Lies, damned lies and statistics (about TEDTalks)

Translator: Heartfelt Grace Reviewer: Sritala Dhanasarnsombut

If you go on the TED website,

ถ้าเราไปที่เว็บไซต์ TED

you can currently find there

เราจะเห็นได้ว่า ในตอนนี้

over a full week of TEDTalk videos,

มีวีดีโอปาฐกถามากมายใน TEDTalk ตลอดสัปดาห์

over 1.3 million

มากกว่า 1.3 ล้าน

words of transcripts

คำที่ใช้ในปาฐกถา

and millions of user ratings.

และการประเมินของผู้ใช้เป็นล้านๆครั้ง

And that's a huge amount of data.

และนั่นเป็นข้อมูลอันมากมายมหาศาล

And it got me wondering:

และก็ทำให้ผมอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา

If you took all this data

ถ้าเราเอาข้อมูลทั้งหมดนี้

and put it through statistical analysis,

มาทำการวิเคราะห์เชิงสถิติ

could you reverse engineer a TEDTalk?

เราจะสามารถใช้วิศวกรรมย้อนกลับมาเนรมิตเป็นปาฐกถา TEDTalk ขึ้นมาได้ไหม?

Could you create

เราจะสามารถสร้าง

the ultimate TEDTalk?

ปาฐกถา TED Talk แบบบันลือโลกได้ไหม

(Laughter) (Applause)

(เสียงปรบมือ)

And also, could you create

อีกอย่าง เราจะสามารถสรรสร้าง

the worst possible TEDTalk

ปาฐกถา TEDTalk ที่ห่วยแตกที่สุดในโลกได้หรือไม่

that they would still let you get away with?

โดยที่สามารถรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกาไปได้ด้วย

To find this out, I looked at three things:

ในการหาคำตอบ ผมดูที่ 3 อย่าง

I looked at the topic that you should choose,

ผมดูที่หัวข้อที่เราควรเลือกพูด

I looked at how you should deliver it

ผมดูที่ว่าเราควรนำเสนออย่างไร

and the visuals onstage.

และก็ดูที่ลักษณะการนำเสนอบนเวที

Now, with the topic: There's a whole range of topics you can choose,

เอาหละครับ มาดูที่หัวข้อกันก่อน -- มีหัวข้อมากมายก่ายกองที่เราเลือกได้

but you should choose wisely,

แต่เราควรจะฉลาดเลือก

because your topic strongly correlates

เพราะว่าหัวข้อมีความสัมพันธ์เหนี่ยวแน่นมาก

with how users will react to your talk.

กับการที่ผู้ฟังจะมีปฏิกิริยากับปาฐกถาของเรายังไง

Now, to make this more concrete,

เพื่อให้เด่นชัดเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

let's look at the list of top 10 words

เราลองมาดูรายชื่อของคำยอดนิยม 10 คำแรก

that statistically stick out

ที่เลือกมาด้วยวิธีการทางสถิติ

in the most favorite TEDTalks

จากปาฐกถา TEDTalks ยอดนิยม

and in the least favorite TEDTalks.

และจากปาฐกถา TEDTalks ที่ไม่เป็นที่นิยมเอาเลย

So if you came here

ถ้าเป็นว่าเรามาที่นี่

to talk about how French coffee

มาพูดเกี่ยวกับกาแฟจากฝรั่งเศส

will spread happiness in our brains,

จะช่วยทำให้เกิดความสุขอย่างท่วมท้นในสมองเราอย่างไร

that's a go.

แบบนั้นคือ ใช่เลย ครับ

(Laughter) (Applause)

(เสียงปรบมือ)

Whereas, if you wanted to talk about

ในขณะที่ ถ้าเราอยากจะมาพูดเรื่อง

your project involving

โครงการของเราที่เกี่ยวกับ

oxygen, girls, aircraft --

อ๊อกซิเจน หญิงสาว เครื่องบิน

actually, I would like to hear that talk, (Laughter)

อันที่จริงแล้วผมอยากฟังปาฐกถาแบบนั้นนะครับ

but statistics say it's not so good.

แต่สถิติบอกว่ามันไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่

Oh, well.

ว้า...เหรอ...อืม

If you generalize this,

ถ้าเราสรุปในภาพรวม

the most favorite TEDTalks are those

ปาฐกถา TEDTalks ยอดนิยมคือพวกที่

that feature topics we can connect with,

เสนอในหัวข้อที่เราสามารถเชื่อมโยงด้วยได้

both easily and deeply,

ทั้งอย่างง่ายๆและทั้งอย่างลึกซึ้ง

such as happiness, our own body,

เป็นต้นว่า ความสุข ร่างกายของเราเอง

food, emotions.

อาหาร อารมณ์

And the more technical topics,

และหัวข้อที่เป็นเทคนิคมากกว่า

such as architecture, materials and, strangely enough, men,

เช่น สถาปัตย์ วัสดุ และ ที่แปลกก็คือ มนุษย์

those are not good topics to talk about.

พวกนี้จะไม่ใช่หัวข้อที่ีดีที่น่าจะนำมาพูด

How should you deliver your talk?

เราควรจะนำเสนอปาฐกถาของเราอย่างไร?

TED is famous for keeping

TED มีชื่อมากในการ

a very sharp eye on the clock,

ควบคุมรักษาเวลาในการพูด

so they're going to hate me

พวกเขาจะต้องเกลียดผม

for revealing this, because, actually,

ที่เปิดเผยเรื่องนี้เพราะว่า จริงๆแล้ว

you should talk as long as they will let you. (Laughter)

เราควรจะพูดให้นานที่สุดที่เขาจะอนุญาตให้เราพูด

Because the most favorite TEDTalks

เพราะว่าปาฐกถา TEDTalks ยอดนิยม

are, on average, over 50 percent longer

คืออันที่โดยเฉลี่ยมีความยาวกว่า

than the least favorite ones.

อันที่ได้รับความนิยมน้อยสุดถึงกว่าร้อยละ 50

And this holds true for all ranking lists on TED.com

และนี่ก็เป็นความจริงสำหรับการประเมินในทุกกลุ่มใน TED.com

except if you want to have a talk

ยกเว้นเสียแต่ว่าถ้าเราอยากจะให้ปาฐกถา

that's beautiful, inspiring or funny.

มีอรรถรสงามงด สร้างแรงบันดาลใจ หรือตลกโปกฮา

Then, you should be brief. (Laughter) But other than that,

ถ้าแบบนั้น เราควรจะพูดให้กระชับ แต่นอกเหนือไปจากนี้

talk until they drag you off the stage.

ก็ให้พูดจนกว่าเขาจะมาลากเราลงจากเวที

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Now, while ...

เอาหละครับ ในช่วงที่ --

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

While you're pushing the clock, there's a few rules to obey.

ในช่วงที่เรากำลังพูดอยู่นั้น มีกฎสองสามข้อที่ต้องปฏิบัติตาม

I found these rules out by comparing the statistics

ผมค้นพบกฏพวกนี้โดยเปรียบเทียบสถิติ

of four-word phrases

ของวลียาว 4 คำ

that appear more often in the most favorite TEDTalks

ที่ปรากฏบ่อยๆในปาฐกถา TEDTalks ยอดนิยม

as opposed to the least favorite TEDTalks.

เปรียบเทียบกับในปาฐกถา TEDTalks ที่ไม่เป็นที่นิยม

I'll give you three examples.

ผมจะยกตัวอย่างให้คุณดู 3 ตัวอย่างนะครับ

First of all, I must, as a speaker,

ตัวอย่างแรกสุด ในฐานะผู้พูด ผมต้อง

provide a service to the audience and talk about what I will give you,

ให้การบริการแก่ผู้ฟังและต้องบอกว่าผมจะให้อะไรกับคุณบ้าง

instead of saying what I can't have.

แทนที่จะพูดว่าผมไม่สามารถเอาอะไรมาได้บ้าง

Secondly, it's imperative

อย่างที่สอง มันเป็นเรื่องจำเป็นมาก

that you do not cite The New York Times.

ที่เราจะต้องไม่อ้างอิงหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส์ (New York Times)

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And finally, it's okay for the speaker -- that's the good news --

และข้อสุดท้าย เป็นเรื่องยอมรับกันได้สำหรับผู้พูด -- นี่เป็นข่าวดีครับ --

to fake intellectual capacity.

ที่จะแสร้งอวดภูมิรู้

If I don't understand something, I can just say, "etc., etc."

ถ้าผมไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง ผมก็แค่พูดว่า "อะไรทำนองนั้น ฯลฯ"

You'll all stay with me.

พวกคุณก็จะตั้งใจฟังผมต่อไป

It's perfectly fine.

ทำได้ง่ายๆสบายๆไม่มีข้อแม้ครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Now, let's go to the visuals.

ตอนนี้ เรามาดูกันที่การแสดงออกบนเวที

The most obvious visual thing on stage is the speaker.

สิ่งที่เห็นเด่นชัดที่สุดบนเวทีก็คือ ตัวผู้พูด

And analysis shows if you want to be

และผลการวิเคราะห์บ่งว่า ถ้าเราอยากจะเป็น

among the most favorite TED speakers,

หนึ่งในผู้พูดยอดนิยมที่สุดของ TED

you should let your hair grow a little bit longer than average,

เราควรจะต้องไว้ผมยาวกว่าคนทั่วไปสักนิดนึง

make sure you wear your glasses and be slightly more dressed-up

แล้วก็ต้องแน่ใจว่าเราใส่แว่นตามา และก็จะต้องแต่งตัวเป็นทางการ

than the average TED speaker.

กว่าผู้พูดโดยทั่วไปของ TED

Slides are okay, though you might consider going for props.

สไลด์นำเสนอเอามาใช้ด้วยได้ แต่กระนั้นเราอาจลองดูที่การพูดแบบมีของประกอบ

And now the most important thing,

ตอนนี้ก็มาถึงสิ่งที่สำคัญที่สุด

that is the mood onstage.

ได้แก่ พื้นอารมณ์บนเวที ครับ

Color plays a very important role.

สีมีส่วนสำคัญในเรื่องนี้มาก

Color closely correlates

สีมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องมาก

with the ratings that talks get on the website.

กับการประเมินปาฐกถาในเว็บไซด์

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

For example, fascinating talks

ยกตัวอย่างว่า ปาฐกถา TEDTalks ที่ได้รับการประเมินว่า น่าทึ่ง

contain a statistically high amount

ในเชิงสถิติแล้วเต็มไปด้วย

of exactly this blue color, (Laughter)

สีน้ำเงินแบบนี้เลยครับ

much more than the average TEDTalk.

มีมากกว่าปาฐกถา TEDTalk โดยทั่วไปเยอะมาก

Ingenious TEDTalks, much more this green color,

ปาฐกถา TEDTalks ที่จัดว่า แหลมคม มีสีเขียวแบบนี้อยู่เยอะมาก

etc., et.

อะไรทำนองนั้น ฯลฯ ครับ

(Laughter) (Applause)

(เสียงปรบมือ)

Now, personally, I think

เอาหละครับ โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมคิดว่า

I'm not the first one who has done this analysis,

ผมไม่ใช่คนแรกที่ได้ทำการวิเคราะห์เรื่องนี้

but I'll leave this

แต่ผมจะฝากไว้

to your good judgment.

ให้พวกคุณใช้ดุลยพินิจเอาเองครับ

So, now it's time to put it all together

งั้นตอนนี้ ก็ได้เวลาที่จะเอามารวมไว้ด้วยกัน

and design the ultimate TEDTalk.

แล้วออกแบบปาฐกถา TEDTalk แบบบันลือโลก

Now, since this is TEDActive,

เนื่องจากว่านี่เป็นปาฐกถาเชิงปฏิบัติการ TEDActive

and I learned from my analysis

และผมค้นพบจากผลการวิเคราะห์

that I should actually give you something,

ว่าจริงๆแล้วผมควรจะมีอะไรให้คุณ

I will not impose the ultimate

ผมจะไม่ให้คุณต้องมาฟังปาฐกถา

or worst TEDTalk on you,

แบบบันลือโลกหรือแบบห่วยแตกหรอกครับ

but rather give you a tool to create your own.

แต่กลับกัน ผมจะให้เครื่องมือที่คุณจะเนรมิตมันขึ้นมาด้วยตัวคุณเอง

And I call this tool the TEDPad.

และผมเรียกเครื่องมือนี้ว่า เท็ดแพ็ด (TED Pad) ครับ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And the TEDPad is a matrix

และ เท็ดแพ็ด เป็นแม่แบบ (matrix)

of 100 specifically selected,

ของประโยค 100 ประโยคที่คัดสรรแล้วเป็นพิเศษ

highly curated sentences

เลือกสรรจัดเรียงอย่างพิถีพิถัน

that you can easily piece together to get your own TEDTalk.

ที่คุณจะนำมาผนวกต่อกันเป็นปาฐกถา TEDTalk ของคุณเอง

You only have to make one decision,

คุณแค่ต้องตัดสินใจเพียงประการเดียว

and that is: Are you going to use the white version

และนั่นก็คือ: คุณจะใช้รุ่นสีขาว

for very good TEDTalks,

สำหรับปาฐกถา TEDTalks แบบดีเยี่ยม

about creativity, human genius?

เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ อัจริยภาพของมนุษย์?

Or are you going to go with a black version,

หรือว่าคุณจะใช้รุ่นสีดำ

which will allow you to create really bad TEDTalks,

ซึ่งจะทำให้คุณสามารถประดิษฐ์ปาฐกถา TEDTalks ที่แย่ๆ

mostly about blogs,

โดยมากก็เกี่ยวกับบล๊อกส์

politics and stuff?

การเมือง และอะไรพวกนั้น

So, download it and have fun with it.

เพราะฉะนั้น ไปดาวน์โหลด และก็เล่นให้สนุกไปเลยนะครับ

Now I hope you enjoy the session.

มาถึงตอนนี้ ผมก็หวังว่าคุณจะได้รับความเพลิดเพลินกับช่วงของผม

I hope you enjoy designing your own

ผมหวังว่าคุณจะออกแบบปาฐกถาของคุณเอง

ultimate and worst possible TEDTalks.

ทั้งแบบบันลือโลกและแบบห่วยแตกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

And I hope some of you will be inspired for next year

และผมหวังว่าพวกคุณบางคนจะได้รับแรงบันดาลใจสำหรับปีหน้า

to create this, which I really want to see.

ที่จะสร้างอะไรคล้ายกันนี้อีก ซึ่งผมอยากเห็นที่สุดเลย

Thank you very much.

ขอบคุณมากครับ

(Applause) Thanks.

(เสียงปรบมือ)