดยละเอียด

of all the ways the person was wrong for you,

ถึงทุกอย่างที่ว่าทำไมเขาไม่เหมาะกับเรา

all the bad qualities, all the pet peeves,

คุณสมบัติที่แย่ๆ ทั้งหมด และเรื่องที่กวนประสาทคุณ

and then keep it on your phone.

แล้วบันทึกรายการนั้นไว้ในโทรศัพท์

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And once you have your list,

พอคุณมีรายการนี้แล้ว

you have to use it.

คุณต้องใช้มัน

When I hear even a hint of idealizing

พอผมได้ยินคนไข้ตั้งท่า จะนึกถึงความเลิศเลอของใคร

or the faintest whiff of nostalgia in a session,

หรือทำท่าจะแว่บไปหวนหาอดีตเวลาที่มาหาผม

I go, "Phone, please."

ผมก็จะบอกว่า "ดูในโทรศัพท์ครับ"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Your mind will try to tell you they were perfect.

ใจของคุณจะพยายามบอกว่า ใครคนนั้นเลิศเลอสมบูรณ์แบบ

But they were not, and neither was the relationship.

แต่ไม่หรอก และความสัมพันธ์นั้นก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบด้วย

And if you want to get over them, you have to remind yourself of that,

และถ้าคุณต้องการจะตัดใจจากเขาให้ได้ คุณก็ต้องเตือนตัวเองอย่างนี้

frequently.

บ่อยๆ ด้วย

None of us is immune to heartbreak.

ไม่มีใครในพวกเราที่จะมีภูมิคุ้มกันจากการหัวใจสลาย

My patient Miguel was a 56-year-old senior executive in a software company.

คนไข้ผม ชื่อมิเกล ผู้บริหารบริษัทซอฟท์แวร์แห่งหนึ่ง

Five years after his wife died,

หลังจากที่ภรรยาของเขาตายไปได้ห้าปี

he finally felt ready to start dating again.

ในที่สุด เขาก็พร้อมที่จะออกเดทนัดอีก

He soon met Sharon,

ไม่ช้า เขาก็พบกับชารอน

and a whirlwind romance ensued.

แล้วเรื่องรักหวือหวาก็ตามมา

They introduced each other to their adult children after one month,

แนะนำให้ลูกที่โตแล้วรู้จักกันทั้งสองฝ่าย หลังคบกันได้หนึ่งเดือน

and they moved in together after two.

แล้วย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันหลังจากสองเดือน

When middle-aged people date, they don't mess around.

ในวัยกลางคน เวลาเดทกัน เขาไม่มาต้วมเตี้ยมเสียเวลากันหรอก

It's like "Love, Actually" meets "The Fast and the Furious."

มันเหมือนหนังเรื่อง ทุกหัวใจมีรัก บวกกับเรื่อง เร็ว แรง ทะลุนรกน่ะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Miguel was happier than he had been in years.

มิเกลมีความสุขกว่าที่ เขาเคยรู้สึกมานานหลายปี

But the night before their first anniversary,

แต่คืนก่อนหน้าที่จะครบรอบหนึ่งปี

Sharon left him.

ชารอนก็ทิ้งเขาไป

She had decided to move to the West Coast to be closer to her children,

เธอตัดสินใจย้ายไปอยู่เวสต์โคสต์ เพื่อจะได้อยู่ใกล้พวกลูกๆ มากขึ้น

and she didn't want a long-distance relationship.

และเธอไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ แบบอยู่ห่างไกลกัน

Miguel was totally blindsided and utterly devastated.

มิเกลรู้สึกเหมือนถูกโจมตีไม่ทันตั้งตัว และแพ้ย่อยยับ

He barely functioned at work for many, many months,

เขาแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยที่ ที่ทำงานอยู่หลายเดือน

and he almost lost his job as a result.

จนเกือบจะถูกให้ออกจากงาน

Another consequence of heartbreak is that feeling alone and in pain

ผลลัพธ์อีกอย่างหนึ่งของอาการอกหักคือ ความเหงาและความเจ็บปวด

can significantly impair our intellectual functioning,

สามารถทำให้สติปัญญาของเรา ทำหน้าที่บกพร่องไปได้

especially when performing complex tasks involving logic and reasoning.

โดยเฉพาะเวลาที่ทำงานซับซ้อน ที่ต้องอาศัยตรรกะและการใช้เหตุผล

It temporarily lowers our IQ.

มันทำให้ไอคิวของเราลดลงชั่วคราว

But it wasn't just the intensity of Miguel's grief

แต่ไม่ใช่แค่ความรุนแรงของความเศร้าเท่านั้น

that confused his employers;

ที่ทำให้เจ้านายของเขางง

it was the duration.

มันเป็นเรื่องของระยะเวลา

Miguel was confused by this as well

มิเกลก็งุนงงเพราะเรื่องนี้เหมือนกัน

and really quite embarrassed by it.

และรู้สึกอึดอัดขัดเขินด้วย

"What's wrong with me?" he asked me in our session.

"ผมเป็นอะไรไป" เขาถามผมในช่วงที่เราคุยกัน

"What adult spends almost a year getting over a one-year relationship?"

ผู้ใหญ่ที่ไหนกันใช้เวลาเกือบปี ตัดใจจากความสัมพันธ์ที่ยาวนานหนึ่งปี

Actually, many do.

อันที่จริง มีผู้ใหญ่หลายคนเลยเป็นอย่างนั้น

Heartbreak shares all the hallmarks of traditional loss and grief:

อาการอกหักมีลักษณะเหมือน การสูญเสียและการเศร้าโศกทั่วไป

insomnia, intrusive thoughts,

นอนไม่หลับ มีความคิดแทรกซ้อน

immune system dysfunction.

ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ

Forty percent of people experience clinically measurable depression.

ร้อยละสี่สิบมีภาวะซึมเศร้าแบบรุนแรง

Heartbreak is a complex psychological injury.

อาการอกหักเป็น การบาดเจ็บทางจิตใจที่ซับซ้อน

It impacts us in a multitude of ways.

มันมีผลกระทบกับเราในหลายๆ ด้าน

For example, Sharon was both very social

ตัวอย่างเช่น ชารอนเป็นคนที่ชอบสังคม

and very active.

และเป็นคนกระตือรือร้น

She had dinners at the house every week.

เธอจัดงานอาหารค่ำที่บ้านนั้นทุกสัปดาห์

She and Miguel went on camping trips with other couples.

เธอกับมิเกลไปเที่ยวนอนแคมป์กับคู่อื่นๆ

Although Miguel was not religious,

ถึงมิเกลจะไม่ใช่คนเคร่งศาสนา

he accompanied Sharon to church every Sunday,

เขาก็ไปโบสถ์กับชารอนทุกวันอาทิตย์

where he was welcomed into the congregation.

กลุ่มสมาชิกที่โบสถ์ต้อนรับเขาเข้ากลุ่ม

Miguel didn't just lose his girlfriend;

มิเกลไม่ได้สูญเสียแค่ชารอนเท่านั้น

he lost his entire social life,

เขาสูญเสียชีวิตทางสังคมทั้งหมดของเขาไปด้วย

the supportive community of Sharon's church.

นั่นคือ ชุมชนที่โบสถ์ของชารอน

He lost his identity as a couple.

เขาสูญเสียเอกลักษณ์ของการเป็นคู่กัน

Now, Miguel recognized the breakup had left this huge void in his life,

ตอนนี้ มิเกลรู้ว่า การเลิกกันทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ในชีวิตเขา

but what he failed to recognize

แต่สิ่งที่เขาไม่ได้นึกถึงคือ

is that it left far more than just one.

ช่องว่างนั้นมีหลายช่อง

And that is crucial,

และนั่นเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

not just because it explains why heartbreak could be so devastating,

นอกจากจะช่วยอธิบายว่า ทำไมอาการอกหักถึงมีผลทำลายย่อยยับ

but because it tells us how to heal.

มันยังบอกด้วยว่า จะรักษาได้ยังไง

To fix your broken heart,

ในการที่จะรักษาฟื้นฟูหัวใจสลายของคุณ

you have to identify these voids in your life and fill them,

คุณจำเป็นต้องหาพวกช่องโหว่ของคุณให้เจอ แล้วอุดมันเสีย

and I mean all of them.

ผมต้องบอกว่า ทุกช่องด้วย

The voids in your identity:

ช่องโหว่ในความเป็นตัวตนของคุณ

you have to reestablish who you are and what your life is about.

คุณต้องสร้างความเชื่อขึ้นมาใหม่ ว่าคุณเป็นใคร และชีวิตของคุณเป็นยังไง

The voids in your social life,

ช่องโหว่ในชีวิตสังคมของคุณ

the missing activities, even the empty spaces on the wall

กิจกรรมที่หายไป และแม้กระทั่งพื้นที่ว่างเปล่าบนผนัง

where pictures used to hang.

ที่เคยมีรูปภาพแขวนอยู่

But none of that will do any good

แต่ทั้งหมดนี้จะไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับคุณ

unless you prevent the mistakes that can set you back,

ถ้าคุณไม่ป้องกันความผิดพลาด ที่จะทำให้คุณฟื้นฟูใจได้ล่าช้า

the unnecessary searches for explanations,

อย่างการแสวงหาคำอธิบายที่ไม่จำเป็น

idealizing your ex instead of focusing on how they were wrong for you,

การเห็นว่าคนในอดีตของคุณเลิศเลอแทนที่จะเน้นว่า เขาไม่เหมาะกับคุณตรงไหน

indulging thoughts and behaviors that still give them a starring role

ความคิดและพฤติกรรมตามใจตัวเอง ที่ยังให้เขาเป็นดารานำแสดง

in this next chapter of your life

ในช่วงชีวิตในเวลาต่อไปของคุณ

when they shouldn't be an extra.

ในช่วงที่เขาไม่ควรเป็นตัวประกอบด้วยซ้ำ

Getting over heartbreak is hard,

การตัดใจจากภาวะหอกหักเป็นเรื่องยาก

but if you refuse to be misled by your mind and you take steps to heal,

แต่ถ้าคุณไม่ยอมปล่อยใจไปผิดทาง และเริ่มขั้นตอนดูแลใจ

you can significantly minimize your suffering.

คุณจะทุกข์ทรมานน้อยลงอย่างมาก

And it won't just be you who benefit from that.

และไม่ได้มีแต่คุณที่จะได้ประโยชน์

You'll be more present with your friends,

คุณจะน่ารักขึ้นในหมู่เพื่อนฝูง

more engaged with your family,

คุณจะสนใจครอบครัวมากขึ้น

not to mention the billions of dollars of compromised productivity

นี่ยังไม่ได้นับเงินเป็นพันล้าน ที่อาจเสียหายจากผลิตภาพที่ถูกบั่นทอน

in the workplace that could be avoided.

ในที่ทำงาน ซึ่งน่าจะหลีกเลี่ยงได้

So if you know someone who is heartbroken,

เพราะฉะนั้น ถ้าคุณรู้จักใครที่หัวใจสลาย

have compassion,

เห็นใจพวกเขาเถอะ

because social support has been found to be important for their recovery.

เพราะกำลังใจจากคนรอบข้างสำคัญมาก ที่จะช่วยให้พวกเขาฟื้นตัวได้

And have patience,

และอดทนด้วย

because it's going to take them longer to move on than you think it should.

เพราะพวกเขาจะต้องใช้เวลามากกว่า ที่คุณคิดว่าพวกเขาน่าจะใช้

And if you're hurting,

และถ้าคุณกำลังเจ็บปวดอยู่

know this:

ขอให้รู้ไว้ว่า

it's difficult, it is a battle within your own mind,

มันยาก มันเป็นการรบในจิตใจของคุณ

and you have to be diligent to win.

และคุณต้องหมั่นเพียร ถึงจะชนะได้

But you do have weapons.

แต่คุณมีอาวุธ

You can fight.

คุณสามารถต่อสู้ได้

And you will heal.

และคุณจะหายเศร้าเสียใจ

Thank you.

ขอบคุณครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)