Kate Hartman: The art of wearable communication

45,828 views ・ 2011-09-15

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Sritala Dhanasarnsombut Reviewer: PanaEk Warawit
00:15
My name is Kate Hartman.
0
15260
3000
ฉันชื่อเคท เคท ฮาร์ทแมนค่ะ
00:22
And I like to make devices
1
22260
2000
และฉันสร้างอุปกรณ์หลายแบบ
00:24
that play with the ways
2
24260
2000
ที่เล่นกับวิธีการต่างๆ
00:26
that we relate and communicate.
3
26260
2000
ที่พวกเราเชื่อมโยงและสื่อสารกัน
00:28
So I'm specifically interested in how we, as humans,
4
28260
3000
ฉันสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับการเชื่อมโยงของคน
00:31
relate to ourselves, each other
5
31260
2000
กับตัวเอง และกับคนอื่น
00:33
and the world around us.
6
33260
3000
รวมถึงกับสิ่งรอบๆตัวเรา
00:43
(Laughter)
7
43260
4000
(เสียงหัวเราะ)
00:47
So just to give you a bit of context,
8
47260
2000
เพื่อเป็นการเกริ่นเล็กน้อย
00:49
as June said, I'm an artist, a technologist and an educator.
9
49260
3000
อย่างที่จูนบอก ฉันเป็นศิลปิน เป็นนักเทคโนโลยี และเป็นนักการศึกษาด้วย
00:52
I teach courses in physical computing
10
52260
2000
ฉันสอนวิชาต่างๆ ในสาขาการคำนวณทางกายภาพ
00:54
and wearable electronics.
11
54260
2000
และอุปกรณ์ไฟฟ้าสวมใส่ได้
00:56
And much of what I do is either wearable
12
56260
2000
งานส่วนมากที่ฉันทำ จึงมักจะเอาไปสวมใส่ได้
00:58
or somehow related to the human form.
13
58260
3000
หรือไม่ก็มีบางอย่างเชื่อมโยงกับรูปร่างมนุษย์
01:01
And so anytime I talk about what I do,
14
61260
2000
เมื่อไหร่ก็ตามที่เล่าถึงสิ่งที่ฉันทำ
01:03
I like to just quickly address
15
63260
2000
ฉันมักจะกล่าวถึงสาเหตุ
01:05
the reason why bodies matter.
16
65260
2000
ที่ว่าทำไมร่างกายเราถึงสำคัญ
01:07
And it's pretty simple.
17
67260
3000
มันเป็นเหตุผลที่ง่ายมาก
01:10
Everybody's got one -- all of you.
18
70260
2000
เพราะทุกคนมีไง พวกคุณทุกคนมี
01:12
I can guarantee, everyone in this room,
19
72260
2000
ฉันการันตีได้ ทุกคนในห้องนี้
01:14
all of you over there, the people in the cushy seats,
20
74260
2000
พวกคุณทุกคนตรงนั้น คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้แสนสบายนั่น
01:16
the people up top with the laptops --
21
76260
2000
คนที่มีแลปท๊อปข้างบนนั่นก็ด้วย
01:18
we all have bodies.
22
78260
2000
พวกเราทุกคนมีร่างกาย
01:20
Don't be ashamed.
23
80260
2000
อย่าได้อายค่ะ
01:22
It's something that we have in common
24
82260
2000
มันเป็นสิ่งที่พวกเรามีเหมือนๆ กัน
01:24
and they act as our primary interfaces for the world.
25
84260
3000
มันทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อหลักระหว่างเรากับโลก
01:27
And so when working as an interaction designer,
26
87260
3000
ดังนั้นการทำงานเป็นนักออกแบบระบบปฎิสัมพันธ์
01:30
or as an artist who deals with participation --
27
90260
2000
หรือเป็นศิลปินที่ต้องทำงานกับเรื่องความร่วมมือ
01:32
creating things that live on, in or around the human form --
28
92260
4000
เพื่อสร้างสิ่งต่างๆ ที่เราใช้ หรืออยู่รอบตัวคนเรา
01:36
it's really a powerful space to work within.
29
96260
3000
มันจึงเป็นอะไรที่น่าทึ่งในการทำงานด้วย
01:39
So within my own work,
30
99260
2000
ดังนั้นในงานของฉัน
01:41
I use a broad range of materials and tools.
31
101260
3000
ฉันใช้อุปกรณ์และเครื่องมือหลายประเภทมาก
01:44
So I communicate through everything from radio transceivers
32
104260
3000
เพื่อฉันจะได้สื่อสารผ่านทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องรับส่งวิทยุ
01:47
to funnels and plastic tubing.
33
107260
2000
ไปจนถึงกรวยและท่อพลาสติก
01:49
And to tell you a bit about the things that I make,
34
109260
2000
และเพื่อเป็นการเล่าเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่ฉันทำเล็กน้อย
01:51
the easiest place to start the story
35
111260
2000
จุดที่ง่ายที่สุดในการเริ่มเรื่องคือ
01:53
is with a hat.
36
113260
3000
หมวกคะ
01:56
And so it all started several years ago,
37
116260
2000
ทุกอย่างเริ่มขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้ว
01:58
late one night when I was sitting on the subway, riding home,
38
118260
3000
ดึกคืนหนึ่ง ขณะที่ฉันนั่งรถใต้ดินกลับบ้าน
02:01
and I was thinking.
39
121260
2000
ฉันนั่งคิดเล่นๆ ว่า
02:03
And I tend to be a person who thinks too much and talks too little.
40
123260
3000
ฉันมันจะเป็นคนพวกที่คิดมาก แต่พูดน้อยซะด้วย
02:06
And so I was thinking about how it might be great
41
126260
2000
ฉันคิดว่ามันจะดีแค่ไหนนะ
02:08
if I could just take all these noises --
42
128260
2000
ถ้าฉันสามารถเอาเสียงต่างๆ
02:10
like all these sounds of my thoughts in my head --
43
130260
2000
เหมือนกับเสียงความคิดทั้งหมดในหัวฉัน
02:12
if I could just physically extricate them
44
132260
2000
ถ้าฉันสามารถดึงเสียงพวกนี้ออกมา
02:14
and pull them out in such a form
45
134260
2000
และทำให้เป็นรูปร่าง
02:16
that I could share them with somebody else.
46
136260
3000
ที่สามารถแชร์ให้กับคนอื่นๆ ได้
02:19
And so I went home, and I made a prototype of this hat.
47
139260
3000
พอฉันกลับถึงบ้าน และฉันสร้างต้นแบบของเจ้าหมวกใบนี้
02:22
And I called it the Muttering Hat,
48
142260
2000
ฉันเรียกมันว่า "หมวกบ่นพึมพำ"
02:24
because it emitted these muttering noises
49
144260
3000
เพราะมันปล่อยเสียงพึมพำต่างๆ
02:27
that were kind of tethered to you,
50
147260
2000
ที่มาจากตัวคุณ
02:29
but you could detach them
51
149260
2000
แต่คุณสามารถดึงออกมาส่งต่อ
02:31
and share them with somebody else.
52
151260
3000
และแชร์พวกมันให้คนอื่นๆ ได้
02:35
(Laughter)
53
155260
5000
(เสียงหัวเราะ)
02:40
So I make other hats as well.
54
160260
2000
ดังนั้นฉันเลยทำหมวกอื่นๆ ด้วย
02:42
This one is called the Talk to Yourself Hat.
55
162260
2000
อันนี้เรียกว่า "หมวกพูดกับตัวเอง"
02:44
(Laughter)
56
164260
2000
(เสียงหัวเราะ)
02:46
It's fairly self-explanatory.
57
166260
2000
ชื่อค่อนข้างอธิบายในตัวมันอยู่แล้ว
02:48
It physically carves out conversation space for one.
58
168260
4000
มันสร้างพื้นที่สนทนาส่วนตัว
02:52
And when you speak out loud,
59
172260
2000
และเมื่อคุณพูดเสียงดังๆ
02:54
the sound of your voice is actually channeled back into your own ears.
60
174260
4000
เสียงของคุณก็จะถูกส่งกลับไปยังหูของคุณเอง
03:00
(Laughter)
61
180260
2000
(เสียงหัวเราะ)
03:02
And so when I make these things,
62
182260
2000
เมื่อตอนที่ฉันสร้างสิ่งเหล่านี้
03:04
it's really not so much about the object itself,
63
184260
3000
ฉันไม่ได้สนใจตัววัตถุเหล่านี้เท่าไหร่
03:07
but rather the negative space around the object.
64
187260
3000
แต่กลับสนใจอย่างอื่นรอบๆ วัตถุมากกว่า
03:10
So what happens when a person puts this thing on?
65
190260
3000
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสวมใส่สิ่งนี้บนหัวนะเหรอ?
03:13
What kind of an experience do they have?
66
193260
2000
แล้วประสบการณ์แบบไหนที่พวกเขาจะได้รับกัน?
03:15
And how are they transformed by wearing it?
67
195260
3000
ใส่หมวกแล้วพวกเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไรนะ?
03:21
So many of these devices
68
201260
2000
อุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้
03:23
really kind of focus on the ways in which we relate to ourselves.
69
203260
3000
มุ่งเน้นไปในทางที่แสดงถึงการเชื่อมโยงกับตัวเอง
03:26
So this particular device is called the Gut Listener.
70
206260
3000
อุปกรณ์ตัวนี้เรียกว่า "หูฟังเครื่องใน"
03:29
And it is a tool
71
209260
2000
มันเป็นเครื่องมือ
03:31
that actually enables one
72
211260
2000
ที่ทำให้คนใส่
03:33
to listen to their own innards.
73
213260
3000
สามารถได้ยินเสียงอวัยวะภายในของตัวเองได้
03:36
(Laughter)
74
216260
7000
(เสียงหัวเราะ)
03:43
And so some of these things
75
223260
3000
และอุปกรณ์บางตัวในนี้
03:46
are actually more geared toward expression and communication.
76
226260
2000
สามารถแสดงอารมณ์หรือสื่อสารได้ด้วย
03:48
And so the Inflatable Heart
77
228260
2000
และนี่คือ "หัวใจพองโต"
03:50
is an external organ
78
230260
2000
เป็นอวัยวะภายนอก
03:52
that can be used by the wearer to express themselves.
79
232260
3000
ที่สามารถสวมเพื่อแสดงอารมณ์ต่างๆ ได้
03:55
So they can actually inflate it and deflate it
80
235260
3000
พวกมันสามารถพองและยุบได้
03:58
according to their emotions.
81
238260
2000
ขึ้นกับอารมณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนไป
04:00
So they can express everything from admiration and lust
82
240260
3000
พวกมันสามารถสะท้อนอารมณ์ได้ทุกรูปแบบ ตั้งแต่ชื่นชม ลุ่มหลง
04:03
to anxiety and angst.
83
243260
3000
ไปจนถึงตกใจและโกรธ
04:06
(Laughter)
84
246260
2000
(เสียงหัวเราะ)
04:08
And some of these are actually meant
85
248260
2000
และสิ่งประดิษฐ์บางอันนี้สามารถเป็น
04:10
to mediate experiences.
86
250260
2000
เครื่องมือช่วยไกล่เกลี่ยได้ด้วย
04:12
So the Discommunicator is a tool for arguments.
87
252260
3000
"กระบอกไม่พูด" เป็นเครื่องมือสำหรับเถียงกัน
04:15
(Laughter)
88
255260
2000
(เสียงหัวเราะ)
04:17
And so actually it allows for an intense emotional exchange,
89
257260
3000
มันช่วยให้แลกเปลี่ยนอารมณ์ที่ตึงเครียดกันได้
04:20
but is serves to absorb
90
260260
2000
แต่มันจะช่วยดูดซับ
04:22
the specificity of the words that are delivered.
91
262260
3000
บางส่วนของคำแรงๆ ที่ส่งมา
04:25
(Laughter)
92
265260
6000
(เสียงหัวเราะ)
04:31
And in the end,
93
271260
2000
และสุดท้าย
04:33
some of these things just act as invitations.
94
273260
2000
อุปกรณ์เหล่านี้บางอันทำหน้าที่เชิญชวนด้วย
04:35
So the Ear Bender literally puts something out there
95
275260
3000
ดังนั้น "หูฟังบิดเบี้ยว" จึงสามารถดึงออกได้
04:38
so someone can grab your ear
96
278260
2000
ให้ใครบางคนดึงหูคุณมา
04:40
and say what they have to say.
97
280260
2000
แล้วพูดกรอกในสิ่งที่พวกเขาอยากบอกกับคุณ
04:42
So even though I'm really interested in the relationship
98
282260
2000
ถึงแม้ว่าฉันจะสนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์
04:44
between people,
99
284260
2000
ระหว่างคน
04:46
I also consider the ways
100
286260
2000
ฉันก็ยังสนใจวิธีการ
04:48
in which we relate to the world around us.
101
288260
2000
ที่เราจะสื่อสารกับโลกรอบตัวเราด้วยเช่นกัน
04:50
And so when I was first living in New York City a few years back,
102
290260
3000
เมื่อฉันได้ย้ายมาอยู่นิวยอร์กเป็นครั้งแรก เมื่อหลายปีมาแล้ว
04:53
I was thinking a lot about
103
293260
2000
ฉันคิดถึงเรื่อง
04:55
the familiar architectural forms that surrounded me
104
295260
2000
ความคล้ายคลึงของรูปแบบสถาปัตยกรรมรอบตัว
04:57
and how I would like to better relate to them.
105
297260
3000
และฉันจะเชื่อมโยงกับพวกมันมากกว่านี้ได้ยังไง
05:00
And I thought, "Well, hey!
106
300260
2000
ฉันก็นึกขึ้นได้ "เฮ้ เดี๋ยวก่อน
05:02
Maybe if I want to better relate to walls,
107
302260
2000
ถ้าฉันอยากจะเชื่อมโยงกับกำแพงมากกว่านี้
05:04
maybe I need to be more wall-like myself."
108
304260
2000
บางทีฉันคงต้องเป็นเหมือนกำแพงมากกว่านี้"
05:06
So I made a wearable wall
109
306260
2000
ฉันเลยสร้างกำแพงสวมใส่ได้
05:08
that I could wear as a backpack.
110
308260
2000
เพื่อจะสะพายได้เหมือนกระเป๋าเป้หลัง
05:10
And so I would put it on
111
310260
2000
และพอฉันสะพายมัน
05:12
and sort of physically transform myself
112
312260
2000
ก็เหมือนร่างกายฉันเปลี่ยนไปด้วย
05:14
so that I could either contribute to or critique
113
314260
2000
ดังนั้นจึงเป็นว่า ถ้าฉันไม่กลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน
05:16
the spaces that surrounded me.
114
316260
2000
ก็จะเป็นสิ่งแปลกแยกกับสิ่งรอบตัวไปเลย
05:18
(Laughter)
115
318260
2000
(เสียงหัวเราะ)
05:20
And so jumping off of that,
116
320260
3000
นอกจากนั้น ฉันยังคิดไปไกลกว่า
05:23
thinking beyond the built environment into the natural world,
117
323260
3000
สภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น ไปสู่โลกธรรมชาติ
05:26
I have this ongoing project called Botanicalls --
118
326260
3000
ฉันกำลังมีโปรเจคชื่อว่า โบทานิเคิลส์
05:29
which actually enables houseplants
119
329260
2000
ซึ่งช่วยทำให้พืชสวนในบ้าน
05:31
to tap into human communication protocols.
120
331260
2000
สามารถติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ได้
05:33
So when a plant is thirsty,
121
333260
2000
ดังนั้นเมื่อต้นไม้กระหายน้ำ
05:35
it can actually make a phone call
122
335260
2000
มันจะสามารถต่อโทรศัพท์ได้
05:37
or post a message to a service like Twitter.
123
337260
3000
หรือสามารถส่งข้อความอย่างทวิตเตอร์ได้
05:40
And so this really shifts the human/plant dynamic,
124
340260
4000
นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนระหว่างคนกับพืช
05:44
because a single house plant
125
344260
3000
เพราะต้นไม้บ้านหนึ่งต้น
05:47
can actually express its needs
126
347260
2000
สามารถแสดงความต้องการ
05:49
to thousands of people at the same time.
127
349260
3000
ให้คนเป็นพันๆ รู้ได้ในเวลาเดียวกัน
05:52
And so kind of thinking about scale,
128
352260
2000
และด้วยความคิดเกี่ยวกับขนาดใหญ่แบบนี้
05:54
my most recent obsession
129
354260
2000
สิ่งที่ฉันกำลังหมกมุ่นในตอนนี้
05:56
is actually with glaciers -- of course.
130
356260
4000
คือกับธารน้ำแข็ง ---- แน่นอน
06:00
And so glaciers are these magnificent beings,
131
360260
3000
ว่าธารน้ำแข็งคือสิ่งน่าอัศจรรรย์
06:03
and there's lots of reasons to be obsessed with them,
132
363260
3000
และมีหลายเหตุผลที่ฉันหมกมุ่นกับมัน
06:06
but what I'm particularly interested in
133
366260
2000
แต่สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับฉัน
06:08
is in human-glacier relations.
134
368260
2000
คือความสัมพันธ์ของคนกับธารน้ำแข็ง
06:10
(Laughter)
135
370260
2000
(เสียงหัวเราะ)
06:12
Because there seems to be an issue.
136
372260
2000
เพราะรู้สึกว่าตอนนี้กำลังมีปัญหาอยู่
06:14
The glaciers are actually leaving us.
137
374260
2000
ธารน้ำแข็งกำลังจะจากพวกเราไป
06:16
They're both shrinking and retreating --
138
376260
2000
พวกมันหดตัว ล่าถอย
06:18
and some of them have disappeared altogether.
139
378260
2000
และบางส่วนกำลังหายไปเลย
06:20
And so I actually live in Canada now,
140
380260
3000
ตอนนี้ฉันอาศัยอยู่ในแคนาดา
06:23
so I've been visiting one of my local glaciers.
141
383260
2000
ฉันเลยได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมธารน้ำแข็งในพื้นที่
06:25
And this one's particularly interesting,
142
385260
2000
และอันนี้เป็นอันที่น่าสนใจจริงๆ
06:27
because, of all the glaciers in North America,
143
387260
2000
เพราะ ในบรรดาธารน้ำแข็งทั้งหมดในอเมริกาเหนือ
06:29
it receives the highest volume of human traffic in a year.
144
389260
3000
มันรองรับการจราจรมนุษย์ต่อปีในระดับสูงสุด
06:32
They actually have these buses that drive up and over the lateral moraine
145
392260
3000
มีรถบัสขนาดใหญ่มากมาย วิ่งไปมาอยู่บนธารน้ำแข็ง
06:35
and drop people off on the surface of the glacier.
146
395260
3000
แถมยังปล่อยผู้คน ลงเดินบนพื้นผิวของธารน้ำแข็งด้วย
06:38
And this has really gotten me thinking
147
398260
2000
นี่ทำให้ฉันคิดเกี่ยวกับ
06:40
about this experience of the initial encounter.
148
400260
2000
ประสบการณ์ครั้งแรกกับธารน้ำแข็ง
06:42
When I meet a glacier for the very first time,
149
402260
4000
เมื่อฉันได้เจอธารน้ำแข็งเป็นครั้งแรก
06:46
what do I do?
150
406260
2000
ฉันทำอะไรน่ะหรอ?
06:48
There's no kind of social protocol for this.
151
408260
4000
มันไม่มีธรรมเนียมตายตัวสำหรับเรื่องนี้
06:52
I really just don't even know
152
412260
2000
ฉันไม่รู้จริงๆ
06:54
how to say hello.
153
414260
2000
ว่าจะพูดทักทายมันยังไง
06:56
Do I carve a message in the snow?
154
416260
3000
ฉันควรสลักข้อความลงบนหิมะไหม?
06:59
Or perhaps I can assemble one
155
419260
2000
หรือบางทีฉันอาจรวบรวม
07:01
out of dot and dash ice cubes --
156
421260
2000
ก้อนน้ำแข็ง ทำเป็นจุดกับเป็นขีด
07:03
ice cube Morse code.
157
423260
2000
แบบทำรหัสมอร์สจากน้ำแข็ง
07:05
Or perhaps I need to make myself a speaking tool,
158
425260
2000
หรือบางทีฉันอาจต้องทำเครื่องมือสื่อสารมาใช้
07:07
like an icy megaphone
159
427260
2000
อย่างโทรโข่งน้ำแข็งแบบนี้
07:09
that I can use to amplify my voice
160
429260
2000
ที่จะขยายเสียงของฉัน
07:11
when I direct it at the ice.
161
431260
2000
ระหว่างที่พูดกับน้ำแข็ง
07:13
But really the most satisfying experience I've had
162
433260
2000
แต่ประสบการณ์ที่ฉันพอใจที่สุดที่ได้รับ
07:15
is the act of listening,
163
435260
2000
คือการรับฟังอย่างตั้งใจ
07:17
which is what we need in any good relationship.
164
437260
2000
ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการมากในทุกความสัมพันธ์ที่ดี
07:19
And I was really struck by how much it affected me.
165
439260
3000
และมันส่งผลต่อฉันเป็นอย่างมาก
07:22
This very basic shift in my physical orientation
166
442260
3000
เพียงแค่เปลี่ยนท่าทางของร่างกายง่ายๆ
07:25
helped me shift my perspective
167
445260
2000
มันช่วยให้ฉันปรับเปลี่ยนมุมมอง
07:27
in relation to the glacier.
168
447260
2000
เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับธารน้ำแข็ง
07:29
And so since we use devices
169
449260
2000
และเนื่องจากพวกเราได้ใช้อุปกรณ์ต่างๆ
07:31
to figure out how to relate to the world these days,
170
451260
4000
ในการเชื่อมโยงกับโลกในปัจจุบันนี้
07:35
I actually made a device called the Glacier Embracing Suit.
171
455260
3000
ฉันจึงได้สร้างอุปกรณ์ตัวนึงเรียกว่า ชุดโอบกอดธารน้ำแข็ง
07:38
(Laughter)
172
458260
2000
(เสียงหัวเราะ)
07:40
And so this is constructed out of a heat reflected material
173
460260
3000
มันสร้างจากวัสดุสะท้อนความร้อน
07:43
that serves to mediate the difference in temperature
174
463260
2000
ที่ช่วยลดความแตกต่างทางด้านอุณหภูมิ
07:45
between the human body and the glacial ice.
175
465260
3000
ระหว่างร่างกายมนุษย์กับธารน้ำแข็ง
07:48
And once again, it's this invitation
176
468260
3000
และเป็นอีกครั้ง ที่มันเชิญชวน
07:51
that asks people to lay down on the glacier
177
471260
4000
ให้คนเรานอนลงบนธารน้ำแข็ง
07:55
and give it a hug.
178
475260
3000
และโอบกอดมัน
07:58
So, yea, this is actually just the beginning.
179
478260
2000
นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น
08:00
These are initial musings for this project.
180
480260
2000
เป็นเพียงแค่ความคิดเบื้องต้น สำหรับโปรเจ็คนี้
08:02
And just as with the wall, how I wanted to be more wall-like,
181
482260
3000
เหมือนกับโปรเจ็คกำแพง ที่ทำยังไงให้ฉันเป็นเหมือนกำแพงมากขึ้น
08:05
with this project, I'd actually like to take more a of glacial pace.
182
485260
4000
ด้วยโปรเจ็คนี้ ฉันอยากก้าวเดินไปกับธารน้ำแข็งมากขึ้น
08:09
And so my intent
183
489260
2000
ดังนั้นความตั้งใจของฉัน
08:11
is to actually just take the next 10 years
184
491260
4000
คือในอีก 10 ปีข้างหน้า
08:15
and go on a series of collaborative projects
185
495260
4000
จะมีโปรเจ็คความร่วมมือต่างๆ ในครั้งต่อๆ ไป
08:19
where I work with people from different disciplines --
186
499260
2000
ที่ซึ่งฉันทำงานกับคนจากหลากหลายสาขา
08:21
artists, technologists, scientists --
187
501260
2000
ศิลปิน ผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี นักวิทยาศาสตร์
08:23
to kind of work on this project
188
503260
2000
มาทำงานร่วมกัน
08:25
of how we can improve human-glacier relations.
189
505260
3000
เพื่อหาว่าเราจะพัฒนาความสัมพันธ์ธารน้ำแข็งกับคนได้อย่างไร
08:29
So beyond that, in closing,
190
509260
3000
สุดท้ายนี้
08:32
I'd just like to say that we're in this era
191
512260
3000
ฉันอยากจะบอกว่า พวกเราอยู่ในยุค
08:35
of communications and device proliferation,
192
515260
3000
ของการสื่อสารและอุปกรณ์ทันสมัยมากมาย
08:38
and it's really tremendous and exciting and sexy,
193
518260
3000
ซึ่งเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ น่าตื่นเต้น และเซ็กซี่มาก
08:41
but I think what's really important
194
521260
2000
แต่สิ่งที่ฉันคิดว่ามันสำคัญมากๆ
08:43
is thinking about how we can simultaneously
195
523260
2000
คือคิดหาทางทำอย่างไรให้พวกเรา
08:45
maintain a sense of wonder and a sense of criticality
196
525260
3000
คงความรู้สึกสงสัยและวิเคราะห์ในเวลาเดียวกันได้
08:48
about the tools that we use and the ways in which we relate to the world.
197
528260
3000
เกี่ยวกับเครื่องมือต่างๆ ที่เราใช้และหนทางที่เราเชื่อมต่อกับโลก
08:51
Thanks.
198
531260
2000
ขอบคุณค่ะ
08:53
(Applause)
199
533260
6000
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7