John McWhorter: Txtng is killing language. JK!!!

574,649 views ・ 2013-04-22

TED


โปรดดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษด้านล่างเพื่อเล่นวิดีโอ

00:00
Translator: Joseph Geni Reviewer: Morton Bast
0
0
7000
Translator: Chatthip Chaichakan Reviewer: Kelwalin Dhanasarnsombut
00:12
We always hear that texting is a scourge.
1
12743
2862
เรามักจะได้ยินว่าการส่งข้อความคือหายนะ
00:15
The idea is that texting spells the decline and fall
2
15605
4840
ความคิดนี้บอกว่า การส่งข้อความ สะท้อนการถดถอยและตกต่ำ
00:20
of any kind of serious literacy, or at least writing ability,
3
20445
3500
ของการอ่านออกเขียนได้แบบจริงจัง หรืออย่างน้อยก็ความสามารถทางการเขียน
00:23
among young people in the United States
4
23945
2643
ในกลุ่มวัยรุ่นในสหรัฐฯ
00:26
and now the whole world today.
5
26588
2301
และทั่วโลก ในทุกวันนี้
00:28
The fact of the matter is that it just isn't true,
6
28889
3504
ข้อเท็จจริงก็คือว่า มันไม่ได้แค่ไม่จริงเท่านั้น
00:32
and it's easy to think that it is true,
7
32393
2503
มันง่ายที่จะเชื่อว่ามันจริง
00:34
but in order to see it in another way,
8
34896
1899
แต่ในการที่จะมองจากอีกมุมหนึ่ง
00:36
in order to see that actually texting is a miraculous thing,
9
36795
3669
ในการที่จะมองว่า การส่งข้อความนั้น จริงๆ แล้วเป็นเรื่องมหัศจรรย์
00:40
not just energetic, but a miraculous thing,
10
40464
2565
ไม่ใช่แค่เรื่องเร่าร้อน แต่เป็นเรื่องมหัศจรรย์
00:43
a kind of emergent complexity
11
43029
1747
อะไรประมาณ ความสลับซับซ้อนแบบฉับพลัน
00:44
that we're seeing happening right now,
12
44776
2461
ที่พวกเรากำลังมองเห็นมันเกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้
00:47
we have to pull the camera back for a bit
13
47237
2306
เราต้องถอยหลังออกมามองสักหน่อย
00:49
and look at what language really is,
14
49543
3418
เพื่อที่จะมองว่า ภาษาคืออะไรกันแน่
00:52
in which case, one thing that we see
15
52961
2073
ในกรณีนี้ สิ่งที่เราจะเห็นก็คือว่า
00:55
is that texting is not writing at all.
16
55034
4624
การส่งข้อความไม่ใช่การเขียนเลย
00:59
What do I mean by that?
17
59658
1822
ผมหมายความว่ายังไงน่ะหรอ
01:01
Basically, if we think about language,
18
61480
2556
หลักๆแล้ว ถ้าเราคิดเกี่ยวกับภาษา
01:04
language has existed for perhaps 150,000 years,
19
64036
3801
ภาษาดำรงอยู่มา อาจจะประมาณ 150,000 ปี
01:07
at least 80,000 years,
20
67837
2137
อย่างน้อย 80,000 ปี
01:09
and what it arose as is speech. People talked.
21
69974
4151
และสิ่งที่เกิดขึ้นจากนั้นก็คือ การพูด ผู้คนพูด
01:14
That's what we're probably genetically specified for.
22
74125
3024
นั่นเป็นสิ่งที่พวกเรา อาจจะได้รับการกำหนดโดยยีน
01:17
That's how we use language most.
23
77149
2191
นั่นเป็นวิธีการใช้ภาษาที่เราใช้มากที่สุด
01:19
Writing is something that came along much later,
24
79340
3482
การเขียนเป็นอะไรที่มาหลังจากนั้นนานมาก
01:22
and as we saw in the last talk,
25
82822
2056
และอย่างที่เราได้เห็นในการพูดครั้งที่แล้ว
01:24
there's a little bit of controversy as to exactly when that happened,
26
84878
2668
มันมีความขัดแย้งเล็กๆ ในการระบุว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่แน่ๆ
01:27
but according to traditional estimates,
27
87546
2316
แต่ตามการอ้างอิงแบบดั้งเดิม
01:29
if humanity had existed for 24 hours,
28
89862
3522
ถ้าหากมนุษยชาติดำรงอยู่เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
01:33
then writing only came along at about 11:07 p.m.
29
93384
5191
แล้วการเขียนก็ตามมาเมื่อเวลาประมาณ 23.07 น.
01:38
That's how much of a latterly thing writing is.
30
98575
3645
นั่นแสดงให้เห็นว่าการเขียนมาช้าขนาดไหน
01:42
So first there's speech, and then writing comes along
31
102220
3388
ดังนั้น แรกเริ่มมีการพูด แล้วการเขียนก็ตามมา
01:45
as a kind of artifice.
32
105608
1762
ในลักษณะของทักษะบางอย่าง
01:47
Now don't get me wrong, writing has certain advantages.
33
107370
4006
เอาล่ะ อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิดนะ การเขียนมีประโยชน์แน่นอน
01:51
When you write, because it's a conscious process,
34
111376
2583
เมื่อคุณเขียน เพราะมันเป็นกระบวนการรู้สำนึก
01:53
because you can look backwards,
35
113959
2138
เพราะคุณมองย้อนหลังไปได้
01:56
you can do things with language that are much less likely
36
116097
2830
คุณสามารถที่จะทำอะไรๆ กับภาษาได้มากกว่า
01:58
if you're just talking.
37
118927
2464
การที่คุณพูด
02:01
For example, imagine a passage from Edward Gibbon's
38
121391
3901
ยกตัวอย่างเช่น นึกถึงข้อความหนึ่งจาก งานของเอ็ดเวิร์ด กิ๊บบอน (Edward Gibbon)
02:05
"The Decline and Fall of the Roman Empire:"
39
125292
3806
"การเสื่่อมถอยและตกต่ำของจักรวรรดิโรมัน (The Decline and Fall of the Roman Empire)"
02:09
"The whole engagement lasted above twelve hours,
40
129098
3251
"เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเนิ่นช้ามากกว่า 12 ชั่วโมง
02:12
till the graduate retreat of the Persians was changed
41
132349
2302
กระทั่งการล่าถอยสุดท้ายของชาวเปอร์เซีย
02:14
into a disorderly flight, of which the shameful example
42
134651
2773
แปรไปสู่การระหกระเหินอย่างไร้ทิศทาง
02:17
was given by the principal leaders and the Surenas himself."
43
137424
2587
โดยตัวอย่างอันน่าละอายนั้นมาจากผู้นำและชนชั้นนำนั่นเอง"
02:20
That's beautiful, but let's face it, nobody talks that way.
44
140011
4319
สวยงามนะครับ แต่เผชิญความจริงเถอะครับ ไม่มีใครพูดจาแบบนั้นกันหรอก
02:24
Or at least, they shouldn't if they're interested
45
144330
4236
หรืออย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ควรทำ ถ้าพวกเขามีความสนใจ
02:28
in reproducing. That --
46
148566
2514
ในการทำซ้ำน่ะนะครับ นั่น --
02:31
(Laughter)
47
151080
2719
(เสียงหัวเราะ)
02:33
is not the way any human being speaks casually.
48
153799
2978
ไม่ใช่วิธีการที่คนเราพูดคุยกันแบบสบายๆ
02:36
Casual speech is something quite different.
49
156777
2585
การพูดแบบสบายๆ นี้ เป็นอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างแตกต่าง
02:39
Linguists have actually shown
50
159362
1856
นักภาษาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่า
02:41
that when we're speaking casually in an unmonitored way,
51
161218
2711
เมื่อพวกเราพูดจากันแบบสบายๆ โดยไม่รู้สึกว่าถูกจับตามองนั้น
02:43
we tend to speak in word packets of maybe
52
163929
2678
เรามักจะพูดด้วยกลุ่มคำประมาณ
02:46
seven to 10 words.
53
166607
1810
7-10 คำ
02:48
You'll notice this if you ever have occasion to record
54
168417
2679
คุณอาจจะสังเกตุสิ่งนี้ได้ ถ้าคุณเคยมีโอกาสได้
02:51
yourself or a group of people talking.
55
171096
2993
บันทึกการสนทนาของคุณเอง หรือของกลุ่มคนที่กำลังคุยกัน
02:54
That's what speech is like.
56
174089
1455
นั่นคือการพูด
02:55
Speech is much looser. It's much more telegraphic.
57
175544
4305
การพูดนั้นเป็นแบบหลวมๆ มันเหมือนกับการส่งโทรเลขมากกว่า
02:59
It's much less reflective -- very different from writing.
58
179849
3690
มันไม่ค่อยถูกไตร่ตรองมากนัก แตกต่างจากการเขียนมากทีเดียว
03:03
So we naturally tend to think, because we see language
59
183539
2936
ดังนั้น โดยธรรมชาติแล้ว เนื่องจากเรามักจะเห็นภาษาเขียนบ่อยมาก
03:06
written so often, that that's what language is,
60
186475
2442
เรามักจะคิดว่า นั่นคือภาษา
03:08
but actually what language is, is speech. They are two things.
61
188917
3968
แต่จริงๆแล้ว ภาษาคือการพูด มันเป็นสองอย่าง
03:12
Now of course, as history has gone by,
62
192885
3254
ตอนนี้แน่นอนว่า ในขณะที่ประวัติศาสตร์ดำเนินผ่านไป
03:16
it's been natural for there to be a certain amount of bleed
63
196139
2791
มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะมีการถ่ายโอนระหว่าง
03:18
between speech and writing.
64
198930
3014
การพูดกับการเขียน
03:21
So, for example, in a distant era now,
65
201944
4823
ยกตัวอย่างเช่น ในยุคอดีตเนิ่นนาน
03:26
it was common when one gave a speech
66
206767
2502
มันเป็นเรื่องปกติที่ ใครสักคนจะกล่าวสุนทรพจน์
03:29
to basically talk like writing.
67
209269
3117
โดยพูดออกมาเหมือนภาษาเขียน
03:32
So I mean the kind of speech that you see someone giving
68
212386
2350
เพราะงั้น ผมหมายถึงการพูดแบบที่คุณจะเห็น
03:34
in an old movie where they clear their throat, and they go,
69
214736
2533
ใครสักคนในหนังเก่าๆ กระแอม แล้วก็พูดว่า
03:37
"Ahem, ladies and gentlemen," and then they speak
70
217269
2533
"อะแฮ่ม สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทั้งหลาย" แล้วพวกเขาก็พูด
03:39
in a certain way which has nothing to do with casual speech.
71
219802
3271
ในแบบที่แตกต่างจากการพูดแบบสบายๆ โดยสิ้นเชิง
03:43
It's formal. It uses long sentences like this Gibbon one.
72
223073
3859
มันเป็นทางการ มันเป็นประโยคยาวๆ เหมือนกับของกิ๊บบอน
03:46
It's basically talking like you write, and so, for example,
73
226932
3962
มันเป็นการพูดแบบภาษาเขียน และยกตัวอย่างเช่น
03:50
we're thinking so much these days about Lincoln
74
230894
1995
พวกเรากำลังคิดถึงลินคอล์นกันมากเหลือเกินช่วงนี้
03:52
because of the movie.
75
232889
2211
เหตุผลก็เพราะหนังเรื่องนั้น
03:55
The Gettysburg Address was not the main meal of that event.
76
235100
3083
สุนทรพจน์เกตตี้สเบิร์ก (Gettysburg Address) ไม่ได้เป็นสาระสำคัญของเหตุการณ์นั้น
03:58
For two hours before that, Edward Everett spoke
77
238183
3915
สองชั่วโมงก่อนหน้านั้น เอ็ดเวิร์ด เอเวอเร็ต (Edward Everett)
04:02
on a topic that, frankly, cannot engage us today
78
242098
3240
ได้พูดในหัวข้อที่ พูดกันตามตรง ไม่สามารถทำให้เราสนใจกันได้ในวันนี้
04:05
and barely did then.
79
245338
1497
และแทบไม่ได้เลยในวันนั้น
04:06
The point of it was to listen to him
80
246835
2381
หลักๆก็คือการฟังเขา
04:09
speaking like writing.
81
249216
1556
พูดเหมือนกับเขียน
04:10
Ordinary people stood and listened to that for two hours.
82
250772
2348
คนทั่วไปยืนและฟังการพูดนั้นเป็นเวลาสองชั่วโมง
04:13
It was perfectly natural.
83
253120
1433
มันเป็นธรรมชาติโดยสมบูรณ์แบบ
04:14
That's what people did then, speaking like writing.
84
254553
2491
นั่นเป็นสิ่งที่คนในช่วงเวลานั้นทำกัน พูดเหมือนเขียน
04:17
Well, if you can speak like writing,
85
257044
2466
เอาล่ะ ถ้าคุณสามารถพูดเหมือนเขียนได้
04:19
then logically it follows that you might want to also
86
259510
3798
โดยตรรกะแล้ว มันก็จะตามมาด้วยการที่คุณอาจจะอยาก
04:23
sometimes write like you speak.
87
263308
2866
เขียนให้ได้เหมือนพูดด้วย ในบางครั้ง
04:26
The problem was just that in the material,
88
266174
2050
ปัญหาก็คือว่า มันยากกว่าในการที่จำแบบนั้นในตอนนั้น
04:28
mechanical sense, that was harder back in the day
89
268224
3455
ด้วยเหตุผลทางวัสดุอุปกรณ์
04:31
for the simple reason that materials don't lend themselves to it.
90
271679
3307
ด้วยเหตุผลที่่ว่าอุปกรณ์มันไม่เอื้อ
04:34
It's almost impossible to do that with your hand
91
274986
2020
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำแบบนั้นด้วยมือ
04:37
except in shorthand, and then communication is limited.
92
277006
3435
ยกเว้นแต่การเขียนชวเลข และนั่นทำให้การสื่อสารมีขีดจำกัด
04:40
On a manual typewriter it was very difficult,
93
280441
2516
ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดธรรมดา มันยากมากๆ
04:42
and even when we had electric typewriters,
94
282957
2287
และแม้กระทั่งตอนที่เรามีเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าแล้ว
04:45
or then computer keyboards, the fact is
95
285244
2159
หรือแม้แต่คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์แล้ว
04:47
that even if you can type easily enough to keep up
96
287403
2299
ความจริงก็คือว่า แม้ว่าคุณจะสามารถพิมพ์ได้
04:49
with the pace of speech, more or less, you have to have
97
289702
2793
ด้วยความเร็วเท่าการพูด ไม่มากก็น้อย คุณยังจำเป็นต้องมี
04:52
somebody who can receive your message quickly.
98
292495
2345
ใครสักคนที่จะรับข้อความของคุณได้ทันท่วงที
04:54
Once you have things in your pocket that can receive that message,
99
294840
3211
เมื่อคุณมีสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อที่สามารถรับข้อความนั้นได้
04:58
then you have the conditions that allow
100
298051
2604
แล้วคุณก็มีพร้อมสำหรับการ
05:00
that we can write like we speak.
101
300655
3511
ที่เราจะเขียนให้ได้เหมือนพูด
05:04
And that's where texting comes in.
102
304166
3218
และนั้นก็คือจุดที่การส่งข้อความเข้ามามีบทบาท
05:07
And so, texting is very loose in its structure.
103
307384
3769
และดังนั้น การส่งข้อความมีลักษณะหลวมๆในทางโครงสร้าง
05:11
No one thinks about capital letters or punctuation when one texts,
104
311153
4297
ไม่มีใครคิดถึงตัวอักษรเล็กใหญ่ หรือเครื่องหมายวรรคตอนตอนที่จะส่งข้อความ
05:15
but then again, do you think about those things when you talk?
105
315450
2358
แต่วกกลับมาอีกครั้งหนึ่ง คุณคิดถึงสิ่งเหล่านั้นหรือเปล่าเวลาที่คุณพูด
05:17
No, and so therefore why would you when you were texting?
106
317808
3673
ไม่ และทำไมคุณจะต้องคิดถึงมันเวลา ที่คุณกำลังจะส่งข้อความด้วยล่ะ?
05:21
What texting is, despite the fact that it involves
107
321481
3129
ถึงแม้จะมีข้อเท็จจริงที่ว่า มันเกี่ยวข้องกับ
05:24
the brute mechanics of something that we call writing,
108
324610
2826
กระบวนการบางอย่างที่เราเรียกว่า การเขียน
05:27
is fingered speech. That's what texting is.
109
327436
3298
แต่การส่งข้อความคือการพูดด้วยนิ้ว นั่นคือการส่งข้อความ
05:30
Now we can write the way we talk.
110
330734
3465
ตอนนี้เราสามารถเขียนในแบบที่เราพูดได้แล้ว
05:34
And it's a very interesting thing, but nevertheless
111
334199
2779
และมันเป็นสิ่งที่น่าสนใจเอามากๆ
05:36
easy to think that still it represents some sort of decline.
112
336978
4856
แต่มันก็ยังน่าคิดว่ามันอาจจะสะท้อนการถดถอยบางอย่าง
05:41
We see this general bagginess of the structure,
113
341834
3284
เรามองเห็นโครงสร้างแบบหลวมๆนี้
05:45
the lack of concern with rules and the way that we're used to
114
345118
3349
การไม่ใส่ใจกับกฎ และวิธีที่พวกเรา
05:48
learning on the blackboard, and so we think
115
348467
2272
เคยเรียนมา และเราก็คิดว่า
05:50
that something has gone wrong.
116
350739
3239
บางอย่างกำลังดำเนินไปแบบผิดๆ
05:53
It's a very natural sense.
117
353978
2963
มันเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติเอามากๆ
05:56
But the fact of the matter is that what is going on
118
356941
4034
แต่ความจริงก็คือว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้
06:00
is a kind of emergent complexity.
119
360975
3571
คือความซับซ้อนรูปแบบใหม่บางอย่าง
06:04
That's what we're seeing in this fingered speech.
120
364546
2756
นั่นเป็นสิ่งที่เราเห็นจากการพูดด้วยนิ้วนี้
06:07
And in order to understand it, what we want to see
121
367302
2986
และเพื่อที่จะเข้าใจมัน สิ่งที่เราต้องการที่จะเห็น
06:10
is the way, in this new kind of language,
122
370288
4745
ในรูปแบบใหม่ทางภาษานี้
06:15
there is new structure coming up.
123
375033
3576
ก็คือหนทางที่โครงสร้างแบบใหม่นี้กำลังเกิดขึ้น
06:18
And so, for example, there is in texting a convention,
124
378609
5723
และ ยกตัวอย่างเช่น การรับรู้ร่วมกันแบบกลายๆในการส่งข้อความ
06:24
which is LOL.
125
384332
2922
ของคำว่า LOL
06:27
Now LOL, we generally think of
126
387254
2744
เรามักจะคิดถึง LOL
06:29
as meaning "laughing out loud."
127
389998
2464
ว่าหมายถึง "หัวเราะดังๆ (Laughing out loud)"
06:32
And of course, theoretically, it does,
128
392462
2293
และแน่นอนว่า มันหมายความอย่างนั้นจริงๆ
06:34
and if you look at older texts, then people used it
129
394755
2429
และถ้าคุณมองย้อนไปยังข้อความเก่าๆ
06:37
to actually indicate laughing out loud.
130
397184
2520
คนเราใช้มันเพื่อสื่อถึงการหัวเราะดังๆ
06:39
But if you text now, or if you are someone who
131
399704
4243
แต่ถ้าคุณส่งข้อความสมัยนี้ หรือถ้าคุณเป็นใครสักคนที่
06:43
is aware of the substrate of texting the way it's become,
132
403947
3297
ตระหนักถึงการแปลงสภาพของคำนั้นในการส่งข้อความ
06:47
you'll notice that LOL
133
407244
1690
คุณจะสังเกตุได้ว่า LOL
06:48
does not mean laughing out loud anymore.
134
408934
2070
ไม่ได้แปลว่าหัวเราะดังๆ อีกต่อไป
06:51
It's evolved into something that is much subtler.
135
411004
3790
มันได้พัฒนาไปสู่บางอย่างที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก
06:54
This is an actual text that was done
136
414794
3447
นี่เป็นข้อความจริงๆ ที่พิมพ์ขึ้นโดย
06:58
by a non-male person of about 20 years old
137
418241
3932
คนที่ไม่ใช่ผู้ชายที่อายุราว 20 ปี
07:02
not too long ago.
138
422173
1495
เมื่อไม่นานมานี้
07:03
"I love the font you're using, btw."
139
423668
2952
"ฉันชอบตัวอักษรที่เธอใช้นะ ว่าก็ว่าเหอะ"
07:06
Julie: "lol thanks gmail is being slow right now"
140
426620
3762
จูลี่: "lol ขอบคุณ gmail ที่ช้าตอนนี้"
07:10
Now if you think about it, that's not funny.
141
430382
1742
เอาล่ะ ถ้าคุณคิดถึงมัน มันไม่ขำเลย
07:12
No one's laughing. (Laughter)
142
432124
2900
ไม่มีใครหัวเราะ (เสียงหัวเราะ)
07:15
And yet, there it is, so you assume
143
435024
1970
และนั่นทำให้คุณสันนิษฐานว่า
07:16
there's been some kind of hiccup.
144
436994
1357
มันต้องมีการสะอึกอะไรสักอย่าง
07:18
Then Susan says "lol, I know,"
145
438351
1834
แล้วซูซานก็พูดว่า "lol ฉันรู้"
07:20
again more guffawing than we're used to
146
440185
2297
อีกแล้ว มีการหัวเราะมากกว่าที่เราเคยชิน
07:22
when you're talking about these inconveniences.
147
442482
3230
เมื่อคุณกำลังพูดถึงการติดขัดเหล่านี้
07:25
So Julie says, "I just sent you an email."
148
445712
2744
แล้วจูลี่ก็พูดว่า "ฉันเพิ่งส่งอีเมล์ให้คุณนะ"
07:28
Susan: "lol, I see it."
149
448456
1551
ซูซาน: "lol ฉันเห็นแล้วล่ะ
07:30
Very funny people, if that's what LOL means.
150
450007
3618
คนเหล่านี้ดูอารมณ์ดีนะ ถ้าหากว่านั่นคือความหมายของ LOL
07:33
This Julie says, "So what's up?"
151
453625
2128
แล้วจูลี่ก็พูดว่า "แล้วยังไงล่ะ"
07:35
Susan: "lol, I have to write a 10 page paper."
152
455753
2642
ซูซาน: "lol ฉันต้องเขียนบทความความ 10 หน้า"
07:38
She's not amused. Let's think about it.
153
458395
2314
เธอไม่ได้สนุกเลย ลองคิดดู
07:40
LOL is being used in a very particular way.
154
460709
2681
LOL ถูกใช้ไปแบบเฉพาะทาง
07:43
It's a marker of empathy. It's a marker of accommodation.
155
463390
3691
มันเป็นเครื่องหมายของความเห็นใจ มันเป็นเครื่องหมายของการตกลงกัน
07:47
We linguists call things like that pragmatic particles.
156
467081
3249
พวกเรานักภาษาศาสตร์เรียกสิ่งเหล่านี้ว่า อนุภาคของข้อตกลงในการใช้ภาษา (pragmatic particles)
07:50
Any spoken language that's used by real people has them.
157
470330
3839
ทุกภาษาพูดที่ใช้โดยคนจริงๆจะมีมันอยู่
07:54
If you happen to speak Japanese, think about
158
474169
1776
ถ้าคุณบังเอิญได้คุยกับคนญี่ปุ่น
07:55
that little word "ne" that you use at the end of a lot of sentences.
159
475945
3358
ลองคิดถึงคำว่า "เนะ" ที่คุณใช้ ในการลงท้ายของหลายๆประโยค
07:59
If you listen to the way black youth today speak,
160
479303
2345
ถ้าคุณฟังวัยรุ่นผิวดำพูดกันทุกวันนี้
08:01
think about the use of the word "yo."
161
481648
1786
คิดถึงการใช้คำว่า "โย่"
08:03
Whole dissertations could be written about it,
162
483434
1946
ประมาณว่าเขียนออกมาเป็นวิทยานิพนธ์ทั้งฉบับได้เลย
08:05
and probably are being written about it.
163
485380
2274
หรือไม่แน่อาจจะมีคนกำลังเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ก็ได้
08:07
A pragmatic particle, that's what LOL has gradually become.
164
487654
3794
อนุภาคของข้อตกลงในการใช้ภาษา นั่นคือสิ่งที่ LOL กำลังค่อยๆกลายมาเป็น
08:11
It's a way of using the language between actual people.
165
491448
4049
มันคือวิธีการใช้ภาษาระหว่างกันของคนจริงๆ
08:15
Another example is "slash."
166
495497
3239
อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ "/ (เส้นแบ่ง: slash)"
08:18
Now, we can use slash in the way that we're used to,
167
498736
2768
ตอนนี้ เราสามารถใช้เครื่องหมายเส้นแบ่ง ในแบบที่เราคุ้นชินได้ ตามบรรทัดนี้
08:21
along the lines of, "We're going to have
168
501504
1640
"เรากำลังจะมี
08:23
a party-slash-networking session."
169
503144
3482
ช่วงของการปาร์ตี้-เครื่องหมายเส้นแบ่ง-การสร้างเครือข่าย
08:26
That's kind of like what we're at.
170
506626
2094
นั่นเป็นอะไรประมาณที่เรากำลังเข้าใจกัน
08:28
Slash is used in a very different way
171
508720
3539
เครื่องหมายเส้นแบ่งถูกใช้อย่างแตกต่างมาก
08:32
in texting among young people today.
172
512259
2958
ในการส่งข้อความระหว่างวัยรุ่นทุกวันนี้
08:35
It's used to change the scene.
173
515217
1853
มันถูกใช้ในการเปลี่ยนฉาก
08:37
So for example, this Sally person says,
174
517070
2949
ยกตัวอย่างเช่น แซลลี่คนนี้พูดว่า
08:40
"So I need to find people to chill with"
175
520019
1805
"เอาล่ะ ฉันต้องหาคนที่มาชิลด้วย"
08:41
and Jake says, "Haha" --
176
521824
1519
แล้วเจคก็พูดว่า "ฮ่าๆ" --
08:43
you could write a dissertation about "Haha" too, but we don't have time for that —
177
523343
2888
คุณสามารถเขียนวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับ "ฮ่าๆ" ได้เหมือนกัน แต่เราไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนั้น
08:46
"Haha so you're going by yourself? Why?"
178
526231
2489
"ฮ่าๆ แล้วเธอก็กำลังจะไปคนเดียวน่ะหรอ ทำไมล่ะ"
08:48
Sally: "For this summer program at NYU."
179
528720
2610
แซลลี่: "ก็แค่ฤดูร้อนนี้ที่ NYU เท่านั้นแหละ"
08:51
Jake: "Haha. Slash I'm watching this video with suns players
180
531330
2894
เจค: "ฮ่าๆ เครื่องหมายเส้นแบ่ง ฉันกำลังดูวีดีโอ
08:54
trying to shoot with one eye."
181
534224
1797
ที่ผู้เล่นของ Suns กำลังพยายามจะยิงด้วยตาเดียว"
08:56
The slash is interesting.
182
536021
1275
เครื่องหมายเส้นแบ่งตรงนี้น่าสนใจ
08:57
I don't really even know what Jake is talking about after that,
183
537296
3156
ผมไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ว่าเจคพูดอะไรหลังจากนั้น
09:00
but you notice that he's changing the topic.
184
540452
4741
แต่คุณจะเห็นว่าเขาเปลี่ยนเรื่องในการคุย
09:05
Now that seems kind of mundane,
185
545193
1818
ตอนนี้มันอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ
09:07
but think about how in real life,
186
547011
1442
แต่ลองคิดถึงชีวิตจริงดูนะครับ
09:08
if we're having a conversation and we want to change the topic,
187
548453
2658
ถ้าเรากำลังดำเนินบทสนทนา และเราต้องการเปลี่ยนเรื่อง
09:11
there are ways of doing it gracefully.
188
551111
1612
มีวิธีดีๆ มากมายที่จะทำแบบนั้น
09:12
You don't just zip right into it.
189
552723
1719
คุณไม่มีทางที่จะอยู่ๆก็เปลี่ยน
09:14
You'll pat your thighs and look wistfully off into the distance,
190
554442
4195
คุณอาจจะลูบต้นขาของคุณ แล้วก็มองออกไปไกลๆ
09:18
or you'll say something like, "Hmm, makes you think --"
191
558637
4110
หรือคุณอาจจะพูดบางอย่างเช่น "อืมมม ทำให้คุณคิดว่า--"
09:22
when it really didn't, but what you're really --
192
562747
2360
ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่จริงๆแล้ว --
09:25
(Laughter) —
193
565107
2235
(เสียงหัวเราะ) --
09:27
what you're really trying to do is change the topic.
194
567342
2708
จริงๆแล้วคุณกำลังพยายามที่จะเปลี่ยนหัวข้อต่างหาก
09:30
You can't do that while you're texting,
195
570050
1927
คุณทำแบบนั้นไม่ได้ตอนที่คุณกำลังส่งข้อความ
09:31
and so ways are developing of doing it within this medium.
196
571977
3731
เพราะงั้นหนทางในการทำแบบนั้นก็ถูกพัฒนาขึ้น ผ่านทางเครื่องหมายนี้
09:35
All spoken languages have what a linguist calls
197
575708
2252
ภาษาพูดทั้งหมดมีสิ่งที่นักภาษาศาสตร์เรียกว่า
09:37
a new information marker -- or two, or three.
198
577960
3393
เครื่องหมายของข้อมูลใหม่อันหนึ่ง หรือสอง หรือสาม
09:41
Texting has developed one from this slash.
199
581353
4294
การส่งข้อความได้พัฒนาขึ้นมาอันหนึ่ง จากเครื่องหมายเส้นแบ่งนี้
09:45
So we have a whole battery of new constructions
200
585647
2985
แล้วเราก็จะมีพลังงานในสิ่งสร้างใหม่
09:48
that are developing, and yet it's easy to think,
201
588632
2587
ที่กำลังพัฒนา แต่มันก็ง่ายที่จะคิด
09:51
well, something is still wrong.
202
591219
2447
ว่าบางอย่างกำลังผิดไป
09:53
There's a lack of structure of some sort.
203
593666
3775
มีการขาดหายไปของโครงสร้างบางอย่าง
09:57
It's not as sophisticated
204
597441
1906
มันไม่ได้ซับซ้อนสวยงาม
09:59
as the language of The Wall Street Journal.
205
599347
2206
อย่างภาษาในวอลล์สตรีทเจอร์นัล (The Wall Street Journal)
10:01
Well, the fact of the matter is,
206
601553
1774
ความจริงก็คือว่า
10:03
look at this person in 1956,
207
603327
2451
มองดูที่คนๆ นี้ตอนปี 1956
10:05
and this is when texting doesn't exist,
208
605778
2282
ซึ่งเป็นเวลาที่การส่งข้อความยังไม่เกิด
10:08
"I Love Lucy" is still on the air.
209
608060
1835
"ผมรักลูซี่" ยังคงมีอยู่ทั่วไป
10:09
"Many do not know the alphabet or multiplication table,
210
609895
3763
"หลายคนที่ไม่รู้ตัวหนังสือหรือตารางสูตรคูณ
10:13
cannot write grammatically -- "
211
613658
1337
ไม่สามารถเขียนให้ถูกไวยากรณ์ได้--"
10:14
We've heard that sort of thing before,
212
614995
2209
เราได้ยินเรื่องประมาณนี้มาก่อน
10:17
not just in 1956. 1917, Connecticut schoolteacher.
213
617204
3991
ไม่ใช่เฉพาะในปี 1956 เมื่อปี 1917 ครูที่คอนเนกติคัต
10:21
1917. This is the time when we all assume
214
621195
2701
1917 เป็นช่วงเวลาที่เราต่างคาดว่า
10:23
that everything somehow in terms of writing was perfect
215
623896
3251
ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเขียนน่าจะสมบูรณ์แบบ
10:27
because the people on "Downton Abbey" are articulate,
216
627147
2418
เพราะทุกคนใน "ดาวน์ตัน แอบบี้ (Downton Abbey)" ดูฉะฉานชัดเจน
10:29
or something like that.
217
629565
1211
หรืออะไรสักอย่างประมาณนั้น
10:30
So, "From every college in the country goes up the cry,
218
630776
2944
ดังนั้น "มีเสียงร่ำร้องจากทุกมหาวิทยาลัยในประเทศว่า
10:33
'Our freshmen can't spell, can't punctuate.'"
219
633720
2633
'นักเรียนปีหนึ่งของเราสะกดไม่เป็น จัดวรรคตอนไม่เป็น'" และอื่นๆ
10:36
And so on. You can go even further back than this.
220
636353
2408
คุณสามารถย้อนไปไกลกว่านั้นได้อีก
10:38
It's the President of Harvard. It's 1871.
221
638761
3184
นั่นคือ อธิการบดีของฮาร์วาร์ด เมื่อปี 1871
10:41
There's no electricity. People have three names.
222
641945
2542
ตอนที่ไม่มีไฟฟ้า ผู้คนมีสามชื่อ
10:44
"Bad spelling,
223
644487
2425
"การสะกดผิด
10:46
incorrectness as well as inelegance of expression in writing."
224
646912
3268
ความไม่ถูกต้อง และความไม่สง่างาม ในการแสดงออกทางการเขียน"
10:50
And he's talking about people who are otherwise
225
650180
2149
และเขากำลังพูดเกี่ยวกับคนที่
10:52
well prepared for college studies.
226
652329
1891
กำลังเตรียมตัวมาเรียนมหาวิทยาลัย
10:54
You can go even further back.
227
654220
1846
คุณย้อนไปได้ไกลกว่านั้นอีก
10:56
1841, some long-lost superintendent of schools is upset
228
656066
3853
ปี 1841 ผู้อำนวยการของโรงเรียนบางแห่งหัวเสีย
10:59
because of what he has for a long time "noted with regret
229
659919
3177
เพราะสิ่งที่เขาเจอมาเป็นเวลานานเกี่ยวกับ "ข้อสังเกตที่น่าเศร้าใจ
11:03
the almost entire neglect of the original" blah blah blah blah blah.
230
663096
3509
เกี่ยวกับการเพิกเฉยอย่างแทบจะสิ้นเชิงของสิ่งดั้งเดิม" บลา บลา บลา
11:06
Or you can go all the way back to 63 A.D. -- (Laughter) --
231
666605
5288
หรือคุณไปได้ไกลถึง 63 ปีก่อนคริสตกาล (เสียงหัวเราะ)
11:11
and there's this poor man who doesn't like the way
232
671893
2381
มีชายผู้น่าสงสารคนนี้ ที่ไม่ชอบ
11:14
people are speaking Latin.
233
674274
1221
วิธีการที่ผู้คนพูดภาษาละติน
11:15
As it happens, he was writing about what had become French.
234
675495
3156
ตอนนั้น เขากำลังเขียนถึงสิ่งที่ได้กลายมาเป็นภาษาฝรั่งเศส
11:18
And so, there are always — (Laughter) (Applause) —
235
678651
6402
เพราะงั้น มันมักจะ -- (เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)
11:25
there are always people worrying about these things
236
685053
2171
มันมักจะมีผู้คนที่กังวลกับสิ่งเหล่านี้
11:27
and the planet somehow seems to keep spinning.
237
687224
3273
และโลกใบนี้มันก็ยังหมุนไปๆเรื่อยๆ
11:30
And so, the way I'm thinking of texting these days is
238
690497
4647
เพราะงั้น ที่ผมคิดเกี่ยวกับการส่งข้อความก็คือว่า
11:35
that what we're seeing is a whole new way of writing
239
695144
3580
พวกเรากำลังมองเห็นหนทางใหม่เอี่ยมของการเขียน
11:38
that young people are developing,
240
698724
1626
ที่วัยรุ่นทั้งหลายกำลังพัฒนามัน
11:40
which they're using alongside their ordinary writing skills,
241
700350
3760
ที่พวกเขาใช้มันควบคู่ไปกับความสามารถทางการเขียน โดยทั่วไปของพวกเขา
11:44
and that means that they're able to do two things.
242
704110
3167
และนั่นหมายความพวกเขาสามารถที่จะทำสองอย่างได้
11:47
Increasing evidence is that being bilingual
243
707277
2897
มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเกี่ยวกับว่า ทักษะสองภาษา
11:50
is cognitively beneficial.
244
710174
2233
เป็นประโยชน์ต่อระบบคิด
11:52
That's also true of being bidialectal.
245
712407
2155
นั่นยังเป็นความจริงต่อคนที่พูดได้สองสำเนียงด้วย
11:54
That's certainly true of being bidialectal in terms of your writing.
246
714562
3090
นั่นยิ่งจริงไปอีกในการที่เป็นคนสองสำเนียงในการเขียน
11:57
And so texting actually is evidence of a balancing act
247
717652
4918
เพราะงั้น การส่งข้อความจริงๆแล้วคือหลักฐานของ พฤติกรรมการสร้างสมดุลย์
12:02
that young people are using today, not consciously, of course,
248
722570
3302
ที่วัยรุ่นกำลังใช้อยู่ทุกวันนี้ แน่นอนว่าโดยไม่รู้ตัว
12:05
but it's an expansion of their linguistic repertoire.
249
725872
3687
แต่มันเป็นการขยายความสามารถทางภาษาของพวกเขาด้วย
12:09
It's very simple.
250
729559
1229
มันง่ายมาก
12:10
If somebody from 1973 looked at
251
730788
3710
ถ้าคนจากปี 1973 มองไปยัง
12:14
what was on a dormitory message board in 1993,
252
734498
4106
สิ่งที่อยู่บนบอร์ดข้อความในหอพักปี 1993
12:18
the slang would have changed a little bit
253
738604
1833
คำสแลงอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
12:20
since the era of "Love Story,"
254
740437
1818
ตั้งแต่ยุคของ "เรื่องราวแห่งความรัก"
12:22
but they would understand what was on that message board.
255
742255
3313
แต่พวกเขาจะเข้าใจว่าอะไรที่อยู่บนบอร์ดข้อความ
12:25
Take that person from 1993 -- not that long ago,
256
745568
2724
เอาคนๆ นั้นจากปี 1993 -- เมื่อไม่นานมานี้
12:28
this is "Bill and Ted's Excellent Adventure" -- those people.
257
748292
3258
นี่คือ "การผจญภัยที่ยอดเยี่ยมของบิลและเท็ด" -- คนพวกนั้น
12:31
Take those people and they read
258
751550
2369
เอาคนพวกนั้นมา และให้พวกเขาอ่าน
12:33
a very typical text written by a 20-year-old today.
259
753919
2900
ข้อความที่เขียนโดยคนอายุ 20 ในวันนี้
12:36
Often they would have no idea what half of it meant
260
756819
2891
พวกเขาจะไม่รู้เลยว่า ครึ่งหนึ่งของข้อความนั้นหมายความว่าอะไร
12:39
because a whole new language has developed
261
759710
3928
เพราะภาษาแบบใหม่แกะกล่องได้ถูกพัฒนาขึ้น
12:43
among our young people doing something as mundane
262
763638
2294
โดยวัยรุ่นของพวกเราที่กำลังทำบางสิ่งไปตามปกติ
12:45
as what it looks like to us when they're batting around
263
765932
2271
ตามที่ปรากฎในสายตาเราก็คือการที่พวกเขา
12:48
on their little devices.
264
768203
1675
เล่นเรื่อยเปื่อยกับโทรศัพท์ของพวกเขา
12:49
So in closing, if I could go into the future,
265
769878
3661
ดังนั้น ในการปิดท้าย ถ้าหากผมไปในอนาคตได้
12:53
if I could go into 2033,
266
773539
4375
ถ้าผมไปยังปี 2033
12:57
the first thing I would ask is whether David Simon
267
777914
2913
สิ่งแรกที่ผมจะถามก็คือ เดวิด ไซมอน (David Simon)
13:00
had done a sequel to "The Wire." I would want to know.
268
780827
3893
ได้ทำภาคต่อของ "The Wire" รึเปล่า ผมอยากจะรู้
13:04
And — I really would ask that —
269
784720
2983
ผมจะถามจริงๆนะ
13:07
and then I'd want to know actually what was going on on "Downton Abbey."
270
787703
3090
และผมก็อยากจะรู้ว่า อะไรเกิดขึ้นบ้างใน "ดาวน์ตัน แอบบี้"
13:10
That'd be the second thing.
271
790793
1509
นั่นเป็นอย่างที่สอง
13:12
And then the third thing would be,
272
792302
2536
และอย่างที่สามก็คือว่า
13:14
please show me a sheaf of texts
273
794838
3191
ช่วยเอาข้อความที่เขียน
13:18
written by 16-year-old girls,
274
798029
1957
โดยเด็กผู้หญิงอายุ 16 มาให้ผมดูหน่อย
13:19
because I would want to know where this language
275
799986
2454
เพราะผมอยากจะรู้ว่าภาษาพวกนี้ได้เปลี่ยนแปลงไป
13:22
had developed since our times,
276
802440
1955
ยังไงแล้วบ้างจากยุคของพวกเรา
13:24
and ideally I would then send them back to you and me now
277
804395
3633
และผมก็จะส่งมันกลับมายังคุณและผมตอนนี้
13:28
so we could examine this linguistic miracle
278
808028
2520
เพื่อที่ว่าพวกเราจะได้ศึกษาความมหัศจรรย์ของภาษา
13:30
happening right under our noses.
279
810548
2350
ที่เกิดขึ้นใต้จมูกของพวกเรา
13:32
Thank you very much.
280
812898
1516
ขอบคุณมากครับ
13:34
(Applause)
281
814414
5168
(เสียงปรบมือ)
13:39
Thank you. (Applause)
282
819582
3607
ขอบคุณครับ (เสียงปรบมือ)
เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ไซต์นี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณจะได้เห็นบทเรียนภาษาอังกฤษที่สอนโดยอาจารย์ชั้นนำจากทั่วโลก ดับเบิลคลิกที่คำบรรยายภาษาอังกฤษที่แสดงในแต่ละหน้าของวิดีโอเพื่อเล่นวิดีโอจากที่นั่น คำบรรยายเลื่อนซิงค์กับการเล่นวิดีโอ หากคุณมีความคิดเห็นหรือคำขอใด ๆ โปรดติดต่อเราโดยใช้แบบฟอร์มการติดต่อนี้

https://forms.gle/WvT1wiN1qDtmnspy7