Honor Harger: A history of the universe in sound

40,579 views ・ 2011-06-23

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

Translator: Farung Surina Reviewer: Chana Chananukul
00:21
Space,
0
21260
2000
อวกาศ...
00:23
we all know what it looks like.
1
23260
2000
เราต่างรู้ หน้าตามันเป็นอย่างไร
00:25
We've been surrounded by images of space
2
25260
2000
เราถูกห่อหุ้มไว้
00:27
our whole lives,
3
27260
2000
ด้วยภาพของอวกาศมาตลอดชีวิต
00:29
from the speculative images
4
29260
2000
จากภาพจินตนาการใน
00:31
of science fiction
5
31260
2000
นวนิยายวิทยาศาสตร์
00:33
to the inspirational visions of artists
6
33260
3000
สู่ภาพวาดที่ศิลปินสรรค์สร้าง
00:36
to the increasingly beautiful pictures
7
36260
3000
และในที่สุด จนมาเป็นภาพที่ยิ่งสวยงามมากขึ้น
00:39
made possible by complex technologies.
8
39260
3000
โดยการนำเทคโนโลยีที่ซับซ้อนเข้ามาช่วย
00:42
But whilst we have
9
42260
2000
แต่ในขณะที่เรามี
00:44
an overwhelmingly vivid
10
44260
2000
ความเข้าใจอย่างท่วมท้นและชัดเจน
00:46
visual understanding of space,
11
46260
2000
ในเรื่องของ ภาพของอวกาศ
00:48
we have no sense of what space sounds like.
12
48260
3000
เรากลับไม่เคยได้รับรู้เกี่ยวกับ เสียงของอวกาศเลย
00:51
And indeed, most people associate space with silence.
13
51260
4000
และที่จริงแล้ว ความส่วนมากก็มักเชื่อมโยง อวกาศเข้ากับความเงียบด้วยซ้ำ
00:55
But the story of how
14
55260
2000
แต่สิ่งที่จะทำให้เรา
00:57
we came to understand the universe
15
57260
2000
เข้าใจความเป็นไปของจักรวาลได้นั้น
00:59
is just as much a story of listening
16
59260
2000
การฟังเสียงของมัน ก็มีความสำคัญ
01:01
as it is by looking.
17
61260
3000
พอๆ กับการมองดูมัน
01:04
And yet despite this,
18
64260
2000
และทั้งๆ ที่เป็นเช่นนี้
01:06
hardly any of us have ever heard space.
19
66260
3000
พวกเราก็แทบจะไม่เคยมีใครได้ยินเสียงอวกาศมาก่อน
01:09
How many of you here
20
69260
2000
ในที่นี้ จะมีกี่คน
01:11
could describe the sound
21
71260
2000
ที่สามารถเล่าเรื่องราว จากการฟังเสียง
01:13
of a single planet or star?
22
73260
2000
ของดาวเคราะห์ หรือดาวฤกษ์หนึ่ง ๆ ได้?
01:15
Well in case you've ever wondered,
23
75260
2000
เอาหล่ะ สำหรับบางคนที่สงสัย
01:17
this is what the Sun sounds like.
24
77260
2000
นี่คือเสียงของดวงอาทิตย์
01:19
(Static)
25
79260
14000
(เสียงไฟฟ้าสถิต)
01:33
(Crackling)
26
93260
4000
(เสียงแตก ๆ)
01:37
(Static)
27
97260
6000
(เสียงไฟฟ้าสถิต)
01:43
(Crackling)
28
103260
4000
(เสียงแตก ๆ)
01:47
This is the planet Jupiter.
29
107260
3000
นี่คือเสียงของดาวพฤหัสบดี
01:50
(Soft crackling)
30
110260
20000
(เสียงแตกเปราะๆแบบเบาๆ)
02:10
And this is the space probe Cassini
31
130260
3000
และนี่คือเสียงของยานอวกาศแคสนินี
02:13
pirouetting through the ice rings of Saturn.
32
133260
4000
ที่ถูกส่งออกไปเพื่อศึกษาดาวเสาร์ และวงแหวนที่เย็นเฉียบของมัน
02:17
(Crackling)
33
137260
20000
(เสียงแตกๆ)
02:37
This is a a highly condensed clump
34
157260
3000
นี่คือเสียงของกลุ่มก๊าซที่มีความหนาแน่นสูง
02:40
of neutral matter,
35
160260
2000
ในขณะที่ยังมีสถานะเป็นกลาง
02:42
spinning in the distant universe.
36
162260
4000
กลุ่มก๊าซนี้หมุนรอบตัวเองอยู่ ในจัรวาลที่ห่างไกล
02:46
(Tapping)
37
166260
18000
(เสียงเคาะเบาๆ)
03:04
So my artistic practice
38
184260
2000
ดังนั้น งานศิลปะของฉัน
03:06
is all about listening
39
186260
2000
จะเกี่ยวกับการฟังเสียง
03:08
to the weird and wonderful noises
40
188260
3000
ที่ประหลาดแต่สวยงามเหล่านี้
03:11
emitted by the magnificent celestial objects
41
191260
3000
เสียงถูกปลดปล่อยมจากวัตถุท้องฟ้าอันอลังการ
03:14
that make up our universe.
42
194260
3000
ที่ประกอบกันเป็นจักรวาลของเรา
03:17
And you may wonder,
43
197260
2000
และคุณอาจสงสัยว่า
03:19
how do we know what these sounds are?
44
199260
2000
เราจะรู้ว่าเสียงพวกนี้ได้อย่างไร?
03:21
How can we tell the difference
45
201260
2000
เราจะสามารถบอกความแตกต่าง
03:23
between the sound of the Sun
46
203260
2000
ระหว่างเสียงของดวงอาทิตย์
03:25
and the sound of a pulsar?
47
205260
2000
และเสียงของพัลซาร์ ได้อย่างไร ?
03:27
Well the answer
48
207260
2000
เอาหล่ะค่ะ คำตอบก็คือ
03:29
is the science of radio astronomy.
49
209260
2000
ความรู้ทางดาราศาสตร์วิทยุ นั่นเอง
03:31
Radio astronomers
50
211260
2000
นักดาราศาสตร์วิทยุ
03:33
study radio waves from space
51
213260
2000
จะศึกษาคลื่นวิทยุที่แผ่มาจากอวกาศ
03:35
using sensitive antennas and receivers,
52
215260
3000
โดยการใช้ เสาอากาศและตัวรับสัญญาณ
03:38
which give them precise information
53
218260
2000
ที่จะแปลข้อมูลที่แม่นยำ
03:40
about what an astronomical object is
54
220260
3000
เกี่ยวกับชนิดของวัตถุนั้นว่าคืออะไร
03:43
and where it is in our night sky.
55
223260
2000
และตำแหน่งของมันว่าอยู่ตรงไหนบนท้องฟ้า
03:45
And just like the signals
56
225260
2000
และก็เหมือนกันกับกรณีของสัญญาณ
03:47
that we send and receive here on Earth,
57
227260
3000
ที่เราใช้สื่อสาร ทั้งส่งและรับ กันบนโลก
03:50
we can convert these transmissions into sound
58
230260
3000
โดยเราสามารถถ่ายทอดสัญญาณที่ได้รับ ออกมาในรูปแบบของสัญญาณเสียง
03:53
using simple analog techniques.
59
233260
3000
โดยผ่านเทคนิคแอนะล็อก อย่างง่าย
03:56
And therefore, it's through listening
60
236260
3000
ดังนั้น จากการรับฟังเสียงนี้
03:59
that we've come to uncover
61
239260
2000
เราได้ค้นพบ
04:01
some of the universe's most important secrets --
62
241260
3000
ความลับที่สำคัญบางอย่างของจักรวาล
04:04
its scale, what it's made of
63
244260
3000
ได้แก่ ขนาดของมัน มันประกอบขึ้นมาจากอะไร
04:07
and even how old it is.
64
247260
2000
และแม้กระทั่ง มันอายุเท่าไร
04:09
So today, I'm going to tell you a short story
65
249260
3000
ดังนั้น ในวันนี้ ฉันจะเล่าให้คุณฟังถึง
04:12
of the history of the universe through listening.
66
252260
3000
ประวัติศาสตร์ของจักรวาล ผ่านการฟังเสียงของมัน แบบย่อๆ
04:15
It's punctuated
67
255260
2000
อาจแบ่งออกเป็น
04:17
by three quick anecdotes,
68
257260
2000
สามช่วงสั้นๆ
04:19
which show how accidental encounters
69
259260
2000
เรื่องเล่านี้จะช่วยอธิบายว่าโดยความบังเอิญ
04:21
with strange noises
70
261260
2000
การค้นพบเสียงประหลาดเหล่านี้
04:23
gave us some of the most important information
71
263260
3000
เสียงที่ได้ให้ความรู้ที่สำคัญ
04:26
we have about space.
72
266260
2000
เกี่ยวกับอวกาศให้กับเรา
04:28
Now this story doesn't start
73
268260
2000
แต่เรื่องนี้ไม่ได้ถูกค้นพบโดยผ่าน
04:30
with vast telescopes
74
270260
2000
กล้องโทรทรรศน์ขนาดมหึมา
04:32
or futuristic spacecraft,
75
272260
3000
หรือยานอวกาศล้ำยุคแต่อย่างใด
04:35
but a rather more humble technology --
76
275260
3000
แต่ถูกพบโดยผ่านเทคโนโลยีที่เรียบง่ายกว่านั้นมาก--
04:38
and in fact, the very medium
77
278260
2000
จริง ๆ แล้ว มันก็คือสื่อ
04:40
which gave us the telecommunications revolution
78
280260
3000
การปฏิวัติทางโทรคมนาคม
04:43
that we're all part of today:
79
283260
2000
ที่เราทุกคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของมันในวันนี้
04:45
the telephone.
80
285260
2000
-- มันคือ โทรศัพท์
04:47
It's 1876, it's in Boston,
81
287260
3000
ในปีค.ศ. 1876 ณ เมืองบอสตัน
04:50
and this is Alexander Graham Bell
82
290260
2000
นี่คือ อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์
04:52
who was working with Thomas Watson
83
292260
2000
ที่ขณะนั้น ทำงานร่วมกันกับ โธมัส วัทสัน
04:54
on the invention of the telephone.
84
294260
3000
เพื่อที่จะคิดค้นประดิษฐ์โทรศัพท์ขึ้น
04:57
A key part of their technical set up
85
297260
3000
หัวใจของสิ่งประดิษฐ์ของพวกเขา
05:00
was a half-mile long length of wire,
86
300260
2000
คือ สายไฟยาวครึ่งไมล์
05:02
which was thrown across the rooftops
87
302260
2000
ที่วางพาดผ่านหลังคาบ้าน
05:04
of several houses in Boston.
88
304260
3000
หลายหลังในเมืองบอสตัน
05:07
The line carried the telephone signals
89
307260
3000
สายไฟนี้ ภายในบรรจุสัญญาณโทรศัพท์
05:10
that would later make Bell a household name.
90
310260
3000
ที่ต่อมาจะทำให้ชื่อเบลล์กลายเป็นชื่อเรียกเครื่องใช้ในบ้านไป
05:13
But like any long length of charged wire,
91
313260
3000
และเป็นธรรมดาที่ สายไฟยาวภายในมีประจุไฟฟ้า
05:16
it also inadvertently became
92
316260
2000
จากไม่ได้ตั้งใจกลายเป็น
05:18
an antenna.
93
318260
2000
เสาอากาศได้ โดยไม่เจตนา
05:20
Thomas Watson
94
320260
2000
ดังนั้น โธมัส วัทสัน
05:22
spent hours listening
95
322260
2000
จึงใช้เวลาหลายชั่วโมง
05:24
to the strange crackles and hisses
96
324260
2000
ฟังเสียงประหลาด ที่มีลักษณะแตก ๆ
05:26
and chirps and whistles
97
326260
3000
เสียงร้องเจี๋ยบ ๆ และเสียงหวีดหวิว
05:29
that his accidental antenna detected.
98
329260
3000
ที่เสาอากาศของเราจับได้
05:32
Now you have to remember,
99
332260
2000
ขอให้จำไว้เสมอว่า
05:34
this is 10 years before
100
334260
2000
นั้นคือ 10 ปี ก่อนที่
05:36
Heinrich Hertz proved the existence of radio waves --
101
336260
4000
ไฮนริค เฮิร์ซ จะพิสูจน์ว่า คลื่นวิทยุ มีอยู่จริง
05:40
15 years before Nikola Tesla's four-tuned circuit --
102
340260
3000
นั่นคือ 15 ปี ก่อนที่ นิโคลา เทสลา จะสร้างวงจรแบบสี่ขั้ว สำเร็จ
05:43
nearly 20 years before Marconi's first broadcast.
103
343260
4000
และเกือบจะ 20 ปี ก่อนที่บริษัทมาร์โคนี จะการทำการออกอากาศทางวิทยุเป็นครั้งแรก
05:47
So Thomas Watson wasn't listening to us.
104
347260
3000
นั่นคือ โธมัส วัทสัน ไม่ได้กำลังฟังเสียงของพวกเรากันเองอยู่
05:50
We didn't have the technology
105
350260
2000
เพราะเรายังไม่มีเทคโนโลยี
05:52
to transmit.
106
352260
2000
ในการถ่ายทอดสัญญาณเหล่านั้น
05:54
So what were these strange noises?
107
354260
3000
แล้วเสียงประหลาดพวกนี้คืออะไรกัน?
05:58
Watson was in fact listening
108
358260
2000
วัทสัน กำลังฟังเสียงของ
06:00
to very low-frequency radio emissions
109
360260
2000
คลื่นวิทยุที่มีความถี่ต่ำ
06:02
caused by nature.
110
362260
2000
ที่กำเนิดโดยธรรมชาติ
06:04
Some of the crackles and pops were lightning,
111
364260
3000
บางส่วนของเสียงแตกๆ และเสียงดังเปาะ ๆ คือเสียงของฟ้าผ่า
06:07
but the eerie whistles
112
367260
3000
แต่เสียงหวีดหวิวอันลึกลับ
06:10
and curiously melodious chirps
113
370260
3000
และเสียงเพราะแปลกดัง เจี๊ยบ ๆ
06:13
had a rather more exotic origin.
114
373260
3000
กลับมีจุดกำเนิดที่ผิดธรรมดากว่านั้น
06:16
Using the very first telephone,
115
376260
2000
การการใช้โทรศัพท์เครื่องแรกที่พวกเขาประดิษฐ์ขึ้น
06:18
Watson was in fact
116
378260
2000
ในความเป็นจริง วัตสัน
06:20
dialed into the heavens.
117
380260
2000
ได้โทรไปถึงสวรรค์แล้ว
06:22
As he correctly guessed,
118
382260
2000
เขาได้เดาถูกในบางประการ
06:24
some of these sounds were caused
119
384260
2000
ว่าเสียงเหล่านี้มีต้นกำเนิดจาก
06:26
by activity on the surface of the Sun.
120
386260
3000
ปฏิกิริยาบนพื้นผิวของดวงอาทิตย์
06:29
It was a solar wind
121
389260
2000
ซึ่งแท้จริงแล้ว มันคือเสียงของลมสุริยะ
06:31
interacting with our ionosphere
122
391260
2000
ที่ทำปฏิกิริยากับบรรยากาศโลกชั้นไอโอโนสเฟียร์
06:33
that he was listening to --
123
393260
2000
นั่นคือสิ่งที่เขาได้ยินขณะนั้น --
06:35
a phenomena which we can see
124
395260
2000
ปรากฏการณ์ที่เรามองเห็นได้
06:37
at the extreme northern and southern latitudes of our planet
125
397260
3000
ที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ บนโลกเรา
06:40
as the aurora.
126
400260
2000
ที่เรียกว่าแสงเงินแสงทอง
06:42
So whilst inventing the technology
127
402260
3000
ดังนั้น ขณะที่พวกเขากำลังสร้างสรรค์เทคโนโลยี
06:45
that would usher in the telecommunications revolution,
128
405260
4000
ที่ได้นำพาเรามาสู่การปฏิวัติทางโทรคมนาคม อยู่นั้น
06:49
Watson had discovered
129
409260
2000
วัทสันก็ได้ค้นพบว่า
06:51
that the star at the center of our solar system
130
411260
3000
ดาวฤกษ์ที่อยู่ ณ ใจกลางระบบสุริยะของเรา
06:54
emitted powerful radio waves.
131
414260
3000
มีการแผ่คลื่นวิทยุที่ทรงพลังออกมาด้วย
06:57
He had accidentally been the first person
132
417260
3000
เขาได้กลายเป็นคนแรก
07:00
to tune in to them.
133
420260
2000
ที่ค้นพบมันได้โดยบังเอิญ
07:02
Fast-forward 50 years,
134
422260
2000
หลังจากนั้นอีก 50 ปี
07:04
and Bell and Watson's technology
135
424260
3000
เมื่อบริษัทของเบลล์และวัทสัน
07:07
has completely transformed
136
427260
2000
ได้ทำการแปลงรูป
07:09
global communications.
137
429260
2000
โทรคมนาคมของโลกได้สำเร็จ
07:11
But going from slinging some wire
138
431260
2000
จากการคล้องสายไฟยาว
07:13
across rooftops in Boston
139
433260
2000
ข้ามหลังคาบ้านผู้คนในเมืองบอสตัน
07:15
to laying thousands and thousands of miles of cable
140
435260
3000
สู่การวางระบบสาวเคเบิลเป็นระยะทางพัน ๆ ไมล์
07:18
on the Atlantic Ocean seabed
141
438260
2000
ลอดได้พื้นมหาสมุทรแอตแลนติค
07:20
is no easy matter.
142
440260
2000
ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
07:22
And so before long,
143
442260
2000
และไม่ช้าหลังจากนั้น
07:24
Bell were looking to new technologies
144
444260
2000
เบลล์ก็มองหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ
07:26
to optimize their revolution.
145
446260
3000
ที่จะทำให้ประสิทธิภาพของการเปลี่ยนแปลง
07:29
Radio could carry sound without wires.
146
449260
3000
คลื่นวิทยุสามารถพาสัญญาณเสียงไปกับตัวมันได้ โดยไม่ต้องใช้สายไฟ
07:32
But the medium is lossy --
147
452260
2000
แต่คลื่นวิทยุ มีข้อเสียคือสามารถเพี้ยนไปได้
07:34
it's subject to a lot of noise and interference.
148
454260
4000
เพราะมีสัญญาณรบกวนและสิ่งอื่นเข้าแทรกแซง
07:38
So Bell employed an engineer
149
458260
2000
ดังนั้น เบลล์จึงจ้างวิศวกรผู้หนึ่ง
07:40
to study those noises,
150
460260
2000
เพื่อให้ศึกษาที่มาของสัญญาณรบกวน
07:42
to try and find out where they came from,
151
462260
2000
เพื่อที่จะพยายามหาว่ามันมาจากไหน
07:44
with a view towards building
152
464260
2000
พร้อมกับความคิดที่จะสร้าง
07:46
the perfect hardware codec, which would get rid of them
153
466260
3000
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่จะถอดรหัส และขจัดสัญญาณรบกวนเหล่านั้นออกไป
07:49
so they could think about using radio
154
469260
2000
ดังนั้น พวกเขาจึงคิดที่จะใช้คลื่นวิทยุ
07:51
for the purposes of telephony.
155
471260
3000
ในการวางระบบโทรศัพท์
07:54
Most of the noises
156
474260
2000
สัญญาณรบกวนส่วนใหญ่
07:56
that the engineer, Karl Jansky, investigated
157
476260
3000
ที่วิศวกร คาร์ล แจงสกี หาสาเหตุอยู่
07:59
were fairly prosaic in origin.
158
479260
2000
ค่อนข้างมีต้นกำเหนิดที่ธรรมดา ๆ
08:01
They turned out to be lightning
159
481260
2000
นั่นก็คือ ฟ้าผ่า
08:03
or sources of electrical power.
160
483260
3000
หรือไม่ ก็เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าสักอย่าง
08:06
But there was one persistent noise
161
486260
3000
แต่ส่วนน้อยของสัญญาณรบกวนนั้น
08:09
that Jansky couldn't identify,
162
489260
2000
ที่แจนสกี ไม่สามารถระบุ ที่มาที่ไปได้
08:11
and it seemed to appear
163
491260
2000
และสัญญาณนี้ยังรับฟังได้
08:13
in his radio headset
164
493260
2000
ผ่านหูฟังของเขา
08:15
four minutes earlier each day.
165
495260
3000
เป็นเวลาสี่นาทีก่อนหน้านั้นเสมอ ในทุก ๆ วัน
08:18
Now any astronomer will tell you,
166
498260
2000
ปัจจุบันนี้ นักดาราศาสตร์จะบอกคุณได้ว่า
08:20
this is the telltale sign
167
500260
2000
นี่คือสัญญาณที่จะเผยความลับ
08:22
of something that doesn't originate from Earth.
168
502260
3000
ของบางสิ่งที่ไม่ได้กำเนิดมาจากโลก
08:25
Jansky had made a historic discovery,
169
505260
4000
แจนสกีได้ทำการค้นพบแห่งประวัติศาสตร์เข้าให้แล้ว
08:29
that celestial objects could emit radio waves
170
509260
3000
ว่าวัตถุท้องฟ้าสามารถแผ่คลื่นวิทยุได้
08:32
as well as light waves.
171
512260
2000
พอ ๆ กับที่มันแผ่คลื่นแสงได้
08:34
Fifty years on
172
514260
2000
หลังจากห้าสิบปี
08:36
from Watson's accidental encounter with the Sun,
173
516260
3000
วัทสันพบโดยบังเอิญ ว่าดวงอาทิตย์ก็เกิดทำเสียงสิ่งเดียวกันนี้
08:39
Jansky's careful listening
174
519260
2000
การฟังเสียงอย่างระมัดระวังของแจนสกี
08:41
ushered in a new age of space exploration:
175
521260
3000
ได้นำไปสู่ยุคใหม่ของการสำรวจอวกาศ:
08:44
the radio astronomy age.
176
524260
2000
ยุคของดาราศาสตร์วิทยุ
08:46
Over the next few years,
177
526260
2000
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี
08:48
astronomers connected up their antennas to loudspeakers
178
528260
4000
นักดาราศาสตร์ต่างติดตั้งเสาอากาศ เข้ากับเครื่องกระจายเสียง
08:52
and learned about our radio sky,
179
532260
2000
และเรียนรู้เกี่ยวกับท้องฟ้าแห่งคลื่นวิทยุผืนนี้
08:54
about Jupiter and the Sun,
180
534260
2000
เกี่ยวกับ ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์
08:56
by listening.
181
536260
2000
ด้วยการฟังเสียง
08:58
Let's jump ahead again.
182
538260
2000
เรามาก้าวกระโดดอีกครั้ง
09:00
It's 1964,
183
540260
2000
สู่ปี ค.ศ. 1964
09:02
and we're back at Bell Labs.
184
542260
2000
และเรากำลังอยู่ในห้องแลปของเบลล์
09:04
And once again,
185
544260
2000
แล้วก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง
09:06
two scientists have got a problem with noise.
186
546260
3000
ที่นักวิทยาศาสตร์สองคน พบปัญหาเกี่ยวกับเสียงรบกวน
09:09
Arno Penzias and Robert Wilson
187
549260
3000
อาร์โน เพนเซียส และโรเบิร์ต วิลสัน
09:12
were using the horn antenna
188
552260
2000
ที่กำลังใช้เสาอากาศปล่องรับเสียง
09:14
at Bell's Holmdel laboratory
189
554260
2000
อยู่ที่ห้องแล็ปของเบลล์ในเมืองโฮล์มเดล
09:16
to study the Milky Way
190
556260
2000
เพื่อศึกษาทางช้างเผือก
09:18
with extraordinary precision.
191
558260
2000
ด้วยความแม่นยำที่สูงมาก
09:20
They were really listening
192
560260
2000
พวกเขาได้ฟังเสียงจากกาแล็กซี
09:22
to the galaxy in high fidelity.
193
562260
2000
ผ่านระบบการรับส่งสัญญาณที่ชัดและมีเสียงรบกวนน้อย
09:24
There was a glitch in their soundtrack.
194
564260
3000
แม้กระนั้น ก็ยังมีเสียงแทรกอยู่เสมอ
09:27
A mysterious persistent noise
195
567260
3000
เป็นเสียงรบกวนที่มีอยู่เสมอมา
09:30
was disrupting their research.
196
570260
2000
มันเข้าแทรกแซงงานวิจัยของพวกเขา
09:32
It was in the microwave range,
197
572260
2000
มันเป็นพลังงานในช่วงคลื่นไมโครเวฟ
09:34
and it appeared to be coming
198
574260
2000
และดูเหมือนจะพุ่งมาจากทุกทิศทาง
09:36
from all directions simultaneously.
199
576260
2000
อย่างพร้อมเพรียงกัน
09:38
Now this didn't make any sense,
200
578260
2000
นี่มันดูไม่มีเหตุผลเลย
09:40
and like any reasonable engineer or scientist,
201
580260
3000
และเช่นเดียวกันกับ วิศวกรหรือนักวิทยาศาสตร์ ผู้ยึดถือหลักแห่งเหตุผลคนอื่นๆ
09:43
they assumed that the problem must be the technology itself,
202
583260
3000
พวกเขาจึงคิดว่าสัญญาณรบกวนนี้ มันจะเกิดจากเทคโนโลยีที่ทำขึ้น
09:46
it must be the dish.
203
586260
2000
มันน่าจะเกิดจากจานรับสัญญาณรึเปล่า
09:48
There were pigeons roosting in the dish.
204
588260
3000
เพราะมีนกพิราบทำรังอยู่บนจาน
09:51
And so perhaps once they cleaned up the pigeon droppings,
205
591260
3000
เมื่อทำความสะอาดจานเอารังนกออกไป
09:54
get the disk kind of operational again,
206
594260
2000
และเริ่มการทดลองอีกครั้ง
09:56
normal operations would resume.
207
596260
3000
ผลคงจะดีขึ้น
09:59
But the noise didn't disappear.
208
599260
3000
แต่ปรากฎว่าเสียงรบกวนนั้น ก็ยังไม่หายไปไหน
10:02
The mysterious noise
209
602260
2000
เสียงลึกลับนี้
10:04
that Penzias and Wilson were listening to
210
604260
3000
ที่เพนเซียสและวิลสันกำลังฟังอยู่นั้น
10:07
turned out to be the oldest and most significant sound
211
607260
3000
กลับกลายเป็นเสียงที่เก่าแก่ที่สุดและมีความหมายที่สุด
10:10
that anyone had ever heard.
212
610260
2000
เท่าที่มนุษย์เคยได้ยินมา
10:12
It was cosmic radiation
213
612260
2000
มันคือเสียงของการแผ่รังสีคอสมิก
10:14
left over from the very birth of the universe.
214
614260
4000
ที่หลงเหลือทิ้งไว้ เมื่อครั้งจักรวาลถือกำเนิด
10:18
This was the first experimental evidence
215
618260
3000
นี่คือการทดลองครั้งแรก
10:21
that the Big Bang existed
216
621260
2000
ที่พิสูจน์ได้ว่าการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ หรือบิ๊กแบง เคยเกิดจริง
10:23
and the universe was born at a precise moment
217
623260
3000
และจักรวาลได้เกิดขั้น ณ ขณะเวลาหนึ่ง
10:26
some 14.7 billion years ago.
218
626260
4000
ใน 14.7 พันล้านปีก่อน
10:31
So our story ends
219
631260
2000
นั่นคือ เรื่องเล่าของเราวันนี้จบลง
10:33
at the beginning --
220
633260
2000
ณ จุดเริ่มต้น--
10:35
the beginning of all things, the Big Bang.
221
635260
3000
จุดเริ่มต้นของทุก ๆ สิ่ง -- บิ๊กแบง
10:38
This is the noise that Penzias and Wilson heard --
222
638260
3000
นี่คือเสียงที่เพนเซียส และวิลสันได้ยิน
10:41
the oldest sound that you're ever going to hear,
223
641260
3000
เสียงที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์จะได้ยิน
10:44
the cosmic microwave background radiation
224
644260
3000
เสียงของ การแผ่รังสีคอสมิคไมโครเวฟพื้นหลัง
10:47
left over from the Big Bang.
225
647260
2000
ที่หลงเหลือไว้หลังจากบิ๊กแบง
10:49
(Fuzz)
226
649260
15000
(เสียงซ่าสั่นที่คงเส้นคงวา)
11:04
Thanks.
227
664260
2000
ขอบคุณค่ะ
11:06
(Applause)
228
666260
4000
(ปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7