The best way to apologize (according to science)

Translator: Nichanan Jongyoosuk Reviewer: Jimmy Tangjaitrong

Over the years, people have come up with some truly awful apologies.

หลายปีที่ผ่านมา มีคนคิดค้นการขอโทษที่ย่ำแย่ขึ้นมามากมาย

From classic non-apologies to evasive excuses,

ไม่ว่าจะเป็นการขอโทษแบบไม่ได้ขอโทษ หรือข้ออ้างเบี่ยงประเด็น

and flimsy corporate promises,

ไปจนถึงคำสัญญาที่ไม่มีวันเป็นจริง

it’s all too easy to give a bad apology.

การขอโทษแย่ ๆ นั้นทำได้ง่ายยิ่งกว่าอะไร

But researchers have found that good apologies generally share certain elements

แต่เหล่านักวิจัยพบว่า การขอโทษที่ดี มีองค์ประกอบบางอย่างร่วมกัน

and thoughtfully considering these factors can help you make amends

และการพิจารณาถึงปัจจัยเหล่านี้ จะช่วยให้คุณแก้ไขความผิดได้

in a wide variety of situations.

ในหลายสถานการณ์

Since public apologies have their own unique complications,

เนื่องจากการขอโทษต่อสาธารณชน มีความซับซ้อนเฉพาะตัว

we’re going to focus on some person-to-person examples.

เราจึงจะพูดถึงการขอโทษในระดับบุคคล

So, picture this: your new office has free ice cream sandwiches

ลองจินตนาการว่า ในที่ทำงานของคุณมีแซนด์วิชไอศกรีมฟรี

in the communal fridge—

อยู่ในตู้เย็นส่วนกลาง

or at least that’s what you thought.

หรืออย่างน้อย คุณก็เข้าใจแบบนั้น

But on Friday, when you’re helping your co-worker Terence

แต่ในวันศุกร์ ตอนคุณช่วยเทอแรนซ์ เพื่อนร่วมงานของคุณ

set up another colleague's birthday party,

จัดงานวันเกิดให้เพื่อนร่วมงานอีกคน

he finds that half the ice cream he bought for the celebration is gone.

เขากลับพบว่าแซนด์วิชไอศกรีมที่ซื้อไว้ สำหรับวันงาน หายไปครึ่งหนึ่ง

While this is obviously an embarrassing accident,

แม้ว่าสถานการณ์แบบนี้ จะเป็นเรื่องไม่ได้ตั้งใจที่น่าอาย

coming forward and apologizing is still the right thing to do.

แต่การยอมรับความผิด ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ

Understanding and accepting responsibility for your actions

การทำความเข้าใจ และรับผิดชอบต่อการกระทำของตน

is what some researchers call the “centerpiece of an apology.”

คือสิ่งที่นักวิจัยบางคนเรียกว่า “หัวใจสำคัญของการขอโทษ”

But it’s okay if this feels difficult and vulnerable— it’s supposed to be!

ไม่เป็นไร หากคุณรู้สึกว่ามันยาก หรือรู้สึกเปราะบาง นั่นเป็นเรื่องปกติ

The costly nature of apologies is part of what makes them meaningful.

การต้องใช้แรงใจมากเป็นพิเศษ ทำให้คำขอโทษมีความหมาย

So while you might be tempted to defend your actions as accidental,

ดังนั้น แม้คุณอาจจะอยากบอกว่า คุณได้ไม่ตั้งใจ

it’s important to remember that a good apology

คุณก็ควรระลึกไว้ว่า การขอโทษที่ดี

isn’t about making you feel better.

ไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ตัวคุณเองรู้สึกดีขึ้น

It’s about seeking to understand the perspective of the wronged party

มันมีจุดประสงค์เพื่อให้คุณเข้าใจ มุมมองของอีกฝ่าย

and repair the damage to your relationship.

และแก้ไขความเสียหาย ในความสัมพันธ์ของคุณ

This means that while clarifying your intentions non-defensively can be helpful,

นั่นแปลว่า แม้การแสดงความบริสุทธิ์ใจ จะเป็นเรื่องดี

your mistake being an accident shouldn’t absolve you from offering

แต่เพียงเพราะคุณไม่ได้ตั้งใจทำผิด คุณก็ไม่ควรที่จะละเว้น

a sincere apology.

การขอโทษอย่างจริงใจ

But what if your mistake wasn’t an accident?

แต่ถ้าสิ่งที่คุณทำผิด ไม่ใช่เรื่องไม่ตั้งใจล่ะ

Consider this:

ลองคิดดูว่า

you promised your friend Marie that you’ll attend her championship football match.

คุณสัญญากับมารี เพื่อนคุณ ว่าจะไปดูเธอแข่งฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ

But another friend just called to offer you an extra ticket

แต่เพื่อนอีกคนกลับโทรมาบอก ว่าเขามีตั๋วให้คุณ

for your favorite musician's farewell tour.

ไปดูการแสดงครั้งสุดท้ายของนักดนตรีคนโปรด

You know this is a once-in-a-lifetime chance,

คุณรู้ว่านี่เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต

and you can’t pass it up.

และคุณก็ปล่อยมันหลุดมือไปไม่ได้

Plus, you figure Marie wouldn’t mind if you miss the game—

อีกอย่าง คุณคิดว่ามารีคงไม่ว่าอะไร หากคุณพลาดการแข่ง

she always has plenty of fans supporting her.

เธอมีแฟนคลับมากมายคอยสนับสนุน

But the next day, Marie tells you she was really hurt

แต่วันถัดมา มารีบอกว่าเธอเสียใจมาก

when she didn’t see you in the crowd.

ที่คุณไม่ไปดูเธอแข่ง

You feel terrible for upsetting her and genuinely want to apologize.

คุณรู้สึกแย่ที่ทำเธอเสียใจ และอยากขอโทษเธอจากใจจริง

But while you regret hurting Marie,

แต่แม้คุณจะรู้สึกผิดที่ทำมารีเสียใจ

you’re not actually sure if you made the wrong choice.

คุณก็ไม่แน่ใจนัก ว่าคุณตัดสินใจผิดพลาด

So how can you reach beyond that terrible non-apology,

แล้วคุณจะก้าวข้าม การขอโทษแบบไม่ได้ขอโทษว่า

“I’m sorry YOU feel this way”?

“ฉันขอโทษที่ ‘เธอ’ รู้สึกแบบนั้น” ได้อย่างไร

In situations like this, it can be easy to focus on rationalizing your actions

ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณอาจเผลอมุ่งหาเหตุผล มารองรับการกระทำของตน

when you should be working to understand the other person’s perspective.

แทนที่จะทำความเข้าใจมุมมองของอีกฝ่าย

Consider asking Marie how you made them feel

ลองถามมารีดูว่าเธอรู้สึกอย่างไร

to better understand your offense.

เพื่อให้เข้าใจความผิดของคุณมากขึ้น

In this case, Marie might explain that she was disappointed

ในกรณีนี้ มารีอาจอธิบายว่าเธอผิดหวัง

you broke your promise,

ที่คุณผิดสัญญา

and she was really counting on your support.

และเธอหวังพึ่งกำลังใจจากคุณอยู่

This kind of clarity can help you recognize your wrongdoing

การให้ความกระจ่างเช่นนี้ ทำให้คุณรู้ตัวว่าทำผิดอย่างไร

and honestly accept how your actions caused harm.

และยอมรับตรง ๆ ว่าการกระทำของคุณ ทำให้คนอื่นเสียใจ

Then you can frame your apology around addressing her concerns,

จากนั้น คุณก็สามารถขอโทษเธอได้ โดยอ้างอิงจากสิ่งที่เธอบอก

perhaps by admitting that it was wrong of you to break your promise,

คุณอาจยอมรับว่าคุณผิดที่ไม่รักษาสัญญา

and you're sorry you weren't there for her.

และขอโทษที่คุณไม่ได้สนับสนุนเธอ

Clearly acknowledging wrongdoing indicates that you know

การตระหนักถึงความผิดอย่างชัดเจน ชี้ให้เห็นว่าคุณรู้ตัว

exactly how you messed up,

ว่าทำผิดตรงไหน

and it can give Marie faith that you’ll behave differently moving forward.

และช่วยให้มารีเชื่อมั่น ว่าคุณจะทำตัวดีขึ้นในอนาคต

But it’s always helpful to indicate exactly how you’ll change

แต่เป็นการดีหากคุณบอกให้ชัด ว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร

and what you’ll do to repair the damage caused by your offense.

และคุณจะฟื้นฟูความเสียหาย จากความผิดของคุณอย่างไร

Researchers call this the “offer of repair,”

เหล่านักวิจัยเรียกสิ่งนี้ว่า “การเสนอทางฟื้นฟู”

and it's often rated as one of the most critical parts of an apology.

ซึ่งถูกจัดว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ในการขอโทษ

In some cases, these gestures are straightforward,

ในบางกรณี การกระทำเหล่านี้ก็ตรงไปตรงมา

like offering to replace the ice cream you eat.

เช่นการเสนอว่า จะซื้อไอศกรีมมาคืน

However, with less tangible transgressions,

อย่างไรก็ตาม หากความผิดนั้น จับต้องได้ยาก

this might need to be more symbolic,

การแก้ไขก็ควรเป็นเชิงสัญลักษณ์มากขึ้น

like expressing your love and respect for someone you wronged.

เช่นการแสดงออกถึงความรัก และความเคารพต่อคนที่คุณทำผิดด้วย

One common offer of repair is a verbal commitment

การเสนอทางฟื้นฟูอย่างหนึ่ง คือการสัญญาทางคำพูด

not to make the same mistake again,

ว่าจะไม่ทำผิดอย่างเดิมซ้ำอีก

but promising to do better only works if you actually do better.

แต่การสัญญาว่าจะปรับปรุงตัว จะได้ผลก็ต่อเมื่อคุณปรับปรุงตัวจริง ๆ

Taking the victim’s perspective, accepting responsibility,

การคิดถึงใจอีกฝ่าย การรับผิดชอบ

and making concrete offers of repair

และการเสนอทางฟื้นฟูที่ชัดเจน

are just a few of the elements of a good apology.

เป็นเพียงองค์ประกอบไม่กี่อย่าง ของการขอโทษที่ดี

But remember, apologies aren’t about getting forgiveness and moving on;

แต่จำไว้ว่า การขอโทษนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อ ให้อีกฝ่ายให้อภัย แล้วจบเรื่อง

they’re about expressing remorse and accepting accountability.

แต่มีไว้เพื่อแสดงว่าคุณสำนึกผิด และพร้อมรับผิดชอบ

And the best apologies are just the first step

และการขอโทษที่ดี ก็เป็นเพียงก้าวแรก

on the road to reconciliation.

บนเส้นทางแห่งการคืนดีกัน