The difference between healthy and unhealthy love | Katie Hood | TED

Translator: Aey Ch Reviewer: Sakunphat Jirawuthitanant

So when you think about a child, a close friend, or a romantic partner,

เมื่อคุณนึกถึงเด็กน้อย เพื่อนสนิท คู่ชีวิต

the word "love" probably comes to mind,

คำว่า "รัก" อาจผุดขึ้นในใจ

and instantly other emotions rush in:

และทันใดนั้น อารมณ์อื่น ๆ ก็หลั่งไหลเข้ามา

joy and hope,

ความปลื้มปิติ และความหวัง

excitement, trust and security,

ความตื่นเต้น ความไว้ใจและความรู้สึกปลอดภัย

and yes, sometimes sadness and disappointment.

และจริงอยู่ บางครั้งก็มีความเศร้า และความผิดหวัง

There might not be a word in the dictionary

มันอาจจะไม่มีคำใดในพจนานุกรม

that more of us are connected to than love.

ที่เกี่ยวข้องกับคนมากไปกว่าคำว่ารัก

Yet, given its central importance in our lives,

แม้ว่ามันจะเป็นศูนย์กลาง ความสำคัญแห่งชีวิตเรา

isn't it interesting that we're never explicitly taught how to love?

แต่แปลกที่ว่าเราไม่เคยได้รับการสั่งสอน อย่างจริงจังว่าจะรักอย่างไร

We build friendships,

เราสร้างมิตรภาพ

navigate early romantic relationships,

คลำทางหาความสัมพันธ์แบบโรแมนติกในระยะแรก

get married and bring babies home from the hospital

แต่งงานและรับลูกน้อยกลับจากโรงพยาบาล

with the expectation that we'll figure it out.

พร้อมความหวังว่า เดี๋ยวเราก็หาทางได้เองล่ะน่า

But the truth is, we often harm and disrespect the ones we love.

แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรามักจะทำร้าย และข่มเหงคนที่เรารัก

It can be subtle things

มันอาจไม่ชัดเจน

like guilting a friend into spending time with you

ทำให้เพื่อนรู้สึกผิด จะได้มาใช้เวลากับคุณบ้าง

or sneaking a peak at your partner's texts

หรือแอบอ่านข้อความบนมือถือของแฟน

or shaming a child for their lack of effort at school.

หรือดุให้ลูกละอายที่ไม่ตั้งใจเรียน

100 percent of us will be on the receiving end

พวกเราทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ก็เป็นฝ่ายรับผล

of unhealthy relationship behaviors

ของพฤติกรรมความสัมพันธ์ที่รอวันเลิกรา

and 100 percent of us will do unhealthy things.

และพวกเราร้อยทั้งร้อย ก็ทำในเรื่องที่เสียสุขภาพจิตด้วย

It's part of being human.

เป็นมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้แหละ

In its worst form, the harm we inflict on loved ones

รูปแบบที่แย่ที่สุดของการทำร้ายคนที่เรารัก

shows up as abuse and violence,

คือการปรามาสและใช้ความรุนแรง

and relationship abuse

และการข่มเหงที่เกิดในความสัมพันธ์

is something that one in three women and one in four men

เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหนึ่งในสาม และผู้ชายหนึ่งในสี่

will experience in their lifetime.

เผชิญในช่วงชีวิตของพวกเขา

Now, if you're like most people, when you hear those stats,

หากคุณเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ พอได้ยินสถิติเหล่านั้น

you'll go, "Oh, no, no, no, that would never happen to me."

คุณคงว่า "โอ ไม่หรอก นั่นไม่มีทางเกิดขึ้นกับตัวฉันแน่"

It's instinctual to move away from the words "abuse" and "violence,"

มันเป็นสัญชาตญาณที่เราจะถอยห่างจาก คำว่า "การข่มเหง" และ "ความรุนแรง"

to think that they happen to someone else somewhere else.

เมื่อคิดว่ามันเกิดขึ้นกับคนอื่น ที่อื่น

But the truth is, unhealthy relationships and abuse are all around us.

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความสัมพันธ์ ที่ให้โทษ และการข่มเหงมีอยู่รอบตัวเรา

We just call them different things and ignore the connection.

เราแค่เรียกมันด้วยชื่ออื่น และมองข้ามความเกี่ยวเนื่องของมัน

Abuse sneaks up on us disguised in unhealthy love.

การข่มเหงแอบย่องมาหาเรา แฝงตัวอยู่ในความรักให้โทษ

I work for an organization called One Love

ฉันทำงานให้กับองค์กรชื่อรักเดียว (One Love)

started by a family whose daughter Yeardley was killed by her ex-boyfriend.

ก่อตั้งโดยครอบครัวหนึ่งที่ลูกสาว ยาร์ดลีย์ ถูกอดีตแฟนหนุ่มของเธอฆ่า

This was a tragedy no one saw coming,

นี่เป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิด

but when they looked back, they realized the warning signs were there

แต่เมื่อมองย้อนกลับไป พวกเขาก็ตระหนักว่า มันมีสัญญาณบ่งชี้ให้เห็นตลอด

just no one understood what they were seeing.

แค่ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาเห็น

Called crazy or drama or too much drinking,

อาจเรียกว่าความบ้า หรือดราม่า หรือแค่เมาเกินไป

his actions weren't understood to be what they really were,

ไม่มีใครเข้าใจการกระทำของเขา ตามที่มันสื่อออกมาจริง ๆ เลย

which was clear signs of danger.

ซึ่งมันเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นสัญญาณอันตราย

Her family realized that if anyone had been educated about these signs,

ครอบครัวของเธอตระหนักว่าหากมีใครสักคน มีความรู้เรื่องการตีความสัญญาณเหล่านี้

her death could have been prevented.

เราอาจป้องกันได้และเธอคงไม่ตาย

So today we're on a mission to make sure

ทุกวันนี้ เราจึงมุ่งมั่นสร้างความมั่นใจ

that others have the information that Yeardley and her friends didn't.

ว่าคนอื่น ๆ มีข้อมูล ที่ยาร์ดลีย์และเพื่อนของเธอไม่มี

We have three main goals:

เรามีเป้าหมายสามประการ

give all of us a language for talking about a subject

เราให้ภาษาเพื่อสื่อสารในเรื่องนี้

that's quite awkward and uncomfortable to discuss;

เรื่องที่น่าอึดอัดและลำบากใจที่จะพูดคุย

empower a whole front line, namely friends, to help;

เสริมพลังให้กับแนวหน้า นั่นคือเพื่อน ๆ ในการให้ความช่วยเหลือ

and, in the process, improve all of our ability to love better.

และ ระหว่างทางก็พัฒนา ความสามารถในการรักให้ถูกทาง

To do this, it's always important to start by illuminating

จะทำเช่นนั้นได้ เราจำเป็นต้องเริ่มจากการเผยให้เห็น

the unhealthy signs that we frequently miss,

สัญญาณอันตราย ที่เรามักมองข้ามไปเสียก่อน

and our work really focuses on creating content

และงานของเราเน้นไปที่การสร้างเนื้อหา

to start conversations with young people.

เพื่อให้เกิดการสนทนาระหว่างคนหนุ่มสาว

As you'd expect, most of our content is pretty serious,

อย่างที่คุณคาด เนื้อหาของเราส่วนใหญ่ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนัก

given the subject at hand,

ตามหัวข้อที่เรากำลังรับมืออยู่

but today I'm going to use one of our more light-hearted

แต่ในวันนี้ ฉันจะยกตัวอย่างที่ไม่หนักนัก

yet still thought-provoking pieces,

แต่ยังกระตุ้นความคิดอยู่

"The Couplets,"

ชื่อเรื่อง "The Couplets"

to illuminate five markers of unhealthy love.

มาเผยให้เห็น สัญญาณอันตรายทั้งห้าของรักให้โทษ

The first is intensity.

ข้อแรกคือ ความเข้มข้นรุนแรง

(Video) Blue: I haven't seen you in a couple days. I've missed you.

(วิดีโอ) บลู: ผมไม่ได้เจอคุณมาสองสามวัน คิดถึงคุณจังเลย

Orange: I've missed you too. (#thatslove)

ส้ม: ฉันคิดถึงคุณเหมือนกัน (#นั่นคือรัก)

Blue: I haven't seen you in five minutes. It feels like a lifetime.

บลู: ผมไม่ได้เจอคุณตั้งห้านาที มันยาวนานราวชั่วชีวิต

What have you been doing without me for five whole minutes?

คุณทำอะไรอยู่โดยไม่มีผมได้ตั้งห้านาทีเต็ม

Orange: It's been three minutes. (#thatsnotlove)

ส้ม: นั่นแค่สามนาทีเองนะ (#นั่นไม่ใช่รัก)

Katie Hood: Anybody recognize that? I don't know. I do.

เคที ฮู้ด: มีใครจำเรื่องนี้ได้คะ ไม่รู้สิ หรือจำได้

Abusive relationships don't start out abusive.

ความสัมพันธ์อันทารุณ ไม่ได้เริ่มจากการทารุณ

They start out exciting and exhilarating.

มันเริ่มด้วยความตื่นเต้นและสดชื่น

There's an intensity of affection and emotion, a rush.

ความรักและอารมณ์ที่หลั่งเข้ามาช่างเข้มข้น

It feels really good.

มันรู้สึกดีมาก

You feel so lucky, like you've hit the jackpot.

คุณรู้สึกว่าโชคดีมากที่เจอแจ็คพ็อต

But in unhealthy love, these feelings shift over time

แต่ในความรักให้โทษ ความรู้สึกเหล่านี้ จะเปลี่ยนไปเมื่อเวลาผ่านไป

from exciting to overwhelming and maybe a little bit suffocating.

จากตื่นเต้นเป็นท่วมท้นและบางครั้งอึดอัด

You feel it in your gut.

คุณรู้สึกได้เองจากข้างใน

Maybe it's when your new boyfriend or girlfriend

อาจจะเป็นตอนที่แฟนคนใหม่ของคุณ

says "I love you" faster than you were ready for

บอกว่า "ฉันรักเธอ" เร็วเกินที่คุณคาดคิด

or starts showing up everywhere, texting and calling a lot.

หรือเริ่มปรากฏตัวขึ้นในทุกที่ ส่งข้อความและโทรหาตลอดเวลา

Maybe they're impatient when you're slow to respond,

เขาอาจจะอดรนทนไม่ได้หากคุณตอบรับช้า

even though they know you had other things going on that day.

แม้ว่าเขาจะรู้ว่า วันนั้นคุณยุ่งเรื่องอื่นอยู่ทั้งวัน

It's important to remember that it's not how a relationship starts that matters,

มันจำเป็นที่จะต้องชี้ให้เห็นว่า มันไม่สำคัญว่าความสัมพันธ์เริ่มต้นอย่างไร

it's how it evolves.

แต่มันพัฒนาไปในทางไหนต่างหาก

It's important in the early days of a new relationship

ในช่วงแรกของความสัมพันธ์ คุณจำเป็นต้อง

to pay attention to how you're feeling.

ฟังความรู้สึกของตัวเองให้ดี

Are you comfortable with the pace of intimacy?

คุณรู้สึกสบายใจกับ จังหวะการพัฒนาของความใกล้ชิดหรือไม่

Do you feel like you have space and room to breathe?

คุณรู้สึกมีที่ว่างพอหายใจไหม

It's also really important to start practicing using your voice

อีกอย่างที่สำคัญคือคุณต้องฝึกมีปากมีเสียง

to talk about your own needs.

เพื่อสื่อความต้องการของตัวเอง

Are your requests respected?

คำขอของคุณได้รับการรับฟังหรือไม่

A second marker is isolation.

สัญญาณที่สองคือ การแยกตัวออกห่าง

(Video) Orange 2: Want to hang out?

(วิดีโอ) ส้ม 2: มาสังสรรค์กันไหม

Orange 1: Me and my boyfriend always have Monday Funday.

ส้ม 1: วันจันทร์ฉันกับแฟนนัดกันไว้แล้ว

Orange 2: Want to hang out?

ส้ม 2: มาสังสรรค์กันไหม

Orange 1: Me and my boyfriend always have Monday Funday.

ส้ม 1: วันจันทร์ฉันกับแฟนนัดกันตลอด

Orange 2: Tomorrow? Orange 1: It's our Tuesday Snooze Day.

ส้ม 2: พรุ่งนี้ล่ะ ส้ม 1: อังคารเป็นวันนอนเล่นด้วยกันน่ะ

Orange 2: Wednesday? Orange 1: No Friends Day.

ส้ม 2: พุธละกัน ส้ม 1: พุธเป็นวันปลอดเพื่อน

KH: If you ask me, isolation is one of the most frequently missed

KH: ฉันคิดว่าการแยกตัวออกห่าง เป็นสัญญาณรักให้โทษที่ถูกมองข้าม

and misunderstood signs of unhealthy love.

และเข้าใจผิดมากที่สุด

Why?

ทำไมน่ะหรือ

Because every new relationship starts out with this intense desire

เพราะในความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ทุกคู่ เริ่มจากความปรารถนาอันรุนแรง

to spend time together,

ที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน

it's easy to miss when something shifts.

มันจึงสังเกตยากเมื่อบางอย่างเปลี่ยนไป

Isolation creeps in when your new boyfriend or girlfriend

การแยกตัวคืบคลานเข้ามาเมื่อแฟนของคุณ

starts pulling you away from your friends and family,

เริ่มดึงคุณออกห่างจากเพื่อนฝูงและครอบครัว

your support system,

และเครือข่ายผู้ช่วยเหลือของคุณ

and tethering you more tightly to them.

และผูกติดกับเข้ามากขึ้นทุกที

They might say things like,

เขาอาจพูดทำนองนี้ว่า

"Why do you hang out with them? They're such losers"

"ไปเกลือกกลั้วกับคนพวกนี้ทำไม พวกไม่เอาไหนอย่างนี้"

about your best friends,

เกี่ยวกับเพื่อนของคุณ

or, "They want us to break up. They're totally against us"

หรือ "พวกเขาอยากให้เราเลิกกัน พวกเขาไม่ชอบเรา"

about your family.

เกี่ยวกับครอบครัวของคุณ

Isolation is about sowing seeds of doubt

การแยกตัว คือการหว่านเมล็ดพันธ์ุ แห่งความสงสัย

about everyone from your prerelationship life.

เกี่ยวกับทุกคนตั้งแต่ ชีวิตก่อนเริ่มความสัมพันธ์

Healthy love includes independence,

รักที่ดีต้องมีอิสระ

two people who love spending time together

สองคนที่รักกันใช้เวลาอยู่ร่วมกัน

but who stay connected to the people and activities they cared about before.

แต่ก็ยังคงติดต่อกับคนอื่นและกิจกรรมอื่น ๆ ที่รักและสนใจมาก่อนด้วย

While at first you might spend every waking minute together,

ขณะที่ตอนช่วงแรก คุณอาจจะใช้เวลาทุกนาทีอยู่ด้วยกัน

over time maintaining independence is key.

แต่ต่อมาความเป็นอิสระเป็นส่วนสำคัญ

You do this by making plans with friends and sticking to them

คุณทำเช่นนั้นได้ด้วยการวางแผนกับเพื่อน แล้วทำตามแผนนั้น

and encouraging your partner to do the same.

และส่งเสริมให้คู่ของคุณทำเช่นเดียวกัน

A third marker of unhealthy love is extreme jealousy.

สัญญาณรักให้โทษอย่างที่สามคือความหึงหวงจัด

(Video) Blue 2: What are you so happy about?

(วิดีโอ) บลู 2: มีความสุขเรื่องอะไรหรือ

Blue 1: She just started following me on Instagram!

บลู 1: เธอเพิ่งเริ่มติดตามฉันในอินสตาแกรม!

Blue 2: What are you so nervous about?

บลู 2: กังวลเรื่องอะไร

Blue 1: She, she just started following me, like, everywhere.

บลู 1: เธอเริ่มติดตามฉัน เอ้อ ไปทุกที่

(#thatsnotlove)

(#นั่นไม่ใช่รัก)

KH: As the honeymoon period begins to fade,

KH: เมื่อช่วงฮันนีมูนเริ่มจางไป

extreme jealousy can creep in.

ความหึงหวงรุนแรงก็คืบคลานเข้ามา

Your partner might become more demanding,

คู่ของคุณอาจเริ่มเรียกร้องมากขึ้น

needing to know where you are and who you're with all the time,

ต้องการรู้ตลอดเวลา ว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร

or they might start following you everywhere, online and off.

หรืออาจจะเริ่มติดตามคุณไปทุกที่ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์

Extreme jealousy also brings with it possessiveness and mistrust,

ความหึงหวงอย่างรุนแรงมาพร้อมกับ ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของและความไม่ไว้วางใจ

frequent accusations of flirting with other people or cheating,

มักกล่าวหาว่า ทำตัวเจ้าชู้กับคนอื่นหรือนอกใจ

and refusal to listen to you when you tell them

และปฏิเสธที่จะฟังคำอธิบายของคุณ

they have nothing to worry about and that you only love them.

ว่าเขาไม่ต้องห่วงอะไร และคุณรักเขาคนเดียว

Jealousy is a part of any human relationship,

ความหึงหวงเป็นส่วนหนึ่ง ในความสัมพันธ์ของมนุษย์

but extreme jealousy is different.

แต่หึงหวงรุนแรงนั้นต่างออกไป

There's a threatening, desperate and angry edge to it.

มันมีแง่มุมของการคุกคามและจนตรอก และโกรธเคืองติดมาด้วย

Love shouldn't feel like this.

ความรักไม่ควรให้ความรู้สึกเช่นนี้

A fourth marker is belittling.

สัญญาณที่สี่คือการดูแคลน

(Video) Blue: Wanna hang out? Orange: I gotta study.

(วิดีโอ) บลู: มาสังสรรค์กันไหม ส้ม: ต้องอ่านหนังสือ

Blue: You'll get an A anyway, A for amazing. (#thatslove)

บลู: เธอได้ A อยู่แล้วน่า A อเมซิ่ง (#นั่นคือรัก)

Blue: Wanna hang out? Orange: I gotta study.

บลู: มาสังสรรค์กันไหม ส้ม: ต้องอ่านหนังสือ

Blue: You'll get an F anyway,

บลู: เธอได้ F อยู่แล้ว

F for, F for... stupid. (#thatsnotlove)

F ก็ F ก็ โง่ไง (#นั่นไม่ใช่รัก)

KH: Yeah, hmm.

KH: ช่าย อืมมม

In unhealthy love, words are used as weapons.

ในรักให้โทษ คำพูดถูกใช้เป็นอาวุธ

Conversations that used to be fun and lighthearted

การสนทนาที่เคยสนุกและไม่จริงจัง

turn mean and embarrassing.

กลายเป็นร้ายกาจและน่าอับอาย

Maybe your partner makes fun of you in a way that hurts,

คู่ของคุณอาจจะล้อเลียนคุณทำให้คุณเจ็บใจ

or maybe they tell stories and jokes for laughs at your expense.

ไม่ก็เล่าเรื่อง หรือพูดติดตลก ที่ทำให้คุณขายหน้า

When you try to explain that your feelings have been hurt,

เมื่อคุณพยายามจะอธิบาย ให้เขารู้ว่าคุณเสียความรู้สึก

they shut you down and accuse you of overreacting.

เขาจะกลบเกลื่อนแล้วหาว่าคุณเกินกว่าเหตุ

"Why are you so sensitive? What's your problem. Give me a break."

"ทำไมเธออ่อนไหวขนาดนี้ เป็นอะไรน่ะ หยุดคร่ำครวญซะที"

You are silenced by these words.

คุณจึงต้องสงบปากสงบคำด้วยถ้อยคำเหล่านี้

It seems pretty obvious, but your partner should have your back.

มันดูเหมือนเป็นเรื่องแน่นอน ที่คู่ของคุณควรจะสนับสนุนคุณ

Their words should build you up, not break you down.

คำพูดของเขาควรจะให้กำลังใจ ไม่ใช่ทำร้ายจิตใจคุณ

They should keep your secrets and be loyal.

เขาควรรักษาความลับของคุณและซื่อสัตย์กับคุณ

They should make you feel more confident,

เขาควรทำให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้น

not less.

ไม่ใช่น้อยลง

Finally, a fifth marker: volatility.

ประการสุดท้าย สัญญาณอย่างที่ห้า ความผันผวน

(Video) Orange 1: I'd be sad if we broke up.

(วิดีโอ) ส้ม 1: ฉันต้องเศร้าแน่ถ้าเราเลิกกัน

Orange 2: I'd be sad too. (#thatslove)

ส้ม 2: ผมก็คงเศร้าเหมือนกัน (#นั่นคือรัก)

Orange 1: I'd so depressed if we ever broke up.

ส้ม 1: ฉันคงหดหู่มากหากเราต้องเลิกกัน

I'd throw myself off this step.

ฉันคงกระโจนจากขั้นบันไดนี้ไปเลย

I would! Don't try to stop me!

จริง ๆ นะ อย่าพยายามห้ามฉันเลย

(#thatsnotlove)

(#นั่นไม่ใช่รัก)

KH: Frequent breakups and makeups, high highs and low lows:

KH: เดี๋ยวเลิกกัน เดี๋ยวดีกัน เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย

as tension rises, so does volatility.

ยิ่งตึงเครียดมากยิ่งผันผวนมาก

Tearful, frustrated fights followed by emotional makeups,

การทะเลาะกันทั้งน้ำตาและความหงุดหงิด แล้วกลับมาคืนดีกัน

hateful and hurtful comments like,

ใช้คำที่เกลียดชังสร้างความเจ็บปวด

"You're worthless, I'm not even sure why I'm with you!"

เช่น "เธอมันไร้ค่า ไม่รู้ว่าฉันทนอยู่กับเธอได้ยังไง!"

followed quickly by apologies and promises it will never happen again.

ตามติดมาด้วยการขอโทษและคำสัญญา ว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว

By this point, you've been so conditioned to this relationship roller coaster

เมื่อถึงจุดนี้ คุณก็คุ้นเคยกับ สภาพความสัมพันธ์ขึ้น ๆ ลง ๆ นี้

that you may not realize how unhealthy and maybe even dangerous

เสียจนคุณอาจมองไม่ออกว่า ความสัมพันธ์ของคุณให้โทษอย่างไร

your relationship has become.

และอาจเป็นอันตรายได้ด้วย

It can be really hard to see

มันมองออกยากว่า

when unhealthy love turns towards abuse,

เมื่อไหร่ที่รักให้โทษกลายมาเป็นการข่มเหง

but it's fair to say that the more of these markers

แต่มันก็พูดได้ว่าหากความสัมพันธ์ของคุณ

your relationship might have,

มีสัญญาณเหล่านี้มากแค่ไหน

the more unhealthy and maybe dangerous your relationship could be.

ก็ยิ่งให้โทษและเป็นอันตรายมากขึ้นเท่านั้น

And if your instinct is to break up and leave,

หากสัญชาตญาณของคุณบอกให้เลิกและออกห่าง

which is advice so many of us give our friends

ซึ่งก็เป็นคำแนะนำที่ พวกเราหลายคนบอกเพื่อนเรา

when they're in unhealthy relationships,

ที่ตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ให้โทษ

that's not always the best advice.

แต่นั่นอาจไม่ใช่คำแนะนำที่ดีที่สุดก็ได้

Time of breakup can be a real trigger for violence.

เวลาบอกเลิกนั้น อาจกระตุ้นให้เกิดการใช้ความรุนแรง

If you fear you might be headed towards abuse or in abuse,

หากคุณกลัวว่าคุณกำลังจะเผชิญ การคุกคามหรือกำลังถูกข่มเหง

you need to consult with experts to get the advice on how to leave safely.

คุณต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาวิธีออกห่างอย่างปลอดภัย

But it's not just about romantic relationships

แต่นี่ไม่ใช่สำหรับ ความสัมพันธ์แบบคนรักเท่านั้น

and it's not just about violence.

และไม่ได้เกี่ยวเฉพาะกับการใช้ความรุนแรง

Understanding the signs of unhealthy love

การทำความเข้าใจกับสัญญาณของรักให้โทษ

can help you audit and understand nearly every relationship in your life.

ยังสามารถช่วยให้คุณตรวจสอบและทำความเข้าใจ กับความสัมพันธ์แทบทุกประเภท

For the first time, you might understand why you're disappointed in a friendship

คุณอาจจะเพิ่งเข้าใจว่าทำไม คุณถึงผิดหวังกับมิตรภาพที่มี

or why every interaction with a certain family member

หรือทำไมการปฏิสัมพันธ์ กับสมาชิกในครอบครัวบางคน

leaves you discouraged and anxious.

ทำให้คุณรู้สึกท้อแท้และเป็นทุกข์

You might even begin to see how your own intensity and jealousy

คุณอาจจะเพิ่งเริ่มเห็นว่าทำไม ความเอาจริงเอาจังและขี้อิจฉาของคุณ

is causing problems with colleagues at work.

สร้างปัญหากับเพื่อนร่วมงาน

Understanding is the first step to improving,

การเข้าใจเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่การปรับปรุง

and while you can't make every unhealthy relationship healthy --

คุณอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนความสัมพันธ์ให้โทษ ให้มาดีได้

some you're going to have to leave behind --

คุณบางคนคงต้องทิ้งมันไว้ข้างหลัง และเดินจากไป

you can do your part every day to do relationships better.

แต่คุณก็สามารถทำหน้าที่ของคุณทุกวัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

And here's the exciting news:

และนี่ก็เป็นข่าวดี

it's actually not rocket science.

มันไม่ใช่เรื่องยากเหมือนสร้างจรวด

Open communication, mutual respect,

แค่การเปิดใจสื่อสาร เคารพซึ่งกันและกัน

kindness, patience --

มีความเมตตา และอดทน

we can practice these things every day.

เราสามารถฝึกเรื่องเหล่านี้ได้ในทุก ๆ วัน

And while practice will definitely make you better,

การฝึกฝนจะทำให้คุณดีขึ้นได้แน่

I have to promise you it's also not going to make you perfect.

ฉันรับรองได้ แต่มันจะไม่ได้ทำให้คุณเพอร์เฟ็คหรอกนะ

I do this for a living

ฉันมีอาชีพนี้ ฉันรู้

and every day I think and talk about healthy relationships,

และทุกวัน ฉันคิดและพูด เรื่องความสัมพันธ์ที่ดี

and still I do unhealthy things.

แต่ฉันเองก็ยังทำในเรื่องที่ไม่ดีอยู่

Just the other day as I was trying to shuttle my four kids out the door

วันหนึ่งในขณะที่ฉันกำลังพยายาม จัดการลูก ๆ สี่คนให้ออกจากบ้าน

amidst quarreling, squabbling and complaints about breakfast,

ท่ามกลางเสียงทะเลาะเบาะแว้ง และเสียงบ่นเรื่องอาหารเช้า

I completely lost it.

ฉันก็หลุดเลยทีเดียว

With an intentionally angry edge,

ด้วยน้ำเสียงแฝงความโกรธอย่างตั้งใจ

I screamed,

ฉันตะโกนออกมาว่า

"Everybody just shut up and do what I say!

"ทุกคนเงียบเดี๋ยวนี้และทำตามที่ฉันสั่ง!

You are the worst!

พวกเธอน่ะแย่ที่สุด!

I am going to take away screen time and dessert

แม่จะงดเวลาดูทีวี และงดขนม

and anything else you could possibly ever enjoy in life!"

และทุกอย่างในชีวิตที่ลูกชอบ!"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

Anybody been there?

ใครเคยเป็นอย่างนี้บ้าง?

(Applause)

(เสียงปรบมือ)

Volatility, belittling.

ผันผวน ดูหมิ่น

My oldest son turned around and looked at me, and said,

ลูกชายคนโตของฉันหันมามองและบอกว่า

"Mom, that's not love."

"แม่ นั่นไม่ใช่ความรัก"

(Laughter)

(เสียงหัวเราะ)

For a minute, I really wanted to kill him for calling me out.

ครู่หนึ่งที่ฉันอยากจะอัดลูกชาย ที่จับฉันได้เช่นนี้

Trust me.

เชื่อได้เลย

But then I gathered myself

แต่แล้ว ฉันก็รวบรวมสติ

and I thought, you know what, I'm actually proud.

และคิดได้ว่า จริง ๆ แล้วฉันภูมิใจ

I'm proud that he has a language to make me pause.

ที่เขามีคำพูดที่ทำให้ฉันได้หยุดและคิด

I want all of my kids to understand what the bar should be

ฉันอยากให้ลูก ๆ เข้าใจว่า เส้นขอบเขตของการปฏิบัติ

for how they're treated

ที่พวกเขาควรได้รับอยู่ตรงไหน

and to have a language and a voice to use when that bar is not met

และมีคำพูดและปากเสียงเอ่ยออกมา หากไม่ได้รับการปฏิบัติตามขอบเขต

versus just accepting it.

ไม่ใช่แค่ก้มหน้ายอมรับ

For too long, we've treated relationships as a soft topic,

เราทำเหมือนความสัมพันธ์ เป็นเรื่องหาสาระไม่ได้กันมานาน

when relationship skills are one of the most important

ในขณะที่ทักษะความสัมพันธ์ เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุด

and hard to build things in life.

และฝึกฝนยากในชีวิต

Not only can understanding unhealthy signs

การเข้าใจสัญญาณโทษเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะ

help you avoid the rabbit hole that leads to unhealthy love,

ช่วยให้คุณเลี่ยง การตกหลุมพรางที่นำไปสู่รักให้โทษ

but understanding and practicing the art of being healthy

แต่การทำความเข้าใจ และฝึกฝนศิลปะของการอยู่อย่างสุข

can improve nearly every aspect of your life.

นี้สามารถปรับปรุง แทบทุกแง่มุมของชีวิตคุณได้ด้วย

I'm completely convinced

ฉันแน่ใจว่า

that while love is an instinct and an emotion,

ขณะที่ความรักเป็นเรื่องของ สัญชาตญาณและอารมณ์

the ability to love better is a skill we can all build

ความสามารถในการรักให้ดีขึ้นนั้น เป็นทักษะที่เราสร้างได้

and improve on over time.

และพัฒนาได้หากให้เวลากับมัน

Thank you.

ขอบคุณค่ะ

(Applause)

(เสียงปรบมือ)