Alan Russell: The potential of regenerative medicine

80,008 views ・ 2008-04-14

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: yamela areesamarn Reviewer: Chirayu Wongchokprasitti
00:26
I'm going to talk to you today about
0
26000
2000
วันนี้ผมจะพูดกับคุณเกี่ยวกับ
00:28
hopefully converting fear into hope.
1
28000
3000
ซึ่งก็หวังว่า จะเปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นความหวัง
00:31
When we go to the physician today --
2
31000
3000
วันนี้เมื่อเราไปหาหมอ
00:34
when we go to the doctor's office and we walk in,
3
34000
2000
เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องเพื่อพบหมอ
00:36
there are words that we just don't want to hear.
4
36000
3000
เราไม่อยากจะได้ยินคำบางคำ
00:39
There are words that we're truly afraid of.
5
39000
2000
คำที่เรากลัวจริงๆ
00:41
Diabetes, cancer, Parkinson's, Alzheimer's,
6
41000
4000
เบาหวาน มะเร็ง โรคพากินสันส์ โรคอัลซายเมอสร์
00:45
heart failure, lung failure --
7
45000
2000
หัวใจล้มเหลว ปอดล้มเหลว
00:47
things that we know are debilitating diseases,
8
47000
3000
สิ่งที่เรารู้ว่าเป็นโรคเรื้อรังทำให้ร่างกายเสื่อมลงเรื่อยๆ,
00:50
for which there's relatively little that can be done.
9
50000
5000
โรคซึ่งมีวิธีดูแลรักษาได้ค่อนข้างน้อย
00:55
And what I want to lay out for you today is
10
55000
2000
และสิ่งที่ผมจะนำเสนอต่อคุณในวันนี้ก็คือ
00:57
a different way of thinking about how to treat debilitating disease,
11
57000
4000
วิธีการคิดที่ต่างออกไปเกี่ยวกับการรักษาโรคเรื้อรังทั้งหลาย
01:01
why it's important,
12
61000
2000
ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ
01:03
why without it perhaps our health care system will melt down
13
63000
3000
ทำไมถ้าไม่มีแนวคิดนี้แล้ว, ไม่แน่, ระบบการรักษาพยาบาลของเราจะล่มสลายลง,
01:06
if you think it already hasn't,
14
66000
2000
ถ้าคุณคิดว่ามันยังไม่เป็นอย่างนั้น
01:08
and where we are clinically today, and where we might go tomorrow,
15
68000
3000
วันนี้การรักษาพยาบาลของเราอยู่ที่ไหน และเราจะไปถึงไหนในวันพรุ่งนี้
01:11
and what some of the hurdles are.
16
71000
2000
และมีอะไรเป็นอุปสรรคบ้าง
01:13
And we're going to do all of that in 18 minutes, I promise.
17
73000
3000
และเราจะคุยกันถีงเรื่องเหล่านี้ทุกเรื่องภายใน 18 นาที, ผมสัญญา
01:16
I want to start with this slide,
18
76000
2000
ผมขอเริ่มด้วยสไลด์แผ่นนี้,
01:18
because this slide sort of tells the story the way Science Magazine thinks of it.
19
78000
5000
เพราะสไลด์แผ่นนี้ ได้เสนอเรื่องนี้ในทำนองเดียวกับที่วารสาร Science คิดไว้
01:23
This was an issue from 2002
20
83000
2000
สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาตั้งแต่ปี 2002
01:25
that they published with a lot of different articles on the bionic human.
21
85000
4000
ว่าพวกเขาได้ตีพิมพ์บทความต่างๆมากมายเกี่ยวกับเรื่องมนุษย์ที่มีอวัยวะมหัศจรรย์
01:29
It was basically a regenerative medicine issue.
22
89000
3000
ที่สำคัญก็คือมันเป็นประเด็นทางการแพทย์เรื่องการสร้างอวัยวะขึ้นมาใหม่
01:32
Regenerative medicine is an extraordinarily simple concept
23
92000
4000
การแพทย์ด้านการสร้างอวัยวะขึ้นมาใหม่เป็นหลักการง่ายๆอย่างไม่น่าเชื่อ
01:36
that everybody can understand.
24
96000
2000
ที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้
01:38
It's simply accelerating the pace at which the body heals itself
25
98000
4000
เป็นเพียงการเร่งความเร็วของการรักษาตัวเองของร่างกาย
01:42
to a clinically relevant timescale.
26
102000
3000
ตามกรอบเวลาทางการแพทย์ของโรคนั้นๆ
01:46
So we know how to do this in many of the ways that are up there.
27
106000
3000
ดังนั้นเราจึงรู้ว่าจะรักษาได้อย่างไรตามวิธีการต่างๆมากมายที่มีอยู่
01:49
We know that if we have a damaged hip, you can put an artificial hip in.
28
109000
4000
เรารู้ว่าถ้าสะโพกเสีย เราก็จะใส่สะโพกเทียมเข้าไป
01:53
And this is the idea that Science Magazine used on their front cover.
29
113000
3000
นี่แหละคือแนวคิดของวารสาร Science ที่ใช้ขึ้นหน้าปก
01:57
This is the complete antithesis of regenerative medicine.
30
117000
4000
ซึ่งเป็นแนวคิดที่ตรงกันข้ามกับการแพทย์ทางการสร้างอวัยวะขึ้นมาใหม่อย่างสิ้นเชิง
02:01
This is not regenerative medicine.
31
121000
2000
นี่ไม่ได้เป็นการแพทย์ทางการสร้างอวัยวะขึ้นใหม่
02:03
Regenerative medicine is what Business Week put up
32
123000
3000
การสร้างอวัยวะขึ้นใหม่คือ สิ่งที่วารสาร Business Week ได้ลงไว้
02:06
when they did a story about regenerative medicine not too long ago.
33
126000
3000
เมื่อพวกเขาได้พิมพ์เรื่องราวเกี่ยวกับการสร้่างอวัยวะขึ้นใหม่เมื่อไม่นานมานี้
02:09
The idea is that instead of figuring out how to ameliorate symptoms
34
129000
5000
แนวคิดดังกล่าวก็คือ แทนที่จะมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้อาการดีขึ้น
02:14
with devices and drugs and the like --
35
134000
2000
โดยใช้เครื่องมือและยาและสิ่งอื่นๆทำนองนั้น--
02:16
and I'll come back to that theme a few times --
36
136000
3000
แล้วผมจะวกกลับมาพูดถึงหัวข้อนี้อีกสักคร้ังสองครั้ง--
02:19
instead of doing that, we will regenerate lost function of the body
37
139000
4000
แทนที่จะรักษาแบบนั้น, เราจะสร้างการทำงานของร่างกายที่เสียไปขึ้นมาใหม่
02:23
by regenerating the function of organs and damaged tissue.
38
143000
4000
โดยการฟื้นฟูการทำงานของอวัยวะและเนื้อเยื่อที่เสียไป
02:27
So that at the end of the treatment,
39
147000
2000
เพื่อที่ว่าผลของการรักษาในที่สุด,
02:29
you are the same as you were at the beginning of the treatment.
40
149000
2000
คุณก็จะเป็นเหมือนเดิม
02:34
Very few good ideas -- if you agree that this is a good idea --
41
154000
3000
เป็นข้อเสนอแนะที่ดีที่ไม่ค่อยเห็นกัน -- ถ้าคุณเห็นด้วยว่ามันเป็นแนวคิดที่ดีจริง--
02:37
very few good ideas are truly novel.
42
157000
3000
เป็นแนวคิดใหม่ที่ไม่มีมาก่อน
02:40
And this is just the same.
43
160000
2000
แนวคิดนี้ก็เหมือนกัน
02:42
If you look back in history,
44
162000
2000
ถ้าเรามองย้อนกลับไปในอดีต,
02:44
Charles Lindbergh, who was better known for flying airplanes,
45
164000
4000
ชาร์ลส์ ลินด์เบิร์ก - ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากกว่าเรื่องการขับเครื่องบิน--
02:48
was actually one of the first people
46
168000
1000
จริงๆแล้วเขาเป็นคนแรกๆ,
02:49
along with Alexis Carrel, one of the Nobel Laureates from Rockefeller,
47
169000
4000
พร้อมกับ อเล็กซิส แคร์รัล,หนึ่งในผู้ได้รับรางวัลโนเบล จากมูลนิธิรอกกี้เฟลเลอร์,
02:53
to begin to think about, could you culture organs?
48
173000
4000
ที่เป็นผู้เริ่มคิดว่า, เราจะปลูกอวัยวะให้งอกขึ้นได้ไหม
02:57
And they published this book in 1937,
49
177000
2000
และเขาได้เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นในปี 1937,
02:59
where they actually began to think about,
50
179000
2000
ซึ่งเขาเป็นผู้เริ่มคิดเกี่ยวกับว่า,
03:01
what could you do in bio-reactors to grow whole organs?
51
181000
5000
เราจะสามารถทำอะไรกับการเพาะเนื้อเยื่อเพื่อปลูกให้อวัยวะงอกออกมาได้
03:07
We've come a long way since then.
52
187000
1000
ตั้งแต่นั้นมาเราก็พัฒนามาไกล
03:08
I'm going to share with you some of the exciting work that's going on.
53
188000
3000
ผมจะบอกคุณเกี่ยวกับผลงานบางอย่างที่น่าตื่นเต้นซึ่งกำลังเกิดขึ้น
03:11
But before doing that, what I'd like to do
54
191000
2000
แต่ก่อนอื่นสิ่งที่ผมอยากจะทำก็คือ
03:13
is share my depression about the health care system
55
193000
3000
เล่าถึงความรู้สึกหดหู่ของผมที่มีต่อระบบการรักษาพยาบาล
03:16
and the need for this with you.
56
196000
2000
และความต้องการเรื่องนี้
03:18
Many of the talks yesterday talked about
57
198000
2000
การบรรยายหลายเรื่องเมื่อวานพูดเกี่ยวกับ
03:20
improving the quality of life, and reducing poverty,
58
200000
3000
การปรับปรุงคุณภาพชีวิตและการลดความยากจน
03:23
and essentially increasing life expectancy all around the globe.
59
203000
5000
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มอายุไขของประชากรทั่วโลก
03:28
One of the challenges is that the richer we are, the longer we live.
60
208000
5000
สิ่งที่ท้าทายเราอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ยิ่งเรารวยขึ้นเราก็จะอายุยืนขึ้น
03:33
And the longer we live, the more expensive it is
61
213000
3000
และยิ่งเรามีอายุยืนยาวมากขึ้นเท่าใด ค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย
03:36
to take care of our diseases as we get older.
62
216000
3000
เพื่อรักษาโรคภ้ยต่างๆเมื่อเราแก่ตัวลง
03:39
This is simply the wealth of a country
63
219000
3000
เรื่องนี้เป็นเรื่องความมั่งคั่งของประเทศชาติ
03:42
versus the percent of population over the age of 65.
64
222000
4000
ต่อร้อยละของประชากรที่อายุเกินกว่า 65
03:46
And you can basically see that the richer a country is,
65
226000
3000
คุณคงเห็นได้ว่าถ้าประเทศร่ำรวยมากขึ้นเท่าใด
03:49
the older the people are within it.
66
229000
2000
คนในประเทศนั้นก็จะมีอายุยืนขึ้น
03:51
Why is this important?
67
231000
2000
ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ
03:53
And why is this a particularly dramatic challenge right now?
68
233000
3000
และทำไมเรื่องนี้จึงเป็นความท้าทายอย่างมากเป็นพิเศษในปัจจุบัน
03:57
If the average age of your population is 30,
69
237000
2000
ถ้าอายุเฉลี่ยของประชากรคือ 30,
03:59
then the average kind of disease that you have to treat
70
239000
4000
แล้วเฉลี่ยชนิดของโรคที่ต้องรักษา
04:03
is maybe a broken ankle every now and again,
71
243000
2000
คือ อาจจะเป็นข้อเท้าหักบางครั้งบางคราว
04:05
maybe a little bit of asthma.
72
245000
1000
บางทีอาจจะเป็นโรคหอบหืดบ้างเล็กน้อย
04:06
If the average age in your country is 45 to 55,
73
246000
4000
ถ้าอายุเฉลี่ยของประชากรอยู่ระหว่าง 45 ถึง 55,
04:10
now the average person is looking at diabetes,
74
250000
3000
คนโดยเฉลี่ยก็มองไปที่โรคเบาหวาน,
04:13
early-onset diabetes, heart failure, coronary artery disease --
75
253000
3000
เบาหวานระยะเริ่มต้น หัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือดหัวใจ
04:16
things that are inherently more difficult to treat,
76
256000
3000
โรคซึ่งเกิดจากภาวะภายในร่างกายเองรักษาได้ยากกว่า,
04:19
and much more expensive to treat.
77
259000
2000
และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่ามาก
04:21
Just have a look at the demographics in the U.S. here.
78
261000
3000
เพียงแค่ดูที่จำนวนประชากรในอเมริกา
04:24
This is from "The Untied States of America."
79
264000
2000
นี่มาจาก "รัฐที่ไม่ผูกมัดแห่งอเมริกา"
04:26
In 1930, there were 41 workers per retiree.
80
266000
4000
ในปี 1930 มีคนทำงาน 41 คนต่อคนเกษียณ 1 คน
04:30
41 people who were basically outside of being really sick,
81
270000
5000
คน 41 คนที่ไม่อยู้ในสภาวะของการเป็นผู้ป่วย
04:35
paying for the one retiree who was experiencing debilitating disease.
82
275000
6000
เป็นผู้จ่ายให้กับผู้ที่เกษียณ 1 คนที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง
04:41
In 2010, two workers per retiree in the U.S.
83
281000
3000
ในปี 2010 คนในวัยทำงาน 2คน จ่ายให้กับผู้ที่เกษียณ 1 คน
04:44
And this is matched in every industrialized, wealthy country in the world.
84
284000
5000
และเป็นเหมือนกันอย่างนี้ในประเทศอุตสาหกรรมที่ร่ำรวยทุกประเทศในโลก
04:50
How can you actually afford to treat patients
85
290000
3000
เราจะมีเงินจ่ายเพื่อรักษาผู้ป่วยได้อย่างไร
04:53
when the reality of getting old looks like this?
86
293000
3000
เมื่อความเป็นจริงของการเข้าสู่วัยชราเป็นอย่างนี้
04:56
This is age versus cost of health care.
87
296000
3000
นั่นคืออายุเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
04:59
And you can see that right around age 45, 40 to 45,
88
299000
6000
และคุณจะพบว่าเมื่อถึงอายุ 45,40 ถึง 45
05:05
there's a sudden spike in the cost of health care.
89
305000
4000
ค่ารักษาพยาบาลจะพุ่งขึ้นสูงปรี๊ด
05:10
It's actually quite interesting. If you do the right studies,
90
310000
3000
เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว -- ถ้าคุณทำการศึกษาวิจัยที่ถูกต้อง,
05:13
you can look at how much you as an individual spend on your own health care,
91
313000
4000
คุณสามารถดูได้ว่าคุณใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตัวเองไปเป็นเงินเท่าใด,
05:17
plotted over your lifetime.
92
317000
2000
สร้างกราฟแสดงการใช้จ่ายตลอดชีวิต
05:19
And about seven years before you're about to die, there's a spike.
93
319000
3000
และประมาณ 7 ปีก่อนคุณจะตาย จะเห็นว่ากราฟจะขึ้นสูงปรี๊ต
05:23
And you can actually --
94
323000
1000
จริงๆแล้วคุณ--
05:24
(Laughter)
95
324000
2000
(เสียงหัวเราะ)
05:26
-- we won't get into that.
96
326000
1000
--เราจะไม่ไปพูดเรื่องนั้นกัน
05:27
(Laughter)
97
327000
4000
(เสียงหัวเราะ)
05:31
There are very few things, very few things that you can really do
98
331000
5000
มีน้อยสิ่งมาก, น้อยมากๆที่คุณสามารถทำได้
05:36
that will change the way that you can treat these kinds of diseases
99
336000
5000
เพื่อจะเปลียนวิธีการรักษาโรคประเภทนั้น
05:41
and experience what I would call healthy aging.
100
341000
4000
และประสบการณ์ซึ่งผมอยากจะเรียกว่า การเข้าสู่วัยชราอย่างแข็งแรง
05:45
I'd suggest there are four things,
101
345000
2000
ผมมีข้อเสนอแนะ 4 ประการ
05:47
and none of these things include an insurance system or a legal system.
102
347000
4000
ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่รวมระบบการประกัน หรือระบบของกฎหมาย
05:51
All those things do is change who pays.
103
351000
2000
สิ่งที่ระบบเหล่านั้นทำก็คือเปลี่ยนตัวคนจ่ายเงิน
05:53
They don't actually change what the actual cost of the treatment is.
104
353000
3000
ระบบเหล่านั้นจริงๆแล้วไม่ได้เปลี่ยนรายจ่ายจริงของค่ารักษาพยาบาล
05:57
One thing you can do is not treat. You can ration health care.
105
357000
3000
สิ่งที่คุณทำได้อย่างหนึ่งก็คือไม่ต้องไปรักษา คุณจะสามารถแบ่งภาระค่ารักษาพยาบาลได้
06:01
We won't talk about that anymore. It's too depressing.
106
361000
2000
เราจะไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป มันเป็นเรื่องน่าหดหู่เกินไป
06:04
You can prevent.
107
364000
1000
คุณสามารถป้องกัน
06:05
Obviously a lot of monies should be put into prevention.
108
365000
3000
เห็นได้ชัดว่าควรนำเงินจำนวนมากมาใช้ในการป้องกัน
06:09
But perhaps most interesting, to me anyway, and most important,
109
369000
3000
แต่บางทีสิ่งที่น่าสนใจที่สุด, สำหรับผม, และสำคัญที่สุด,
06:12
is the idea of diagnosing a disease much earlier on in the progression,
110
372000
5000
ก็คือการวินิจฉัยโรคแต่เนิ่นๆก่อนที่มันจะลุกลาม,
06:17
and then treating the disease to cure the disease
111
377000
3000
แล้วให้การรักษาให้หายขาดจากโรค
06:20
instead of treating a symptom.
112
380000
2000
แทนที่จะรักษาอาการ
06:22
Think of it in terms of diabetes, for instance.
113
382000
3000
คิดถึงเรื่องนึ้ในกรณีโรคเบาหวาน, เป็นตัวอย่าง
06:26
Today, with diabetes, what do we do?
114
386000
2000
ทุกวันนี้, โรคเบาหวาน, เราได้ทำอะไร
06:28
We diagnose the disease eventually, once it becomes symptomatic,
115
388000
3000
เราวินิจฉัยโรคในที่สุด, เมื่อมันมีอาการ,
06:31
and then we treat the symptom for 10, 20, 30, 40 years.
116
391000
4000
แล้วเราก็รักษาอาการเป็นเวลานาน 10, 20, 30,40 ปี
06:35
And we do OK. Insulin's a pretty good therapy.
117
395000
4000
สิ่งที่เราทำก็ใช้ได้ อินซูลินเป็นการให้การรักษาที่ดี
06:39
But eventually it stops working,
118
399000
1000
แต่ในที่สุดแล้วมันก็เลิกทำงาน,
06:40
and diabetes leads to a predictable onset of debilitating disease.
119
400000
7000
และโรคเบาหวานนำไปสู่โรคเรื้อรังอื่นๆที่เราคาดการณ์ได้
06:48
Why couldn't we just inject the pancreas with something
120
408000
3000
ทำไมเราไม่ทำแค่ฉีดอะไรบางอย่างเข้าตับอ่อน
06:51
to regenerate the pancreas early on in the disease,
121
411000
3000
เพื่อให้ตับอ่อนสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ในระยะเริ่มเป็นโรค,
06:54
perhaps even before it was symptomatic?
122
414000
2000
หรืออาจจะทำก่อนมีอาการด้วยซ้ำ
06:57
And it might be a little bit expensive at the time that we did it,
123
417000
3000
อาจจะแพงขึ้นบ้างเล็กน้อยเมื่อตอนที่เราทำ,
07:00
but if it worked, we would truly be able to do something different.
124
420000
3000
แต่ถ้ามันได้ผล, เราก็สามารถทำอะไรบางอย่างที่ต่างออกไปได้จริง
07:04
This video, I think, gets across the concept that I'm talking about quite dramatically.
125
424000
5000
วีดีโอนี้, ผมคิดว่า, สามารถสื่อความหมายตามแนวคิดที่ผมกำลังพูดถึงอย่างดีมาก
07:09
This is a newt re-growing its limb.
126
429000
3000
นี่คือตัวกิ้งก่าซาลาแมนเดอร์น้ำ, กำลังสร้างแขนขาของมันขึ้นมาใหม่
07:13
If a newt can do this kind of thing, why can't we?
127
433000
3000
ถ้าต้วซาลาแมนเดอร์สามารถทำสิ่งนี้ได้, ทำไมเราจะทำไม่ได้
07:16
I'll actually show you some more important features
128
436000
3000
ผมจะแสดงให้คุณเห็นลักษณะสำคัญอีกบางอย่าง
07:19
about limb regeneration in a moment.
129
439000
2000
เกี่ยวกับการงอกแขนขาในอีกสักครู่
07:21
But what we're talking about in regenerative medicine
130
441000
3000
แต่สิ่งที่เรากำลังพูดถึงเกี่ยวกับการแพทย์ด้านการสร้างอวัยวะขึ้นใหม่
07:24
is doing this in every organ system of the body,
131
444000
3000
ก็คือเรากำลังทำสิ่งนี้กับทุกๆระบบอวัยวะของร่างกาย,
07:27
for tissues and for organs themselves.
132
447000
4000
กับเนื้อเยื่อและกับตัวอวัยวะเอง
07:34
So today's reality is that if we get sick,
133
454000
3000
ดังนั้นความเป็นจริงของวันนี้ก็คือ ถ้าเราเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา,
07:37
the message is we will treat your symptoms,
134
457000
3000
แนวคิดก็คือ เราจะรักษาอาการของคุณ,
07:40
and you need to adjust to a new way of life.
135
460000
2000
และคุณจำเป็นต้องปรับตัวไปสู่วิถีชีวิตใหม่
07:43
I would pose to you that tomorrow --
136
463000
2000
ผมจะส่งเรื่องนั้นให้คุณทางอีเมลพรุ่งนี้--
07:45
and when tomorrow is we could debate,
137
465000
2000
และเมื่อเป็นวันพรุ่งนี้เมื่อใดเราจะมาถกกัน,
07:47
but it's within the foreseeable future --
138
467000
2000
แต่มันอยู่ในอนาคตที่เราคาดเดาได้--
07:49
we will talk about regenerative rehabilitation.
139
469000
3000
เราจะคุยกันเกี่ยวกับการพักฟื้นเพื่อให้ได้อวัยวะใหม่
07:53
There's a limb prosthetic up here,
140
473000
1000
ภาพข้างบนเป็นขาเทียม,
07:54
similar actually one on the soldier
141
474000
3000
จริงๆแล้วเหมือนกับอวัยวะที่ทหาร
07:57
that's come back from Iraq.
142
477000
2000
ซึ่งกลับมาจากอีรัค...
07:59
There are 370 soldiers that have come back from Iraq that have lost limbs.
143
479000
4000
มีทหาร 370 คนที่กลับมาจากอีรัคพร้อมกับเสียขา
08:03
Imagine if instead of facing that, they could actually
144
483000
3000
ลองคิดดูว่า ถ้าแทนที่จะต้องเผชิญกับขาเทียมนั่น เขาจะ
08:06
face the regeneration of that limb.
145
486000
2000
พบกับการปลูกขาที่เสียไปนั้นแทน
08:08
It's a wild concept.
146
488000
1000
เป็นความคิดที่ดูจะห่ามๆ
08:10
I'll show you where we are at the moment in working towards that concept.
147
490000
4000
ผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหนในการทำงานไปสู่แนวคิดนี้
08:15
But it's applicable, again, to every organ system.
148
495000
2000
แต่แนวคิดนี้ใช้ได้, เช่นกัน, กับระบบอวัยวะทุกส่วน
08:17
How can we do that?
149
497000
1000
เราจะสามารถทำอย่างนั้นได้อย่างไร
08:18
The way to do that is to develop a conversation with the body.
150
498000
4000
วิธีการที่เราทำได้ก็คือ พัฒนาการสื่อสารกับร่างกาย
08:22
We need to learn to speak the body's language.
151
502000
2000
เราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะพูดภาษาของร่างกาย
08:25
And to switch on processes that we knew how to do when we were a fetus.
152
505000
5000
และเปิดใช้กระบวนการที่เรารู้ว่าทำได้อย่างไร ตอนที่เรายังเป็นตัวอ่อนอยู่ในครรภ์มารดา
08:30
A mammalian fetus, if it loses a limb during the first trimester of pregnancy,
153
510000
5000
ตัวอ่อนของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, ถ้าเสียแขนขาไปในช่วงแรกของการตั้งครรภ์,
08:35
will re-grow that limb.
154
515000
2000
แขนขานั้นก็จะงอกออกมาใหม่
08:37
So our DNA has the capacity to do these kinds of wound-healing mechanisms.
155
517000
6000
ดีเอ็นเอของเรามีก็ความสามารถที่จะทำสิ่งซึ่งเป็นกลไกของการเยียวยารักษาบาดแผลแบบนี้ได้
08:43
It's a natural process,
156
523000
2000
มันเป็นกระบวนการตามธรรมชาติ,
08:45
but it is lost as we age.
157
525000
3000
แต่กระบวนการนี้หายไปเมื่อเราแก่ต้วลง
08:49
In a child, before the age of about six months,
158
529000
3000
ในเด็กอายุก่อนหกเดือน,
08:52
if they lose their fingertip in an accident,
159
532000
2000
ถ้าเขาเสียปลายนิ้วมือไปในอุบัติเหตุ,
08:54
they'll re-grow their fingertip.
160
534000
2000
เขาจะสร้างปลายนิ้วมือขึ้นใหม่
08:56
By the time they're five, they won't be able to do that anymore.
161
536000
2000
เมื่อเด็กอายุได้ประมาณห้าขวบเขาจะไม่สามารถทำอย่างนั้นได้อีกต่อไป
08:59
So to engage in that conversation with the body,
162
539000
3000
เพื่อเข้าร่วมการสนทนากับร่างกาย,
09:02
we need to speak the body's language.
163
542000
2000
เราจำเป็นต้องพูดภาษาของร่างกาย
09:04
And there are certain tools in our toolbox that allow us to do this today.
164
544000
4000
มีเครื่องมือในกล่องเครื่องมือของเราที่ให้เราทำสิ่งนี้ได้ในวันนี้
09:09
I'm going to give you an example of three of these tools
165
549000
3000
ผมจะให้ต้วอย่างของเครื่องมือสามอย่างที่ว่านี้
09:12
through which to converse with the body.
166
552000
2000
ที่เราใช้สื่อสารกับร่างกาย
09:15
The first is cellular therapies.
167
555000
2000
สิ่งแรกคือการให้การรักษาเซลล์
09:17
Clearly, we heal ourselves in a natural process,
168
557000
3000
ชัดเจน, เรารักษาตัวเราเองในกระบวนการตามธรรมชาติ
09:20
using cells to do most of the work.
169
560000
3000
โดยใช้เซลล์ทำงานนี้มากที่สุด
09:23
Therefore, if we can find the right cells
170
563000
2000
เพราะฉะนั้น, ถ้าเราสามารถหาเซลล์ที่ถูกกับงาน
09:25
and implant them in the body, they may do the healing.
171
565000
3000
และฝังเซลล์เหล่านั้นในร่างกาย มันก็อาจจะทำการรักษาเยียวยาได้
09:29
Secondly, we can use materials.
172
569000
2000
ประการที่สอง, เราสามารถใช้วัสดุ
09:31
We heard yesterday about the importance of new materials.
173
571000
3000
เมื่อวานเราได้ฟังเรื่องเกี่ยวกับความสำคัญของวัสดุใหม่ๆ
09:34
If we can invent materials, design materials,
174
574000
3000
ถ้าเราสามารถประดิษฐ์วัสดุ, ออกแบบวัสดุ,
09:37
or extract materials from a natural environment,
175
577000
3000
หรือสกัดวัสดุจากสภาวะแวดล้อมตามธรรมชาติ,
09:40
then we might be able to have those materials induce the body to heal itself.
176
580000
4000
แล้ว เราอาจจะสามารถให้วัสดุเหล่านั้นมากระตุ้นร่างกายให้เยียวยารักษาตัวเองได้
09:44
And finally, we may be able to use smart devices
177
584000
3000
และในที่สุด, เราอาจจะสามารถใช้เครื่องมือฉลาดๆ
09:47
that will offload the work of the body and allow it to heal.
178
587000
4000
ที่จะแบ่งเบาภาระการทำงานของร่างกาย และให้ร่างกายรักษาตนเองได้
09:52
I'm going to show you an example of each of these,
179
592000
2000
ผมจะแสดงตัวอย่างให้คุณเห็นในแต่ละเรื่อง,
09:54
and I'm going to start with materials.
180
594000
2000
และผมจะเริ่มจากเรื่องของวัสดุ
09:56
Steve Badylak -- who's at the University of Pittsburgh --
181
596000
2000
สตีฟ แบดิแล็ก -- จากมหาวิทยาลัยพิทส์เบิร์ก
09:58
about a decade ago had a remarkable idea.
182
598000
3000
ประมาณทศวรรษที่แล้วได้ให้แนวคิดที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่ง
10:01
And that idea was that the small intestine of a pig,
183
601000
4000
และความคิดที่ว่านั้นก็คือ ลำไส้เล็กของหมู,
10:05
if you threw away all the cells,
184
605000
2000
ถ้าเราทิ้งเซลล์ทั้งหมดไป,
10:08
and if you did that in a way that allowed it to remain biologically active,
185
608000
4000
และถ้าเราทิ้งมันไปในแบบที่ให้มันยังคงทำงานทางชีวภาพได้,
10:12
may contain all of the necessary factors and signals
186
612000
3000
อาจจะมีองค์ประกอบและสัญญาณที่จำเป็นอยู่ทั้งหมด
10:15
that would signal the body to heal itself.
187
615000
2000
ซึ่งจะส่งสัญญาณให้ร่างกายเยียวยาและรักษาตนเอง
10:17
And he asked a very important question.
188
617000
2000
นอกจากนี้เขายังตั้งคำถามที่สำคัญมากไว้
10:19
He asked the question,
189
619000
1000
เขาถามว่า
10:20
if I take that material, which is a natural material
190
620000
3000
ถ้าฉันเอาวัสดุนั้น, ซึ่งเป็นวัสดุตามธรรมชาติ
10:23
that usually induces healing in the small intestine,
191
623000
3000
ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการเยียวยาขึ้นในลำไส้เล็ก,
10:26
and I place it somewhere else on a person's body,
192
626000
4000
และฉันก็เอาวัตถุนั้นไปใส่ไว้ที่ใดที่หนึ่งในร่างกายของคน,
10:30
would it give a tissue-specific response,
193
630000
3000
มันจะให้การตอบรับจากเนื้อเยื่อเฉพาะที่นั้นๆหรือไม่,
10:33
or would it make small intestine if I tried to make a new ear?
194
633000
3000
หรือมันจะสร้างลำไส้เล็กขึ้นมา เมื่อฉันพยายามจะสร้างหูขึ้นใหม่
10:37
I wouldn't be telling you this story if it weren't compelling.
195
637000
5000
ผมจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้คุณฟัง ถ้ามันไม่เป็นเรื่องที่เตื่นเต้นเร้าใจ
10:42
The picture I'm about to show you
196
642000
2000
ภาพที่ผมกำลังจะแสดงให้คุณดู --
10:44
is a compelling picture.
197
644000
2000
(เสียงหัวเราะ)
10:46
(Laughter)
198
646000
2000
--เป็นภาพที่น่าเร้าใจ
10:48
However, for those of you that are even the slightest bit squeamish --
199
648000
3000
แต่, สำหรับคุณซึ่งแม้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนบ้างเล็กน้อย --
10:51
even though you may not like to admit it in front of your friends --
200
651000
3000
ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่อยากยอมรับต่อหน้าเพื่อนของคุณ --
10:54
the lights are down. This is a good time to look at your feet,
201
654000
3000
แสงไฟลดลงแล้ว เป็นเวลาเหมาะที่จะเมินไปดูเท้าของคุณ,
10:57
check your Blackberry, do anything other than look at the screen.
202
657000
4000
ตรวจมือถือแบล็กเบอรี่ของคุณ, ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่การดูที่จอภาพ
11:02
(Laughter)
203
662000
3000
(เสียงหัวเราะ)
11:05
What I'm about to show you is a diabetic ulcer.
204
665000
4000
สิ่งที่ผมกำลังจะฉายให้ดู คือแผลเน่าเปื่อยจากโรคเบาหวาน
11:09
And although -- it's good to laugh before we look at this.
205
669000
3000
และถึงแม้ว่า--ดีที่หัวเราะก่อนดูภาพนี้
11:12
This is the reality of diabetes.
206
672000
2000
นี่คือความเป็นจริงของโรคเบาหวาน
11:14
I think a lot of times we hear about diabetics, diabetic ulcers,
207
674000
3000
ผมคิดว่า หลายครั้งที่เราได้ยินเกี่ยวกับเบาหวาน, แผลเบาหวาน,
11:17
we just don't connect the ulcer with the eventual treatment,
208
677000
5000
เราเพียงแค่ไม่เอาไปเชื่อมโยงกันระหว่างแผลเบาหวานกับการรักษาขั้นสุดท้าย,
11:22
which is amputation, if you can't heal it.
209
682000
2000
ซึ่งก็คือการตัดทิ้ง, ถ้าเราไม่สามารถรักษาให้หายได้
11:24
So I'm going to put the slide up now. It won't be up for long.
210
684000
3000
เอาละ ผมจะฉายสไลด์เดี๋ยวนี้ จะฉายไม่นานหรอก
11:27
This is a diabetic ulcer. It's tragic.
211
687000
3000
นี่คือแผลเน่าจากโรคเบาหวาน น่าสลดใจ
11:30
The treatment for this is amputation.
212
690000
2000
การรักษาสำหรับรายนี้ก็คือ การตัดทิ้ง
11:32
This is an older lady. She has cancer of the liver as well as diabetes,
213
692000
4000
ผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้หญิงมีอายุ เป็นโรคมะเร็งตับและเป็นเบาหวาน,
11:36
and has decided to die with what' s left of her body intact.
214
696000
4000
และได้ตัดสินใจแล้วว่าจะตายพร้อมกับอวัยวะที่เหลือติดอยู่กับร่างกาย
11:41
And this lady decided, after a year of attempted treatment of that ulcer,
215
701000
5000
และหญิงคนนี้ตัดสินใจ, หลังจากได้พยายามรักษาแผลเปื่อยอยู่หนึ่งปี,
11:46
that she would try this new therapy that Steve invented.
216
706000
3000
ว่าเธอจะลองใช้วิธีการรักษาแบบใหม่ที่สตีฟคิดขึ้น
11:49
That's what the wound looked like 11 weeks later.
217
709000
3000
นี่เป็นแผลที่เราเห็น 11 สัปดาห์หลังจากนั้น
11:52
That material contained only natural signals.
218
712000
3000
วัสดุที่ใช้มีเพียงสัญญาณตามธรรมชาติ
11:56
And that material induced the body to switch back on a healing response
219
716000
4000
และวัตถุนั้นได้กระตุ้นให้ร่างกายเปลี่ยนกลับไปสู่การตอบสนองด้วยการเยียวยา
12:00
that it didn't have before.
220
720000
2000
ซึ่งแต่เดิมร่างกายไม่เคยมีมาก่อน
12:02
There's going to be a couple more distressing slides for those of you --
221
722000
3000
จะมีสไลด์ที่น่าสลดใจมากกว่านี้อีกสองแผ่นสำหรับคุณ --
12:05
I'll let you know when you can look again.
222
725000
2000
ผมจะบอกคุณว่าคุณจะดูได้อีกเมื่อไร
12:07
This is a horse. The horse is not in pain.
223
727000
3000
นี่คือม้า ม้าตัวนี้ไม่เจ็บปวด
12:10
If the horse was in pain, I wouldn't show you this slide.
224
730000
2000
ถ้าม้าตัวนี้เจ็บปวดผมจะไม่ฉายสไลด์นี้ให้คุณดู
12:12
The horse just has another nostril that's developed
225
732000
3000
ม้าตัวนี้แค่มีโพรงจมูกโตขึ้นอีกโพรงหนึ่ง
12:15
because of a riding accident.
226
735000
2000
เนื่องจากอุบัติเหตุการขี่ม้า
12:17
Just a few weeks after treatment --
227
737000
1000
เพียงสองสามสัปดาห์หลังการรักษา --
12:18
in this case, taking that material, turning it into a gel,
228
738000
3000
ในรายนี้, ได้รับวัสดุที่ว่านั้น, ได้เปลี่ยนโพรงให้กลายเป็นวุ้น
12:21
and packing that area, and then repeating the treatment a few times --
229
741000
4000
และอัดแน่นบริเวณนั้น, แล้วจึงให้การรักษาซึ้าอีกสองสามครั้ง --
12:25
and the horse heals up.
230
745000
2000
แล้วม้าก็หายเป็นปกติ
12:27
And if you took an ultrasound of that area, it would look great.
231
747000
2000
และถ้าคุณใช้อัลทราซาวนด์ตรวจบริเวณนั้น, จะดูดีมาก
12:29
Here's a dolphin where the fin's been re-attached.
232
749000
3000
นี่เป็นปลาโลมาที่ครีบของมันถูกทำให้ติดกันอีก
12:32
There are now 400,000 patients around the world
233
752000
3000
ขณะนี้มีคนป่วยประมาณ 400,000 คนทั่วโลก
12:35
who have used that material to heal their wounds.
234
755000
3000
ที่ได้ใช้วัสดุที่ว่านี้เพื่อรักษาบาดแผล
12:38
Could you regenerate a limb?
235
758000
2000
เราจะทำให้แขนขางอกขึ้นไดัไหม?
12:41
DARPA just gave Steve 15 million dollars to lead an eight-institution project
236
761000
4000
ดาร์ปาเพิ่งจะมอบเงินให้สตีฟ 15 ล้านดอลลาร์เพื่อเป็นผู้นำในโครงการที่ร่วมกับสถาบันแปดแห่ง
12:45
to begin the process of asking that question.
237
765000
3000
เพื่อตั้งต้นกระบวนการตอบคำถามนั้น
12:48
And I'll show you the 15 million dollar picture.
238
768000
2000
ผมจะฉายภาพของเงิน 15 ล้านดอลลาร์นั้น
12:51
This is a 78 year-old man who's lost the end of his fingertip.
239
771000
3000
นี่เป็นชายแก่อายุ 78 ปีซึ่งเสียปลายนิ้วมือไป
12:54
Remember that I mentioned before the children who lose their fingertips.
240
774000
4000
ยังคงจำได้ที่ผมพูดก่อนหน้านี้เรื่องเด็กที่เสียปลายนิ้วมือไป
12:58
After treatment that's what it looks like.
241
778000
2000
หลังการรักษาก็เป็นอย่างที่เห็นนี่
13:01
This is happening today.
242
781000
2000
สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นแล้วในวันนี้
13:03
This is clinically relevant today.
243
783000
3000
สิ่งนี้เป็นแนวคิดทางการแพทย์ที่ตรงกับปัจจุบัน
13:06
There are materials that do this. Here are the heart patches.
244
786000
3000
มีวัสดุต่างๆที่ได้ทำสิ่งนี้ มีชิ้นส่วนวัสดุสำหรับปะหัวใจ
13:09
But could you go a little further?
245
789000
2000
แต่เราสามารถไปให้ไกลกว่านี้ได้อีกหน่อยไหม
13:11
Could you, say, instead of using material,
246
791000
2000
เช่น, แทนที่จะใช้วัสดุ,
13:13
can I take some cells along with the material,
247
793000
2000
เราเอาเซลล์พร้อมกับวัสดุ,
13:15
and remove a damaged piece of tissue,
248
795000
2000
แล้วเอาชิ้นส่วนของเนื้อเยื่อที่เสียหายออกไป,
13:17
put a bio-degradable material on there?
249
797000
3000
เอาวัตถุที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายใส่เข้าไปตรงนั้น
13:20
You can see here a little bit of heart muscle beating in a dish.
250
800000
3000
ภาพนี้คุณสามารถเห็นกล้ามเนื้อหัวใจชิ้นเล็กๆกำลังเต้นอยู่ในถ้วย
13:23
This was done by Teruo Okano at Tokyo Women's Hospital.
251
803000
5000
เทรุโอะ โอกาโนได้ทำสิ่งนี้ขึ้นที่โรงพยาบาลหญิงแห่งกรุงโตเกียว
13:28
He can actually grow beating tissue in a dish.
252
808000
2000
เขาสามารถปลูกเนื้อเยื่อซึ่งกำลังเต้นอยู่ในถ้วยได้จริงๆ
13:31
He chills the dish, it changes its properties
253
811000
2000
เขาทำให้ถ้วยแข็งตัว, มันจึงเปลี่ยนคุณสมบัติของมัน
13:33
and he peels it right out of the dish.
254
813000
2000
แล้วเขาสามารถลอกมันออกมาจากถ้วยได้
13:35
It's the coolest stuff.
255
815000
1000
นี่เป็นเรื่องที่เยี่ยมสุดๆ
13:38
Now I'm going to show you cell-based regeneration.
256
818000
2000
ตอนนี้ผมจะแสดงให้คุณเห็นการสร้างขึ้นใหม่ในระดับเซลล์
13:40
And what I'm going to show you here
257
820000
2000
และสิ่งที่ผมกำลังจะแสดงให้คุณเห็นตรงนี้
13:42
is stem cells being removed from the hip of a patient.
258
822000
3000
ก็คือเซลล์ต้นตอที่ถูกเอาออกจากสะโพกของผู้ป่วย
13:46
Again, if you're squeamish, you don't want to watch.
259
826000
2000
อีกครั้ง, ถ้าคุณรุ้สึกผะอืดผะอมก็ไม่ต้องดู
13:48
But this one's kind of cool.
260
828000
1000
แต่อันนี้เป็นแบบเยี่ยมยอด
13:49
So this is a bypass operation, just like what Al Gore had,
261
829000
6000
นี่เป็นการผ่าตัดบายพาสส์, แบบเดียวกับที่อัลกอร์ได้ทำ,
13:55
with a difference.
262
835000
1000
แต่ต่างกันตรงที่
13:56
In this case, at the end of the bypass operation,
263
836000
3000
ในรายนี้,ตอนสุดท้ายของการผ่าตัด,
13:59
you're going to see the stem cells from the patient
264
839000
2000
คุณจะเห็นเซลล์ต้นตอจากผู้ป่วย
14:01
that were removed at the beginning of the procedure
265
841000
2000
ซึ่งตอนแรกของกระบวนการถูกนำออกมา
14:03
being injected directly into the heart of the patient.
266
843000
3000
ถูกฉีดเข้าไปที่หัวใจของผู้ป่วยโดยตรง
14:07
And I'm standing up here because at one point
267
847000
2000
และที่ผมมายืนอยู่บนนี้ก็เพราะว่า ณ จุดหนึ่ง
14:09
I'm going to show you just how early this technology is.
268
849000
3000
ผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าเทคโนโลยี่นี้เพิ่งจะเริ่มต้น
14:12
Here go the stem cells, right into the beating heart of the patient.
269
852000
3000
นั่นเซลล์ต้นตอลงไปแล้ว, ตรงเข้าไปในหัวใจของผู้ป่วยที่กำลังเต้น
14:15
And if you look really carefully,
270
855000
1000
และถ้าคุณดูอย่างพินิจพิเคราะห์จริงๆ,
14:16
it's going to be right around this point
271
856000
2000
จะเป็นประมาณตอนนี้แหละ
14:18
you'll actually see a back-flush.
272
858000
2000
ที่คุณจะเห็นการไหลกลับ
14:20
You see the cells coming back out.
273
860000
2000
คุณเห็นเซลล์กลับออกมา
14:24
We need all sorts of new technology, new devices,
274
864000
2000
เราจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยี่แบบใหม่ๆทั้งหมด, เครื่องมือใหม่ๆ,
14:26
to get the cells to the right place at the right time.
275
866000
3000
เพื่อนำเซลล์ไปให้ถูกที่ถูกเวลา
14:31
Just a little bit of data, a tiny bit of data.
276
871000
2000
เป็นเพียงข้อมูลเล็กน้อย, แค่ข้อมูลอันเล็กน้อย
14:33
This was a randomized trial.
277
873000
2000
นี่เป็นการทดลองหนึ่งที่สุ่มมา
14:35
At this time this was an N of 20. Now there's an N of about 100.
278
875000
3000
ตอนนั้นนี่เป็นหนึ่งใน 20 แต่ปัจจุบันมีจำนวนเป็นหนึ่งใน 100
14:39
Basically, if you take an extremely sick patient
279
879000
2000
โดยสาระสำคัญแล้ว, ถ้าคุณนำคนป่วยหนักมากๆมาคนหนึ่ง
14:41
and you give them a bypass, they get a little bit better.
280
881000
2000
แล้วคนก็ทำบายพาสให้, เขาก็จะมีอาการดีขึ้นเล็กน้อย
14:43
If you give them stem cells as well as their bypass,
281
883000
3000
ถ้าคุณให้เขาทั้งเซลล์ต้นตอและบายพาส,
14:46
for these particular patients, they became asymptomatic.
282
886000
3000
สำหรับคนไข้เหล่านี้แล้ว, เขาจะไม่มีอาการป่วยเลย
14:49
These are now two years out.
283
889000
2000
นี่ก็เป็นเวลาสองปีแล้ว
14:53
The coolest thing would be is if you could diagnose the disease early,
284
893000
3000
สิ่งที่เยี่ยมสุดๆก็คือ ถ้าเราสามารถวินิจฉัยโรคได้แต่เนิ่นๆ,
14:56
and prevent the onset of the disease to a bad state.
285
896000
4000
และป้องกันการลุกลามของโรคไปสู่ขั้นร้ายแรง
15:00
This is the same procedure, but now done minimally invasively,
286
900000
4000
นี้เป็นกระบวนการเดียวกัน, แต่ปัจจุบันกระทำแบบผ่าตัดร่างกายน้อยที่สุด,
15:04
with only three holes in the body where they're taking the heart
287
904000
3000
แค่รูสามรูในร่างกายที่หมอได้เข้าถึงหัวใจ
15:07
and simply injecting stem cells through a laparoscopic procedure.
288
907000
4000
และเพียงแค่ฉีดเซลล์ต้นตอโดยกระบวนการส่องกล้องเข้าไป
15:11
There go the cells.
289
911000
1000
เซลล์ก็เข้าไปได้
15:12
We don't have time to go into all of those details,
290
912000
3000
เราไม่มีเวลาจะเข้าไปสู่รายละเอียดทั้งหมด,
15:15
but basically, that works too.
291
915000
2000
แต่โดยสาระสำคัญแล้ว, สิ่งที่ทำนั้นได้ผลเช่นเดียวกัน
15:17
You can take patients who are less sick,
292
917000
3000
คุณสามารถรักษาผู้ป่วยซึ่งมีอาการน้อย,
15:20
and bring them back to an almost asymptomatic state
293
920000
4000
และช่วยให้เขากลับสู่สภาวะเกือบจะไม่มีอาการป่วยเลย
15:24
through that kind of therapy.
294
924000
2000
โดยใช้วิธีการรักษาดังกล่าว
15:26
Here's another example of stem-cell therapy that isn't quite clinical yet,
295
926000
4000
นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ใช้เซลล์ต้นตอรักษาซึ่งยังไม่ได้เป็นแบบแผนทางการแพทย์เสียทีเดียว,
15:30
but I think very soon will be.
296
930000
2000
แต่ผมคิดว่าในไม่ช้าก็จะเป็นที่ยอมรับ
15:32
This is the work of Kacey Marra from Pittsburgh,
297
932000
2000
เป็นผลงานของ เคซี่ มาร์รา จาก พิทส์เบิร์ก
15:34
along with a number of colleagues around the world.
298
934000
2000
กับเพื่อนร่วมงานหลายคนรอบโลก
15:36
They've decided that liposuction fluid,
299
936000
3000
พวกเขาสรุปว่า ไขมันเหลวที่ถูกดูดออกมา,
15:39
which -- in the United States, we have a lot of liposuction fluid.
300
939000
3000
ซึ่ง -- ในอเมริกา, เรามีไขมันที่ดูดออกจากร่างกายมากมาย
15:42
(Laughter)
301
942000
1000
(เสียงหัวเราะ)
15:43
It's a great source of stem cells.
302
943000
2000
เป็นแหล่งที่มาสำคัญของเซลล์ต้นตอ
15:45
Stem cells are packed in that liposuction fluid.
303
945000
3000
เซลล์ต้นตอถูกอัดอยู่ในไขมันเหลวนั้น
15:48
So you could go in, you could get your tummy-tuck.
304
948000
3000
ดังนั้นคุณก็ทำได้, คุณไปทำให้พุงของคุณแฟบ
15:51
Out comes the liposuction fluid,
305
951000
2000
ไขมันเหลวก็จะออกมา,
15:53
and in this case, the stem cells are isolated and turned into neurons.
306
953000
4000
และในกรณีนี้, เซลล์ต้นตอก็จะถูกแยกออกมาและถูกเปลี่ยนเป็นเซลล์ประสาท
15:58
All done in the lab.
307
958000
1000
ทุกอย่างกระทำในห้องปฏิบัติการ
15:59
And I think fairly soon, you will see patients being treated
308
959000
3000
และผมคิดว่าในเร็วๆนื้ คุณจะได้เห็นคนไข้ได้รับการรักษา
16:02
with their own fat-derived, or adipose-derived, stem cells.
309
962000
4000
ด้วยเซลล์ต้นตอที่แปลงมาจากไขมัน หรือเซลล์ที่มีไขมันเป็นองค์ประกอบ
16:07
I talked before about the use of devices
310
967000
2000
ก่อนหน้านี้ผมได้พูดเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือ
16:09
to dramatically change the way we treat disease.
311
969000
3000
เพื่อเปลี่ยนวิธีการที่เรารักษาโรคอย่างสิ้นเชิง
16:12
Here's just one example before I close up.
312
972000
2000
นี่เป็นเพียงอีกต้วอย่างหนึ่งก่อนที่ผมจะจบ
16:14
This is equally tragic.
313
974000
2000
นี่ก็น่าเศร้าสลดพอๆกัน
16:16
We have a very abiding and heartbreaking partnership
314
976000
3000
เรามีความสัมพันธ์ซึ่งยืนยาวและเศร้าใจมากๆ
16:19
with our colleagues at the Institute for Surgical Research in the US Army,
315
979000
4000
กับเพื่อนร่วมงานของเราที่สถาบันการวิจัยศัลยกรรมในกองทัพบกของสหรัฐอเมริกา,
16:23
who have to treat the now 11,000 kids that have come back from Iraq.
316
983000
5000
ซึ่งปัจจุบันต้องให้การรักษาเด็กหนุ่ม 11,000คนที่กลับมาจากอีรัค
16:28
Many of those patients are very severely burned.
317
988000
2000
คนไข้จำนวนนี้หลายคนเป็นแผลไหม้ที่อาการรุนแรง
16:30
And if there's anything that's been learned about burn,
318
990000
2000
และถ้ามีสิ่งใดที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับแผลไหม้,
16:32
it's that we don't know how to treat it.
319
992000
2000
สิ่งนั้นก็คือเราไม่รู้ว่าจะรักษาอย่างไร
16:34
Everything that is done to treat burn --
320
994000
2000
ทุกสิ่งที่ทำไปแล้วเกี่ยวกับการรักษาแผลไหม้ --
16:36
basically we do a sodding approach.
321
996000
2000
ที่สำคัญเราใช้วิธีแบบเอาแผ่นหญ้าไปปะสนาม
16:39
We make something over here,
322
999000
2000
เราทำบางสิ่งที่นี่,
16:41
and then we transplant it onto the site of the wound,
323
1001000
2000
แล้วเราก็ย้ายสิ่งนั้นไปวางที่บริเวณบาดแผล,
16:43
and we try and get the two to take.
324
1003000
2000
และเราก็พยายามทำให้ทั้งสองส่วนเชื่อมต่อกัน
16:45
In this case here, a new, wearable bio-reactor has been designed --
325
1005000
4000
แต่ในรายนี้, ได้เพาะเนื้อเยื่อใหม่ที่สามารถนำไปสวมได้ขึ้นมา --
16:49
it should be tested clinically later this year at ISR --
326
1009000
3000
ซึ่งจะได้รับการทดสอบทางการแพทย์ต่อไปในปีนี้ที่ ไอเอสอาร์ --
16:52
by Joerg Gerlach in Pittsburgh.
327
1012000
2000
โดย เยอรก์ เกอร์แลค ที่ พิทส์เบอร์ก
16:54
And that bio-reactor will lay down in the wound bed.
328
1014000
3000
และเนื้อเยื่อนั้นจะนอนอยู่ในร่องของแผล
16:57
The gun that you see there sprays cells.
329
1017000
3000
ปืนที่คุณเห็นอยู่นั่นฉีดพ่นเซลล์ลงไป
17:00
That's going to spray cells over that area.
330
1020000
3000
จะฉีดพ่นเซลล์ลงบนบริเวณนั้น
17:03
The reactor will serve to fertilize the environment,
331
1023000
3000
เนื้อเยื่อนั้นจะทำหน้าที่บำรุงเลี้ยงสภาพรอบๆ,
17:06
deliver other things as well at the same time,
332
1026000
3000
ในเวลาเดียวกันก็นำพาสิ่งอื่นๆมาด้วย,
17:09
and therefore we will seed that lawn,
333
1029000
3000
นั่นคือเราก็จะเพาะเมล็ดหญ้าลงบนสนาม,
17:12
as opposed to try the sodding approach.
334
1032000
2000
ซึ่งตรงกันข้ามกับปลูกหญ้าโดยใช้วิธีนำแผ่นหญ้ามาปะ
17:14
It's a completely different way of doing it.
335
1034000
2000
เป็นวิธีการซึ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
17:18
So my 18 minutes is up.
336
1038000
2000
ในที่สุด เวลา 18 นาทีของผมก็หมดลงแล้ว
17:20
So let me finish up with some good news,
337
1040000
2000
ดังนั้นให้ผมจบด้วยข่าวดีบ้าง,
17:22
and maybe a little bit of bad news.
338
1042000
2000
แต่อาจจะมีข่าวร้ายบ้างนิดหน่อย
17:25
The good news is that this is happening today.
339
1045000
3000
ข่าวดีก็คือว่าเรื่องนี้กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
17:28
It's very powerful work.
340
1048000
2000
เป็นผลงานที่มีอิทธิพลมาก
17:30
Clearly the images kind of get that across.
341
1050000
2000
เห็นได้ชัดจากภาพต่างๆที่นำมาเสนอ
17:32
It's incredibly difficult because it's highly inter-disciplinary.
342
1052000
3000
เป็นเรื่องยากอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะว่าเป็นเรื่องของหลายๆศาสตร์มาสัมพันธ์กัน
17:35
Almost every field of science engineering and clinical practice
343
1055000
4000
เกือบจะทุกๆสาขาของวิศวกรรม, วิทยาศาสตร์ และแนวปฏิบัติทางการแพทย์
17:39
is involved in trying to get this to happen.
344
1059000
3000
เข้ามาเกี่ยวข้องกันเพื่อทำให้งานนี้เกิดขึ้น
17:43
A number of governments, and a number of regions,
345
1063000
2000
รัฐบาลจำนวนมากและภูมิภาคต่างๆหลายแห่ง
17:45
have recognized that this is a new way to treat disease.
346
1065000
3000
ได้เห็นความสำคัญว่าสิ่งนี้เป็นวิธีการใหม่ของการรักษาโรค
17:48
The Japanese government were perhaps the first,
347
1068000
2000
รัฐบาลญี่ปุ่นอาจจะเป็นรัฐบาลแรก,
17:50
when they decided to invest first 3 billion,
348
1070000
3000
ที่ตัดสินใจลงทุนสามพันล้านในครั้งแรก,
17:53
later another 2 billion in this field.
349
1073000
3000
หลังจากนั้นอีกสองพันล้านในสาขานี้
17:56
It's no coincidence.
350
1076000
1000
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
17:57
Japan is the oldest country on earth in terms of its average age.
351
1077000
3000
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่แก่ที่สุดในโลกในเรื่องของอัตราเฉลี่ยอายู
18:00
They need this to work or their health system dies.
352
1080000
4000
ญี่ปุ่นต้องการให้สิ่งนี้ได้ผลมิฉะนั้นแล้วระบบการรักษาพยาบาลของเขาจะล่มสลาย
18:05
So they're putting a lot of strategic investment focused in this area.
353
1085000
3000
ดังนั้นการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์จำนวนมากจึงมุ่งเน้นมาในสาขานี้
18:09
The European Union, same thing.
354
1089000
2000
สหภาพยุโรปก็เหมือนกัน
18:11
China, the same thing.
355
1091000
2000
จีนก็เหมือนกัน
18:13
China just launched a national tissue-engineering center.
356
1093000
2000
จีนเพิ่งจะเปิดศูนย์วิศวกรรมเนื้อเยื่อแห่งชาติ
18:15
The first year budget was 250 million US dollars.
357
1095000
4000
งบประมาณในปีแรกเป็นเงิน 250 ล้านเหรียญดอลลาร์อเมริกัน
18:19
In the United States we've had a somewhat different approach.
358
1099000
4000
ในสหรัฐอเมริกาเราได้มีวิธีการที่ต่างออกไปบ้าง เรา --
18:23
(Laughter)
359
1103000
3000
(เสียงหัวเราะ)
18:26
Oh, for Al Gore to come and be in the real world as president.
360
1106000
4000
--โอ้, สำหรับอัล กอร์เพื่อมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงในฐานะประธานาธิบดี
18:30
We've had a different approach.
361
1110000
1000
เราได้มีวิธีการต่างออกไป
18:31
And the approach has basically been to just sort of fund things as they come along.
362
1111000
4000
และวิธีการที่เป็นอยู่โดยสาระสำคัญคือ เพียงให้ทุนแก่โครงการที่ออกมา
18:35
But there's been no strategic investment
363
1115000
3000
แต่ไม่มีการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์
18:38
to bring all of the necessary things to bear and focus them in a careful way.
364
1118000
6000
เพื่อนำทุกสิ่งที่จำเป็นมาและเน้นใช้สิ่งเหล่านั้นอย่างละเอียดรอบคอบ
18:44
And I'm going to finish up with a quote, maybe a little cheap shot,
365
1124000
3000
ผมจะจบด้วยคำกล่าวอ้าง, อาจจะเป็นคำต่อว่านิดหน่อย,
18:47
at the director of the NIH, who's a very charming man.
366
1127000
4000
กับผู้อำนวยการของเอ็นไอเอช, ซึ่งเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก
18:53
Myself and Jay Vacanti from Harvard
367
1133000
2000
ตัวผมเองและ เจ วาคันทิ จากฮาร์เวิร์ด
18:55
went to visit with him and a number of his directors of his institute
368
1135000
5000
ไปพบปะกับเขาและผู้อำนวยการคนอื่นของสถาบันของเขา
19:00
just a few months ago,
369
1140000
2000
สองสามเดือนที่แล้วนี่เอง,
19:03
to try and convince him that it was time to take just a little piece
370
1143000
5000
เพื่อที่จะพยายามทำให้เขาเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องขอเอาส่วนเพียงเล็กน้อย
19:08
of that 27.5 billion dollars that he's going to get next year
371
1148000
4000
ของเงินจำนวน 27.5 พันล้านดอลลาร์ที่เขาจะได้รับในปีหน้า
19:12
and focus it, in a strategic way, to make sure we can accelerate the pace
372
1152000
5000
และเน้นนำมาใช้, อย่างมียุทธศาสตร์, เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถเร่งก้าวอย่างเร็ว
19:17
at which these things get to patients.
373
1157000
2000
ที่จะนำสิ่งเหล่านี้ไปสู่คนป่วย
19:20
And at the end of a very testy meeting,
374
1160000
2000
ตอนสุดท้ายของการพูดคุยกันที่ไม่สบอารมย์มากๆนี้
19:22
what the NIH director said was,
375
1162000
2000
สิ่งที่ผู้อำนวยการเอ็นไอเอชพูดก็คือ
19:24
"Your vision is larger than our appetite."
376
1164000
2000
"วิสัยทัศน์ของคุณนั้นใหญ่เกินกว่าความปรารถนาของเรา"
19:26
I'd like to close by saying that no one's going to change our vision,
377
1166000
4000
ผมขอจบด้วยการกล่าวว่าไม่มีผู้ใดจะเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของเราได้,
19:30
but together we can change his appetite.
378
1170000
2000
แต่รวมกันเราสามารถเปลี่ยนความปรารถนาของเขาได้
19:32
Thank you.
379
1172000
1000
ขอบคุณครับ
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7