What it's like to live on the International Space Station | Cady Coleman

Translator: Lilit Pipatanusorn Reviewer: Pisitpong Boonsom

I'm an astronaut.

ฉันเป็นนักบินอวกาศ

I flew on the space shuttle twice,

ฉันเคยเดินทางด้วยกระสวยอวกาศ มาสองแล้วครั้ง

and I lived on the International Space Station for almost six months.

และใช้ชีวิตอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ เป็นเวลาเกือบหกเดือน

People often ask me the same question, which is, "What's it like in space?"

ผู้คนมักถามฉันเสมอ ๆ ว่า “มันเป็นยังไงเหรอ ในอวกาศน่ะ"

as if it was a secret.

ทำอย่างกับมันเป็นความลับ อย่างนั้นแหละ

Space belongs to all of us,

อวกาศเป็นของเราทุกคนค่ะ

and I'd like to help you understand why it's a place that is magic for all of us.

และฉันอยากช่วยให้คุณเข้าใจว่า ทำไมอวกาศถึงน่าอัศจรรย์สำหรับเราทุกคน

The day after my 50th birthday,

วันรุ่งขึ้นหลังวันเกิดครบรอบ 50 ปี ของฉัน

I climbed aboard a Russian capsule,

ฉันได้ปีนขึ้นยานอวกาศของรัสเซีย

in Russia,

ในรัสเซีย

and launched into space.

และทะยานสู่ห้วงอวกาศ

Launching is the most dangerous thing that we do,

ขั้นตอนการส่งยานอวกาศขึ้นไป เป็นงานที่อันตรายที่สุดที่เราทำ

and it's also the most thrilling.

และก็เป็นเวลาที่น่าเขย่าขวัญที่สุด

Three, two, one ... liftoff!

สาม สอง หนึ่ง ... ปล่อยยาน!

I felt every single bit of the controlled fury of those rocket engines

ฉันสัมผัสได้ถึงความดุดัน ของเครื่องยนต์จรวด

as they blasted us off the Earth.

ที่ผลักเราออกไปจากโลก

We went faster and faster and faster,

เราพุ่งขึ้นไปเร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้นอีก

until, after eight and a half minutes, on purpose, those engines stop --

จนกระทั่งเวลาผ่านไปแปดนาทีครึ่ง เครื่องยนต์จะดับลง

kabunk! --

เงียบกริบ

and we are weightless.

และเราก็อยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก

And the mission and the magic begin.

แล้วภารกิจและความอัศจรรย์ก็เริ่มขึ้น

Dmitry and Paolo and I are circling the Earth

ดีมีทรี กับ เปาโล และฉัน กำลังโคจรอบโลก

in our tiny spacecraft,

อยู่ในยานอวกาศเล็ก ๆ ของเรา

approaching the space station carefully.

ที่ค่อย ๆ เคลื่อนเข้าใกล้สถานีอวกาศ อย่างระมัดระวัง

It's an intricate dance at 17,500 miles an hour

ประหนึ่งการเต้นรำที่ละเอียดอ่อน ด้วยความเร็ว 17,500 ไมล์ต่อชั่วโมง

between our capsule, the size of a Smart Car,

ระหว่างยานของเรา ซึ่งมีขนาดเท่ารถยนต์อัจฉริยะ

and the space station, the size of a football field.

กับสถานีอวกาศ ซึ่งใหญ่เท่าสนามฟุตบอล

We arrive when those two craft dock with a gentle thunk.

เมื่อยานทั้งสองเชื่อมต่อกัน ได้จะยินเสียงกระทบเบา ๆ และเราก็มาถึง

We open the hatches,

พวกเราเปิดประตูออก

have sloppy zero-G hugs with each other,

สวมกอดกันแบบเงอะ ๆ งะ ๆ ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง

and now we're six.

และตอนนี้เราก็มีกันทั้งหมดหกคน

We're a space family, an instant family.

เราเป็นครอบครัวเดียวกันทันที ครอบครัวนักบินอวกาศ

My favorite part about living up there

สิ่งที่ฉันชอบที่สุดเมื่ออยู่ข้างบนนั้น

was the flying.

คือการที่ฉันได้บิน

I loved it.

ฉันชอบจริง ๆ

It was like being Peter Pan.

ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นปีเตอร์แพน

It's not about floating.

ไม่ใช่แค่ลอยได้นะ

Just the touch of a finger

แต่แค่เอานิ้วดันผนังเบา ๆ

can actually push you across the entire space station,

คุณก็จะพุ่งไปอีกฝั่งของสถานีอวกาศแล้ว

and then you sort of tuck in with your toes.

และคุณก็จะแบบว่า พับนิ้วเท้าเข้าไป

One of my favorite things was drifting silently

อีกอย่างหนึ่งที่ฉันชอบมาก คือการลอยเคว้งคนเดียวเงียบ ๆ

through the space station,

ไปตามทางบนสถานีอวกาศ

which was humming along at night.

ที่ส่งเสียงหึ่งในยามค่ำคืน

I wondered sometimes if it knew I was there,

บางทีฉันสงสัย ว่ามันรู้ไหมว่าฉันอยู่ตรงนั้น

just silent.

มีแต่ความเงียบ

But sharing the wonder of that with the crew

แต่การที่ได้ร่วมแบ่งปันความมหัศจรรย์ ร่วมกับลูกเรือคนอื่น ๆ

was also part of what was important to me.

ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับฉัน

A typical day in space starts with the perfect commute.

วันธรรมดาในห้วงอวกาศเริ่มด้วย การเดินทางไปทำงานที่แสนจะสะดวก

I wake up, cruise down the lab

ฉันตื่นมา แล้วก็ลอยไปยังห้องแล็บ

and say hello to the best morning view ever.

และทักทายทิวทัศน์ยามเช้า ที่สวยงามเหลือเกิน

It's a really fast commute, only 30 seconds,

เป็นการเดินทางที่รวดเร็วจริง ๆ แค่ 30 วินาทีเองค่ะ

and we never get tired of looking out that window.

และเราไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย ที่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง

I think it reminds us that we're actually still very close to Earth.

ฉันว่ามันย้ำเตือนให้เรารู้ว่า จริง ๆ แล้วเราก็ยังคงอยู่ใกล้กับโลกมาก

Our crew was the second ever to use the Canadian robotic arm

พวกเราเป็นนักบินอวกาศกลุ่มที่สอง ที่ได้ใช้แขนกลของแคนาดา

to capture a supply ship the size of a school bus

ในการจับยานเสบียง ที่มีขนาดพอ ๆ กับรถโรงเรียน

containing about a dozen different experiments

ในนั้นมีงานทดลองมากมาย

and the only chocolate that we would see for the next four months.

และมีช็อคโกแลต สำหรับแค่สี่เดือนข้างหน้า

Now, chocolate aside, every single one of those experiments

เราพักเรื่องช็อคโกแลตก่อน โครงการทดลองแต่ละงาน

enables yet one more scientific question answered

จะช่วยเราให้ค้นพบคำตอบ สำหรับคำถามทางวิทยาศาสตร์

that we can't do down here on Earth.

ที่เราไม่สามารถจะทำได้บนโลก

And so, it's like a different lens,

มันเหมือนเป็นเลนส์อีกอัน

allowing us to see the answers to questions like,

ที่ทำให้เรามองเห็นคำตอบ สำหรับคำถาม เช่น

"What about combustion?"

"กระบวนการเผาไหม้ล่ะ"

"What about fluid dynamics?"

"พลศาสตร์ของไหลล่ะ"

Now, sleeping is delightful.

ส่วนการนอนก็สนุกมากค่ะ

My favorite -- I mean, you could be upside down, right side up --

คุณจะพลิกคว่ำตะแคงหงาย ยังไงก็ได้ทั้งนั้น

my favorite: curled up in a little ball and floating freely.

ส่วนฉันชอบนอนขดตัวกลม ๆ แล้วลอยไปเรื่อย ๆ อย่างอิสระ

Laundry? Nope.

ซักผ้ารีดผ้าเหรอ ไม่มีหรอกค่ะ

We load our dirty clothes into an empty supply ship

เราขนเสื้อผ้าใช้แล้วใส่ยานเสบียง

and send it off into space.

และส่งออกไปนอกยาน

The bathroom.

ห้องน้ำ

Everyone wants to know.

ทุกคนอยากรู้เรื่องนี้มาก

It's hard to understand, so I made a little video,

แต่มันเข้าใจยาก ฉันเลยถ่ายคลิปสั้น ๆ มาให้ชมกัน

because I wanted kids to understand

เพราะฉันอยากให้เด็ก ๆ เข้าใจว่า

that the principle of vacuum saves the day

หลักการสูญญากาศช่วยได้มากทีเดียว

and that just a gentle breeze helps everything go

เพียงแค่แรงดูดเบา ๆ ก็จะช่วยให้ทุกอย่าง

where it is supposed to.

ลงไปตรงที่ ๆ ควรจะอยู่

Well, in real life it does.

ในชีวิตจริง มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Recycling? Of course.

รีไซเคิลเหรอคะ แน่นอนค่ะ

So we take our urine, we store it, we filter it and then we drink it.

เราปัสสาวะ เก็บไว้ กรอง และก็ดื่มมัน

And it's actually delicious.

จริง ๆ แล้วมันก็อร่อยดีนะคะ

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Sitting around the table,

เรานั่งร่วมโต๊ะ

eating food that looks bad but actually tastes pretty good.

รับประทานอาหารที่หน้าตาแย่ แต่รสชาติกลับอร่อยมาก

But it's the gathering around the table that's important,

ฉันคิดว่าการที่เราได้นั่งล้อมวง กันต่างหากที่สำคัญ

I think both in space and on Earth,

ฉันคิดว่าทั้งในอวกาศและบนโลก

because that's what cements a crew together.

เพราะมันทำให้ลูกเรือผูกพันกัน

For me, music was a way to stay connected to the rest of the world.

สำหรับฉัน ดนตรีเป็นหนทาง ที่ฉันใช้เชื่อมต่อกับโลกภายนอก

I played a duet between Earth and space

ฉันได้บรรเลงเพลงคู่ ระหว่างโลกกับอวกาศ

with Ian Anderson of Jethro Tull

กับ เอียน แอนเดอร์สัน แห่งวง Jethro Tull

on the 50th anniversary of human spaceflight.

เนื่องในวันครบรอบ 50 ปี ที่มนุษย์เดินทางสู่ห้วงอวกาศ

Connecting to family was so important.

การติดต่อกับครอบครัวสำคัญมาก

I talked with my family almost every day the whole time I was up there,

ฉันพูดคุยกับครอบครัวเกือบทุกวัน ตลอดเวลาที่ฉันอยู่บนนั้น

and I would actually read books to my son as a way for us just to be together.

และฉันจะอ่านหนังสือให้ลูกชายฟัง เพื่อที่เราจะได้ใช้เวลาร่วมกัน

So important.

มันสำคัญมากค่ะ

Now, when the space station would go over Massachusetts,

เมื่อสถานีอวกาศ เคลื่อนผ่านรัฐแมสซาชูเซตส์

my family would run outside,

ที่บ้านฉันจะวิ่งออกมาข้างนอก

and they would watch the brightest star sailing across the sky.

และมองดูดวงดาวที่สว่างที่สุด เคลื่อนที่ผ่านไปบนท้องฟ้า

And when I looked down, I couldn't see my house,

และเมื่อฉันมองลงไป ฉันไม่เห็นบ้านของตัวเองหรอก

but it meant a lot to me to know that the people I loved the most

แต่มันมีความหมายสำหรับฉันมาก เมื่อรู้ว่าคนที่ฉันรักที่สุด

were looking up while I was looking down.

กำลังแหงนหน้ามองขึ้นมา ขณะที่ฉันมองลงไป

So the space station, for me, is the place where mission and magic come together.

ดังนั้นสำหรับฉัน สถานีอวกาศ คือสถานที่ ที่ภารกิจและความอัศจรรย์มาบรรจบกัน

The mission, the work are vital steps

ภารกิจ งาน เป็นก้าวสำคัญ

in our quest to go further than our planet

ในการออกสำรวจ ที่ออกไปไกลกว่าดาวของเรา

and imperative for understanding sustainability here on Earth.

และยังจำเป็นต่อการเรียนรู้ เรื่องความยั่งยืนบนโลก

I loved being a part of that,

ฉันรักที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในภารกิจนี้

and if I could have taken my family with me,

หากฉันพาครอบครัวไปด้วยได้

I never would have come home.

ฉันคงจะไม่กลับมาบ้านเลยแหละ

And so my view from the station showed me

จากมุมบนสถานีที่ฉันมองออกมา แสดงให้ฉันเห็นว่า

that we are all from the same place.

เราทุกคนมาจากที่ ๆ เดียวกัน

We all have our roles to play.

เราทุกคนต่างมีบทบาทของตัวเอง

Because, the Earth is our ship.

เพราะโลกคือยานของเรา

Space is our home.

อวกาศคือบ้านของเรา

And we are the crew of Spaceship Earth.

และเราคือลูกเรือของยานโลกนั่นเอง

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)