Tyler DeWitt: Hey science teachers -- make it fun

601,710 views ・ 2013-02-05

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

00:00
Translator: Morton Bast Reviewer: Krystian Aparta
0
0
7000
Translator: Kelwalin Dhanasarnsombut Reviewer: Chana Chananukul
00:16
Let me tell you a story.
1
16220
1436
ผมจะเล่าอะไรให้ฟังนะครับ
ปีแรกที่ผมเป็นครูมัธยมสอนวิชาวิทยาศาสตร์
00:18
It's my first year as a new high school science teacher,
2
18228
3747
00:21
and I'm so eager.
3
21999
1296
และผมก็กระตือรือล้นมาก
00:23
I'm so excited, I'm pouring myself into my lesson plans.
4
23787
4008
ผมตื่นเต้น ผมทุ่มให้กับการวางแผนการสอนอย่างสุดตัว
แต่ผมก็ค่อยๆรู้สึกถึงความจริงอันน่าตกใจ
00:28
But I'm slowly coming to this horrifying realization
5
28953
4833
ว่านักเรียนของผมอาจจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย
00:33
that my students just might not be learning anything.
6
33810
3531
วันหนึ่ง สิ่งนี้เกิดขึ้น
00:38
This happens one day:
7
38865
1707
00:40
I'd just assigned my class to read this textbook chapter
8
40596
3134
ผมเพิ่งสั่งการบ้านให้เด็กๆอ่านหนังสือเรียนบทหนึ่ง
00:43
about my favorite subject in all of biology:
9
43754
3050
เกี่ยวกับเรื่องที่ผมชอบที่สุดในวิชาชีววิทยา
00:47
viruses and how they attack.
10
47495
2682
ไวรัส และการเข้าโจมตีเซลล์
00:50
And so I'm so excited to discuss this with them,
11
50987
2328
ผมก็ตื่นเต้นมาก ที่จะได้แลกเปลี่ยนความคิดกับเด็กๆ
ผมเข้ามาแล้วก็ถามว่า "ไหน ใครอธิบายได้บ้างครับ
00:53
and I come in and I say, "Can somebody please explain
12
53339
3347
00:56
the main ideas and why this is so cool?"
13
56710
3095
ประเด็นหลักคืออะไร แล้วทำไมมันถึงเจ๋ง"
ห้องเรียนเงียบเชียบ
01:01
There's silence.
14
61072
1175
ในที่สุด นักเรียนคนโปรดของผมก็มองตาผม
01:04
Finally, my favorite student, she looks me straight in the eye,
15
64612
2960
01:07
and she says, "The reading sucked."
16
67596
2548
และพูดว่า "มันห่วยมากเลยครู"
01:10
(Laughter)
17
70517
1452
และเธอก็ได้อธิบายว่า "ครูรู้ไม๊คะ"
01:12
And then she clarified.
18
72785
1295
01:14
She said, "You know what, I don't mean that it sucks.
19
74104
2499
หนูไม่ได้หมายถึงการอ่านมันแย่นะ แต่หนูหมายความว่า หนูอ่านแล้วไม่เห็นเข้าใจอะไรเลย
01:16
I mean I didn't understand a word of it.
20
76627
2038
01:18
It's boring, who cares, and it sucks."
21
78689
3563
มันน่าเบื่อ อืม ใครจะไปสน มันสุดห่วยเลย"
01:22
(Laughter)
22
82713
1856
รอยยิ้มที่แสดงความเห็นใจนี้
01:24
These sympathetic smiles spread all throughout the room now,
23
84593
4866
ขณะนี้ได้แพร่กระจายไปรอบห้อง
01:29
and I realize that all of my other students are in the same boat,
24
89483
4809
และผมก็รู้ว่านักเรียนคนอื่นๆของผม ก็เหมือนอยู่ในเรือลำเดียวกัน
ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า พวกเขาจดบันทึก หรือจดจำนิยามต่างๆจากหนังสือเรียน
01:34
that maybe they took notes or memorized definitions from the textbook,
25
94316
3888
แต่ไม่มีใครเลยที่เข้าใจจริงๆถึงประเด็นหลัก
01:38
but not one of them really understood the main ideas.
26
98228
5079
01:43
Not one of them can tell me why this stuff is so cool,
27
103331
2650
ไม่มีใครเลยที่บอกผมได้ว่า ทำไมสิ่งนี้มันถึงน่าสนใจมาก
ทำไมมันถึงสำคัญมาก
01:46
why it's so important.
28
106005
1333
ผมหมดไปต่อไม่ถูกเลยครับ
01:49
I'm totally clueless.
29
109497
1920
01:51
I have no idea what to do next.
30
111441
2595
หมดปัญญาไม่รู้จะทำยังไงต่อเลย
01:54
So the only thing I can think of is say,
31
114711
2912
อย่างเดียวที่ผมคิดได้คือพูดไปว่า
"ฟังนะ เดี๋ยวเล่าอะไรให้ฟัง
01:57
"Listen. Let me tell you a story.
32
117647
2690
02:01
The main characters in the story are bacteria and viruses.
33
121566
6025
ตัวละครหลักในเรื่องนี้คือแบคทีเรียและไวรัส
02:07
These guys are blown up a couple million times.
34
127615
2802
เจ้าพวกนี้ถูกขยายขึ้นสักสองสามล้านเท่า
แบคทีเรียกับไวรัสตัวจริงหน่ะเล็กมาก
02:11
The real bacteria and viruses are so small
35
131091
3142
เรามองไม่เห็นพวกมันหรอก ถ้าไม่มีกล้องจุลทรรศน์
02:14
we can't see them without a microscope,
36
134257
2254
02:16
and you guys might know bacteria and viruses
37
136535
2110
และพวกคุณน่าจะรู้จักแบคทีเรียกับไวรัส
02:18
because they both make us sick.
38
138669
1564
เพราะพวกมันทำให้เราป่วย
02:20
But what a lot of people don't know
39
140796
1896
แต่ที่หลายๆคนไม่รู้ก็คือ
02:22
is that viruses can also make bacteria sick."
40
142716
3762
ไวรัสสามารถทำให้แบคทีเรียป่วยได้ด้วย"
02:27
Now, the story that I start telling my kids,
41
147319
2476
ทีนี้ เรื่องที่ผมเริ่มเล่าให้เด็กๆฟัง
02:29
it starts out like a horror story.
42
149819
3087
มันเริ่มต้นเหมือนกับนิยายสยองขวัญ
กาลครั้งหนึ่ง มีแบคทีเรียน้อย ผู้มีความสุขตัวหนึ่ง
02:34
Once upon a time, there's this happy little bacterium.
43
154147
2993
02:37
Don't get too attached to him.
44
157750
1467
อย่าไปใกล้เชิดผูกพันอะไรกับเขามากนะ
02:39
(Laughter)
45
159241
1692
บางที เขาก็ล่องลอยอยู่ในกระเพาะคุณ
02:40
Maybe he's floating around in your stomach
46
160957
2666
02:43
or in some spoiled food somewhere,
47
163647
2174
หรือไม่่ก็อยู่บนอาหารบูดๆสักแห่ง
02:45
and all of a sudden, he starts to not feel so good.
48
165845
3604
และทันใดนั้นเอง เขาก็รู้สึกไม่ค่อยจะดี
02:49
Maybe he ate something bad for lunch.
49
169473
2578
บางที เขาคงกินอะไรผิดสำแดงไปเมื่อเที่ยง
และสถานการณ์ก็เริ่มน่ากลัวขนลุก
02:52
And then things get really horrible,
50
172075
2539
02:54
as his skin rips apart,
51
174638
1597
พอหนังของเขาฉีกออกจากกัน และเขาเห็นไวรัส
02:56
and he sees a virus coming out from his insides.
52
176259
3494
ออกมาจากข้างในเขา
และมันก็สุดสยอง
03:00
And then it gets horrible when he bursts open
53
180765
3546
เมื่อเขาระเบิดออกและกองทัพไวรัส
03:04
and an army of viruses floods out from his insides.
54
184335
3723
ก็พรั่งพรูออกมาจากข้างใน
โอ้ย เจ็บๆ
03:09
"Ouch" is right.
55
189896
1937
ถ้าคุณเห็นภาพนี้ แล้วคุณเป็นแบคทีเรีย
03:12
If you see this, and you're a bacterium,
56
192903
2524
03:15
this is like your worst nightmare.
57
195451
2814
นี่เป็นเหมือนกับที่สุดของฝันร้าย
03:18
But if you're a virus and you see this,
58
198673
2356
แต่ถ้าคุณเป็นไวรัสและคุณเห็นภาพเดียวกัน
คุณก็คงจะไขว้ขาเล็กๆของคุณ แล้วคิดว่า
03:21
you cross those little legs of yours and you think,
59
201053
3016
"พวกข้าเทพ"
03:24
"We rock."
60
204093
1507
03:25
Because it took a lot of crafty work to infect this bacterium.
61
205989
4357
เพราะว่ามันต้องใช้ฝีมืออย่างมาก ถึงจะบุกแบคทีเรียนี้ได้
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
03:31
Here's what had to happen.
62
211430
1246
ไวรัสเกาะจับบนแบคทีเรีย
03:33
A virus grabbed onto a bacterium
63
213247
3182
03:36
and it slipped its DNA into it.
64
216453
2508
และมันก็สอดดีเอ็นเอของมันเข้าไป
ถัดไป ดีเอ็นเอของไวรัสก็สร้างสิ่งหนึ่ง
03:40
The next thing is that virus DNA made stuff
65
220063
3357
ที่ไปสับดีเอ็นเอของแบคทีเรีย
03:43
that chopped up the bacteria DNA.
66
223444
2984
และทีนี้ เราก็กำจัดดีเอ็นเอของแบคทีเรียออกไป
03:47
And now that we've gotten rid of the bacteria DNA,
67
227705
2436
ดีเอ็นเอของไวรัสเข้าควบคุมเซลล์
03:50
the virus DNA takes control of the cell
68
230165
3805
03:53
and it tells it to start making more viruses.
69
233994
3476
และมันสั่งเซลล์ให้สร้างไวรัสเพิ่มขึ้น
03:58
Because, you see, DNA is like a blueprint
70
238613
3182
โดยเหตุนั้ จะเห็นว่า ดีเอ็นเอเป็นเหมือนพิมพ์เขียว
04:01
that tells living things what to make.
71
241819
2349
ที่บอกสิ่งมีชีวิตว่าให้สร้างอะไร
มันเป็นเหมือนกับเข้าไปในโรงงานรถยนต์
04:05
So this is kind of like going into a car factory
72
245423
3380
04:08
and replacing the blueprints with blueprints for killer robots.
73
248827
4952
และเปลี่ยนพิมพ์เขียวเดิม เป็นพิมพ์เขียวสำหรับหุ่นยนต์สังหาร
04:14
The workers still come the next day, they do their job,
74
254525
2944
คนงานก็ยังมาเข้างาน พวกมันก็ทำงานไป
04:17
but they're following different instructions.
75
257493
2563
แต่พวกมันทำตามคำสั่งที่แตกต่างจากเดิม
04:20
So replacing the bacteria DNA with virus DNA
76
260784
3753
ดังนั้น การเปลี่ยนดีเอ็นเอของแบคทีเรีย ด้วยดีเอ็นเอของไวรัส
เปลี่ยนแบคทีเรียไปเป็นโรงงานสำหรับผลิตไวรัส
04:24
turns the bacteria into a factory for making viruses --
77
264561
4822
04:29
that is, until it's so filled with viruses that it bursts.
78
269407
3754
จนกระทั่งมันเต็มไปด้วยไวรัส จนต้องระเบิดออก
แต่นั่นไม่ใช่แค่วิธีเดียวที่ไวรัสบุกเข้าแบคทีเรีย
04:34
But that's not the only way that viruses infect bacteria.
79
274156
3380
04:38
Some are much more crafty.
80
278085
3458
บางชนิดมันใช้ฝีมือยิ่งกว่านี้
04:41
(Laughter)
81
281567
1150
04:44
When a secret agent virus infects a bacterium,
82
284251
4785
เมื่อเจ้าไวรัสสายลับบุกเข้าเชื้อแบคทีเรีย
พวกมันก็ก่อจารกรรมเล็กๆ
04:49
they do a little espionage.
83
289060
1762
04:51
Here, this cloaked, secret agent virus
84
291495
4101
เจ้าสายลับไวรัสในเสื้อคลุม สอดดีเอ็นเอของเขาเข้าไปในเซลล์แบคทีเรีย
04:55
is slipping his DNA into the bacterial cell,
85
295620
2763
04:58
but here's the kicker:
86
298407
1595
ทีนี้ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ มันไม่ได้ทำอะไรร้ายแรง -- ในตอนแรก
05:00
It doesn't do anything harmful -- not at first.
87
300026
3873
05:04
Instead, it silently slips into the bacteria's own DNA,
88
304303
5555
แต่ว่า อย่างเงียบๆ มันสอดดีเอ็นเอเข้าไปในดีเอ็นเอของแบคทีเรีย
05:09
and it just stays there like a terrorist sleeper cell,
89
309882
4698
มันก็อยู่อย่างนั้น เหมือนกับเป็นผู้ก่อการร้าย ที่หลับอยู่ในเซลล์
05:14
waiting for instructions.
90
314604
2124
รอการรับคำสั่ง
05:17
And what's interesting about this is now, whenever this bacteria has babies,
91
317474
5698
ทีนี้ ที่น่าสนใจคือตอนที่แบคทีเรียมีลูก
05:23
the babies also have the virus DNA in them.
92
323196
5119
ลูกๆพวกนี้ก็จะมีดีเอ็นเอไวรัสอยู่ด้วย
ทีนี้เราก็มีครอบครัวแบคทีเรียขนาดใหญ่
05:29
So now we have a whole extended bacteria family,
93
329013
3833
05:32
filled with virus sleeper cells.
94
332870
2801
ภายในบรรจุไปด้วยไวรัสที่แอบหลับอยู่
05:36
They're just happily living together until a signal happens
95
336366
4745
พวกมันก็อยู่ด้วยกันดีจนกระทั่งมีสัญญาณเข้ามา
05:41
and bam! -- all of the DNA pops out.
96
341135
4444
และ-- ตู้ม-- ดีเอ็นเอทั้งหมดกระเด็นออกมา
05:45
It takes control of these cells, turns them into virus-making factories,
97
345603
3642
มันเข้าควบคุมเซลล์พวกนี้ เปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นโรงงานผลิตไวรัส
05:49
and they all burst,
98
349269
1792
และพวกมันก็ระเบิดออก
05:51
a huge, extended bacteria family,
99
351085
2698
ครอบครัวแบคทีเรียครอบครัวใหญ่
05:53
all dying with viruses spilling out of their guts,
100
353807
3121
ตายกันหมดเพราะว่าไวรัสไหลพรั่งพรูออกมาจากตัวมัน
05:56
the viruses taking over the bacterium.
101
356952
2992
ไวรัสเข้ายึดครองแบคทีเรีย
06:01
So now you understand how viruses can attack cells.
102
361920
3571
ทีนี้ เราก็เข้าใจแล้วว่า ไวรัสสามารถฆ่าเซลล์ได้
มันมีสองวิธี ทางซ้ายมือนี้ เราเรียกว่า แบบไลติก
06:06
There are two ways:
103
366015
1604
06:07
On the left is what we call the lytic way,
104
367643
2959
06:10
where the viruses go right in and take over the cells.
105
370626
3309
ซึ่งไวรัสจะบุกเข้าไปข้างในและยึดครองเซลล์
06:14
On the [right] is the lysogenic way
106
374538
3071
ส่วนทางขวา คือ แบบไลโซจีนิค
06:17
that uses secret agent viruses.
107
377633
2388
ซึ่งแบบนี้จะใช้ไวรัสสายลับ
ไงครับ ไม่เห็นยากเลยใช่ไหมครับ
06:21
So this stuff is not that hard, right?
108
381204
2254
06:23
And now all of you understand it.
109
383482
1999
และตอนนี้คุณก็เข้าใจกันทุกคน
06:25
But if you've graduated from high school,
110
385505
1991
แต่ถ้าคุณเคยจบจากโรงเรียนมัธยมหล่ะก็
06:27
I can almost guarantee you've seen this information before.
111
387520
2786
ผมขอยืนยันเลยว่า คุณเคยเห็นบทเรียนนี้มาก่อนแล้วครับ
06:30
But I bet it was presented in a way that it didn't exactly stick in your mind.
112
390806
5007
แต่ผมพนันได้เลยว่า
คุณเห็นมันในรูปแบบที่ไม่ติดอยู่ในความทรงจำ
06:37
So when my students were first learning this,
113
397379
3468
ฉะนั้นเมื่อนักเรียนของผมเรียนทีแรก
06:40
why did they hate it so much?
114
400871
1738
ทำไมพวกเขาเกลียดมันนัก
มันคงมีอยู่สองสามสาเหตุ
06:43
Well, there were a couple of reasons.
115
403212
2134
อย่างแรกเลย หนังสือเรียนของพวกเด็กๆ
06:45
First of all, I can guarantee you
116
405370
2151
06:47
you that their textbooks didn't have secret agent viruses,
117
407545
3382
คงจะไม่มีไวรัสสายลับ และก็ไม่มีนิทานเขย่าขวัญ
06:50
and they didn't have horror stories.
118
410951
2466
06:53
You know, in the communication of science,
119
413940
2706
คุณทราบไหมครับ การสื่อสารทางวิทยาศาสตร์เนี่ย
06:56
there is this obsession with seriousness.
120
416670
4024
ชอบยึดติดอยู่กับอะไรเครียดๆ
07:00
It kills me. I'm not kidding.
121
420718
2102
ให้ตายสิ ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ
07:02
I used to work for an educational publisher,
122
422844
2229
ผมเคยทำงานให้กับสำนักพิมพ์เพื่อการศึกษา
และในฐานะนักเขียน ผมถูกบอกเสมอว่า
07:05
and as a writer, I was always told never to use stories
123
425097
3659
07:08
or fun, engaging language,
124
428780
1888
อย่าใช้นิทาน เรื่องสนุกๆ หรือภาษาที่ดึงดูดใจ
07:10
because then my work might not be viewed as "serious" and "scientific."
125
430692
4968
มิฉะนั้น งานของผมจะถูกมองว่า
มันไม่ "จริงจัง" และ "เป็นวิทยาศาสตร์"
ใช่ไหมครับ แบบว่า พระเจ้าคงสั่งห้ามว่า
07:16
I mean, because God forbid somebody have fun
126
436108
3071
ห้ามสนุก ถ้าจะเรียนวิทยาศาสตร์
07:19
when they're learning science.
127
439203
1768
07:20
So we have this field of science that's all about slime
128
440995
4838
เรามีศาสตร์แห่งความรู้ที่เกี่ยวข้องกับอะไรหนืดๆ
07:25
and color changes.
129
445857
2343
และมีการเปลี่ยนสี ดูนี่สิ
07:28
Check this out.
130
448224
1204
และแน่นอน สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ที่ดีพึงมี
07:39
And then we have, of course, as any good scientist has to have ...
131
459756
3761
ระเบิด
07:44
explosions!
132
464375
1357
07:47
But if a textbook seems too much fun,
133
467163
4666
แต่ถ้าตำราเรียนออกจะสนุกมากไป
07:51
it's somehow unscientific.
134
471853
2596
มันจะกลายเป็นว่ามันไม่เป็นวิทยาศาสตร์
07:55
Now another problem
135
475771
2803
ทีนี้ อีกปัญหาหนึ่งก็คือ
07:58
was that the language in their textbook was truly incomprehensible.
136
478598
5832
ภาษาในตำราพวกนี้ มันอ่านไม่เข้าใจเลยจริงๆ
08:04
If we want to summarize that story that I told you earlier,
137
484978
2785
ถ้าเราต้องการที่จะสรุปเรื่องที่ผมเล่าให้คุณฟังก่อนหน้านี้
08:07
we could start by saying,
138
487787
1286
เราอาจจะเริ่มต้นโดยบอกว่า
"ไวรัสพวกนี้สร้างสำเนาของพวกมัน
08:09
"These viruses make copies of themselves
139
489097
2142
08:11
by slipping their DNA into a bacterium."
140
491263
2334
โดยสอดดีเอ็นเอของพวกมันเข้าไปในแบคทีเรีย"
แต่ถ้าเป็นในหนังสือเรียน มันจะออกมาเป็นแบบนี้
08:14
The way this showed up in the textbook, it looked like this:
141
494263
3341
08:17
"Bacteriophage replication is initiated
142
497628
3214
"กระบวนการเพิ่มจำนวนของแบคทีรีโอฟาร์จเริ่มขึ้น
08:20
through the introduction of viral nucleic acid into a bacterium."
143
500866
4642
เมื่อกรดนิวคลีอิกของไวรัสถูกนำเข้ามา
ยังแบคทีเรีย"
08:26
That's great, perfect for 13-year-olds.
144
506225
4071
เยี่ยมไปเลย นี่สำหรับเด็กสิบสามขวบนะเนี่ย
แต่ประเด็นมีอยู่ว่า มีคนมากมาย
08:31
But here's the thing:
145
511312
1181
08:32
There are plenty of people in science education
146
512517
2550
ที่อยู่ในวงการการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ที่ดูตำราพวกนี้แล้วบอกว่า
08:35
who would look at this and say there's no way
147
515091
2156
เราไม่มีทางจะเอาไปให้เด็กนักเรียนทั้งอย่างนี้แน่
08:37
that we could ever give that to students,
148
517271
2417
08:39
because it contains some language that isn't completely accurate.
149
519712
4452
เพราะว่ามันมีภาษาที่ใช้ไม่ค่อยจะถูกต้องเท่าไร
08:44
For example, I told you that viruses have DNA.
150
524926
2833
ยกตัวอย่าง ผมบอกคุณว่าไวรัสมีดีเอ็นเอ
08:47
Well, a very tiny fraction of them don't.
151
527783
2603
อืม มีกลุ่มเล็กๆของพวกมันที่ไม่ใช่
08:50
They have something called RNA instead.
152
530410
1944
พวกมันมีสิ่งที่เรียกว่า อาร์เอ็นเอ แทน
08:52
So a professional science writer would say, "That has to go.
153
532725
3302
ฉะนั้น นักเขียนวิทยาศาสตร์มืออาชีพก็จะวงกลมตรงนั้น
แล้วบอกว่า "เอาออกไป
08:56
We have to change it to something much more technical."
154
536051
2590
เราต้องเปลี่ยนไปใช้ศัพท์ที่มันเฉพาะทางมากกว่านี้
08:58
And after a team of professional science editors
155
538665
2728
และหลังจากที่คณะบรรณาธิการวิทยาศาสตร์มืออาชีพ
ตรวจดูคำอธิบายง่ายๆนี้อย่างถี่ถ้วน
09:01
went over this really simple explanation,
156
541417
3809
พวกเขาจะพบข้อผิดพลาดไปเสียเกีบทุกคำที่เราใช้
09:05
they'd find fault with almost every word I've used,
157
545250
4404
09:09
and they'd have to change anything that wasn't serious enough,
158
549678
2905
และเขาก็จะต้องเปลี่ยนอะไรที่มันไม่ยังเครียดพอ
และเขาก็จะต้องเปลี่ยนทุกอย่าง
09:12
and they'd have to change everything
159
552607
1715
ที่มันไม่สมบูรณ์ 100%
09:14
that wasn't 100 percent perfect.
160
554346
2482
09:17
Then it would be accurate,
161
557804
1864
ทีนี้แหละ มันค่อยถูกต้อง
09:19
but it would be completely impossible to understand.
162
559692
4373
แต่กลายเป็นว่ามันไม่สามารถที่จะเข้าใจได้เลย
09:24
This is horrifying.
163
564565
1698
น่ากลัวเนอะ
09:26
You know, I keep talking about this idea of telling a story,
164
566813
4869
คุณรู้ไหม ผมพยายามที่จะพูดเกี่ยวกับความคิดนี้
เกี่ยวกับการเล่าเรื่อง
09:31
and it's like science communication has taken on this idea
165
571706
4571
และมันก็เหมือนว่า การสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ได้รับเอาความคิดนี้ไป
09:36
of what I call the tyranny of precision,
166
576301
3055
คติที่ผมเรียกว่า จอมทรราชแห่งความเที่ยงตรง
09:39
where you can't just tell a story.
167
579380
2131
ซึ่งหมายความว่า คุณไม่สามารถแค่จะเล่าเรื่องได้
09:41
It's like science has become that horrible storyteller that we all know
168
581535
5618
มันเหมือนกับว่า วิทยาศาสตร์กลายเป็นนักเล่านิทานสุดแย่
ที่พวกเราทุกคนรู้จัก เป็นเหมือนคนที่ชอบเล่ารายละเอียดที่ไม่มีใครสนใจ
09:47
who gives us all the details nobody cares about,
169
587177
2595
09:49
where you're like, "Oh, I met my friend for lunch the other day,
170
589796
3825
เหมือนกับคุณพูดว่า "โอ้ ฉันนัดเพื่อนไปกินข้าวเที่ยงกันวันนั้น
09:53
and she was wearing these ugly jeans.
171
593645
1793
และเธอก็ใส่กางเกงยีนส์น่าเกลียด
09:55
I mean, they weren't really jeans, they were more like leggings,
172
595462
3000
แบบว่าไม่ใช่ยีนส์จริงๆนะ แบบว่าคล้ายๆ แลกกิ้่งมากกว่า
แต่ฉันว่าจริงๆมันออกจะเหมือน เจ๊กจิ้ง มากกว่า
09:58
but I guess they're actually kind of more like jeggings,
173
598486
2634
แบบว่า ฉันคิดว่า -" แล้วคุณก็จะคิดว่า "โอ้ย พระเจ้าช่วย
10:01
and you're just like, "Oh my God. What is the point?"
174
601144
4313
เล่ามาทำไมเนี่ย"
หรือแย่ไปกว่านั่น การเรียนการสอนทางวิทยาศาสตร์
10:06
Or even worse, science education is becoming
175
606036
3960
ก็เหมือนตาคนที่พูดว่า "เออ จริงๆแล้วนะ"
10:10
like that guy who always says, "Actually."
176
610020
3000
10:13
You want to be like,
177
613995
1856
ใช่ไหมครับ คุณก็จะเป็นแบบว่า
10:15
"Oh, dude, we had to get up in the middle of the night
178
615875
3111
"นี่ๆ นาย เราต้องตื่นกลายดึก
แล้วขับรถออกไปร้อยไมล์ในความมืดมิด"
10:19
and drive a hundred miles in total darkness."
179
619010
2682
10:21
And that guy's like, "Actually, it was 87.3 miles."
180
621716
4658
แล้วตาคนนี้ก็จะพูดทำนองว่า "เออ จริงๆแล้ว มัน 87.3 ไมล์"
10:26
And you're like, "Actually, shut up! I'm just trying to tell a story."
181
626398
4365
แล้วคุณก็จะบอกว่า "เออ จริงๆนะ หุบปากเหอะ
ฉันแค่พยายายามจะเล่าเรื่อง"
เพราะว่าการเล่าเรื่องที่ดีนั้น ทั้งหมดมันอยู่ที่การเข้าถึงอารมณ์
10:33
Because good storytelling is all about emotional connection.
182
633731
4809
เราต้องโน้มน้าวผู้ฟัง
10:39
We have to convince our audience
183
639270
2527
10:41
that what we're talking about matters.
184
641821
2261
ว่าสิ่งที่เรากำลังพูดอยู่มันสำคัญ
10:44
But just as important is knowing which details we should leave out
185
644805
5231
แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ เราต้องรู้ว่า
รายละเอียดตรงไหนที่เราควรเอาออกไป
แต่ทำให้ประเด็นหลักยังอยู่ครบถ้วน
10:50
so that the main point still comes across.
186
650060
2630
10:53
I'm reminded of what the architect Mies van der Rohe said,
187
653539
2983
มันทำให้ผมคิดถึงสถาปนิกที่ชื่อว่า มีส์ แวน เดอร์ โรห์ว
10:56
and I paraphrase, when he said that sometimes,
188
656546
3365
เขาเคยพูด ใจความว่า
10:59
you have to lie in order to tell the truth.
189
659935
2928
บางทีคุณก็ต้องโกหกเพื่อที่จะบอกความจริง
11:03
I think this sentiment is particularly relevant to science education.
190
663498
4515
ผมคิดว่า คำพูดนี้มันเกี่ยวข้อง
กับการเรียนการสอนทางวิทยาศาสตร์เป็นพิเศษเลย
เอาหล่ะ สุดท้ายนี้
11:10
Now, finally, I am often so disappointed
191
670212
6766
ผมรู้สึกผิดหวังอยู่บ่อยๆ
เมื่อคนคิดว่าผมสนับสนุน
11:17
when people think that I'm advocating a dumbing down of science.
192
677002
4547
การรวบรัดบั่นทอนความรู้ทางวิทยาศาสตร์
มันไม่จริงสักนิดเลยครับ
11:22
That's not true at all.
193
682208
1150
11:23
I'm currently a Ph.D. student at MIT,
194
683906
2777
ขณะนี้ผมเป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่ MIT
11:26
and I absolutely understand the importance of detailed,
195
686707
4982
และผมเข้าใจถึงความสำคัญของรายละเอียด
11:31
specific scientific communication between experts,
196
691713
4869
การสือสารทางวิทยาศาสตร์เรื่องจำเพาะระหว่างผู้เชี่ยวชาญ
11:36
but not when we're trying to teach 13-year-olds.
197
696606
3428
แต่ว่าไม่ใช่เมื่อผมเอามาสอนนักเรียนอายุ 13 ขวบ
ถ้านักเรียนรุ่นเยาว์คิดว่า ไวรัสทุกชนิดมีดีเอ็นเอ
11:41
If a young learner thinks that all viruses have DNA,
198
701116
5072
มันก็ไม่เห็นจะไปทำลายโอกาสความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์
11:46
that's not going to ruin their chances of success in science.
199
706212
4030
แต่ถ้าเด็กๆพวกนี้ ไม่เข้าใจอะไรเลย
11:51
But if a young learner can't understand anything in science
200
711726
3555
11:55
and learns to hate it because it all sounds like this,
201
715305
3935
แล้วก็เริ่มที่จะเกลีียดมันเพราะว่ามันฟังดูน่าเบื่อแบบนี้
11:59
that will ruin their chances of success.
202
719264
2969
นั่นแหละ ที่จะทำลายโอกาสความสำเร็จ
เราต้องหยุดสิ่งนี้
12:04
This needs to stop ...
203
724025
1306
ผมหวังว่าการเปลี่ยนแปลงน่าจะมาจากตัวสถาบันสำคัญๆ
12:06
and I wish that the change could come from the institutions at the top
204
726378
3794
ที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้ค้างคา มายาวนาน
12:10
that are perpetuating these problems,
205
730196
1762
12:11
and I beg them, I beseech them to just stop it.
206
731982
3420
และผมขอร้องพวกเขา อ้อนวอนพวกเขาให้หยุดเสียที
แต่ผมว่ามันคงจะยาก
12:16
But I think that's unlikely.
207
736788
1505
12:18
So we are so lucky that we have resources
208
738769
3539
แต่เราโชคดีที่เรามีแหล่ง
เช่นอินเตอร์เนต ที่เราสามารถหลีกเลี่ยงสถาบันเหล่านี้
12:22
like the Internet, where we can circumvent these institutions
209
742332
3134
12:25
from the bottom up.
210
745490
2056
จากจุดเริ่มต้นได้
12:28
There's a growing number of online resources
211
748853
2888
จำนวนของแหล่งความรู้ทางอินเตอร์เนตกำลังเพิ่มขึ้น
12:31
that are dedicated to just explaining science
212
751765
3302
ซึ่งพวกมันมีจุดประสงค์ที่จะอธิบายวิทยาศาสตร์
ในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายๆ
12:35
in simple, understandable ways.
213
755091
2666
ผมฝันว่า จะมีเวปไซท์ ลักษณะคล้ายๆวิกิพีเดีย
12:38
I dream of a Wikipedia-like website
214
758194
2356
12:40
that would explain any scientific concept you can think of
215
760574
3699
ที่อธิบายประเด็นความรู้วิทยาศาสตร์
ในภาษาที่นักเรียนมัธยมเข้าใจได้
12:44
in simple language any middle schooler can understand.
216
764297
3611
12:48
And I myself spend most of my free time
217
768781
3444
และตัวผมเอง ก็ได้ใช้เวลาว่างส่วนใหญ่
ในการทำวีดีโอทางวิทยาศาสตร์ ที่ผมนำไปไว้บน ยูทิ้ว
12:52
making these science videos that I put on YouTube.
218
772249
3103
12:55
I explain chemical equilibrium
219
775873
2210
ผมอธิบายสมการเคมีโดยใช้การเปรียบเทียบ
12:58
using analogies to awkward middle school dances,
220
778107
3480
เหมือนกับนักเต้นรำมัธยมที่ประหม่า
13:01
and I talk about fuel cells
221
781611
1706
และผมพูดเกี่ยวกับเซลล์พลังงานด้วยเรื่องราว
13:03
with stories about boys and girls at a summer camp.
222
783341
3103
เกี่ยวกับเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงที่ค่ายฤดูร้อน
13:07
The feedback that I get is sometimes misspelled
223
787506
3404
คำตอบรับที่ได้บางทีก็สะกดกันผิด
13:10
and it's often written in LOLcats,
224
790934
2143
มันจะออกมาในแนวภาษาวิบัติ
13:13
(Laughter)
225
793101
1214
แต่ถึงอย่างนั้น
13:14
but nonetheless, it's so appreciative, so thankful
226
794339
5920
มันก็น่าประทับใจ และน่าซาบซึ้ง
13:20
that I know this is the right way we should be communicating science.
227
800283
6222
และทำให้ผมรู้ว่า นี่คือทางที่ถูกต้อง
ที่เราควรจะใช้ในการสือสารความรู้ทางวิทยาศาสตร์
13:27
There's still so much work left to be done, though,
228
807333
3047
มันยังมีงานให้ทำอีกมากมาย
13:30
and if you're involved with science in any way,
229
810404
3238
และถ้าคุณเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
13:33
I urge you to join me.
230
813666
2269
ผมขอยุให้คุณมาร่วมมือกับผมเถอะ
13:36
Pick up a camera, start to write a blog, whatever,
231
816356
5360
หยิบกล้องขึ้นมา เริ่มที่จะเขียนบล๊อค อะไรก็ได้
13:41
but leave out the seriousness, leave out the jargon.
232
821740
3428
แต่ไม่ต้องให้มันเครียด เอาคำศัพท์เฉพาะออกไปซะ
13:45
Make me laugh. Make me care.
233
825589
3371
ทำให้ผมหัวเราะ ทำให้ผมสนใจ
13:48
Leave out those annoying details that nobody cares about
234
828984
3555
เอารายละเอียดแสนน่ารำคาญที่ไม่มีใครสนใจพวกนี้ออกไป
13:52
and just get to the point.
235
832563
2349
และพุ่งไปยังประเด็น
13:56
How should you start?
236
836309
1183
คุณจะเริ่มยังไงดีหน่ะหรอ
13:58
Why don't you say, "Listen, let me tell you a story."
237
838174
3712
ทำไมคุณไม่ลองพูดว่า "ฟังนะ ให้ผมเล่าอะไรให้ฟัง"
ขอบคุณครับ
14:03
Thank you.
238
843323
1151
(เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7