Angela Belcher: Using nature to grow batteries

60,582 views ・ 2011-04-27

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Heartfelt Grace Reviewer: Paravee Asava-Anan
00:15
I thought I'd talk a little bit about how nature makes materials.
0
15807
3167
ดิฉันคิดไว้ค่ะว่าจะอธิบายสักหน่อยว่าธรรมชาติสร้างวัสดุออกมาได้ยังไง
00:18
I brought along with me an abalone shell.
1
18998
2190
ดิฉันเอาเปลือกหอยเป๋าฮื้อติดตัวมาด้วย
เปลือกเป๋าฮื้อชิ้นนี้เป็นวัสดุคอมโพสิตชีวภาพ (biocomposite)
00:21
This abalone shell is a biocomposite material
2
21212
2575
00:23
that's 98 percent by mass calcium carbonate
3
23811
2849
ที่มวลร้อยละ 98 คือ หินปูน (calcium carbonate)
00:26
and two percent by mass protein.
4
26684
2531
และมวลอีกร้อยละ 2 เป็นโปรตีน
แต่กระนั้น มันแข็งแรงทนทานกว่า 3,000 เท่า
00:29
Yet, it's 3,000 times tougher than its geological counterpart.
5
29239
3696
ของคู่คล้ายในทางธรณีวิทยาของมัน (หินปูน)
00:32
And a lot of people might use structures like abalone shells,
6
32959
3439
และหลายๆคนอาจจะใช้โครงสร้างอย่างเปลือกเป๋าฮื้อนี้
แทนชอล์กได้
00:36
like chalk.
7
36422
1152
00:37
I've been fascinated by how nature makes materials,
8
37598
2791
ดิฉันรู้สึกทึ่งกับวิธีการ ที่ธรรมชาติสรรสร้างวัสดุขึ้นมา
และมีลำดับขั้นตอนหลายลำดับ
00:40
and there's a lot of secrets to how they do such an exquisite job.
9
40413
3355
ในการที่ธรรมชาติสามารถทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม
00:43
Part of it is that these materials are macroscopic in structure,
10
43792
4268
ส่วนหนึ่งก็คือวัสดุพวกนี้
มีโครงสร้างที่มองเห็นด้วยตาเปล่า (macroscopic)
แต่สร้างขึ้นมาในระดับนาโน
00:48
but they're formed at the nano scale.
11
48084
1859
00:49
They're formed at the nano scale,
12
49967
1668
วัสดุพวกนี้ถือกำเนิดขึ้นมาในระดับนาโน
00:51
and they use proteins that are coded by the genetic level
13
51659
3633
และมันใช้โปรตีนซึ่งถูกป้อนรหัสไว้ในระดับพันธุกรรม
ที่ทำให้มันสร้างโครงสร้างที่เยี่ยมยอดเป็นอย่างยิ่งแบบนี้ได้
00:55
that allow them to build these really exquisite structures.
14
55316
2809
ดังนั้น มีสิ่งที่ดิฉันคิดว่าน่าทึ่งเอามากๆ
00:58
So something I think is very fascinating is:
15
58149
2232
ก็คือ จะเป็นยังไงนะถ้าหากว่าเราสามารถให้กำเนิดชีวิต
01:00
What if you could give life to non-living structures,
16
60405
4257
กับพวกโครงสร้างที่ปราศจากชีวิต
01:04
like batteries and like solar cells?
17
64686
2250
อย่างพวกแบตเตอรี่และเซลล์แสงอาทิตย์ได้?
01:06
What if they had some of the same capabilities
18
66960
2284
จะเป็นยังไงกันถ้ามันมีขีดความสามารถ
อย่างที่เปลือกเป๋าฮื้อมี
01:09
that an abalone shell did,
19
69268
1668
01:10
in terms of being able to build really exquisite structures
20
70960
3682
ในขอบข่ายของความสามารถ
ในการสร้างโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมเป็นที่สุด
01:14
at room temperature and room pressure,
21
74666
1833
ที่ความดันและอุณหภูมิห้อง
01:16
using nontoxic chemicals
22
76523
2045
โดยใช้สารเคมีที่ไม่เป็นพิษ
01:18
and adding no toxic materials back into the environment?
23
78592
2699
และสร้างวัสดุที่ไม่เป็นพิษกลับคืนสู่สิ่งแวดล้อม?
01:21
So that's kind of the vision that I've been thinking about.
24
81315
3258
ฉะนั้น นั่นก็คือวิสัยทัศน์ที่ดิฉันได้มองภาพไว้ค่ะ
01:24
And so what if you could grow a battery in a Petri dish?
25
84597
2666
และถ้าเช่นนั้นแล้ว จะเป็นยังไงถ้าเราสามารถสร้างแบตเตอรี่ขึ้นมาได้ในจานเพาะเชื้อ?
หรือ จะเป็นยังไงนะถ้าเราสามารถใส่ข้อมูลพันธุกรรมเข้าไปในแบตเตอรี่
01:27
Or what if you could give genetic information to a battery
26
87287
2890
เพื่อให้มันทำงานได้ดียิ่งๆขึ้นไป
01:30
so that it could actually become better as a function of time, and do so
27
90201
3802
ตามเวลาที่ผ่านไป
และก็เป็นแบบนั้นได้แบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย?
01:34
in an environmentally friendly way?
28
94027
1777
ถ้างั้น กลับไปที่เปลือกเป๋าฮื้อนี้ก่อน
01:36
And so, going back to this abalone shell,
29
96195
3071
นอกจากจะมีโครงสร้างนาโน
01:39
besides being nanostructured, one thing that's fascinating is,
30
99290
3065
ซึ่งเป็นอย่างหนึ่งหละที่น่าทึ่ง
01:42
when a male and female abalone get together,
31
102379
2468
เมื่อหอยเป๋าฮื้อตัวผู้กับตัวเมียมาอยู่ด้วยกัน
01:44
they pass on the genetic information that says,
32
104871
2205
มันส่งผ่านข้อมูลพันธุกรรม
ที่บอกว่า "นี่คือวิธีสร้างวัสดุที่ยอดเยี่ยม
01:47
"This is how to build an exquisite material.
33
107100
2436
01:49
Here's how to do it at room temperature and pressure,
34
109560
2500
นี่คือวิธีที่จะทำได้ในความดันและอุณหภูมิห้อง
โดยใช้วัสดุที่ไม่มีพิษ"
01:52
using nontoxic materials."
35
112084
1306
01:53
Same with diatoms, which are shown right here,
36
113414
2164
เหมือนกับตัวไดอะตอม (diatom) ซึ่งนำเสนอไว้ตรงนี้ มีโครงสร้างของแก้ว
01:55
which are glasseous structures.
37
115602
1623
ทุกๆครั้งที่ไดอะตอมแบ่งตัว
01:57
Every time the diatoms replicate,
38
117249
1687
01:58
they give the genetic information that says,
39
118960
2066
พวกมันใส่ข้อมูลพันธุกรรมที่บอกว่า
"นี่เป็นวิธีทำแก้วในมหาสมุทร
02:01
"Here's how to build glass in the ocean that's perfectly nanostructured."
40
121050
3664
ที่เป็นโครงสร้างนาโนสมบูรณ์แบบ
02:04
And you can do it the same, over and over again."
41
124738
2293
และเธอก็สามารถทำแบบนี้ได้เช่นเดียวกัน ครั้งแล้วครั้งเล่า"
แล้วจะเป็นยังไงถ้าหากว่าเราสามารถทำเหมือนๆกันนี้ได้
02:07
So what if you could do the same thing with a solar cell or a battery?
42
127055
3320
กับเซลล์แสงอาทิตย์หรือแบตเตอรี่?
02:10
I like to say my favorite biomaterial is my four year old.
43
130399
3537
ดิฉันชอบพูดว่าวัสดุชีวภาพชิ้นโปรดของดิฉันคือลูกวัย 4 ขวบของดิฉันค่ะ
02:13
But anyone who's ever had or knows small children knows,
44
133960
3237
แต่ใครก็ตามที่เคยมีหรือเคยรู้เกี่ยวกับเด็กเล็กๆ
จะรู้ว่าพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนอย่างเหลือเชื่อ
02:17
they're incredibly complex organisms.
45
137221
2016
02:19
If you wanted to convince them to do something they don't want to do,
46
139261
3696
และงั้นถ้าเราอยากจะโน้มน้าวพวกเขา
ให้ทำอะไรที่พวกเขาไม่อยากทำ ช่างเป็นเรื่องยากเย็นเหลือเกินค่ะ
02:22
it's very difficult.
47
142981
1158
เพราะฉะนั้น เมื่อเราคิดไปถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคต
02:24
So when we think about future technologies,
48
144163
2016
02:26
we actually think of using bacteria and viruses --
49
146203
3218
เราจึงต้องคิดไปถึงการใช้แบคทีเรียกับไวรัส
สิ่งมีชีวิตพื้นๆธรรมดาๆ
02:29
simple organisms.
50
149445
1208
02:30
Can you convince them to work with a new toolbox,
51
150677
2656
แล้วเราจะโน้มน้าวให้มันทำงานกับเครื่องมือใหม่ๆได้ยังไง
ที่จะทำให้มันสามารถสร้างโครงสร้าง
02:33
so they can build a structure that will be important to me?
52
153357
3250
ที่จะมีความสำคัญกับดิฉัน?
02:36
Also, when we think about future technologies,
53
156631
2301
อีกอย่าง เราคิดไปถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคต
02:38
we start with the beginning of Earth.
54
158956
2213
เราเริ่มต้นกันด้วยการอุบัติขึ้นของโลก
พื้นๆนะคะ ใช้เวลาเป็นพันล้านปีกว่าที่จะ
02:41
Basically, it took a billion years to have life on Earth.
55
161193
3743
มีสิ่งมีชีวิตก่อกำเนิดขึ้นมาในโลก
02:44
And very rapidly, they became multi-cellular,
56
164960
2111
และในเวลาอันสั้นๆ พวกมันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์
สิ่งมีชีวิตพวกนี้แบ่งตัวได้ ใช้การสังเคราะห์แสง
02:47
they could replicate, they could use photosynthesis
57
167095
2577
02:49
as a way of getting their energy source.
58
169696
1937
เป็นวิธีให้ได้มาซึ่งแหล่งพลังงาน
02:51
But it wasn't until about 500 million years ago --
59
171657
2342
แต่มาเมื่อราว 500 ล้านปีก่อนนี่เอง
ซึ่งอยู่ช่วงเวลาของยุคแคมเบรียน (Cambrian)
02:54
during the Cambrian geologic time period --
60
174023
2032
ที่สิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรเริ่มสร้างวัสดุที่มีความแข็ง
02:56
that organisms in the ocean started making hard materials.
61
176079
3045
ก่อนหน้านั้น พวกมันนุ่มนิ่มเป็นปุยเบา
02:59
Before that, they were all soft, fluffy structures.
62
179148
3564
และในช่วงเวลานั้นนั่นเอง
03:02
It was during this time that there was increased calcium,
63
182736
2688
ที่มีปริมาณแคลเซียมกับเหล็ก
03:05
iron and silicon in the environment,
64
185448
1856
และซิลิคอนเพิ่มมากขึ้นในสิ่งแวดล้อม
03:07
and organisms learned how to make hard materials.
65
187328
3242
และสิ่งมีชีวิตเรียนรู้วิธีสร้างวัสดุที่มีความแข็ง
03:10
So that's what I would like to be able to do,
66
190594
2191
แล้วนั่นก็เป็นสิ่งที่ดิฉันอยากจะทำให้ได้
03:12
convince biology to work with the rest of the periodic table.
67
192809
3627
ซึ่งก็คือการโน้มน้าวให้ชีววิทยา
มาทำงานร่วมกับตารางธาตุทั้งหมดที่เหลือค่ะ
03:16
Now, if you look at biology,
68
196460
2188
ตอนนี้ถ้าเราลองมาดูที่ชีววิทยา
03:18
there's many structures like DNA, antibodies, proteins and ribosomes
69
198672
3818
มีโครงสร้างที่คล้ายดีเอ็นเอกับสารภูมิต้านทาน (antibody)
และโปรตีนกับไรโบโซมที่เราได้ยินกันมา
03:22
you've heard about,
70
202514
1200
ที่ต่างก็เป็นโครงสร้างระดับนาโนกันอยู่แล้ว
03:23
that are nanostructured --
71
203738
1446
ดังนั้นธรรมชาติได้ให้
03:25
nature already gives us really exquisite structures on the nano scale.
72
205208
3508
โครงสร้างที่ยอดเยี่ยมจริงแท้มากับเราแล้วในระดับนาโน
03:28
What if we could harness them
73
208740
1699
แล้วจะเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถควบคุมมันได้
03:30
and convince them to not be an antibody that does something like HIV?
74
210463
4698
และสามารถโน้มน้าวให้มันอย่าได้กลายเป็นภูมิต้านทาน
ที่ทำให้เกิดอะไรแบบเดียวกับเชื้อเอชไอวี?
แต่จะเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถโน้มน้าวให้มัน
03:35
What if we could convince them to build a solar cell for us?
75
215185
3376
มาสร้างเซลล์แสงอาทิตย์ให้เราได้?
งั้นนี่เป็นตัวอย่างบางส่วนนะคะ เป็นเปลือกหอยจากธรรมชาติ
03:39
Here are some examples.
76
219334
1350
03:40
Natural shells, natural biological materials.
77
220708
2157
ที่จัดเป็นวัสดุทางชีววิทยาที่มาจากธรรมชาติ
03:42
The abalone shell here.
78
222889
1192
เปลือกเป๋าฮื้อนี่ -- และถ้าเราหักมันให้แตกออก
03:44
If you fracture it, you can look at the fact that it's nanostructured.
79
224105
3387
เราก็จะเห็นความจริงว่ามันเป็นโครงสร้างระดับนาโน
มีพวกไดอะตอมที่ประกอบด้วยซิลิคอนไดออกไซด์ (SiO2)
03:47
There's diatoms made out of SiO2,
80
227516
2128
03:49
and there are magnetotactic bacteria
81
229668
1858
และพวกมันเป็น "แบคทีเรียแม่เหล็ก" (magnetotactic bacteria)
03:51
that make small, single-domain magnets used for navigation.
82
231550
3386
ที่สร้างแม่เหล็กขนาดเล็กเรียงตัวแถวเดี่ยวเพื่อใช้สำหรับนำทาง
03:54
What all these have in common
83
234960
1668
สิ่งมีชีวิตพวกนี้มีสิ่งที่เหมือนกัน
03:56
is these materials are structured at the nano scale,
84
236652
2557
ก็คือวัสดุพวกนี้เป็นโครงสร้างในระดับนาโน
และพวกมันมีลำดับพันธุกรรม
03:59
and they have a DNA sequence that codes for a protein sequence
85
239233
3326
ที่มีรหัสสำหรับสร้างลำดับโปรตีน
04:02
that gives them the blueprint
86
242583
1506
ที่เป็นพิมพ์เขียวให้พวกมัน
04:04
to be able to build these really wonderful structures.
87
244113
2823
สามารถสร้างโครงสร้างพวกนี้ที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
04:06
Now, going back to the abalone shell,
88
246960
2182
ตอนนี้ กลับมาที่เปลือกเป๋าฮื้อกันก่อน
เป๋าฮื้อสร้างเปลือกด้วยการมีโปรตีน
04:09
the abalone makes this shell by having these proteins.
89
249166
2580
04:11
These proteins are very negatively charged.
90
251770
2024
โปรตีนมีประจุลบสูงมาก
04:13
They can pull calcium out of the environment,
91
253818
2175
และมันสามารถถึงเอาแคลเซียมมาจากสิ่งแวดล้อม
มาเรียงเป็นชั้นแคลเซียมและต่อด้วยคาร์บอเนต เป็นแคลเซียมกับคาร์บอเนต (หินปูน)
04:16
and put down a layer of calcium and then carbonate, calcium and carbonate.
92
256017
3539
เป็นลำดับสารเคมีของกรดอะมิโน
04:19
It has the chemical sequences of amino acids which says,
93
259580
2893
ที่บอกว่า "นี่เป็นวิธีสร้างโครงสร้าง
04:22
"This is how to build the structure.
94
262497
1723
นี่คือลำดับพันธุกรรม นี่คือลำดับโปรตีน
04:24
Here's the DNA sequence, here's the protein sequence
95
264244
2444
ที่จะใช้ในการสร้าง"
04:26
in order to do it."
96
266712
1151
04:27
So an interesting idea is,
97
267887
1247
และดังนั้น แนวคิดที่น่าสนใจก็คือ จะเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถเอาวัสดุอะไรก็ได้ที่เราอยากได้
04:29
what if you could take any material you wanted,
98
269158
2253
หรือธาตุใดก็ได้ในตารางธาตุ
04:31
or any element on the periodic table,
99
271435
1778
แล้วหาลำดับพันธุกรรมที่สมนัยกัน
04:33
and find its corresponding DNA sequence,
100
273237
2358
04:35
then code it for a corresponding protein sequence to build a structure,
101
275619
3687
แล้วป้อนรหัสเพื่อสร้างลำดับโปรตีนที่สมนัยกัน
ที่จะสร้างโครงสร้าง แต่ไม่ใช่สร้างเปลือกเป๋าฮื้อนะคะ
04:39
but not build an abalone shell --
102
279330
1636
04:40
build something that nature has never had the opportunity to work with yet.
103
280990
4574
แต่สร้างอะไรบางอย่างที่ ด้วยวิถีธรรมชาติ
ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้ทำแบบนั้นมาก่อน
และนี่ก็คือตารางธาตุ
04:46
And so here's the periodic table.
104
286214
2318
ดิฉันรักตารางธาตุจับจิตจับใจค่ะ
04:48
I absolutely love the periodic table.
105
288556
1787
ทุกๆปี สำหรับนักศึกษาชั้นปี 1 ที่เข้ามาเรียนที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตต์ (MIT)
04:50
Every year for the incoming freshman class at MIT,
106
290367
2625
ดิฉันจะทำตารางธาตุที่เขียนว่า
04:53
I have a periodic table made that says,
107
293016
1927
04:54
"Welcome to MIT. Now you're in your element."
108
294967
2137
"ยินดีต้อนรับสู่ MIT ตอนนี้เธอจะมีธาตุแท้ๆของตัวเอง"
04:57
(Laughter)
109
297128
1009
ถ้ากลับด้านก็จะเป็นกรดอะมิโน
04:58
And you flip it over, and it's the amino acids
110
298161
2289
05:00
with the pH at which they have different charges.
111
300474
2462
พร้อมกับความเป็นกรดด่างที่ต่างก็มีประจุแตกต่างกัน
05:02
And so I give this out to thousands of people.
112
302960
2976
และดิฉันก็จะแจกจ่ายไปยังนักศึกษาเป็นพันๆ
05:05
And I know it says MIT and this is Caltech,
113
305960
2096
ดิฉันรู้ค่ะว่ามันเขียนว่า MIT และที่นี่คือ สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย (Caltech)
แต่ดิฉันทำเกินมาสองสามอันถ้าใครอยากได้
05:08
but I have a couple extra if people want it.
114
308080
2064
และดิฉันก็โชคดีมากเหลือเกิน
05:10
I was really fortunate to have President Obama visit my lab this year
115
310168
4319
ที่ปีนี้ ท่านประธานาธิบดีโอบามา มาเยี่ยมชมห้องทดลองของดิฉันด้วย
ในช่วงที่ท่านมาเยี่ยมชม MIT
05:14
on his visit to MIT,
116
314511
1389
05:15
and I really wanted to give him a periodic table.
117
315924
2298
และดิฉันก็อยากจะมอบตารางธาตุให้แก่ท่านมากๆเลย
ดิฉันก็เลยไม่หลับไม่นอนทั้งคืนและบอกกับสามีว่า
05:18
So I stayed up at night and talked to my husband,
118
318246
2342
"ฉันจะเอาตารางธาตุนี้ไปให้ท่านประธานาธิบดีโอบามาได้ยังไง?
05:20
"How do I give President Obama a periodic table?
119
320612
2256
05:22
What if he says, 'Oh, I already have one,'
120
322892
2068
แล้วจะทำไงล่ะถ้าท่านบอกว่า 'อ๋อ ผมมีอันนึงแล้วหละ'
05:24
or, 'I've already memorized it?'"
121
324984
1640
หรือไม่ก็ 'ผมท่องจำได้หมดแล้ว' ?"
05:26
(Laughter)
122
326648
1008
พอเขามาเยี่ยมห้องทดลองของดิฉัน
05:27
So he came to visit my lab and looked around -- it was a great visit.
123
327680
3280
แล้วสำรวจไปทั่วห้อง -- เป็นการเยี่ยมชมที่เยี่ยมมากค่ะ
05:30
And then afterward, I said,
124
330984
1334
แล้วต่อมาหลังจากนั้น ดิฉันก็ว่า
05:32
"Sir, I want to give you the periodic table,
125
332342
2363
"ท่านคะ ดิฉันมีความประสงค์จะมอบตารางธาตุนี่แด่ท่านค่ะ
05:34
in case you're ever in a bind and need to calculate molecular weight."
126
334729
3363
ในกรณีว่าท่านเกิดเผชิญปัญหาและจำเป็นต้องคำนวณน้ำหนักโมเลกุล"
05:38
(Laughter)
127
338116
1086
และดิฉันคิดว่าน้ำหนักโมเลกุลฟังดูวิชาการน้อยกว่า
05:39
I thought "molecular weight" sounded much less nerdy than "molar mass."
128
339226
3514
ค่ามวลโมล (molar mass) มากอยู่
05:42
(Laughter)
129
342764
1071
แล้วท่านก็มองดูตารางธาตุ
05:43
And he looked at it and said,
130
343859
2899
และบอกว่า "ขอบคุณครับ
05:46
"Thank you. I'll look at it periodically."
131
346782
2014
"ผมจะใส่ตารางธาตุในตารางเวลาของผมเป็นพักๆนะครับ"
05:48
(Laughter)
132
348820
2116
(เสียงหัวเราะ)
05:50
(Applause)
133
350960
3976
(เสียงปรบมือ)
05:54
Later in a lecture that he gave on clean energy,
134
354960
2976
และต่อมาในช่วงที่ท่านบรรยายเรื่องพลังงานสะอาด
05:57
he pulled it out and said,
135
357960
1300
ท่านก็หยิบมันขึ้นมาแล้วกล่าวว่า
05:59
"And people at MIT, they give out periodic tables." So ...
136
359284
2738
"และผู้คนที่ MIT นี่พวกเขาแจกจ่ายตารางธาตุกันครับ"
เอาหละค่ะ จริงๆแล้วสิ่งที่ดิฉันไม่ได้บอกคุณ
06:02
So basically what I didn't tell you
137
362046
2308
06:04
is that about 500 million years ago, the organisms started making materials,
138
364378
3601
ก็คือ ราว 500 ล้านปีก่อน สิ่งมีชีวิตได้เริ่มสร้างวัสดุ
แต่ใช้เวลาอีกราว 50 ล้านปีกว่าจะทำได้ดี
06:08
but it took them about 50 million years to get good at it --
139
368003
2834
แล้วก็ใช้เวลาอีกราว 50 ล้านปี
06:10
50 million years to learn how to perfect how to make that abalone shell.
140
370861
3447
ในการเรียนรู้ที่จะสร้างเปลือกเป๋าฮื้อได้อย่างสมบูรณ์แบบ
และนั่นก็จะยากมากเลยที่จะชวนนักศึกษา ป.โท-เอก มาร่วมงานด้วย
06:14
And that's a hard sell to a graduate student:
141
374332
2124
"อาจารย์มีโครงการสุดยอดมาก -- ใช้เวลา 50 ล้านปีนะ"
06:16
"I have this great project ... 50 million years ..."
142
376480
2537
และดังนั้น เราจึงต้องพัฒนาวิธีการ
06:19
So we had to develop a way of trying to do this more rapidly.
143
379041
3504
ที่จะพยายามเร่งกระบวนการให้เร็วมากขึ้น
06:22
And so we use a nontoxic virus called M13 bacteriophage,
144
382569
4753
เพราะงั้น เราจึงใช้ไวรัสที่เป็นไวรัสไม่มีพิษ
ชื่อว่า ไวรัสทำลายแบคทีเรีย เอ็มสิบสาม (M13 bacteriophage)
งานของมันก็คือแพร่เชื้อใส่แบคทีเรีย
06:27
whose job is to infect bacteria.
145
387346
1957
มันมีโครงสร้างพันธุกรรมที่พื้นๆมาก
06:29
Well, it has a simple DNA structure
146
389327
1706
ที่เราสามารถเข้าไปตัดออกแล้วใส่
06:31
that you can go in and cut and paste additional DNA sequences into it,
147
391057
4128
ลำดับพันธุกรรมเพิ่มให้มัน
การทำแบบนั้นทำให้ไวรัส
06:35
and by doing that, it allows the virus to express random protein sequences.
148
395209
4493
สามารถแสดงลำดับโปรตีนออกมาแบบสุ่ม
06:39
This is pretty easy biotechnology,
149
399726
1913
และนั่นเป็นเทคโนโลยีชีวภาพที่ง่ายมากๆค่ะ
06:41
and you could basically do this a billion times.
150
401663
2247
และเราก็อาจทำแบบนี้ได้เป็นพันล้านครั้ง
06:43
So you can have a billion different viruses
151
403934
2310
ดังนั้น เราเข้าไปตกแต่งดีเอ็นเอให้ไวรัสเป็นพันล้าน
ซึ่งมันมีสารพันธุกรรมเหมือนๆกัน
06:46
that are all genetically identical,
152
406268
1707
06:47
but they differ from each other based on their tips,
153
407999
2438
แต่ต่างกันตรงที่แต่ละตัวจะใช้รหัสพันธุกรรมจาก
ลำดับพันธุกรรมอันเดียว
06:50
on one sequence,
154
410461
1601
ที่จะป้อนรหัสสร้างลำดับโปรตีนอันหนึ่ง
06:52
that codes for one protein.
155
412086
1489
06:53
Now if you take all billion viruses, and put them in one drop of liquid,
156
413599
3754
ถ้าเราเอาไวรัสทั้งพันล้าน
แล้วใส่เข้าไปในของเหลวขนาดหนึ่งหยด
06:57
you can force them to interact with anything you want
157
417377
2509
เราก็สามารถบังคับให้มันทำปฏิกิริยากับอะไรก็ตามจากตารางธาตุที่เราต้องการ
06:59
on the periodic table.
158
419910
1181
และด้วยกระบวนการคัดเลือกทางวิวัฒนาการ
07:01
And through a process of selection evolution,
159
421115
2117
เราสามารถดึงเอามาเพียงแค่ตัวเดียวในพันล้านตัว ตัวที่ทำในสิ่งที่เราอยากให้ทำ
07:03
you can pull one of a billion that does something you'd like it to do,
160
423256
3304
เช่นทำแบตเตอรี่ หรือทำเซลล์แสงอาทิตย์
07:06
like grow a battery or a solar cell.
161
426584
1754
โดยพื้นฐานแล้ว ไวรัสไม่สามารถแบ่งตัวได้ มันจำเป็นต้องอาศัยสิ่งมีชีวิตอื่น
07:08
Basically, viruses can't replicate themselves; they need a host.
162
428362
3036
พอเราเจอตัวที่ "ใช่" จากพันล้านตัวนั่นแล้ว
07:11
Once you find that one out of a billion,
163
431422
1964
เราก็ใส่มันเข้าไปให้แพร่เชื้อในแบคทีเรีย
07:13
you infect it into a bacteria, and make millions and billions of copies
164
433410
3437
แล้วเราก็จะได้ไวรัสออกมาเป็นล้านๆ เป็นพันล้าน
07:16
of that particular sequence.
165
436871
1388
ที่มีลำดับพันธุกรรมแบบนั้น
07:18
The other thing that's beautiful about biology
166
438283
2178
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นความสวยงามของชีววิทยา
07:20
is that biology gives you really exquisite structures
167
440485
3142
ก็คือ ชีววิทยาทำให้คุณมีโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมเป็นที่สุด
ในขนาดที่สามารถนำใช้ได้ดี
07:23
with nice link scales.
168
443651
1285
07:24
These viruses are long and skinny,
169
444960
1811
ไวรัสพวกนี้ตัวยาวผอมเพรียว
07:26
and we can get them to express the ability
170
446795
2165
และเราสามารถทำให้มันแสดงออกถึงความสามารถ
07:28
to grow something like semiconductors
171
448984
1952
ในการสร้างอะไรอย่าง สารกึ่งตัวนำ (semiconductor)
07:30
or materials for batteries.
172
450960
2106
หรือ วัสดุสำหรับแบตเตอรี่
นี่เป็นแบตเตอรี่กำลังสูงที่เราสร้างขึ้นมาในห้องทดลอง
07:33
Now, this is a high-powered battery that we grew in my lab.
173
453090
2846
07:35
We engineered a virus to pick up carbon nanotubes.
174
455960
2713
เราสร้างไวรัสที่ไปจับเอาท่อนาโนคาร์บอน (carbon nanotube)
07:38
One part of the virus grabs a carbon nanotube,
175
458697
2239
ส่วนหนึ่งของไวรัสไปจับเอาท่อนาโนคาร์บอน
07:40
the other part of the virus has a sequence
176
460960
2085
อีกส่วนมีลำดับพันธุกรรม
ที่สามารถสร้างวัสดุที่เป็นขั้วไฟฟ้าสำหรับแบตเตอรี่
07:43
that can grow an electrode material for a battery,
177
463069
2624
07:45
and then it wires itself to the current collector.
178
465717
2699
แล้วถัดมามันก็เชื่อมต่อตัวมันเองเข้ากับตัวเก็บกระแสไฟฟ้า
07:48
And so through a process of selection evolution,
179
468440
2496
เพราะฉะนั้น ด้วยกระบวนการคัดเลือกทางวิวัฒนาการ
07:50
we went from being able to have a virus that made a crummy battery
180
470960
3142
เราเปลี่ยนไวรัสที่สร้างแบตเตอรี่คุณภาพแย่
ไปเป็นไวรัสที่สร้างแบตเตอรี่คุณภาพดี
07:54
to a virus that made a good battery
181
474126
1681
07:55
to a virus that made a record-breaking, high-powered battery
182
475831
2872
ไปเป็นไวรัสที่สร้างแบตเตอรี่กำลังสูงกว่าแบตเตอรี่ที่เราเคยมีมา
07:58
that's all made at room temperature, basically at the benchtop.
183
478727
3167
แล้วทั้งหมดนี้ก็ทำในอุณหภูมิห้อง แล้วก็ทำกันที่บนโต๊ะนี่แหละค่ะ
08:01
That battery went to the White House for a press conference,
184
481918
3470
แล้วแบตเตอรี่นั่นก็เดินทางไปทำเนียบขาวในงานแถลงข่าว
ดิฉันพกติดตัวมาที่นี่ด้วยนะ
08:05
and I brought it here.
185
485412
1411
08:06
You can see it in this case that's lighting this LED.
186
486847
2779
คุณจะเห็นว่ามันอยู่ในกล่องนี้ค่ะ -- กำลังจ่ายไฟให้หลอดแอลอีดี (LED)
08:09
Now if we could scale this,
187
489650
2055
คราวนี้ถ้าเราสามารถทำให้มันใหญ่ขึ้น
08:11
you could actually use it to run your Prius,
188
491729
3960
เราก็จะสามารถใช้มัน
ขับเคลื่อนรถพรีอุส (Toyota Prius) ให้เราได้
08:15
which is kind of my dream -- to be able to drive a virus-powered car.
189
495713
3344
ซึ่งเป็นความฝันของดิฉันค่ะ ความฝันที่จะขับรถที่ขับเคลื่อนด้วยไวรัส
08:19
(Laughter)
190
499081
1117
แต่จริงๆแล้ว
08:20
But basically you can pull one out of a billion,
191
500222
4714
เราสามารถดึงไวรัสตัวนึงออกมาจากพันล้านตัว
08:24
and make lots of amplifications to it.
192
504960
1918
แล้วทำให้มันเพิ่มจำนวนขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
08:26
Basically, you make an amplification in the lab,
193
506902
2273
จริงๆแล้ว เราเพิ่มจำนวนครั้งเดียวในห้องทดลอง
จากนั้นเราก็ทำให้มันประกอบชิ้นส่วนด้วยตัวเอง
08:29
and then you get it to self-assemble into a structure like a battery.
194
509199
3294
ให้เป็นโครงสร้างอย่างเช่นแบตเตอรี่
08:32
We're able to do this also with catalysis.
195
512517
2266
เราทำแบบนี้ได้ด้วยการเร่งปฏิกิริยาเคมี (catalysis) ได้ด้วย
08:34
This is the example of a photocatalytic splitting of water.
196
514807
3931
นี่เป็นตัวอย่าง
ของการแยกโมเลกุลน้ำด้วยการเร่งปฏิกิริยาเคมีด้วยแสง
08:38
And what we've been able to do is engineer a virus
197
518762
2988
และสิ่งที่พวกเราสามารถทำกันมาได้
ก็คือสร้างไวรัสที่ไปจับเอาโมเลกุลที่ดูดสีย้อม
08:41
to basically take dye-absorbing molecules
198
521774
2286
แล้วเอามาเรียงไว้ที่พื้นผิวหน้าของมัน
08:44
and line them up on the surface of the virus
199
524084
2055
ให้ทำหน้าที่เป็นเหมือนเสาอากาศ
08:46
so it acts as an antenna,
200
526163
1311
08:47
and you get an energy transfer across the virus.
201
527498
2673
แล้วเราก็ส่งผ่านพลังงานข้ามไวรัสได้
จากนั้นเราก็ใส่ยีนส์ตัวที่สองเข้าไป
08:50
And then we give it a second gene to grow an inorganic material
202
530195
3263
ให้สร้างวัสดุอนินทรีย์
08:53
that can be used to split water into oxygen and hydrogen,
203
533482
3992
ที่จะใช้ในการแยกโมเลกุลน้ำ
ให้เป็นออกซิเจนกับไฮโดรเจน
08:57
that can be used for clean fuels.
204
537498
2214
ที่สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสะอาดได้
08:59
I brought an example of that with me today.
205
539736
2076
และดิฉันเอาตัวอย่างมากับดิฉันด้วยในวันนี้
09:01
My students promised me it would work.
206
541836
1818
นักศึกษาของดิฉันสัญญากับดิฉันไว้ว่ามันจะทำงานได้แน่
09:03
These are virus-assembled nanowires.
207
543678
2427
นี่เป็นสายไฟระดับนาโนที่ไวรัสประกอบขึ้นมา
พอเราฉายไฟลงไป เราจะเห็นว่ามันปล่อยฟองออกมา
09:06
When you shine light on them, you can see them bubbling.
208
546129
2807
09:08
In this case, you're seeing oxygen bubbles come out.
209
548960
2935
ในกรณีนี้ เราจะเห็นฟองออกซิเจนลอยออกมา
09:11
(Applause)
210
551919
1309
และจริงๆแล้วก็ควบคุมด้วยยีนส์
09:13
Basically, by controlling the genes,
211
553252
2684
09:15
you can control multiple materials to improve your device performance.
212
555960
3334
เราสามารถควบคุมวัสดุพร้อมกันหลายชนิดเพื่อยกระดับสมรรถนะของอุปกรณ์
ตัวอย่างสุดท้ายเป็นเซลล์แสงอาทิตย์
09:19
The last example are solar cells.
213
559318
1706
เราใช้เทคนิคนี้กับเซลล์แสงอาทิตย์ได้เช่นกัน
09:21
You can also do this with solar cells.
214
561048
1815
09:22
We've been able to engineer viruses to pick up carbon nanotubes
215
562887
3262
กลุ่มวิจัยของดิฉันสามารถสร้างไวรัส
ที่ไปจับเอาท่อนาโนคาร์บอน
09:26
and then grow titanium dioxide around them,
216
566173
4103
แล้วมาสร้างไทเทเนียมไดออกไซด์รอบๆตัวมัน
09:30
and use it as a way of getting electrons through the device.
217
570300
4019
เพื่อใช้เป็นวิธีดึงอิเล็กตรอนเข้าหาตัวอุปกรณ์
09:34
And what we've found is through genetic engineering,
218
574343
2464
แล้วเราได้ค้นพบว่า ด้วยพันธุวิศกรรม
09:36
we can actually increase the efficiencies of these solar cells
219
576831
4803
เราสามารถจะเพิ่ม
ประสิทธิภาพของเซลล์แสงอาทิตย์พวกนี้
09:41
to record numbers
220
581658
1977
ได้สูงเป็นประวัติการณ์
09:43
for these types of dye-sensitized systems.
221
583659
3277
สำหรับระบบประเภทที่สนองตอบกับสีย้อม
09:46
And I brought one of those as well,
222
586960
1976
และดิฉันก็ติดมาด้วยอันนึง
09:48
that you can play around with outside afterward.
223
588960
3178
ที่คุณๆสามารถมาลองเล่นดูได้ ข้างนอกหลังจบบรรยายค่ะ
ดังนั้น นี่ก็คือเซลล์แสงอาทิตย์ที่อาศัยไวรัส
09:52
So this is a virus-based solar cell.
224
592162
1865
ด้วยวิวัฒนาการและการคัดเลือก
09:54
Through evolution and selection,
225
594051
1885
09:55
we took it from an eight percent efficiency solar cell
226
595960
3496
เราพัฒนาประสิทธิภาพเซลล์แสงอาิทิตย์จากประสิทธิภาพร้อยละ 8
ไปเป็นร้อยละ 11
09:59
to an 11 percent efficiency solar cell.
227
599480
2084
10:01
So I hope that I've convinced you
228
601588
1833
ฉะนั้น ดิฉันหวังค่ะว่าดิฉันจะโน้มน้าวให้คุณเชื่อ
10:03
that there's a lot of great, interesting things to be learned
229
603445
3867
ได้ว่ามีอะไรอีกมากมายที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งที่เราสามารถเรียนรู้
เกี่ยวกับว่าธรรมชาติสร้างวัสดุต่างๆมาได้อย่างไร
10:07
about how nature makes materials,
230
607336
1600
10:08
and about taking it the next step,
231
608960
1651
แล้วนำมาพัฒนาประยุกต์ใช้
10:10
to see if you can force or take advantage of how nature makes materials,
232
610635
4497
ดูว่าเราจะทำได้หรือไม่ที่จะสามารถ
ผลักดัน หรือฉกฉวยเอาวิธีการที่ธรรมชาติสร้างวัสดุต่างๆ
มาสร้างเป็นอะไรที่ธรรมชาติเองไม่แม้แต่จะวาดฝันไว้ว่าสามารถทำขึ้นมาได้จริง
10:15
to make things that nature hasn't yet dreamed of making.
233
615156
2681
10:17
Thank you.
234
617861
1151
ขอบคุณค่ะ
10:19
(Applause)
235
619036
1150
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7