New insights on poverty | Hans Rosling

Translator: Chatthip Chaichakan Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut

I told you three things last year.

ปีที่แล้ว ผมบอกพวกคุณไปสามอย่าง

I told you that the statistics of the world

ผมบอกไปว่า สถิติเกี่ยวกับโลกใบนี้

have not been made properly available.

ยังไม่ถูกเปิดให้เข้าถึงได้อย่างเหมาะสมนัก

Because of that, we still have the old mindset

เพราะอย่างนั้น เราเลยยังมีความคิดแบบเก่าๆ

of developing in industrialized countries, which is wrong.

เกี่ยวกับประเทศอุตสาหกรรมที่กำลังพัฒนา ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิด

And that animated graphics can make a difference.

และบอกว่า ภาพกราฟฟิกแบบเคลื่อนไหวได้นั้น สามารถสร้างความแตกต่างได้

Things are changing

สิ่งต่างๆกำลังเปลี่ยนไปครับ

and today, on the United Nations Statistic Division Home Page,

และวันนี้ บนหน้าแรกของเว็บไซต์ ของกองสถิติแห่งสหประชาชาติ

it says, by first of May, full access to the databases.

มีการระบุว่า ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม ฐานข้อมูลต่างๆจะเปิดให้เข้าถึงได้เต็มที่

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

And if I could share the image with you on the screen.

และถ้าหากผมสามารถแสดงภาพบนจอให้คุณดูได้

So three things have happened.

เอาล่ะ มีสามสิ่งที่ได้เกิดขึ้น

U.N. opened their statistic databases,

UN เปิดฐานข้อมูลทางสถิติของพวกเขา

and we have a new version of the software

และพวกเรามีเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของซอฟท์แวร์

up working as a beta on the net,

ซึ่งเป็นแบบทดลอง สามารถใช้ได้บนอินเตอร์เน็ต

so you don't have to download it any longer.

เพราะงั้นคุณไม่ต้องดาวน์โหลดมันอีกต่อไปแล้ว

And let me repeat what you saw last year.

และขอผมทวนสิ่งที่คุณได้เห็นไปเมื่อปีที่แล้ว

The bubbles are the countries.

ฟองเหล่านั้น คือ ประเทศ

Here you have the fertility rate -- the number of children per woman --

ตรงนี้คุณมีอัตราการเจริญพันธุ์ จำนวนของเด็กต่อผู้หญิง

and there you have the length of life in years.

และตรงนั้นคุณมีช่วงความยืนยาวของชีวิต เป็นปี

This is 1950 -- those were the industrialized countries,

ตรงนี้ปี 1950 กลุ่มนั้นเป็นประเทศอุตสาหกรรม

those were developing countries.

กลุ่มนั้นเป็นประเทศกำลังพัฒนา

At that time there was a "we" and "them."

ตอนนั้น ยังมี "พวกเรา" และ "พวกเขา"

There was a huge difference in the world.

มีความแตกต่างอย่างมากในโลกใบนี้

But then it changed, and it went on quite well.

แต่แล้วมันก็เปลี่ยนไป และมันก็ดำเนินไปได้ด้วยดี

And this is what happens.

และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น

You can see how China is the red, big bubble.

คุณจะเห็นว่าประเทศจีนซึ่งเป็นฟองสีแดงใหญ่ๆ

The blue there is India.

สีน้ำเงินนั้นคือ ประเทศอินเดีย

And they go over all this -- I'm going to try to be

และพวกเขากำลังก้าวข้ามทั้งหมดนี้ไป ผมกำลังพยายามทำตัว

a little more serious this year in showing you

ให้ดูจริงจังมากขึ้นหน่อยในปีนี้ ในการแสดงให้คุณเห็น

how things really changed.

ว่าสิ่งต่างๆเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างไร

And it's Africa that stands out as the problem down here, doesn't it?

และนี่คือแอฟริกา ซึ่งโดดเด่นออกมา และดูเป็นปัญหาที่ข้างล่างตรงนี้ ใช่มั้ยครับ

Large families still, and the HIV epidemic

ครอบครัวขนาดใหญ่เหมือนเดิม และการติดต่อของโรคเอดส์

brought down the countries like this.

ได้นำประเทศต่างๆลงมาสู่จุดนี้

This is more or less what we saw last year,

นี่เป็นสิ่งที่เราเห็นกันไม่มากก็น้อยไปกว่าปีที่แล้ว

and this is how it will go on into the future.

และนี่ก็คือสิ่งที่จะดำเนินต่อไปในอนาคต

And I will talk on, is this possible?

และผมจะพูดถึงว่า มันเป็นไปได้มั้ย

Because you see now, I presented statistics that don't exist.

เพราะคุณจะเห็นในตอนนี้ว่า ผมได้เสนอข้อมูลสถิติที่ไม่มีตัวตน

Because this is where we are.

เพราะตรงนี้เป็นจุดที่พวกเรากำลังเป็นอยู่

Will it be possible that this will happen?

แล้วมันจะเป็นไปได้มั้ยที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้น

I cover my lifetime here, you know?

ผมใช้เวลาทั้งชีวิตของผมตรงนี้ คุณรู้มั้ย

I expect to live 100 years.

ผมหวังว่าผมจะอยู่ไปร้อยปี

And this is where we are today.

และตรงนี้เป็นที่ๆพวกเราอยู่กันทุกวันนี้

Now could we look here instead at the economic situation in the world?

เอาล่ะ เรามาดูตรงนี้ดีกว่า ตรงสภาวะทางเศรษฐกิจของโลก

And I would like to show that against child survival.

และผมจะแสดงมันให้ดูไปพร้อมๆกับ การอยู่รอดของเด็ก

We'll swap the axis.

เราจะสลับแกน

Here you have child mortality -- that is, survival --

ตรงนี้เราจะมีการตายของเด็ก ก็คือการอยู่รอดนั่นแหละ

four kids dying there, 200 dying there.

เด็ก 4 คนตายตรงนี้ 200 คนตายตรงนั้น

And this is GDP per capita on this axis.

และนี่คือ GDP ต่อหัวอยู่บนแกนนี้

And this was 2007.

และนี่คือปี 2007

And if I go back in time, I've added some historical statistics --

และถ้าผมย้อนเวลากลับไป ผมได้เพิ่มข้อมูลสถิติในประวัติศาสตร์เข้ามา

here we go, here we go, here we go -- not so much statistics 100 years ago.

เอาล่ะ ไปล่ะ ไปล่ะ ไม่ค่อยมีสถิติอะไรมากนักเมื่อ 100 ปีก่อน

Some countries still had statistics.

บางประเทศก็มีสถิติแหละ

We are looking down in the archive,

เราไปดูในเอกสารทางประวัติศาสตร์

and when we are down into 1820,

และเมื่อเราย้อนไปถึงปี 1820

there is only Austria and Sweden that can produce numbers.

มีแค่ออสเตรียกับสวีเดนเท่านั้นที่สร้างตัวเลขพวกนี้ได้

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

But they were down here. They had 1,000 dollars per person per year.

แต่พวกเขาอยู่ข้างล่างตรงนี้ พวกเขามีรายได้ 1000 ดอลลาร์ต่อหัวต่อปี

And they lost one-fifth of their kids before their first birthday.

และพวกเขาสูญเสีย 1 ใน 5 ของเด็กไป ก่อนที่เด็กเหล่านั้นจะอายุครบหนึ่งปี

So this is what happens in the world, if we play the entire world.

ถ้าเราดูทั่วทั้งโลก นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น

How they got slowly richer and richer,

เราค่อยๆ รวยขึ้นๆ ได้ยังไง

and they add statistics.

แล้วพวกเขาก็เก็บสถิติเข้ามา

Isn't it beautiful when they get statistics?

มันดูสวยดีนะเวลาที่พวกเขามีสถิติขึ้นมา ว่ามั้ย

You see the importance of that?

คุณเห็นความสำคัญของมันมั้ย

And here, children don't live longer.

และตรงนี้ เด็กๆอายุสั้นลง

The last century, 1870, was bad for the kids in Europe,

ศตวรรษที่แล้ว ปี 1870 ไม่ดีเลยสำหรับเด็กๆในยุโรป

because most of this statistics is Europe.

เพราะสถิติเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในยุโรป

It was only by the turn of the century

จนมาถึงช่วงที่เปลี่ยนศตวรรษ

that more than 90 percent of the children survived their first year.

ที่มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของเด็ก มีชีวิตรอดผ่านวันเกิดปีแรกของพวกเขา

This is India coming up, with the first data from India.

ตรงนี้ อินเดียกำลังพุ่งขึ้นมา ด้วยข้อมูลแรกจากอินเดีย

And this is the United States moving away here, earning more money.

และนี่คือสหรัฐฯกำลังขยับหนีมาตรงนี้ ทำเงินได้มากขึ้น

And we will soon see China coming up in the very far end corner here.

และในไม่ช้าเราจะพบว่า จีนกำลังขึ้นมาจากสุดมุมไกลโพ้นตรงนี้

And it moves up with Mao Tse-Tung getting health,

และก็พุ่งขึ้นในช่วงของเหมาเจ๋อตุง สุขภาพดีขึ้น

not getting so rich.

แต่ไม่ได้รวยขึ้นเท่าไหร่นัก

There he died, then Deng Xiaoping brings money.

แล้วเขาก็ตาย แล้วเติ้งเสี่ยวผิงก็เอาเงินมา

It moves this way over here.

มันขยับมาอยู่ตรงนี้

And the bubbles keep moving up there,

แล้วฟองทั้งหลายก็ขยับๆขึ้นไปตรงนั้น

and this is what the world looks like today.

และนี่ก็คือโลกที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Let us have a look at the United States.

เรามาดูสหรัฐฯกันเถอะ

We have a function here -- I can tell the world, "Stay where you are."

เรามีกฎอยู่ตรงนี้ ผมบอกกับโลกว่า "อยู่ตรงที่พวกนายอยู่นะ"

And I take the United States -- we still want to see the background --

และผมก็หยิบสหรัฐฯขึ้นมา เรายังต้องรู้ข้อมูลเบื้องหลังหน่อย

I put them up like this, and now we go backwards.

ผมวางมันไว้อย่างนี้ และตอนนี้เราก็ย้อนหลังไป

And we can see that the United States

และเราก็จะเห็นว่า สหรัฐฯ

goes to the right of the mainstream.

มุ่งไปทางขวาของกระแสหลัก

They are on the money side all the time.

พวกเขาอยู่ทางฝั่งเงินตลอดเวลา

And down in 1915, the United States was a neighbor of India --

และลงไปถึงปี 1915 สหรัฐฯก็อยู่ใกล้ๆกับอินเดีย

present, contemporary India.

อินเดียในปัจจุบัน

And that means United States was richer,

และนั่นหมายความว่า สหรัฐฯในตอนนั้นรวยกว่า

but lost more kids than India is doing today, proportionally.

และเสียเด็กไปมากกว่าอินเดียในวันนี้ โดยสัดส่วนแล้วนะ

And look here -- compare to the Philippines of today.

และดูนี่ เปรียบเทียบกับฟิลิปปินส์วันนี้

The Philippines of today has almost the same economy

ฟิลิปปินส์วันนี้มีสภาวะเศรษฐกิจเกือบจะเหมือน

as the United States during the First World War.

กับสหรัฐฯในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเลย

But we have to bring United States forward quite a while

แต่พวกเราต้องนำสหรัฐฯมาข้างหน้าสักระยะหนึ่ง

to find the same health of the United States

ถึงจะเจอสุขภาพของสหรัฐฯ

as we have in the Philippines.

ที่เท่ากับสุขภาพในฟิลิปปินส์

About 1957 here, the health of the United States

ราวปี 1957 ตรงนี้ สุขภาพของสหรัฐฯ

is the same as the Philippines.

เท่ากับฟิลิปปินส์

And this is the drama of this world which many call globalized,

และ นี่เป็นละครฉากหนึ่งของโลกใบนี้ที่เรียกว่า โลกาภิวัฒน์

is that Asia, Arabic countries, Latin America,

ที่ เอเชีย ประเทศอาหรับ ละตินอเมริกา

are much more ahead in being healthy, educated,

เหนือกว่ามากๆในเรื่อง สุขภาพดี มีการศึกษา

having human resources than they are economically.

มีทรัพยากรมนุษย์มากกว่าทรัพยากรเศรษฐกิจ

There's a discrepancy in what's happening today

มันมีช่องว่างในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นทุกวันนี้

in the emerging economies.

ในระบบเศรษฐกิจเกิดใหม่

There now, social benefits, social progress,

ที่นั่น ตอนนี้ สวัสดิการทางสังคม ความก้าวหน้าทางสังคม

are going ahead of economical progress.

กำลังไปได้สวยกว่าความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ

And 1957 -- the United States had the same economy as Chile has today.

และในปี 1957 สหรัฐฯมีสภาวะทางเศรษฐกิจเท่ากับที่ชิลีมีในวันนี้

And how long do we have to bring United States

และมันจะอีกนานแค่ไหนนะ ที่เราจะต้องดึงสหรัฐฯขึ้นมา

to get the same health as Chile has today?

ให้มีสุขภาพเท่ากับที่ชิลีมีอยู่ในวันนี้

I think we have to go, there -- we have 2001, or 2002 --

ผมคิดว่าเราต้องไปที่ ตรงนั้น เราอยู่ที่ปี 2001 หรือ 2002

the United States has the same health as Chile.

สหรัฐฯมีสุขภาพเท่ากับชิลี

Chile's catching up!

ชิลีกำลังไล่ตามมาแล้ว

Within some years Chile may have better child survival

ภายในไม่กี่ปี ชิืลีอาจจะมีการอยู่รอดของเด็ก

than the United States.

ดีกว่าสหรัฐฯก็ได้

This is really a change, that you have this lag

นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ที่คุณจะเห็นช่องว่าง

of more or less 30, 40 years' difference on the health.

ของความแตกต่างทางสุขภาพ ในช่วงเวลาไม่มากหรือน้อยไปกว่า 30 หรือ 40 ปี

And behind the health is the educational level.

และเบื้องหลังสุขภาพ ก็คือระดับการศึกษา

And there's a lot of infrastructure things,

และมันมีสารณูปโภคพื้นฐานต่างๆด้วย

and general human resources are there.

และทรัพยากรมนุษย์โดยทั่วไปอยู่ตรงนั้น

Now we can take away this --

ตอนนี้เราเอาอันนี้ออกได้

and I would like to show you the rate of speed,

และผมจะแสดงให้เห็นอัตราเร็ว

the rate of change, how fast they have gone.

อัตราการเปลี่ยนแปลง ฟองเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงเร็วแค่ไหน

And we go back to 1920, and I want to look at Japan.

และเราย้อนกลับไปที่ปี 1920 ผมอยากจะดูญี่ปุ่น

And I want to look at Sweden and the United States.

และอยากดูสวีเดนและสหรัฐฯ

And I'm going to stage a race here

และผมก็จะสร้างฉากการแข่งรถล่ะ

between this sort of yellowish Ford here

ระหว่างฟอร์ดสีเหลืองตรงนี้

and the red Toyota down there,

โตโยต้าสีแดงข้างล่างนี่

and the brownish Volvo.

และวอลโว่สีน้ำตาล

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And here we go. Here we go.

เอาล่ะ ไปล่ะ ไปล่ะ

The Toyota has a very bad start down here, you can see,

โตโยต้าเริ่มต้นได้ไม่ดีนักข้างล่างนี่ คุณเห็นได้เลย

and the United States Ford is going off-road there.

และฟอร์ดสหรัฐฯกำลังวิ่งวิบากอยู่ตรงนั้น

And the Volvo is doing quite fine.

ส่วนวอลโว่ก็ดูกำลังไปได้สวย

This is the war. The Toyota got off track, and now

นี่คือสงครามล่ะ โตโยต้าออกนอกลู่ไป และตอนนี้

the Toyota is coming on the healthier side of Sweden --

โตโยต้ากำลังมาในฝั่งที่สุขภาพดีกว่าสวีเดน

can you see that?

คุณเห็นมั้ย

And they are taking over Sweden,

แล้วเขาก็กำลังแซงสวีเตน

and they are now healthier than Sweden.

และตอนนี้เขาก็สุขภาพดีกว่าสวีเดน

That's the part where I sold the Volvo and bought the Toyota.

นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ผมขายวอลโล่แล้วซื้อโตโยต้า

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And now we can see that the rate of change was enormous in Japan.

และตอนนี้เราก็จะเห็นว่า อัตราการเปลี่ยนแปลงของญี่ปุ่นนั้นสูงมาก

They really caught up.

พวกเขาไล่ตามมาจริงๆ

And this changes gradually.

และนี่ก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป

We have to look over generations to understand it.

เราต้องมองไปที่หลายๆรุ่นเพื่อเข้าใจมัน

And let me show you my own sort of family history --

ผมจะให้คุณดูประวัติครอบครัวของผม

we made these graphs here.

เราทำกราฟไว้ตรงนี้

And this is the same thing, money down there, and health, you know?

และนี่ก็เหมือนเดิม เงินอยู่ตรงนั้น แล้วก็สุขภาพ

And this is my family.

และนี่คือครอบครัวของผม

This is Sweden, 1830, when my great-great-grandma was born.

นี่คือสวีเดน ปั 1830 ตอนที่คุณยายทวดของทวดเกิด

Sweden was like Sierra Leone today.

สวีเดนเหมือนกับเซียรา ลีออนวันนี้

And this is when great-grandma was born, 1863.

และนี่คือตอนที่คุณยายทวดเกืด ปี 1863

And Sweden was like Mozambique.

สวีเดนเหมือนกับโมซัมบิก

And this is when my grandma was born, 1891.

และนี่ก็ตอนคุณยายผมเกิด ปี 1891

She took care of me as a child,

เธอดูแลผมตอนเด็กๆ

so I'm not talking about statistic now --

ผมไม่ได้พูดถึงสถิติแล้วนะเนี่ย

now it's oral history in my family.

ตอนนี้กลายเป็นการบอกเล่าประวัติครอบครัว

That's when I believe statistics,

นั่นเป็นตอนที่ผมเชื่อในสถิติ

when it's grandma-verified statistics.

สถิติที่พิสูจน์โดยคุณยาย

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

I think it's the best way of verifying historical statistics.

ผมคิดว่ามันเป็นทางที่ดีที่สุด ในการพิสูจน์สถิติทางประวัติศาสตร์

Sweden was like Ghana.

สวีเดนเหมือนกาน่า

It's interesting to see the enormous diversity

มันน่าสนใจที่ได้เห็นความหลากหลายอันยิ่งใหญ่

within sub-Saharan Africa.

ภายในซับซาฮาร่าแอฟริกา

I told you last year, I'll tell you again,

ผมบอกคุณไปเมื่อปีที่แล้ว ผมจะบอกคุณอีกครั้ง

my mother was born in Egypt, and I -- who am I?

แม่ของผมเกิดในอียิปต์ แล้วผม... ผมเป็นใครล่ะ

I'm the Mexican in the family.

ผมเป็นคนเม็กซิโกในครอบครัว

And my daughter, she was born in Chile,

และลูกสาวของผม เธอเกิดในชิลี

and the grand-daughter was born in Singapore,

และหลานสาวของผมเกิดในสิงคโปร์

now the healthiest country on this Earth.

ซึ่งเป็นประเทศที่สุขภาพดีที่สุดบนโลกใบนี้

It bypassed Sweden about two to three years ago,

มันแซงสวีเดนไปเมื่อสองสามปีก่อน

with better child survival.

ด้วยการอยู่รอดของเด็กที่ดีกว่า

But they're very small, you know?

แต่มันเล็กมาก คุณก็รู้ใช่มั้ย

They're so close to the hospital we can never

พวกเขาอยู่ใกล้โรงพยาบาลมากเหลือเกิน เราไม่มีทาง

beat them out in these forests.

เอาชนะพวกเขาในเรื่องนี้ได้หรอก

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

But homage to Singapore.

แต่ด้วยความเคารพต่อสิงคโปร์

Singapore is the best one.

สิงคโปร์เป็นประเทศที่ดีที่สุด

Now this looks also like a very good story.

เอาล่ะ นี่อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ดีมาก

But it's not really that easy, that it's all a good story.

แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก ที่ทุกอย่างจะเป็นเรื่องดี

Because I have to show you one of the other facilities.

เพราะผมจะให้คุณดูอีกด้านหนึ่งของด้านอื่นๆด้วย

We can also make the color here represent the variable --

เราใช้สีแทนตัวแปรตรงนี้

and what am I choosing here?

และอะไรที่ผมจะเลือกดีล่ะ

Carbon-dioxide emission, metric ton per capita.

การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมตริกต่อหัวประขากร

This is 1962, and United States was emitting 16 tons per person.

นี่คือปี 1962 สหรัฐฯปล่อยออกมา 16 ตันต่อหัว

And China was emitting 0.6,

และจีนปล่อย 0.6

and India was emitting 0.32 tons per capita.

และอินเดียปล่อย 0.32 ตันต่อหัว

And what happens when we moved on?

แล้วอะไรจะเกิดขึ้นล่ะ ถ้าพวกเรามองต่อไป

Well, you see the nice story of getting richer

คุณจะเห็นเรื่องในด้านดี ในการรวยขึ้น

and getting healthier --

สุขภาพดีขึ้น

everyone did it at the cost of emission of carbon dioxide.

ทุกคนเป็นอย่างนั้น โดยแลกมาด้วยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์

There is no one who has done it so far.

ไม่มีใครทำได้อย่างนั้นจนถึงตอนนี้

And we don't have all the updated data

และเราก็ไม่มีข้อมูลทันสมัยทั้งหมด

any longer, because this is really hot data today.

อีกต่อไป เพราะมันเป้นข้อมูลร้อนมากในวันนี้

And there we are, 2001.

เอาล่ะ เรามาถึงปี 2001

And in the discussion I attended with global leaders, you know,

และในการสนทนาที่ผมได้เข้าร่วมกับผู้นำโลก

many say now the problem is that the emerging economies,

หลายคนบอกว่า ตอนนี้ปัญหาคือ การที่ระบบเศรษฐกิจเกิดใหม่

they are getting out too much carbon dioxide.

กำลังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไป

The Minister of the Environment of India said,

รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของอินเดียพูดว่า

"Well, you were the one who caused the problem."

"อืม คุณเป็นคนสร้างปัญหานี้นะ"

The OECD countries -- the high-income countries --

ประเทศ OECD หรือประเทศรายได้สูงทั้งหลาย

they were the ones who caused the climate change.

พวกเขาเป็นคนก่อให้เกิด การเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศ

"But we forgive you, because you didn't know it.

"แต่เราให้อภัยคุณ เพราะคุณไม่รู้

But from now on, we count per capita.

แต่จากนี้ไป เราจะนับต่อหัวล่ะ

From now on we count per capita.

จากนี้ไป เรานับต่อหัว

And everyone is responsible for the per capita emission."

และทุกคนก็จะรับผิดชอบการปล่อยก๊าซต่อหัว"

This really shows you, we have not seen good economic

นี่แสดงให้เห็นว่า เราไม่เคยเห็นความก้าวหน้าเศรษฐกิจ

and health progress anywhere in the world

และสุขภาพดีๆ ที่ไหนบนโลกใบนี้

without destroying the climate.

ที่ไม่มีการทำลายชั้นบรรยากาศ

And this is really what has to be changed.

และนี่ก็เป็นอะไรที่ต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงจริงๆ

I've been criticized for showing you a too positive image of the world,

ผมได้รับการวิจารณ์ว่า แสดงให้พวกคุณเห็นแต่ด้านบวกของโลก

but I don't think it's like this.

แต่ผมไม่ได้คิดแบบนั้น

The world is quite a messy place.

โลกเป็นที่ๆยุ่งเหยิง

This we can call Dollar Street.

ตรงนี้เราเรียกมันว่า ถนนดอลลาร์

Everyone lives on this street here.

ทุกคนอาศัยอยู่บนถนนนี้

What they earn here -- what number they live on --

ตรงนี้คือเงินที่พวกเขาหาได้ ตัวเลขที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่

is how much they earn per day.

คือจำนวนเงินที่พวกเขาหาได้ต่อวัน

This family earns about one dollar per day.

ครอบครัวนี้หาได้ประมาณ 1 ดอลล่าร์ต่อวัน

We drive up the street here,

เราขับรถขึ้นมาตามถนนตรงนี้

we find a family here which earns about two to three dollars a day.

เราเจอครอบครัวที่หาได้ประมาณ 2-3 ดอลล่าร์ต่อวัน

And we drive away here -- we find the first garden in the street,

เราขับมาตรงนี้ เราเจอสวนแห่งแรกในถนน

and they earn 10 to 50 dollars a day.

และพวกเขาหาได้ 10-50 ดอลล่าร์ต่อวัน

And how do they live?

แล้วพวกเขาใช้ชีวิตยังไงล่ะ

If we look at the bed here, we can see

ถ้าเรามองดูที่ที่นอน เราจะเห็นว่า

that they sleep on a rug on the floor.

พวกเขานอนบนพรมบนพื้น

This is what poverty line is --

นี่คือความหมายของเส้นแบ่งความยากจน

80 percent of the family income is just to cover the energy needs,

80 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของครอบครัวมีเพียงพอ ต่อการจ่ายพลังงานที่จำเป็น

the food for the day.

อาหารต่อวัน

This is two to five dollars. You have a bed.

นี่คือ 2-5 ดอลลาร์ คุณจะมีเตียง

And here it's a much nicer bedroom, you can see.

และตรงนี้ ห้องนอนที่ดูดีกว่ามาก

I lectured on this for Ikea, and they wanted to see

ผมบรรยายเรื่องนี้กับไอเกีย และพวกเขาก็ต้องการเห็น

the sofa immediately here.

โซฟาตรงนี้ทันที

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And this is the sofa, how it will emerge from there.

และนี่ก็เป็นโซฟา การที่มันเกิดขึ้นมาจากตรงนั้นได้ยังไง

And the interesting thing, when you go around here in the photo panorama,

และสิ่งที่น่าสนใจ เมื่อคุณมองไปรอบๆในรูปพาโนรามาตรงนี้

you see the family still sitting on the floor there.

คุณจะเห็นครอบครัวยังนั่งอยู่บนพิ้นตรงนั้น

Although there is a sofa,

ถึงแม้จะมีโซฟา

if you watch in the kitchen, you can see that

ถ้าคุณมองไปที่ครัว คุณจะเห็นว่า

the great difference for women does not come between one to 10 dollars.

ความแตกต่างที่สำคัญสำหรับผู้หญืง ไม่ได้มีมาที่ 1-10 ดอลลาร์

It comes beyond here, when you really can get

มันมาหลังจากตรงนี้ เมื่อคุณสามารถ

good working conditions in the family.

มีสภาพการทำงานที่ดีในครอบครัว

And if you really want to see the difference,

และถ้าคุณต้องการจะเห็นความแตกต่างจริงๆ

you look at the toilet over here.

คุณดูที่สุขาตรงนี้

This can change. This can change.

มันเปลี่ยนได้ มันเปลี่ยนได้

These are all pictures and images from Africa,

ทั้งหมดนี้เป็นรูปภาพจากแอฟริกา

and it can become much better.

และมันก็จะดีขึ้นได้

We can get out of poverty.

เราออกจากความยากจนได้

My own research has not been in IT or anything like this.

งานวิจัยของผมไม่เคยเกี่ยวกับไอทีหรืออะไรประมาณนี้

I spent 20 years in interviews with African farmers

ผมใช้เวลา 20 ปีสัมภาษณ์เกษตรกรแอฟริกัน

who were on the verge of famine.

ที่หมิ่นเหม่อยู่บนความอดอยาก

And this is the result of the farmers-needs research.

และนี่คือผลจากการวิจัยความต้องการของเกษตรกร

The nice thing here is that you can't see

สิ่งที่ดีตรงนี้คือการที่คุณหา

who are the researchers in this picture.

ว่าใครเป็นนักวิจัยไม่เจอ

That's when research functions in poor societies --

นั้นคือ หากงานวิจัยนั้นเกิดขึ้นในสังคมยากจน

you must really live with the people.

คุณต้องใช้ชีวิตอยู่กับผู้คนจริงๆ

When you're in poverty, everything is about survival.

ตอนที่คุณอยู่ในภาวะยากจน ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับการอยู่รอด

It's about having food.

เกี่ยวกับการมีอาหาร

And these two young farmers, they are girls now --

และเกษตรกรน้อยสองคนนี้ ตอนนี้เป็นเด็กสาวแล้ว

because the parents are dead from HIV and AIDS --

เพราะพ่อแม่ตายเพราะเอดส์และ HIV

they discuss with a trained agronomist.

พวกเธอคุยอยู่กับนักปฐพีวิทยา

This is one of the best agronomists in Malawi, Junatambe Kumbira,

ซึ่งเป็นหนึ่งในนักปฐพิวิทยาที่ดีที่สุดในมาลาวี จูนาทัมเบ คัมบีรา

and he's discussing what sort of cassava they will plant --

และเขากำลังพูดเกี่ยวกับว่า มันสำปะหลังแบบไหนดีที่พวกเขาจะปลูก

the best converter of sunshine to food that man has found.

ซึ่งมันเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยเจอ ในการเปลี่ยนแสงแดดให้กลายเป็นอาหาร

And they are very, very eagerly interested to get advice,

และพวกเธอก็สนใจคำแนะนำพวกนี้มากๆ

and that's to survive in poverty.

และนั่นก็เพื่อให้อยู่รอดได้ในความยากจน

That's one context.

นั่นก็เป็นบริบทหนึ่ง

Getting out of poverty.

ในการหนีจากความยากจน

The women told us one thing. "Get us technology.

พวกผู้หญิงบอกเราอย่างหนึ่งว่า "เอาเทคโนโลยีมาให้เราเถอะ

We hate this mortar, to stand hours and hours.

เราเกลียดครกนี่ เพราะเราต้องยืนเป็นชั่วโมงๆ

Get us a mill so that we can mill our flour,

เอาเครื่องโม่มาให้เรา เพื่อเราจะได้โม่แป้งได้

then we will be able to pay for the rest ourselves."

แล้วเราก็จะได้จ่ายค่าอะไรต่อมิอะไรได้ด้วยตัวเอง"

Technology will bring you out of poverty,

เทคโนโลยีพาคุณออกจากความยากจน

but there's a need for a market to get away from poverty.

แต่ตลาดก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการออกจากความยากจนด้วย

And this woman is very happy now, bringing her products to the market.

และผู้หญิงคนนี้กำลังมีความสุขมาก เธอกำลังนำผลผลิตของเธอไปยังตลาด

But she's very thankful for the public investment in schooling

แต่เธอก็นึกขอบคุณการลงทุนของรัฐในด้านการศึกษาด้วย

so she can count, and won't be cheated when she reaches the market.

เพราะนั่นทำให้เธอคิดเลขได้ และไม่ถูกโกงตอนที่เธอไปถึงตลาด

She wants her kid to be healthy, so she can go to the market

เธอต้องการให้ลูกของเธอสุขภาพดี เพราะนั่นจะทำให้เธอไปตลาดได้

and doesn't have to stay home.

โดยไม่ต้องอยู่ที่บ้าน

And she wants the infrastructure -- it is nice with a paved road.

และเธอก็ต้องการสิ่งปลูกสร้างพื้นฐานด้วย มันดีนะกับการมีถนนลาดยาง

It's also good with credit.

มันดีด้วยกับการมีเครดิต

Micro-credits gave her the bicycle, you know.

ไมโครเครดิตทำให้เธอมีจักรยาน

And information will tell her when to go to market with which product.

และข้อมูลข่าวสารจะทำให้เธอรู้ว่าจะไปตลาดเมื่อไหร่ พร้อมด้วยสินค้าชนิดไหน

You can do this.

คุณทำมันได้

I find my experience from 20 years of Africa is that

ผมพบว่าประสบการณ์ในแอฟริกา 20 ปีของผม บอกผมว่า

the seemingly impossible is possible.

สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้นั้นเป็นไปได้

Africa has not done bad.

แอฟริกาไม่ได้ย่ำแย่ซะทีเดียว

In 50 years they've gone from a pre-Medieval situation

ภายใน 50 ปี พวกเขาก้าวจากสภาวะก่อนยุคกลาง

to a very decent 100-year-ago Europe,

มาสู่สภาวะที่ดีแบบยุโรปเมื่อ 100 ปีก่อน

with a functioning nation and state.

พร้อมกับรัฐและชาติที่ทำงานได้

I would say that sub-Saharan Africa has done best in the world

ผมขอบอกว่า ซับซาฮาร่าแอฟริกาทำได้ดีที่สุดในโลก

during the last 50 years.

ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมานี้

Because we don't consider where they came from.

เพราะเราไม่ได้ดูว่าพวกเขามาจากจุดไหน

It's this stupid concept of developing countries

มันเป็นความคิดที่งี่เง่าเกี่ยวกับประเทศกำลังพัฒนา

that puts us, Argentina and Mozambique together 50 years ago,

ที่ทำให้เรา เช่น มองอาร์เจนตินาและโมซัมบิกเมื่อ 50 ปีก่อน

and says that Mozambique did worse.

แล้ว บอกว่าโมซัมบิกทำได้แย่กว่า

We have to know a little more about the world.

เราต้องรู้ให้มากขึ้นเกี่ยวกับโลกใบนี้

I have a neighbor who knows 200 types of wine.

ผมมีเพื่อนบ้านที่รู้จักไวน์ 200 ชนิด

He knows everything.

เขารู้ทุกอย่าง

He knows the name of the grape, the temperature and everything.

เขารู้ชื่อองุ่น อุณหภูมิ และทุกอย่าง

I only know two types of wine -- red and white.

ผมรู้จักไวน์แค่ 2 ชนิด แดงและขาว

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

But my neighbor only knows two types of countries --

แต่เพื่อนบ้านผมรู้จักประเทศแค่ 2 แบบ

industrialized and developing.

ประเทศอุตสาหกรรม กับ ประเทศกำลังพัฒนา

And I know 200, I know about the small data.

แต่ผมรู้จัก 200 แบบ ผมรู้ข้อมูลเล็กๆเหล่านี้

But you can do that.

แต่คุณทำแบบนั้นได้

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

But I have to get serious. And how do you get serious?

แต่ผมต้องจริงจังแล้ว และทำยังไงถึงจะดูจริงจัง

You make a PowerPoint, you know?

คุณก็ทำพาวเวอร์พอยท์ไง

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Homage to the Office package, no?

ต้องคารวะแพ็คเกจของไมโครซอฟท์ออฟฟิซ เนาะ?

What is this, what is this, what am I telling?

แล้วนี่อะไร แล้วนี่อะไร ผมกำลังบอกอะไร

I'm telling you that there are many dimensions of development.

ผมกำลังบอกคุณว่า การพัฒนามีหลายด้าน

Everyone wants your pet thing.

ทุกคนต้องการสิ่งที่่ตัวเองชื่นชอบ

If you are in the corporate sector, you love micro-credit.

ถ้าคุณอยู่ภาคธุรกิจ คุณก็จะรักไมโครเครดิต

If you are fighting in a non-governmental organization,

ถ้าคุณกำลังต่อสู้อยู่ใน NGO

you love equity between gender.

คุณก็จะรักความเสมอภาคระหว่างเพศ

Or if you are a teacher, you'll love UNESCO, and so on.

หรือถ้าคุณเป็นครู คุณก็จะรัก UNESCO เป็นต้น

On the global level, we have to have more than our own thing.

ในระดับโลก เราต้องการอะไรมากกว่าแค่สิ่งนั้นของเรา

We need everything.

เราจำเป็นต้องมีทุกอย่าง

All these things are important for development,

ทุกอย่างเหล่านี้สำคัญต่อการพัฒนา

especially when you just get out of poverty

โดยเฉพาะเมื่อคุณเพิ่งออกจากความยากจน

and you should go towards welfare.

และคุณควรจะมุ่งหน้าไปสู่สวัสดิการ

Now, what we need to think about

ตอนนี้ สิ่งที่พวกเราต้องคิด

is, what is a goal for development,

ก็คือ อะไรคือเป้าหมายของการพัฒนา

and what are the means for development?

และอะไรที่เป็นหนทางสู่การพัฒนา

Let me first grade what are the most important means.

เริ่มแรก ให้ผมจัดลำดับอะไรที่เป็นหนทางที่สำคัญที่สุด

Economic growth to me, as a public-health professor,

สำหรับผม ในฐานะศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุข

is the most important thing for development

ความเจริญทางเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการพัฒนา

because it explains 80 percent of survival.

เพราะมันมีผลต่อ 80 เปอร์เซ็นต์ของการอยู่รอด

Governance. To have a government which functions --

ธรรมาภิบาล การมีรัฐบาลที่ทำงาน

that's what brought California out of the misery of 1850.

นั่นเป็นสิ่งที่พาแคลิฟอร์เนีย ออกจากความแร้นแค้นเมื่อปี 1850

It was the government that made law function finally.

นั่นก็คือ รัฐบาลที่ทำให้กฎหมายทำงานได้ในท้ายที่สุด

Education, human resources are important.

การศึกษา ทรัพยากรมนุษย์ก็สำคัญ

Health is also important, but not that much as a mean.

สุขภาพก็สำคัญ แต่ไม่มากเท่าไหร่นักสำหรับการเป็นหนทาง

Environment is important.

สิ่งแวดล้อมก็สำคัญ

Human rights is also important, but it just gets one cross.

สิทธิมนุษยชนก็สำคัญ แต่ก็ได้แค่บวกเดียว

Now what about goals? Where are we going toward?

เอาล่ะ แล้วเป้าหมายล่ะ เราจะมุ่งหน้าไปทางไหนดี

We are not interested in money.

เราไม่สนใจในเงิน

Money is not a goal.

เงินไม่ใช่เป้าหมาย

It's the best mean, but I give it zero as a goal.

มันเป็นหนทางที่ดีที่สุด แต่ผมให้ศูนย์สำหรับการเป็นเป้าหมาย

Governance, well it's fun to vote in a little thing,

ธรรมาภิบาล อิม มันก็สนุกดีนะที่ได้ลงคะแนนเสียงในเรื่องเล็กๆน้อยๆ

but it's not a goal.

แต่นั่นก็ไม่ใช่เป้าหมาย

And going to school, that's not a goal, it's a mean.

และการไปโรงเรียน นั่นไม่ใช่เป้าหมาย มันเป็นหนทาง

Health I give two points. I mean it's nice to be healthy

ผมให้สุขภาพ 2 คะแนน ผมว่ามันดีออกนะที่สุขภาพดี

-- at my age especially -- you can stand here, you're healthy.

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนอายุเท่าผม คุณยืนอยู่ตรงนี้ได้ คุณก็สุขภาพดีล่ะ

And that's good, it gets two plusses.

และนั่นก็เป็นเรื่องดี มันได้ไป 2 บวก

Environment is very, very crucial.

สิ่งแวดล้อมก็สำคัญมากๆ

There's nothing for the grandkid if you don't save up.

มันจะไม่มีอะไรเหลือไปถึงลูกหลานถ้าคุณไม่รักษา

But where are the important goals?

แต่อะไรล่ะที่เป็นเป้าหมายสำคัญ?

Of course, it's human rights.

แน่นอน มันคือสิทธิมนุษยชน

Human rights is the goal,

สิทธิมนุษยชนเป็นเป้าหมาย

but it's not that strong of a mean for achieving development.

แต่มันก็ไม่ได้สำคัญมาก ในการเป็นหนทางไปสู่การพัฒนา

And culture. Culture is the most important thing, I would say,

และวัฒนธรรม ผมว่า วัฒนธรรมสำคัญที่สุดนะ

because that's what brings joy to life.

เพราะนั่นคือสิ่งที่นำพาความสนุกสนานมาสู่ชีวิต

That's the value of living.

นั่นคือคุณค่าของการมีชีวิต

So the seemingly impossible is possible.

สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไม่ได้นั้นเป็นไปได้

Even African countries can achieve this.

แม้กระทั่งประเทศแอฟริกันก็บรรลุสิ่งนี้ได้

And I've shown you the shot where the seemingly impossible is possible.

และผมจะแสดงให้คุณดู สิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้แต่เป็นไปได้

And remember, please remember my main message,

และจำไว้ โปรดจำข้อความหลักของผมไว้

which is this: the seemingly impossible is possible.

ซึ่งก็คือ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้นเป็นไปได้

We can have a good world.

เรามีโลกที่ดีได้

I showed you the shots, I proved it in the PowerPoint,

ผมได้แสดงให้คุณเห็น พิสูจน์มันในพาวเวอร์พอยท์

and I think I will convince you also by culture.

และผมคิดว่าผมจะทำให้คุณเชื่อด้วยวัฒนธรรมเช่นกัน

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Bring me my sword!

เอาดาบของผมมา!

Sword swallowing is from ancient India.

การกลืนดาบ มาจากอินเดียโบราณ

It's a cultural expression that for thousands of years

มันคือการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่... เป็นเวลาหลายพันปีมาแล้ว

has inspired human beings to think beyond the obvious.

...ได้ดลบันดาลใจมนุษย์ให้คิดเหนือไปจากสิ่งที่เห็นได้ชัด

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

And I will now prove to you that the seemingly impossible is possible

และผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่า สิงที่เป็นไปไม่ได้นั้นเป็นไปได้

by taking this piece of steel -- solid steel --

ด้วยการนำแท่งเหล็กนี้ เหล็กกล้า

this is the army bayonet from the Swedish Army, 1850,

นี่คือดาบปลายปืนของทหารแห่งกองทัพสวีเดนในปี 1850

in the last year we had war.

ในปีสุดท้ายที่เรามีสงคราม

And it's all solid steel -- you can hear here.

และมันเป็นเหล็กกล้าทั้งหมด คุณได้ยินนะ

And I'm going to take this blade of steel,

และผมกำลังจะเอาดาบเหล็กนี้

and push it down through my body of blood and flesh,

ดันมันลงไปในร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือดและเนื้อของผม

and prove to you that the seemingly impossible is possible.

และพิสูจน์กับคุณว่า สิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้นเป็นไปได้

Can I request a moment of absolute silence?

ผมขอเวลาเงียบสนิทหน่อยได้มั้ยครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)