Mihaly Csikszentmihalyi: Flow, the secret to happiness

1,017,224 views ・ 2008-10-24

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Thipnapa Huansuriya Reviewer: Worawach Tungjitcharoen
00:12
I grew up in Europe, and World War II caught me
0
12160
5000
ผมโตในยุโรป แล้วก็ได้สัมผัสกับสงครามโลกครั้งที่สอง
00:17
when I was between seven and 10 years old.
1
17160
4000
เมื่อตอนที่อายุระหว่าง 7-10 ขวบ
00:21
And I realized how few of the grown-ups that I knew
2
21160
7000
ผมได้ตระหนักว่า ในบรรดาผู้ใหญ่ที่ผมรู้จัก มีแค่ไม่กี่คน
00:28
were able to withstand the tragedies that the war visited on them --
3
28160
10000
ที่สามารถยืนหยัดเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมที่มาพร้อมกับสงครามได้
00:38
how few of them could even resemble a normal, contented,
4
38160
8000
น้อยคนนักที่ยังคงมีชีวิตใกล้เคียงปกติ พึงพอใจ
00:46
satisfied, happy life once their job, their home, their security
5
46160
9000
และมีความสุขอยู่ได้ เมื่องาน บ้าน และความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต
00:55
was destroyed by the war.
6
55160
2000
ถูกทำลายเพราะสงคราม
00:57
So I became interested in understanding
7
57160
3000
ผมจึงเริ่มอยากทำความเข้าใจ
01:00
what contributed to a life that was worth living.
8
60160
5000
ว่าอะไรที่ทำให้ชีวิตที่มีคุณค่าควรแก่การดำรงอยู่
01:05
And I tried, as a child, as a teenager, to read philosophy
9
65160
6000
ดังนั้น ตั้งแต่ยังวัยรุ่น ผมจึงอ่านปรัชญา
01:11
and to get involved in art and religion and many other ways
10
71160
8000
ทำงานศิลปะ เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา และอะไรอีกหลายอย่าง
01:19
that I could see as a possible answer to that question.
11
79160
4000
ที่ผมคิดว่าน่าจะให้คำตอบต่อคำถามนั้นได้
01:23
And finally I ended up encountering psychology by chance.
12
83160
9000
ในที่สุด ผมก็ได้มาเจอจิตวิทยาเข้าโดยบังเอิญ
01:32
I was at a ski resort in Switzerland without any money
13
92160
5000
ตอนนั้นผมอยู่ในรีสอร์ตเพื่อการเล่นสกีแห่งหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์โดยไม่มีเงินติดตัว
01:37
to actually enjoy myself, because the snow had melted and
14
97160
8000
ผมก็สนุกนะ เพราะหิมะละลายแล้ว แล้วก็มี --
01:45
I didn't have money to go to a movie. But I found that on the --
15
105160
5000
คือ ผมไม่มีเงินไปดูหนัง แต่ผมพบว่า --
01:50
I read in the newspapers that there was to be a presentation
16
110160
5000
ผมอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ว่าจะมีปาฐกถาอันหนึ่ง
01:55
by someone in a place that I'd seen in the center of Zurich,
17
115160
6000
โดยใครคนหนึ่งจากที่ไหนสักแห่งที่ผมเคยเห็นในใจกลางเมืองซูริค
02:01
and it was about flying saucers [that] he was going to talk.
18
121160
6000
เขาจะพูดเรื่องจานบิน
02:07
And I thought, well, since I can't go to the movies,
19
127160
2000
ผมเลยคิดว่า อืม ผมไม่มีเงินไปดูหนัง
02:09
at least I will go for free to listen to flying saucers.
20
129160
6000
อย่างน้อยไปฟังคนพูดเรื่องจานบินก็ยังดี เพราะมันฟรี
02:15
And the man who talked at that evening lecture was very interesting.
21
135160
9000
สุภาพบุรุษที่มาพูดคืนนั้นเป็นคนน่าสนใจมาก
02:24
Instead of talking about little green men,
22
144160
3000
แทนที่เขาจะพูดถึงมนุษย์จิ๋วตัวเขียว
02:27
he talked about how the psyche of the Europeans
23
147160
5000
เขาพูดถึงจิตของคนยุโรป
02:32
had been traumatized by the war, and now they're projecting
24
152160
4000
ที่ทุกข์ทรมานเพราะสงคราม แล้วก็เลยสร้างภาพ
02:36
flying saucers into the sky.
25
156160
3000
จานบินขึ้นมาบนท้องฟ้า เหมือนกับ --
02:40
He talked about how the mandalas of ancient Hindu religion
26
160160
5000
เขาพูดถึงมันดาลา (mandalas - สัญลักษณ์แทนจักรวาล) ในศาสนาฮินดูโบราณ
02:45
were kind of projected into the sky as an attempt to regain
27
165160
7000
เหมือนว่าจิตคนเราสร้างภาพนั้นขึ้นบนท้องฟ้า เพื่อพยายามเรียกคืน
02:52
some sense of order after the chaos of war.
28
172160
4000
ความรู้สึกของความสงบเป็นระเบียบกลับมา หลังจากความวุ่นวายของสงคราม
02:56
And this seemed very interesting to me.
29
176160
3000
ผมว่ามันน่าสนใจมาก
02:59
And I started reading his books after that lecture.
30
179160
3000
ผมจึงเริ่มอ่านหนังสือของเขาหลังจากฟังเลคเชอร์ครั้งนั้น
03:02
And that was Carl Jung, whose name or work I had no idea about.
31
182160
8000
และนั่นคือคาร์ล ยุง ชื่อที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย
03:10
Then I came to this country to study psychology
32
190160
3000
แล้วผมก็มาที่ประเทศนี้ (อเมริกา) เพื่อเรียนจิตวิทยา
03:13
and I started trying to understand the roots of happiness.
33
193160
7000
และเริ่มพยายามทำความเข้าใจรากฐานของความสุข
03:20
This is a typical result that many people have presented,
34
200160
5000
นี่เป็นผลสำรวจที่หลายคนนำเสนอไปแล้ว
03:25
and there are many variations on it.
35
205160
3000
แล้วก็มีการสำรวจที่ดัดแปลงเพิ่มเติมไปจากนี้อีกหลายชิ้น
03:28
But this, for instance, shows that about 30 percent of the people
36
208160
4000
แต่อย่างชิ้นนี้ แสดงให้เห็นว่า 30% ของคนที่ตอบแบบสอบถาม
03:32
surveyed in the United States since 1956
37
212160
4000
ในอเมริกา ตั้งแต่ปี 1956
03:36
say that their life is very happy.
38
216160
4000
บอกว่าชีวิตเขามีความสุขมาก
03:40
And that hasn't changed at all.
39
220160
2000
และตัวเลขนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยจนวันนี้
03:42
Whereas the personal income,
40
222160
2000
ในขณะที่รายได้ส่วนบุคคล
03:44
on a scale that has been held constant to accommodate for inflation,
41
224160
6000
ที่ปรับค่าเงินเฟ้อแล้ว
03:50
has more than doubled, almost tripled, in that period.
42
230160
4000
เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า ที่จริงเกือบสามเท่าในช่วงเวลาเหล่านี้
03:54
But you find essentially the same results,
43
234160
4000
แต่คุณพบผลแบบเหมือนเดิมเลย
03:58
namely, that after a certain basic point -- which corresponds more or less
44
238160
5000
นั่นคือ ที่ระดับรายได้เหนือกว่าจุดจุดหนึ่ง ซึ่งอยู่ประมาณ
04:03
to just a few 1,000 dollars above the minimum poverty level --
45
243160
4000
ไม่กี่พันดอลล่าร์เหนือเกณฑ์ขั้นต่ำของความยากจน
04:07
increases in material well-being don't seem to affect how happy people are.
46
247160
7000
การมีความพรั่งพร้อมทางวัตถุมากขึ้นไม่ได้มีผลให้คนมีความสุขมากขึ้น
04:14
In fact, you can find that the lack of basic resources,
47
254160
7000
คือ คุณจะพบว่าการขาดแคลนวัตถุที่เป็นปัจจัยพี้นฐาน
04:21
material resources, contributes to unhappiness,
48
261160
3000
ทำให้คนเราเป็นทุกข์
04:24
but the increase in material resources does not increase happiness.
49
264160
6000
แต่การมีทรัพยากรที่เป็นวัตถุมากขึ้นไม่ได้ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น
04:30
So my research has been focused more on --
50
270160
5000
ดังนั้น งานวิจัยของผมจึงมุ่งศึกษา --
04:35
after finding out these things that actually corresponded
51
275160
7000
คือ หลังจากได้เห็นผลสำรวจนี้ ซึ่งก็สอดคล้องกับ
04:42
to my own experience, I tried to understand:
52
282160
3000
ประสบการณ์ของผมเอง ตอนนี้ผมก็เลยพยายามทำความเข้าใจ
04:45
where -- in everyday life, in our normal experience --
53
285160
6000
ว่าตอนไหน ตรงไหนในชีวิตประจำวัน ในประสบการณ์ปกติทั่วไปของเรา
04:51
do we feel really happy?
54
291160
3000
ที่เรามีความสุขอย่างแท้จริง
04:54
And to start
55
294160
4000
ผมเริ่มต้นโดย --
04:58
those studies about 40 years ago, I began to look at creative people --
56
298160
5000
เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ผมเริ่มศึกษาคนที่มีความคิดสร้างสรรค์
05:03
first artists and scientists, and so forth -- trying to understand
57
303160
6000
เริ่มจากศิลปินและนักวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ -- พยายามทำความเข้าใจ
05:09
what made them feel that it was worth essentially spending their life
58
309160
10000
ว่าอะไรทำให้เขารู้สึกว่า มันคุ้มที่จะใช้ชีวิต
05:19
doing things for which many of them didn't expect either fame or fortune,
59
319160
6000
ทำสิ่งที่พวกเขาหลายคนทำโดยไม่คาดหวังชื่อเสียงหรือความร่ำรวย
05:25
but which made their life meaningful and worth doing.
60
325160
5000
แต่เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเขามีความหมาย และควรค่าที่จะทำ
05:30
This was one of the leading composers of American music back in the '70s.
61
330160
6000
นี่เป็นข้อมูลจากนักประพันธ์เพลงชาวอเมริกันเมื่อยุค 70s
05:36
And the interview was 40 pages long.
62
336160
3000
บทสัมภาษณ์ของเขายาว 40 หน้า
05:39
But this little excerpt is a very good summary
63
339160
4000
แต่คำพูดสั้นๆ ที่ผมตัดตอนมานี้เป็นบทสรุปที่ดีมาก
05:43
of what he was saying during the interview.
64
343160
4000
ของสิ่งที่เขาพูดในระหว่างการสัมภาษณ์
05:47
And it describes how he feels when composing is going well.
65
347160
5000
มันบรรยายความรู้สึกของเขาระหว่างที่การแต่งเพลงลื่นไหลดี
05:52
And he says by describing it as an ecstatic state.
66
352160
4000
และเขาบรรยายว่ามันเป็นภาวะที่มีความปิติ (ecstasy)
05:56
Now, "ecstasy" in Greek meant
67
356160
2000
ทีนี้ คำว่า ecstasy ในภาษากรีก
05:58
simply to stand to the side of something.
68
358160
3000
แปลว่า ยืนอยู่อีกข้างหนึ่งของอะไรบางอย่าง
06:01
And then it became essentially an analogy for a mental state
69
361160
7000
แล้วต่อมามันก็มีความหมายเชิงเปรียบเทียบถึงสภาวะทางจิต
06:08
where you feel that you are not doing your ordinary everyday routines.
70
368160
6000
ที่คุณรู้สึกว่าคุณไม่ได้ทำสิ่งธรรมดาสามัญที่ทำในชีวิตประจำวัน
06:14
So ecstasy is essentially a stepping into an alternative reality.
71
374160
6000
ดังนั้น ecstasy (ที่เราแปลว่าความปิติ) จึงหมายถึงการก้าวเข้าสู่ความจริงอีกระดับหนึ่ง
06:20
And it's interesting, if you think about it, how, when we think about
72
380160
5000
น่าสนใจนะครับ ถ้าคุณลองคิดดู เมื่อเรานึกถึง
06:25
the civilizations that we look up to as having been pinnacles of human achievement --
73
385160
6000
อารยธรรมที่เราชื่นชมว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดของมนุษยชาติ
06:31
whether it's China, Greece, the Hindu civilization,
74
391160
5000
ไม่ว่าจะเป็นอารยธรรมจีน กรีก ฮินดู
06:36
or the Mayas, or Egyptians -- what we know about them
75
396160
5000
หรือมายา หรืออียิปต์ -- สี่งที่เรารู้เกี่ยวกับอารยธรรมเหล่านั้น
06:41
is really about their ecstasies, not about their everyday life.
76
401160
5000
คือช่วงเวลาที่ไม่ธรรมดาสามัญ ไม่ใช่ชีวิตประจำวันของผู้คนเลย
06:46
We know the temples they built, where people could come
77
406160
3000
เรารู้เกี่ยวกับวัดวาอารามที่พวกเขาสร้าง ที่ที่ผู้คนสามารถ
06:49
to experience a different reality.
78
409160
2000
เข้ามาสัมผัสความเป็นจริงที่แตกต่างออกไป
06:51
We know about the circuses,
79
411160
3000
เรารู้เรื่องลานแสดงละครสัตว์
06:54
the arenas, the theaters.
80
414160
3000
สนามกีฬา โรงละคร
06:57
These are the remains of civilizations and they are the places that people went
81
417160
8000
ซึ่งเป็นร่องรอยของอารยธรรม เป็นที่ที่คนในยุคนั้นไปกัน
07:05
to experience life in a more concentrated, more ordered form.
82
425160
9000
เพื่อสัมผัสชีวิตในรูปแบบที่เข้มข้น มีการจัดแจงแต่งเติมมากกว่าปกติ
07:14
Now, this man doesn't need to go to a place like this,
83
434160
4000
ทีนี้ ชายคนนี้เขาไม่ต้องไปยังสถานที่เหล่านี้
07:18
which is also -- this place, this arena, which is built
84
438160
4000
อย่างโรงมหรสพของกรีก
07:22
like a Greek amphitheatre, is a place for ecstasy also.
85
442160
4000
ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
07:26
We are participating in a reality that is different
86
446160
4000
ที่เราจะได้พบกับความจริงที่แตกต่าง
07:30
from that of the everyday life that we're used to.
87
450160
3000
จากชีวิตประจำวันที่เราคุ้นเคย
07:33
But this man doesn't need to go there.
88
453160
3000
แต่ชายคนนี้เขาไม่จำเป็นต้องไปตามสถานที่พวกนี้
07:36
He needs just a piece of paper where he can put down little marks,
89
456160
6000
เขาแค่ต้องการกระดาษแผ่นหนึ่ง ที่เขาสามารถขีดเขียนอะไรลงไปได้
07:42
and as he does that, he can imagine sounds
90
462160
6000
และขณะที่เขาทำอย่างนั้น เขาสามารถจินตนาการเสียง
07:48
that had not existed before in that particular combination.
91
468160
4000
เสียงที่ถูกร้อยเรียงกันเป็นท่วงทำนองที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน
07:52
So once he gets to that point of beginning to create,
92
472160
6000
เมื่อเขาเข้าถึงจุดที่เขาเริ่มต้นสร้างสรรค์ความจริงในรูปแบบใหม่
07:58
like Jennifer did in her improvisation,
93
478160
3000
อย่างที่เจนนิเฟอร์ได้แสดงการอิมโพรไวเซชั่นไปเมื่อครู่
08:01
a new reality -- that is, a moment of ecstasy --
94
481160
5000
นั่นล่ะคือชั่วขณะของความปิติ (ecstasy)
08:06
he enters that different reality.
95
486160
3000
เขาเข้าสู่โลกความจริงอีกมิติที่แตกต่างออกไป
08:09
Now he says also that this is so intense an experience
96
489160
4000
เขายังบอกอีกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่เข้มข้นมาก
08:13
that it feels almost as if he didn't exist.
97
493160
3000
จนเหมือนกับว่าตัวเขาเองไม่มีตัวตน
08:16
And that sounds like a kind of a romantic exaggeration.
98
496160
6000
ฟังดูเหมือนพูดเกินจริงนะครับ
08:22
But actually, our nervous system is incapable of processing
99
502160
4000
แต่ที่จริง ระบบประสาทของเราสามารถประมวลผล
08:26
more than about 110 bits of information per second.
100
506160
5000
ข้อมูลได้ไม่เกิน 110 บิตต่อวินาที
08:31
And in order to hear me and understand what I'm saying,
101
511160
4000
การที่คุณจะได้ยินผมและเข้าใจสิ่งที่ผมพูด
08:35
you need to process about 60 bits per second.
102
515160
4000
คุณต้องประมวลผลข้อมูล 60 บิตต่อวินาที
08:39
That's why you can't hear more than two people.
103
519160
3000
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่สามารถฟังคนมากกว่าสองคนพร้อมกัน
08:42
You can't understand more than two people talking to you.
104
522160
3000
คุณไม่สามารถคุยและเข้าใจคนมากกว่าสองคนในเวลาเดียวกันได้
08:45
Well, when you are really involved in this completely engaging process
105
525160
11000
ทีนี้ เวลาคุณจดจ่ออย่างเต็มที่อยู่กับกระบวนการ
08:56
of creating something new, as this man is,
106
536160
3000
สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างที่ชายคนนี้เป็น
08:59
he doesn't have enough attention left over to monitor
107
539160
6000
เขาไม่เหลือทรัพยากรทางจิตให้ไปใส่ใจเฝ้าสังเกต
09:05
how his body feels, or his problems at home.
108
545160
4000
ว่าร่างกายของเขากำลังรู้สึกอย่างไร หรือคิดถึงปัญหาที่บ้าน
09:09
He can't feel even that he's hungry or tired.
109
549160
3000
เขาไม่สามารถรับรู้แม้แต่ความหิวหรือความเหนื่อย
09:12
His body disappears,
110
552160
3000
ร่างกายของเขาหายวับไปเลย
09:15
his identity disappears from his consciousness,
111
555160
5000
ตัวตนของเขาก็หายไปจากภาวะการรับรู้ด้วย
09:20
because he doesn't have enough attention, like none of us do,
112
560160
4000
เพราะเขาไม่มีทรัพยากรทางจิตเพียงพอที่จะ
09:24
to really do well something that requires a lot of concentration,
113
564160
6000
ทำอะไรที่ใช้สมาธิสูงมากๆ ให้ได้ผลดี
09:30
and at the same time to feel that he exists.
114
570160
2000
แล้วยังรู้สึกถึงตัวตนของตัวเองด้วยในเวลาเดียวกัน
09:32
So existence is temporarily suspended.
115
572160
4000
เราจึงหยุดการรับรู้ถึงการมีตัวตนของเราไปชั่วคราว
09:37
And he says that his hand seems to be moving by itself.
116
577160
5000
เขาบอกว่ามือของเขาเหมือนกับจะเคลื่อนไหวเอง
09:43
Now, I could look at my hand for two weeks, and I wouldn't feel
117
583160
8000
ทีนี้ ให้ผมนั่งมองมือตัวเองอยู่สองอาทิตย์ ผมก็ไม่รู้สึก
09:51
any awe or wonder, because I can't compose. (Laughter)
118
591160
4000
ถึงความอัศจรรย์อะไรแบบนั้นหรอก เพราะผมแต่งเพลงไม่เป็น
09:55
So what it's telling you here
119
595160
2000
แล้วนั่นบอกอะไรคุณ
09:57
is that obviously this automatic,
120
597160
7000
ในบางตอนของบทสัมภาษณ์ เราเห็นได้ชัดว่ากระบวนการที่เป็นอัตโนมัติ
10:04
spontaneous process that he's describing can only happen to someone
121
604160
5000
ลื่นไหลไปอย่างเป็นธรรมชาติที่เขาบรรยายมานั้น จะเกิดขึ้นเฉพาะ
10:09
who is very well trained and who has developed technique.
122
609160
4000
กับคนที่ฝึกฝนและได้พัฒนาเทคนิคหรือทักษะมาเป็นอย่างดีแล้ว
10:13
And it has become a kind of a truism in the study of creativity
123
613160
7000
นั่นเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธในงานวิจัยเรื่องความคิดสร้างสรรค์ไปแล้ว
10:20
that you can't be creating anything with less than 10 years
124
620160
5000
ที่ว่าคุณไม่สามารถสร้างสรรค์อะไรได้ ถ้าคุณคลุกคลี
10:25
of technical-knowledge immersion in a particular field.
125
625160
6000
ซึมซับความรู้ทางเทคนิคในวงการนั้นมายังไม่ถึง 10 ปี
10:31
Whether it's mathematics or music, it takes that long
126
631160
5000
ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ ดนตรี มันใช้เวลานานขนาดนั้นเลย
10:36
to be able to begin to change something in a way that it's better
127
636160
8000
กว่าจะสามารถเปลี่ยนอะไร
10:44
than what was there before.
128
644160
3000
ให้มันดีกว่าที่เคยมีมาก่อน
10:47
Now, when that happens,
129
647160
2000
เอาล่ะ ทีนี้ เมื่อมันเกิดขึ้น
10:49
he says the music just flows out.
130
649160
2000
เขาบอกว่า เสียงดนตรีพรั่งพรูออกมาเอง (flows out)
10:51
And because all of these people I started interviewing --
131
651160
4000
คนที่ผมสัมภาษณ์ทุกคน
10:55
this was an interview which is over 30 years old --
132
655160
4000
ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
11:01
so many of the people described this as a spontaneous flow
133
661160
4000
หลายคนมากบรรยายว่ามันเป็นภาวะที่ลื่นไหล (flow) ไปอย่างเป็นธรรมชาติ
11:05
that I called this type of experience the "flow experience."
134
665160
5000
ผมจึงเรียกประสบการณ์นี้ว่า "flow"
11:10
And it happens in different realms.
135
670160
3000
ภาวะนี้เกิดขึ้นในกิจกรรมต่างๆ หลากหลาย
11:13
For instance, a poet describes it in this form.
136
673160
4000
เช่น กวีคนหนึ่งก็บรรยายภาวะที่ว่าแบบนี้
11:17
This is by a student of mine who interviewed
137
677160
3000
จากข้อมูลที่ลูกศิษย์คนหนึ่งของผมไปสัมภาษณ์
11:20
some of the leading writers and poets in the United States.
138
680160
3000
นักเขียนและกวีแถวหน้าของสหรัฐอเมริกา
11:23
And it describes the same effortless, spontaneous feeling
139
683160
6000
คุณจะรู้สึกเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องพยายาม
11:29
that you get when you enter into this ecstatic state.
140
689160
3000
เมื่อคุณเข้าสู่ภาวะ "flow" ที่จิตคุณมีสมาธิจดจ่อและอยู่ในภาวะปิติ (ecstasy)
11:32
This poet describes it as opening a door that floats in the sky --
141
692160
5000
กวีท่านนี้บรรยายว่ามันเหมือนการเปิดประตูที่นำคุณล่องลอยไปบนท้องฟ้า
11:37
a very similar description to what Albert Einstein gave
142
697160
3000
เหมือนกับที่ไอน์สไตน์บรรยายความรู้สึก
11:40
as to how he imagined the forces of relativity,
143
700160
6000
ที่เขาจินตนาการเรื่องแรงในทฤษฎีสัมพัทธภาพ
11:46
when he was struggling with trying to understand how it worked.
144
706160
4000
ตอนที่เขาพยายามทำความเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร
11:50
But it happens in other activities.
145
710160
5000
แต่ภาวะนี้เกิดในกิจกรรมอื่นๆ ด้วย
11:55
For instance, this is another student of mine,
146
715160
2000
เช่น ลูกศิษย์ของผมอีกคนหนึ่ง
11:57
Susan Jackson from Australia, who did work
147
717160
4000
ซูซาน แจ็คสัน จากออสเตรเลีย
12:01
with some of the leading athletes in the world.
148
721160
4000
ที่ศึกษานักกีฬาชั้นนำของโลก
12:05
And you see here in this description of an Olympic skater,
149
725160
4000
นี่คือคำบรรยายประสบการณ์ของนักสเก็ตโอลิมปิก
12:09
the same essential description of the phenomenology
150
729160
3000
เป็นภาวะทางจิตด้านใน
12:12
of the inner state of the person.
151
732160
2000
ที่เหมือนกับที่ผมบรรยายมาก่อนหน้านี้เลย
12:14
You don't think; it goes automatically,
152
734160
3000
คุณไม่ได้คิด มันเป็นไปแบบอัตโนมัติ
12:17
if you merge yourself with the music, and so forth.
153
737160
4000
ถ้าคุณปล่อยให้ตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับดนตรี หรืออะไรอย่างอื่น
12:21
It happens also, actually, in the most recent book I wrote,
154
741160
4000
คุณก็สัมผัสภาวะนี้ได้เช่นกัน ที่จริง ในหนังสือเล่มล่าสุดที่ผมเขียน
12:25
called "Good Business," where I interviewed some of the CEOs
155
745160
3000
ชื่อว่า "Good Business" ผมสัมภาษณ์ซีอีโอจำนวนหนึ่ง
12:28
who had been nominated by their peers as being both very successful
156
748160
5000
ที่ได้รับการเสนอชื่อจากซีอีโอด้วยกัน ว่าทั้งประสบความสำเร็จอย่างสูง
12:33
and very ethical, very socially responsible.
157
753160
3000
และมีจริยธรรม รับผิดชอบต่อสังคมอย่างสูงด้วย
12:36
You see that these people define success
158
756160
4000
คุณจะเห็นว่า คนเหล่านี้นิยามความสำเร็จ
12:40
as something that helps others and at the same time
159
760160
5000
ว่าเป็นการช่วยเหลือคนอื่น และในเวลาเดียวกัน
12:45
makes you feel happy as you are working at it.
160
765160
3000
ก็ทำให้คุณมีความสุขในขณะที่คุณทำมันด้วย
12:48
And like all of these successful and responsible CEOs say,
161
768160
6000
และตามที่ซีอีโอที่ประสบความสำเร็จและมีจริยธรรมสูงว่าไว้
12:55
you can't have just one of these things be successful
162
775160
5000
ถ้าอยากประสบความสำเร็จ คุณมีแค่อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
13:02
if you want a meaningful and successful job.
163
782160
3000
ถ้าคุณต้องการทำงานที่มีความหมายและประสบความสำเร็จ
13:05
Anita Roddick is another one of these CEOs we interviewed.
164
785160
5000
แอนนิตา รอดดิกเป็นซีอีโออีกคนหนึ่งที่เราสัมภาษณ์
13:10
She is the founder of Body Shop,
165
790160
4000
เธอเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเครื่องสำอางบอดี้ชอป
13:14
the natural cosmetics king.
166
794160
2000
ซื่งเป็นราชาของเครื่องสำอางที่ผลิตจากธรรมชาติ
13:16
It's kind of a passion that comes
167
796160
2000
มันเป็นความหลงใหลในงาน
13:18
from doing the best and having flow while you're working.
168
798160
4000
ที่เกิดขึ้นเมื่อคุณทำเต็มที่และเข้าสู่ภาวะ flow ในขณะที่คุณทำงาน
13:22
This is an interesting little quote from Masaru Ibuka,
169
802160
4000
นี่เป็นคำพูดสั้นๆ ที่น่าสนใจของมาซารุ อิบูกะ
13:26
who was at that time starting out Sony without any money,
170
806160
5000
ซึ่งสร้างบริษัทโซนี่ขึ้นโดยไม่มีเงิน
13:31
without a product -- they didn't have a product,
171
811160
2000
และไม่มีผลิตภัณฑ์อะไรเลย
13:33
they didn't have anything, but they had an idea.
172
813160
3000
เขาไม่มีอะไรเลย แต่เขามีไอเดีย
13:36
And the idea he had was to establish a place of work where engineers
173
816160
5000
ไอเดียของเขาก็คือ เขาอยากสร้างที่ทำงานที่วิศวกร
13:41
can feel the joy of technological innovation,
174
821160
4000
จะมีความสุขกับการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
13:45
be aware of their mission to society and work to their heart's content.
175
825160
5000
ตระหนักถึงพันธกิจที่เขามีต่อสังคมและทำงานที่นำมาซึ่งความอิ่มเอิบพึงพอใจ
13:50
I couldn't improve on this as a good example
176
830160
4000
ผมว่าตัวอย่างพวกนี้ดีมากจนไม่ต้องอธิบายเพิ่มแล้ว
13:54
of how flow enters the workplace.
177
834160
3000
ว่า flow เกิดขึ้นในที่ทำงานได้อย่างไร
13:57
Now, when we do studies --
178
837160
3000
ทีนี้ เวลาเราทำงานวิจัย
14:00
we have, with other colleagues around the world,
179
840160
4000
ร่วมกับทีมงานทั่วโลก
14:04
done over 8,000 interviews of people -- from Dominican monks,
180
844160
5000
สัมภาษณ์คนมากกว่า 8,000 คน ตั้งแต่พระในนิกายโดมินิกัน
14:09
to blind nuns, to Himalayan climbers, to Navajo shepherds --
181
849160
7000
แม่ชีตาบอด นักปีนเขาหิมาลัย คนเลี้ยงแกะเผ่านาวาโจ (อินเดียนแดงเผ่าหนึ่ง)
14:16
who enjoy their work.
182
856160
2000
ที่มีความสุขกับงานที่เขาทำ
14:18
And regardless of the culture,
183
858160
2000
ไม่ว่าในวัฒนธรรมไหน
14:20
regardless of education or whatever, there are these seven conditions
184
860160
7000
ไม่ว่าจะในระดับการศึกษาใดๆ เมื่อเข้าสู่ภาวะ flow
14:27
that seem to be there when a person is in flow.
185
867160
4000
จะพบว่ามีสภาวะ 7 อย่างต่อไปนี้เกิดขึ้น
14:31
There's this focus that, once it becomes intense,
186
871160
4000
นั่นคือ คุณมีสมาธิจดจ่ออย่างแรงกล้า
14:35
leads to a sense of ecstasy, a sense of clarity:
187
875160
4000
ซึ่งนำไปสู่ความรู้สึกปิติ อิ่มเอิบ และความรู้สึกกระจ่างแจ้ง
14:39
you know exactly what you want to do from one moment to the other;
188
879160
3000
คือ คุณรู้ชัดเจนว่าคุณต้องทำอะไรจากชั่วขณะหนึ่งไปยังอีกชั่วขณะหนึ่ง
14:42
you get immediate feedback.
189
882160
2000
คุณได้รับผลสะท้อนกลับทันที
14:44
You know that what you need to do
190
884160
2000
คุณรู้ว่าคุณต้องทำอะไร
14:46
is possible to do, even though difficult,
191
886160
3000
คุณสามารถทำอะไรได้ แม้ว่ามันจะยาก
14:49
and sense of time disappears, you forget yourself,
192
889160
3000
และความรู้สึกว่าเวลาหายวับไป คุณลืมตัวตนของตัวเอง
14:52
you feel part of something larger.
193
892160
3000
และรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่า
14:55
And once the conditions are present,
194
895160
3000
และเมื่อสภาวะเหล่านี้เกิดขึ้น
14:58
what you are doing becomes worth doing for its own sake.
195
898160
5000
สิ่งที่คุณทำอยู่ก็กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าควรแก่การทำเอง
15:03
In our studies, we represent the everyday life of people in this simple scheme.
196
903160
6000
ในการวิจัยของเรา เรามองหารูปแบบที่เรียบง่ายเหล่านี้ในชีวิตประจำวันของผู้คน
15:09
And we can measure this very precisely, actually,
197
909160
4000
และเราก็สามารถวัดมันได้อย่างแม่นยำด้วย
15:13
because we give people electronic pagers that go off 10 times a day,
198
913160
4000
เพราะเราให้คนพกเพจเจอร์ที่ส่งสัญญาณเตือนวันละ 10 ครั้ง
15:17
and whenever they go off you say what you're doing, how you feel,
199
917160
5000
เมื่อใดที่สัญญาณดังขึ้น ให้คุณบันทึกเสียงลงไปว่าคุณทำอะไรอยู่ คุณรู้สึกอย่างไร
15:22
where you are, what you're thinking about.
200
922160
2000
คุณอยู่ที่ไหน คุณคิดอะไรอยู่
15:24
And two things that we measure is the amount of challenge
201
924160
3000
ตัวแปรสองอย่างที่เราวัดได้แก่ระดับความท้าทายของสิ่งที่คุณกำลังทำ
15:27
people experience at that moment and the amount of skill
202
927160
4000
ตามที่คุณรู้สึกในขณะนั้น และอีกตัวหนึ่งคือระดับของทักษะ
15:31
that they feel they have at that moment.
203
931160
3000
ความสามารถที่คุณรู้สึกว่าคุณมีอยู่ในขณะนั้น
15:34
So for each person we can establish an average,
204
934160
3000
เราหาค่าเฉลี่ยของตัวแปรทั้งสองของแต่ละบุคคล
15:37
which is the center of the diagram.
205
937160
3000
ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของภาพนี้
15:40
That would be your mean level of challenge and skill,
206
940160
3000
นั่นเป็นค่าเฉลี่ยของความท้าทายของงาน กับทักษะ
15:43
which will be different from that of anybody else.
207
943160
3000
ตามการรรับรู้ของคุณ ซึ่งแตกต่างจากของคนอื่น
15:46
But you have a kind of a set point there, which would be in the middle.
208
946160
5000
แต่คุณจะมีพิกัดมาตรฐานของตัวเอง ที่เป็นค่าเฉลี่ย
15:51
If we know what that set point is,
209
951160
2000
ถ้าเรารู้ว่าค่าเฉลี่ยตรงนั้นคือเท่าใด
15:53
we can predict fairly accurately when you will be in flow,
210
953160
5000
เราจะทำนายได้อย่างแม่นยำเลยว่าเมื่อไหร่คุณจะเข้าสู่ภาวะ flow
15:58
and it will be when your challenges are higher than average
211
958160
3000
นั่นคือ เมื่อคุณรู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่ท้ายทายกว่าค่าเฉลี่ย
16:01
and skills are higher than average.
212
961160
2000
และคุณรู้สึกว่าคุณมีทักษะในการทำงานนั้นมากกว่าค่าเฉลี่ย
16:03
And you may be doing things very differently from other people,
213
963160
4000
งานที่คุณทำอาจจะแตกต่างจากคนอื่น
16:07
but for everyone that flow channel, that area there,
214
967160
4000
แต่สำหรับทุกคนที่เข้าสู่ภาวะ flow เมื่อคุณอยู่ในพื้นที่ตรงนั้น
16:11
will be when you are doing what you really like to do --
215
971160
4000
นั่นคือเวลาที่คุณกำลังทำสิ่งที่คุณชอบทำมากๆ
16:15
play the piano, be with your best friend, perhaps work,
216
975160
6000
เล่นเปียโน อยู่กับเพื่อนสนิท หรือทำงาน
16:21
if work is what provides flow for you.
217
981160
4000
ถ้างานคือสิ่งที่ทำให้คุณเกิด flow
16:25
And then the other areas become less and less positive.
218
985160
4000
พี้นที่ส่วนอื่นๆ บนภาพนี้เป็นภาวะที่คุณจะรู้สึกดีน้อยลง
16:29
Arousal is still good because you are over-challenged there.
219
989160
5000
ภาวะตื่นตัวยังถือว่าเป็นภาวะที่ดี เพราะคุณได้เจออะไรที่ท้าทายมากกว่าปกติ
16:34
Your skills are not quite as high as they should be,
220
994160
2000
แต่ทักษะคุณไม่สูงมากพอที่จะทำงานนั้น
16:36
but you can move into flow fairly easily
221
996160
3000
แต่คุณก็จะเข้าสู่ภาวะ flow ได้ง่าย
16:39
by just developing a little more skill.
222
999160
3000
เพียงแค่พัฒนาทักษะเพิ่มอีกนิดหน่อยเท่านั้น
16:42
So, arousal is the area where most people learn from,
223
1002160
4000
ดังนั้น ภาวะตื่นตัว (Arousal) นั่นคือพี้นที่ที่คนส่วนใหญ่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
16:46
because that's where they're pushed beyond their comfort zone
224
1006160
6000
เพราะเขาถูกผลักดันให้ก้าวออกนอกขอบเขตที่คุ้นเคย
16:52
and to enter that -- going back to flow --
225
1012160
3000
เพื่อเข้าสู่ภาวะ flow อีกครั้ง
16:55
then they develop higher skills.
226
1015160
2000
เมื่อเขาได้พัฒนาทักษะที่สูงขึ้น
16:57
Control is also a good place to be,
227
1017160
4000
ภาวะควบคุมได้ (Control) ก็เป็นพี้นที่ที่ดีเหมือนกัน
17:01
because there you feel comfortable, but not very excited.
228
1021160
4000
เพราะคุณรู้สึกสบาย มั่นใจ ไม่ตื่นเต้น
17:05
It's not very challenging any more.
229
1025160
3000
แต่คุณจะรู้สึกว่าไม่มีอะไรท้าทายแล้ว
17:08
And if you want to enter flow from control,
230
1028160
2000
และถ้าคุณต้องการเข้าสู่ภาวะ flow จากภาวะควบคุมได้ (Control)
17:10
you have to increase the challenges.
231
1030160
3000
คุณต้องหาอะไรที่ท้าทายมากขึ้น
17:13
So those two are ideal and complementary areas
232
1033160
4000
พี้นที่สองส่วนนี้เหมาะสมและเอื้อ
17:17
from which flow is easy to go into.
233
1037160
4000
ต่อการขยับเข้าสู่ภาวะ flow
17:21
The other combinations of challenge and skill
234
1041160
3000
ส่วนอีกภาวะหนึ่ง ที่ความท้าทายกับระดับทักษะ
17:24
become progressively less optimal.
235
1044160
3000
ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของคุณ
17:27
Relaxation is fine -- you still feel OK.
236
1047160
2000
ภาวะผ่อนคลาย (Relaxation) ก็ดี คุณก็ยังรู้สึก ok
17:29
Boredom begins to be very aversive
237
1049160
5000
ความเบื่อนี่เริ่มจะไม่ดีแล้ว
17:34
and apathy becomes very negative:
238
1054160
4000
ส่วนความเฉี่อยชานั้นเป็นความรู้สึกที่แย่มาก
17:38
you don't feel that you're doing anything,
239
1058160
4000
คณรู้สึกว่าคุณไม่ได้ทำอะไรเลย
17:42
you don't use your skills, there's no challenge.
240
1062160
2000
ไม่ได้ใช้ทักษะอะไร ไม่มีอะไรท้าทายเลย
17:44
Unfortunately, a lot of people's experience is in apathy.
241
1064160
5000
ที่แย่ก็คือ คนจำนวนมากอยู่ในภาวะแบบนี้ เฉื่อยชา
17:49
The largest single contributor to that experience
242
1069160
7000
ปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดภาวะแบบนั้น
17:56
is watching television; the next one is being in the bathroom, sitting.
243
1076160
6000
ก็คือการดูทีวี อันดับต่อมาก็คือการอยู่ในห้องน้ำแล้วก็นั่งนิ่งๆ
18:02
Even though sometimes watching television
244
1082160
6000
แม้ว่าบางที 7-8 % ของเวลาที่คุณดูทีวี
18:08
about seven to eight percent of the time is in flow,
245
1088160
4000
คุณจะเข้าถึงภาวะ flow ได้เหมือนกัน
18:12
but that's when you choose a program you really want to watch
246
1092160
3000
แต่นั่นคือเวลาที่คุณเลือกดูรายการที่คุณอยากดูจริงๆ
18:15
and you get feedback from it.
247
1095160
3000
แล้วก็ได้รับผลตอบกลับจากการดูรายการนั้น
18:18
So the question we are trying to address -- and I'm way over time --
248
1098160
6000
ดังนั้น คำถามที่เราต้องการตอบ --นี่ผมพูดเกินเวลาไปเยอะแล้ว--
18:24
is how to put more and more of everyday life in that flow channel.
249
1104160
6000
ก็คือ เราจะทำให้ชีวิตประจำวันของเราอยู่ในช่องทางของ flow ให้มากขึ้นได้อย่างไร
18:30
And that is the kind of challenge that we're trying to understand.
250
1110160
5000
นั่นคือปัญหาที่ท้าทายที่เรากำลังพยายามทำความเข้าใจ
18:35
And some of you obviously know how to do that spontaneously
251
1115160
3000
พวกคุณบางคนรู้อยู่แล้วว่าจะทำอย่างไร
18:38
without any advice, but unfortunately a lot of people don't.
252
1118160
4000
โดยไม่ต้องมีคำแนะนำอะไร แต่ยังมีคนอีกมากที่ไม่รู้
18:42
And that's what our mandate is, in a way, to do.
253
1122160
6000
และนั่นคือหน้าที่ที่เราจะต้องศึกษาต่อไป
18:48
Thank you.
254
1128160
1000
โอเค ขอบคุณครับ
18:49
(Applause)
255
1129160
1000
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7