Why we need the explorers | Brian Cox

451,512 views ・ 2010-06-03

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Yada Sattarujawong
00:16
We live in difficult and challenging
0
16260
2000
เรากำลังอยู่ในช่วงที่สถานะภาพทางการเงิน
00:18
economic times, of course.
1
18260
2000
ได้รับผลกระทบและความท้าทาย แน่ล่ะครับ
00:20
And one of the first victims
2
20260
3000
ผู้ที่เป็นเหยื่อรายต้นๆ
00:23
of difficult economic times,
3
23260
2000
ของช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ
00:25
I think, is public spending of any kind,
4
25260
3000
ที่ผมคิด ก็คือการใช้จ่ายของรัฐทุกประเภท
00:28
but certainly in the firing line at the moment
5
28260
2000
แต่ที่กำลังจะถูกปลดออก ณ ขณะนี้แน่ๆ
00:30
is public spending for science,
6
30260
2000
ก็คือ ค่าใช้จ่ายของรัฐด้านวิทยาศาสตร์
00:32
and particularly curiosity-led science
7
32260
2000
และโดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ที่เกิดมาจากความใคร่รู้
00:34
and exploration.
8
34260
2000
และการสำรวจ
00:36
So I want to try and convince you in about 15 minutes
9
36260
3000
ฉะนั้น ผมอยากที่จะพยายาม และชักจูงคุณภายใน 15 นาที
00:39
that that's a ridiculous
10
39260
2000
ว่า นั่นเป็นสิ่งที่ไร้สาระ
00:41
and ludicrous thing to do.
11
41260
2000
และน่าขัน ที่จะปฎิบัติ
00:43
But I think to set the scene,
12
43260
2000
แต่ผมคิดว่าเพื่อที่จะสร้างบรรยากาศ
00:45
I want to show -- the next slide is not my attempt
13
45260
2000
ผมอยากที่จะเสนอ-- นี่ไม่ใช่ว่าผมพยายามที่จะ
00:47
to show the worst TED slide in the history of TED,
14
47260
3000
นำเสนอภาพที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ การปาถกฐาที่ TED นะครับ
00:50
but it is a bit of a mess.
15
50260
2000
แต่มันดูยุ่งเหยิงไปนิด
00:52
(Laughter)
16
52260
2000
(เสียงหัวเราะ)
00:54
But actually, it's not my fault; it's from the Guardian newspaper.
17
54260
3000
แต่จริงๆแล้ว มันไม่ใช่ความผิดผมนะครับ มันมาจากหนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียน
00:57
And it's actually a beautiful demonstration
18
57260
2000
และจริงๆแล้วมันก็เป็นการนำเสนอที่สวยงาม
00:59
of how much science costs.
19
59260
2000
ว่าวิทยาศาสตร์มีค่าใช้จ่ายเท่าไร
01:01
Because, if I'm going to make the case
20
61260
2000
เพราะว่า ถ้าผมจะร้องเรียน
01:03
for continuing to spend on curiosity-driven science and exploration,
21
63260
3000
เพื่อที่เราจะยังจ่ายเงิน ให้กับวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับการสำรวจ
01:06
I should tell you how much it costs.
22
66260
2000
ผมก็ควรที่จะบอกคุณว่ามันใช้เงินเท่าไร
01:08
So this is a game called "spot the science budgets."
23
68260
2000
นี่เป็นเกมส์ที่เรียกว่า "งบวิทยาศาสตร์อยู่ตรงไหน"
01:10
This is the U.K. government spend.
24
70260
2000
นี่คือรายจ่ายของรัฐบาลสหราชอาณาจักร
01:12
You see there, it's about 620 billion a year.
25
72260
3000
มันมีมูลค่าราวๆ 620 พันล้าน ต่อปี
01:15
The science budget is actually --
26
75260
2000
งบทางวิทยาศาสตร์จริงๆแล้ว --
01:17
if you look to your left, there's a purple set of blobs
27
77260
3000
ถ้าคุณมองทางซ้าย มันจะมีจุดสีม่วงๆเป็นกลุ่ม
01:20
and then yellow set of blobs.
28
80260
2000
แล้วก็มีจุดสีเหลืองๆเป็นกลุ่ม
01:22
And it's one of the yellow set of blobs
29
82260
2000
และหนึ่งในจุดเหลืองๆกลุ่มนั้น
01:24
around the big yellow blob.
30
84260
2000
รอบๆจุดสีเหลืองอันใหญ่
01:26
It's about 3.3 billion pounds per year
31
86260
2000
มันมีค่าประมาณ 3.3 พันล้าน ปอด์น ต่อปี
01:28
out of 620 billion.
32
88260
2000
จากทั้งหมด 620 พันล้าน
01:30
That funds everything in the U.K.
33
90260
2000
นั่นคือเงินทุนทั้งหมดในสหราชอาณาจักรที่จ่ายให้
01:32
from medical research, space exploration,
34
92260
3000
ตั้งแต่การวิจัยทางการแพทย์ การสำรวจอวกาศ
01:35
where I work, at CERN in Geneva, particle physics,
35
95260
2000
ที่ที่ผมทำงาน ณ CERN ใน เจนิวา ด้านฟิสิกส์อนุภาค
01:37
engineering, even arts and humanities,
36
97260
3000
วิศวกรรม แม้กระทั่งศิลปะและมานุษยศาสตร์
01:40
funded from the science budget,
37
100260
2000
ได้รับเงินจากงบทางวิทยาศาสตร์
01:42
which is that 3.3 billion, that little, tiny yellow blob
38
102260
3000
ซึ่งมีค่าราวๆ 3.3 พันล้าน จุดเล็กๆ สีเหลืองนั่น
01:45
around the orange blob at the top left of the screen.
39
105260
3000
รอบๆจุดสีส้มตรงด้านบนซ้ายของจอ
01:48
So that's what we're arguing about.
40
108260
2000
นั่นแหละคือสิ่งที่เรากำลังถกเถียงอยู่
01:50
That percentage, by the way, is about the same
41
110260
2000
เปอร์เซ็นต์นั้น ค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกับ
01:52
in the U.S. and Germany and France.
42
112260
2000
ในประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมันนี ฝรั่งเศส
01:54
R&D in total in the economy,
43
114260
2000
เงินสนับสนุนทั้งหมดสำหรับ การวิจัยและพัฒนา
01:56
publicly funded, is about
44
116260
2000
จากงบของรัฐบาล
01:58
0.6 percent of GDP.
45
118260
2000
มีค่าประมาณ 0.6 เปอร์เซ็นต์ของ จีดีพี
02:00
So that's what we're arguing about.
46
120260
2000
นั่นเป็นสิ่งที่เรากำลังถกเถึยงกันอยู่
02:02
The first thing I want to say,
47
122260
2000
สิ่งแรกที่ผมอยากจะกล่าว
02:04
and this is straight from "Wonders of the Solar System,"
48
124260
3000
ซึ่งคัดลอกมาจาก (สารคดี) "Wonders of the Solar System"
02:07
is that our exploration of the solar system and the universe
49
127260
3000
ก็คือ การสำรวจระบบสุริยจักรวาลและเอกภพ
02:10
has shown us that it is indescribably beautiful.
50
130260
3000
ได้ทำให้เราเห็นว่ามันสวยงามเกินคำบรรยาย
02:13
This is a picture that actually was sent back
51
133260
2000
นี่คือภาพที่ถูกส่งกลับมา
02:15
by the Cassini space probe around Saturn,
52
135260
2000
จากยานอวกาศคัสซินี่ รอบดาวเสาร์
02:17
after we'd finished filming "Wonders of the Solar System."
53
137260
2000
หลังจากที่เราถ่ายทำ "Wonders of the Solar System." เสร็จแล้ว
02:19
So it isn't in the series.
54
139260
2000
มันก็เลยไม่ได้อยู่ในสารคดีนั้น
02:21
It's of the moon Enceladus.
55
141260
2000
นี่คือภาพดวงจันทร์ เอนเซลาดัส
02:23
So that big sweeping, white
56
143260
2000
รอยแถบสีขาว
02:25
sphere in the corner is Saturn,
57
145260
2000
ทรงกลม ที่มุมนั่นคือดาวเสาร์
02:27
which is actually in the background of the picture.
58
147260
3000
ซึ่งจริงๆแล้วมันอยู่ที่ฉากหลังของรูป
02:30
And that crescent there is the moon Enceladus,
59
150260
2000
และเสี้ยววงกลมนั่นก็คือดวงจันทร์ เอนเซลาดัส
02:32
which is about as big as the British Isles.
60
152260
3000
ซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆกับบริติชไอลส์
02:35
It's about 500 kilometers in diameter.
61
155260
2000
มันมีเส้นผ่านศูนย์ประมาณ 500 กิโลเมตร
02:37
So, tiny moon.
62
157260
2000
เป็นดวงจันทร์เล็กๆ
02:39
What's fascinating and beautiful ...
63
159260
2000
ช่างน่าสนใจและสวยงาม...
02:41
this an unprocessed picture, by the way, I should say,
64
161260
2000
นี่เป็นภาพไม่ได้ตบแต่งนะครับ ผมต้องบอกไว้หน่อย
02:43
it's black and white, straight from Saturnian orbit.
65
163260
3000
มันเป็นภาพขาวดำ ส่งตรงมาจากวงโคจรของดาวเสาร์
02:46
What's beautiful is, you can probably see on the limb there
66
166260
2000
สิ่งที่สวยงามก็คือ คุณน่าจะเห็นแขนมันตรงนั้น
02:48
some faint, sort of,
67
168260
2000
มีอะไรจางๆ
02:50
wisps of almost smoke
68
170260
2000
เป็นแนวหมอกบางๆ
02:52
rising up from the limb.
69
172260
2000
ลอยขึ้นจากช่วงที่เป็นเหมือนแขน
02:54
This is how we visualize that in "Wonders of the Solar System."
70
174260
3000
นี่คือสิ่งที่เราเห็น จาก "Wonders of the Solar System."
02:57
It's a beautiful graphic.
71
177260
2000
เป็นกราฟฟิกที่สวยดี
02:59
What we found out were that those faint wisps
72
179260
2000
สิ่งที่เราค้นพบก็คือสายหมอกบางๆนั้น
03:01
are actually fountains of ice
73
181260
2000
จริงๆแล้วก็คือน้ำพุน้ำแข็ง
03:03
rising up from the surface of this tiny moon.
74
183260
3000
พุ่งขึ้นมากพื้นผิวของดวงจันทร์เล็กๆนี้
03:06
That's fascinating and beautiful in itself,
75
186260
3000
มันน่าตื่นตาตืนใจและสวยงามในตัวของมัน
03:09
but we think that the mechanism
76
189260
2000
แต่เราคิดว่าระบบ
03:11
for powering those fountains
77
191260
2000
ที่ให้พลังงานกับน้ำพุเหล่านี้
03:13
requires there to be lakes of liquid water
78
193260
3000
ต้องการแหล่งน้ำที่เป็นของเหลว
03:16
beneath the surface of this moon.
79
196260
2000
ภายใต้พื้นผิวของดวงจันทร์นี้
03:18
And what's important about that
80
198260
2000
และสิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับมันก็คือ
03:20
is that, on our planet, on Earth,
81
200260
2000
บนดาวเคราะห์ของเรา บนโลก
03:22
wherever we find liquid water,
82
202260
2000
ที่ใดก็ตามที่มี น้ำ
03:24
we find life.
83
204260
2000
เราพบสิ่งมีชีวิต
03:26
So, to find strong evidence
84
206260
3000
ดังนี้ เพื่อที่จะหาหลักฐานชิ้นสำคัญ
03:29
of liquid, pools of liquid, beneath the surface of a moon
85
209260
3000
เกี่ยวกับของเหลว สระของเหลว ภายใต้พื้นผิวดวงจันทร์
03:32
750 million miles away from the Earth
86
212260
3000
ห่างจากโลกไป 750 ล้านไมล์
03:35
is really quite astounding.
87
215260
3000
เป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าประทับใจ
03:38
So what we're saying, essentially,
88
218260
2000
ประเด็นสำคัญที่เรากำลังพูดก็คือ
03:40
is maybe that's a habitat for life in the solar system.
89
220260
3000
นี่อาจเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในระบบสุริยจักรวาล
03:44
Well, let me just say, that was a graphic. I just want to show this picture.
90
224260
3000
ภาพนั้นเป็นภาพกราฟฟิกนะครับ ผมอยากจะให้คุณดูภาพนี้
03:47
That's one more picture of Enceladus.
91
227260
2000
นี่เป็นอีกภาพของเอนเซลาดัส
03:49
This is when Cassini flew beneath Enceladus.
92
229260
3000
นี่เป็นตอนที่แคสซินี่บินอยู่ใต้เอนเซลาดัส
03:52
So it made a very low pass,
93
232260
2000
มันเฉียดเขาไปใกล้มากๆ
03:54
just a few hundred kilometers above the surface.
94
234260
2000
เหนือจากพื้นผิวเพียงแค่ไม่กี่ร้อยกิโลเมตร
03:56
And so this, again, a real picture of the ice fountains rising up into space,
95
236260
3000
และนี่ เป็นอีกภาพจริงของนำ้พุน้ำแข็งที่พุ่งขึ้นสู่อวกาศ
03:59
absolutely beautiful.
96
239260
2000
สวยงามมากๆ
04:01
But that's not the prime candidate for life in the solar system.
97
241260
3000
แต่นี่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกหลักในระบบสุริยจักรวาลสำหรับชีวิต
04:04
That's probably this place,
98
244260
2000
นั่นน่าจะเป็นที่นี่
04:06
which is a moon of Jupiter, Europa.
99
246260
2000
ซึ่งก็คือดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดี ชื่อว่า ยูโรปา
04:08
And again, we had to fly to the Jovian system
100
248260
3000
และอีกครั้ง เราต้องบินไปถึงวงโคจรของดาวพฤหัส
04:11
to get any sense that this moon, as most moons,
101
251260
3000
เพื่อที่จะทราบว่าดวงจันทร์นี้ ต่างกับดวงจันทร์อื่นๆ
04:14
was anything other than a dead ball of rock.
102
254260
2000
เป็นอะไรไปมากกว่าลูกบอลหินตายๆ
04:16
It's actually an ice moon.
103
256260
2000
ที่จริงแล้วมันเป็นดวงจันทร์น้ำแข็ง
04:18
So what you're looking at is the surface of the moon Europa,
104
258260
3000
ฉะนั้น ที่คุณเห็นก็คือพื้นผิวของดวงจันทร์ยุโรปา
04:21
which is a thick sheet of ice, probably a hundred kilometers thick.
105
261260
3000
ที่เป็นแผ่นน้ำแข็งหนา ประมาณร้อยกิโลเมตร
04:24
But by measuring the way that
106
264260
2000
แต่จากการวัด
04:26
Europa interacts
107
266260
2000
ปฎิกิริยาที่ยูโรปา
04:28
with the magnetic field of Jupiter,
108
268260
2000
มีต่อสนามแม่เหล็กของดาวพฤหัส
04:30
and looking at how those cracks in the ice
109
270260
2000
และดูรอยแตกของน้ำแข็ง
04:32
that you can see there on that graphic move around,
110
272260
3000
ที่คุณเห็นในภาพกราฟฟิกเคลือนไปมา
04:35
we've inferred very strongly
111
275260
2000
เราค่อนข้างมั่นใจว่า
04:37
that there's an ocean of liquid surrounding
112
277260
2000
มันมีทะเลของเหลวอยู่รอบๆ
04:39
the entire surface of Europa.
113
279260
3000
ทั้งพื้นผิวของยูโรปา
04:42
So below the ice, there's an ocean of liquid around the whole moon.
114
282260
3000
ดังนั้นภายใต้น้ำแข็ง มีทะเลของเหลวอยู่รอบทั้งดวงจันทร์
04:45
It could be hundreds of kilometers deep, we think.
115
285260
3000
มันอาจจะลึกถึงร้อยกิโลเมตร เราคิดว่าอย่างนั้น
04:48
We think it's saltwater, and that would mean that
116
288260
2000
เราคิดว่ามันเป็นน้ำเค็ม และมันอาจหมายถึง
04:50
there's more water on that moon of Jupiter
117
290260
3000
มันน่าจะมีน้ำบนดวงจันทร์ของดาวพฤหัส
04:53
than there is in all the oceans of the Earth combined.
118
293260
3000
มากกว่าน้ำในทะเลทั้งหมดบนโลกรวมกัน
04:56
So that place, a little moon around Jupiter,
119
296260
3000
ฉะนั้น ทีนั่น ดวงจันทร์เล็กๆรอบดาวพฤหัส
04:59
is probably the prime candidate
120
299260
3000
อาจเป็นตัวเป้าหมายหลัก
05:02
for finding life on a moon
121
302260
2000
ที่จะไปสำรวจหาชีวิตบนดวงจันทร์
05:04
or a body outside the Earth, that we know of.
122
304260
3000
หรือสิ่งนอกโลกที่เรารู้จัก
05:07
Tremendous and beautiful discovery.
123
307260
3000
ช่างเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่และสวยมาก
05:10
Our exploration of the solar system
124
310260
2000
การสำรวจระบบสุริยจักรวาลของเรา
05:12
has taught us that the solar system is beautiful.
125
312260
2000
สอนให้เรารู้ว่า ระบบสุริยะจักรวาลนั้นสวยงาม
05:14
It may also have pointed the way to answering
126
314260
3000
มันอาจจะชี้นำไปยังหนทางที่จะให้คำตอบ
05:17
one of the most profound questions that you can possibly ask,
127
317260
3000
ของปัญหาที่ตอบยากที่สุด
05:20
which is: "Are we alone in the universe?"
128
320260
3000
ซึ่งก็คือ "เราโดดเดี่ยวในเอกภพนี้หรือ"
05:23
Is there any other use to exploration and science,
129
323260
2000
การสำรวจและวิทยาศาสตร์มันมีประโยชน์อะไร
05:25
other than just a sense of wonder?
130
325260
2000
มากไปกว่าให้ความรู้สึกอัศจรรย์นี้หรือเปล่า
05:27
Well, there is.
131
327260
2000
มีครับ
05:29
This is a very famous picture
132
329260
2000
นี่เป็นภาพที่โด่งดัง
05:31
taken, actually, on my first Christmas Eve,
133
331260
2000
ถูกถ่ายไว้ ตอนวันคริสมาสอีฟแรกของผม
05:33
December 24th, 1968,
134
333260
3000
24 ธันวาคม 1968
05:36
when I was about eight months old.
135
336260
2000
ตอนผมประมาณแปดเดือน
05:38
It was taken by Apollo 8
136
338260
2000
มันถูกถ่ายไว้โดยยานอวกาศ อะพอลโล 8
05:40
as it went around the back of the moon.
137
340260
2000
ขณะที่มันผ่านไปด้านหลังของดวงจันทร์
05:42
Earthrise from Apollo 8.
138
342260
2000
โลกขึ้น จาก อะพอลโล 8
05:44
A famous picture; many people have said that it's the picture
139
344260
2000
เป็นภาพโด่งดัง หลายคนบอกว่า
05:46
that saved 1968,
140
346260
2000
ภาพนี้ช่วยปี 1968 ไว้
05:48
which was a turbulent year --
141
348260
2000
ซึ่งปีนี้เป็นปีที่มีแค่ความโกลาหล
05:50
the student riots in Paris,
142
350260
2000
นักศึกษาก่อจราจลที่ปารีส
05:52
the height of the Vietnam War.
143
352260
2000
จุดสำคัญของสงครามเวียดนาม
05:54
The reason many people think that about this picture,
144
354260
3000
เหตุผลที่หลายคนคิดอย่างนั้น จากภาพๆนี้
05:57
and Al Gore has said it many times, actually, on the stage at TED,
145
357260
3000
และ อัล กอร์ ได้กล่าวไว้หลายครั้ง ที่จริง ณ ที่ TED
06:00
is that this picture, arguably, was
146
360260
2000
ว่าน่าจะจริง ที่ภาพนี้
06:02
the beginning of the environmental movement.
147
362260
2000
เป็นจุดเริ่มต้นของ ความเคลื่อนไหวเรื่องสิ่งแวดล้อม
06:04
Because, for the first time,
148
364260
2000
เพราะว่า มันเป็นครั้งแรก
06:06
we saw our world,
149
366260
2000
ที่เราเห็นโลกของเรา
06:08
not as a solid, immovable,
150
368260
3000
ในรูปแบบที่ไม่ใช่ของแข็ง แน่นิ่ง
06:11
kind of indestructible place,
151
371260
2000
เหมือนสถานที่ซึ่งอยู่ยั้งคงทน
06:13
but as a very small, fragile-looking world
152
373260
3000
แต่ ในมุมมองที่มันช่างเล็ก และดูเป็นโลกที่บอบบาง
06:16
just hanging against the blackness of space.
153
376260
3000
แขวนอยู่บนอวกาศที่มืดมิด
06:19
What's also not often said
154
379260
2000
สิ่งที่ไม่ได้ถูกพูดถึงบ่อยๆ
06:21
about the space exploration, about the Apollo program,
155
381260
3000
เกี่ยวกับการสำรวจอวกาศ เกี่ยวกับโครงการอะพอลโล
06:24
is the economic contribution it made.
156
384260
2000
ก็คือผลตอบแทนทางการเงินที่มันให้
06:26
I mean while you can make arguments that it was wonderful
157
386260
3000
ผมจะสื่อว่า ในขณะที่คุณสามารถเพียงได้ว่า มันสวยงาม
06:29
and a tremendous achievement
158
389260
2000
และเป็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่
06:31
and delivered pictures like this,
159
391260
2000
และส่งรูปแบบนี้มา
06:33
it cost a lot, didn't it?
160
393260
2000
มันแพงมากใช่ไหม
06:35
Well, actually, many studies have been done
161
395260
2000
มีการศึกษามากมาย
06:37
about the economic effectiveness,
162
397260
2000
เกี่ยวกับ ศักยภาพทางเศรษฐศาสตร์
06:39
the economic impact of Apollo.
163
399260
2000
และผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากอะพอลโล
06:41
The biggest one was in 1975 by Chase Econometrics.
164
401260
3000
ที่ใหญ่ที่สุดอันนึงก็คือ ในปี 1975 โดย เชส เอโคโนมิค
06:44
And it showed that for every $1 spent on Apollo,
165
404260
3000
และมันได้รายงานว่า ทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ใช้ไปกับอะพอลโล
06:47
14 came back into the U.S. economy.
166
407260
3000
เงิน 14 ดอลลาร์จะกลับมาในเศรษฐกิจของสหรัฐ
06:50
So the Apollo program paid for itself
167
410260
2000
ฉะนั้น โครงการอะพอลโลก็เหมือนให้งบกับตัวเอง
06:52
in inspiration,
168
412260
2000
ในเรื่องแรงบันดาลใจ
06:54
in engineering, achievement
169
414260
2000
เรื่องวิศวกรรม ความสำเร็จ
06:56
and, I think, in inspiring young scientists and engineers
170
416260
3000
และ ผมคิดว่า สร้างแรงบันดาลใจ ให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์และวิศวกร
06:59
14 times over.
171
419260
2000
มากกว่า 14 เท่า
07:01
So exploration can pay for itself.
172
421260
2000
ดังนั้น โครงการสำรวจสามารถสร้างงบได้เอง
07:03
What about scientific discovery?
173
423260
3000
แล้วการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ล่ะ
07:06
What about driving innovation?
174
426260
2000
แล้วการขับเคลื่อนของสิ่งประดิษฐ์ล่ะ
07:08
Well, this looks like a picture of virtually nothing.
175
428260
3000
นี่อาจดูเหมือนภาพที่ไม่มีอะไรเลย
07:11
What it is, is a picture of the spectrum
176
431260
2000
แต่ที่จริงแล้วมันคือภาพของสเปคตรัม
07:13
of hydrogen.
177
433260
2000
ของไฮโดรเจน
07:16
See, back in the 1880s, 1890s,
178
436260
3000
ย้อนไปในยุคช่วง 1880 1890
07:19
many scientists, many observers,
179
439260
3000
นักวิทยาศาสตร์ นักสำรวจทั้งหลาย
07:22
looked at the light given off from atoms.
180
442260
2000
มองไปยังแสงที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากอะตอม
07:24
And they saw strange pictures like this.
181
444260
2000
และพวกเขาก็ได้เห็นภาพประหลาดๆแบบนี้
07:26
What you're seeing when you put it through a prism
182
446260
2000
สิ่งที่คุณได้เห็นเมื่อคุณผ่านแสงไปยังแท่งปริซึม
07:28
is that you heat hydrogen up and it doesn't just glow
183
448260
3000
ก็คือ คุณให้ความร้อนกับไฮโดนเจน และมันก็ไม่ใช่แค่มีแสง
07:31
like a white light,
184
451260
2000
เหมือนกับแสงขาว
07:33
it just emits light at particular colors,
185
453260
2000
มันปล่อยแสงที่มีสีจำเพาะต่างๆ
07:35
a red one, a light blue one, some dark blue ones.
186
455260
3000
แดง ฟ้าอ่อน หรือฟ้าเข้ม
07:38
Now that led to an understanding of atomic structure
187
458260
3000
นั่นนำไปสู่ความเข้าใจในเรื่องโครงสร้างของอะตอม
07:41
because the way that's explained
188
461260
2000
เพราะมันเป็นการอธิบายว่า
07:43
is atoms are a single nucleus
189
463260
2000
อะตอมมีอยู่หนึ่งนิวเคลียส
07:45
with electrons going around them.
190
465260
2000
และมีอิเล็กตรอนวิ่งวนอยู่รอบๆ
07:47
And the electrons can only be in particular places.
191
467260
3000
และอิเล็กตรอนนั้นสามารถอยู่ได้ในที่เฉพาะเท่านั้น
07:50
And when they jump up to the next place they can be,
192
470260
2000
และเมื่อมันกระโดดขึ้นไปยัง จุดถัดไปที่มันสามารถอยู่ได้
07:52
and fall back down again,
193
472260
2000
และตกกลับลงมาอีกครั้ง
07:54
they emit light at particular colors.
194
474260
2000
มันจะปล่อยแสงสีจำเพาะออกมา
07:56
And so the fact that atoms, when you heat them up,
195
476260
2000
และ ข้อเท็จจริงก็ที่ว่า เมื่อคุณให้ความร้อนมัน
07:58
only emit light at very specific colors,
196
478260
3000
อะตอมจะให้แสงสีจำเพาะหนึ่ง
08:01
was one of the key drivers
197
481260
2000
ก็เป็นหนึ่งในแรงขับสำคัญ
08:03
that led to the development of the quantum theory,
198
483260
2000
ที่นำไปสู่การพัฒนาของทฤษฎีควอนตัม
08:05
the theory of the structure of atoms.
199
485260
3000
และทฤษฎีโครงสร้างของอะตอม
08:08
I just wanted to show this picture because this is remarkable.
200
488260
3000
ผมแค่อยากที่จะใหัคุณ ชมรูปภาพนี้เพราะว่ามันยอดเยี่ยม
08:11
This is actually a picture of the spectrum of the Sun.
201
491260
2000
มันเป็นภาพของสเปคตรัมของดวงอาทิตย์
08:13
And now, this is a picture of atoms in the Sun's atmosphere
202
493260
3000
และ นี่เป็นภาพของอะตอม ในชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์
08:16
absorbing light.
203
496260
2000
กำลังดูดกลืนแสง
08:18
And again, they only absorb light at particular colors
204
498260
2000
และอีกครั้งหนึ่ง มันดูดกลืนแสงเป็นเฉพาะสี
08:20
when electrons jump up and fall down,
205
500260
2000
เมื่ออิเล็คตรอนกระโดดขึ้นและตกลงมา
08:22
jump up and fall down.
206
502260
2000
กระโดดขึ้นและตกลงมา
08:24
But look at the number of black lines in that spectrum.
207
504260
3000
แต่ลองนับจำนวนเส้นสีดำในสเปคตรัมสิครับ
08:27
And the element helium
208
507260
2000
และ ธาตุฮีเลี่ยม
08:29
was discovered just by staring at the light from the Sun
209
509260
3000
ก็ถูกค้นพบ แค่จากการจ้องมองไปยังแสง ที่มาจากดวงอาทิตย์
08:32
because some of those black lines were found
210
512260
2000
เพราะว่าเส้นสีดำเหล่านี้ มีเป็นบางเส้น
08:34
that corresponded to no known element.
211
514260
2000
ที่พบว่ามันไม่ได้สอดคล้องกับธาตุใดๆที่เรารู้มาก่อน
08:36
And that's why helium's called helium.
212
516260
2000
และนั่นเป็นสาเหตุที่ฮีเลี่ยน ได้ชื่อนี้
08:38
It's called "helios" -- helios from the Sun.
213
518260
3000
"เฮลิโอส" แปลว่า ดวงอาทิตย์
08:41
Now, that sounds esoteric,
214
521260
2000
ทีนี้ นี่อาจฟังดูซับซ้อน
08:43
and indeed it was an esoteric pursuit,
215
523260
3000
และจริงๆแล้วมันก็เป็นการศึกษาที่ยากยิ่ง
08:46
but the quantum theory quickly led
216
526260
2000
แต่ว่า ทฤษฎีควอนตัม ได้นำเรา
08:48
to an understanding of the behaviors of electrons in materials
217
528260
3000
ไปสู่ความเข้าใจในพฤติกรรมของอิเล็กตรอนในสารต่างๆ
08:51
like silicon, for example.
218
531260
2000
เช่นใน ซิลิคอน
08:53
The way that silicon behaves,
219
533260
2000
พฤติกรรมของซิลิคอนที่เป็นแบบนั้น
08:55
the fact that you can build transistors,
220
535260
2000
และการที่คุณสามารถสร้างทรานซิสเตอร์ได้
08:57
is a purely quantum phenomenon.
221
537260
2000
นั่นเป็นปรากฎการณ์ทางควอนตัมล้วนๆ
08:59
So without that curiosity-driven
222
539260
2000
ดังนั้น ถ้าปราศจากการขับเคลือนจากความสงสัย
09:01
understanding of the structure of atoms,
223
541260
2000
ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของอะตอม
09:03
which led to this rather esoteric theory, quantum mechanics,
224
543260
3000
ซึ่งนำไปสู่ทฤษฏีที่ซับซ้อน อย่างกลศาสตร์ควอนตัม
09:06
then we wouldn't have transistors, we wouldn't have silicon chips,
225
546260
3000
เราก็คงจะไม่มีทรานซิสเตอร์ คงไม่มีแผงซิลิคอน
09:09
we wouldn't have pretty much the basis
226
549260
3000
เราคงจะไม่มีสิ่งที่เราใช้กันเป็นพื้นฐาน
09:12
of our modern economy.
227
552260
2000
ของเศรษฐศาสตร์ยุคใหม่ของเรา
09:14
There's one more, I think, wonderful twist to that tale.
228
554260
3000
มีอีกอย่างหนึ่ง ผมคิดว่า เป็นจุดหักมุมในเรื่องที่น่าสนใจ
09:17
In "Wonders of the Solar System,"
229
557260
2000
ใน "Wonders of the Solar System"
09:19
we kept emphasizing the laws of physics are universal.
230
559260
3000
เราพูดเน้นเกี่ยวกับกฎของฟิสิกส์ว่ามันเป็นสากล
09:22
It's one of the most incredible things about the physics
231
562260
3000
สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดเกี่ยวกับฟิสิกส์
09:25
and the understanding of nature that you get on Earth,
232
565260
3000
และความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติบนโลกของเรา
09:28
is you can transport it, not only to the planets,
233
568260
3000
ก็คือ คุณสามารถใช้มัน ไม่ใช่แค่กับดาวเคราะห์
09:31
but to the most distant stars and galaxies.
234
571260
2000
แต่กับดาวและกาแลกซี่ที่ห่างไกลออกไป
09:33
And one of the astonishing predictions
235
573260
2000
และหนึ่งในการทำนายที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด
09:35
of quantum mechanics,
236
575260
2000
ในควอนตัมกลศาสตร์
09:37
just by looking at the structure of atoms --
237
577260
2000
ด้วยเพียงแค่การสังเกตุโครงสร้างของอะตอม
09:39
the same theory that describes transistors --
238
579260
2000
ด้วยทฤษฎีเดียวกับที่ใช้อธิบายเรื่องทรานซิสเตอร์
09:41
is that there can be no stars in the universe
239
581260
3000
ก็คือ มันเป็นไปไม่ได้ที่ดาวในเอกภพ
09:44
that have reached the end of their life
240
584260
2000
ที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิตมัน
09:46
that are bigger than, quite specifically, 1.4 times the mass of the Sun.
241
586260
3000
จะมีขนาดใหญ่ไปกว่า 1.4 เท่าของมวลดวงอาทิตย์
09:49
That's a limit imposed on the mass of stars.
242
589260
3000
นัั่นเป็นขอบเขตมวลดวงดาวที่มากที่สุดที่จะเป็นไปได้
09:52
You can work it out on a piece of paper in a laboratory,
243
592260
3000
คุณสามารถลองทำการคำนวณได้บนแผ่นกระดาษ
09:55
get a telescope, swing it to the sky,
244
595260
2000
คว้ากล้องโทรทัศน์ มองไปบนฟ้า
09:57
and you find that there are no dead stars
245
597260
3000
และคุณจะพบว่ามันไม่มีดาวที่ตายแล้วดวงไหน
10:00
bigger than 1.4 times the mass of the Sun.
246
600260
2000
ใหญ่ไปกว่า 1.4 เท่าของมวลดวงอาทิตย์เลย
10:02
That's quite an incredible prediction.
247
602260
3000
มันเป็นการทำนายที่ค่อนข้างน่าทึ่งทีเดียว
10:05
What happens when you have a star that's right on the edge of that mass?
248
605260
3000
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าดาวอยู่ที่สุดขอบของมวลสูงสุดล่ะ
10:08
Well, this is a picture of it.
249
608260
2000
ลองคิดแบบนี้นะครับ
10:10
This is the picture of a galaxy, a common "our garden" galaxy
250
610260
3000
นี่คือภาพของดาราจักร แบบปกติ "ดาราจักรสวนหลังบ้านเรา"
10:13
with, what, 100 billion
251
613260
2000
ที่มีดาวอยู่ประมาณ 100 ล้านดวง
10:15
stars like our Sun in it.
252
615260
2000
เช่นดวงอาทิตย์
10:17
It's just one of billions of galaxies in the universe.
253
617260
3000
มันเป็นแค่หนึ่งในพันล้านดาราจักรในเอกภพ
10:20
There are a billion stars in the galactic core,
254
620260
2000
มันมีดาวพันล้านดวงในศูนย์กลางดาราจักร
10:22
which is why it's shining out so brightly.
255
622260
3000
นั่นเป็นเหตุว่าทำไมมันถึงสว่างมาก
10:25
This is about 50 million light years away,
256
625260
2000
นี่มันห่างไปประมาณ 50 ล้านปีแสง
10:27
so one of our neighboring galaxies.
257
627260
2000
หนึ่งในเพื่อนบ้านของดาราจักรของเรา
10:29
But that bright star there
258
629260
2000
แต่ดาวที่สว่างๆนั่น
10:31
is actually one of the stars in the galaxy.
259
631260
3000
เป็นดาวดวงหนึ่งในดาราจักร
10:34
So that star is also
260
634260
2000
ฉะนั้นดาวดวงนั้น
10:36
50 million light years away.
261
636260
2000
ก็ห่างจากเราไป 50 ล้านปีแสงด้วย
10:38
It's part of that galaxy, and it's shining as brightly
262
638260
3000
มันเป็นส่วนหนึ่งของดาราจักร และมันก็มีแสงส่องสว่างมาก
10:41
as the center of the galaxy
263
641260
2000
เหมือนกับใจกลางดาราจักร
10:43
with a billion suns in it.
264
643260
2000
ที่มีดาวอยู่เป็นพันล้านดวง
10:45
That's a Type Ia supernova explosion.
265
645260
3000
นั่นเป็น ซุปเปอร์โนว่าแบบ หนึ่งเอ
10:48
Now that's an incredible phenomena,
266
648260
2000
มันเป็นปรากฎการณ์ที่น่าสนใจมาก
10:50
because it's a star that sits there.
267
650260
2000
เพราะว่า มันมีดาวที่อยู่ตรงนั้น
10:52
It's called a carbon-oxygen dwarf.
268
652260
2000
มันเรียกว่า ดาวแคระ คาร์บอน-ออกซิเจน
10:54
It sits there about, say, 1.3 times the mass of the Sun.
269
654260
3000
มันอยู่ตรงนั้น มีมวลประมาณ 1.3 เท่าของดวงอาทิตย์
10:57
And it has a binary companion that goes around it,
270
657260
3000
และมีดาวที่เป็นคู่กับมันวนอยู่รอบๆ
11:00
so a big star, a big ball of gas.
271
660260
3000
มันเป็นดาวที่ใหญ่มาก เป็นลูกบอลก๊าซขนาดยักษ์
11:03
And what it does is it sucks gas
272
663260
2000
และสิ่งที่มันทำก็คือมันดูดเอาก๊าซ
11:05
off its companion star,
273
665260
2000
จากดาวที่เป็นคู่ของมัน
11:07
until it gets to this limit called the Chandrasekhar limit,
274
667260
3000
จนกระทั่งมันเข้าสู่จุดพิกัดที่เรียกว่า ชันดราเซคา (Chandrasekhar)
11:10
and then it explodes.
275
670260
2000
และเมื่อมันระเบิด
11:12
And it explodes, and it shines as brightly
276
672260
2000
มันส่องแสงสว่างมาก
11:14
as a billion suns for about two weeks,
277
674260
2000
เหมือนกับดาวเป็นพันล้านดวง อยู่ประมาณสองสัปดาห์
11:16
and releases, not only energy,
278
676260
3000
และปลดปล่อยไม่ใช่แค่พลังงาน
11:19
but a huge amount of chemical elements into the universe.
279
679260
3000
แต่ยังมีสารเคมีมากมาย ออกสู่เอกภพ
11:22
In fact, that one is a carbon-oxygen dwarf.
280
682260
3000
ที่จริงแล้ว นั่นเป็นหนึ่งในดาว แคระ คาร์บอน-ออกซิเจน
11:25
Now, there was no carbon and oxygen
281
685260
2000
มันไม่มีคาร์บอนและออกซิเจน
11:27
in the universe at the Big Bang.
282
687260
2000
ในเอกภพเมื่อเกิดบิ๊กแบง
11:29
And there was no carbon and oxygen in the universe
283
689260
2000
และมันก็ไม่มีคาร์บอนและออกซิเจนในเอกภพ
11:31
throughout the first generation of stars.
284
691260
3000
ตลอดชั่วอายุขัยแรกของดวงดาว
11:34
It was made in stars like that,
285
694260
2000
มันถูกสร้างขึ้นในดวงดาวแบบนั้น
11:36
locked away and then returned to the universe
286
696260
2000
ถูกกักเก็บเอาไว้ และถูกปล่อยสู่เอกภพในภายหลัง
11:38
in explosions like that
287
698260
2000
ด้วยการระเบิดออก
11:40
in order to recondense into planets,
288
700260
2000
เพื่อที่มันจะอัดตัวใหม่เป็นดาวเคราะห์
11:42
stars, new solar systems
289
702260
2000
ดวงดาว และจักรภพใหม่
11:44
and, indeed, people like us.
290
704260
3000
และแน่นอน เป็นพวกเรา
11:47
I think that's a remarkable demonstration of the power
291
707260
2000
ผมคิดว่า นั่นเป็นการแสดงที่น่าทึ่งของพลัง
11:49
and beauty and universality of the laws of physics,
292
709260
3000
และความงาม และ ความเป็นสากลของกฎทางฟิสิกส์
11:52
because we understand that process,
293
712260
2000
เพราะว่าเราเข้าใจในกระบวนการของมัน
11:54
because we understand
294
714260
2000
เพราะว่าเราเข้าใจ
11:56
the structure of atoms here on Earth.
295
716260
2000
โครงสร้างของอะตอมบนโลกนี้
11:58
This is a beautiful quote that I found --
296
718260
2000
นี่คือบทความที่สวยงามที่ผมพบ
12:00
we're talking about serendipity there -- from Alexander Fleming:
297
720260
3000
กล่าวถึงว่าเราโชคดีแค่ไหน เป็นบทความจาก อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง
12:03
"When I woke up just after dawn
298
723260
2000
"เมื่อผมตื่นขึ้นหลังรุ่งเช้าไปเล็กน้อย
12:05
on September 28, 1928,
299
725260
2000
ในวันที่ 28 กันยายน 1928
12:07
I certainly didn't plan to revolutionize all medicine
300
727260
2000
ผมไม่ได้วางแผนที่จะปฎิวัติวงการแพทย์
12:09
by discovering the world's first antibiotic."
301
729260
3000
ด้วยการค้นพบสารปฎิชีวนะตัวแรกของโลก"
12:12
Now, the explorers of the world of the atom
302
732260
2000
เช่นกัน นักสำรวจแห่งโลกของอะตอม
12:14
did not intend to invent the transistor.
303
734260
2000
ไม่ได้จงใจที่จะสร้างทรานซิสเตอร์
12:16
And they certainly didn't intend to
304
736260
2000
พวกเขาไม่ได้จงใจ
12:18
describe the mechanics of supernova explosions,
305
738260
3000
ที่จะอธิบายกระบวนการของการเกิดซุปเปอร์โนว่า
12:21
which eventually told us where
306
741260
2000
ซึ่งที่สุดแล้ว ทำให้เรารู้ว่า
12:23
the building blocks of life
307
743260
2000
หน่วยที่เป็นส่วนประกอบของชีวิต
12:25
were synthesized in the universe.
308
745260
2000
ถูกสร้างขึ้นมาจากที่ใดในเอกภพ
12:28
So, I think science can be --
309
748260
2000
ดังนั้น ผมคิดว่า วิทยาศาสตร์
12:30
serendipity is important.
310
750260
2000
มีความสำคัญ
12:32
It can be beautiful. It can reveal quite astonishing things.
311
752260
3000
มันสวยงาม และสามารถเปิดเผยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ
12:35
It can also, I think, finally
312
755260
3000
ที่สุดแล้ว
12:38
reveal the most profound
313
758260
2000
มันยังเปิดเผยความคิด
12:40
ideas to us
314
760260
2000
ที่ลึกซึ้งที่สุดของเรา
12:42
about our place in the universe
315
762260
2000
เกี่ยวกับสถานที่ในเอกภพ
12:44
and really the value of our home planet.
316
764260
2000
และคุณค่าที่แท้จริง ของดาวเคราะห์ที่เป็นบ้านของเรา
12:46
This is a spectacular picture of our home planet.
317
766260
3000
นี่เป็นภาพที่น่าประทับใจ ของดาวเคราะห์ที่เราเรียกว่าบ้าน
12:49
Now, it doesn't look like our home planet.
318
769260
2000
มันอาจจะดูไม่เหมือนโลกที่เราคุ้นเคย
12:51
It looks like Saturn because, of course, it is.
319
771260
3000
เพราะความจริงแล้วมันคือดาวเสาร์
12:54
It was taken by the Cassini space probe.
320
774260
2000
ภาพนี้ถูกถ่ายไว้จากยานอวกาศคัสซินี่
12:56
But it's a famous picture, not because of
321
776260
2000
แต่มันเป็นภาพที่โด่งดัง
12:58
the beauty and majesty of Saturn's rings,
322
778260
3000
ไม่ใช่เพราะความงามและความยิ่งใหญ่ ของวงแหวนดาวเสาร์
13:01
but actually because of a tiny, faint blob
323
781260
3000
แต่แท้จริงแล้วเป็นเพราะจุดเล็กๆแสนเลือนลาง
13:04
just hanging underneath one of the rings.
324
784260
2000
ที่แขวนอยู่ใต้วงแหวนวงหนึ่ง
13:06
And if I blow it up there, you see it.
325
786260
2000
ถ้าขยายเข้าไปคุณก็จะเห็นว่า
13:08
It looks like a moon,
326
788260
2000
มันเหมือนกับดวงจันทร์
13:10
but in fact, it's a picture of Earth.
327
790260
2000
แต่จริงๆแล้ว มันคือภาพของโลก
13:12
It was a picture of Earth captured in that frame of Saturn.
328
792260
3000
เป็นภาพของโลกที่ถูกถ่ายผ่านมาจากดาวเสาร์
13:15
That's our planet from 750 million miles away.
329
795260
3000
ภาพของดาวเคราะห์ดวงนี้ เมื่อห่างออกไป 750 ล้านไมล์
13:19
I think the Earth has got a strange property
330
799260
2000
ผมคิดว่า โลก มีคุณสมบัติที่แปลก
13:21
that the farther away you get from it,
331
801260
2000
คือ ยิ่งห่างออกไปมากเท่าไร
13:23
the more beautiful it seems.
332
803260
2000
มันยิ่งดูงดงามขึ้น
13:25
But that is not the most distant or most famous picture of our planet.
333
805260
3000
แต่ นี่ไม่ใช่ภาพของโลก ที่ถ่ายมาจากระยะที่ไกลที่สุด
13:28
It was taken by this thing, which is called the Voyager spacecraft.
334
808260
3000
ภาพนั้นถูกถ่ายโดยยานอวกาศวอเอเจอร์
13:31
And that's a picture of me in front of it for scale.
335
811260
3000
และนี่เป็นภาพตัวผมเอง ยืนอยู่ข้างหน้ามันเพื่อเทียบขนาด
13:34
The Voyager is a tiny machine.
336
814260
2000
วอเอเจอร์เป็นยานที่เล็กมากๆ
13:36
It's currently 10 billion miles away from Earth,
337
816260
3000
ขณะนี้มันห่างไปจากโลกราวๆ 10 พันล้านไมล์
13:39
transmitting with that dish, with the power of 20 watts,
338
819260
3000
ส่งข้อมูลผ่านจานส่งสัญญาณด้วยพลังงานแค่ 20 วัตต์
13:42
and we're still in contact with it.
339
822260
2000
และเราก็ยังสามารถติดต่อกับมันได้อยู่
13:44
But it visited Jupiter, Saturn,
340
824260
2000
มันผ่านไปเยี่ยมดาวพฤหัส ดาวเสาร์
13:46
Uranus and Neptune.
341
826260
2000
ดาวยูเรนัส และเนปจูน
13:48
And after it visited all four of those planets,
342
828260
3000
และหลังจากที่มันผ่านดาวเคราะห์ทั้งสี่แล้ว
13:51
Carl Sagan, who's one of my great heroes,
343
831260
3000
คาร์ล ซาเกน ผู้ซึ่งเป็นฮีโร่ของผม
13:54
had the wonderful idea
344
834260
2000
ก็ได้ความคิดดีๆ
13:56
of turning Voyager around
345
836260
2000
ให้ยานวอเอเจอร์หันกลับมา
13:58
and taking a picture of every planet it had visited.
346
838260
2000
เพื่อที่จะถ่ายภาพของดาวทั้งหมดที่มันผ่าน
14:00
And it took this picture of Earth.
347
840260
2000
และมันก็ได้ถ่ายภาพของโลก
14:02
Now it's very hard to see the Earth there, it's called the "Pale Blue Dot" picture,
348
842260
3000
มันค่อนข้างจะยากที่จะมองเห็นโลก ภาพนี้จึงมีชื่อว่า "จุดฟ้าสีจาง"
14:05
but Earth is suspended in that red shaft of light.
349
845260
3000
โลกของเราล่องลอยอยู่ในลำแสงสีแดง
14:08
That's Earth from four billion miles away.
350
848260
3000
นั่นคือโลกของเรา เมื่อเรามองมันห่างออกไปสี่พันล้านไมล์
14:11
And I'd like to read you what
351
851260
2000
ผมอยากที่จะอ่าน
14:13
Sagan wrote about it, just to finish,
352
853260
2000
สิ่งที่ซาเกนได้เขียนไว้ เป็นการทิ้งท้าย
14:15
because I cannot say words as beautiful as this
353
855260
3000
เพราะว่าผมไม่อาจจะหาคำใดที่สวยงามเช่นนั้น
14:18
to describe what he saw
354
858260
2000
เพื่อมาบรรยายสิ่งที่ผมได้เห็นได้
14:20
in that picture that he had taken.
355
860260
2000
ในภาพนี้ ที่เขาได้ถ่ายไว้ได้
14:22
He said, "Consider again that dot.
356
862260
2000
เขากล่าวว่า "ลองตรึกตรองอีกครั้งถึงจุดนั้น
14:24
That's here. That's home. That's us.
357
864260
3000
ที่นั่นคือที่แห่งนี้ คือบ้าน คือเรา
14:27
On it, everyone you love,
358
867260
2000
บนนั้น ทุกคนที่คุณรัก
14:29
everyone you know, everyone you've ever heard of,
359
869260
3000
ทุกคนที่คุณรู้จัก ทุกคนที่คุณเคยได้ยิน
14:32
every human being who ever was
360
872260
2000
มนุษย์ทุกคนที่เคยอยู่
14:34
lived out their lives.
361
874260
2000
ใช้ชีวิตของพวกเขา
14:36
The aggregates of joy and suffering
362
876260
2000
ทั้งหมดของความสุขและความทุกข์
14:38
thousands of confident religions,
363
878260
2000
กว่าพันศาสนาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
14:40
ideologies and economic doctrines,
364
880260
3000
อุดมการณ์ และผู้ยึดถือหลักเศรษฐศาสตร์
14:43
every hunter and forager, every hero and coward,
365
883260
3000
ผู้ล่า นักปล้น ทุกราย เหล่า วีรชน และผู้ขลาดเขลา
14:46
every creator and destroyer of civilization,
366
886260
3000
ผู้สร้างสรรค์ และผู้ทำลายล้างอารยธรรม
14:49
every king and peasant, every young couple in love,
367
889260
3000
กษัตริย์ทุกประองค์ ประชาชนทั่วไป คู่รักเยาว์วัยในห้วงรัก
14:52
every mother and father, hopeful child,
368
892260
2000
มารดา บิดา เด็กตาดำๆแรกเกิด
14:54
inventor and explorer,
369
894260
2000
นักประดิษฐ์ และนักสำรวจ
14:56
every teacher of morals, every corrupt politician,
370
896260
3000
ครูแห่งธรรมะทุกราย นักการเมืองโกงกินทุกคน
14:59
every superstar, every supreme leader,
371
899260
3000
เหล่าดาราค้างฟ้า นักปกครองมหาอำนาจ
15:02
every saint and sinner in the history of our species,
372
902260
3000
นักบุญทุกองค์ คนบาปทุกราย ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
15:05
lived there, on a mote of dust,
373
905260
2000
อาศัยอยู่ที่นั่น บนผงธุลี
15:07
suspended in a sunbeam.
374
907260
2000
ที่ลอยเคว้งคว้างในลำแสงตะวัน
15:09
It's been said that astronomy's a humbling
375
909260
2000
มีคนกล่าวว่า ดาราศาสตร์ คือประสบการณ์
15:11
and character-building experience.
376
911260
2000
ที่ถ่อมตน และสร้างบุคลิก
15:13
There is perhaps no better demonstration
377
913260
2000
บางที มันไม่มีทางใดที่จะแสดงถึง
15:15
of the folly of human conceits
378
915260
2000
ความไม่รู้ในความทะนงตน ของมนุษย์
15:17
than this distant image of our tiny world.
379
917260
2000
ไปได้ดีกว่า ภาพของโลกเล็กๆของเรา จากระยะไกล
15:19
To me, it underscores our responsibility
380
919260
2000
สำหรับผมแล้ว มันเน้นย้ำความรับผิดชอบ
15:21
to deal more kindly with one another
381
921260
3000
ที่เราจะต้องปฎิบัติต่อผู้อื่นอย่างสุภาพกว่านี้
15:24
and to preserve and cherish the pale blue dot,
382
924260
3000
และเพื่อที่จะพิทักษ์และทะนุบำรุง จุดฟ้าสีจางๆ
15:27
the only home we've ever known."
383
927260
2000
บ้านเพียงแห่งเดียวที่เราเคยรู้จัก"
15:29
Beautiful words about
384
929260
2000
เป็นคำที่ไพเราะสำหรับ
15:31
the power of science and exploration.
385
931260
2000
พลังของวิทยาศาสตร์และการสำรวจ
15:33
The argument has always been made, and it will always be made,
386
933260
2000
การถกเถียงมีอยู่เรื่อยมาและมันก็จะคงมีอีกเรื่อยๆ
15:35
that we know enough about the universe.
387
935260
2000
ว่าเรารู้จักเอกภพดีพอแล้ว
15:37
You could have made it in the 1920s; you wouldn't have had penicillin.
388
937260
3000
ถ้าเราคิดอย่างนั้นในยุค 1920 เราคงไม่มีเพนิซิลิน
15:40
You could have made it in the 1890s; you wouldn't have the transistor.
389
940260
3000
ถ้าเราคิดอย่างนั้นในยุค 1890 เราคงไม่มีทรานซิสเตอร์
15:43
And it's made today in these difficult economic times.
390
943260
3000
และมันทำให้เราอยู่ในยุคที่มีความยากลำบากทางการเงิน
15:46
Surely, we know enough.
391
946260
2000
แน่ล่ะ เรารู้มากพอแล้ว
15:48
We don't need to discover anything else about our universe.
392
948260
2000
เราไม่ต้องการที่จะสำรวจอะไรอีกแล้วสำหรับเอกภพนี้
15:50
Let me leave the last words to someone
393
950260
2000
ให้ผมฝากคำพูดก่อนจบการบรรยาย
15:52
who's rapidly becoming a hero of mine,
394
952260
2000
ให้กับผู้ที่กลายมาเป็นฮีโร่ของผม
15:54
Humphrey Davy, who did his science at the turn of the 19th century.
395
954260
3000
ฮัมฟรี เดวี่ ผู้ทำงานด้านวิทยาศาสตร์ในช่วงหักเหของศตวรรษที่ 19
15:57
He was clearly under assault all the time.
396
957260
3000
เขาถูกโจมตีตลอดเวลา
16:00
"We know enough at the turn of the 19th century.
397
960260
3000
"เราทราบเป็นอย่างดี ณ จุดหักเหของศตวรรษที่ 19
16:03
Just exploit it; just build things."
398
963260
2000
แค่หาประโยชน์ แค่สร้างสิ่งต่างๆ"
16:05
He said this, he said, "Nothing is more fatal
399
965260
2000
เขาบอกว่า "ไม่มีอะไรที่จะเป็นเรื่องหายนะ
16:07
to the progress of the human mind
400
967260
2000
ต่อความก้าวหน้าของความคิดมนุษย์
16:09
than to presume that our views of science
401
969260
2000
ไปกว่าการคิดเอาว่า มุมมองด้านวิทยาศาสตร์ของเรานั้น
16:11
are ultimate,
402
971260
2000
พัฒนาถึงที่สุดแล้ว
16:13
that our triumphs are complete,
403
973260
2000
ชัยชนะเราเสร็จสมบูรณ์แล้ว
16:15
that there are no mysteries in nature,
404
975260
2000
ไม่มีปริศนาใดอีกแล้วในธรรมชาติ
16:17
and that there are no new worlds to conquer."
405
977260
2000
และไม่มีโลกใหม่ใดอีกแล้วให้เราพิชิต"
16:19
Thank you.
406
979260
2000
ขอบคุณครับ
16:21
(Applause)
407
981260
2000
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7