Matthew Childs' 9 life lessons from rock climbing

Translator: Pattapon Kasemtanakul Reviewer: Vasant Jain

It's pretty simple. There are nine, sort of, rules

เอาล่ะ นี่มันง่ายมาก มีกฎอยู่ทั้งหมด 9 ข้อ

that I discovered after 35 years of rock climbing.

ที่ผมค้นพบในช่วง 35 ปี ของการปีนเขา

Most of them are pretty basic.

และส่วนใหญ่ก็ธรรมดามาก

Number one: don't let go --

ข้อแรกคือ อย่าท้อถอยหรือยอมแพ้

very sure success method.

เป็นข้อแนะนำที่เยี่ยมทีเดียว

But really, truly -- often you think about

เพราะจริงๆ แล้ว คุณมักคิด

letting go way before your body does.

ที่จะยอมแพ้ ก่อนที่ร่างกายคุณจะลงมือทำซะอีก

So hang in there,

เพราะฉะนั้นจงอดทนเอาไว้

and you come up with some pretty peculiar solutions.

และคุณอาจได้พบทางออกแบบแปลกๆ ก็ได้

Number two: hesitation is bad.

ข้อที่สอง ความลังเลเป็นสิ่งไม่ดี

This is a friction climb, up in Tuolumne Meadows,

นี่คือการปีนเขาแบบอาศัยแรงเสียดทาน (Friction climb) บนทุ่งทูโอลัมเน่ (Tuolumne Meadows)

in the Yosemite high country.

ในที่ราบสูงแห่งอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite high country)

Friction climbing doesn't have any sort of hard positive edges.

การปีนแบบนี้มันไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก

You're climbing on little dimples and nubbins in the rock.

คุณจะปีนอยู่บนรอยแตกเล็กๆ บนหิน

The most friction you have is when you first put your hand

แรงเสียดทานมากที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้

or your foot on the rock.

คือตอนที่คุณเพิ่งวางมือหรือเท้าคุณลงบนหิน

And then from that point on, you're basically falling.

และหลังจากนั้น คุณก็จะเริ่มตก

So momentum is good. Don't stop.

เพราะฉะนั้นโมเมนตัมจึงเป็นสิ่งที่ดี อย่าหยุด

Rule number three: have a plan.

ข้อที่สาม วางแผน

This is a climb called the Naked Edge,

นี่เรียกว่า การปีนผาเปลือย (Naked Edge)

in El Dorado Canyon, outside of Boulder.

ในหุบเขาเอลโดราโด (El Dorado Canyon) ด้านนอกของเมืองโบลเดอร์ (Boulder)

This climber is on the last pitch of it.

นักปีนเขาคนนี้กำลังอยู่ในช่วงสุดท้าย

He's actually right about where I fell.

เขาอยู่ตรงตำแหน่งที่ผมร่วงพอดี

There is about 1,000 feet of air below him.

ซึ่งมันสูงประมาณ 1,000 ฟุต

And all the hard pitches are actually below him.

และที่จริงช่วงของการปีนที่ยากได้ผ่านมาแล้ว

Often what happens is

แต่สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นคือ

you're planning so hard for like,

คุณมัวแต่วางแผนอย่างหนัก เช่น

"How do I get through the hardest part? How do I get through the hardest part?"

"ฉันจะผ่านส่วนที่ยากที่สุดไปยังไงนะ ฉันจะผ่านส่วนที่ยากที่สุดนี่ไปได้ยังไง"

And then what happens?

แล้วหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น?

You get to the last pitch. It's easy.

จากนั้นคุณมาถึงช่วงสุดท้าย ซึ่งง่ายมาก

And you're completely flamed out. Don't do it.

แต่คุณกลับหมดแรง อย่าเป็นอย่างนั้น

You have to plan ahead to get to the top.

คุณควรวางแผนล่วงหน้าที่จะไปให้ถึงข้างบนสุด

But you also can't forget that each individual move

แต่ก็ห้ามลืมในทุกๆ ท่าทางการปีน

you have to be able to complete.

คุณต้องสามารถปีนให้สำเร็จด้วย

This is a climb called the Dike Route,

นี่คือการปีนเขาลาดเอียงบนเส้นทางที่เรียกว่า Dike Route

on Pywjack Dome, up in the Yosemite high country.

ที่ Pywjack Dome บนที่ราบสูงแห่งอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite high country)

The interesting thing about this climb is it's not that hard.

มันเป็นการปีนที่ไม่ได้ยากเท่าไหร่นัก

But if you're the leader on it,

แต่หากคุณเป็นผู้นำ

at the hardest move, you're looking at about 100 foot fall,

ในช่วงที่ยากที่สุดของการปีน คุณต้องเสี่ยงกับการตกลงไปกว่า 100 ฟุต

onto some low angle slabs.

ลงบนแง่งหินที่ต่ำกว่า

So you've got to focus.

คุณจึงต้องมีสมาธิ

You don't want to stop in the middle like

คุณคงไม่อยากติดอยู่

Coleridge's Kubla Kahn.

เหมือนกับในเรื่องคูบลา ข่าน (Kubla Kahn) ของ โควด์ริดจ์ (Coleridge)

You've got to keep going.

คุณต้องเดินหน้าต่อไป

Rule number five: know how to rest.

กฎข้อที่ห้า รู้วิธีพัก

It's amazing. The best climbers

มันน่าทึ่งมาก ที่นักปีนเขาที่เก่งที่สุด

are the ones that in the most extreme situations

ก็มักเป็นคนๆ เดียวกับที่สามารถจัดท่าทางให้คล้ายกับ

can get their bodies into some position

กำลังพักอยู่ได้

where they can rest,

แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด

regroup, calm themselves, focus,

เพื่อสงบสติอารมณ์ของตนเอง ตั้งสมาธิ

and keep going.

และไปต่อ

This is a climb in the Needles, again in California.

นี่คือการปีนที่นีเดิ้ลส์ (Needles) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

Fear really sucks because what it means is

ความกลัวเป็นสิ่งที่แย่มากเพราะนั่นมันหมายถึง

you're not focusing on what you're doing.

คุณกำลังเสียสมาธิไปจากสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่

You're focusing on the consequences of

คุณกำลังมุ่งความสนใจไปที่ผลลัพธ์

failing at what you're doing

ของความผิดพลาด

because any given move should require

เพราะว่าการเคลื่อนไหวในทุกท่าทางต้องใช้

all your concentration and thought processes

สมาธิและกระบวนการความคิดทั้งหมดของคุณ

to execute it effectively.

เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด

One of the things in climbing is, most people

สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่เป็นในการปีนเขา

sort of take it straight on. And they follow the most obvious solution.

ก็คือพวกเค้ามักจะขึ้นมันไปตรงๆ พวกเค้าใช้เส้นทางที่ชัดเจนมากที่สุด

This is the Devils Tower in Wyoming,

นี่คือ หอคอยปีศาจ (Devils Tower) ที่รัฐไวโอมิง

which is a columnar basalt formation

ซึ่งมันก็คือผาหินภูเขาไฟที่ก่อตัวในแนวสูง

that most of you probably know from "Close Encounters."

คุณอาจรู้จักจากฉากในหนังเรื่อง โคลส เอนเคาน์เตอร์ส (Close Encounters)

With this, typically crack climbers

ด้วยเจ้าสิ่งนี้ นักปีนเขา

would put their hands in and their toes in

ก็จะสอดมือและเท้าของพวกเขาเข้าไป

and just start climbing.

และเริ่มปีน

The cracks are too small to get your toes into

รอยแตกบางอันก็เล็กเกินกว่าที่คุณจะใส่นิ้วเท้าของคุณเข้าไปได้

so the only way to climb is using your fingertips

เพราะฉะนั้นมีวิธีเดียวคือการใช้แค่ปลายนิ้ว

in the cracks,

ยึดกับรอยแตกเหล่านั้นไว้

and using opposing pressure

และใช้แรงผลักด้านตรงกันข้าม

and forcing yourself up.

บีบตัวเองให้ลอยสูงขึ้นไป

Rule number eight: strength doesn't always equal success.

กฎข้อที่แปด ความแข็งแกร่งไม่ได้ยืนยันความสำเร็จเสมอไป

In the 35 years I've been a climbing guide

ในช่วง 35 ปี ที่ผมเป็นไกด์การปีนเขา

and taught on indoor walls, and stuff like that,

และสอนการปีนกำแพงในร่ม หรืออะไรพวกนั้น

the most important thing I've learned

สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมได้เรียนรู้

was, guys will always try to do pull-ups.

คือผู้ชายมักพยายามฝึกดึงข้อ

Beginning guys, it's like, they thrash, they thrash,

พวกหัดใหม่ มักชอบดึงแล้ว ดึงอีก ดึงแล้ว ก็ดึงอีก

they get 15 feet up --

พวกเค้าปีนขึ้นไปได้ 15 ฟุต

and they can do about 15 pull-ups right --

และพวกเค้าก็ดึงข้อได้อีกประมาณ 15 ที

And then they just flame out.

จากนั้นก็หมดแรงกันซะและ

Women are much more in balance

ผู้หญิงนั้นมีสมดุลที่ดีกว่ามาก

because they don't have that idea

เพราะว่าพวกเขาไม่เคยมีความคิด

that they're going to be able to do 100 pull-ups.

ว่าจะสามารถดึงข้อได้เป็น 100 ที

They think about how to get the weight over their feet

พวกเขาจึงคิดหาวิธีที่จะถ่ายเทน้ำหนักไปบนฝ่าเท้า

because it's sort of natural -- they carry you all day long.

เพราะมันเป็นธรรมชาติกว่ามาก พวกมันแบกน้ำหนักเราได้เป็นวัน

So balance is really critical,

ความสมดุลจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

and keeping your weight on your feet,

และการถ่ายเทน้ำหนักบนฝ่าเท้า

which is your strongest muscle.

ที่เป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุด

And of course there is rule number nine.

และก็แน่นอนกฎข้อที่เก้า

I came up with rule number nine after

ผมคิดกฎข้อที่เก้าได้หลังจากที่

I actually didn't plan for a fall,

ผมตกอย่างไม่คาดคิด

and went about 40 feet and cracked a rib.

ร่วงลงไปถึง 40 ฟุต และซี่โครงหักไปซี่หนึ่ง

Once you get to that point where you know it's going to happen,

พอมาถึงจุดๆ หนึ่งที่คุณรู้ว่ามันกำลังจะเกิดขึ้นแน่ๆ

you need to start thinking about how you're going to let go

คุณต้องเริ่มที่จะคิดถึงวิธีที่จะปล่อย

because that is the critical piece

เพราะว่านั่นมันสำคัญมาก

of not getting hurt --

เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ

how you're going to fall onto the rope,

หาวิธีที่คุณจะร่วงลงบนเชือก

or if you're climbing without a rope,

หรือถ้าหากคุณปีนโดยไม่ใช้เชือก

fall to a place where you can actually control the fall.

ก็ร่วงลงไปที่ๆ คุณสามารถควบคุมมันได้

So don't hang on till the bitter end.

เพราะฉะนั้นอย่ายื้อเกาะซะจนพบจุดจบอันขมขื่น

Thank you very much.

ขอบคุณมากครับ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)