Lisa Kristine: Photos that bear witness to modern slavery

Translator: Joseph Geni Reviewer: Morton Bast

Translator: Hatairat Chansutham Reviewer: Chatthip Chaichakan

I'm 150 feet down an illegal mine shaft in Ghana.

ฉันอยู่ลึกลงไป 150 ฟุตในเหมืองผิดกฏหมาย ในประเทศกาน่า

The air is thick with heat and dust,

ที่นั่นอากาศอบอ้าวและเต็มไปด้วยฝุ่น

and it's hard to breathe.

ทำให้ยากต่อการหายใจ

I can feel the brush of sweaty bodies passing me

ฉันรู้สึกได้ถึงร่างกายชุ่มเหงื่อที่ผ่านฉันไปมาในความมืด

in the darkness, but I can't see much else.

นอกจากนั้นแล้ว ฉันก็เเทบมองไม่เห็นอะไรเลย

I hear voices talking, but mostly the shaft

ฉันได้ยินเสียงพูดคุย แต่ส่วนใหญ่ในทางลงไปในเหมืองแห่งนี้

is this cacophony of men coughing,

อื้ออึงไปด้วยเสียงไอ

and stone being broken with primitive tools.

และเสียงของก้อนหินที่แตกจากเครื่องมือล้าสมัย

Like the others, I wear a flickering, cheap flashlight

ฉันสวมไฟฉายถูกๆ ที่มีไฟริบหรี่

tied to my head with this elastic, tattered band,

ผูกมันไว้ที่หัวด้วยยางที่ขาดรุ่งริ่ง เหมือนกับคนอื่นอื่นที่นี่

and I can barely make out the slick tree limbs

ฉันแทบมองไม่เห็นก้านไม้ลื่นๆ

holding up the walls of the three-foot square hole

ที่ติดอยู่กับพนังของหลุมที่มีความกว้าง 3ฟุต (ประมาน 90เซนต์)

dropping hundreds of feet into the earth.

และลึกลงไปจากผืนดินเป็นร้อยร้อยฟุต

When my hand slips, I suddenly remember a miner

เมื่อมือที่จับอยู่ลื่นหลุด ฉับพลันนั้น ฉันก็นึกถึงคนงานเหมือง

I had met days before who had lost his grip

ที่ฉันพบเมื่อวันก่อน มือที่เขาจับอยู่ลื่นหลุด

and fell countless feet down that shaft.

และเขาตกลงไปในทางลึกนั้น

As I stand talking to you today,

ในขณะที่ฉันมายืนพูดอยู่กับทุกคนในวันนี้

these men are still deep in that hole,

คนงานเหล่านั้น ยังอยู่ในหลุมลึกนั่น

risking their lives without payment or compensation,

เสี่ยงชีวิตพวกเขา โดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือค่าตอบแทน

and often dying.

และในหลายครั้ง พวกเขาต้องเสียชีวิตลง

I got to climb out of that hole, and I got to go home,

ฉันได้ปีนออกมาจากหลุมนั่น และได้กลับบ้าน

but they likely never will, because they're trapped in slavery.

แต่พวกเขาคงไม่มีทางได้รับโอกาสนั้น เพราะพวกเขาติดกับและถูกกักขังอยู่ในการเป็นทาส

For the last 28 years, I've been documenting

28 ปีที่ผ่านมา ฉันได้บันทึกและหาข้อมูลเกี่ยวกับ

indigenous cultures in more than 70 countries

วัฒนธรรมพื้นเมืองใน 70กว่าประเทศ

on six continents, and in 2009 I had the great honor

ใน 6ทวีป และในปี 2009 ฉันก็ได้รับเกียรติ

of being the sole exhibitor at the Vancouver Peace Summit.

ให้แสดงผลงานในการประชุมสุดยอดสันติภาพในแวนคูเวอร์

Amongst all the astonishing people I met there,

ในบรรดาผู้เข้าร่วมที่ฉันพบเจอที่นั่น

I met a supporter of Free the Slaves, an NGO

ฉันได้พบกับผู้สนับสนุนขององค์กรพัฒนาเอกชนที่ชื่อว่า องค์กรมอบอิสระแก่ทาส (Free the Slaves)

dedicated to eradicating modern day slavery.

ที่อุทิศตนเพื่อการกำจัดทาสในยุคปัจจุบัน

We started talking about slavery, and really,

เราเริ่มพุดคุยเกี่ยวกับการใช้แรงงานทาส

I started learning about slavery,

และฉันก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้แรงงานทาส

for I had certainly known it existed in the world,

ที่แน่นอนว่า ฉันรู้ว่ามันมีอยู่บนโลกนี้

but not to such a degree.

แต่ไม่เคยรู้ว่ามีมากและรุนแรงขนาดนี้

After we finished talking, I felt so horrible

หลังจากที่พูดคุยจบแล้ว ฉันรู้สึกแย่มาก

and honestly ashamed at my own lack of knowledge

และละอายในความไม่รู้ของตัวเอง

of this atrocity in my own lifetime, and I thought,

ว่ามีเรื่องโหดร้ายเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของฉัน และฉันก็คิดว่า

if I don't know, how many other people don't know?

ถ้าฉันไม่รู้ จะมีอีกกี่คนที่ไม่รู้

It started burning a hole in my stomach, so within weeks,

มันรบกวนใจฉันอย่างมาก และภายในไม่กี่อาทิตย์

I flew down to Los Angeles to meet with the director

ฉันก็บินลงไปที่ลอสแองเจลิส เพื่อพบกับผู้อำนวยการ

of Free the Slaves and offer them my help.

ขององค์มอบอิสระแก่ทาส และเสนอตัวเข้าช่วยเหลือ

Thus began my journey into modern day slavery.

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ไปสู่การใช้แรงงานทาสในยุคปัจจุบันของฉัน

Oddly, I had been to many of these places before.

ช่างน่าแปลกใจ หลายๆที่เป็นที่ที่ฉันเคยไปมาก่อน

Some I even considered like my second home.

บางที่ก็ถือว่าเป็นบ้านหลังที่สองของฉัน

But this time, I would see the skeletons hidden in the closet.

แต่คราวนี้ ฉันได้เห็นโครงกระดูกที่ซ่อนอยู่หลังม่าน

A conservative estimate tells us there are more than

จากการประมาณ อย่างน้อยในขณะนี้ บนโลกมีคนมากกว่า

27 million people enslaved in the world today.

27 ล้านคนที่ถูกใช้เป็นทาส

That's double the amount of people taken from Africa

ซึ่งมากกว่าจำนวนคนที่ถูกจับไปจากแอฟริกาในช่วง

during the entire trans-Atlantic slave trade.

การค้าทาสข้ามแอทแลนติกเป็นเท่าตัว

A hundred and fifty years ago, an agricultural slave

เมื่อ 150 ปีก่อน ทาสในการเกษตร

cost about three times the annual salary

มีมูลค่าเป็นสามเท่าของรายได้ต่อปี

of an American worker.

ของคนงานอเมริกัน

That equates to about $50,000 in today's money.

นั่นเท่ากับ 50,000 ดอลล่าร์ (1,500,000บาท) ในปัจจุบัน

Yet today, entire families can be enslaved for generations

แต่ในตอนนี้ ทั้งครอบครัวสามารถถูกนำไปเป็นทาสหลายชั่วคน

over a debt as small as $18.

เพียงเพราะมีหนี้แค่ 18 ดอลล่าร์ (540 บาท)

Astonishingly, slavery generates profits

ที่น่าตกใจก็คือ การใช้แรงงานทาสนั้นสร้างกำไรในแต่ละปีทั่วโลก

of more than $13 billion worldwide each year.

ได้มากกว่า 13,000 ล้านดอลล่าร์ (390,000 ล้านบาท)

Many have been tricked by false promises

หลายคนถูกหลอกด้วยคำสัญญาที่เป็นเท็จ

of a good education, a better job, only to find

ว่าจะมอบการศึกษาที่ดี งานที่ดีขึ้น เพียงเพื่อจะพบว่า

that they're forced to work without pay

พวกเขาถูกบังคับให้ทำงานโดยไม่ได้รับค่าแรง

under the threat of violence, and they cannot walk away.

ภายใต้การข่มขู่ที่ว่าจะใช้ความรุนแรง และพวกเขาไม่สามารถหลบหนีได้

Today's slavery is about commerce,

การใช้แรงงานทาสทาสในปัจจุบันนั้นเกี่ยวกับการค้า

so the goods that enslaved people produce have value,

ดังนั้น สินค้าที่ทาสนั้นผลิตมีมูลค่า

but the people producing them are disposable.

แต่ทาสที่เป็นคนผลิตนั้นเป็นของใช้แล้วทิ้ง

Slavery exists everywhere, nearly, in the world,

การใช้แรงงานทาสนั้นมี่อยู่ เกือบทุกที่บนโลก

and yet it is illegal everywhere in the world.

ทั้งที่มันผิดกฎหมายในทุกที่บนโลก

In India and Nepal, I was introduced to the brick kilns.

ในอินเดียและเนปาล ฉันได้รู้จักกับที่เผาอิฐ

This strange and awesome sight was like

ภาพที่แปลกประหลาดและน่าตื่นตาตื่นใจนี้ เหมือนกับ

walking into ancient Egypt or Dante's Inferno.

ได้เดินอยู่ในอียิปต์โบราณ หรือ บทประพันธ์เกี่ยวกับนรกของดานเต้ (Dante's Inferno)

Enveloped in temperatures of 130 degrees,

สถานที่นี้ปกคลุมด้วยอากาศร้อน 130 องศา (54.4 องศาเซลเซียส)

men, women, children, entire families in fact,

ผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก หรือจะพูดว่าทั้งครอบครัวนั้น

were cloaked in a heavy blanket of dust,

ถูกปกคลุมไปด้วยผืนฝุ่นหนา

while mechanically stacking bricks on their head,

ในขณะที่วางซ้อนอิฐไว้บนหัวเหมือนตัวเองเป็นเครื่องจักรกล

up to 18 at a time, and carrying them

พวกเขาแบกอิฐมากถึง 18ชิ้นในแต่ละครั้ง

from the scorching kilns to trucks hundreds of yards away.

จากที่เผาอิฐที่ร้อนมาก ไปยังรถบรรทุกที่ห่างออกไปหลายร้อยหลา

Deadened by monotony and exhaustion,

ด้วยความสิ้นหวังจากความจำเจและความเหนื่อยล้า

they work silently, doing this task over and over

พวกเขาทำงานอย่างเงียบงัน ซ้ำไปซ้ำมา

for 16 or 17 hours a day.

เป็นเวลา 16 หรือ17 ชั่วโมงต่อวัน

There were no breaks for food, no water breaks,

ที่นี่ไม่มีการพักกินอาหาร หรือพักดื่มน้ำ

and the severe dehydration made urinating

และการขาดน้ำอย่างหนักนั้น ทำให้การปัสสวะ

pretty much inconsequential.

ไม่ค่อยจำเป็น

So pervasive was the heat and the dust

ความร้อนและฝุ่นที่ครอบคลุมไปทั่ว

that my camera became too hot to even touch

ทำให้กล้องของฉันร้อนเกินไปที่จะสัมผัส

and ceased working.

และหยุดทำงานลง

Every 20 minutes, I'd have to run back to our cruiser

ทุกๆ 20 นาที ฉันต้องวิ่งกลับไปที่รถลาดตะเวนของเรา

to clean out my gear and run it under an air conditioner

เพื่อทำความสะอาดอุปกรณ์ และทำให้อุปกรณ์เย็นลงด้วยเครื่องปรับอากาศ

to revive it, and as I sat there,

เพื่อให้มันกลับมาทำงานอีกครั้ง และในขณะที่นั่งอยู่นั้น

I thought, my camera is getting far better treatment

ฉันก็คิดว่า กล้องของฉันได้รับการดูแล

than these people.

ที่ดีกว่าคนเหล่านี้มากมายนัก

Back in the kilns, I wanted to cry,

กลับไปที่ที่เผาอิฐ ฉันรู้สึกอยากร้องไห้

but the abolitionist next to me quickly grabbed me

แต่คนที่ยืนข้างๆฉันที่เป็นผู้ที่เห็นด้วยกับการเลิกทาส รีบจับฉันไว้

and he said, "Lisa, don't do that. Just don't do that here."

และพูดว่า "ลิซ่า อย่าทำอย่างนั้น อย่าทำอย่างนั้นที่นี่"

And he very clearly explained to me that emotional displays

เขาอธิบายอย่างชัดเจนว่า การแสดงอารมณ์นั้น

are very dangerous in a place like this,

เป็นอันตรายมากในสถานที่แบบนี้

not just for me, but for them.

ไม่ใช่แค่อันตรายสำหรับฉัน แต่สำหรับพวกเขาด้วย

I couldn't offer them any direct help.

ฉันไม่สามารถมอบความช่วยเหลือโดยตรงได้เลย

I couldn't give them money, nothing.

ฉันไม่สามารถให้เงินพวกเขา ไม่สามารถให้อะไรได้เลย

I wasn't a citizen of that country.

ฉันไม่ใช่พลเมืองของประเทศนั้น

I could get them in a worse situation

ฉันสามารถทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานะ

than they were already in.

ที่แย่ลงกว่าที่เป็นอยู่

I'd have to rely on Free the Slaves to work

ฉันได้แต่พึ่งพาการทำงานตามระบบขององค์กรมอบอิสระแก่ทาส

within the system for their liberation,

เพื่อมอบอิสระแก่พวกเขา

and I trusted that they would.

และฉันมั่นใจว่าพวกเขาจะทำได้

As for me, I'd have to wait until I got home

สำหรับฉัน ฉันได้แต่รอจนกลับถึงบ้าน

to really feel my heartbreak.

เพื่อที่จะได้รับรู้ถึงใจที่แตกสลายของตัวเอง

In the Himalayas, I found children carrying stone

ในหิมาลัย ฉันพบเด็กๆแบกก้อนหิน

for miles down mountainous terrain

เป็นเส้นทางหลายไมล์ลงมาตามภูเขา

to trucks waiting at roads below.

มายังรถบรรทุกตรงถนนด้านล่าง

The big sheets of slate were heavier

แผ่นหินอันใหญ่นั้น

than the children carrying them,

หนักกว่าเด็กที่แบกมันอยู่ด้วยซ้ำไป

and the kids hoisted them from their heads

และเด็กๆก็ยกหินเหล่านี้ โดยใช้บังเหียนที่หัว

using these handmade harnesses of sticks and rope

ทำจากกิ่งไม้ เชือก

and torn cloth.

และ ผ้าที่ฉีกขาด

It's difficult to witness something so overwhelming.

มันยากที่ต้องมาเห็นสิ่งที่ท้วมท้นนี้กับตา

How can we affect something so insidious,

เราทำให้สิ่งที่มีเงื่อนงำ

yet so pervasive?

แต่ในขณะเดียวกันแผ่ขยายไปในทุกที่นี้ เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน

Some don't even know they're enslaved,

บางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองนั้นถูกใช้งานเป็นทาส

people working 16, 17 hours a day without any pay,

พวกเขาทำงาน 16 หรือ17 ชั่วโมงต่อวันโดยไม่ได้รับอะไรเลย

because this has been the case all their lives.

เพราะมันเป็นอย่างนี้มาตลอดชีวิตของเขา

They have nothing to compare it to.

พวกเขาไม่มีอะไรมาเปรียบเทียบด้วย

When these villagers claimed their freedom,

เมื่อชาวบ้านลุกขึ้นทวงเสรีภาพ

the slaveholders burned down all of their houses.

นายทาสก็ได้เผาบ้านพวกเขาจนหมด

I mean, these people had nothing,

คนเหล่านี้ไม่มีอะไรเหลือ

and they were so petrified, they wanted to give up,

และพวกเขาก็กลัวอย่างมาก จนอยากที่จะยอมแพ้

but the woman in the center rallied for them to persevere,

แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงกลางก็ช่วยให้ทุกคนมีความมุ่งมั่น

and abolitionists on the ground

และผู้ที่เห็นด้วยกับการเลิกทาสก็ตั้งมั่น

helped them get a quarry lease of their own,

ช่วยเหลือให้พวกเขามีสัญญาเช่าเหมืองเป็นของตัวเอง

so that now they do the same back-breaking work,

ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาก็ยังทำงานอย่างยากลำบากอยู่

but they do it for themselves, and they get paid for it,

แต่พวกเขาทำเพื่อตัวเอง และได้รับค่าตอบแทน

and they do it in freedom.

และทำมัน อย่างมีอิสระเสรี

Sex trafficking is what we often think of

เมื่อพูดถึงการใช้คนเป็นทาส

when we hear the word slavery,

เรามักนึกถึงการค้าทางเพศ

and because of this worldwide awareness,

และเพราะว่านี่เป็นสิ่งที่ทั่วโลกรับรู้

I was warned that it would be difficult for me to work safely

ฉันถูกเตือนว่ามันจะยากที่จะทำงานอย่างปลอดภัย

within this particular industry.

ในธุรกิจนี้

In Kathmandu, I was escorted by women who had

ในกาตมันดุ ผู้หญิงหลายคนที่เคยเป็นทาสทางเพศมาก่อน

previously been sex slaves themselves.

ได้ช่วยไปเป็นเพื่อนฉัน

They ushered me down a narrow set of stairs

พวกเขานำฉันลงบันไดแคบ

that led to this dirty, dimly fluorescent lit basement.

ที่นำไปสู่ใต้ดินที่สกปรก และมีแสงไฟริบหรี่

This wasn't a brothel, per se.

ที่นี่ไม่ใช่ซ่อง

It was more like a restaurant.

แต่เหมือนกับร้านอาหารมากกว่า

Cabin restaurants, as they're known in the trade,

กระท่อมร้านอาหารที่คนในธุรกิจนี้รู้จักกัน

are venues for forced prostitution.

เป็นเเหล่งบังคับบริการทางเพศ

Each has small, private rooms, where the slaves,

แต่ละที่มีห้องที่เล็กและเป็นส่วนตัว เป็นที่ีที่ทาส

women, along with young girls and boys,

ผู้หญิง แม้แต่เด็กชาย และเด็กหญิง

some as young as seven years old,

ซึ่งบางคนอายุน้อยประมาณเจ็ดขวบ

are forced to entertain the clients,

ถูกบังคับให้ให้ความสำราญแก่ลูกค้า

encouraging them to buy more food and alcohol.

และเชียร์ให้ซื้ออาหารและแอลกอฮอล์

Each cubicle is dark and dingy,

ในแต่ละห้อง ทั้งมืดและสกปรก

identified with a painted number on the wall,

จะถูกระบุด้วยเบอร์ที่ทาสีไว้ตรงกำแพง

and partitioned by plywood and a curtain.

และแบ่งด้วยไม้กับผ้าม่าน

The workers here often endure tragic sexual abuse

บ่อยครั้งคนที่ทำงานที่นี่ต้องทนกับการล่วงละเมิดทางเพศ

at the hands of their customers.

ด้วยน้ำมือของลูกค้า

Standing in the near darkness, I remember feeling

ยืนอยู่ในความมืดนั่น ฉันจำได้ถึงความรู้สึก

this quick, hot fear, and in that instant,

ความกลัวที่รุ่มร้อนในชั่วขณะนั้น

I could only imagine what it must be like

ฉันได้แต่นึกภาพว่ามันจะเป็นยังไง

to be trapped in that hell.

ที่ต้องถูกกักขังอยู่ในนรกนั่น

I had only one way out: the stairs from where I'd come in.

ทางออกเดียวของฉันจากที่นี่ คือบันไดเดิมที่ฉันเดินเข้ามา

There were no back doors.

ที่นี่ไม่มีประตูหลัง

There were no windows large enough to climb through.

ไม่มีหน้าต่างที่ใหญ่พอจะปีนออกไป

These people have no escape at all,

คนเหล่านี้ไม่มีทางหนีเลย

and as we take in such a difficult subject,

และขณะที่เรากำลังพูดถึงปัญหาน่าลำบากใจนี้

it's important to note that slavery, including sex trafficking,

มันสำคัญมากที่เราต้องอย่าลืมว่าทาส รวมไปถึงการค้าบริการ

occurs in our own backyard as well.

เกิดขึ้นใกล้ตัวเรามากเช่นกัน

Tens of hundreds of people are enslaved in agriculture,

คนเป็นร้อยนั้นถูกนำมาเป็นทาสในการเกษตร

in restaurants, in domestic servitude,

ในร้านอาหาร ในครัวเรือน

and the list can go on.

และในที่อื่นๆอีกมาก

Recently, the New York Times reported that

ไม่นานมานี้ นิวยอร์คไทมส์ได้รายงานว่า

between 100,000 and 300,000 American children

มีเด็กอเมริกันระหว่าง หนึ่งถึงสามแสนคน

are sold into sex slavery every year.

ถูกขายเป็นทาสเพื่อบริการทางเพศ

It's all around us. We just don't see it.

เรื่องเหล่านี้อยู่รอบตัวเรา เพียงแค่เรามองไม่เห็นมัน

The textile industry is another one we often think of

ในธุรกิจสิ่งทอ ก็เป็นอีกอย่างที่เรามักนึกถึง

when we hear about slave labor.

เมื่อเราได้ยินเรื่องทาส

I visited villages in India where entire families were enslaved

ฉันได้ไปเยี่ยมหมู่บ้านหลายแห่งในอินเดียที่ทั้งครอบครัว

in the silk trade.

ถูกนำมาเป็นทาสในการค้าผ้าไหม

This is a family portrait.

นี่เป็นรูปถ่ายครอบครัว

The dyed black hands are the father, while the blue

คนที่มือถูกย้อมเป็นสีดำคือพ่อ ส่วนคนที่มือสีฟ้า

and red hands are his sons.

และแดง เป็นลูกชายของเขา

They mix dye in these big barrels,

พวกเขาผสมและย้อมในถังอันใหญ่เหล่านี้

and they submerge the silk into the liquid up to their elbows,

และพวกเขาแช่ไหมลงในน้ำนั่นลึกลงไปถึงข้อศอก

but the dye is toxic.

แต่สีย้อมนั้นเป็นพิษ

My interpreter told me their stories.

ผู้แปลของฉันเล่าเรื่องให้ฉันฟัง

"We have no freedom," they said.

พวกเขากล่าวว่า"พวกเราไม่มีอิสระ"

"We hope still, though, that we could leave this house

"อย่างไรก็ตามพวกเราก็ยังหวังว่า ซักวันนึง

someday and go someplace else

เราจะสามารถออกไปจากบ้านนี้ และไปที่อื่น

where we actually get paid for our dyeing."

ที่ที่เราจะได้รับเงินตอบแทนจากการย้อมที่เราทำ"

It's estimated that more than 4,000 children

เด็กมากกว่าสี่พันคน

are enslaved on Lake Volta,

ถูกนำมาเป็นทาสในทะเลสาบวอลตา (Lake Volta)

the largest man-made lake in the world.

ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษย์สร้างขึ้น

When we first arrived, I went to have a quick look.

เมื่อมาถึงในตอนแรก ฉันไปเดินดูรอบรอบ

I saw what seemed to be a family fishing on a boat,

ภาพที่ฉันเห็นดูเหมือนจะเป็นครอบครัวบนเรือประมง

two older brothers, some younger kids, makes sense right?

พี่ชายสองคนและน้องน้อง ฟังดูเข้าท่าใช่มั้ย

Wrong. They were all enslaved.

แต่ไม่เลย ทั้งหมดนั่นถูกนำมาเป็นทาส

Children are taken from their families

เด็กๆถูกพรากมาจากครอบครัว

and trafficked and vanished,

ถูกลักลอบนำมาขายและหายตัวไปจากครอบครัว

and they're forced to work endless hours on these boats

พวกเขาถูกบังคับให้ทำงานบนเรือโดยไม่ได้พัก

on the lake, even though they do not know how to swim.

ทำงานในทะเลสาบนี้ พวกเขาไม่รู้วิธีว่ายน้ำด้วยซ้ำ

This young child is eight years old.

เด็กน้อยคนนี้อายุแปดขวบ

He was trembling when our boat approached,

ตัวเขาสั่นเมื่อเรือเราเข้าไปใกล้

frightened it would run over his tiny canoe.

กลัวว่าเราจะชนเข้าที่เรือแคนูลำเล็กของเขา

He was petrified he would be knocked in the water.

เขากลัวว่าจะถูกชนและตกลงไปในน้ำ

The skeletal tree limbs submerged in Lake Volta

กิ่งก้านผอมยาวของต้นไม้นั้นแช่อยู่ในทะเลสาบวอลตา

often catch the fishing nets, and weary,

และมักจะเกี่ยวโดนแหตกปลา

frightened children are thrown into the water

เด็กที่เหนื่อยล้าและหวาดกลัวอยู่แล้ว จะถูกโยนลงไปในน้ำ

to untether the lines.

ให้แก้แหที่เกี่ยวไว้

Many of them drown.

เด็กหลายคนจมน้ำ

For as long as he can recall, he's been forced to work

ตั้งแต่จำความได้ เขาก็ถูกบังคับให้ทำงาน

on the lake.

ที่ทะเลสาบแห่งนี้

Terrified of his master, he will not run away,

ด้วยความกลัวเจ้านายของเขา เขาจะไม่หนี

and since he's been treated with cruelty all his life,

และเพราะเขาถูกกระทำด้วยความรุนแรงมาตลอดชีวิต

he passes that down to the younger slaves

เขาส่งต่อความรุนแรงนั้นไปยังทาสที่เด็กกว่า

that he manages.

ที่เขาเป็นคนปกครอง

I met these boys at five in the morning,

ฉันเจอเด็กผู้ชายเหล่านี้ตอนตีห้า

when they were hauling in the last of their nets,

ตอนที่พวกเขาลากแหเข้ามาเป็นรอบสุดท้าย

but they had been working since 1 a.m.

แต่พวกเขาทำงานมาตลอดตั้งแต่ตีหนึ่ง

in the cold, windy night.

ในคืนที่หนาวและลมแรง

And it's important to note that these nets weigh

และที่สำคัญ แหเหล่านี้มีน้ำหนัก

more than a thousand pounds when they're full of fish.

มากกว่า 1000 ปอนด์ (450 กิโล) เมื่อมันเต็มไปด้วยปลา

I want to introduce you to Kofi.

ฉันอยากแนะนำให้คุณรู้จักโคฟี่

Kofi was rescued from a fishing village.

โคฟี่ถูกช่วยออกมาจากหมู่บ้านตกปลา

I met him at a shelter where Free the Slaves

ฉันพบเขาที่หลบอาศัย ที่ที่องค์กรมอบอิสระแก่ทาส

rehabilitates victims of slavery.

ฟื้นฟูเหยื่อของการใช้แรงงานทาส

Here he's seen taking a bath at the well,

ที่นี่เขาได้อาบน้ำที่บ่อน้ำ

pouring big buckets of water over his head,

เทน้ำขันใหญ่บนหัว

and the wonderful news is,

และข่าวดีมากๆก็คือ

as you and I are sitting here talking today,

ในขณะที่เรากำลังคุยกันอยู่ตอนนี้

Kofi has been reunited with his family,

โคฟี่ได้กลับไปเจอครอบครัวของเขาแล้ว

and what's even better, his family has been given tools

และดียิ่งไปกว่านี้ ครอบครัวเขาได้รับเครื่องมือ

to make a living and to keep their children safe.

ที่จะใช้หาเงินเลี้ยงชีพ และปกป้องลูกๆให้ปลอดภัย

Kofi is the embodiment of possibility.

โคฟี่เป็นตัวแทนของความเป็นไปได้

Who will he become because someone took a stand

เขาจะกลายเป็นใครในอนาคตกันนะ จากการที่ได้มีคนลุกขึ้นต่อสู้

and made a difference in his life?

และสร้างความแตกต่างให้ชีวิตเขา?

Driving down a road in Ghana

ระหว่างขับรถบนถนนของกาน่า

with partners of Free the Slaves,

พร้อมกับคู่หูจากองค์กรมอบอิสระแก่ทาส

a fellow abolitionist on a moped suddenly sped up

มีผู้ที่เห็นด้วยกับการเลิกทาสเร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์คันเล็ก

to our cruiser and tapped on the window.

มาใกล้รถเราและเคาะหน้าต่าง

He told us to follow him down a dirt road into the jungle.

เขาบอกให้เราตามเขาไปในถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่น เข้าไปในป่า

At the end of the road, he urged us out of the car,

ที่สุดถนนนั่น เขานำเราลงจากรถ

and told the driver to quickly leave.

และบอกคนขับให้รีบไป

Then he pointed toward this barely visible footpath,

และเขาก็ชี้ให้ดูรอยเท้าที่แทบมองไม่เห็น

and said, "This is the path, this is the path. Go."

และกล่าวว่า "เส้นทางนี้แหละ เส้นทางนี้แหละ ไป"

As we started down the path, we pushed aside the vines

ในขณะที่เราเดินไปตามทาง เราผลักเถาไม้

blocking the way, and after about an hour of walking in,

ที่คอยขวางทางออก และหลังจากเดินได้หนึ่งชั่วโมง

found that the trail had become flooded by recent rains,

เราก็พบว่าทางนั้นท่วมไปด้วยน้ำ เนื่องจากฝนที่ตกไม่นานมานี้

so I hoisted the photo gear above my head

ฉันจึงยกกล้องเอาไว้เหนือหัว

as we descended into these waters up to my chest.

ในขณะที่เราเดินลึกลงไปจนถึงระดับอก

After another two hours of hiking, the winding trail

หลังจากเดินเขามาสองชั่วโมง ทางที่ซับซ้อน

abruptly ended at a clearing, and before us

ก็หยุดลงตรงที่โล่ง และตรงหน้าพวกเรา

was a mass of holes

ก็มีหลุมมากมาย

that could fit into the size of a football field,

ที่ใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอล

and all of them were full of enslaved people laboring.

และทุกหลุมก็เต็มไปด้วยแรงงานทาส

Many women had children strapped to their backs

ผู้หญิงหลายคนผูกลูกไว้ที่หลัง

while they were panning for gold,

ในขณะที่กำลังร่อนเพื่อคัดทอง

wading in water poisoned by mercury.

และเบีดเสียดอยู่ในน้ำที่เป็นพิษจากสารปรอท

Mercury is used in the extraction process.

ปรอทนั้นใช้ในขบวนการสกัด

These miners are enslaved in a mine shaft

ชาวเหมืองเหล่านี้ถูกใช้เป็นทาสในเหมือง

in another part of Ghana.

ในอีกฝั่งนึงของกาน่า

When they came out of the shaft, they were soaking wet

เมื่อเขาออกมาจากอุโมงค์ พวกเขาเปัยกไปทั้งตัว

from their own sweat.

จากเหงื่อของพวกเขาเอง

I remember looking into their tired, bloodshot eyes,

ฉันจำได้ว่า ตาของพวกเขาเหนื่อยล้า และแดงก่ำจากเส้นเลือดฝอยแตก

for many of them had been underground for 72 hours.

เนื่องจากหลายคนทำงานใต้ดินกว่า 72ชั่วโมง

The shafts are up to 300 feet deep, and they carry out

อุโมงค์ลึกกว่า 300 ฟุต (90เมตร) และพวกเขาหิ้ว

heavy bags of stone that later will be transported

ถุงที่หนักไปด้วยก้อนหิน ที่จะถูกขนส่ง

to another area, where the stone will be pounded

ไปยังที่อื่นที่หินจะถูกทำให้แตก

so that they can extract the gold.

เพื่อที่จะสกัดทอง

At first glance, the pounding site seems full

เมื่อแรกมอง บรืเวณที่ตีหินนั้นเหมือนจะเต็มไปด้วย

of powerful men, but when we look closer,

ชายที่แข็งแรง แต่พอมองเข้าไปใกล้

we see some less fortunate working on the fringes,

เราเห็นคนที่ดูอ่อนแอกว่าอยู่รอบนอก

and children too.

รวมไปถึงเด็กๆด้วย

All of them are victim to injury, illness and violence.

พวกเขาทุกคนเป็นเหยื่อของการบาดเจ็บ การป่วย และความรุนแรง

In fact, it's very likely that this muscular person

ที่จริงแล้ว มันเป็นไปได้มากที่ชายบึกบึนคนนี้

will end up like this one here, racked with tuberculosis

ท้ายสุดจะกลายมาเป็นเหมือนคนนี้ ที่ถูกรุมเร้าด้วยวัณโรค

and mercury poisoning in just a few years.

และพิษจากปรอทในเวลาเพียงไม่กี่ปี

This is Manuru. When his father died,

นี่คือ มานุรุ เมื่อพ่อเขาตาย

his uncle trafficked him to work with him in the mines.

ลุงเขาลักลอบนำเขามาทำงานด้วยกันที่เหมือง

When his uncle died, Manuru inherited his uncle's debt,

เมื่อลุงเขาตาย มานุรุก็ต้องชดใช้หนี้แทนลุงของเขา

which further forced him into being enslaved in the mines.

ซึ่งนั่นบังคับให้เขาทำงานต่อไปในเหมืองนี่

When I met him, he had been working in the mines

ตอนที่ฉันพบเขา เขาทำงานที่เหมืองนี่มา

for 14 years, and the leg injury that you see here

14 ปีแล้ว และบาดแผลที่ขานี่

is actually from a mining accident,

เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุในเหมือง

one so severe doctors say his leg should be amputated.

ซึ่งรุนแรงมากจนหมอบอกว่า ขาเขาอาจจะต้องถูกตัดทิ้ง

On top of that, Manuru has tuberculosis,

มากไปกว่านั้น มานุรุเป็นวัณโรค

yet he's still forced to work day in and day out

แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ทำงานไม่มีวันหยุด

in that mine shaft.

ในเหมืองแห่งนั้น

Even still, he has a dream that he will become free

อย่างไรก็ตาม เขายังมีความฝันที่จะเป็นอิสระ

and become educated with the help of local activists

และได้รับการศึกษา ด้วยความช่วยเหลือของนักต่อสู้ในท้องถิ่น

like Free the Slaves,

อย่างองค์กรมอบอิสระแก่ทาส

and it's this sort of determination,

และความมุ่งมั่นแบบนี้

in the face of unimaginable odds,

ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถนึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้นี้เอง

that fills me with complete awe.

ที่ทำให้ฉันทึ่งไปเลย

I want to shine a light on slavery.

ฉันอยากส่องแสงสว่างแก่ทาส

When I was working in the field,

ตอนที่ฉันออกนอกสถานที่

I brought lots of candles with me,

ฉันนำเทียนติดตัวไปด้วย

and with the help of my interpreter,

และด้วยความช่วยเหลือจากล่ามของฉัน

I imparted to the people I was photographing

ฉันสื่อสารกับคนที่ฉันถ่ายรูป

that I wanted to illuminate their stories

ว่าฉันอยากทำให้เรื่องราวและสภาพอันเลวร้าย

and their plight,

ของพวกเขาส่องแสง

so when it was safe for them, and safe for me,

และเมื่อถึงเวลาที่ฉันและพวกเขาปลอดภัย

I made these images.

ฉันก็จะสร้างรูปภาพเหล่านี้ขึ้นมา

They knew their image would be seen

พวกเขารู้ว่ารูปของพวกเขาจะถูกเห็น

by you out in the world.

โดยพวกคุณในโลกกว้างนี้

I wanted them to know that we will be bearing witness

ฉันอยากให้พวกเขารู้ว่า พวกเราจะเป็นพยาน

to them, and that we will do whatever we can

ให้แก่พวกเขา และจะทำทุกอย่างที่เราสามารถ

to help make a difference in their lives.

เพื่อช่วยสร้างความแตกต่างในชีวิตพวกเขา

I truly believe, if we can see one another

ฉันเชื่อมั่นจริงๆว่า ถ้าเรามองกันและกัน

as fellow human beings, then it becomes very difficult

ว่าเป็นเพื่อนมนุษย์ มันจะยากมาก

to tolerate atrocities like slavery.

ที่จะทนความโหดร้ายเช่นการใช้แรงงานทาสได้

These images are not of issues. They are of people,

รูปภาพเหล่านี้ไม่ใช่ภาพของปัญหา แต่เป็นภาพของคน

real people, like you and me, all deserving

คนจริงๆ เหมือนคุณและฉัน ที่ควรได้รับ

of the same rights, dignity and respect

สิทธิ เกียรติยศ และความเคารพในชีวิต

in their lives.

ที่เท่าเทียมกัน

There is not a day that goes by that I don't think

ไม่มีซักวันที่ผ่านไปโดยที่ฉันไม่คิดถึง

of these many beautiful, mistreated people

ผู้คนที่สวยงามแต่ถูกกระทำทารุณเหล่านี้

I've had the tremendous honor of meeting.

ที่ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รู้จัก

I hope that these images awaken a force

ฉันหวังว่ารูปภาพเหล่านี้จะปลุกพลัง

in those who view them, people like you,

ในผู้ที่ได้เห็น เช่นพวกคุณ

and I hope that force will ignite a fire,

และหวังว่าพลังนั้นจะจุดเป็นไฟ

and that fire will shine a light on slavery,

และไฟนั้นจะส่องสว่างไปยังการใช้แรงงานทาส

for without that light, the beast of bondage

เพราะเมื่อไม่มีแสงไฟ ปีศาจแห่งความเป็นทาส

can continue to live in the shadows.

จะสามารถอาศัยต่อไปในเงามืดได้

Thank you very much.

ขอบคุณมากค่ะ

(Applause)

(ตบมือ)