Why are eating disorders so hard to treat? - Anees Bahji

Translator: Siwalee Kosonsasitorn Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

Globally, about 10% of people

ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้คนทั่วโลก

will experience an eating disorder during their lifetime.

จะมีพฤติกรรมการกินผิดปกติ สักครั้งในช่วงชีวิต

And yet, eating disorders are profoundly misunderstood.

แต่ความผิดปกติของการกินนี้ ยังถูกเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก

Misconceptions about everything from symptoms to treatment,

ความเชื่อผิดๆ ตั้งแต่อาการของโรค ไปจนถึงการรักษา

make it difficult to navigate an eating disorder

ทำให้มันยากที่จะจัดการกับโรคทางการกิน

or support someone you love as they do so.

หรือดูแลคนที่คุณรักซึ่งป่วยด้วยโรคนี้

So let’s walk through what is— and isn’t— true about eating disorders.

มาดูกันว่ามีอะไรที่จริงหรือไม่จริงบ้าง เกี่ยวกับโรคการกินผิดปกติ

First, what is an eating disorder?

อันดับแรก โรคกินผิดปกติคืออะไร

Eating disorders are a range of psychiatric conditions

โรคกินผิดปกติเป็นกลุ่มอาการทางจิตเวช

characterized by these main patterns of behavior:

ซึ่งมีลักษณะพฤติกรรมหลักๆ ได้แก่

restricting food intake, bingeing, or rapidly consuming large amounts of food,

การจำกัดปริมาณการกิน การกินมากเกินไป หรือการกินเยอะเกินไปอย่างรวดเร็ว

and purging or eliminating calories

และการพยายามกำจัดแคลอรี่ที่กินเข้าไป

through vomiting, laxatives, excessive exercise, and other harmful means.

ผ่านการอาเจียน การใช้ยาระบาย การออกกำลังกายหนักๆ และวิธีอันตรายอื่นๆ

An eating disorder can involve any one or any combination of these behaviors.

โรคกินผิดปกติอาจมีแค่บางพฤติกรรม หรือหลายๆพฤติกรรมเหล่านี้รวมกันก็ได้

For example, people living with anorexia

เช่น ผู้ที่มีอาการอะนอเร็กเซีย

usually restrict the amount of food they eat,

มักจะจำกัดปริมาณอาหารที่กิน

while bulimia nervosa is an eating disorder

ในขณะที่โรคกินผิดปกติแบบบูลิเมีย เนอวอซา

characterized by recurrent binges and purges.

ผู้ป่วยมักมีพฤติกรรมการกินอาหารทีละมากๆ แล้วขับออกด้วยวิธีต่างๆ

Importantly, these behaviors determine whether someone has an eating disorder.

สิ่งที่สำคัญคือ พฤติกรรมเหล่านี้คือตัวบอก ว่าคนคนนั้นมีโรคการกินผิดปกติหรือไม่

You can’t tell whether someone has an eating disorder

เราบอกไม่ได้ว่าใครเป็นโรคเหล่านี้ จากน้ำหนักตัวของพวกเขาเพียงอย่างเดียว

from their weight alone.

People who weigh what medical professionals might consider

คนที่มีน้ำหนักในเกณฑ์สุขภาพดีทางการแพทย์ ก็อาจเป็นโรคกินผิดปกติได้

a healthy range can have eating disorders,

including severe ones that damage their long-term health in invisible ways,

ซึ่งอาจเป็นรุนแรงจนทำร้ายสุขภาพในระยะยาว ในหลายๆทางที่มองไม่เห็น

including osteoporosis, anemia, heart damage, and kidney damage.

เช่นทำให้เป็นกระดูกพรุน มีโลหิตจาง ทำให้หัวใจและไตเสียหาย

Just as we can’t tell whether someone has an eating disorder

เช่นเดียวกับการที่เราบอกไม่ได้ ว่าใครเป็นโรคการกินผิดปกติ

based on their weight alone,

โดยดูจากน้ำหนักตัวเพียงอย่างเดียว

we can’t get rid of these disorders simply by eating differently.

เราก็ไม่สามารถรักษาโรคนี้ โดยแค่เปลี่ยนวิธีการกินเช่นกัน

That’s because eating disorders are, at their core, psychiatric illnesses.

นั่นเป็นเพราะว่าแท้จริงแล้ว โรคกินผิดปกติเป็นโรคทางจิตเวช

From what we understand,

จากเท่าที่เราเข้าใจ

they involve a disruption to someone’s self-perception.

โรคนี้เกี่ยวข้องกับการมองตัวเองผิดแปลกไป

Most people who experience them are severely critical of themselves

ผู้ที่มีอาการโรคนี้มักจะชอบ วิพากษ์วิจารณ์ตัวเองอย่างรุนแรง

and report many self-perceived flaws.

และคิดว่าตัวเองมีข้อเสียมากมาย

They may use eating to try to regain some control

พวกเขาอาจใช้การกิน เพื่อให้กลับมาควบคุมความวุ่นวายภายในใจได้

over an internal sense of chaos.

We still don’t know exactly what causes eating disorders.

เรายังไม่รู้ว่าสาเหตุที่แน่ชัดของ โรคกินผิดปกติคืออะไร

There likely isn’t a single cause, but a combination

ไม่น่ามีแค่สาเหตุเดียว น่าจะเป็นการผสมกัน ระหว่างปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม

of genetic and environmental risk factors that contribute.

Sometimes, other mental illnesses— like depression or anxiety—

ในบางครั้ง โรคจิตเภท อย่างโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวล

can cause symptoms of eating disorders.

ก็สามารถทำให้เกิดอาการกินผิดปกติได้

In addition, certain psychological factors,

นอกจากนี้ ปัจจัยทางจิตวิทยาบางอย่าง

such as perfectionism and body image dissatisfaction,

เช่น การรักความสมบูรณ์แบบ และการไม่พอใจในรูปลักษณ์ของตัวเอง

are risk factors for eating disorders.

ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค

Several social factors contribute, too,

ปัจจัยทางสังคมหลายๆ อย่าง ก็ส่งผลเช่นกัน

including internalized weight stigma, exposure to bullying,

เช่น การตีตราบาปเรื่องน้ำหนักตัว การถูกกลั่นแกล้ง

racial and ethnic assimilation, and limited social networks.

การถูกกลืนทางเชื้อชาติ และ การมีสังคมที่จำกัด

Although there is a common misconception that only women

แม้จะมีความเชื่อผิดๆ ว่าเพศหญิงเท่านั้น ที่จะเป็นโรคกินผิดปกติ

experience eating disorders,

people of all genders can be affected.

แต่จริงๆ แล้วทุกเพศสามารถประสบกับโรคนี้ได้

As these disorders intimately affect the development

เพราะอาการเหล่านี้กระทบกับ การสร้างตัวตนและการเห็นคุณค่าในตัวเอง

of one’s identity and self-esteem,

people are particularly vulnerable to developing them during adolescence.

ซึ่งคนเรามักเสี่ยงเป็นโรคเหล่านี้ได้ง่าย ในช่วงวัยรุ่น

Although these are among the most challenging

ถึงแม้โรคเหล่านี้จะเป็นหนึ่งในโรคทางจิตเภท ที่รักษาได้ยาก

psychiatric disorders to treat,

effective therapies and interventions exist,

แต่ก็มีการบำบัดและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

and many people who receive treatment make a full recovery.

และคนที่ได้รับการรักษามากมาย สามารถหายเป็นปกติได้

Treatment has a higher chance of success the earlier it starts

ยิ่งการรักษาเริ่มเร็วเท่าไรหลังจากผู้ป่วย เริ่มมีอาการ

after someone develops disordered eating behaviors.

ก็ยิ่งมีโอกาสสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น

But unfortunately, less than half of people with an eating disorder

แต่น่าเสียดายที่น้อยกว่าครึ่งของผู้ป่วย จะเลือกเข้ารับและได้รับการรักษา

will seek and receive treatment.

Because of the complex effects of eating disorders

เนื่องจากโรคกินผิดปกติส่งผลซับซ้อน ทั้งต่อร่างกายและจิตใจ

on both the body and the mind,

treatment usually includes a combination of nutritional counseling and monitoring,

การรักษามักจะมีการให้คำปรึกษา และติดตามด้านโภชนาการ

psychotherapy, and in some cases, medications.

ร่วมไปกับการบำบัตจิต และการใช้ยาในบางกรณี

Evidence-based psychotherapies exist as treatments for most eating disorders,

มีการรักษาจิตบำบัดที่มีหลักฐานรองรับ สำหรับโรคกินผิดปกติเกือบทุกรูปแบบ

including cognitive-behavioral therapy and family-based therapy.

ไม่ว่าจะเป็นการบำบัดความคิดและพฤติกรรม หรือการบำบัดที่ยึดครอบครัวเป็นหลัก

These are talk-therapies that help people gain the skills

การพูดคุยบำบัดช่วยให้ผู้ป่วยพัฒนาทักษะ ที่ใช้รับมือกับปัญหาทางจิตวิทยาต่างๆ

to deal with underlying psychological problems

that drive eating disorder symptoms.

ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการของโรคกินผิดปกติ

Because not all patients will respond to these treatments,

และเพราะผู้ป่วยบางคนไม่ตอบสนอง ต่อวิธีรักษาเหล่านี้

researchers are also investigating treatments outside of psychotherapy,

นักวิจัยจึงพยายามศึกษาวิธีการรักษา นอกจากจิตบำบัดอีกด้วย

such as transcranial magnetic stimulation.

เช่น การกระตุ้นสมองด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า

Proper treatment can reduce the chances of dying from a severe eating disorder.

การรักษาที่ถูกวิธีช่วยลดโอกาสการเสียชีวิต จากโรคกินผิดปกติแบบรุนแรงได้

Eating disorders can provoke a powerful sense of powerlessness,

โรคกินผิดปกติสามารถทำให้ผู้ป่วย รู้สึกอ่อนแอไร้พลัง

but education for individuals, families, and communities

แต่การให้ความรู้กับบุคคล ครอบครัว และชุมชนเกี่ยวกับโรคนี้

helps erode the stigma and improve access to treatment.

จะช่วยทลายตราบาปที่มีต่อโรคนี้ และพัฒนาการเข้าถึงการรักษาให้ดีขึ้นได้