The surprising health benefits of dreaming | Sleeping with Science

Transcriber:

Why do we dream?

Translator: Nuttikarn P Reviewer: Jimmy Tangjaitrong

ทำไมเราถึงฝัน

[Sleeping with Science]

[การนอนกับวิทยาศาสตร์]

Well, we dream for at least several different reasons.

เราฝันด้วยหลากหลายเหตุผล

One key benefit is creativity.

ประโยชน์หลักอย่างหนึ่งคือ ความคิดสร้างสรรค์

Sleep, including dream sleep,

การนอน รวมถึงการหลับฝัน

is associated with an enhanced ability to solve next-day problems.

นั้นเกี่ยวกับการเพิ่มความสามารถ ในการแก้ปัญหาของวันถัดไป

It's almost as though we go to sleep with the pieces of the jigsaw,

มันเหมือนกับเรานอนไปพร้อมชิ้นส่วนจิ๊กซอว์

but we wake up with the puzzle complete.

แต่ตื่นมาพร้อมรูปที่ต่อเสร็จแล้ว

The second benefit of REM-sleep dreaming is emotional first aid.

ประโยชน์ข้อที่ 2 การหลับฝัน แบบ REM คือการเยียวยาทางอารมณ์

REM sleep takes the painful sting out of difficult emotional experiences

การหลับแบบ REM นำความเจ็บปวด ออกจากประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ยากลำบาก

so that when we come back the next day,

ดังนั้น เมื่อเราตื่นในวันรุ่งขึ้น

we feel better about those painful events.

เราจะรู้สึกดีขึ้นจากเหตุการณ์ที่เจ็บปวด

You can almost think of dreaming as a form of overnight therapy.

คุณจะมองการฝัน เหมือนการบำบัดข้ามคืนก็ได้

It's not time that heals all wounds,

มันไม่ใช่ว่า เวลารักษาทุกบาดแผล

but it's time during dream sleep

แต่เวลาที่หลับฝันต่างหาก

that provides emotional convalescence.

ที่ฟื้นฟูอารมณ์

Now, it's not just that you dream.

แล้วไม่ใช่แค่คุณฝัน

It's also what you dream about that seems to make a difference.

สิ่งที่คุณฝันต่างหาก ที่สร้างความแตกต่าง

Scientists have discovered

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ

that after learning a virtual maze, for example,

ตัวอย่างเช่น หลังทดสอบเขาวงกตเสมือนจริง

those individuals who slept

คนที่หลับ

but critically also dreamed about the maze

และฝันถึงเขาวงกตนั้น

were the only ones who ended up being better at navigating the maze

เป็นคนที่หาทางออกจากเขาวงกตได้ดีกว่า

when they woke up.

เมื่อเขาตื่นขึ้นมาแล้ว

And this same principle is true for our mental health.

หลักการเดียวกันนั้น ใช้ได้กับสุขภาพจิต

For example, people going through a difficult or traumatic experience

ยกตัวอย่าง คนที่เผชิญ ประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ

such as a divorce,

เช่น การหย่าร้าง

and who are dreaming about that event,

และคนที่ฝันถึงเหตุการณ์นั้น

go on to gain resolution to their depression

ค้นพบทางแก้ปัญหาในเรื่องที่วิตก

relative to those who were dreaming

ต่างกับคนที่ฝัน

but not dreaming about the events themselves.

แต่ไม่ได้ฝันถึงเรื่องที่วิตก

All of which means that sleep

ทั้งหมดนี้หมายความว่า การนอน

and the very act of dreaming itself

และสิ่งที่ฝัน

appears to be an essential ingredient to so much of our waking lives.

กลายเป็นสิ่งสำคัญกับชีวิตยามตื่นอย่างมาก

We dream,

เราฝัน

therefore we are.

ดังนั้น เราจึงเป็นอยู่